ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter : DM/HP Drarry] (รวม OS fic)

    ลำดับตอนที่ #2 : (OS Fic) Magic Works

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.7K
      560
      31 ม.ค. 62




    Magic Works

    Pairing : Draco Malfoy x Harry Potter

    Type : One Shot | PG

    Note : ธีมงานเต้นรำในคืนหิมะร่วงโรย ของวันคริสต์มาสช่วงการจัดประลองงานแข่งไตรภาคี งานนี้ท่านลอร์ดไม่มีจมู-- ลอร์ดโวลเดอมอร์มีส่วนเอี่ยวแบบมาแต่อ้างอิง ไม่ต้องห่วงว่าจะโผล่มานะคะ ใช้จักรยานในการอ่านเช่นเดิมค่ะ มีทั้งอิงข้อมูลจริงจากภาพยนตร์และมโนอีก90% ฮ่าาาาา

    เพื่ออรรถรสสสสสสสส แนะนำฟังเพลงนี้ไปพร้อมกันค่ะ click


    ___________________________________________________________


    ดนตรีจังหวะวอลซ์สบายๆ ดังคลอไปทั่วถังห้องโถงของฮอกวอตส์ซึ่งได้จัดงานเต้นรำขึ้นภายในคืนคริสต์มาสอีฟ นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ และน่าตื่นเต้นไม่น้อยที่คริสต์มาสปีนี้เหล่านักเรียนไม่ต้องกลับบ้าน แต่กลับใช้ชีวิตช่วงวันหยุดในรั้วโรงเรียนแทน เพราะไม่ใช่ทุกปีที่โรงเรียนจะมีการจัดงานเช่นนี้ในคืนก่อนคริสต์มาส

     

    การประลองเวทย์ไตรภาคี

     

    การแข่งขันทางเวทมนตร์ที่จัดขึ้นโดยมีนักเรียนจากอีกสองสถาบันมาร่วมด้วย หลังจากผ่านภารกิจพิชิตมังกรเพื่อชิงไข่ทองคำ ก็ยังมีเวลาอีกพักใหญ่สำหรับภารกิจที่สอง และระหว่างนั้น ฮอกวอตส์ที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน จึงจะต้องจัดงานเต้นรำขึ้นตามมาด้วย

     

    ผ่านมาหลายชั่วโมงพอสมควรแล้วตั้งแต่งานเริ่ม ตอนนี้อาหารและขนมต่างๆ ที่เคยตั้งอยู่เต็มโต๊ะในงานเลี้ยงร่อยหรอพร่องไปจนหมด มีเพียงบริกรเอลฟ์ที่จะโผล่ขึ้นมาเป็นบางครั้งเพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มแบบต่างๆ ที่คนในงานต้องการ

     

    ส่วนหน้าของโถงเป็นวงดนตรีที่ถูกจ้างวานมาให้เล่นดนตรี รวมถึงพื้นที่เปิดโล่งสำหรับฟลอส์เต้นรำ

     

    ชายหนุ่มในเสื้อสีขาวซึ่งถอดวางเสื้อตัวนอกสีดำไว้วางข้างๆ กันกำลังนั่งที่เก้าอี้ติดโต๊ะกินเลี้ยงตัวหนึ่ง แผ่นหลังกว้างพิงกับขอบโต๊ะพลางจิบไวน์แดงในมือเงียบๆ ดวงตาคู่สีฟ้าซีดเกือบเทานั้นจดจ้องมองเข้าด้านในโถงที่มีคู่เต้นรำอยู่ร่วมๆ 20 คู่ด้วยแววเฉยชา หลังจากเริ่มเต้นรำในเพลงแรกจบไป เขาก็ปลีกตัวออกมา เพื่อรอใครคนหนึ่ง แต่ดูท่าว่าคนๆ นั้นก็คิวยาวเสียจนเขาไม่สามารถเข้าถึงตัวได้

     

    ไวน์ในแก้วพร่องลงไปจนเกือบหมด เดรโกก้มมองของเหลวสีตุ่นในมือแล้วโยกแก้วเบาๆ ก่อนกระดกรวดลงคอ เขาจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้นานเท่าไหร่ และจิบไวน์นี่หมดไปกี่แก้ว อาจจะเยอะอยู่ก็ได้ เพราะเขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่ที่อาหารยังเต็มโต๊ะ คนยังเต็มโถง แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันบางตาไปหมด

     

    เอลฟ์ตัวขนาดเท่าเข่าโผล่มาด้านหน้าของเดรโกในไม่กี่วินาทีถัดมาที่เขากระดกแก้วล่าสุดหมดลง ฝ่ามือที่ถือแก้วอยู่ส่งยื่นแก้วนั้นให้กับเอลฟ์ที่ยืนรอรับและรับเพิ่มมาอีกแก้วอย่างคล่องแคล่วโดยไม่มองแม้แต่น้อยราวกับว่าเขาทำมันมาหลายรอบจนชำนาญ

     

    แม้ไวน์จะไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากเท่าไหร่ แต่เพราะจำนวนที่เขาดื่มเข้าไปก็ค่อนข้างที่จะหลายสิบแก้วแล้ว ก็เริ่มทำให้เจ้าของเรือนผมบลอนด์ทองเริ่มรู้สึกกรึ่มๆ ยิ่งรวมกับจังหวะเพลงช้าเนิบฟังสบาย เพดานโถงที่จำลองเป็นหิมะสีขาวโปรยปรายจางๆ ผสานไปกับอากาศที่ของจริงก็หนาวเย็นของช่วงคริสต์มาส เดรโกก็แทบจะเคลิ้มหลับฟุบไปกับโต๊ะ

     

    “ดื่มเยอะไปแล้วมัลฟอย”

     

    เสียงติดหวานเอ่ยขึ้นจากด้านข้างแผ่วเบา แต่เพราะระยะห่างที่ไม่มากเกินไปทำให้คนที่ถูกเอ่ยถึงได้ยินชัดเจน

     

    เดรโกผินใบหน้าที่มองไปทางฟลอส์กลับมาทางต้นเสียง รอยยิ้มกว้างจุดที่ริมฝีปากหยักแล้วยืดแขนซ้ายที่ว่างไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อเชื้อเชิญให้คนที่มาใหม่นั่งลงข้างๆ ซึ่งอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีอิดออดใดๆ ยอมนั่งลงข้างคุณชายแห่งสลิธีรินทันที ทั้งยังขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้กว่าเดิมด้วย

     

    “นายช้าชะมัด พอตเตอร์”

     

    เดรโกว่าเสียงติดหงุดหงิดเล็กน้อยอย่างไม่จริงจัง ใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีจางๆ เพราะเครื่องดื่มในมือกำลังส่งสายตาแกมดุไปให้คนที่นั่งลงด้านข้างซึ่งยิ้มเผล่เหมือนไม่ได้ใส่ใจในน้ำเสียงติดดุของเขา เดรโกมุ่ยหน้ากว่าเดิมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเล่นไปตามเกมเขา

     

    “ให้ตายเถอะ นายมันน่าเบื่อ”

     

    “งั้นไปนะ”

     

    ร่างเล็กใต้ชุดราตรีแบบผู้ชายคล้ายของเดรโกผุดลุกขึ้นทันทีที่พูดจบ แต่ไม่ทันได้ก้าวไปไหน ฝ่ามืออุ่นร้อนของคนที่นั่งด้านข้างก็คว้าหมับเข้าทันทีที่ข้อมือเล็กราวกับว่าเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอย่างทันท่วงทีของร่างกาย

     

    “ให้ตายสิ นายไปแล้วฉันจะอยู่กับใครอะแฮร์รี่”

     

    แฮร์รี่ส่ายหัวขำๆ ส่งเสียงหัวเราะในลำคอไปที ท่าทางแบบ...แมวขี้อ้อนกำลังฉายอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาที่ขึ้นสีเรื่อจางๆ จนแฮร์รี่อดจะรู้สึกเอ็นระคนไปด้วยไม่ได้ ร่างโปร่งขยับนั่งลงด้านข้างคนทำหน้าหงอแต่โดยดี แต่เหมือนเดรโกก็ยังคงจับข้อมือเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อยดังเดิมคล้ายกลัวว่าถ้าเจ้าตัวปล่อยแล้วแฮร์รี่จะวิ่งหนีเขาไปจริงๆ

     

    “เกรนเจอร์เป็นไงบ้าง”

     

    หลังจากนั่งเงียบปล่อยให้เสียงดนตรีดังเป็นเพื่อน เดรโกก็ตัดสินใจเอ่ยทำลายความเงียบระหว่างเขาทั้งสอง แฮร์รี่พ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างคนคิดไม่ตก หนุ่มผมบลอนด์เหลือบมองคนที่ทำหน้าไม่สบายใจแล้วเลื่อนมือไปกุมที่มือเล็กแทน

     

    แฮร์รี่ขยับตัวชิดอีกฝ่ายมากขึ้นจนไหล่ทั้งสองแอบอิงกัน

     

    “หลังจากฉันโดนรอนลากขึ้นหอ ฟังเขาบ่นอีกสักหน่อยแล้วไล่ไปนอน เฮอร์ไมโอนี่ก็นั่งร้องไห้อยู่ตรงบันได.. น่าจะซักพักใหญ่แล้วแหละ เธอก็ยัง..ไม่ได้ดีขึ้นหรอก แต่เธอไล่ฉันมาก่อน”

     

    ดวงตาคู่สีฟ้าเทาเหลือบมองของเหลวในแก้วมือขวา คิ้วเรียวขมวดนิดๆ แล้วเอ่ยเสียงอ้อมแอ้มในลำคอออกมา

     

    “ฉันรบกวนเวลากับเพื่อนสินะ”

     

    “นี่รู้สึกงั้นจริงๆ หรือพูดเพราะกำลังเมา?”

     

    “แค่ไวน์แดง มันไม่เมาหรอกน่า” เดรโกบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม

     

    คนฟังได้ยินดังนั้นจึงหันใบหน้าที่ประดับด้วยกรอบแว่นจ้องเขม็งคนที่นั่งก้มหน้างุดมองไวน์ในมือ ลมหายใจอุ่นผ่อนออกมาจากปลายจมูก ฝ่ามือที่ถูกกุมอยู่ออกแรงบีบเล็กน้อยและประสานมันให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

     

    “พวกนั้นรู้กันอยู่แล้วว่าเรานัดกัน เฮิร์มก็ต้องการอยู่คนเดียว เขาก็เลยไล่ฉันมา” แฮร์รี่ว่าเสียงเบา แต่ทุกคำก็หนักแน่นราวจะฝังให้ลึกเข้าไปในใจของคนฟัง “อีกอย่าง ฉันก็อยากอยู่กับนาย”

     

    เดรโกเม้มปากฉับทันที ดวงตาไหววูบเล็กน้อยพร้อมหัวใจที่กระตุกเต้นผิดจังหวะขึ้นมาทีหนึ่ง แม้จะพยายามก้มหน้าหลบซ่อนอย่างไร แต่เพราะเส้นผมที่ตัดสั้นและถูกเก็บอย่างดีเป็นทรงเรียบทำให้แฮร์รี่สามารถสังเกตเห็นริ้วแดงจางบนใบหน้าหล่อเหลานั้นได้ดี ไหนจะยังดวงตาที่ล่อกแล่กไปมาแบบคนทำอะไรไม่ถูกนั่นอีก ทำให้แฮร์รี่ขำออกมาเบาๆ

     

    “โว้ย! นายจะขำฉันบ่อยไปแล้ว” ร่างสูงแหวออกมาทันที

     

    “ก็วันนี้นายทำตัวตลกนี่ ฮะๆ” แฮร์รี่ยังคงขำไปด้วยพูดไปด้วยจนเดรโกมุ่ยหน้าหนัก “ยิ่งตอนที่ฉันเดินเข้าโถงพร้อมปาราวตี นายนี่ยิ่งทำหน้าดุแบบไม่ปิดบังเลย รู้ไหมว่าเธอสะดุ้งมากเลยนะตอนเหลือบไปเห็นนายทำหน้ายักษ์ใส่ แถมตอนก่อนเริ่มเต้นเธอยังถามฉันอีกว่านายจะไม่ส่งพวกแครบกอยล์ไปแกล้งใช่ไหม”

     

    “ไม่ทำหรอกน่ะ เห็นฉันเป็นคนยังไง”

     

    แฮร์รี่นิ่งไปนิดแบบคนเริ่มคิดก่อนจะเอ่ยปากออกมา “ก็นิสัยไม่ดี ปากก็ไม่ดี ชอบหาเรื่อง เที่ยวแกล้งคนอื่น เหยียดลูกมักเกิล ไม่ชอบกริฟฟินดอร์”

     

    “.........” ก้อนน้ำลายอึกใหญ่ผ่านลำคอร้อนๆ ของเดรโกะไปอย่างยากเย็น ดวงตาคมหลุกหลิกขึ้นมาทันที

     

    “ใช่ไหมล่ะ” แฮร์รี่หรี่ตามองอีกฝ่ายบ้าง “ทีนายล่ะ เต้นคู่พาร์กินสันก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่เหรอ เห็นยิ้มร่าพอกันเลยนี่ เธอเองก็ดูชอบนายมากๆ เลยนะเดรก”

     

    “หุบปากเลยแฮร์รี่! ฉันยอมให้นายด่าฉันว่าเฟอเร็ทดีกว่าบอกว่าฉันแฮปปี้กับยัยแพนซี่”

     

    “เธอเสียใจตายถ้าได้ยินนายว่างี้”

     

    “เถอะน่า! ก็คือ...ฉันไม่อยากให้นายคู่ยัยพาติลไหมล่ะ” ว่าติดเสียงหงุดหงิดแล้วจ้องเขม็งตอบไปยังคนตัวเล็กกว่า

     

    หวง พูดงี้นะครับ” คิ้วหนาได้รูปยักขึ้นอย่างไม่กลัวคนเริ่มเมาตรงหน้า

     

    ดวงตาคมเบิกขึ้น คิ้วเรียวโก่งขึ้นเล็กน้อยท่าทางแบบคุณชายที่พร้อมหาเรื่องเข้าสิงทันที

     

    “เออใช่ ก็หวงไง!

     

    คนที่หยอกแกล้งไปก่อนเป็นฝ่ายเบิกตาขึ้นบ้าง พวงแก้มขาวเริ่มขึ้นสีมาบ้าง ดวงตาหลังกรอบแว่นมองซ้ายแลขวาทำตัวไม่ถูก ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดออกมาจริงๆ ตามที่เขาแหย่ไป อา.. อาจต้องโทษไวน์ที่เจ้าตัวดื่มไปเยอะแล้ว

     

    “เขินล่ะสิ หึ”

     

    เสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้ดังขึ้นข้างหูแฮร์รี่ แต่ยังไม่ทันที่แฮร์รี่จะได้หันไปจัดการกับคนน่าหมั่นไส้ข้างๆ ศีรษะที่มีแพรไหมสีบลอนด์ทองก็ขยับซบลงที่ลาดไหล่ของเขาเสียก่อน ประจวบเหมาะกับแฮร์รี่ที่หันหน้ามาพอดีทำให้ปลายจมูกรั้นชนเข้ากับกลุ่มเส้นผมนุ่มเข้า

     

    กลิ่นแชมพูแบบกลิ่นผู้ดีสักหน่อยเข้าสู่โพรงจมูก แม้จะไม่ได้หอมฉุนหรือกลิ่นเด่นชัดมาก แต่อดยอมรับว่าไม่ได้แฮร์รี่ชอบมัน หรือจริงๆ แล้วอาจจะชอบทุกอย่างที่อยู่บนตัวคนๆ นี้เลยก็ได้

     

    “นี่ แฮร์รี่”

     

    “ว่าไง”

     

    หลังจากเงียบไปนาน เดรโกก็เรียกคนที่อิงซบอยู่ คนทักเงียบไปอึดใจ แก้วไวน์ถูกวางไว้ที่เก้าอี้อีกตัว ก่อนที่มันจะเลื่อนมากุมมือของแฮร์รี่ที่ยังจับอยู่กับมืออีกข้างเสียมิด กระแสน้ำเสียงหงอยๆ เมื่อครู่แฮร์รี่พอจับเคล้าลางได้ว่าสิ่งที่เดรโกจะพูดน่าจะเป็นเรื่องเครียดและจริงจังพอสมควร ทำให้เขาเลือกที่จะไม่กวนประสาทตอบไปและตั้งใจรอฟังสิ่งที่อีกคนจะพูดแทน

     

    “การประลอง... ไม่แข่งต่อได้ไหม” แฮร์รี่เลิกคิ้ว เขาเหลือบมองเส้นผมที่ยังซบสงบนิ่งข้างไหล่ จากมุมนี้แฮร์รี่ไม่สามารถมองเห็นแววตาและสีหน้าอีกคนได้ แต่แฮร์รี่ค่อนข้างมั่นใจเลยว่าอีกคนจริงจังมากอยู่ “ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย การประลองครั้งนี้มันมีอะไรแอบแฝงอยู่ ความรู้สึกฉันบอกอย่างนั้น แล้ว...การประลองสุดท้ายน่ะ ฉันไม่ไว้ใจมัน”

     

    กลุ่มผมสีดำค่อยๆ เอนอิงซบกับเส้นผมสีบลอนด์ เขาขยับส่ายหัวเบาๆ คำตอบ จนได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนที่ซบไหล่เขาอยู่ “นายก็รู้ว่าฉันถอนตัวไม่ได้ ไม่งั้นฉันก็ไม่แข่งแต่แรกแล้ว นายก็ยังไม่รู้ไม่ใช่เหรอว่าการประลองด่านสุดท้ายคืออะไร”

     

    “เพราะไม่รู้ไงฉันถึงได้กังวลใจอยู่ตอนนี้” เดรโกถอนหายใจเฮือกอีกครั้ง “ฉันกังวลตั้งแต่ที่มีชื่อนายเข้าไปในถ้วยบ้าๆ นั่นแล้ว ปกตินายก็เรียน มากินข้าวที่ห้องโถงกับวิสลีย์ เข้าห้องสมุดกับเกรนเจอร์ แล้วตกเย็นเราก็อยู่ด้วยกัน แล้วฉันก็ส่งนายเข้าหอนอน นายจะไปเอาชื่อตัวเองใส่ตอนไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้บ้าสักคนที่รอจะเล่นงานนายอยู่เป็นคนทำ”

     

    แฮร์รี่ยิ้มแห้งกับประโยคแสนยาวเหยียดของเดรโก ดวงตาหลังกรอบแว่นหม่นแสงลงเล็กน้อยอย่างคนคิดไม่ตก ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดตาม สิ่งที่เดรโกพูดเป็นจริงเกือบหมด ไหนจะยังกฎที่กระทรวงบอก และเส้นแบ่งอายุที่ดัมเบิลดอร์ขีดไว้อีก ลำพังเขาที่เป็นแค่เด็กปี 4 จะไปมีเวทมนตร์ที่พรางตาถ้วยอัคนีได้ยังไง

     

    “ให้ตายเถอะ นึกแล้วยังหงุดหงิด ดัมเบิลดอร์ก็น่าจะทำอะไรได้แท้ๆ แต่ยังยืนยันให้นายแข่ง บ้าเหอะ”

     

    คุณชายจอมปากเสียของเขากำลังด่ากราดใหญ่แล้ว

     

    “เอาน่า ใจเย็นๆ ก่อน ตอนนี้ฉันยังปลอดภัยนะ”

     

    “นายก็เป็นแบบนี้ตลอด”

     

    เดรโกกระชากเสียงตอบ ขยับหัวที่พิงไหล่ของแฮร์รี่ออก มือที่กุมมือเล็กไว้คลายตามแล้วคว้าหมับเข้าที่แก้มตอบทั้งสองข้างของแฮร์รี่ เรียวนิ้วเกลี่ยเข้าที่สันกรามด้านซ้ายอย่างแผ่วเบา นัยน์สีมรกตฉายแววตื่นตะลึงเพียงนิด เหลือบมองสลับไปมาระหว่างสันกรามตัวเองกับใบหน้าเคร่งขรึมของคนตรงหน้า

     

    “ดูสภาพตัวเองก่อนเหอะ แค่ภารกิจแรกก็แผลใหญ่บนหน้าเลย”

     

    นิ้วโป้งของเดรโกเกลี่ยเบาๆ ที่รอยแผลซึ่งจางลงไปพอสมควรบนสันกรามของแฮร์รี่ สายตาทอดมองที่ตำแหน่งนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างกลัวว่ามันจะสร้างรอยแผลเป็นอีกแผลให้กับคนตรงหน้า

     

    “ทุกอย่างจะโอเคนะ”

     

    แฮร์รี่วางมือทับลงบนหลังมือของเดรโกแล้วดึงลงมากุมไว้ในมือหลวมๆ อีกคนยังไม่มีทีท่าว่าจะลดความหงุดหงิดลงเท่าไหร่ แต่แค่ไม่โวยวายขึ้นมาอีกรอบก็นับว่าดีมากแล้ว

     

    ความเป็นห่วงของเดรโก แฮร์รี่รับรู้และสัมผัสได้เต็มอก ตั้งแต่วันนั้นในห้องโถงที่ชื่อของเขาถูกประกาศ สีหน้าตื่นตะลึงของคนผมบลอนด์ที่นั่งกับโต๊ะประจำบ้านพร้อมท่าทางแบบคนจะดีดตัวลุกขึ้นมาแย้งแต่ก็ถูกเพื่อนเจ้าตัวดึงร่างให้นั่งลงก่อนแฮร์รี่ก็ยังจำได้ดี ไหนจะตอนที่เขาบอกกับเจ้าตัวว่าภารกิจแรกนั้นเกี่ยวกับมังกร เดรโกก็แทบจะพาตัวเองพุ่งไปหาดัมเบิลดอร์อยู่รอมร่อ

     

    กว่าจะกล่อมคนหัวร้อนให้เย็นลงได้ก็ใช้เวลาหลายวัน แถมยังทำท่าแบบคนงอนที่ไม่ยอมมาส่งกำลังใจให้ทั้งที่แฮร์รี่กำลังจะลงสนามแข่งการประลองแรกในอีกไม่กี่นาที ระหว่างที่แฮร์รี่กำลังนั่งทำสมาธิในเต๊นท์รอผู้เข้าแข่งคนที่สาม ลมอะไรไม่รู้ก็หอบคุณชายมัลฟอยเข้ามาถึงด้านในแล้วเจ้าตัวก็บ่นยาวใส่เด็กชายผู้รอดชีวิตอีกชุดใหญ่ถึงวิธีรับมือมังกร ก่อนจะตบท้ายด้วยกำลังใจจากเจ้าตัว

     

    “ฉันเครียดจริงๆ นะแฮร์รี่ การประลองนี่นะ..ฉันทำใจให้สบายตามที่นายขอไม่ได้จริงๆ” เสียงดนตรีจังหวะนุ่มละมุนนั้นไม่ได้ช่วยคลายความกังวลของเดรโกลงแม้แต่น้อย มือทั้งสองคู่กุมกันไว้แน่น ก่อนที่ร่างสูงจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนตรงหน้า “ฉันกลัว”

     

    คำๆ เดียวแต่กระตุกใจของแฮร์รี่ไม่น้อย ยิ่งรวมกับสายตาเว้าวอนและอาลัยก็ยิ่งทำให้เด็กชายผู้รอดชีวิตรู้สึกวูบโหวงในอก ความรู้สึกของการที่จะต้องสูญเสีย ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งนั้น ไม่ผิดที่เดรโกจะกลัว แฮร์รี่เองก็ไม่ใช่ไม่เคยกลัว แต่เขาที่เกิดมาพร้อมกับการมีคนจ้องจะฆ่าตั้งแต่เกิดน่ะ เขาเลือกที่ชินกับมันและเลิกกลัวไปแล้ว

     

    “เดรก ฟังฉันนะ”

     

    เดรโกทำหน้าคล้ายกับกินยาขมหรือได้กลิ่นขี้มูกโทรล์ ประโยคนี้ของแฮร์รี่เขาไม่เคยขัดมันได้สักครั้ง แม้ในหัวจะมีคำพูดอยากจะแย้งออกมาเป็นสิบๆ ประโยค แต่เขาก็เลือกที่จะนิ่งและรอฟังที่คนผมดำจะเอ่ยอย่างตั้งใจ

     

    “แค่การที่นายเลือกมาคบกับฉัน การที่เราตัดสินใจคบกันน่ะ มันก็อยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” แฮร์รี่ลูบหลังแหวนประจำตระกูลมัลฟอยอย่างแผ่วเบา ดวงตาหมองลงอีกนิดจนคนที่มองดูอยู่รู้สึกไม่ดีตาม “แต่นาย.. เราก็เลือกที่จะดินหน้ากันไปต่อ ฉันน่ะไม่มีอะไรต้องเสียหรือห่วงหรอก แต่นายนี่สิ... สุดท้ายนายก็ไม่สนใจนี่ นายบอกว่าให้อนาคตมันเป็นเรื่องของอนาคตไป ตอนนี้เราจะมีความสุขให้มากที่สุดและทำให้ดีที่สุด แล้วฉันตกลง”

     

    เปลือกตาบางหลับลงเพื่อซ่อนนัยน์ตาสีฟ้าจางไว้ เดรโกรู้สึกร้อนๆ ที่ใต้ดวงตาขึ้นมานิดๆ ทำใจกล้ำกลืนก้อนอะไรบางอย่าที่กำลังขึ้นมาจุกที่ลำคอ เขารู้สึกคิดผิดขึ้นมาทันทีที่ปล่อยให้แฮร์รี่พูดออกมา มันแกว่งใจของเขาอยู่ไม่น้อย ประโยคที่เขาเคยให้คำมั่นกับแฮร์รี่ซึ่งถูกหยิบยกมาอ้างอีกรอบนั้นทำให้เขานึกโกรธตัวเองหน่อยๆ

     

    แม้อยากจะแย้งอะไรออกมาก็สรรหาคำพูดไม่ออกแล้ว เดรโกลืมตาขึ้นก็พบกับดวงตาสีที่เขาหลงใหลกำลังทอดมองมายังเขาอย่างอ่อนโยน ยิ่งรวมกับดวงหน้าแต้มรอยยิ้มจางพลางขึ้นสีเรื่อ เดรโกก็พ่ายแพ้ทุกอย่างแล้ว

     

    “มานี่มา”

     

    เสียงทุ้มต่ำว่าอย่างไม่จริงจัง วงแขนกว้างอ้าออกแล้วคว้าร่างคนตัวเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมแขน แฮร์รี่ซบหน้าลงกับลาดไหล่ของเดรโกอย่างไม่ปฏิเสธ วงแขนกว้างประชับรอบแผ่นหลังที่เล็กแคบกว่าไว้แนบอก ปลายจมูกโด่งกดลงกับเส้นผมอ่อนนุ่มสีดำขลับตรงหน้าหนึ่งทีอย่างหวงแหน

     

    ทั้งสองกอดกันพลางโยกตัวไปมาเบาๆ ตามจังหวะเพลงโดยที่ใครก็ไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก เพราะจำนวนคนในโถงที่มีเพียงไม่กี่สิบคน แต่ละคนก็สนใจอยู่กับคู่เต้นรำของตัวเองจนไม่มีใครใส่ใจใคร ทำให้สองหนุ่มบ้านสลิธีรินและกริฟฟินดอร์สามารถนั่งกอดกันได้แบบนี้

     

    เสียงดนตรีภายในห้องโถงเงียบไปซักพัก เสียงของนักร้องที่ทุ้มนุ่มดังแทรกขึ้นมาแทน แฮร์รี่กอดกับเดรโกโดยที่ใบหน้าหันไปทางวงดนตรีพอดีเงยหน้าจ้องมองไปทางนั้นเงียบๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะนึกอะไรออก

     

    “นี่ ลุกขึ้นเถอะ นายยังไหวใช่ไหม”

     

    “อือ”

     

    แฮร์รี่ผละร่างตัวเองออกจากวงแขนอบอุ่นพลางยืดตัวลุกขึ้น เขาจัดชุดตัวเองที่มันยับเล็กน้อยให้เข้าที่อีกนิดแล้วยื่นมือไปทางเดรโกที่ยังนั่งทำหน้างงอยู่ที่เดิม

     

    “เร็ว ลุกขึ้น”

     

    This one's going out to all the lovers out there
    Hold each other tight, and keep each other warm

     

    เสียงของนักร้องคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมเสียงกีตาร์ที่คลอขึ้นมาตาม เดรโกเริ่มเข้าใจการกระทำของแฮร์รี่ได้ในทันที ร่างสูงยืดตัวขึ้นจากเก้าอี้ เขาไม่ได้คว้าเสื้อตัวนอกมาสวมทับ มีเพียงเชิ้ตด้านในสีขาวตัวที่สวมอยู่ มือยกขึ้นจัดที่หูกระต่ายเล็กน้อย

     

    “เพลงสุดท้าย ฉันอยากเต้นกับนายนะ”

     

    “ไหงนายพูดอะ ฉันต้องเป็นคนพูดสิ”

     

    เสียงหัวเราะเบาๆ ดังตามขึ้นมา เดรโกไขว่แขนขวาไปด้านหลัง มือซ้ายยื่นหงายมาด้านหน้าพลางค่อมตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าเงยมองคนตรงหน้าไม่วางตาก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีตกใจระคนเขินอายจนดูน่าขัน

     

    “ถ้าหากไม่ว่าอะไร ช่วยเต้นรำกับผมเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายจะได้ไหมครับ คุณแฮร์รี่”

     

    ร่างเล็กเม้มปากแน่นพูดไม่ออก รู้สึกดวงตาพร่าเบลออย่างไรชอบกลจนมองอีกคนไม่ค่อยชัด เขาไม่ได้ตอบออกไป เพียงแค่พยักหน้าและยื่นมือขวาวางลงฝ่ามือขาวที่ยื่นมารออยู่ก่อน เมื่อแฮร์รี่วางมือลงเดรโกก็ขยับประชิดร่างเล็กทันที

     

    And dance your final dance

     

    มือขวาของเดรโกวางทาบลงที่ช่วงเอวของแฮร์รี่ ร่างทั้งสองขยับชิดกันมากขึ้นจนคางของแฮร์รี่แทบจะเกยอกของเดรโก ความร้อนจางๆ แผ่ออกมาปกคลุมทั้งคู่จนแทบไม่รู้สึกหนาวเย็นเท่าไหร่

     

    This is your final chance
    To hold the one you love
    You know you've waited long enough

     

    สำหรับวันนี้ นี่ก็คงเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาทั้งคู่หลังจากที่รอคอยมาทั้งวันที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกันขนาดนี้ โดยที่ไม่ต้องมีใครมาจับจ้องหรือคอยจับผิด ในวันที่แสนพิเศษและสวยงามแบบนี้

     

    So, believe
    That magic works
    Don't be afraid
    Of being hurt
    Don't let this magic die
    The answer's there
    Oh, just look in her eyes

     

    แฮร์รี่ขยับมือเปลี่ยนเป็นเกาะไหล่ทั้งสองข้างของเดรโกไว้แทน ดวงตาหลังกรอบแว่นไล่พิศตามกรอบหน้าได้รูปของคนตรงหน้าไปตลอดการขยับตัว ร่างกายทั้งสองราวกับถูกเสียงเพลงขับกล่อมให้ขยับตามไปจังหวะ ความเชื่องช้าของเพลงทำให้พวกเขาไม่ต้องเร่งรีบใดๆ เพียงแค่โยกตัวไปเพียงช้าๆ เท่านั้น

     

    And make your final move
    Don't be scared, she wants you to
    Yeah, it's hard, you must be brave
    Don't let this moment slip away

     

    ร่างสูงคว้ามือข้างหนึ่งของคนตัวเล็กกว่าไว้แล้วชูแขนขึ้นเหนือหัวอีกคน

     

    แฮร์รี่มองการกระทำนี้ด้วยความงุนงงนิดๆ จนได้รับสายตาเร่งเร้าจากอีกฝ่ายที่มาพร้อมการขยับหัวเป็นวงกลม

     

    ความร้อนพากันเกาะกุมที่แก้มทั้งสองข้าง มันน่าอายออก ร่างเล็กส่ายหน้ายิ้มๆ แต่แล้วก็ยอมหมุนตัวใต้ตัววงแขนของอีกคนจนหันมาเผชิญหน้ากันอีกรอบ และเดรโกขยับยิ้มกว้างออกมาทันที

     

    Now, believe
    That magic works
    Don't be afraid
    Afraid of being hurt
    Don't let this magic die
    The answer's there
    Yeah, just look in her eyes

     

    วงแขนแกร่งทั้งสองกอดรอบเอวบางแน่น จนตัวของทั้งคู่แนบติดกัน แฮร์รี่เกยคางไว้กับไหล่กว้าง แขนข้างหนึ่งตวัดกอดรอบคอของอีกฝ่าย โดยที่แขนอีกข้างก็กอดเอวอีกคนตอบไปเช่นกัน

     

    And don't believe that magic can die
    No, no, no, this magic can't die

     

    แฮร์รี่ผละออกมาจับมือของเดรโกไว้บ้าง คนตัวเล็กชูแขนขึ้นแล้วถลึงตาออกเชิงออกคำสั่ง

     

    เดรโกพ่นลมหายใจออกจากจมูกพลางหลุดขำเบาๆ

     

    ร่างสูงย่อตัวเพียงนิดก่อนจะหมุนตัวใต้วงแขนของแฮร์รี่ชูขึ้น

     

    เมื่อกลับมาเผชิญหน้ากันต่อก็พบกับรอยยิ้มไร้เดียงสาของแฮร์รี่เป็นรางวัล

     

    ทั้งคู่ยิ้มกว้างให้กันอย่างที่ชอบทำเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง

     

    So dance your final dance
    Cause this is your final chance

     

    ฝ่ามือทั้งสองกุมกันไว้ แกว่งไปมาเบาๆ ตามจังหวะขาและตัวที่โยกไปมา

     

    โน้ตตัวสุดท้ายของเพลงเริ่มคืบคลานเข้ามา แต่พวกเขารู้สึกไม่อยากจะให้เพลงจบเลย

     

    ครั้งสุดท้าย บางทีก็เป็นสถานการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเท่าใด

     

     

    ถ้าหากถามว่านี่คือโอกาสสุดท้ายทั้งหมดของเดรโกที่จะรั้งและใกล้ชิดกับคนที่เขารักไหม? เขาก็ค่อนข้างมั่นใจที่จะตอบว่า

     

    มันอาจจะยังไม่ใช่

     

    เขามั่นใจว่าแฮร์รี่จะยังอยู่ข้างๆ เขาและเดรโกก็มั่นใจว่าตัวเองก็จะยังจะอยู่ข้างแฮร์รี่ไปอีกนาน ต่อให้จะต้องรอให้อะไรๆ มันคลี่คลายไปอีกนานแค่ไหน เขาก็พร้อมจะรอและเคียงข้างเด็กชายผู้รอดชีวิตตรงหน้าไปด้วยกัน

     

    แม้จะต้องพบเจอกับความน่ากลัวอะไรก็ตามในอนาคตที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ แต่พวกเขาทั้งคู่ก็สัญญากันไว้แล้วว่าจะจับมือกันก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้ แม้ว่ามันจะยากเย็นสักแค่ไหน พวกเขาก็จะเป็นเสาหลักให้กันและกัน ไม่มีทางที่ยอมปล่อยให้ช่วงเวลาใดสูญเปล่าเด็ดขาด

     

    ไม่มีอะไรที่เกินความพยายามของคนเรา

     

    เดรโกเชื่อ ว่าความพยายามไม่เคยทรยศใครกับคนที่ตั้งใจแน่วแน่

     

    และแฮร์รี่ก็มั่นใจว่าพวกเขาทั้งสองจะผ่านทุกอย่างไปได้แต่โดยดี

     

    ตราบใดที่พวกเขายังจับมือกันแน่นมากพอ ตราบใดที่พวกเขายังมีกันและกัน

     

     

    “หวังว่านี่จะไม่ใช่โอกาสสุดท้ายของฉันนะแฮร์รี่”

     

    เขารู้ว่าความหมายที่เดรโกพูดต้องการจะสื่อถึงอะไร เขาไม่เบื่อหรอกที่จะต้องตอบคำถามนี้วนไปมา

     

    ดวงตาสีเขียวใสจ้องตอบดวงตาสีฟ้าเทาตรงหน้านิ่ง ไร้แววลังเล ไร้ความโอนอ่อน แม้จะดูอ่อนโยน แต่ก็แข็งแกร่งดังหินผาที่ไม่อาจมีใครมาพังทลายมันลงได้

     

    และบางคำตอบก็ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ยืดเยื้อ แค่เพียงมองเข้าไปในดวงตา ใช้สัมผัสของหัวใจเข้าค้นหา ก็จะพบกับคำตอบของทุกๆ อย่าง

     

     

    เด็กหัวใจสิงห์ขยับชิดอีกคนมากยิ่งขึ้น เท้าทั้งสองข้างเขย่งขึ้นเล็กน้อย ฝ่ามือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมแก้มขาวซีดตรงหน้า ก่อนที่จะประทับริมฝีปากของตนเข้าสัมผัสกับความนุ่มหยุ่นของอีกฝ่ายเช่นกัน ดวงตาหลังกรอบแว่นหลับลงอย่างเชื่องช้า มือข้างที่ยังประสานกันอยู่บีบแน่นขึ้นจนมันร้อน

     

    คุณชายแห่งบ้านสลิธีรินเบิกตาเล็กน้อยก่อนจะหลับลง อวัยวะที่ยังถูกทาบทับอยู่เม้มตอบอีกฝ่ายก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าสำรวจในโพรงปากเล็กเมื่อมันเผยอออกอย่างเชิญชวน

     

     

     

    “ฉันมีโอกาสให้นายได้ทั้งชีวิตแหละ สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ เดรโก”

     

    “งั้นฉันก็ขอรับโอกาสพวกนั้นไว้ทั้งหมดเลย สุขสันต์วันคริสต์มาส แฮร์รี่”


    ___________________________________________________________




    TALK !!

    #WizDMHP ไปหวีดกันในแท็กนี้บนทวิตเตอร์ได้นะคะ!


         อั๊ยย๊าาาา!!! พล็อตมันมา มันต้องรีบแต่งค่ะ เดี๋ยวหมดไฟฟ ขอบคุณเมนต์ตอนก่อนๆ ด้วยนะคะ!! ไฟมันท่วมตัวเลยย ดีใจจจจ
         ตอนนี้มันเริ่มขึ้นจากตอนเขียนตอนที่แล้ว แล้วพยายามหาเพลงมาช่วยเสริมฟิล แล้วก็ได้เพลงในงานเต้นรำของภาคที่ 4 นี่ล่ะค่ะมาช่วยในการเขียนตอนก่อน แล้วเราก็นึกได้ว่า แล้วทำไมเราไม่เขียนฉากในงานเต้นรำด้วยไปเลยล่ะ!! แฮ่ และมันก็ออกมาเป็นดังนี้ค่ะ
         เพลงที่เราแทรกๆ เข้ามา เราไม่ได้แปลไปตรงตัวค่ะ แต่ก็พยายามเขียนให้คล้องๆ กัน ถ้าหากใครสังเกต เพลงกับการคิดและการกระทำที่แทรกจะเป็นช่วงที่เต้นกัน แต่ความคิดหลังจากนั้นคือแบบองค์รวมแล้ว แต่อิงเนื้อหาจากเพลงมาเสริมค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเขียนได้ดีไหม ;;__;; พยายามจะดึงอารมณ์แล้วค่ะ แต่ได้ประมาณนี้เอง งือออ และตอนนี้บทพูดเยอะขึ้นหน่อย ...
         ตอนก่อนมีคนรีเควสว่าอยากเห็นเขาหวานกันกว่านี้ คิดว่าตอนนี้น่าจะหวานเยอะพอควรนะคะ กอด จับมือกันได้เปลืองตัวมากน้องรี่ 555555
         ปล. ชอบที่ตัวเองที่เขียนให้เขาสลับกันหมุนตัวจังค่ะะ งุยๆๆ
         ขอบคุณที่บอกว่าเราเขียนดี และเชียร์ให้มีตอนต่อๆ ไปนะคะ //โค้งง ชอบกดไลค์ ใช่เขียนคอมเมนต์นะคะะ อ่านของทุกคนเลยย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×