She... เธอ... - She... เธอ... นิยาย She... เธอ... : Dek-D.com - Writer

    She... เธอ...

    ท้าให้ลองอ่าน!!

    ผู้เข้าชมรวม

    124

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    124

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 เม.ย. 55 / 10:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สำหรับเรื่องนี้ผมไม่ได้ป้องกัน copy นะครับ

    ใครที่อยากนำไปเผยแพร่ก็ ตามสบายเลยครับ ^__^
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผมจะไม่ทนอยู่ที่นี่อีกแล้ว! เข้าใจไหมว่าผมเบื่อ! ” พูดเสร็จผมก็หยิบกระเป๋าเป้ใบเก่งของผมมาสะพายแล้วเดินออกมาอย่างไม่ใยดี สิ่งที่ตามมาคือเสียงร้องไห้ราวกับคนเสียสติของเธอ เธอวิ่งตามผมมาด้วยน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสองข้าง ผมจึงรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น เธอที่วิ่งตามผมมาสะดุดล้มลงไป ผมเหลียวกลับไปมองแล้วหันรีบกลับ เดินไปตามทางของผม โดยที่ทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง ซึ่งจุดหมายปลายทางของผมก็คือ กรุงเทพฯ

       

      นั่นเป็นเรื่องเมื่อสองปีก่อน ผมสลัดหัวเพื่อไล่ความคิดฟุ้งว่านนี้ออกไปจากหัว แล้วเร่งทำงานที่กองอยุ่บนโต๊ะ

      นั่นมันเป็นเรื่องในอดีต ก็เราตัดสินใจไปแล้วนี่ แต่ทำไมเราต้องไปคิดถึงเธอด้วยนะ ? ผมรู้ว่าถึงนั่งทำงานต่อไปก็ไม่มีอะไรคืบหน้าหรอก จึงลงมาหาอะไรกินซะหน่อย เผื่อสมองจะได้แล่นบ้าง

       

      ร้านที่ผมมาหาอะไรกินเป็นร้านมินิมาร์ทเล็กๆที่อยู่ตรงข้ามกับบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ผมเลือกขนมปังชิ้นหนึ่งและกาแฟกระป๋องเพื่อคลายความหิว ผมวางสินค้าลงบนเคาท์เตอร์พร้อมควักเงินให้พนักงานสาวคนนั้น แต่ให้ตายสิ! ทำไมหน้าตาของพนักงานสาวถึงได้คล้ายกับเธอคนนั้นมากนักนะ


      ยี่สิบสองบาทค่ะ คุณคะ!! ” พนักงานสาวเรียกผมขณะที่ผมกำลังอึ้งในความคล้ายอยู่ก็ตื่นจากภวังค์

      นี่ครับ ผมยื่นเงินให้เธอแล้วรีบออกมาจากมินิมาร์ทนั้นทันที

       

      หลังจากอิ่มอร่อยกับขนมปังและกาแฟแล้ว ผมจึงเร่งเคลียงานต่อไป

      เฮ้อ...เสร็จซักทีผมยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู

      4 ทุ่มแล้วเหรอเนี่ยผมจึงรีบเก็บของกลับบ้าน  บ้านเหรอ? จะเรียกว่าบ้านก็ไม่ได้หรอก เพราะมันเป็นแค่ห้องเช่าเล็กๆเท่านั้นเอง พอนอนได้คนเดียว ซึ่งผมก็มักจะเดินกลับ เพราะห้องเช่าของผมไม่ไกลจากบริษัทมากนัก ระหว่างเดินกลับมีแสงไฟยามราตรีและเสียงเครื่องยนต์บนท้องถนนเป็นเพื่อนคลายเหงา

      นี่ถ้าเป็นที่โน่นนะ คงจะมีแค่แสงไฟจากหิ่งห้อยที่สวยงาม และเสียงเงียบสงัดเท่านั้นทำไมเราถึงคิดแบบนี้อีกแล้วนะ ผมสลัดหัวอีกครั้งเพื่อไล่เรื่องพวกนี้ออกจากหัวแล้วรีบเดินกลับบ้านเพื่อไปนอน

       

      เมื่อกลับถึงห้องเช่า ผมปิดประตู อาบน้ำให้สบายตัว ให้สายน้ำชำระล้างความฟุ้งซ่านออกไป เสร้จแล้วผมก็มานั่งที่เตียง มองไปรอบๆห้องที่รกรุงรังราวกับรังหนูหรืออาจจะยิ่งกว่าก็ได้

      นี่ถ้าเป็นที่นั่น เธอก็จะคอยบ่นผม แล้วเธอก็จะคอยจัดข้าวของให้เข้าที่อยู่เสมอ ผมคิดพร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดวิทยุที่ผมหอบมาจากที่นั่นด้วย เพลงในวิทยุที่กำลังเปิดอยู่พูดถึงชีวิตของผู้ชายคนหนึ่งที่ขาดคนที่เป็นที่รักของเขา ทำให้ชีวิตของเขาเหมือนจะตาย ตอนนี้ผมก็คงจะเป็นอย่างงั้นมั้ง...


      ผมม่อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้น่ะสายแล้ว

      นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ผมจะไม่มีทางตื่นสายเลย เพราะเธอจะเป็นคนคอยปลุกผมให้ตื่น แล้วพอผมตื่นขึ้นมาก็จะพบรอยยิ้มที่ห่วงใยของเธอผมรีบอาบน้ำแต่งตัว แล้วมองหากระเป๋าสตางค์

      บ้าจริง! กระเป๋าตังค์ไปไหนเนี่ย ? ผมรีบหาทั่วห้อง ในที่สุดก็เจอ

      หนังสือบ้านี่ทับอยู่นี่เองผมหยิบหนังสือเล่มนั้นออก มีอะไรหล่นออกมาจากในหนังสือ นั่นรูปของเธอ น้ำตาของผมเอ่อ น้ำตาที่ไม่เคยไหลมาหลายปีแล้ว น้ำตาลุกผู้ชาย ผมเก็บรูปเธอใส่ในกระเป๋าสตางค์ แล้วรีบออกไปทำงาน

       

      หา!! จะลางาน 3 วันเหรอ ?หัวหน้าถามผมหลังจากที่ส่งงานเสร็จ

      ครับ...ผมตอบเบาๆ

      เอางั้นก็ได้ ว่าแต่จะไปไหนล่ะ ? หัวหน้าถามอีก

      บ้านนอกครับ

       

      ผมรีบกลับห้องเช่าเพื่อมาจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมออกเดินทางในคืนนี้เลย ผมไปซื้อตั๋วรถไฟแล้วกลับมานั่งรอ รถไฟมาแล้ว ผมขึ้นไปเลือกที่นั่งเงียบๆ เพื่อที่จะได้คิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียว เธอจะโกรธผมไหมนะ ? เธอจะเกลียดผมหรือเปล่า ? เธอจะลืมผมแล้วหรือยัง ? แต่ถึงเธอจะโกรธจะเกลียดผมก็เถอะ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะต้องไปพบหน้าเธอให้ได้ เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมรู้แล้วว่าเป็นยังไง รู้แล้วว่า ผมรักใคร ผมรักเธอ...


                รถไฟจอดเทียบชานชลาพร้อมเช้าวันใหม่ ผมก้าวลงมาจากรถไฟ

      ไม่เปลี่ยนไปเลย ที่นี่นะผมมองออกไป เห็นตลาดนัดตอนเช้า ตลาดนี้ผมมักจะมาเดินกับเธอบ่อย ๆ ผมเดินเข้าไปในตลาดเพื่อจะซื้อขนมที่เธอชอบที่สุดไปฝากเธอ

      ไปไหนมาล่ะ ? ไม่เห็นซะนานเลย ป้าอ้อยที่ขายสาคูทักผม

      ไปทำงานที่กรุงเทพฯ มาครับ ผมตอบป้าอ้อยไป

      มิน่าล่ะ ! ไม่เห็นนานเลย นี่กลับมาเยี่ยมนังดาวเรอะ

      ครับป้า ผมคุยกับป้าอ้อยนานเหมือนกัน สุดท้ายก็ได้สาคูของป้าแกติดมือมาด้วย ผมจำทางไปบ้านเธอได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงบ้านของเธอ บ้านไม่เปลี่ยนไปเลย ยังสะอาดสะอ้านอยู่เหมือนเคย เพราะเธอขยัน ผมมองหาเธอนานแล้ว แต่ไม่เห็นเธอเลย แล้วสายตาผมก็เหลือบไปเห็นร่างๆหนึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ นั่นเธอ.... ไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย เธอยังสวยไม่เปลี่ยน ผมคิดว่าเธอคงเป็นผู้หญิง ที่สวยที่สุดในโลกแล้วล่ะ เธอยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผากทำให้เห็นผมที่ยืนอยู่หน้าประตูรั้ว เธอไม่โกรธผม เธอยิ้มให้ผม เธอเก็บของแล้วจะเดินมาเปิดประตูรั้วให้ผม ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วต่อสายถึงหัวหน้า

      หัวหน้าครับ ผมลาออกนะ ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงที่ผมรักที่สุด ที่นี่ตลอดไป ผมวางสาย พร้อมกับเธอที่ยืนตรงหน้า น้ำตาเธอไหลอีกแล้ว ผมกอดเธอ

       

      ผมกลับมาแล้วครับ...แม่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×