ตำนานรักดอกคาโอ # review ใหม่
มณีแก้ว หญิงสาวที่หลงเข้าไปในมิตติอื่น เธอได้พบกับฟาโล่และอดีตความรักอันข่มขื่นที่เธอไม่อาจคาดเดา อีกทั้งยังต้องผจญกับ เทพ อสูร ภูต / เรืองราวความรักของคนทั้งสองจะจบลงอย่างไร? ติดตามอ่านได้ค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
6,104
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
update สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านจ้า
หมายเหตุ ~: จะมีการแก้ไขนิยายใหม่หลังตอนศึกสุดท้ายจบ คิดว่าไม่เกินเดือนมีนาคม 2555ก็น่าจะแก้ไขเสร็จ การแก้ไขนิยายเรื่องนี้จะทำให้เนื้อเรื่องกระชับขึ้น น่าอ่านขึ้น และจบแบบแฮบปี้ตามที่เพื่อนๆ ต้องการ... จะอย่างไรก็ขอให้ช่วยติดตามกันต่อไปนะคะ
ลึกลงไปในจิตใจของร่างที่กำลังสลบ เสียงรำพึงหนึ่งดังนุ่มนวลอยู่ข้างริมหูของมณีแก้ว ครั้งแรกที่ได้ยินดูเหมือนมันดังมาจากที่ไกลแสนไกล หากแต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมองหาต้นเสียงจึงพบว่า เสียงที่ว่าไกลกับดังใกล้อยู่ข้างตัว ใกล้ชนิดที่ว่าสัมผัสเสียงนั้นได้จากภายในตัวของเธอเอง หากแต่ก็ยังนึกสงสัยอยู่ดี ว่าทำไมเสียงที่ดังอยู่ในสมองของเธอ กลับเหมือนมาจากหญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่เบื้องหน้านี้
แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าของนาง หากแต่มณีแก้วกลับรู้สึกว่านางคงจะมีความสวย ชนิดที่เรียกว่านางฟ้ายังอาย นางมีเรือนผมสีทองบริสุทธิ์นุ่งห่มด้วยชุดสีขาวพริ้ม มีแสงสีขาวนวลอ่อนๆล้อมรอบเรือนกาย... เรือนกายของนางดูบอบบางมากเพื่อกับมณีแก้วเอง...หากต้องลมคงจะปลิวได้ง่ายๆ... เสียงของนางแม้อยู่ในอาการโศกเศร้าแต่กระแสเสียงกับใสดังระฆังเงิน หากได้เห็นใบหน้าคงจะดีไม่น้อย
เธอร้องไห้ทำไมกัน? มณีแก้วส่งเสียงถาม
ฮือๆๆ.... เสียงที่ถามไปเหมือนไม่ได้ทำให้หญิงงามผู้นั้นรู้สึกตัว นางยังคงนั่งร้องไห้เหมือนเดิม
เธอมีเรื่องอะไร..ทำไมถึงต้องร้องไห้? มณีแก้วถามอีกครั้ง
คราวนี้ดวงหน้าที่ก้มซบอยู่กับฝ่ามือเงยขึ้นสบมองมา มณีแก้วแทบกลืนหายใจไปทีเดียว เพราะผู้หญิงตรงหน้าช่างมีดวงหน้าที่งดงามยิ่งนัก นางมีดวงตาสีทองสวย ขนตาดำงอนงาม กลางหน้าผากดูเหมือนมีตราสัญลักษณ์รูปหยดน้ำสีทองแต้มติดอยู่ เรียวปากสีชมพูรับกับดวงหน้าเป็นอย่างมาก ประกอบกับเรือนผมที่ยาวระพื้นส่งผลให้หญิงสาวตรงหน้างดงามอย่างกับไม่ใช่คน หากแต่ถ้าจะพูดให้ถูกดูเหมือนว่าตั่งแต่เกิดมามณีแก้วยังไม่เคยเห็นใครสวยงามเท่านี้มาก่อน งามอย่างกับนางฟ้านางสวรรค์ !
ข้าร้องไห้เพราะสงสารเจ้ายิ่งนัก เสียงดังระฆังเงินเอ๋ยตอบกลับมา
มณีแก้วรู้สึกงงงวยกับคำตอบที่ได้รับจากหญิงสาวผู้งามล้ำดั่งเทพธิดา มณีแก้วจำได้ว่าตัวเธอไม่เคยรู้จักหรือเคยพบกับหญิงผู้คนนี้มาก่อน แล้วเหตุใดนางจึงเอื้อนเอ๋ยคำสงสารเสมือนหนึ่งว่าคนที่รู้จักกันดี แววตาที่เต็มไปด้วยคำถามของมณีแก้วยังผลให้อีกฝ่ายรู้ซึ้งถึงความสงสัยนั้น
ข้าสงสารเจ้าที่มีสภาพไม่ต่างอะไรกับอดีต...ยิ่งกว่าอดีตเสียด้วยซ้ำ คำรำพึงรำพันนั้นไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจต่อมณีแก้วเลย แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามเกินคำบรรยาย มณีแก้วจึงเลือกใช้คำเรียกหาใหม่
ท่านเป็นใครเหตุใดจึงมาสงสารฉัน... แต่เหมือนความสงสัยหนึ่งจะผุดขึ้นมา เอ๊ะ! ฉันจำได้ว่าฉันถูกขังอยู่ข้างในตัวฉัน แล้วท่านเข้ามาได้อย่างไร? คำถามถูกยิงรัวออกไปด้วยความสงสัย
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนดวงหน้าทั้งที่มีคราบน้ำตาเกาะอยู่ ดวงตาที่ดูเศร้าหมองก่อนหน้านี้ดูมีประกายชีวิตขึ้น ก่อนริมฝีปากสีชมพูสวยจะเอื้อนเอ๋ยวจีให้คลายสงสัย
ข้าก็คือเจ้า! เมื่ออดีตที่นานมาแล้ว นานกว่าครั้งไหน ๆที่เจ้าเคยถือกำเนิด ข้ามีชื่อว่าคาโอ ตัวข้าเฝ้ามองชะตาชีวิตของตัวข้าเอง เวียนว่ายตายเกิดมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้ว หากแต่ไม่มีครั้งไหนที่ข้าจะรู้สึกว่าชะตาชีวิตช่างอาภัพนักเท่ากับครั้งนี้เลย และเพราะเหตุนั้นมันทำให้ข้าอดไม่ได้ที่จะเข้ามาที่นี่ ที่ตรงนี้ เพื่อชี้นำหนทางสู่แสงสว่างให้กับเจ้า...มณีแก้ว
หญิงงามตรงหน้าบอกว่าเป็นคนอีกคนหนึ่งในอดีตของเธอ มันช่างอัศจรรย์ใจยิ่งนักสำหรับมณีแก้ว แค่ลำพังเรื่องที่เกิดขึ้นมณีแก้วก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่อัศจรรย์อยู่แล้ว... แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้กับบอกเหมือนมันเป็นเรื่องที่แสนธรรมดา... แต่เพราะอะไรนั้นไม่รู้ มณีแก้วเชื่อคำพูดนั้นอย่างสนิทใจ เชื่อในกระแสเสียงที่อบอุ่น ที่อาบมากับคำพูดนั้น เชื่อเพราะจิตใจเธออยากที่จะเชื่อ ถึงจะไม่รู้ว่าเหตุใดเธอจึงเชื่อในสิ่งอัศจรรย์นี้ แต่ดูเหมือนว่าหนทางที่มืดบอดเบื้องหน้าจะก่อเกิดลำแสงเล็ก ๆ แห่งความหวังที่มณีแก้วพอใช้จะสำหรับเป็นที่พักพิงยามอ่อนล้าได้
ท่านจะช่วยฉันออกจากที่นี่ใช่ไหม...จะนำร่างของฉันกลับคืนมาให้ใช่ไหม? น้ำเสียงแสดงความดีใจอย่างยิ่ง
หากแต่ดวงหน้างดงามกลับส่ายไปมา ก่อนน้ำเสียงหวานจะเอื้อนเอ๋ยวจีอีกครั้ง
ข้าไม่อาจจะยื่นมือเข้ายุ่งกับโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้ หากแต่ข้าจะชี้แนะหนทางเบื้องหน้าให้กับเจ้า การเดินทางสู่อนาคตที่เจ้าเห็นแต่ความมืดมนนั้น แท้จริงแล้วมันมีแสงสว่างปะปนอยู่ มันอยู่ในทุกๆ ที่ ที่เจ้าไป อยู่ทุกทุกที่รอบตัวเจ้า อยู่แม้เพียงในลมหายใจหากเจ้าสัมผัสมันได้ ดวงหน้างามยิ้มให้อีกครั้ง
วจีที่เอื้อนเอ๋ยออกมาแม้มณีแก้วจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนัก หากแต่มันก่อให้เกิดกำลังใจให้กับหญิงสาวมากยิ่งขึ้น
อยู่ทุกทุกที่เลยงั้นเหรอ? คำถามเล็กๆ หลุดออกมาจากปากมณีแก้ว ดวงหน้างามพยักศรีษะให้เล็กน้อย เป็นการย้ำคำตอบว่า ใช่ ก่อนจะยิ้มอย่างเอ็นดู
เจ้าจงจำไว้ว่ายังมีพลังอย่างหนึ่ง ที่มันสามารถก่อเกิดภายในตัวของทุกคน และมันก็จะก่อเกิดในตัวของเจ้าทีละเล็กทีละน้อยเช่นกัน... พลังนั้นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นรอบๆตัว กับทุกสิ่งที่เจ้าพบ ทุกอย่างที่เจ้าเห็น แม้ทุกคนจะไม่รู้สึกและสัมผัสมันไม่ได้ หากแต่มันก็จะคงอยู่ตรงนั้น อยู่ในนั้นเสมอ และหากเจ้าสัมผัสพลังนั้นได้ แม้จะเพียงสิ่งเล็กๆ ที่เจ้าว่าเป็นไปไม่ได้ มันย่อมส่งผลให้เป็นไปได้อย่างแน่นอน ปฎิหารจะก่อเกิดขึ้นด้วยพลังนั้น และสิ่งนั้นจะทำให้เจ้าพบกับความสุขชั่วนิจนิรันดร์ แต่กว่าจะถึงเวลานั้น เจ้าจะต้องเผชิญช่วงเวลาที่เลวร้ายกว่านี้ เจ้าจะผ่านมันไปได้ไหม? ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวของเจ้าเอง เจ้าจงตั่งมั่นอย่าย่อท้อ อย่ายอมแพ้แก่โชคชะตา หากแต่จงก้าวข้ามโชคชะตานั้นไปให้ได้ วงเวียนแห่งชะตากรรมจะหมุนไปทำไม ? หากในโชคชะตานั้นมิมีสิ่งใดที่ควรค่ากับการค้นหา...เจ้าว่าจริงไหม ?
สิ้นประโยคสุดท้าย จู่ๆ ร่างบอบบางตรงหน้าก็พลันเรืองแสงขึ้น มันสว่างสาดส่งเข้าไปถึงจิตใจของมณีแก้ว ชำระความมืดมนที่จำนนต่อโชคชะตาให้จางหายไป มณีแก้วหลับตาลงซึมซับความอบอุ่นนั้นให้ได้มากที่สุด จนเมื่อแสงอ่อนลงเธอจึงลืมตาขึ้นมอง ณ.จุดเดิม จุดที่หญิงสาวปริศนานางนั้นนั่งอยู่ หากแต่สิ่งที่พบกลับเป็นเพียงความว่างเปล่าของความมืดมิดภายในก้นบึ้งของจิตใจ
น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว มณีแก้วสัมผัสได้ถึงพลังอันอบอุ่น ที่ดูเหมือนจะโอบกอดเธอไว้ยามเธอเหงา ต้องการที่พึ่งพิง มันเหมือนมีเสียงกระซิบบอก ลงกลางหัวใจของเธอว่า "ไม่ต้องกลัวฉันอยู่ตรงนี้ อยู่ที่นี่ กลางใจของเธอ หาฉันให้พบนะ!
ผลงานอื่นๆ ของ อ่านง่าย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อ่านง่าย
"วิจารณ์ตามแบบฉบับนักอ่าน..."
(แจ้งลบ)นิยายย้อนยุคอีกเรื่องสินะ ที่ดึงดูดใจให้แวะเวียนมาหลายครั้ง แต่ต้องยอมแพ้กับขนาดของตัวอักษรทุกครั้งไป ยอมรับว่าผู้เขียนใช้คำราชาศัพท์ได้ดี เป็นนิยายที่ไม่หวานจนเลี่ยนแทรกเรื่องราวของความรักได้แบบอบอุ่นใจ น่าอ่านและน่าติดตามเรื่องหนึ่ง ความจริงผู้วิจารณ์ไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจ เป็นเพียงนักอ่านที่บ้าอ่านได้เป็นหน้าเป็นหลังเท่านั้น (เท่าที่จะม ... อ่านเพิ่มเติม
นิยายย้อนยุคอีกเรื่องสินะ ที่ดึงดูดใจให้แวะเวียนมาหลายครั้ง แต่ต้องยอมแพ้กับขนาดของตัวอักษรทุกครั้งไป ยอมรับว่าผู้เขียนใช้คำราชาศัพท์ได้ดี เป็นนิยายที่ไม่หวานจนเลี่ยนแทรกเรื่องราวของความรักได้แบบอบอุ่นใจ น่าอ่านและน่าติดตามเรื่องหนึ่ง ความจริงผู้วิจารณ์ไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจ เป็นเพียงนักอ่านที่บ้าอ่านได้เป็นหน้าเป็นหลังเท่านั้น (เท่าที่จะมีเวลา)ที่สำคัญ...เป็นคนให้ความสำคัญกับคำผิดมากมาย ท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนนิยายที่บรรยายได้ดีแบบนี้มาให้อ่านอีกจ้า... อ่านน้อยลง
เกี้ยวจันทร์ | 13 ก.ย. 54
2
0
"วิจารณ์ตามแบบฉบับนักอ่าน..."
(แจ้งลบ)นิยายย้อนยุคอีกเรื่องสินะ ที่ดึงดูดใจให้แวะเวียนมาหลายครั้ง แต่ต้องยอมแพ้กับขนาดของตัวอักษรทุกครั้งไป ยอมรับว่าผู้เขียนใช้คำราชาศัพท์ได้ดี เป็นนิยายที่ไม่หวานจนเลี่ยนแทรกเรื่องราวของความรักได้แบบอบอุ่นใจ น่าอ่านและน่าติดตามเรื่องหนึ่ง ความจริงผู้วิจารณ์ไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจ เป็นเพียงนักอ่านที่บ้าอ่านได้เป็นหน้าเป็นหลังเท่านั้น (เท่าที่จะม ... อ่านเพิ่มเติม
นิยายย้อนยุคอีกเรื่องสินะ ที่ดึงดูดใจให้แวะเวียนมาหลายครั้ง แต่ต้องยอมแพ้กับขนาดของตัวอักษรทุกครั้งไป ยอมรับว่าผู้เขียนใช้คำราชาศัพท์ได้ดี เป็นนิยายที่ไม่หวานจนเลี่ยนแทรกเรื่องราวของความรักได้แบบอบอุ่นใจ น่าอ่านและน่าติดตามเรื่องหนึ่ง ความจริงผู้วิจารณ์ไม่ใช่นักเขียนที่เก่งกาจ เป็นเพียงนักอ่านที่บ้าอ่านได้เป็นหน้าเป็นหลังเท่านั้น (เท่าที่จะมีเวลา)ที่สำคัญ...เป็นคนให้ความสำคัญกับคำผิดมากมาย ท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนนิยายที่บรรยายได้ดีแบบนี้มาให้อ่านอีกจ้า... อ่านน้อยลง
เกี้ยวจันทร์ | 13 ก.ย. 54
2
0
ความคิดเห็น