ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อได้อ่านหนังสือ

เนื้อเรื่อง

ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อได้อ่านหนังสือ

                หนังสือเป็นการสะสมความความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้แต่งขึ้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น หนังสือแต่ละเล่มก็มีโครงเรื่องที่แตกต่างกันไป บางเรื่องก็เป็นข้อเท็จจริงที่สามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตได้ เช่น การเรียนหนังสือ การทำงาน เป็นต้น บางเล่มก็เป็นข้อคิดเห็นของผู้แต่งหนังสือเล่มนั้น ทำให้เราได้มีทรรศนะคติที่กว้างไกล มากขึ้น ได้มองภาพในหลายๆแง่ บางเล่มความคิดของผู้แต่งก็อาจจะไม่ตรงกับผู้อ่าน และนั้น คือสิ่ง ที่ผู้แต่งทุกคนต้องการ ความฉลาดของการเขียนหนังสือ ที่สามารถทำให้ผู้อ่านมองได้หลากหลาย  หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่สามารถพัฒนามนุษย์ให้ก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

                “หนังสือคือขุมทรัพย์แห่งปัญญา” คำกล่าวนี้ เป็นปรัชญาที่เฉียบคมและเป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนข้าพเจ้ายังเด็ก คุณพ่อ จะคอยกล่าวเตือนอยู่เสมอว่า ให้อ่านหนังสือให้มากๆโดยเฉพาะหนังสือเรียน ทั้งที่ตอนนั้นผมเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือมากๆ ถึงขนาดไม่คิดที่อยากจะหยิบเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อผมได้เรียนหนังสือ การที่เราไม่อ่านหนังสือ ก็เป็นตัวฉุดความรู้อย่างมาก เวลาสอบเราก็ทำไม่ได้ เมื่อพ่อเห็นดังนั้น อาจจะเนื่องมาจาก คุณพ่อเป็นคุณครูด้วย คำพูดประโยคหนึ่งที่ข้าพเจ้ายังจำได้ตลอดมา พ่อบอกว่า “ อยากให้ลูกอ่านหนังสือให้มากๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียนก็ได้ อ่านมากก็ยิ่งทำให้เรามีนิสัยรักการอ่าน เพราะหนังสือทุกเล่มก็มีแต่สิ่งดีๆ ด้วยกันทั้งนั้น” คำพูดนี้ เหมือนตัวกระตุ้นที่ทำให้เราต้องอ่านหนังสือ ตอนแรกก็เริ่มอ่านหนังสือการ์ตูน ซึ่งช่วงนั้นบอกตามตรงเลยว่า ยังอ่านไม่เป็น จับใจความสำคัญไม่ได้ พออ่านแล้วจำไม่ได้ ก็กลับไปอ่านอันเก่าใหม่ ตอนอ่านหนังสือเล่มแรกจบนั้น จำได้ว่า คือ การ์ตูนโคนัน รู้สึกภูมิใจมาก ต่อมาก็เริ่มอาจหนังสือนอกเวลา เพราะต้องใช้สอบ อ่านไปเรื่อยๆ จนหนังสือเล่มต่อมาที่ข้าพเจ้าอ่านจบทุกตอน นับเป็น วรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่มากนั้นก็คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นวรรณกรรมเรื่องแรกที่ผมรู้สึกสนุกกับการอ่านหนังสือ อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ ตั้งแต่ อ่านเรื่องนี้จบ ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นคนชอบอ่านหนังสือไปโดยปริยาย และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นในการร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเล่มโปรด Book Club   การประกวดแข่งขันเรียงความในโอกาสต่างๆ เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของข้าพเจ้าอย่างมากมาย จากคนที่ไม่เคยอยากอ่านหนังสือ แต่ตอนนี้กลับเห็นหนังสือเป็นสิ่งที่สร้างความสนุกสนาน และเพิ่มพูนความรู้ไปได้อย่างไม่รู้ตัว ข้าพเจ้าชอบคำกล่าวของท่านมหาตมะ คานธี ที่กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าเป็นสุขและเชื่อว่าใครก็ตามซึ่งมีรสนิยมในการอ่านหนังสือดี ย่อมสามารถทนต่อความเงียบเหงาในทุกแห่งได้อย่างสบาย”ในช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ว่างๆ ก็มักจะใช้เวลาในช่วงนี้ อ่านหนังสือที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น นวนิยายหรือไม่ก็หนังสือเรียน ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่ข้าพเจ้าจะต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จึงต้องอ่านหนังสือให้มากๆ เพื่ออนาคตข้างหน้าจะได้สดใส ขยันในวันนี้ ย่อมทำให้เรามีความรู้มากกว่าผู้ที่ยังไม่ได้เริ่มต้นอ่านหนังสือ ข้าพเจ้าจึงอยากให้ทุกคนขยันอ่านหนังสือเพื่ออนาคตของตัวคุณเอง และเพื่อความภาคภูมิใจของคุณพ่อและคุณแม่ของพวกคุณทุกคน

                หนังสือมีหลากหลายประเภท แต่ละคนก็จะชอบกันไปคนละแบบ หนังสือทุกเล่มนั้นล้วนให้ความรู้ และประโยชน์นานัปการ ข้าพเจ้าจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนอ่านหนังสือกันให้มากๆ เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญา และพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้ามากขึ้น ดังพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่กล่าวไว้ว่า

                                หนังสือนี้มีมากมายหลายชนิด               นำดวงจิตเริงรื่นชื่นสดใส

                ให้ความรู้สำเริงบันเทิงใจ                                       ฉันจึงใฝ่ใจสมานอ่านทุกวัน

                                มีวิชาหลายอย่างต่างจำพวก                    ล้วนสะดวกค้นได้ให้สุขสันต์

                วิชาการสรรมาสารพัน                                             ชั่วชีวันฉันอ่านได้ไม่เบื่อเลย
                                   โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5/2