ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic : MY PET นายเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน !!! BEAST {2JUN}

    ลำดับตอนที่ #2 : {MY PET} : Chapter 1 ประธานเฮงซวย !!! 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.45K
      3
      20 ส.ค. 54

       

    Chapter – 1 ประธานเฮงซวย !!!

              ไม่ ไม่ ไม่ โธ่เว้ย !! งี่เง่าชะมัด !!!”

                นักเรียนหญิงในชุดยูนิฟอร์มตามระเบียบของโรงเรียนสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ เธอเหลือบตาขึ้นเพื่อมองดูผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงานที่มีป้ายเขียนว่า ประธานนักเรียน ด้วยความหวาดกลัว และต้องรีบก้มหลบสายตาลงทันทีเมื่อสบกับสายตาที่จ้องมองมาอย่างโมโหของอีกฝ่าย

                เธอเป็นบ้าอะไรฮะ ?!! แค่ให้ไปหาชานมมาให้นี่ถึงกับทำไม่ได้เลยเหรอ ?? เคยอ่านที่ขวดมั่งมั้ย ? ฮะ ?!! เคยอ่านมั่งรึเปล่า ?? ถึงได้ซื้อโกโก้มาให้น่ะ !!!!”

              เพล้ง !!!!

                ประธานนักเรียนหนุ่มออกแรงเขวี้ยงขวดที่บรรจุโกโก้เสียเต็มในมือของเขาไปที่นักเรียนหญิงคนนั้นที่ยืนตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัวด้วยความโมโหจัด ขวดโกโก้ที่กระทบกับกำแพงและแตกกระจายทันทีทำให้ความกลัวของนักเรียนหญิงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เธอถึงกับเข่าอ่อนและทรุดลงไปนั่งบนพื้น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเรียกคะแนนความสงสารจากประธานนักเรียนหนุ่มได้เท่าไหร่นัก

                ข... ขอโทษค่ะ ปากของเธอสั่นพั่บๆในขณะที่กล่าวออกไป น้ำเสียงของเธอสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด

                ถามหน่อยเหอะ เธอเคยทำอะไรได้เรื่องมั่งมั้ย? ตั้งแต่ที่ฉันเลือกเธอมาเป็นเมด เคยมีมั้ยสักครั้งที่เธอทำให้ฉันรู้สึกประทับใจน่ะ ?!!”

                ม... ไม่ค่ะ...

                ก็รู้ตัวดีนี่ ประธานนักเรียนหนุ่มทำหน้าเหยเก ออกไปได้แล้ว !!! คนงี่เง่าไม่ได้ความอย่างเธอน่ะ ไร้ประโยชน์สิ้นดี !!!”

                ฮ... ฮือ... เมื่อโดนด่าเสียจนไม่เหลือซาก นักเรียนหญิงคนนั้นก็เริ่มที่จะบ่อน้ำตาแตก เธอปล่อยโฮออกมาอย่างหนักด้วยความเสียใจและวิ่งแจ้นออกไปจากห้องโดยที่ไม่หันหลังกลับมาอีกเลย

                ไร้สาระ ผู้หญิงนี่ไร้สาระชะมัด ประธานนักเรียนหนุ่มถอนหายใจฮึดฮัดด้วยความขัดใจก่อนที่จะทิ้งตัวกระแทกนั่งลงบนเก้าอี้ ต้องรีบหาเมดคนใหม่ที่ได้ความมากกว่านี้ซะแล้ว

                ยุนดูจุน ประธานนักเรียนรุ่นที่ 25 ของโรงเรียนมัธยมปลายจองฮวา ผู้โด่งดังในเรื่องของความหยิ่งยโสและเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด เขาคนนี้คิดว่าอารมณ์ของตัวเองอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีใครสามารถขัดใจเขาได้ เขาถือคติที่ว่าใครๆก็ต้องตามใจเขาเพราะเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในโรงเรียนนี้ !!

                ถึงจะเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหนแต่ดูจุนมีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่นเช่นกัน ด้วยความมาดแมนแฮนซั่มแถมยังหน้าตาดีระดับไอด้อลเกาหลียังทาบไม่ติดของเขานั้นทำให้เขาเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของกลุ่มนักเรียนหญิงหลายๆคนในโรงเรียน เรียกได้ว่าเกือบทั้งโรงเรียนเลยก็คงจะไม่ผิด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นที่น่าหมั่นไส้ของเด็กนักเรียนชายทั้งโรงเรียนไปด้วย เป็นคนที่มีแต่คนให้ความสนใจในทั้งด้านดีและด้านลบ

                และตำแหน่งหนึ่งซึ่งเป็นที่หมายปองของสาวเล็กสาวใหญ่ผู้คลั่งไคล้ในตัวประธานนักเรียนหนุ่มคนนี้ ก็คือตำแหน่ง เมด หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจก็คงจะคล้ายๆตำแหน่งเลขาธิการอะไรประมาณนั้น ซึ่งกว่าจะได้มาก็ยากเย็นแสนเข็ญ ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน อาทิเช่น ทำงานบ้านเป็น หุงข้าวปลาอาหารเป็น และอีกสารพัดสารพันที่แม่บ้านที่ดีส่วนใหญ่ต้องมีกัน และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ลืมไม่ได้เลย ข้อนี้สำคัญมาก ผู้สมัครทุกคนจะต้องมีคุณสมบัตินี้ไม่งั้นจะไม่สามารถทำงานกับคนที่ชื่อว่า ยุนดูจุน ได้

                คุณสมบัติข้อนั้นก็คือ... เป็นผู้ที่มีความอดทนสูง สามารถอดทนต่อการดุด่าว่ากล่าวสารพัดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของเจ้าตัวอย่างไม่หยุดหย่อนได้ พูดง่ายๆก็คือ ใครที่คิดว่าตัวเองทนไม่ได้ที่จะต้องถูกด่าเป็นระยะเวลานานๆก็ถอนตัวออกไปซะ จะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน

                ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติข้อนี้ก็ช่างน้อยนิด เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีเลยสักคนในประวัติศาสตร์การเป็นเมดของยุนดูจุนเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย ใส่ใจในรายละเอียดทุกเม็ดเสียจนบางครั้งก็ดูเหมือนจะมากเกินไป เลยไม่มีเมดคนไหนเลยสักคนที่สร้างความประทับใจให้เขาอย่างสุดซึ้ง เท่าที่ผ่านมามากที่สุดก็คงจะแค่ได้รับคำชมว่า ดี เพียงแค่นั้น ส่วนที่เหลือก็อย่าไปพูดถึง

                และตอนนี้เขาก็กำลังดำเนินการตามหา เมด คนใหม่อย่างเร่งด่วน

    +++++++++

                เฮ้ยย โจ๊กเกอร์ๆ มาดูนี่ดิ่

                ไรวะ ?

                เอาน่าๆ รับรองว่าแกจะต้องชอบ เอ๊ย ! ไม่ใช่

                ตกลงว่ายังไงกันแน่วะ ?? เมื่อเห็นท่าทางเวลากล่าวของเพื่อนสนิทแล้วยงจุนฮยองก็เริ่มที่จะหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ในใจก็ได้แต่บ่นว่ามันพูดอะไรวะไม่เห็นรู้เรื่อง? เขาจึงเข้าไปดูอะไรบางอย่างที่เพื่อนเอานิ้วชี้ๆที่บอร์ดด้วยตัวเอง เอาให้รู้ไปเลยว่าไอ้เพื่อนบ้านั่นมันกะจะหมายถึงอะไร

                ไหนๆ

                นี่ไงๆ อ่านดิ่

                จุนฮยองไล่สายตาไปตามแผ่นโปสเตอร์ที่ติดไว้ที่บอร์ด ก่อนที่จะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย แล้วเริ่มต้นที่จะหันไปโวยวายใส่เจ้าตัวการที่เรียกเขามาดู

                รณรงค์ปลูกต้นไผ่เพื่อแพนด้า เนี่ยนะ ?? แม่งน่าสนใจฉิบหายเลยไอ้บ้านี่... มันน่าสนใจตรงไหนวะฮะ ??

                โว้ย !! ไม่ได้เรียกให้แกมาดูไอ้การรณรงค์ปลูกต้นไผ่เพื่อแพนด้าบ้าๆอะไรเนี่ยซะหน่อย นี่ต่างหาก ! ฉันเรียกให้แกมาดูไอ้นี่ เปิดตาตี่ๆของแกและอ่านซะ รับรองงานนี้มีตะลึง !!”

                อะไรนักหนาวะ... จุนฮยองบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิดและเลื่อนสายตาไปยังโปสเตอร์อีกแผ่นหนึ่งที่ติดไว้ข้างๆกับโปสเตอร์รณรงค์ปลูกต้นไผ่บ้าบออะไรนั่นที่เขาไม่คิดจะสนใจ ซึ่งโปสเตอร์แผ่นนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกับไอ้โปสเตอร์การรณรงค์บ้าๆนั่นโดยสิ้นเชิง ถึงแผ่นจะเล็กกว่านิดหน่อย ขนาดประมาณเอสี่แผ่นนึงเห็นจะได้ แต่กลับมีการออกแบบที่สวยเว่อร์เสียจนคนอ่านอดที่จะคิดไม่ได้ว่า มันเกินไปไหม ? ทั้งๆที่หัวข้อมันก็มีอยู่แค่ที่หัวกระดาษแค่นั้น แต่พอได้อ่านหัวข้อแล้วก็ต้องถึงบางอ้อทันทีว่าไอ้ฝ่ายกราฟฟิคโรงเรียนมันคิดอะไรอยู่ถึงได้ออกแบบโปสเตอร์เว่อร์ๆแบบนี้มา

              รับสมัครคัดเลือก เมด ของประธานนักเรียน

              คนสั่งการให้ผลิตโปสเตอร์แผ่นนี้มาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจาก ยุนดูจุน ประธานนักเรียนรุ่นที่ 25 ที่ใครๆก็รู้ว่าเอาแต่ใจตัวเองอย่างเป็นที่สุด และที่สำคัญ เป็นคนที่ยงจุนฮยองคนนี้เหม็นขี้หน้าที่สุดในโรงเรียนเลยด้วย !!!

                เอ๊ะ ! แต่จำได้ว่าการคัดเลือกเมดครั้งที่แล้วมันเพิ่งจบไปเมื่อเดือนมีนานี่นา ตอนนี้ก็เพิ่งเริ่มต้นเดือนเมษาเอง จะรับสมัครใหม่อีกแล้วเหรอวะ ?!

                อะไรวะ ?? เมื่อเดือนก่อนก็เพิ่งเลือกไปเองไม่ใช่เรอะ ? แถมยังได้ดาวดังอย่างโกฮาร่าเป็นเมดซะอีก ไอ้ประธานบ้านี่มันจะเอาแต่ใจตัวเองไปถึงไหน ?!”

                นั่นดิ่ ไม่รู้รึไงว่าทำให้ผู้ชายเกือบทั้งโรงเรียนน้ำตาตกในกันเป็นแถวน่ะ ฮือ ~ ฉันเนี่ยอุตส่าห์หมายมั่นปั้นมือว่าจะขอน้องฮาร่าเป็นแฟนตอนฤดูใบไม้ผลินี่แท้ๆนะเนี่ย ไอ้บ้านั่นอภัยให้ไม่ด้ายย ~ TT^TT”

                เกินไปหว่ะ ไม่ต้องมาเล่นบทโศกให้เห็นเลยนะเว้ย หน้าอย่างแกอ่ะดาวโรงเรียนอย่างโกฮาร่าคงไม่มีแม้แต่จะเหลียวมองร้อก จะขอเขาเป็นแฟนน่ะฝันไปเหอะ !” จุนฮยองตบกะโหลกเพื่อนสนิททีนึงเพื่อให้มันตื่นขึ้นมาจากฝันกลางวัน แต่ดูท่าจะแรงเกินไปหน่อยทำให้อีกฝ่ายหันกลับมามองตาขวาง

                คอยดูนะเมิง ถ้าฮาร่าเป็นแฟนกูเมื่อไหร่ กูจะควงมาเย้ย !! =3= ชิส์

                เออๆ เรื่องของเมิงเหอะ กูไม่เคยคิดที่จะสนใจหว่ะ =_=”

                หน๊อยยย ไอ้.....!!!!”

                กรี๊ดดดดดด !! ยุนดูจุน !! ยุนดูจุน !! เขามาแล้วแหล่ะแก !!” เสียงกรี๊ดกร๊าดของนักเรียนหญิงที่ยืนอยู่รอบด้านทำให้บทสนทนาของเพื่อนสนิทหยุดไปซักพัก เมื่อได้ยินชื่อของคนที่เรียกได้ว่าเกลียดขี้หน้ามากที่สุดคนหนึ่งจุนฮยองก็เริ่มต้นที่จะทำสีหน้าบูดบึ้ง จังหวะอะไรจะเหมาะเหม็งปานนี้ ?!

                รีบไปเหอะหว่ะ ไม่อยากโดนเสนียดหมาแถวๆนี้ จุนฮยองออกปากพูดออกไปก่อนที่จะทำท่าเดินหนี ส่วนเพื่อนสนิทก็ได้แต่ทำหน้างงๆตอบ รู้น่ะว่าไม่ชอบ แต่แบบนี้มันจะเกินไปป่ะ =_= ??

                บ๊ะ !! ยัยพวกนี้ มายืนขวางทางทำไม หลบไปดิ่ !!!”

                จุนฮยองที่ทำท่าจะเดินออกไปให้ห่างๆจากตรงนี้ กลับโดนกลุ่มสาวกแฟนคลับยุนดูจุนเบียดเสียดซะจนแทบจะมองไม่เห็นทางรอด ขนาดส่งเสียงดังโวยวายใส่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครสักคนเปิดทางให้ แต่ก็นี่แหล่ะ โอกาสทองแบบนี้ใครๆก็อยากที่จะไปยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อจะได้มองคนที่พวกเขาปลื้มได้อย่างชัดๆทั้งนั้น เมื่อคิดได้อย่างนั้นจุนฮยองเริ่มที่จะอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ขนาดไอ้ขี้เก็กแถมยังเอาแต่ใจตัวเองแบบนั้นยังมีกลุ่มแฟนคลับมากมายก่ายกองขนาดนี้ ! แล้วพวกแฟนคลับของวงบอยแบนด์หรือเกิร์ลแบนด์ดังๆพวกนั้นมันจะมหาศาลขนาดไหน ? ถ้าเอามาต่อกันก็คงจะได้ตึกเวิร์ลเทรดอีกสักสองสามตึกได้ล่ะมั้ง ?! ถ้าไม่ติดที่ว่าไอ้บ้านี่มันมีดีที่หน้าตาล่ะก็นะ เหอะ !! ต่อให้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อว่าคนอย่างมันน่ะจะมีแฟนคลับ !! ณ จุดนี้ยงจุนฮยองรับรองได้ !!

                ฉันว่าเราคงจะต้องติดแหง็กอยู่ตรงนี้ซักพักแล้วหว่ะเพื่อนสนิทกล่าวขึ้นด้วยความหวังดีอยากให้อีกฝ่ายใจเย็นลง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากเป็นการราดน้ำมันเข้าไปในกองเพลิงให้ลุกโหมขึ้นมามากกว่าเดิมเพียงงเท่านั้น

                หุบปากไปเลยโว้ยถ้าไม่ได้ช่วยอะไรน่ะ !!” จุนฮยองโวยวายใส่ไอ้เพื่อนตัวดีที่พูดอะไรไม่เข้าหู ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วยังจะมาพูดยุให้อารมณ์เสียหนักกว่าเก่าอีก ! แบบนี้มันน่ามั้ยล่ะ ?!

                คร้าบๆ

                กรี๊ดดดด !!!!! เขามาแล้ว !!! ยุนดูจุน !!! ยุนดูจุน !!!”

                นักเรียนหญิงรวมถึงเก้งกวางทั้งหลายพร้อมใจกันส่งเสียงกรี๊ดลั่นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของบุคคลที่ปลื้มนักปลื้มหนาปรากฏตัวขึ้นมาที่เบื้องหน้า และเสียงกรี๊ดก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่ายุนดูจุนและพวกกรรมการนักเรียนจะเดินผ่านไปจากบริเวณนี้ ซึ่งจุนฮยองก็ได้แต่ภาวนาให้มันเป็นเช่นนั้นเร็วๆ ไม่งั้นกว่าเขาจะได้ออกไปจากตรงนี้ก็คงจะต้องหูแตกก่อนเป็นแน่ หรือไม่ก็คงจะประสาทแดกกันไปข้างนึง แถมเขาก็ยังทนมองไอ้ประธานนักเรียนขี้เก๊กนั่นได้ไม่ค่อยนานนักซะด้วย เดี๋ยวอดไม่ไหวเข้าไปประเคนหมัดใส่ซักทีสองทีซะหรอก !!!

                คิดว่าตัวเองเป็นเรนรึไงวะ ? รึคิดว่าตัวเองเป็นซุบเปอร์จูเนียร์ ? รึคิดว่าตัวเองเป็นทูพีเอ็ม ? บ๊ะ !! น่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย !!” กะอีแค่มีหน้าตาที่ดูดีกว่าคนปกติเขาซักหน่อย เอ่อ... ไม่หน่อยล่ะมั้งอย่างงี้ เออ ! ยอมรับก็ได้ว่าเอ็งอ่ะแฮนซั่ม ! แต่ก็ใช่ว่าจะประทับใจอะไรยงจุนฮยองคนนี้หรอกนะเว้ย !!

                จุนฮยองได้แต่บ่นกระปอดกระแปดอยู่คนเดียวด้วยความขัดใจ สายตาก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่ยุนดูจุนเขม็งทั้งๆที่ไม่ย้ากไม่อยากเลยซักนิด แต่จะให้ทำไงได้เล่า ?! ก็มันอยู่ตรงหน้าเรานี่หว่า ! พอดูนานๆไปไอ้ที่ว่าหน้าตาดีอ่ะก็ยอมรับว่ามันดีอยู่หรอก แต่นิสัยนี่แบบรับไม่ได้หว่ะ ! บ๊ะ !! แค่นินทานิดหน่อยก็หันมามองละ ไรวะ ?? หาเรื่องกันรึไง ?!

                ดูเหมือนเขามองนายหว่ะ จุนฮยองตวัดสายตากลับไปมองเพื่อนที่พูดขึ้นในสิ่งที่ตรงกับความคิดของเขาในตอนนั้นพอดี เออ... คิดเหมือนกันเลยหว่ะ

                สงสัยมันคงอิจฉาที่ฉันหล่อกว่า จริงป่ะ ??

                โห้ยยย ถ้าอย่างแกเรียกว่าหล่อ อย่างฉันก็คงจะระดับนิชคุณ ทูพีเอ็มไปแล้วล่ะมั้ง ?

                หลงตัวเองหว่ะมึง เอาอะไรไปเทียบกับเค้า ?!”

                ชิส์ ยงจุนฮยองใจร้ายอ่ะ =3=”

                หมอนั่นโคตรน่าหมั่นไส้เลยว่ะ นายก็คิดงั้นใช่มั้ย ? จุนฮยองพูดพลางพะยักเพยิดไปทางประธานนักเรียนหนุ่มที่ก้าวเดินต่อไปโดยไม่ได้สนใจกลุ่มประชาชีที่ส่งเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มโดยรอบเลยซักนิด เหอะ ! คิดว่าตัวเองดังแล้วก็เลยเหลิงรึไงวะ ? น่าหมั่นไส้สาดดด = =

                อือออ... นายว่าไงฉันก็ว่าอย่างงั้น

                รีบๆไปเหอะ เดี๋ยวอาจารย์เข้าแล้วพวกเราจะซวยว่ะ

                เฮ้ย นั่นดิ แต่ปัญหาก็คือทำยังไงเราถึงจะออกไปจากตรงนี้ดี ?

                เวร !! ทำไมปัญหาแม่งเยอะอย่างงี้วะ ?!”

                ในขณะที่จุนฮยองและเพื่อนใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่งในการเสาะหาหนทางเพื่อเผ่นออกไปจากที่บริเวณนี้แต่โดยไว ประธานนักเรียนหนุ่มยุนดูจุนที่ถูกกลุ่มแฟนคลับรุมสกรัมก็กำลังประสบปัญหาใหญ่หลวงเช่นกัน ในเมื่อดูท่าทางว่านักเรียนหญิงรวมถึงตุ๊ดแต๋วทั้งหลายที่ออกันอยู่รอบด้านของเขาจะไม่ยอมเปิดทางให้เขาผ่านไปได้ง่ายๆ แถมต่างคนต่างพยายามที่จะเข้าถึงตัวเขาให้ได้อย่างกับสิงโตแย่งเหยื่อ ยุนดูจุนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ แต่ถ้าโวยวายออกไปตอนนี้คงจะไม่ดีเท่าไหร่มั้ง โธ่เว้ย !!! ขัดใจเป็นบ้า !!! ไอ้พวกนี้มันจะสุมหัวกันไปถึงไหน ?!!

                เขาตวัดสายตาหันกลับไปมองในกลุ่มฝูงชนที่ล้นหลามอีกครั้ง พยายามที่จะมองหาใครบางคนที่เขาเห็นเมื่อกี้ คนที่ทำสายตาเหมือนหมั่นไส้เขาตลอดเวลา แต่พอลองหรี่ตามองหาดูอีกครั้งก็ไม่เห็นเสียแล้ว กลุ่มแฟนคลับตอนนี้ก็ค่อนข้างวุ่นวายและไม่เป็นระเบียบเหมือนตอนที่เขาเดินผ่านมาแรกๆ ใครๆก็ต่างพยายามที่จะเข้าหาเขาให้ได้ เป็นสาเหตุว่าทำไมเขาถึงยังติดแหง็กอยู่ตรงนี้

                ปัดโธ่ หายไปไหนแล้ววะ ? อย่าบอกนะว่าเดินออกไปแล้ว บ้าน่า ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก สถานการณ์วุ่นวายซะขนาดนี้

                แต่ เหอะ !!! ทำไมเราต้องไปสนใจไอ้หมอนั่นด้วย คนอะไรวะดูแล้วโคตรจะหยิ่ง แถมยังดูเหมือนจะเป็นแบดบอยซะอีก คนแบบนั้นยุนดูจุนรับไม่ได้ร้อก ! ไม่มีทางหว่ะ !

                เฮ้ย ! บอกพวกนี้ให้เปิดทางให้ทีดิ๊ รำคาญจะแย่แล้ว เร็วๆสิวะ !!” ดูจุนหันกลับไปตวาดใส่กรรมการนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งแค่ออกปากบอกไปคำแรกก็รีบกุลีกุจอทำตามงกๆแล้ว อืม ดี กรรมการรุ่นนี้เชื่องกับเขาโคตรๆ !

                แกหมายหัวไว้ยังวะดูจุน ?กรรมการนักเรียนอีกคนถามขึ้น

                อะไร ?

                หมายถึง... เมดน่ะ

                อ้อ ดูจุนกลอกตาไปมาอย่างไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไรดี สุดท้ายก็จบด้วยการสั่นศีรษะ ไม่ ยังไม่ปิ๊งเลยซักคน

                เร็วหน่อยก็ดีว่ะ เดี๋ยวกรรมการแม่งตายห่ากันพอดี

                ก็มันยังไม่เจอแล้วจะให้ทำไงได้ล่ะวะ ?? ถ้าไม่มีเรื่องให้พูดก็หุบปากไปเหอะ !!”

                ก็ได้ๆ

                บอกแล้ว ไม่มีใครรองรับอารมณ์ของยุนดูจุนได้ เพราะฉะนั้นตำแหน่ง เมดจึงสำคัญสำหรับกรรมการนักเรียนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากจะทำให้ลดภาระในการติดตามดูแลประธานสุดเอาแต่ใจคนนี้แล้ว ยังจะทำให้ไม่ต้องโดนบ่นเสียจนหูชาอีก เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว กรรมการนักเรียนทั้งหลายจึงได้แต่เฝ้าภาวนาว่าการเลือกเมดครั้งนี้จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และขอให้เมดคนนี้อยู่ได้อย่างยาวนานที่สุด

                สำหรับตัวดูจุนเองก็เช่นกัน เมดเป็นสิ่งสำคัญเปรียบเสมือนแขนขาของเขา ถ้าขาดเมดไปอะไรๆก็ยุ่งยากขึ้น บางครั้งเขาทำงานยุ่งเสียจนไม่มีเวลากินข้าวกินปลา ก็มีเมดเนี่ยแหล่ะที่คอยจัดหามาให้ หรือเวลาออกคำสั่งอะไรแค่พูดขึ้นมาคำเดียวก็รีบกุลีกุจอไปทำให้แล้ว (เพราะถ้าไม่ทำตามผลที่ตามมาก็คงจะรู้ๆกันอยู่ว่าจะเป็นยังไง) เป็นอะไรที่ช่างสะดวกโยธินแก่การเรียกใช้งานเสียจริงๆ

    +++++++++

                อะไรนะไอ้ซึง ตกลงตรงไหนกันแน่วะที่แกลืมของไว้ ? จุนฮยองพูดกับเพื่อนสนิทของเขาผ่านทางไอโฟนเครื่องหรู ในขณะที่สาวเท้ายาวๆเดินไปตามทางเดินในตึกเรียน ที่เขายังคงวนเวียนอยู่ภายในตึกเรียนทั้งๆที่ฟ้าเกือบจะมืดแล้วแบบนี้ ก็เพราะว่า จางฮยอนซึง เพื่อนสนิทและรูมเมทของเขาลืมกระเป๋าเอาไว้ที่นี่หลังจากที่ทำกิจกรรมชุมนุมเสร็จ และที่เจ้าตัวไม่มาเอาเองเพราะตอนนี้กำลังติดธุระสำคัญอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ทราบอยู่ หน้าที่นี้จึงตกเป็นของยงจุนฮยองซึ่งเป็นเพื่อนคนเดียวที่เจอกันในตอนเย็นโดยปริยาย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้มากเพราะไม่งั้นคงจะโดนประนามไปสามชั่วโคตรว่าเป็นเพื่อนทรยศ คิดแล้วก็เจ็บใจหว่ะ ถ้าปฏิเสธไปแล้วตอนนี้ก็คงจะได้นั่งดูบอลสบายๆอยู่ที่บ้านซะล่ะมั้ง ? แต่ให้ทำไงได้อ่ะในเมื่อมันไม่มีทางเลือก T^T

                จางฮยอนซึงช่างเป็นคนที่ใช้เพื่อนได้อย่างคุ้มค่าที่สุดซะจริงจริ๊ง ~ และกรูก็ช่างเป็นเพื่อนที่ประเสริฐเสียเหลือเกิ๊นที่ยอมให้มันหลอกใช้ได้ตั้งหลายครั้ง TT^TT

                ไหนอ่ะ ฉันเดินวนหามาหลายรอบแล้วเนี่ย ตกลงมันอยู่ที่ไหนกันแน่วะฮะ ?!” ชักจะเริ่มอารมณ์เสียเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอนซะที จุนฮยองกระแทกเสียงถามเป็นรอบที่ร้อยแปดด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มพูนขึ้นมาเรื่อยๆ และอีกไม่นานก็คงจะทับถมกันจนกลายเป็นหินตะกอน เว้ย ! ไม่ใช่ละ บ้าป่ะ ? ไม่ใช่ธรณีวิทยานะเฮ้ย !

                โว้ย !! ตกลงมันอยู่ที่โรงยิมใช่มะ ? แล้วให้เดินวนหาบนตึกทำไมหลายรอบวะ ?! จางฮยอนซึง ! กลับบ้านไปมีเคลียร์นะเว้ย !! เออ ! แค่นี้แหล่ะ !!”

                จุนฮยองกดตัดสายทิ้งอย่างรุนแรงด้วยความโมโห หลอกให้เขาย่ำต๊อกเดินวนไปวนมาอยู่ที่เดิมอยู่ได้ สุดท้ายมันนดันไปอยู่ที่โรงยิมซึ่งห่างออกไปจากตึกเรียนตั้งหลายโยชน์ ! เจริญล่ะจางฮยอนซึง ! โปรดไปเช็คสมองซะมั่งเหอะแล้วจะได้ไม่ต้องจำผิดจำถูกแบบนี้ ! พาลจะทำให้คนอื่นเขาเสียเวลาทำมาหากินหมด !! ฮ่วย !!

                เฮ้อ บ่นไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ยังไงๆก็ต้องเดินไปที่โรงยิมด้วยตัวเองอยู่ดี ถึงบ่นไปบันไดเลื่อนอย่างในสนามบินมันก็คงไม่ผุดขึ้นมาที่ข้างหน้าเราหรอก !! เลิกบ่นได้แล้วยงจุนฮยอง !!

                ไอ้นิสัยขี้บ่นเนี่ยแกยังง้ายยังไงก็ไม่หายซะที เอาเข้าจริงแล้วขนาดตัวเองก็ยังรำคาญ สงสัยงานนี้จะต้องปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ซะแล้วล่ะมั้ง ??

                จางฮยอนซึงแม่งโคตรน่าตบหว่ะ เฮ้ย ไม่ได้ๆ ต้องไม่บ่นดิ่ !” จุนฮยองเตือนตัวเองในขณะที่กำลังหันหลังกลับเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงยิม ซึ่งมันก็ทำให้เขาไม่ทันที่จะได้สนใจว่าจะมีใครยืนอยู่ข้างหลังเขารึเปล่า

                ผลั่ก !!!

                พอหันหลังกลับไปแล้วจุนฮยองก็ชนกับคนที่บังเอิญเดินมาผ่านมาพอดีเข้าอย่างจังจนเสียหลักเซไปด้านหลัง ส่วนอีกฝ่ายที่ถือเอกสารอยู่เต็มมือก็เสียหลักไปเช่นกันส่งผลให้สิ่งที่อยู่ในมือนั่นหล่นกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดเต็มพื้น จุนฮยองได้แต่นึกบ่นกับตัวเองด้วยความขัดใจ อะไรวะ ?! เย็นย่ำขนาดนี้แล้วยังจะมาเดินวนเวียนอยู่ในโรงเรียนเพื่ออะไร ?? ไอ้บ้านี้มันไม่มีที่ซุกหัวนอนรึไงวะฮะ ?!!

                เฮ้ย ! ชนคนแล้วไม่คิดจะช่วยเก็บของเลยรึไง ??

                ฮึ่ย !” เพราะเสียงตวาดจากอีกฝ่ายที่เห็นว่าจุนฮยองทำท่าจะชิ่งหนีโดยที่ไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ทำให้จุนฮยองต้องส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ แต่ให้ทำไงได้ล่ะเพราะเรื่องนี้เขาผิดจริงที่เผลอไปชนไอ้บ้านี่เข้าให้ เขาจึงต้องยอมก้มลงช่วยอีกฝ่ายเก็บเอกสารแต่โดยดีทั้งๆที่ยังขัดใจไม่หาย

                แค่นี้พอใจยัง ?!” จุนฮยองที่เก็บกวาดเอกสารจำนวนหนึ่งมารวมกลุ่มกันไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงยื่นคืนให้เจ้าของทันทีด้วยความไม่เต็มใจที่แสดงออกมาทางสีหน้าอย่างเด่นชัด เอ่อ แต่ว่า... ตอนแรกก็มองหน้าหมอนี่ไม่ชัดหรอกเพราะมัวแต่สนใจเรื่องเก็บเอกสาร พอได้มองจริงๆจังๆแล้วดูคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนหว่า

                ดี ! ทีหลังชนคนเขาแล้วก็หัดรู้ตัวเองซะมั่งนะว่าควรจะทำอะไร ไม่ใช่ให้คนที่โดนชนมาบอกแบบนี้ !”

                ชัด... ชัดเลย... ชัดมาก... ไอ้ประธานเฮงซวยยุนดูจุน ?!!!

                ยุนดูจุน ?? จุนฮยองเผลอตัวอุทานออกมาเสียงดังลั่นด้วยความเหวอสุดฤทธิ์ ไอ้ที่ชนคนอื่นก็ว่าๆซวยแล้วนะ ! แต่นี่มันอภิมหาบรมโคตรซวยเลย !! ที่ต้องมาเจอหน้าไอ้ประธานเฮงซวยนี่ถึงสองครั้งภายในวันเดียวเนี่ย !!

                แถมครั้งนี้ยังเป็นการมี้ตติ้งแบบระยะประชิดซะด้วย ซวยหนักกว่าเก่าอีก =..=

                เว้ยยยยยย !! วันนี้มันวันอะร๊ายยย ?! วันนี้มันเป็นวันวิบัติอะไรกานเนี่ยยยย =[ ]= !!!

                อื้อ เออดิ ไม่เคยเห็นประธานนักเรียนที่หน้าตาดีที่สุดใน 25 รุ่นที่ผ่านมารึไงฮึ ??

                กวนตีน ! กวนตีน ! กวนตีน !! ขอบอกเลยว่ามึงกวนตีนม้ากมาก !!! คือยอมรับเว้ยว่ามึงหล่อที่สุดใน 25 รุ่น แต่ไม่ได้บอกให้มึงมาทำเป็นหลงตัวเองอย่างโจ้งแจ้งแบบนี้ ! มันขัดหูขัดตารู้ซะมั่งดิ !!

                ถ้าไม่หล่อจริงอย่างที่พูด ป่านนี้มึงคงหน้าแหก ฟันหัก เลือดไหลนองเต็มใบหน้าแล้วล่ะ ! อย่าถามนะว่าฝีมือใคร ?? (ใครถามคำถามนี้ขึ้นมาบรมโคตรโง่ = =) ก็ไอ้คนที่มันกำลังหมั่นไส้มึงอยู่ในใจอย่างเงียบๆนี่แหล่ะ !!

                นี่ นายน่ะ คราวหลังก็หัดดูทางซะมั่งนะ รึว่าไม่มีตา ? ฉันยินยอมบริจาคตาข้างนึงให้ก็ได้นะเอาป่ะ ??

                ป๊าดดดด !!! ถ้าให้กูใช่ตาของมึงกูขอยอมตาบอดดีกว่า ตาของคนต่ำทรามมองอะไรแมร่งก็ตำทรามไปหมดนั่นแหล่ะ

                กวนตีน !! น่าโมโห !! น่าหมั่นไส้ !! ในโลกนี้มีใครที่เพรียบพร้อมทุกอารมณ์วาไรตี้ขนาดนี้อีกมั้ยเนี่ย ?!!

                ตึง !!!

                จุนฮยองตัดสินใจทุ่มเอกสารในมือของเขาลงบนหัวของเจ้าของเต็มๆด้วยความแค้นที่สะสมมาตั้งแต่เช้า ส่งผลให้เอกสารที่ถูกเก็บอย่างเรียบร้อยแล้วอะไรแล้วปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทันที โดยเฉพาะที่บนหัวของยุนดูจุนที่มีกระดาษแผ่นหนึ่งพาดทับทำให้มองไม่ชัดนักว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน แต่ถึงไม่ต้องเปิดดูก็รู้ว่าคงจะโกรธหน้าดำหน้าแดงไปหมดแล้ว แต่ใครสน ?? อย่างเขาเคยสนใจไอ้หมอนี่ซะที่ไหนกันล่ะ ?!

                ออกจะสะใจโคตรๆ จริงมั้ยล่ะ ?!

                โทษที พอดีมือมันลื่น จุนฮยองยักไหล่เล็กน้อยแล้วแล่บลิ้นใส่อีกฝ่ายอย่างล้อเลียน ก่อนที่จะทำท่าจะชิ่งหนีด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบใจอย่างสุดซึ้ง อา... วันนี้ใช่ว่าจะมีแต่อะไรไม่ดีๆซะที่ไหน อย่างน้อยพระเจ้าก็เข้าข้างเขาทำให้ไอ้ประธานเฮงซวยนั่นได้รู้ซะมั่งว่าใครกันแน่ที่เก๋ากว่า เอ้า ! สะใจมามากพอละ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็คงอิ่มไปอีกนาน คราวนี้ไปเอากระเป๋าให้ฮยอนซึงดีกว่าจะได้กลับไปนอนแผ่อย่างสบายๆที่บ้านซะที !

                แต่ชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...

                หยุดนะเฟ้ย !!!”

                เฮ้ย !!!” แขนข้างซ้ายของจุนฮยองถูกฉุดกระชากอย่างรุนแรงส่งผลให้ร่างทั้งร่างเซไปด้านหลัง เซอย่างเดียวยังไม่พอ ! ดันไปชนเข้ากับไอ้ประธานเฮงซวยที่ว่านั่นอีก ! เวรกรรมซ้ำสอง !!

                เชททท ทำไรวะ ?!!”

                แกกล้ามากที่สบประมาทฉันอย่างงี้ แกกล้ามาก !!!”

                จุนฮยองเหวอไปพักหนึ่ง อะไรของม๊านนน =[ ]= ??!!

                แกจะต้องโดนดี........ แอร๊ !!!!!!!”

                ดูจุนร้องออกมาสุดเสียงเมื่อยังไม่ทันที่จะพูดจนจบฝ่าเท้าของไอ้บ้าตรงหน้าก็เหยียบลงมาบนเท้าของเขาเต็มๆตีน ไอ้ที่หนักกว่านั้นก็คือแค่เหยียบยังไม่พอยังมีการขยี้ซ้ำอีก โอ๊ยยยยยยย !!!!

                แกผิดเองนะที่มัวแต่พูดมาก !! ลาล่ะ !! อย่าเจอกันอีกเลยชาตินี้ !!!” ก่อนที่เจ้าตัวจะติดเกียร์หมาวิ่งสี่คูณร้อยเผ่นแน่บไปในพริบตา ซึ่งกว่าจะได้ตะโกนด่าอะไรมันก็หายไปจากระยะสายตาซะแล้ว เชททท !! คนหรือหมาวะทำไมแม่งวิ่งเร็วอย่างงี้ ?!

                ไอ้บ้าเอ๊ย !!!! ฝากไว้ก่อนเหอะ !!! เดี๋ยวเราได้เห็นดีกันแน่ !!!” ถึงจะไม่เห็นหัวของไอ้ตัวการก่อเรื่องแล้วยุนดูจุนก็ยังคงตะโกนออกไปเสียงดังลั่นด้วยความเคียดแค้น ขอบอกไว้ก่อนว่ายุนดูจุนคนนี้เป็นพวกแค้นฝังลึกนะเฟ้ย !! งานนี้มีแก้แค้นชัวร์ๆ !! เดี่ยวจะเอาคืนทั้งต้นทั้งดอกทั้งเรื่องเมื่อเช้าเลยคอยดู !!!

                โอ๊ยยยย เจ็บบบบ คนไรแว๊ตีนหนักเป็นบ้าเล้ยยย TT^TT”

    +++++++++

                เอ้า ! กระเป๋าของแก ! เอาคืนไป !”

                เย้ ยงจุนฮยองใจดีที่ซู้ด ~ ^O^”

                จุนฮยองโยนกระเป๋าไปให้เพื่อนที่นั่งอยู่บนพื้นห้อง เมื่อได้เห็นฮยอนซึงที่รับกระเป๋าไปแล้วทำหน้าบานอย่างกับจานดาวเทียมด้วยความดีใจสุดฤทธิ์ตอบ ก็พาลทำให้ความรู้สึกหงุดหงิดเกาะกุมที่สมองของเขาขึ้นมาซะดื้อๆ ทำให้คนอื่นต้องเจอกับสถานการณ์ที่ซวยซ้ำซวยซากเสียจนเกินจะบรรยายแล้วยังมีหน้ามาทำหน้าตาระรื่นอีก แบบนี้มันน่าตบมั้ย ??

                ทำไมทำหน้าแบบนั่นอ่ะจุนฮยอง ไปฟัดกับหมาที่ไหนมางั้นเรอะ = = ??

                ไม่ใช่แต่ใกล้เคียงหว่ะ

                ใครวะๆ บอกมาดิ่ๆ

                โว้ยย !! คนมันไม่อยากพูดถึงแล้วยังจะมาเซ้าซี้อีก !! รำคาญนะเนี่ย !!

                แต่... เออๆ ยอมบอกก็ได้ฟระ = =

                ก็ไอ้ประธานเฮงซวยยุนดูจุนนั่นแหล่ะ !! อย่ามาถามว่าเจอกับมันได้ไง ก็เจอตอนเดินวนหากระเป๋าให้แกบนตึกเรียนนั่นแหล่ะ !!”

                แล้วมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ ?

                ... รู้สึกเหมือนมีอะไรมากระจุกอยู่ที่คอหอย แค่นึกถึงหน้าของไอ้ประธานเฮงซวยนั่นก็พาลทำให้รู้สึกอยากจะอ้วกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ฉันหันหลังกลับไปชนไอ้บ้านั่นเข้า เอกสารที่หมอนั่นถือติดมือมาด้วยก็เลยหล่นกระจาย ตอนแรกกะจะไม่ช่วยอยู่แล้วแต่โดนไอ้บ้านั่นบ่นใส่ก็เลยต้องยอมช่วยๆมันไปอย่างไม่มีทางเลือก แล้ว...

                แล้ว?ฮยอนซึงทำสายตาอยากรู้อยากเห็นใส่

                หมอนั่นโคตรจะกวนตีน อย่างที่ว่าแหล่ะ ฉันถึงได้โคตรจะเกลียดหมอนั่นไง

                แปลว่านายโดนมันกวนตีนว่างั้น ?

                อือ

                แล้วนายทำไงอ่ะ

                ฉันก็เลยทุ่มเอกสารที่เพิ่งเก็บเสร็จใส่มันน่ะสิ

                อืม ก็สมกับเป็นนายอยู่ =..=”

                ไอ้คำว่า สมกับเป็นนาย ของนายเนี่ยมันหมายความว่าไง = =+ ? จุนฮยองเหลียวตากลับมามองอย่างเคืองๆ เล่นเอาฮยอนซึงแทบจะนึกหาคำแก้ตัวไม่ถูก

                เอ้อ ก็ไม่มีอะไรหรอก อย่าไปสนใจเลย ฉันก็แค่พูดไปงั้น แล้วหมอนั่นโวยใส่นายป่ะ ?

                เหอ ฉันอย่างฉันอ่ะนะจะรอให้ใครโวยใส่ ? ไม่มีทาง... พอเห็นว่ามันตั้งท่าจะโวยฉันก็ชิงเหยียบตีนมันไปเต็มรักซะก่อนน่ะสิ

                แม่งโคตรชั่วอ่ะ ฮ่ะฮ่า นายนี่เจ๋งชะมัดยงจุนฮยอง ฮยอนซึงหัวเราะอย่างชอบใจพลางตีแขนจุนฮยองไปด้วย คำพูดนั้นทำให้จุนฮยองต้องมองค้อน นี่เรียกว่าคำชมเหรอ ? นี่คือคำชมใช่มะ ? เอาเหอะ... คิดซะว่าเป็นคำชมแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเสียแรงไปเปล่าๆกับการกระทืบรูมเมทตัวเอง = =

                แต่ฉันว่า พรุ่งนี้ถ้านายไปโรงเรียนล่ะก็คงต้องโดนเล่นงานแน่เลยว่ะ

                เรอะ ? นายคิดงั้นเรอะ ? แต่ฉันไม่คิดงั้นหว่ะ หมอนั่นจะไปรู้จักฉันได้ยังไง

                อ่า นายอย่าไว้วางใจไปเลยน่า ยุนดูจุนน่ะใครๆก็รู้ว่ามีอิทธิพลกับเด็กนักเรียนทั้งโรงเรียนเราขนาดไหน ถึงหมอนั่นจะไม่รู้จักนายแต่นายก็อย่าคิดเลยดีกว่าน่าว่าหมอนั่นจะสืบเรื่องนายไม่ได้

                ฮ่ะ ก็เอาดิ่ ถ้านึกว่าตัวเองฉลาดนักก็เอาเล้ย ไม่แคร์อยู่แล้วเฟ้ย เหอะ

                ท่าทางนายจะมีปัญหากับไอ้หมอนี่มากเลยใช่มั้ยเนี่ย ? ฮยอนซึงมองด้วยสายตาเซ็งๆ

                แหงดิ คนอะไร๊ ทำตัวน่าหมั่นไส้ได้ตลอดเวลา

                ระวังเหอะ โดนเล่นงานเข้าฉันไม่รู้เรื่องด้วยนา

    +++++++++

                ไม่ใช่คนนี้...

                ดูจุนว่าพลางวางเอกสารในมือตัวเองลงบนกองเอกสารกองหนึ่ง ในขณะที่มืออีกข้างหยิบเอกสารอีกแผ่นจากอีกกองหนึ่งขึ้นมาดู เขาใช้เวลาพินิจพิจารณาภาพของเด็กนักเรียนในชุดยูนิฟอร์มบนเอกสารแผ่นนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจวางมันลงอีกครั้งด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด

                หมอนี่ก็ไม่ใช่

                หลังจากนั้นเขาก็หยิบเอกสารอีกแผ่นขึ้นมาดู อีกแผ่นและอีกแผ่น หยิบไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอสิ่งที่เขากำลังหา ไม่สิ... ต้องบอกว่าคนที่เขาอยากจะรู้ชื่อมากกว่า แต่จนแล้วจนรอด หยิบไปหยิบมาจนเกือบจะหมดกองอยู่แล้วก็ยังไม่เจอซักที เขาเริ่มที่จะหัวเสีย จึงเขวี้ยงเอกสารในมือทิ้งลงบนโต๊ะอย่างรุนแรงด้วยความโมโห

                โว้ย !!! หามาทั้งวันแล้วก็ยังไม่เจอ น่ารำคาญชะมัด ไม่หงไม่หามันแล้วเว้ย !!!”

                แต่พอนึกไปถึงหน้าของคนที่เขาเจอเมื่อเย็นวาน แถมด้วยท่าทางที่แสนน่าจับไปกระทืบของหมอนั่นแล้ว มันก็พาลทำให้ไฟแห่งความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้รับพลังใจกลับคืนมาอีกครั้งเขาจึงหยิบเอกสารอีกแผ่นขึ้นมาดูด้วยความมุ่งมั่นว่าคราวนี้แหล่ะเขาจะต้องจัดการหมอนั่นให้อยู่หมัดให้จงได้ !!!

                ไม่ใช่อีกแล้ว !! อะไรเนี่ย ?!!”

                แต่พอเห็นเอกสารที่หยิบขึ้นมาแล้วก็พาลทำให้ใจแป้ว แถมยังอารมณ์เสียหนักขึ้นไปอีก ในเมื่อไม่เจอในสิ่งที่ตัวเองกำลังหาอยู่ซักที อะไรกันเนี่ย ?!! หมอนั่นมันจะทำตัวลึกลับไปถึงไหน ?!!!

                ไม่ได้ๆ ยุนดูจุน !! นายจะยอมแพ้ให้ไอ้คนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนั้นไม่ได้ !!”

                เขาโวยวายกับตัวเองด้วยความหงุดหงิดที่ไม่รู้ว่าจะสลัดให้หลุดไปยังไง เขาวางเอกสารลงและคิดว่าจะหยุดพักซักพักเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองลงซักหน่อย ทั้งวันนี้และเมื่อวานเขาหงุดหงิดกับเรื่องหมอนั่นมากเกินไปแล้ว

                และในตอนนั้นเองที่พัดลมหันกลับมาทางนี้พอดี ลมแรงๆจากพัดลมที่เร่งระดับไว้จนสุดทำให้เอกสารจำนวนหนึ่งปลิวว่อนไปทั่ว เอกสารแผ่นหนึ่งปลิวมาแปะที่หน้าของเขาที่กำลังทำท่าจะงีบหลับ พาลทำให้อารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้งซะดื้อๆ เขาจับที่เอกสารแผ่นนั้นจนที่กระดาษเกิดรอยยับยู่ยี่ไปหมดก่อนที่จะดึงมันออกมาจากหน้าของตัวเอง ในตอนแรกเขากะจะขยำมันให้เป็นก้อนแล้วทิ้งลงถังขยะไปซะจะได้ไม่ต้องมากวนใจเวลาคนเขากำลังเคลิ้มๆจะหลับอีก แต่พอเห็นรูปที่อยู่บนเอกสารแผ่นนั้นเขาเลยเปลี่ยนใจกระทันหัน

                อ๊ะ หมอนี่มัน

                เขาจ้องเขม็งไปยังหน้าของคนที่อยู่ในรูปนั้นอย่างพิจารณาว่าใช่คนที่เขากำลังคิดอยู่จริงๆรึเปล่า พยายามพลิกไปพลิกมาเพื่อมองให้ได้หลายๆองศา แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ในหัวของเขาก็ไม่ได้แตกต่างกันซักเท่าไหร่นัก ซึ่งมันก็น่าจะเป็นคนๆเดียวกับคนในรูปนี้ซะด้วย

                ชัดเลย !!! หมอนี่นี่เอง !!!

                เขาวางเอกสารแผ่นนั้นลงและล้วงไอโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงมาแนบไว้ที่หูด้วยความรีบร้อน กว่าที่คนปลายสายจะตอบรับก็ผ่านไปนานพอสมควร ระหว่างนั้นเขากระสับกระส่ายไปมาจนแทบจะนั่งไม่ติดที่

                ฮัลโหลครับ ?

                ดงอุน !!! ฉันมีงานให้นายทำ มาหาที่ห้องกรรมการหน่อยได้มะ ??

                อะไรครับพี่ ?? เสียงของคนปลายสายแฝงความตกใจเล็กน้อย

                ช่างมันเหอะ เดี๋ยวค่อยอธิบายแล้วกันหว่ะ เอาเป็นว่ามาหาฉันที่ห้องกรรมการก่อน ด่วนสุดๆเลยนะเว้ย

                ครับๆ

                ก่อนที่ดูจุนจะกดวางสายไป เขานั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความรู้สึกที่สงบมากขึ้นกว่าเมื่อกี้อย่างลิบลับ เขายักยิ้มที่มุมปากด้วยความพึงพอใจ

                ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้วว่านายชื่ออะไร ฉันรู้หมดแล้วว่านายเป็นใคร ทีนี้แหล่ะ นายเจอดีแน่ ยงจุนฮยอง !!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×