ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Innerlink

    ลำดับตอนที่ #1 : identity ?

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 49


     " The Inner Links "

    ...Chapter 2 ...

                                                                                    identity ?

                    นาคินทร์ขับรถคันงามออกจากมหาลัยไปอย่างใจเย็น ถ้าตามราคาของท้องตลาดแล้ว เป็นรถยนต์หรูซึ่งมีแต่เศรษฐีเท่านั้นที่จะใช้กัน  แต่คนที่ขับกลับเป็นชายหนุ่มอายุไม่เกิน 30  ซึ่งอาจจะพออนุมานได้ว่าเขาคงเป็นลูกผู้ดีมีเงิน แน่นอน แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอมาจากไหนหรอก เขาไม่มีครอบครัวเหลือแม้แต่คนเดียวด้วยซ้ำ คนที่มีค่าที่สุดสำหรับเขาตอนนี้ คือน้องซายน์ที่อ่อนโยนกับเขาเสมอ .....

                    ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าไปยังคอนโดมีเนียมหรูใจกลางเมือง  เขาลดกระจกแล้วหันไปที่ระบบตรวจสอบม่านตาอัตโนมัติซึ่งในการตรวจสอบผู้อยู่อาศัย หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ประตูบานใหญ่ก็เลื่อนออกอย่างช้าๆ จนขับรถผ่านเข้าไปได้

    หลังจากที่เขาจอดรถยังที่จอดรถส่วนบุคคลแล้ว เขาก็เดินตรงไปยังลิฟต์ ซึ่งก็ไม่มีปุ่มกดหมายเลขชั้นแม้แต่เลขเดียว แต่ทันทีที่กดปุ่มเรียกลิฟต์ ปุ่มจะทำการแสกนลายนิ้วมือว่าเป็นผู้ใด และจะขึ้นไปยังชั้นที่ทำการลงทะเบียนไว้เท่านั้น 
                    หนึ่งชั่วอึดใจ ลิฟต์ก็เปิดขึ้นที่ชั้นหก ซึ่งเป็นห้องชุดเหมาซื้อมาทั้งชั้น  เขาเดินตรงไปยังบานประตูที่ทำจากกระจกทึบ

    I’m alfa and omega , the first and the last , the beginning and the end . Let me pass trough the gate of doom “ ชายหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

    การเทียบเสียงถูกต้อง รหัสผ่านถูกต้อง ยืนยัน   

    Spirit Energy Confirmation please stay calm “ เสียงของสุภาพสตรีดังขึ้นจากลำโพงเล็กๆที่ติดไว้ข้างประตู แน่นอน มันเป็นเสียงอิเล็กทรอนิกส์จากระบบรักษาความปลอดภัย

    นาคินทร์ยืนสงบนิ่ง เพื่อกำหนดจิตเป็นสมาธิ ซึ่งเป็นระบบ ป้องกันขั้นสูงสุดเท่าที่เคยจะพัฒนากันมาได้  เขาได้ฝึกวิธีการกำหนดสมาธิและเข้าฌานในตอนที่เขาได้บวชเรียนในวัดป่าแห่งหนึ่งกับพระอาจารย์ธุดงค์ท่านหนึ่ง เขาสามารถเข้าสู่ฌานขั้นสูง และสามารถถอดกายทิพย์ หรือวิญญาณและชีวิตทั้งหมด ออกจากกายเนื้อได้ เพื่อทำให้การแสกนลักษณะทางวิญญาณนั้นง่ายขึ้ย มิเช่นนั้นเขาต้องสวมมงคลเหล็กที่จะกดรัดกะโหลกของเขาไว้แน่น เพื่อที่จะตรวจสอบลักษณะทางคลื่นไฟฟ้าในสมองของเขา ซึ่งอาจจะเทียบได้กับพลังงานวิญญาณของมนุษย์วึ่งว่ากันว่า เกดจากปฏิกิริยาทางชีวเคมีในสมอง  แต่ที่จริงนั้น มันยิ่งกว่านั้น จากการฝึกจิตและเทคโนโลยี หากรวมกันได้อย่างลงตัวแล้ว ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป   ร่างเนื้อของเขายืนสงบนิ่ง อยู่หน้า แต่ร่างทิพย์ของเขา นั้น  เดินทะลุ ประตูห้องเข้าไป ทันทีที่เท้าร่างทิพย์ของเขาก้าวเหยียบบนพื้นกระเบื้องพิเศษแผ่นแรก ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในห้องสว่างขึ้นอย่างอัตโนมัติ  พื้นที่ห้องขนาด 150 ตารางเมตร ซึ่งนับว่าใหญ่พอดูสำหรับชายหนุ่มตัวคนเดียว พื้นห้องปูด้วยพรมสีน้ำตาลอ่อน รับกับผนังสีครีม  เครื่องเรือนนั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์โลหะสไตล์โมเดิร์น ผนังนั้นมีรูปรูปเดียวที่แขวนอยู่ ซึ่งรูปนั้น ดูเผินๆก็คล้ายเปลวไฟ แต่หากเพ่งมองดูให้แล้ว เปลวไฟนั้นกลับก่อตัวเป็นรูปร่างของ อสรพิษ ซึ่งอาจดีความหมายได้หลายนัย บางคนอาจตีความว่า เป็นพญาอสรพิษเปลวเพลิงที่ทรงอำนาจ หรือเป็นอสรพิษที่กำลังถูกแผดเผาด้วยประกายเพลิงกัลป์ก็เป็นได้

    ประตูห้องเปิดออก ร่างทิพย์แบกกายเนื้อของตนเอง เข้ามาพักไว้บนโซฟา ยาว ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของกายเนื้อออกสองสามเม็ด กายทิพย์หยิบเอาเครื่องมือบางอย่างจากกล่องเหล็กบนโต๊ะซึ่งมันเป็นเครื่องมือส่งไฟและง้างปาก สำหรับสอดท่อหายใจ เรียกว่า  laryngoscope  ร่างทิพย์ใช้อุปกรณ์นี้ช่วยเปิดปาก และสอดท่อช่วยหายใจเข้าไปในหลอดลมของตัวเองอย่างง่ายดาย ในครั้งๆรแก มันยากมากเพราะเขาไม่ได้ร่ำเรียนวิชาแพทย์มาโดยตรง แต่ทว่า กายศึกษาค้นคว้าและถามข้อมูลจากเพื่อนเก่าที่เป็นหมอ และกายฝึกกับร่างของตัวเองทุกวันนั้น ทำให้การสอดท่อสำหรับเขา ไม่ได้ยากนักเลย ส่วนหัวใจของร่างเนื้อนั้นจะเต้นแผ่วมาก แต่ก็พอที่จะนำเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้เพียงพอ กายทิพย์ เดินไปยังตู้ข้างๆ หยิบเอาสายออกซิเจนซึ่งต่อกับเครื่องช่วยหายใจ ต่อเข้ากับท่อหายใจที่สอดเข้ากับกายเนื้อ และนำเอาสายสัญญาณคลื่นไฟฟ้าหัวใจแปะไว้ที่หน้าอกของกายเนื้อตนเอง ซึ่งถ้าสัญญาณชีพของเขาเกิดผิดปกติ ระบบที่ต่อเชื่อมกับโทรศัพท์จะโทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลให้ส่งหน่วยฉุกเฉินมาทันที อากาศในห้องจัดได้ว่าเย็นมาก แต่ทว่า ร่างทิพย์นั้น ไม่รู้สึกร้อนหนาว แต่อย่างไร  และกายเนื้อที่อยู่ในสภาพนี้ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแน่นอน

    แต่น้ำต่อให้เย็นแค่ไหน แต่ไฟที่ถูกสุมขึ้นในวิญญาณของเขานั้น คงมิอาจดับลงได้

    เขาเองเป็นคนที่ยอมกระโดดเข้าในกองไฟนั้นเอง คนที่จะดับมันได้ย่อมเป็นตัวเขาเอง แต่ทว่ากลับมีคนคอยมาเติมเชื้อไฟให้อยู่เสมอ

    ..เสียงปิ๊ป แหลม ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดตัวเองขึ้นมาเมื่อครู่ พร้อมกับข้อความ

    Dear  Agent Serpentine , Assignment form Andromeda Corp. “

    .... พักหายใจสักแป๊ป ไม่ได้ รึไง วะ ชายหนุ่มบ่นพลางเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์

    ชายหนุ่มวางมือที่เปล่งประกายจางๆลงบนหน้าจอคอม จากนั้นพริบตา กายทิพย์ก็จมเข้าไปในจอคอมพิวเตอร์

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×