คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : KiSS : The Legend Open Up
ยังมีตำนาน.. ตำนานหนึ่ง.. ที่เล่าขาวกันมานับครั้งไม่ถ้วน..
เนิ่นนานมาแล้ว.. ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมาเป็นเมืองบูชอนในปัจจุบัน
ในสมัยนั้นตระกูลที่โด่งดังคงหนีไม่พ้นตระกูลของข้าหลวง บยอน ที่มีลูกสาวงามกว่าหญิงใด หากใครได้เป็นลูกเขย คงดีไม่น้อย ทั้งได้ฐานะ ได้สมบัติ และหญิงสาวสวยที่ได้ครอบครอง
แน่นอนว่า จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากว่า ชายหนุ่มผู้มีพร้อมฐานะที่เหมาะสมกัน ที่พ่อของฝ่ายหญิงสาวจะเลือกมาให้กับลูกของตน
หากรู้ไม่ว่า โชคชะตา และ พรหมลิขิต มักเล่นตลกอยู่เสมอ
วันหนึ่ง หญิงสาวแอบหนีออกจากบ้าน เพื่องานประจำเมืองที่ตนคาดหวังไว้มานาน ทั้งการร่ายรำ การเต้นของชาวเมือง ของสวยงามอย่างปิ่นปักผม กระดาษสาลอยได้ด้วยรูปร่างต่างๆ
รวมทั้งสิ่งที่เธออยากเห็นเป็นที่สุด .... ดอกไม้ไฟในยามค่ำคืน
"อ่ะ! ขอโทษค่ะ" เสียงหวานเอ่ยขอโทษ แล้วมองสบตาชายหนุ่มที่ประคองช่วยเธอเอาไว้จากเหตุสะดุดล้ม
"ไม่เป็นไรนะ"
แค่เพียงเท่านั้น ของช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีที่ได้สบตา ได้มองใบหน้าของชายหนุ่มผู้ช่วยเหลือ หัวใจพาลสั่นไหวด้วยแววตาที่เริ่มสื่อความหมายสั่นทั้งใจ
"ไม่เจ็บตรงไหนนะ"
"ม่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ" หญิงสาวผละร่างของตนออกด้วยใบหน้าที่แดงระเรือ ริมฝีปากแดงที่สั่นจะเอ่ยขอบคุณในไม่ช้า ก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
ดวงตากลมดั่งอัญมณีล้ำค่า กวาดมองผู้คนที่แน่นขนัดด้วยหัวใจที่เฝ้าค้นหา อยู่แห่งใดกันนะ ยังอยู่ในงานเทศกาลนี้รึป่าวนะ หัวใจของหญิงสาวเอาแต่พูดอย่างนั้นกับตัวเองข้างในใจ
โดยหารู้ไม่ว่า ภายนอกนี้ โดยเฉพาะในยามค่ำคืนเป็นอันตรายอย่างยิ่งกับสาวงามดั่งของล้ำค่า
หมับ!!
"โอ้! ดูสิว่าสาวที่ไหนแอบย่องมาเที่ยวงานล่ะเนี่ย"
"กรี๊ด! ปล่อยนะ!! ปล่อยเรา!!!"
"อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่าคุณหนูคนสวยยยย คิดดูสิว่า เจ้างดงามแค่ไหน แม้แต่เรือนร่าง.. อ่าา ข้าว่าข้าเสพสมใจเมื่อใด ก็ยังขายได้สมราคาอยู่ดี"
"ปล่อยเรานะ!!! ช่วย..."
พรึบ!!!
อยู่ๆเสียงลมที่พัดเข้ามาอย่างรวดเร็วของชิ้นผ้า มาพร้อมกับปลายมีดที่ตวัดวาดในสายลมจ่อปลายมีดคมตรงหน้าผู้ไม่ประสงค์ดี
"ปล่อยนางซะ ถ้าพวกเจ้ายังอยากมีลมหายใจ..."
เสียงทุ้มๆ คือ เสียงเดียวกับชายหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอเมื่อครู่ คนที่เธอตามหา หญิงสาวมองใบหน้าของเขาที่ยังคงตราตรึงในหัวใจนี้ของเธอ โชคชะตาก็เป็นเช่นนี้ นำใครคนนึงเข้ามา ตราตรึงในหัวใจ โดยไม่ทันตั้งตัวและก็สายเกินไปจะถอนตัว
"เจ้า..." ชายหนุ่มหยุดชั่วขณะที่มองตอบหญิงสาว เมื่อเจ้าพวกโจรวิ่งหนีกลัวความผิดที่ก่อขึ้น
"ข้า.. ข้าเอง เมื่อกี้ที่ท่าน... "
"หญิงสาวที่เหยียบเท้าข้า แถมยังสะดุดขาตัวเองอีกน่ะหรอ ฮ่าๆ "
"นั่นๆ ใช่..เราขอโทษ ( ////// ) "
"ฮ่าๆๆ แปลกจังเลยนะ ที่เป็นเจ้าถึงสองครั้งสองคราในเวลาไม่เท่าไรเช่นนี้ ดูจากเครื่องแต่งกายของเจ้า... " ว่าแล้วชายหนุ่มก็มองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า หญิงสาวที่ไม่เคยโดนกระทำเช่นนี้ รีบยกมือขึ้นปกปิดร่างกายตัวเองทันทีด้วยแก้มแดงระเรือ
" ^-^ เจ้า..คงเป็นลูกของคนร่ำรวยในเมืองสินะ"
"ท่านไม่รู้จักเราหรอ"
"ก็พอได้ยินเรื่องของเจ้ามาบ้าง แต่ก็เพิ่งเจอตัวจริงนี่แหละ ข้างนอกนี่ไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้าจริงๆสินะ"
"ท่านอย่าพูดเหมือนเจ้าโจรพวกนั้นสิ เราก็แค่อยากใช้ชีวิตแบบที่เราต้องการก็เท่านั้น..."
"ชีวิตที่เจ้าต้องการ?"
"อื้ม.."
หญิงสาวพยักหน้า ด้วยรอมยิ้มที่ล้อมด้วยความอบอุ่นแสนอ่อนโยนของเธอเมื่อมองรอบๆหมู่บ้าน ที่เต็มไปด้วยผู้คนใช้ชีวิตอย่างธรรมดา ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนที่เขาจะเอ่ยกับเธอ
"งั้น..ข้าจะเป็นองค์รักษ์ให้เจ้าเองดีไหม..ในเวลานี้"
"จริงเหรอ!? ท่าน..ท่านจะทำเพื่อเราอย่างงั้นหรอ"
"จริงสิ เวลานี้ข้าก็ว่างอยู่แล้วนี่"
"คิกๆ"
หญิงสาวหัวเราะไปพร้อมกับเขา หัวใจสองดวงในเวลานี้เข้าใกล้กันมากกว่าเดิมในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงชั่วข้ามคืน ภายใต้ราตรีที่เต็มไปด้วยดวงดาวนี้ ความสุขรอบๆตัวห้อมล้อมเข้าใกล้ ชุ่มชื่นหัวใจโอบล้อมไว้ด้วยกัน
เสียงดอกไม้ไฟดั่งก้อง แหงนใบหน้าขึ้นมองแสงสีเปร่งประกายภายใต้ความมืด รอยยิ้มยังคงประทับบนใบหน้า เมื่อหันมองกันและกัน เวลาแทบจะหยุดนิ่ง ลมหายใจแทบจะหยุดชั่วงัน ริมฝีปากประกบเข้าด้วยกัน ด้วยความรักที่ก่อขึ้น
โอ้... จูบแรก
ช่าง..หอมหวาน...
เสียเหลือเกิน..
"ข้า..รักท่าน.."
เสียงหวานกระซิบแผ่วเบา ด้วยลมหายใจร้อนที่ผ่อนออกยามเผยอริมฝีปากแดงสด เชิดใบหน้าสวยขึ้นเผยลำคอระหง
ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ ไม่มีสมบัติใดๆที่ใครต่างมองว่าล้ำค่า หากแต่มีแค่เขา และเธอ ในบ้านของคนที่เธอรัก
ไม่มีสิ่งใดที่เธอต้องการไปมากกว่าเขา แม้แต่ชายหนุ่มเองก็เช่นกัน ด้วยหัวใจหล่อหลอมด้วยกันเช่นนี้
"ข้าเองก็รักเจ้า.." เสียงทุ้มกระซิบตอบข้างใบหูของหญิงสาว ลมร้อนรดดวงหน้าสวยสด
"และเจ้า..ก็เป็นของข้า..."
ริมฝีปากหนาเข้าครอบงำ ทาบทับริมฝีปากแดงอีกครั้ง ความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวไม่มีใครสามารถแทรกแซงความรักนี้ได้
โอ้.. จูบครั้งที่สองนี้ ..
ช่าง..เร่าร้อน
แสนโหยหา..
ใยโชคชะตา ช่างเล่นตลกเหลือเกิน
ค่ำคืนแห่งราตรีนี้ช่างยาวไกล หญิงสาวและชายหนุ่มวิ่งหนีออกมาได้ทัน สองมือจับมือประสานกันด้วยหัวใจที่เต้นรัวไป แต่ล่ะฝีเท้าที่ก้าววิ่งเข้าไปในป่าลึกเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีเสียงอีกหลายฝีเท้าวิ่งตามใกล้เข้ามาทุกที ทุกที..
"จับมันให้ได้!!! มันลักพาตัวลูกสาวของข้า!!"
เสียงตะโกนของผู้เป็นพ่อจากตระกูลดังขึ้น ภายในใจของหญิงสาวได้แต่กู่ตะโกนกลับได้แค่ว่า ไม่ใช่ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย สิ่งที่เธอทำอยู่นี้ คือสิ่งที่เธอยอมสละทุกอย่างเพื่อคนที่เธอรัก
เธอไม่ต้องการฐานะร่ำรวยที่มั่นคง เธอไม่ต้องการให้ใครมาถือหน้าถือตา ขอแค่เพียงมีเขา.. มีเขา.. คนที่จูงมืออยู่นี้เท่านั้นพอ..
ครืดดด
ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าของตนอย่างแรง กระแทกกับพื้นดินที่มีเศษกรวดมากมายบนหน้าผายื่นทรงแหลม ลมหายใจสูดเข้าออกเป็นไอเย็นๆสัมผัสกับปลายจมูกของตนในขณะที่ก้มหน้ามองไป ยังเบื้องล่างของหน้าผาสูงชัน เสียงโวกเวกโวยวายจากทางข้างหลังทั้งเขาและเธอเริ่มที่จะใกล้เข้ามาทุกที!!!
"เราจะไม่เป็นไร ขอให้เจ้าเชื่อข้า" ชายหนุ่มเอ่ยปลอบหญิงสาวที่มองกลับไปยังเสียงที่ได้ยินอยู่ข้างหลัง
"ข้าจะไม่มีวันกลับไปใช้ชิวิตอย่างเก่าอีกแล้ว"
"ไม่.. ไม่มีวัน ชีวิตของเจ้าเป็นของข้า" ชายหนุ่มให้คำมั่นสัญญา แล้วเอ่ยยิ้มเมื่อเห็นหยดน้ำตาของหญิงสาวที่มองเขาตอบกลับ
ร่างเล็กเขย่งปลายเท้าขึ้น สองมือกุมข้อมือของชายหนุ่มแน่น แล้วริมฝีปากแดงก็ประทับจูบของเขา
"ข้าจะอยู่กับท่านไปชั่วชีวิต.."
"แน่นอน เจ้าจะอยู่กับข้าไปชั่วชีวิต.." ชายหนุ่มจูบหน้าผากเธอให้คำมั่นสัญญาอีกครั้ง
โอ้... จูบครั้งที่สาม
ช่างแสนมีความหวัง..
.. แต่ก็ขมขื่นยิ่งนัก
"คืนลูกสาวของเรามาเถอะ "
ผู้เป็นพ่อ ข้าหลวงผู้มีหน้ามีตา กล่าวกับชายหนุ่มที่จับมือลูกสาวของตนไว้แน่นบนหน้าผาแหลมที่ยื่นออกไปอย่างงั้น
แค่เพียงเห็นเท่านั้น ก็ทำให้หัวใจแทบจะหยุดในฉับพลัน นี่ยังไม่นับเมื่อได้ข่าวว่าลูกสาวถูกลักพาตัวไปเมื่อค่ำที่ผ่านมา
"ท่านพ่อ ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดนะคะ! เขาคือคนที่ลูกรัก!!"
"เจ้าว่าอะไรนะ!! เจ้าช่างไม่มีความละอายใจเลยรึยังไงกันถึงพูดออกมา!!! ข้าสรรหาคนดีๆและเหมาะสมด้วยฐานะให้กับเจ้า แต่เจ้ากลับบอกว่ารักไอเจ้าโจรลักพาตัวเจ้าเนี่ยนะ!!"
"เขาไม่ใช่โจร!! แล้วเขาก็ไม่ได้ลักพาตัวข้า!!! เขาเป็นคนรักของข้า!!!"
"นี่เจ้า!!!!"
พลันนั้น บิดาของหญิงสาวคว้ามีดในมือของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาในทันใด สองเท้าย่างก้าวอย่างมั่นเดินเข้าไปในทันที
หญิงสาวและชายหนุ่มก้าวเล็กๆถอยหลัง หากแต่ก็ทำได้แค่เหมือนยืนอยู่ที่เดิมก็เท่านั้น
ขวับ!!!
ปลายมีดตวัดฉับสายลม จ่อที่ลำคอของชายหนุ่มที่จ้องกลับไม่กะพริบ ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด
"ท่านพ่อ!!"
"หากเจ้าไม่กลับไปกับข้า ข้าจะฆ่าหมอนี่ซะ!!"
"ได้โปรด!! อย่าทำเช่นนั้น" เสียงสะอื้นพัดผ่านสายลมบนหน้าผาหินแหลมที่ยื่นออกไป ร่างอันบอบบางแทบจะทรุดอยู่ตรงนั้น
สิ่งที่เธอต้องการ คือ ได้อยู่กับเขาชั่วชีวิตนี้ หากแต่ถ้าสิ่งนี้ ที่เธอต้องการ ทำให้เขาต้องตาย เธอก็จะไม่ยอมโดยเด็ดขาด
"ข้ารู้แล้ว.." หญิงสาวเอ่ยแผ่วเบา พร้อมก้มหน้าลง หากแต่ชายหนุ่มเมื่อได้ยินกลับรีบหันขวับมองเธอในทันใด มือใหญ่ที่กำข้อมือหญิงสาวแน่น บีบหนักขึ้นเพื่อเว้าวอนเธอ หญิงสาวเงยหน้ายิ้มทั้งน้ำตา มือเล็กค่อยๆผละมือใหญ่ให้ปล่อยมือเธอ
ครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจากไป เธอเขย่งปลายเท้าอีกครั้ง ฝากฝังริมฝีปากแดงบนริมฝีปากของเขาเป็นครั้งสุดท้าย
"ลืมเรื่องของฉันไปเถอะนะ... ไม่มี..อีกแล้ว"
หยดน้ำตาไหลรินหยดลงบนพื้น พร้อมทั้งก้าวเท้าเล็ก ก้าวที่เดินผละออกมาอย่างช้าๆ ชายหนุ่มมองแผ่นหลังของเธอที่หันหลังให้กับเขา เสียงของเธอเมือกี้ยังคงก้องไปทั้งหัวใจที่แตกสลาย ริมฝีปากหนาสั่นค่อยๆเอ่ยอย่างยากลำบากถึงเธอ..
“เจ้าจูบข้าไปแล้วสี่ครั้ง... บอกรักข้า.. เป็นของข้า.. ตราตรึงอยู่ในหัวใจข้าชั่วชีวิต ลงท้ายด้วยบอกให้ข้าลืมเจ้าอย่างงั้นหรอ... เจ้านี่ช่าง..ใจร้ายกับข้ายิ่งนัก แต่เจ้ารู้ไหม..คำมั่นสัญญาของข้าจะไม่แตกดับไปไหน ถึงแม้...ชีวิตของข้า..จะหาไม่ ข้าก็ยัง..รักเจ้า.."
พรึบ!!!
"ไม่นะ!!! ไม่!!!"
หญิงสาวทรุดตัวไร้เรี่ยวแรงกรีดร้องที่หน้าผานั้น แนวเชิงหินผาแหลมที่ยื่นออกไป มีเพียงเศษกรวดทรายไร้ร่างของชายหนุ่มที่บอกรักเธอ เธอยังคงกรีดร้องไม่หยุด เสียงแหบพร่าเรียกหาแต่คนที่เธอรักสุดหัวใจ ร่างกายที่ทรุดลงกับพื้นถูกหลายชีวิตยื้อดึงไม่ให้พลัดตกลงไปยังเบื้องล่าง
หยดน้ำตาหลั่งรินแทบจะหมดลมหายใจที่เธอมี ทำไมโชคชะตาถึงเล่นตลกเช่นนี้
โอ้.. จูบครั้งที่สี่ ... จูบสุดท้าย ..
ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก ..
แสน..ทรมานหัวใจ
นี่คือ ตำนานที่เล่าขานกันมานักต่อนัก คุณอาจอยากรู้ว่าแล้วหลังจากนั้น หญิงสาวเป็นเช่นไร ?
บางที คุณอาจรู้แล้วก็เป็นได้ ..
ตำนานที่ใครหลายคนต่างเล่ากันมานับครั้งไม่ถ้วน เธอเป็นคนเล่าให้กับลูกชายของเธอฟัง ..
ในยามที่ใบหน้าที่มีความคล้ายคลึงกับคนที่เธอรักหลับตาลงสู่นิทรา เธอจะก้มตัวจูบหน้าผากของเขา แล้วพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา
"ท่านยังอยู่กับข้าเสมอ ตราตรึงอยู่ในหัวใจของข้า.. เหมือนอย่างที่ข้า..อยู่ในใจของท่าน..สิ้นสุดลมหายใจสุดท้าย.. "
The End
"ชานยอล ได้เวลาไปดูโรงเรียนใหม่แล้วนะ พร้อมหรือยังลูก?" ผู้เป็นแม่เดินเปิดประตูเข้ามาในห้องของลูกชาย เมื่อได้เวลาที่จะพาลูกไปฝากเข้าที่โรงเรียนประจำเมือง หลังจากเพิ่งย้ายบ้านหลังใหม่มาได้ 4 วัน
"พร้อมแล้วครับ" นิ้วเรียวปิดหนังสืออ่านเล่นที่ไปยืมมาจากห้องสมุดประจำเมือง ช่วงที่เสร็จจากการจัดห้องหับที่หลับที่นอนของบ้านใหม่แล้วมีเวลาว่างเหลือไม่รู้จะทำอะไรดี
คุ้นๆว่าเพื่อนที่รู้จักกันจากการประกวดวงดนตรีเป็นเด็กเมืองนี้ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่เมืองอื่น เคยเล่าให้ฟังว่าบูชอนมีตำนานรักขึ้นชื่อ เกี่ยวกับเรื่องราวความรักโศกนาฎกรรมคล้ายกับวรรณกรรมสุดคลาสสิคของวิลเลียม เชคสเปียร์ อย่างโรมิโอ แอนด์ จูเลียต
"เรื่องนี้นะ เป็นโรมิโอ จูเลียต ฉบับเกาหลีเลยนะเว้ย"
ภาพของคิมจงแดที่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ดูตื่นเต้นแล้วก็ภูมิใจกับตำนานของบ้านเกิดตัวเองนักหนา พอเขานึกขึ้นมาได้ ว่าย้ายมาอยู่ในเมืองในตำนาน ก็เลยลองไปค้นหนังสือจากห้องสมุดประจำเมืองดู แล้วก็มีอยู่จริงๆ...
"ชาวเมืองเชื่อกันมากเลยนะ ว่าถ้าจูบกันกี่ครั้งจะเป็นเหมือนในตำนาน"
"ตลกว่ะ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วมันก็ต้องจูบมากกว่าสี่ครั้งดิ"
"มันมีวิธีแก้เคล็ดให้ข้ามไปครั้งที่ 5 เลยเว้ย แต่เป็นความลับ ลองหาแฟนเป็นสาวเมืองบูชอนดูดิ จะได้รู้ ฮ่าๆ"
ตำนานรักเมืองบูชอน
จูบ 4 ครั้งงั้นเหรอ ... ก็น่าสนุกดี
ลุกจากเก้าอี้ พลางปลายตามองหนังสือปกสีแดงวาวอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามหลังผู้เป็นแม่ออกจากห้องไป
TBC
:) Shalunla
ความคิดเห็น