คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : (Short Fic) Count on me [ intro ]
♣ INTRO ♥
ในโลกที่แสนธรรมดาแต่แท้จริงไม่ธรรมดา เพราะเมื่ออดีตกาล โลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เพียงมนุษย์เท่านั้น
แล้วใครจะรู้กันเล่า ว่าเผ่าพันธุ์ที่น่าจะหายไปจากโลกแสนนานนั้น กลับยังหลงเหลืออยู่โดยที่ไม่มีใครรับรู้
ว่ากันว่า ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่ตนอาศัย
เขาคนนั้น ภายนอก เขาเป็นเพียงคุณชายที่ดูเย็นชาจากตระกูลใหญ่โตและเก่าแก่ของเมือง เพื่อนน้อย ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่จะมีอยู่คนๆ หนึ่งที่เขาดูจะสนใจ เป็นพิเศษ
พร้อมกับความจริง ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
หากเคยได้ยินตำนานหรือเรื่องเล่าของแวมไพร์มาครั้งตั้งแต่ยังเด็กและกำลังคิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ปรุงแต่ง
คุณอาจจะกำลังคิดผิด
♣ Count on me ♥
Draco Malfoy x Harry Potter [ DM/HP ]
AU Fic : Fantasy | Short Fic | R
“นี่ เคยได้ยินเรื่องแวมไพร์มาก่อนรึเปล่า?
เขาว่ากันว่าโลกเราน่ะเมื่อก่อนมนุษย์กับแวมไพร์อยู่ร่วมกันล่ะ”
เสียงกระตือรือร้นดังมาจากเด็กสาวผมฟูสีน้ำตาล
ในมือของเธอมีหนังสือปกหนังดูคร่ำครึโบราณ
ใบหน้าหมดจดของเธอถูกปิดบังด้วยหน้าหนังสือที่เธอกางอ่านอยู่
แต่เสียงกลับเจื้อยแจ้วออกมาเพื่อสนทนากับเพื่อนชายอีกสองคนที่นั่งตรงข้ามเธอ
“เรื่องหลอกเด็กน่า จะมีแวมไพร์ในโลกนี้ได้ไง”
เด็กหนุ่มผมแดงปั้นหน้าแหยออกมาเมื่อนึกถึงแวมไพร์ในหนังที่ตนเคยดูในภาพยนตร์
พวกนั้นไล่กินเลือดมนุษย์เป็นอาหาร ถ้ามีอยู่จริง
มนุษย์ธรรมดาอย่างเขาคงไม่มีชีวิตรอดมานั่งหน้าแหยตรงนี้
“แต่ในหนังสือนี่มีบอกนี่! แล้วฉันก็ไม่ได้เจอแค่เล่มเดียวด้วย”
เด็กสาวยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ
เธอวางหนังสือลงกับโต๊ะและหมุนแท็บเล็ตของเธอหันไปทางชายผมแดง “นี่
ข้อมูลที่ลงในอินเทอร์เน็ตก็พอมีบ้าง ไหนจะยังอ้างอิงถึงหนังสือเก่าๆ
หลายเล่มถึงประวัติศาสตร์เมื่อก่อนอีก”
“พอเลยๆ ฉันเบื่อจะฟังแล้วเฮอร์ไมโอนี่”
เจ้าของเรือนผมสีแดงยอมแพ้ เขายกมือทั้งสองข้างเป็นการห้ามปราม
เบือนสายตาหนีออกจากจอแท็บเล็ตตรงหน้า แล้วหยิบหูฟังมาสวมใส่ที่หูทันที
เด็กสาวเจ้าของชื่อมุ่ยหน้าอย่างขัดใจ
มองตามคนที่ฟุบหน้ากับหนังสือตั้งโตของเด็กหนุ่มแล้วแลบลิ้นใส่
ก่อนที่เป้าหมายต่อมาของเธอจะเปลี่ยนมาที่คนที่นั่งทำงานเงียบๆ มาตั้งแต่ต้น
แม้ใบหน้าของเขาจะเรียบนิ่งและดูเหมือนไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูด
แต่เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าเขาได้ยินและฟังหมดทุกประโยค
“แฮร์รี่ เธอว่าไง เรื่องนี้น่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่มองไปทางเด็กหนุ่มผมดำที่กำลังเงยหน้ามามองช้าๆ อย่างมีความหวัง
“อืม ฉันก็คิดว่าอาจจะเคยมีนะ
ตอนเด็กๆ คุณย่าก็เคยอ่านจากหนังสือให้ฟัง” เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนข้างๆ ที่ฟุบหน้าอยู่ก่อนจะขำออกมาเล็กน้อย
“ใช่ไหมล่ะ!!”
เด็กสาวโพล่งออกมาอย่างตื่นเต้น
ถ้าจะมีใครที่คุยกับเธอเรื่องลึกลับพวกนี้ได้ก็มีแฮร์รี่เพื่อนสนิทของเธอตอนนี้
กับลูน่าเด็กสาวที่เรียนอยู่ต่างห้องกันอีกคน
แฮร์รี่ยักไหล่ให้กับท่าทางดีใจของเธอ
ปากกาในมือหมุนควงไปมา ใบหน้ามีสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ถึงจะไม่เคยเจอ
แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีแวมไพร์อยู่ไหมก็เถอะ
แต่ในหนังสือเล่มนั้นบอกว่าพวกเขาตายกันไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอ”
ปากกาในมือเด็กหนุ่มผมดำหยุดควง
เจ้าตัวชี้ปลายด้ามปากกามาทางหนังสือปกหนังในมือของเด็กสาว
เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้ายุ่งยากเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
คล้ายคนที่กำลังเสียดายอะไรบางอย่างอยู่เล็กๆ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”
“ก็แค่คิดว่า...ถ้ายังมีพวกเขาอยู่
ฉันอยากจะถามน่ะ ว่าใช้ชีวิตยังไง ลำบากหรือเปล่า
อยากรู้ว่าการใช้ชีวิตของเขาลำบากมากไหม
คือในหนังสือมันก็ไม่ได้บอกละเอียดมากขนาดนั้น”
เรือนผมสีดำขยับส่ายเบาๆ
ตามร่างของเจ้าของที่กำลังขำออกมา เฮอร์ไมโอนี่ก็สมเป็นเฮอร์ไมโอนี่จริงๆ
เธอมักจะมีความสงสัยและใคร่รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
นั่นทำให้เธอชอบที่จะอ่านหนังสืออะไรก็ตามที่คนปกติไม่ค่อยอ่าน
และเธอก็จะมีข้อมูลพวกนั้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
ดังเช่นตอนนี้ที่เธอเหมือนจะหันมาสนใจเรื่องของแวมไพร์หลังจากที่ในคาบเรียนวันก่อน
ครูของพวกเขาพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
เด็กสาวเพียงหนึ่งพองแก้มเล็กน้อยเมื่อแฮร์รี่กำลังหัวเราะเยาะเธอ
มือเล็กหยิบยางลบของรอนปาใส่แฮร์รี่ไปที
แต่เด็กหนุ่มที่โดนโยนยางลบใส่ก็ไวพอที่จะคว้ามันได้ทันก่อนที่ยางลบจะโดนหน้าของเขา
พลางหรี่ตามองเด็กสาวที่ประทุษร้ายเขาอย่างไม่จริงจังนัก
แฮร์รี่ก้มหน้าเขียนงานในมือต่อ
แต่ปากก็เอ่ยถามเด็กสาวไปด้วย “ถ้าถึงเวลานั้นที่เธอรู้ว่าใครคือแวมไพร์
เธอจะไม่หนีไปก่อนเหรอ เขาอาจจะอยากพุ่งมากัดคอเพื่อดื่มเลือดเธอก็ได้”
“โถ่! แฮร์รี่
เธอบอกว่าในหนังสือเล่มนี้บอกไว้ว่าแวมไพร์ตายหมดแล้ว ก็เหมือนเธออ่านมันมาก่อน
แต่เธออ่านข้ามหน้าหรือยังไง เขาบอกว่าแวมไพร์เลือกที่จะไม่ทำร้ายมนุษย์และอยู่อย่างสันติ
เขาไม่สุ่มสี่สุ่มห้ากัดหรอกนะ”
ราวกับเด็กสาวท่องประโยคนี้ไว้ในหัวอย่างดี
เธออธิบายออกมาได้อย่างฉะฉานและจริงจัง
ดวงตากลมโตของเธอจ้องไปที่กลุ่มผมดำขลับที่กำลังก้มเขียนงานและพยักหัวขึ้นลงคล้ายกับตอบรับคำพูดของเธอ
“งั้นถ้าหนังสือเล่มนั้นพูดไว้ถูกหมดจริงๆ
ล่ะก็ คงไม่มีแวมไพร์ที่ไหนให้เธอถามได้แล้วล่ะเฮิร์ม”
เด็กสาวถอนหายใจเฮือกทันที ดวงหน้าแสดงแววผิดหวังออกมาอย่างไร้การปิดบัง
เธอก้มหน้าลงใช้หน้าผากเคาะเบาๆ ไปที่หน้าหนังสือที่เปิดอ่านค้างไว้
แฮร์รี่หลุดขำเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของเพื่อนสาว
เฮอร์ไมโอนี่มักจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้งเวลาที่มีอะไรไม่ดั่งใจเธอ
ยิ่งการอยากรู้อะไรแล้วเธอไม่ได้คำตอบก็จะยิ่งหงุดหงิด
ทั้งสองนั่งคุยแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องแวมไพร์กันไปซักพักอย่างออกรส
พร้อมกับเสียงกรนเบาๆ จากรอนที่ฟุบหลับไปแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่เบะปากมองไปยังคนฟุบด้วยสายตารำคาญ
เธออยากจะเอาหนังสือในมือทุบไปซักทีให้ตื่น แต่มาคิดว่าถ้าเจ้าตัวที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาแล้วบ่นกระปอดกระแปดให้ฟังนั่นน่ารำคาญกว่ามาก
กระแสลมเย็นๆ
ผ่านหลังแฮร์รี่ไปวูบหนึ่งเมื่อเขาก้มหน้าเขียนงานต่อไปได้อีกสองสามตัวจนเขารู้สึกขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที
ร่างกายสั่นขึ้นมาน้อยๆ อย่างอดไม่ได้ หลังคอของเขาที่มีเส้นผมปกปิดไม่มากนักเย็นวาบขึ้นมา
ใบหน้าที่จดจ่อกับงานเงยขึ้นและมองไปทางด้านหลังของตัวเองอย่างระแวดระวังอย่างรวดเร็ว
ด้านหลังของเขาไม่มีอะไรที่ผิดปกติ
ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาเช่นทุกที ดวงตาสีมรกตหลังกรอบแว่นพยายามกวาดตามองไปมา
เขากำลังคิดว่าเขาคงคิดไปเอง แต่อาการเย็นวาบๆ
ตามร่างกายยังไม่หายไปเท่าที่ควรจะเป็น
เมื่อพื้นที่ว่างที่ผู้คนเดินอยู่เริ่มบางตา
ถัดไปอีกเสามีโต๊ะหนึ่งที่ถูกครอบครองด้วยเด็กนักเรียนอีก 5 คนอยู่ สามในห้าพากันฟุบนอนไปแล้ว
เด็กสาวอีกคนในกลุ่มนั้นก็กำลังก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างอยู่
มีเพียงคนเดียวที่กำลังเงยหน้าจ้องมองมาทางที่แฮร์รี่นั่งอยู่
ใบหน้าขาวจัดนั้นจ้องเขม็งเข้าที่ใบหน้าของแฮร์รี่โดยไม่แม้แต่จะหลบสายตาแม้ว่าคนที่เขาทำการจับจ้องมาซักพักจะหันหลังไปสบตาพอดี
มุมปากของเจ้าตัวยกขึ้นคล้ายยิ้มเหยียด – ที่แฮร์รี่แสนเกลียด ดวงตาสีฟ้าซีดเทาจ้องมองอย่างถือดี
พลางยักคิ้วข้างหนึ่งส่งมาให้ราวจะกวนประสาท
แฮร์รี่คิ้วกระตุกทันทีกับการกระทำนั้น
– ไอ้บ้ามัลฟอย เด็กหนุ่มห้องเรียนข้างกันที่แฮร์รี่รู้สึกไม่ถูกชะตาด้วยอย่างแรง
ด้วยเหตุผลที่ว่าครั้งเมื่อเปิดเทอมวันแรกของไฮสคูลปีแรกของเขา
ก็โดนเจ้าคนหัวบลอนด์ทองนั่นมาก่อกวนแล้ว นับแต่นั้นเวลาเจอกันภายในโรงเรียนเขาก็มักจะถูกมัลฟอยแกล้งตลอด
ทั้งทางสายตา คำพูด
และการกระทำในบางครั้งถ้าหมอนั่นสามารถเข้ามาประชิดตัวแฮร์รี่ได้
เด็กหนุ่มผมดำฮึดฮัดพ่นลมหายใจออกทางจมูกเล็กน้อยแล้วรีบหันหน้ากลับทันที
มือกำปากกาในมือแน่น ลมหายใจถูกสูดเข้าปอดลึกๆ ทีหนึ่งและผ่อนออกมายาวๆ
เพื่อสงบสติของตัวเอง
เด็กสาวที่จมกับหนังสือในมือชะโงกหน้าออกมาจากหน้าหนังสือเล็กน้อยเพื่อมองเพื่อนของเธอที่ดูท่าว่าจะถอนหายใจออกมารอบแล้วรอบเล่า
แต่เมื่อเห็นว่าแฮร์รี่กลับมานั่งทำงานดังเดิมเธอก็เลิกสนใจและอ่านหนังสือในมือต่อ
โดยที่เด็กหนุ่มเรือนผมดำก็แทบลืมไปทันทีว่าอาการหนาวเย็นและขนลุกก่อนหน้าได้หายไปอย่างไม่รู้ตัว
“แกล้งอะไรเขาอีกล่ะ”
เสียงเรียบนิ่งของเด็กสาวผมประบ่าสีดำข้างกันกับเด็กหนุ่มผมบลอนด์ทองเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้าจากสมุดตรงหน้า
เสียงหัวเราะในลำคอดังมาจากคนข้างกายเป็นคำตอบแทน
แพนซี่
พาร์กินสันเหลือบสายตามองคนข้างกายเธอที่กำลังใช้สาตาจดจ้องไปยังแผ่นหลังเล็กที่อยู่ถัดไปอีกช่วงเสาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วส่ายหน้าระอา
ทั้งที่ก็นั่งห่างกันขนาดนั้น แถมอีกฝ่ายก็ดูไม่ได้สนใจอะไรแต่แรก
แต่เจ้าคนข้างเธอก็ดูจะชอบแหย่เขาคนนั้นอยู่เรื่อยไป
“ยัยเกรนเจอร์สนใจเรื่องพวกนั้นด้วยเหรอ
เห็นอ่านหนังสือนั่นมาพักใหญ่”
เดรโก
มัลฟอยเอ่ยทำลายความเงียบอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าซีดละออกจากแผ่นหลังเล็กที่กำลังขะมักเขม้นทำงานแล้วเหลือบไปด้านข้างของเขาแทน
ฝั่งตรงข้ามของแฮร์รี่คือเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังยกหนังสือขึ้นอ่านจนเดรโกสามารถมองเห็นหน้าปกได้ชัด
และมองเพียงแวบเดียวเขาก็รู้ว่าคือหนังสืออะไร
“จะว่างั้นก็ได้ เห็นว่าเธอเป็นพวกหนอนหนังสือน่ะ
อะไรน่าสนใจเธอก็จะหาอ่านทั้งหมด” แพนซีตอบโดยไม่เงยหน้าอีกครั้ง
เด็กหนุ่มผมบลอนด์โคลงหัวไปมา
ดวงตาฉายแววเรียบนิ่งเย็นชาต่างจากท่าทีกวนประสาทในทีแรก
เขามองปกหนังสือเล่มนั้นซักพักแล้วเบือนสายตามาที่แผ่นหลังใต้เสื้อยืดสีเข้มตามเดิม
ด้วยความสามารถของเขาที่เหนือมนุษย์ทั่วไป
มันไม่ยากนักหรอก ที่จะได้ยินการพูดคุยของคนที่อยู่ห่างไปแค่หนึ่งช่วงเสา
เมื่อนึกถึง รอยยิ้มของเดรโกก็ผุดขึ้นบนริมฝีปาก
ดวงตาทั้งสองพราวระยับมากกว่าเดิมยามมองไปที่แผ่นหลังเล็กบางกว่าเขาที่กำลังโยกตัวไปมาเบาๆ
“เธอกลัวแวมไพร์ไหม
แฮร์รี่ แล้วคิดว่าพวกเขาจะเป็นยังไง”
“ไม่รู้สิเฮิร์ม
เพราะยังไม่เคยเจอกับตัวเลยไม่รู้ว่าน่ากลัวไหม
แต่ถ้าภายนอกเขาเหมือนเราแล้วไม่อ้าปากแยกเขี้ยวพุ่งใส่ก็คงไม่กลัวนะ แล้วก็... ฉันไม่อยากตัดสินพวกเขาทั้งที่ฉันไม่เคยเจอหรอกนะ
แต่ฉันเชื่อนะ ว่ายังไงก็คงมีแวมไพร์ดีๆ อยู่เหมือนกัน”
___________________________________________________________________________
TALK !!
#WizDMHP ไปหวีดกันในแท็กนี้บนทวิตเตอร์ได้นะคะ!
จริงๆ ตั้งใจจะไม่ลงเลยค่ะ ...
แต่มาเจอรูปที่ทำไว้ ก็เลย อะ! ลงก็ได้ ลองเขียนดูก็ได้ค่ะ
เรื่องนี้คิดไว้ว่าจะไม่ทำยาวมาก จะพยายามทำให้จบใน 5 ตอนหรืออาจน้อยกว่านี้ค่ะ
ไม่ได้วางพล็อตซับซ้อนอะไร แค่อยากเขียนคุณชายเป็นแวมไพร์เท่านั้นเอง งานนี้นอกจากเพื่อนๆ
แล้ว มีแขกรับเชิญสุดพิเศษด้วยค่ะ รอรับชมกัน
ขอกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ
จากคอมเมนต์น่ารักๆ จากคนอ่านทีนะคะ ช่วงนี้จริงๆ คืองานท่วมหัวเลย
แต่เวลางานเยอะแล้วมันมักจะมีไฟดอดมาเขียนฟิคทุกที แต่งานก็ต้องทำอะเนอะ TwT
และเพราะตั้งใจจะเขียนไม่ยาว
บางทีอาจมีรวบรัดตัดตอนไปบ้าง แต่จะพยายามทำให้ไม่งงนะคะ ธีมเรื่องนี้เป็นไฮสคูลปีสุดท้ายผสมความแฟนตาซีที่ไม่เกี่ยวกับฮอกวอตส์แต่น่าจะจับไปอยู่อังกฤษนะคะ
เยะ หวังว่าจะไม่งงกัน ฝากติดตามด้วยน้าาาาาา
ความคิดเห็น