ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Soul probe
Chaptor 6
Soul Probe
ศิลารีบขับรถไปยังโรงพยาบาลเอกชนสุดหรูแห่งหนึ่ง แล้วรีบอุ้มแมทไปวางบนรถเข็น แล้วรีบเข็นไปห้องฉุกเฉิน พลางกดมือถือโทรไปหาเพื่อนหมอที่ทำงานที่นี่ทันที “ ไอ้ห่อ วันนี้มึงอยู่เวรที่โรงบาลป่าววะ”
“ เออ กรูอยู่ไอ้ก้อนหินน้อย “ เสียงปลายสายตอบกลับมา
“ รับมารับเคสที่กรูพามา ด่วนเลย “ ศิลาตะคอกใส่โทรศัพท์ “เออ กำลังรีบไปที่ห้องฉุกเฉิน”
หมอหนุ่มรีบตาลีตาเหลือก เดินมาจากห้องพักแพทย์เวร
แพทย์หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใส่แว่น ผิวขาว รีบเดินมายังห้องฉุกเฉินที่ศิลากำลังเดินกระวนกระวายอยู่
ทันทีที่ศิลาเห็นเพื่อนหมอก็รีบตรงไปหาทันที
“ ไอ้ห่อ สุดที่รักกรูโดนเล่นงานมากหนักเลย ไปดูที แล้วอย่าให้มันวุ่นวายนะ แล้วถ้าที่รักชั้นเป็นไรขึ้นมา เมิง เตรียมคอขาดได้เลย มึงก็น่าจะรู้นะกรูลูกใคร”
“ เออๆ ไอ้เกย์เถื่อนมีอิทธพล ไอ้ลูกนายพล คนไข้มาก็ต้องเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว แสรด เมิงนั่งรอดีๆ เดินวนไปวนมาหน้าห้อง เกะกะคนทำงานทำงานแถวนี้ “
คุณหมอหนุ่มตะคอกจนหนุ่มตัวโตต้องเดินตัวลีบไปนั่ง รอที่เก้าอี้หน้าห้อง
“ คุณหมอคะ คนไข้ท่าทางโดน ทารุณกรรมที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศ ค่ะ จะให้แจ้งทางตำรวจก่อนไหมคะ “ นางพยาบาลข้างเตียงแมทหันหน้าไปถามคุณหมอหนุ่มที่เดินเข้ามา
“ หา คนไข้นี่ผู้ชายไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายหรืออาชญากรรมทางเพศ เดี๋ยว รักษาพยาบาลเบื้องต้นแล้วส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจดีกว่า “ คุณหมอหนุ่มรีบหันไปสั่งกับพยาบาล
“ คนไข้มีอาการตื่นกลัวและเสียขวัญมากค่ะ ติดต่อไปทางคุณหมอจรัสเดชแล้วอีกสักพักคงมา นางพยาบาลผู้คล่องแคล่ว กล่าวรายงานหมอหนุ่มทันที
“ เออ ให้วายมาตรวจก็คงจะดี ผ่านเคสแรงๆมาหลายเคส น่าจะพอทำอะไรได้ “ หมอหนุ่มพูดพลางตรวจดูร่างกายที่ฟกช้ำหลายแห่งบนตัวแมท
“ ไอ้หินมันดูแลที่รักมันยังไงเนี่ย โดนซะยับเลย ฉีกนะเนี่ย ท่าจะต้องเย็บ เตรียมเครื่องมือให้หมอด้วยชุดเย็บแผลนะ แต่อย่าลืมลิโดเคน(ยาชา) ดูดใส่เข็มมาให้หมอสัก 15 ซีซี เข็มเบอร์ 26 นะ เดี๋ยวหมอออกไปคุยกะญาติคนไข้ก่อน “
“ ไอ้ก้อนหินน้อย เดี๋ยวกรูเย็บแผลให้แล้วคงต้องส่งไปสอบต่อที่โรงพยาบาลตำรวจนะ นี่มันคดีทำร้ายร่างกายและถูกกระทำอนาจารรุนแรง คงต้องแจ้งความตามปกติ พ่อเมิงเป็นนายตำรวจใหญ่ เรื่องแค่นี้คงไม่มีปัญหา “ หมอหนุ่มอธิบายกับศิลา
“ เออ เดี๋ยวกูโทรบอกพ่อก่อน เมิงก็ปฐมพยาบาลที่รักกรูดีๆล่ะ ถ้าที่รักกรูเจ็บมากกว่าเดิม จะลากตับไตเอ็งออกมา ไอ้ห่อ “ ศิลาหันไปมองหมอหนุ่มตาเขียวปั้ด
พลางกดโทรศัพท์ไปหา พ่อตัวเอง พลตำรวจเอก เตโช พิพัฒน์ธราธรชัย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
“ พ่อครับ นี่หินนะ มีรุ่นน้องที่สนิทกับหินมากโดนทำร้ายแล้วก็ทำอนาจารด้วย เดี๋ยวจะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจนะ พ่อช่วยเคลียให้หินที เดี๋ยวหินตามไปด้วย ให้คุยกับใครครับ ติดต่อคุณอาวารินทร์ใช่ไหมครับพ่อ “
หนุ่มร่างใหญ่โทรศัพท์คุยกับบิดาของตนเองอย่างนอบน้อม พลางเดินตามเตียงเข็นของแมทไปยังรถพยาบาล
ระหว่างทางไปโรงพยาบาลตำรวจ แมทเอาแต่ร้องไห้ โดยที่มีจิตแพทย์หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งติดตามไปด้วยคอยปลอบอย่างใจเย็น
ศิลากุมมือแมทที่เอาแต่ร้องไห้ตลอดทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ
ศิลากดโทรศัพท์โทรไปหาสารวัตรวารินทร์ ทันที เพื่อติดตามเรื่องคดี
“ คุณลุงรินทร์ครับ นี่หินลูกท่านรมต.เตโชเองนะครับ ผมมีเรื่องขอร้องคุณอานิดหน่อย คือรุ่นน้องผมโดนทำร้ายที่บ้านร้างย่านชานเมืองนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งที่อยู่ไปให้คุณอาทางมือถือนะ
ครับ “
“ ได้เลยหลานชาย เดี๋ยวอาส่งคนไปดูให้” สารวัตรรับปากศิลาเป็นมั่นเป็นเหมาะ พลางหยิบ วิทยุสื่อสารขึ้นมาสั่งการอย่างฉับไว ทันทีที่ข้อความจากหินส่งมาถึง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบพอดี
รถสายตรวจสามคัน พร้อมกำลังตำรวจหกนาย อาวุธครบมือ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุตามที่ผู้บังคับบัญชาแจ้งมาอย่างเร่งด่วน แต่ทันทีที่กำลังตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ก็ต้องเปลี่ยนท่าทีทันที่ที่เห็นคนร้ายตามที่แจ้งไว้
คนร้ายทุกคน ต่างนอนทุรนทุรายบนพื้น มีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเก้าอย่างต่อเนื่อง อยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างมาก จนทางตำรวจต้องรีบเรียกรถพยาบาลพร้อมแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา
ขอใช้วิธีการสอบสวนพิเศษ “Soul Probe” เนื่องจากผู้ต้องหาไม่อยู่ในสภาพที่จะสอบปากคำอะไรได้ จึงต้องใช้วิธีที่พัฒนากันมาใหม่ล่าสุดที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง
ไหนๆก็ท่านสั่งมาเร่งด่วน ท่านสารวัตรวารินทร์รีบอนุมัติอย่างรวดเร็วพร้อมกับโทรกลับไปหาศิลาที่รออยู่ในห้องคนไข้ของแมท ที่มีจิตแพทย์หนุ่มดูแลอย่างใกล้ชิด
“ นี่อารินทร์เองนะหิน เออ อาว่าหินคงต้องมาชี้ตัวคนร้ายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพราะเราต้องใช้วิธีการสืบสวนพิเศษ Soul Probe อาว่าหินมาดูเองดีกว่า “
“ ครับอารินทร์ เดี๋ยวผมไปรอที่หน้าตึกนะครับ ผมขอเป็นผู้สังเกตการณ์นะครับ“ วิธีการนี้ พ่อของศิลาเคยเล่าให้ฟังคร่าวๆเท่านั้นเพราะเป็นโครงการลับ ทดลองในระดับประเทศ
“ แมทครับ เดี๋ยวพี่หิน ไปทำธุระก่อนนะครับ กลับมาแล้วจะรีบมาเฝ้านะ อยู่กับคุณหมอจรัสเดชนะ “
“ คุณหินครับ ได้เจอกับคินทร์บ้างรึปล่าว เขาเบี้ยวนัดผมมาสี่รอบแล้วนะ “
คุณหมอหนุ่มถามชายหนุ่มร่างใหญ่ในจังหวะที่ก้าวออกไปจากห้อง
“ ได้ครับหมอ เดี๋ยวผมจะบอกคินทร์ให้นะ” ศิลารับปากอย่างรวดเร็วแล้วรีบไปเรียกรถแท๊กซี่จากโรงพยาบาลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที ศิลารู้ดีว่า คุณหมอหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทมากอีกคนของนาคินทร์ ซึ่งคินทร์เองก็เป็นคนไข้ประจำของหมอหนุ่มคนนี้ ส่วนคุณหมอเองก็คงดูแลแมทอย่างดี เพราะไงก็คนกันเองทั้งนั้น
ทันทีที่ ศิลา เดินลงจากรถที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มี นายร้อยท่านหนึ่งนำทางศิลาไปยังตึกพิเศษที่ปกติห้ามคนนอกเข้าเด็ดขาด
แต่ในกรณีนี้ได้รับการอนุญาติเป็นพิเศษจากท่านผบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติและท่านรัฐมนตรีเตโช เพื่อไปยังชั้นใต้ดินที่ดำเนินโครงการทดลอง Soul probe
ซึ่งเป็นวิธีการสืบสวนพิเศษมากที่ใช้กับผู้ต้องสงสัยที่ไม่สามารถให้การตามปกติได้ โดยจะใช้วิธีการเชื่อมต่อสัญญาณทางเคมีไฟฟ้าของสมองของผู้ต้องสงสัยเข้ากับผู้สำรวจและผู้สังเกตการณ์ เพื่อให้ผู้สำรวจเสมือนได้ส่องมองดูยังวิญญาณของผู้ต้องหาได้โดยตรง แต่วิธีนับว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตรายและดูผิดหลักมนุษยธรรม ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้นั้น ผิดกฎหมายแน่นอน
เพราะทางสภานิติบัญญัติยังไม่อนุมัติแน่นอน จึงอยู่ในขั้นทดลองแต่ก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ
สารวัตรวารินทร์และท่านรัฐมนตรีเตโช ยืนรอศิลาอยู่ในห้องกระจกที่กั้นแยกออกมาจากห้องที่ผู้ต้องสงสัยนอนหมดสภาพอยู่ ท่านรัฐมนตรีทันที่ที่เห็นลูกชายก็รีบเดินเข้าไปถาม
“ หิน นี่ลูกพอรู้อะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม พ่อให้หมอตรวจดูผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้วนะ หมอไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นอะไร แต่อาการคล้ายกับติดเชื้อร้ายแรงบางอย่างที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่เห็นว่าคดีนี่คงต้องใช้วิธีนี้ แล้วหินแน่ใจนะว่าจะเป็นผู้สังเกตการณ์ ได้ มันเสี่ยงอันตรายมากนะการที่เราจะเข้าไปยังโลกที่เราไม่เคยพบมาก่อน “
“ แน่ใจครับพ่อ พ่อจำแมทได้ใช่ไหมครับ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการกระทำชั่วแบบนี้” ประกายตาสีเขียวของชายหนุ่มร่างใหญ่สุกสกาวขึ้นมาในทันที
“ แมทเหรอ จำได้สิ พ่อหนูคนที่ลูกเดยพามาที่บ้าน ที่ที่บ้านทำขนมอร่อยๆ จำได้ๆ ตกลงน้องเขาโดนทำร้ายเหรอลูก “ ท่านรัฐมนตรีตอบลูกชายทันที
“ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้มากครับ ถึงต้นสายปลายเหตุ “ ประกายตาของศิลาสว่างวาบขึ้นทันทีที่ เครื่องมือรูปร่างเหมือนกับมงคลเหล็กถูกยื่นมาที่หน้าเขา ศิลารีบหยิบไปสวมบนหัวทันที แล้วนั่งลงบนเก้าอี้พิเศษ ที่จะคอบตรวจสอบสัญญานชีวิต ในห้องที่บุคลากรทางการแพทย์พร้อมช่วยชีวิตฉุกเฉินอยู่หลายคน ท่านรัฐมนตรีเป็นกังวลมาก
“ Observer engage . Probing Enable . All Security Protocol avtivated “ เสียง
คอมพิวเตอร์สั่งการเตรียมความพร้อมในการเริ่มระบบทันที สติของศิลาดับวูบลงไปทันทีที่ระบบเริ่มต้น ภาพที่ปรากฏขึ้นคล้ายกับเขายังฝันอยู่ แต่ทว่าเขาสามารถที่จะขยับเคลื่อนไหวในความฝันนั้นได้อย่างอิสระ ภาพที่ปรากฏขึ้นนั้น มันเหมือนกับเขาได้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในแบบสามมิติ แต่สิ่งที่เขาเห็นในแวบแรกนั้นดูเป็นภาพที่ดูแปลกไปสักนิด มีสิ่งดูเหมือนมีชีวิตลักษณะแปลกๆ คล้ายๆหอยเม่น แต่กลับมีปีกแบบแมลงมากมาย กำลังกัดกิน ภาพที่ปรากฏขึ้น ศิลาคิดได้ทันทีว่าต้องเป็น วิวรณ์แน่นอน แต่เขาก็พยายามจ้องดูไปยังจอภาพเสมือนจริงนับสิบอันอย่างตั้งใจ และเขาก็ได้ยินเสียงที่เขาตั้งใจค้นหา
“ แกไปจับไอ้เด็กในรูปนี่ มานะ แล้วก็จัดการให้มันทรมานทั้งกายและใจแบบแทบแทรกแผ่นดินตาย เสร็จงานแล้วมาเอาไป แสนนึง “ เสียงนี้คุ้นเคยมาก
และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เขาจำได้ทันทีว่าเป็นไอ้ตัวแสบที่เคยทำให้ชีวิตของเขาและคินทร์วุ่นวายมากเมื่อช่วงปีก่อน ไอ้พี่บอย นี่เอง มันยังไม่เลิกรังควาญกับเขาและคินทร์อีกเหรอ
ภาพทั้งหมดที่ศิลาเห็นได้รับการเก็บไว้เป็นข้อมูลหลักฐานในการสิบสวนทุกภาพและรวมถึงทุกเสียงที่เขารับรู้ แต่แน่นอนว่าใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้ แต่ก็เป็นอุปกรณ์ช่วยให้การสืบสวนง่ายขึ้น
Soul Probe
ศิลารีบขับรถไปยังโรงพยาบาลเอกชนสุดหรูแห่งหนึ่ง แล้วรีบอุ้มแมทไปวางบนรถเข็น แล้วรีบเข็นไปห้องฉุกเฉิน พลางกดมือถือโทรไปหาเพื่อนหมอที่ทำงานที่นี่ทันที “ ไอ้ห่อ วันนี้มึงอยู่เวรที่โรงบาลป่าววะ”
“ เออ กรูอยู่ไอ้ก้อนหินน้อย “ เสียงปลายสายตอบกลับมา
“ รับมารับเคสที่กรูพามา ด่วนเลย “ ศิลาตะคอกใส่โทรศัพท์ “เออ กำลังรีบไปที่ห้องฉุกเฉิน”
หมอหนุ่มรีบตาลีตาเหลือก เดินมาจากห้องพักแพทย์เวร
แพทย์หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใส่แว่น ผิวขาว รีบเดินมายังห้องฉุกเฉินที่ศิลากำลังเดินกระวนกระวายอยู่
ทันทีที่ศิลาเห็นเพื่อนหมอก็รีบตรงไปหาทันที
“ ไอ้ห่อ สุดที่รักกรูโดนเล่นงานมากหนักเลย ไปดูที แล้วอย่าให้มันวุ่นวายนะ แล้วถ้าที่รักชั้นเป็นไรขึ้นมา เมิง เตรียมคอขาดได้เลย มึงก็น่าจะรู้นะกรูลูกใคร”
“ เออๆ ไอ้เกย์เถื่อนมีอิทธพล ไอ้ลูกนายพล คนไข้มาก็ต้องเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว แสรด เมิงนั่งรอดีๆ เดินวนไปวนมาหน้าห้อง เกะกะคนทำงานทำงานแถวนี้ “
คุณหมอหนุ่มตะคอกจนหนุ่มตัวโตต้องเดินตัวลีบไปนั่ง รอที่เก้าอี้หน้าห้อง
“ คุณหมอคะ คนไข้ท่าทางโดน ทารุณกรรมที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางเพศ ค่ะ จะให้แจ้งทางตำรวจก่อนไหมคะ “ นางพยาบาลข้างเตียงแมทหันหน้าไปถามคุณหมอหนุ่มที่เดินเข้ามา
“ หา คนไข้นี่ผู้ชายไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายหรืออาชญากรรมทางเพศ เดี๋ยว รักษาพยาบาลเบื้องต้นแล้วส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจดีกว่า “ คุณหมอหนุ่มรีบหันไปสั่งกับพยาบาล
“ คนไข้มีอาการตื่นกลัวและเสียขวัญมากค่ะ ติดต่อไปทางคุณหมอจรัสเดชแล้วอีกสักพักคงมา นางพยาบาลผู้คล่องแคล่ว กล่าวรายงานหมอหนุ่มทันที
“ เออ ให้วายมาตรวจก็คงจะดี ผ่านเคสแรงๆมาหลายเคส น่าจะพอทำอะไรได้ “ หมอหนุ่มพูดพลางตรวจดูร่างกายที่ฟกช้ำหลายแห่งบนตัวแมท
“ ไอ้หินมันดูแลที่รักมันยังไงเนี่ย โดนซะยับเลย ฉีกนะเนี่ย ท่าจะต้องเย็บ เตรียมเครื่องมือให้หมอด้วยชุดเย็บแผลนะ แต่อย่าลืมลิโดเคน(ยาชา) ดูดใส่เข็มมาให้หมอสัก 15 ซีซี เข็มเบอร์ 26 นะ เดี๋ยวหมอออกไปคุยกะญาติคนไข้ก่อน “
“ ไอ้ก้อนหินน้อย เดี๋ยวกรูเย็บแผลให้แล้วคงต้องส่งไปสอบต่อที่โรงพยาบาลตำรวจนะ นี่มันคดีทำร้ายร่างกายและถูกกระทำอนาจารรุนแรง คงต้องแจ้งความตามปกติ พ่อเมิงเป็นนายตำรวจใหญ่ เรื่องแค่นี้คงไม่มีปัญหา “ หมอหนุ่มอธิบายกับศิลา
“ เออ เดี๋ยวกูโทรบอกพ่อก่อน เมิงก็ปฐมพยาบาลที่รักกรูดีๆล่ะ ถ้าที่รักกรูเจ็บมากกว่าเดิม จะลากตับไตเอ็งออกมา ไอ้ห่อ “ ศิลาหันไปมองหมอหนุ่มตาเขียวปั้ด
พลางกดโทรศัพท์ไปหา พ่อตัวเอง พลตำรวจเอก เตโช พิพัฒน์ธราธรชัย
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
“ พ่อครับ นี่หินนะ มีรุ่นน้องที่สนิทกับหินมากโดนทำร้ายแล้วก็ทำอนาจารด้วย เดี๋ยวจะส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจนะ พ่อช่วยเคลียให้หินที เดี๋ยวหินตามไปด้วย ให้คุยกับใครครับ ติดต่อคุณอาวารินทร์ใช่ไหมครับพ่อ “
หนุ่มร่างใหญ่โทรศัพท์คุยกับบิดาของตนเองอย่างนอบน้อม พลางเดินตามเตียงเข็นของแมทไปยังรถพยาบาล
ระหว่างทางไปโรงพยาบาลตำรวจ แมทเอาแต่ร้องไห้ โดยที่มีจิตแพทย์หนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งติดตามไปด้วยคอยปลอบอย่างใจเย็น
ศิลากุมมือแมทที่เอาแต่ร้องไห้ตลอดทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ
ศิลากดโทรศัพท์โทรไปหาสารวัตรวารินทร์ ทันที เพื่อติดตามเรื่องคดี
“ คุณลุงรินทร์ครับ นี่หินลูกท่านรมต.เตโชเองนะครับ ผมมีเรื่องขอร้องคุณอานิดหน่อย คือรุ่นน้องผมโดนทำร้ายที่บ้านร้างย่านชานเมืองนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งที่อยู่ไปให้คุณอาทางมือถือนะ
ครับ “
“ ได้เลยหลานชาย เดี๋ยวอาส่งคนไปดูให้” สารวัตรรับปากศิลาเป็นมั่นเป็นเหมาะ พลางหยิบ วิทยุสื่อสารขึ้นมาสั่งการอย่างฉับไว ทันทีที่ข้อความจากหินส่งมาถึง เนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบพอดี
รถสายตรวจสามคัน พร้อมกำลังตำรวจหกนาย อาวุธครบมือ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุตามที่ผู้บังคับบัญชาแจ้งมาอย่างเร่งด่วน แต่ทันทีที่กำลังตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ก็ต้องเปลี่ยนท่าทีทันที่ที่เห็นคนร้ายตามที่แจ้งไว้
คนร้ายทุกคน ต่างนอนทุรนทุรายบนพื้น มีเลือดไหลออกจากทวารทั้งเก้าอย่างต่อเนื่อง อยู่ในสภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างมาก จนทางตำรวจต้องรีบเรียกรถพยาบาลพร้อมแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา
ขอใช้วิธีการสอบสวนพิเศษ “Soul Probe” เนื่องจากผู้ต้องหาไม่อยู่ในสภาพที่จะสอบปากคำอะไรได้ จึงต้องใช้วิธีที่พัฒนากันมาใหม่ล่าสุดที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง
ไหนๆก็ท่านสั่งมาเร่งด่วน ท่านสารวัตรวารินทร์รีบอนุมัติอย่างรวดเร็วพร้อมกับโทรกลับไปหาศิลาที่รออยู่ในห้องคนไข้ของแมท ที่มีจิตแพทย์หนุ่มดูแลอย่างใกล้ชิด
“ นี่อารินทร์เองนะหิน เออ อาว่าหินคงต้องมาชี้ตัวคนร้ายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เพราะเราต้องใช้วิธีการสืบสวนพิเศษ Soul Probe อาว่าหินมาดูเองดีกว่า “
“ ครับอารินทร์ เดี๋ยวผมไปรอที่หน้าตึกนะครับ ผมขอเป็นผู้สังเกตการณ์นะครับ“ วิธีการนี้ พ่อของศิลาเคยเล่าให้ฟังคร่าวๆเท่านั้นเพราะเป็นโครงการลับ ทดลองในระดับประเทศ
“ แมทครับ เดี๋ยวพี่หิน ไปทำธุระก่อนนะครับ กลับมาแล้วจะรีบมาเฝ้านะ อยู่กับคุณหมอจรัสเดชนะ “
“ คุณหินครับ ได้เจอกับคินทร์บ้างรึปล่าว เขาเบี้ยวนัดผมมาสี่รอบแล้วนะ “
คุณหมอหนุ่มถามชายหนุ่มร่างใหญ่ในจังหวะที่ก้าวออกไปจากห้อง
“ ได้ครับหมอ เดี๋ยวผมจะบอกคินทร์ให้นะ” ศิลารับปากอย่างรวดเร็วแล้วรีบไปเรียกรถแท๊กซี่จากโรงพยาบาลไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที ศิลารู้ดีว่า คุณหมอหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทมากอีกคนของนาคินทร์ ซึ่งคินทร์เองก็เป็นคนไข้ประจำของหมอหนุ่มคนนี้ ส่วนคุณหมอเองก็คงดูแลแมทอย่างดี เพราะไงก็คนกันเองทั้งนั้น
ทันทีที่ ศิลา เดินลงจากรถที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็มี นายร้อยท่านหนึ่งนำทางศิลาไปยังตึกพิเศษที่ปกติห้ามคนนอกเข้าเด็ดขาด
แต่ในกรณีนี้ได้รับการอนุญาติเป็นพิเศษจากท่านผบ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติและท่านรัฐมนตรีเตโช เพื่อไปยังชั้นใต้ดินที่ดำเนินโครงการทดลอง Soul probe
ซึ่งเป็นวิธีการสืบสวนพิเศษมากที่ใช้กับผู้ต้องสงสัยที่ไม่สามารถให้การตามปกติได้ โดยจะใช้วิธีการเชื่อมต่อสัญญาณทางเคมีไฟฟ้าของสมองของผู้ต้องสงสัยเข้ากับผู้สำรวจและผู้สังเกตการณ์ เพื่อให้ผู้สำรวจเสมือนได้ส่องมองดูยังวิญญาณของผู้ต้องหาได้โดยตรง แต่วิธีนับว่าเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตรายและดูผิดหลักมนุษยธรรม ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้นั้น ผิดกฎหมายแน่นอน
เพราะทางสภานิติบัญญัติยังไม่อนุมัติแน่นอน จึงอยู่ในขั้นทดลองแต่ก็ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ
สารวัตรวารินทร์และท่านรัฐมนตรีเตโช ยืนรอศิลาอยู่ในห้องกระจกที่กั้นแยกออกมาจากห้องที่ผู้ต้องสงสัยนอนหมดสภาพอยู่ ท่านรัฐมนตรีทันที่ที่เห็นลูกชายก็รีบเดินเข้าไปถาม
“ หิน นี่ลูกพอรู้อะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม พ่อให้หมอตรวจดูผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้วนะ หมอไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นอะไร แต่อาการคล้ายกับติดเชื้อร้ายแรงบางอย่างที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่เห็นว่าคดีนี่คงต้องใช้วิธีนี้ แล้วหินแน่ใจนะว่าจะเป็นผู้สังเกตการณ์ ได้ มันเสี่ยงอันตรายมากนะการที่เราจะเข้าไปยังโลกที่เราไม่เคยพบมาก่อน “
“ แน่ใจครับพ่อ พ่อจำแมทได้ใช่ไหมครับ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังการกระทำชั่วแบบนี้” ประกายตาสีเขียวของชายหนุ่มร่างใหญ่สุกสกาวขึ้นมาในทันที
“ แมทเหรอ จำได้สิ พ่อหนูคนที่ลูกเดยพามาที่บ้าน ที่ที่บ้านทำขนมอร่อยๆ จำได้ๆ ตกลงน้องเขาโดนทำร้ายเหรอลูก “ ท่านรัฐมนตรีตอบลูกชายทันที
“ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้มากครับ ถึงต้นสายปลายเหตุ “ ประกายตาของศิลาสว่างวาบขึ้นทันทีที่ เครื่องมือรูปร่างเหมือนกับมงคลเหล็กถูกยื่นมาที่หน้าเขา ศิลารีบหยิบไปสวมบนหัวทันที แล้วนั่งลงบนเก้าอี้พิเศษ ที่จะคอบตรวจสอบสัญญานชีวิต ในห้องที่บุคลากรทางการแพทย์พร้อมช่วยชีวิตฉุกเฉินอยู่หลายคน ท่านรัฐมนตรีเป็นกังวลมาก
“ Observer engage . Probing Enable . All Security Protocol avtivated “ เสียง
คอมพิวเตอร์สั่งการเตรียมความพร้อมในการเริ่มระบบทันที สติของศิลาดับวูบลงไปทันทีที่ระบบเริ่มต้น ภาพที่ปรากฏขึ้นคล้ายกับเขายังฝันอยู่ แต่ทว่าเขาสามารถที่จะขยับเคลื่อนไหวในความฝันนั้นได้อย่างอิสระ ภาพที่ปรากฏขึ้นนั้น มันเหมือนกับเขาได้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในแบบสามมิติ แต่สิ่งที่เขาเห็นในแวบแรกนั้นดูเป็นภาพที่ดูแปลกไปสักนิด มีสิ่งดูเหมือนมีชีวิตลักษณะแปลกๆ คล้ายๆหอยเม่น แต่กลับมีปีกแบบแมลงมากมาย กำลังกัดกิน ภาพที่ปรากฏขึ้น ศิลาคิดได้ทันทีว่าต้องเป็น วิวรณ์แน่นอน แต่เขาก็พยายามจ้องดูไปยังจอภาพเสมือนจริงนับสิบอันอย่างตั้งใจ และเขาก็ได้ยินเสียงที่เขาตั้งใจค้นหา
“ แกไปจับไอ้เด็กในรูปนี่ มานะ แล้วก็จัดการให้มันทรมานทั้งกายและใจแบบแทบแทรกแผ่นดินตาย เสร็จงานแล้วมาเอาไป แสนนึง “ เสียงนี้คุ้นเคยมาก
และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เขาจำได้ทันทีว่าเป็นไอ้ตัวแสบที่เคยทำให้ชีวิตของเขาและคินทร์วุ่นวายมากเมื่อช่วงปีก่อน ไอ้พี่บอย นี่เอง มันยังไม่เลิกรังควาญกับเขาและคินทร์อีกเหรอ
ภาพทั้งหมดที่ศิลาเห็นได้รับการเก็บไว้เป็นข้อมูลหลักฐานในการสิบสวนทุกภาพและรวมถึงทุกเสียงที่เขารับรู้ แต่แน่นอนว่าใช้เป็นหลักฐานในศาลไม่ได้ แต่ก็เป็นอุปกรณ์ช่วยให้การสืบสวนง่ายขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น