ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Innerlink

    ลำดับตอนที่ #6 : What lies beneath

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 49


    Chaptor 7
    What lies beneath
    ศิลาพลางคลาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เพื่อโทรบอกข้อมูลให้นาคินทร์รับทราบ ทันที่คินทร์รับสาย
    ศิลาก็พูดเป็นชุดจนคินทร์แทบฟังไม่ทัน
    “ ไอ้งูใหญ่ ชั้นรู้แล้วว่าใครมันอยู่เบื้องหลังการทำร้ายแมท กรูเพิ่งออกมาจาก soul probe “

    ศิลาพูดอย่างเร็วจนคินทร์แทบจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่คินทร์เคยได้ยินเรื่องของ soul probe มาบ้าง

    ว่าแต่ไอ้ก้อนหินน้อยนี่มันกล้าเข้า soul probe ไม่กลัวตายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย วิญญาณพวกนั้นติดวิวรณ์ ไม่ได้กลัวตายเลยนะ ไอ้เพื่อนคนนี้ บทจะบ้าก็บ้าเต็มที่


    “ ทั้งหมดเป็นฝีมือไอ้ “พี่ชาย”จากนรกภูมิของเมิงไง ไอ้พี่บอยอ่ะ คราวนี้มันแก้แค้นแรงนะ แต่มันก็ทำกับพวกเราแสบมากนี่นา มันยังไม่เลิกวุ่นวายกับพวกเราว่ะ จับไปนั่งยางดีไหมเดี๋ญวบอกพ่อให้ “
    ศิลากัดฟันพูดด้วยความโกรธ
    ทันทีที่คินทร์ได้ยินชื่อนี้ ความโกรธแค้นในเบื้องลึกก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที พลางนึกถึงอดีตเมื่อปีก่อนขึ้นมาทันที

    ไอ้พี่บอยเป็นญาติห่างๆของคินทร์ ที่มีญาติแนะนำให้รู้จักอีกทอด เพราะเห็นว่ารู้จักคนเยอะ
    น่าจะฝากฝังช่วยเหลือคินทร์หลังเรียนจบได้ แต่ทว่าไอ้พี่บอยนั่นมันหลงใหลในรูปร่างหน้าตาของคินทร์ทั้งแต่ที่แรก

    และเริ่มพยายามผูกมัดคินทร์ด้วยสารพัดวิธี รวมถึงการโกหกตอแหลประโยคเว้นประโยค เพื่อให้คินทร์ยอมรับมันในฐานะแฟนคนหนึ่ง ในทีแรก คินทร์ก็ต้องจำใจ

    เนื่องจากมันก็ดีกับคินทร์มากในช่วงแรก พยายามช่วยเหลือทุกอย่าง จนเมื่อศิลาลงทุนเปิดบริษัทของตัวเองขึ้นมาเพื่อจัดเรื่องงานแสดงและจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งคินทร์ก็ไปช่วยศิลาโดยไม่คิดค่าแรง ไอ้บอยมันก็เสนอตัวไปช่วย

    โดยอ้างว่ารู้จักกับผู้บริหารใหญ่ ในหลายๆองค์กรและบริษัทชั้นนำของประเทศ โดยในทีแรกบอย

    มันอ้างว่า ทำงานเป็นวิศวกรใหญ่อยู่ที่บริษัทพลังงานข้ามชาติ ที่รับสร้างแท่นขุดเจาะก๊าซและน้ำมันกลางทะเลรายใหญ่ของโลก คินทร์เองก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรมากมายเพราะเห็นว่าญาติแนะนำให้รู้จัก

    แต่เขาน่าจะฟังแม่ตั้งแต่ทีแรกว่า อย่าไว้ใจญาติบ้านพ่อ นอกจากเสนอตัวช่วยงานศิลาแล้ว

    ยังเสนอให้คินทร์ไปรับตำแหน่งเลขานุการผู้บริหารของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์

    ระดับโลก ซึ่งอันนี้ทำให้คินทร์เซ็งมากๆ เพราะคินทร์ตัดผม แต่งตัวอย่างดีเก้อ รอไปสัมภาษณ์ถึง

    สามรอบ จนครั้งสุดท้ายคินทร์บุกไปจนถึงสำนักงานใหญ่แล้วบุกไปที่หน้าห้องงทำงานของคุณ

    กรองทอง ประกายรัศมี CEO กลุ่มบริษัท อัลดาบรา ไทยแลนด์ เพื่อแสดงตัวมาจะมาสัมภาษณ์

    งาน แต่ก็ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ เพราะเลขาหน้าห้องบอกว่า คุณกรองทอง ไม่อยู่ แต่ไฉนไอ้

    พี่บอยมันบอกคินทร์เวลานี้ ทันทีที่คินทร์รู้ก็รีบโทรไปถามไอ้พี่บอย แต่มันกลับอ้างว่า คุณกรอง

    ทองเข้าโณงพยาบาลด่วนเพราะไข้เลือดออก ทันทีที่คินทร์รู้ก็รีบตรงไปยังโรงพยาบาลหรูดังกล่าว

    แล้วสอบถามที่เคาท์เตอร์ทันที แต่ปรากฏว่าไม่มีคนชื่อนั้นเข้ามารับการรักษาตัว และเมื่อคินทร์

    กลับไปพักผ่อนที่ห้องอย่างเสียอารมณ์แล้วเปิดข่าวขึ้นดูก็ต้องยิ่งตกตะลึง กับข่าวในพระราชสำนัก

    คุณกรองทอง CEO บริษัทอัลดาบรา กำลังทูลเกล้าทูลกระหม่อถวายเงินแก่เชื้อพระวงศ์องค์หนึ่ง

    ในวันเวลาที่คินทร์บุกไปหาตามที่ไอ้พี่นรกบอก ทันที่ที่คินทร์ได้เห็นดังนั้นก็เข้าใจทันทีว่า

    ทุกอย่างที่ไอ้นั่นบอกคือเรื่องโกหก แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น คือที่มันรับปากจะไปขายงานให้กับศิลา

    โดยที่ศิลาลงทุนไปแล้วหลายสิบล้าน แต่ทว่ามันก็อ้างเสมอ ว่าเช็คยังไม่ได้ ต้องรออีกสักพัก แต่

    ขายงานได้แน่ ศิลาก็หลงเชื่อเห็นแก่ที่คินทร์บอกว่าพี่ชายคนนี้ น่าจะช่วยได้ นอกจากนี้ บอยยัง

    พยายามตีสนิทเพื่อกินรวบศิลาอีกคนหลังจากที่กินรวบคินทร์ไปแล้วในโรงแรงแห่งหนึ่งทั้งๆที่

    คินทร์เองไม่ได้ต้องการ และที่แสบสันต์ที่สุดคือ บอยหลอกให้ศิลาทำสัญญาจ้างนักแสดงคนหนึ่ง

    มาใช้เป็นพรีเซนเตอร์งานแสดงสินค้า โดยให้ใช้ชื่อของคินทร์เป็นคนทำสัญญา และก็ให้ปลอม

    แปลงลายมือชื่อของคินทร์ไปโดยพลการ ศิลาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็หลงเชื่อ เพราะคินทร์เอง

    ก็เป็นทายาทเศรษฐี พลาดขึ้นมาไงก็มีเงินใช้คืนเขาแน่นอน ทั้งนี้ บอยกับนักแสดงคนนั้นรู้เห็นเป็น

    ใจกัน ทำให้สัญญาถูกเซ็นต์โดยที่คินทร์ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเลย

    เมื่อคินทร์ของเรียกดูเอกสารทั้งหมดเพื่อจะจัดทำระบบเก็บข้อมูล ทันทีที่คินทร์เห็นหนังสือสัญญา

    แปลกๆฉบับนี้ คินทร์ก็โวยวายขึ้นมาทันที เพราะเขาไม่ได้ทำสัญญานี้แน่นอน แต่มันกลับเป็นชื่อเขาโดยที่มีลายเซ็นต์ปลอมขึ้นมาอีกต่างหาก คินทร์โวยวายกลับศิลาทันที “ จะให้กรูช่วยก็บอกตรงๆ เงินแค่สี่ห้าล้านกรูมีปัญญาให้ ทำไมต้องปลอมสัญญากันแบบนี้ “

    “ ก็พี่บอยบอกว่าคินทร์อนุญาตแล้วนี่นา จะจะตามมาเซ้นต์ให้ทีหลัง แต่วันที่ทำสัญญาคินทร์ไม่ว่าง เลยต้องทำไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ใหม่ทีหลัง “ ศิลาพยายามอธิบาย

    แต่คินทร์โกรธมากที่ถูกเพื่อนตัวเองหักหลัง ทั้งๆที่เรื่องเล็กๆมากสำหรับเรื่องเงินเนี่ย แต่ทำแบบนี้มันเสียความรู้สึก

    คินทร์ขว้าหัวของศิลาแล้วโขกไปกับผนังห้องอย่างแรงจนศิลาหัวแตก

    ศิลาเองก็อารมณ์ร้อนไม่แพ้กัน ต่อยอัปเปอร์คัทคินทร์อย่างแรงโดยที่ไม่รู้ตัวว่าคินทร์ไม่ใช่คนร่างกายแข็งแรงอะไรนัก

    คินทร์เสียหลักตกบันไดหลายขั้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกต้นคอชิ้นที่สามแตก

    ด้วยความตกใจ ศิลารีบโทรเรียกคุณหมอจรัสเดชมาช่วยดูอาการและอธิบายเรื่องรางให้หมอได้ฟังทั้งหมด

    หลังจากที่คินทร์พ้นขีดอันตรายแล้ว ร่างกายซีกซ้ายของคินทร์เองใช้งานไม่ได้ ต้องกายภาพบำบัดอยู่หลายเดือน

    โดยที่มีน้องซายน์ แมทกับศิลาคอยดูแล จนคินทร์หายดี และหมอจรัสเดชเองก็เป็นคนที่ช่วยประสานรอยร้าวในมิตรภาพของทั้งสองคน จนแนบสนิทกลับมาเหมือนเดิม

    ส่วนไอ้ตัวดีคนนั้น ศิลาสืบประวัติมันจนชัดเจนว่าเป็นแค่ฝ่ายบุคคลอยู่ที่บริษัทแอนโดรมีด้า

    เลยชอบสมอ้างว่ารู้จักคนไปทั่ว ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง แต่ต้องโกหกไป เพราะต้องการที่จะผูกมัดความสัมพันธืและบำบัดความใคร่ของมันเท่านั้น

    คินทร์ได้ประกาศตัดขาดกับไอ้พี่บอยในทันที่ที่ไอ้พี่บอยมันหอบของมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ซึ่งท่าทางไอ้พี่บอยมันแค้นมาก ตะโกนกลางห้องพักในโรงพยาบาลว่า

    “ หลงไอ้เด็กนี่มากใช่ไหม เลยจะสลัดกูทิ้ง ง่ายขนาดนั้นเลย “ พร้อมกับ ขว้างกระป๋องนมใส่ซายน์ จนซายน์หัวแตก ต้องเย็บไปสองเข็ม

    คินทร์เองพยายามที่จะอโหสิ ให้กับมันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทว่ามันยังไม่ยอมเลิก
    Chaptor 7
    What lies beneath
    ศิลาพลางคลาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง เพื่อโทรบอกข้อมูลให้นาคินทร์รับทราบ ทันที่คินทร์รับสาย
    ศิลาก็พูดเป็นชุดจนคินทร์แทบฟังไม่ทัน
    “ ไอ้งูใหญ่ ชั้นรู้แล้วว่าใครมันอยู่เบื้องหลังการทำร้ายแมท กรูเพิ่งออกมาจาก soul probe “

    ศิลาพูดอย่างเร็วจนคินทร์แทบจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่คินทร์เคยได้ยินเรื่องของ soul probe มาบ้าง

    ว่าแต่ไอ้ก้อนหินน้อยนี่มันกล้าเข้า soul probe ไม่กลัวตายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย วิญญาณพวกนั้นติดวิวรณ์ ไม่ได้กลัวตายเลยนะ ไอ้เพื่อนคนนี้ บทจะบ้าก็บ้าเต็มที่


    “ ทั้งหมดเป็นฝีมือไอ้ “พี่ชาย”จากนรกภูมิของเมิงไง ไอ้พี่บอยอ่ะ คราวนี้มันแก้แค้นแรงนะ แต่มันก็ทำกับพวกเราแสบมากนี่นา มันยังไม่เลิกวุ่นวายกับพวกเราว่ะ จับไปนั่งยางดีไหมเดี๋ญวบอกพ่อให้ “
    ศิลากัดฟันพูดด้วยความโกรธ
    ทันทีที่คินทร์ได้ยินชื่อนี้ ความโกรธแค้นในเบื้องลึกก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที พลางนึกถึงอดีตเมื่อปีก่อนขึ้นมาทันที

    ไอ้พี่บอยเป็นญาติห่างๆของคินทร์ ที่มีญาติแนะนำให้รู้จักอีกทอด เพราะเห็นว่ารู้จักคนเยอะ
    น่าจะฝากฝังช่วยเหลือคินทร์หลังเรียนจบได้ แต่ทว่าไอ้พี่บอยนั่นมันหลงใหลในรูปร่างหน้าตาของคินทร์ทั้งแต่ที่แรก

    และเริ่มพยายามผูกมัดคินทร์ด้วยสารพัดวิธี รวมถึงการโกหกตอแหลประโยคเว้นประโยค เพื่อให้คินทร์ยอมรับมันในฐานะแฟนคนหนึ่ง ในทีแรก คินทร์ก็ต้องจำใจ

    เนื่องจากมันก็ดีกับคินทร์มากในช่วงแรก พยายามช่วยเหลือทุกอย่าง จนเมื่อศิลาลงทุนเปิดบริษัทของตัวเองขึ้นมาเพื่อจัดเรื่องงานแสดงและจัดงานอีเวนท์ต่างๆ ซึ่งคินทร์ก็ไปช่วยศิลาโดยไม่คิดค่าแรง ไอ้บอยมันก็เสนอตัวไปช่วย

    โดยอ้างว่ารู้จักกับผู้บริหารใหญ่ ในหลายๆองค์กรและบริษัทชั้นนำของประเทศ โดยในทีแรกบอย

    มันอ้างว่า ทำงานเป็นวิศวกรใหญ่อยู่ที่บริษัทพลังงานข้ามชาติ ที่รับสร้างแท่นขุดเจาะก๊าซและน้ำมันกลางทะเลรายใหญ่ของโลก คินทร์เองก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไรมากมายเพราะเห็นว่าญาติแนะนำให้รู้จัก

    แต่เขาน่าจะฟังแม่ตั้งแต่ทีแรกว่า อย่าไว้ใจญาติบ้านพ่อ นอกจากเสนอตัวช่วยงานศิลาแล้ว

    ยังเสนอให้คินทร์ไปรับตำแหน่งเลขานุการผู้บริหารของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์

    ระดับโลก ซึ่งอันนี้ทำให้คินทร์เซ็งมากๆ เพราะคินทร์ตัดผม แต่งตัวอย่างดีเก้อ รอไปสัมภาษณ์ถึง

    สามรอบ จนครั้งสุดท้ายคินทร์บุกไปจนถึงสำนักงานใหญ่แล้วบุกไปที่หน้าห้องงทำงานของคุณ

    กรองทอง ประกายรัศมี CEO กลุ่มบริษัท อัลดาบรา ไทยแลนด์ เพื่อแสดงตัวมาจะมาสัมภาษณ์

    งาน แต่ก็ต้องหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ เพราะเลขาหน้าห้องบอกว่า คุณกรองทอง ไม่อยู่ แต่ไฉนไอ้

    พี่บอยมันบอกคินทร์เวลานี้ ทันทีที่คินทร์รู้ก็รีบโทรไปถามไอ้พี่บอย แต่มันกลับอ้างว่า คุณกรอง

    ทองเข้าโณงพยาบาลด่วนเพราะไข้เลือดออก ทันทีที่คินทร์รู้ก็รีบตรงไปยังโรงพยาบาลหรูดังกล่าว

    แล้วสอบถามที่เคาท์เตอร์ทันที แต่ปรากฏว่าไม่มีคนชื่อนั้นเข้ามารับการรักษาตัว และเมื่อคินทร์

    กลับไปพักผ่อนที่ห้องอย่างเสียอารมณ์แล้วเปิดข่าวขึ้นดูก็ต้องยิ่งตกตะลึง กับข่าวในพระราชสำนัก

    คุณกรองทอง CEO บริษัทอัลดาบรา กำลังทูลเกล้าทูลกระหม่อถวายเงินแก่เชื้อพระวงศ์องค์หนึ่ง

    ในวันเวลาที่คินทร์บุกไปหาตามที่ไอ้พี่นรกบอก ทันที่ที่คินทร์ได้เห็นดังนั้นก็เข้าใจทันทีว่า

    ทุกอย่างที่ไอ้นั่นบอกคือเรื่องโกหก แต่ที่เลวร้ายกว่านั้น คือที่มันรับปากจะไปขายงานให้กับศิลา

    โดยที่ศิลาลงทุนไปแล้วหลายสิบล้าน แต่ทว่ามันก็อ้างเสมอ ว่าเช็คยังไม่ได้ ต้องรออีกสักพัก แต่

    ขายงานได้แน่ ศิลาก็หลงเชื่อเห็นแก่ที่คินทร์บอกว่าพี่ชายคนนี้ น่าจะช่วยได้ นอกจากนี้ บอยยัง

    พยายามตีสนิทเพื่อกินรวบศิลาอีกคนหลังจากที่กินรวบคินทร์ไปแล้วในโรงแรงแห่งหนึ่งทั้งๆที่

    คินทร์เองไม่ได้ต้องการ และที่แสบสันต์ที่สุดคือ บอยหลอกให้ศิลาทำสัญญาจ้างนักแสดงคนหนึ่ง

    มาใช้เป็นพรีเซนเตอร์งานแสดงสินค้า โดยให้ใช้ชื่อของคินทร์เป็นคนทำสัญญา และก็ให้ปลอม

    แปลงลายมือชื่อของคินทร์ไปโดยพลการ ศิลาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็หลงเชื่อ เพราะคินทร์เอง

    ก็เป็นทายาทเศรษฐี พลาดขึ้นมาไงก็มีเงินใช้คืนเขาแน่นอน ทั้งนี้ บอยกับนักแสดงคนนั้นรู้เห็นเป็น

    ใจกัน ทำให้สัญญาถูกเซ็นต์โดยที่คินทร์ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเลย

    เมื่อคินทร์ของเรียกดูเอกสารทั้งหมดเพื่อจะจัดทำระบบเก็บข้อมูล ทันทีที่คินทร์เห็นหนังสือสัญญา

    แปลกๆฉบับนี้ คินทร์ก็โวยวายขึ้นมาทันที เพราะเขาไม่ได้ทำสัญญานี้แน่นอน แต่มันกลับเป็นชื่อเขาโดยที่มีลายเซ็นต์ปลอมขึ้นมาอีกต่างหาก คินทร์โวยวายกลับศิลาทันที “ จะให้กรูช่วยก็บอกตรงๆ เงินแค่สี่ห้าล้านกรูมีปัญญาให้ ทำไมต้องปลอมสัญญากันแบบนี้ “

    “ ก็พี่บอยบอกว่าคินทร์อนุญาตแล้วนี่นา จะจะตามมาเซ้นต์ให้ทีหลัง แต่วันที่ทำสัญญาคินทร์ไม่ว่าง เลยต้องทำไปก่อนแล้วค่อยมาแก้ใหม่ทีหลัง “ ศิลาพยายามอธิบาย

    แต่คินทร์โกรธมากที่ถูกเพื่อนตัวเองหักหลัง ทั้งๆที่เรื่องเล็กๆมากสำหรับเรื่องเงินเนี่ย แต่ทำแบบนี้มันเสียความรู้สึก

    คินทร์ขว้าหัวของศิลาแล้วโขกไปกับผนังห้องอย่างแรงจนศิลาหัวแตก

    ศิลาเองก็อารมณ์ร้อนไม่แพ้กัน ต่อยอัปเปอร์คัทคินทร์อย่างแรงโดยที่ไม่รู้ตัวว่าคินทร์ไม่ใช่คนร่างกายแข็งแรงอะไรนัก

    คินทร์เสียหลักตกบันไดหลายขั้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกต้นคอชิ้นที่สามแตก

    ด้วยความตกใจ ศิลารีบโทรเรียกคุณหมอจรัสเดชมาช่วยดูอาการและอธิบายเรื่องรางให้หมอได้ฟังทั้งหมด

    หลังจากที่คินทร์พ้นขีดอันตรายแล้ว ร่างกายซีกซ้ายของคินทร์เองใช้งานไม่ได้ ต้องกายภาพบำบัดอยู่หลายเดือน

    โดยที่มีน้องซายน์ แมทกับศิลาคอยดูแล จนคินทร์หายดี และหมอจรัสเดชเองก็เป็นคนที่ช่วยประสานรอยร้าวในมิตรภาพของทั้งสองคน จนแนบสนิทกลับมาเหมือนเดิม

    ส่วนไอ้ตัวดีคนนั้น ศิลาสืบประวัติมันจนชัดเจนว่าเป็นแค่ฝ่ายบุคคลอยู่ที่บริษัทแอนโดรมีด้า

    เลยชอบสมอ้างว่ารู้จักคนไปทั่ว ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง แต่ต้องโกหกไป เพราะต้องการที่จะผูกมัดความสัมพันธืและบำบัดความใคร่ของมันเท่านั้น

    คินทร์ได้ประกาศตัดขาดกับไอ้พี่บอยในทันที่ที่ไอ้พี่บอยมันหอบของมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล ซึ่งท่าทางไอ้พี่บอยมันแค้นมาก ตะโกนกลางห้องพักในโรงพยาบาลว่า

    “ หลงไอ้เด็กนี่มากใช่ไหม เลยจะสลัดกูทิ้ง ง่ายขนาดนั้นเลย “ พร้อมกับ ขว้างกระป๋องนมใส่ซายน์ จนซายน์หัวแตก ต้องเย็บไปสองเข็ม

    คินทร์เองพยายามที่จะอโหสิ ให้กับมันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ทว่ามันยังไม่ยอมเลิก

    ยิ่งมันทำงานให้กับแอนโดรมีด้าแล้วเนี่ย บังเอิญไปรู้ข้อมูลของเอเจนท์ เซอร์เพนทีน ซึ่งก็คือคินทร์ ยิ่งแล้วใหญ่เลย

    มันได้ทีเลยหาทางที่จะแก้แค้นที่คินทร์ทิ้งมันไป แต่มันก็ไม่ได้สำนึกตัวเลยว่ามันเพราะอะไร ที่คินทร์ทนมันไม่ได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×