ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Innerlink

    ลำดับตอนที่ #7 : Revelation outbreak??

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 49


    CHaptor 8
    Revelation outbreak?

    “ จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ขณะนี้ คาดว่ามีการค้นพบโรคลึกลับชนิดใหม่
    จากกลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมกันในบ้านร้างแถบชานเมือง เป็นโรคที่อันตรายถึงตาย
    แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นโรคอะไร “
    เสียงผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์อ่านข่าวการค้นพบคนที่ป่วยตายจาก วิวรณ์
    ท่านรัฐมนตรี เตโช เหวี่ยงรีโมทโทรทัศน์ทิ้งอย่างเสียอารมณ์

    ท่านรมต.คิดว่าจะปิดข่าวไว้ได้ แต่ข่าวมันรั่วออกไปได้อย่างไร

    ท่านรัฐมนตรีได้วานให้ หินพานาคินทร์เข้าพบเพื่อสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่หินอธิบายเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านร้างให้บิดาได้ฟัง

    และชายหนุ่มทั้งคู่ก็มาพอดีที่ข่าวกำลังประกาศ


    “ คินทร์ ช่วยอธิบายให้อาฟังที ว่า มันเกิดอะไรขึ้น “ ชายวัยกลางคน ท่าทางภูมิฐานกันไปถามหนุ่มแว่นหน้าใส


    “ มันเป็นไวรัสชนิดหนึ่งจริงๆกับคุณอา แต่มันไม่เหมือนกับไวรัสทั่ไป เพราะว่ามันมีต้นกำเนิดมาจาก ไวรัสคอมพิวเตอร์ มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อนะครับ ว่าเป็นไปได้อย่างไร “


    “ นั่นหน่ะสิ ไวรัสคอมพิวเตอร์มันเป็นแค่โปรแกรมแล้วมันจะติดสิ่งมีชีวิตได้ยังไง “ ท่านรัฐมนตรียิ่งงงหนัก


    “ ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็เกิดขึ้นเพราะผมมีส่วนที่ทำให้เกิดการพัฒนาของมันด้วย ความสามารถพิเศษของผมคือการถอดกายทิพย์หรือจิตวิญญาณ เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ได้

    ซึ่งจิตวิญญาณนั้นคือพลังงานบริสุทธ์ที่สามารถเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ใน สถานะที่เหมือนกับ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ดังนั้น

    เมื่อไอ้เจ้าไวรัสนี้ สามารถติดโปรแกรมได้หลายประเภทก็เหมือนับเป็นไวรัสของพลังงาน ดังนั้น เมื่อมันพบร่างทิพย์ของผมที่อยู่ในระบบเครือข่าย

    มันก็พัฒนาตัวเองได้ในทันทีที่สัมผัสกับร่างผมที่อยู่ในสถานะแบบเดียวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันจึงได้พันาตัวเองและฝังติดอยู่ใน วิญญาณของผม

    ในตอนที่ผมใช้ร่างทิพย์นี้เพื่อช่วยเหลือน้องแมท ผมได้บังเอิญสัมผัสกับเครือข่ายพลังงานชีวิตของคนร้ายเข้า

    ทำให้วิวรณ์ นั้น หลุดออกจากกายทิพย์ผม ไหลเข้าสู่แหล่งพลังงานชีวิตใหม่ แล้วก็พัฒนาแบ่งตัวเอง ด้วยพลังงานชีวิตของมนุษย์ เมื่อร่างกายหรือวัยวะ ขาดพลังงานชีวิต

    ร่างกายย่อมที่จะเสื่อมสลายและขาดสมดุล จนถึงตายได้ เพราะร่างกายมิอาจขาดพลังงานชีวิต หรือวิญญาณได้

    ที่ผมอธิบายคุณอานี่เป็นเพียงการสันนิษฐานจากสมมติฐานของผมเท่านั้นนะครับ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับชัดเจน “ นาคินทร์อธิบายให้ท่านรัฐมนตรีฟังอย่างรวดเร็ว

    ท่านรัฐมนตรีก็พยายามคิดตาม แต่ก็ยังทำหน้างงๆ เพราะว่ากำลังพยายามหาทางที่จะปิดข่าวให้เงียบสนิทอีก เนื่องจากมันยังอยู่นอกเหนือความเข้าใจของประชาชนแน่นอน ไม่รู้จะแถลงข่าวอย่างไร

    “ ผมคิดว่า เราต้องเก็บร่างกายและวิญญาณของกลุ่มคนร้ายนั้นไว้ในที่ปลอดภัยนะครับ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระจายของวิวรณ์ผ่านวิญญาณของพวกมันได้อีก “ คินทร์อธิบายต่อ


    “ ไอ้งูใหญ่ เก็บร่างหน่ะพอทน แต่เก็บวิญญาณนี่แกจะบ้าเรอะ ต้องให้เรียกหมอผีมาเรียกวิญญาณลงหม้อรึไง “ ศิลากล่าวแทรกขึ้นมา

    “ เออ ถ้ามีหมอผีที่เรียกวิญญาณลงหม้อได้จริงก็เรียกมาเลย แต่กลัวว่าจะไม่มี แต่ผมพอมีวิธี ถ้าเราสามารถดัดแปลงกระบวนการ soul probe ได้ ผมคิดว่าน่าจะจัดการกับไวรัสวิวรณ์นี้ได้นะครับ เพราะผมคิดว่ามีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสนี้ต้นแบบอยู่ “ คินทร์หันไปจิกกัดศิลาด้วยสายตาเฉียบคม


    “ ถ้าต้องการใช้หน่วยงาน soul probe ก็แจ้งอาล่วงน้าหน่อยนะ แต่อาอนุญาตให้คินทร์ใช้ได้เลย ขอแค่แจ้งล่วงหน้าสองสามวัน “

    “ งั้นผมขอเวลาพัฒนา “ศรัทธา” อีกสักสองสามวันนะครับ อีกสามวันผมจะขอดัดแปลง soul probe นะครับ “ คินทร์หันไปกล่าวกับท่านรัฐมนตรี


    “ ทำไมลูกชายชั้นไม่ได้ความเก่งของคินทร์ไปสักครึ่งนะ ดีแต่ชอบก่อเรื่องให้พ่อมันตามแก้ “ ท่านรัฐมนตรีกันไปมองศิลาด้วยสายตาผิดหวัง จนศิลาดูตัวลีบลงไปเกือบครึ่ง
    “ พ่อก็นะ ชมแต่คนอื่น ลูกตัวเองมีแต่ทับถมๆ ” ศิลาตัดพ้อต่อว่าพ่อตัวเอง ท่านรมต. รีบกดโทรศัพท์ไปสั่งการกับลูกน้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องที่จะอำนวยความสะดวกให้คินทร์ทันที
    “ ทางเราได้รับรายงานด่วนมาว่า ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรและบริษัทใหญ่ๆ กำลัง เสียหายรุนแรงจาการรุกรานของไวรัสคอมพิวเตอร์ชนิดใหม่ที่ยังยืนยันไม่ได้ แต่จุดที่เสียหายมากที่สุดคือ องค์กรทางสาธารณสุขที่ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ของบริษัทอารันท์มอร์ “ ผู้ประกาศข่าวรายงานข่าวด่วนขึ้นมาที่

    ทำให้คินทร์หน้าถอดสีทันที เขาเองที่เป็นคนปล่อยวิวรณ์จนระบาดแบบนี้


    “ นี่ถ้าเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่เราวุ่นวายกันอยู่นี่คงแย่ โรงพยาบาลเกือบทั้งหมดของรัฐ ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ของอารันท์มอร์หมดเลย ที่นี่ถ้าลามไปถึงคนไข้อีกเนี่ย ประเทศคงล่มสลายแน่นอน “

    ท่านรัฐมนตรีบ่นพลางลุกขึ้นไปเทบรั่นดีใส่แก้วมานั่งจิบ

    ส่วนคินทร์เองยิ่งหน้าซีดเผือก หนักเข้าไปอีกเพราะไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ทำให้สังคมในวงกว้างเดือดร้อน


    คินทร์ลุกขึ้นไหว้ลาท่านรัฐมนตรีเพื่อรีบกลับไปพัฒนา “ศรัทธา” เพื่อไม่ให้ความเสียหายลามไปในวงกว้างกว่านี้

    ส่วนศิลาเองก็อดห่วงไม่แพ้คินทร์เพราะดวงใจของเขา แมทยังอยู่ในโรงพยาบาล ถ้าเกิดวิวรณ์เกิดลามไปติดสุดที่รักของเขา เขาคงตายตามด้วยแน่ๆ

    แล้วศิลาเองก็ยังไม่ทันได้เคลมแมทด้วย แต่ดันมีสวะมาย่ำยีน้องแมทตัดหน้าซะอีก

    ดีนะมันตายไปแล้ว ไม่งั้นศิลาคงจะต้องสับมันเป็นแสนชิ้น

    แต่ถึงแม้ว่าแมทจะแปดเปื้อน ศิลาก็ไม่เคยรังเกียจและยังคงรักและปรารถนาดีกับแมทเสมอ

    ไปเยี่ยมคอยดูแลแมททุกวันที่แมทเข้าโรงพยาบาล พร้อมกับเป็นคนที่อธิบายแก้ตัวให้พ่อและแม่ของแมทกับซายน์ ฟังว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของพวกเขา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×