คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Revelation outbreak??
CHaptor 8
Revelation outbreak?
“ จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ขณะนี้ คาดว่ามีการค้นพบโรคลึกลับชนิดใหม่
จากกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมกันในบ้านร้างแถบชานเมือง เป็นโรคที่อันตรายถึงตาย
แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรคอะไร “
เสียงผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์อ่านข่าวการค้นพบคนที่ป่วยตายจาก วิวรณ์
ท่านรัฐมนตรี เตโช เหวี่ยงรีโมทโทรทัศน์ทิ้งอย่างเสียอารมณ์
ท่านรมต.คิดว่าจะปิดข่าวไว้ได้ แต่ข่าวมันรั่วออกไปได้อย่างไร
ท่านรัฐมนตรีได้วานให้ หินพานาคินทร์เข้าพบเพื่อสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่หินอธิบายเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านร้างให้บิดาได้ฟัง
และชายหนุ่มทั้งคู่ก็มาพอดีที่ข่าวกำลังประกาศ
“ คินทร์ ช่วยอธิบายให้อาฟังที ว่า มันเกิดอะไรขึ้น “ ชายวัยกลางคน ท่าทางภูมิฐานกันไปถามหนุ่มแว่นหน้าใส
“ มันเป็นไวรัสชนิดหนึ่งจริงๆกับคุณอา แต่มันไม่เหมือนกับไวรัสทั่ไป เพราะว่ามันมีต้นกำเนิดมาจาก ไวรัสคอมพิวเตอร์ มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อนะครับ ว่าเป็นไปได้อย่างไร “
“ นั่นหน่ะสิ ไวรัสคอมพิวเตอร์มันเป็นแค่โปรแกรมแล้วมันจะติดสิ่งมีชีวิตได้ยังไง “ ท่านรัฐมนตรียิ่งงงหนัก
“ ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็เกิดขึ้นเพราะผมมีส่วนที่ทำให้เกิดการพัฒนาของมันด้วย ความสามารถพิเศษของผมคือการถอดกายทิพย์หรือจิตวิญญาณ เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ได้
ซึ่งจิตวิญญาณนั้นคือพลังงานบริสุทธ์ที่สามารถเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ใน สถานะที่เหมือนกับ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ดังนั้น
เมื่อไอ้เจ้าไวรัสนี้ สามารถติดโปรแกรมได้หลายประเภทก็เหมือนับเป็นไวรัสของพลังงาน ดังนั้น เมื่อมันพบร่างทิพย์ของผมที่อยู่ในระบบเครือข่าย
มันก็พัฒนาตัวเองได้ในทันทีที่สัมผัสกับร่างผมที่อยู่ในสถานะแบบเดียวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันจึงได้พันาตัวเองและฝังติดอยู่ใน วิญญาณของผม
ในตอนที่ผมใช้ร่างทิพย์นี้เพื่อช่วยเหลือน้องแมท ผมได้บังเอิญสัมผัสกับเครือข่ายพลังงานชีวิตของคนร้ายเข้า
ทำให้วิวรณ์ นั้น หลุดออกจากกายทิพย์ผม ไหลเข้าสู่แหล่งพลังงานชีวิตใหม่ แล้วก็พัฒนาแบ่งตัวเอง ด้วยพลังงานชีวิตของมนุษย์ เมื่อร่างกายหรือวัยวะ ขาดพลังงานชีวิต
ร่างกายย่อมที่จะเสื่อมสลายและขาดสมดุล จนถึงตายได้ เพราะร่างกายมิอาจขาดพลังงานชีวิต หรือวิญญาณได้
ที่ผมอธิบายคุณอานี่เป็นเพียงการสันนิษฐานจากสมมติฐานของผมเท่านั้นนะครับ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับชัดเจน “ นาคินทร์อธิบายให้ท่านรัฐมนตรีฟังอย่างรวดเร็ว
ท่านรัฐมนตรีก็พยายามคิดตาม แต่ก็ยังทำหน้างงๆ เพราะว่ากำลังพยายามหาทางที่จะปิดข่าวให้เงียบสนิทอีก เนื่องจากมันยังอยู่นอกเหนือความเข้าใจของประชาชนแน่นอน ไม่รู้จะแถลงข่าวอย่างไร
“ ผมคิดว่า เราต้องเก็บร่างกายและวิญญาณของกลุ่มคนร้ายนั้นไว้ในที่ปลอดภัยนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระจายของวิวรณ์ผ่านวิญญาณของพวกมันได้อีก “ คินทร์อธิบายต่อ
“ ไอ้งูใหญ่ เก็บร่างหน่ะพอทน แต่เก็บวิญญาณนี่แกจะบ้าเรอะ ต้องให้เรียกหมอผีมาเรียกวิญญาณลงหม้อรึไง “ ศิลากล่าวแทรกขึ้นมา
“ เออ ถ้ามีหมอผีที่เรียกวิญญาณลงหม้อได้จริงก็เรียกมาเลย แต่กลัวว่าจะไม่มี แต่ผมพอมีวิธี ถ้าเราสามารถดัดแปลงกระบวนการ soul probe ได้ ผมคิดว่าน่าจะจัดการกับไวรัสวิวรณ์นี้ได้นะครับ เพราะผมคิดว่ามีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสนี้ต้นแบบอยู่ “ คินทร์หันไปจิกกัดศิลาด้วยสายตาเฉียบคม
“ ถ้าต้องการใช้หน่วยงาน soul probe ก็แจ้งอาล่วงน้าหน่อยนะ แต่อาอนุญาตให้คินทร์ใช้ได้เลย ขอแค่แจ้งล่วงหน้าสองสามวัน “
“ งั้นผมขอเวลาพัฒนา “ศรัทธา” อีกสักสองสามวันนะครับ อีกสามวันผมจะขอดัดแปลง soul probe นะครับ “ คินทร์หันไปกล่าวกับท่านรัฐมนตรี
“ ทำไมลูกชายชั้นไม่ได้ความเก่งของคินทร์ไปสักครึ่งนะ ดีแต่ชอบก่อเรื่องให้พ่อมันตามแก้ “ ท่านรัฐมนตรีกันไปมองศิลาด้วยสายตาผิดหวัง จนศิลาดูตัวลีบลงไปเกือบครึ่ง
“ พ่อก็นะ ชมแต่คนอื่น ลูกตัวเองมีแต่ทับถมๆ ” ศิลาตัดพ้อต่อว่าพ่อตัวเอง ท่านรมต. รีบกดโทรศัพท์ไปสั่งการกับลูกน้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องที่จะอำนวยความสะดวกให้คินทร์ทันที
“ ทางเราได้รับรายงานด่วนมาว่า ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรและบริษัทใหญ่ๆ กำลัง เสียหายรุนแรงจาการรุกรานของไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดใหม่ที่ยังยืนยันไม่ได้ แต่จุดที่เสียหายมากที่สุดคือ องค์กรทางสาธารณสุขที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ของบริษัทอารันท์มอร์ “ ผู้ประกาศข่าวรายงานข่าวด่วนขึ้นมาที่
ทำให้คินทร์หน้าถอดสีทันที เขาเองที่เป็นคนปล่อยวิวรณ์จนระบาดแบบนี้
“ นี่ถ้าเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่เราวุ่นวายกันอยู่นี่คงแย่ โรงพยาบาลเกือบทั้งหมดของรัฐ ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ของอารันท์มอร์หมดเลย ที่นี่ถ้าลามไปถึงคนไข้อีกเนี่ย ประเทศคงล่มสลายแน่นอน “
ท่านรัฐมนตรีบ่นพลางลุกขึ้นไปเทบรั่นดีใส่แก้วมานั่งจิบ
ส่วนคินทร์เองยิ่งหน้าซีดเผือก หนักเข้าไปอีกเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ทำให้สังคมในวงกว้างเดือดร้อน
คินทร์ลุกขึ้นไหว้ลาท่านรัฐมนตรีเพื่อรีบกลับไปพัฒนา “ศรัทธา” เพื่อไม่ให้ความเสียหายลามไปในวงกว้างกว่านี้
ส่วนศิลาเองก็อดห่วงไม่แพ้คินทร์เพราะดวงใจของเขา แมทยังอยู่ในโรงพยาบาล ถ้าเกิดวิวรณ์เกิดลามไปติดสุดที่รักของเขา เขาคงตายตามด้วยแน่ๆ
แล้วศิลาเองก็ยังไม่ทันได้เคลมแมทด้วย แต่ดันมีสวะมาย่ำยีน้องแมทตัดหน้าซะอีก
ดีนะมันตายไปแล้ว ไม่งั้นศิลาคงจะต้องสับมันเป็นแสนชิ้น
แต่ถึงแม้ว่าแมทจะแปดเปื้อน ศิลาก็ไม่เคยรังเกียจและยังคงรักและปรารถนาดีกับแมทเสมอ
ไปเยี่ยมคอยดูแลแมททุกวันที่แมทเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับเป็นคนที่อธิบายแก้ตัวให้พ่อและแม่ของแมทกับซายน์ ฟังว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของพวกเขา
ความคิดเห็น