ถ้าคุณไม่ชอบความหลอน เเนะนำให้ปิดกากาบาทออกไป เพราะนิยายเรื่องนี้เข้าขั้น เขย่าขวัญเลยทีเดียว
นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า .....เรื่องราวศาลเจ้า เป็นนิยายเรื่องที่สองที่เขียนสยองขวัญของดวงดาหลา
ขอฝากผลงานของไรท์ไว้ในใจของนักอ่านสายดาร์กด้วยนะคะ
สงวนลิขสิทธิ์ห้ามนำไป ดัดแปลง แก้ไข ปรับปรุง เเละยำรวมมิตรเด็ดขาด
แนะนำตัวละคร (ไม่ลงอิมเมจ)
-อัญติกา นันทิเวศฆะ
หญิงสาววัยยี่สิบสามปี บูชาความรัก และทำได้ทุกอย่างให้เขาคนนั้นสนใจ โดยไม่สนใจสิ่งใด
-ภควรณ์ พลาพิริกุล
ครีเอทีฟหนุ่ม ไฟแรง สุขุม ละเอียด มีมนุษยสัมพันธ์ดี เกลียดผู้หญิงทะเยอทะยานเข้ากระดูก
-มัลลิณา พลาพิริกุล
แฟนสาวคนเก่าของภควรณ์ ใจร้อน วู่วาม และ ชอบทำร้ายร่างกายตนเอง
พูดคุย เพจนักเขียน ดวงดาหลา สรีสามัญ รติธร เหม่ยเหริน
อีบุ๊คสยองขวัญของ นักเขียน ดวงดาหลา
ปิ่นทองบุษราคัม ภาค 1 และ ปิ่นทองบุษราคัม ภาค 2
| ปิ่นทองบุษราคัม | ดวงดาหลา | www.mebmarket.com | ราตรีบุหลันสีเลือด“อมระ เดินดีๆ นะจ้ะ” แพรจินต์เอ่ยเรียกสติของพระมเหสีผู้ซึ่งตอนนี้แอบติดตามนางมายังท้ายพระราชวังเพราะระหว่างทางสองข้างคล้ายป่ารกชัฏ เพื่อมิให้มีนางข้าหลวงนางใดสงสัยจึงจำต้องปลอมองค์ออกมาเช่นนี้“จ้ะป้าจินต์” อมระหรือ มเหสีคันธาฤราเอ่ยตอบพลางจ้องมองไปยังพระวิหารเบื้องหน้า“พระมเหสีเชิญเสด็จข้างในเถิดเพคะ” แพรจินต์กล่าวก่อนจะเดินตามเข้าไปข้างในพระวิหารพระพี่เลี้ยงแพรจินต์พาพระมเหสีคันธาฤราลัดเลาะมาทางห้องแห่งหนึ่ง ทางเข้าพระวิหารนั้นค่อนข้างซับซ้อนนั้น ด้วยองค์ราชันมิอยากให้ใครมาข้องเกี่ยวกับที่นี่นัก สรีทั้งสองเดินทางมาถึงห้องปิดตายแห่งหนึ่งก่อนที่แพรจินต์พระพี่เลี้ยงจะเป่าคาถาอาคมแล้วทันใดนั้นประตูก็เปิดขึ้น โดยสรีทั้งสองไม่รู้เลยว่า ธิบดีทหารเอกและองค์ราชันได้ตามมาในครั้งนี้ด้วยภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า คือหญิงสาวในชุดผ้าแพรเนื้อดีสีทองคำยาวกรอมเท้า พระเกศาทรงปักพระจุฑามณีทองคำประดับด้วยมณีบุษราคัม ผ้าเนื้อแพรบางเบาทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งได้ชัดเจนขึ้น ดวงตาคู่สวยเพ่งมองลูกไฟที่อยู่ตรงแท่นบูชาซึ่งลุกโชนด้วยความปรารถนาแรงกล้า“ข้ามเหสีคันธาฤรา ขอเซ่นสังเวยสรีงามในวันราตรีบุหลันสีเลือด ขอผีฟ้าจงรับนางเพื่อทำให้ข้าเป็นอมตะเหนือผู้อื่นใดในพิภพนี้” สิ้นคำพระมเหสีผู้เลอโฉมพลันหยิบกริชสังหารมาปักลงตรงกลางใจของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายนั้น หญิงสาวนางนั้นกรีดร้องอย่างทรมานเธอพยายามดิ้นอย่างทรมาน“เจ้าจงทำใจให้สบายเถิดแม่ญิง เพลานี้ผีฟ้า ผู้คุ้มครองนคราแห่งนี้ กำลังจะพาเจ้าไปอยู่ด้วยเจ้าจักมิตายอย่างทรมานเป็นแน่ ฮ่าๆ” สิ้นสุรเสียงของมเหสีคันธาฤรา หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็เสียชีวิตอย่างน่าสงสาร พระมเหสีคันธาฤรา ทรงนำเลือดของสรีเมื่อครู่ที่แพรจินต์ได้นำมาใส่คนโทลักษณะวิจิตรราดลงบนเศียร ของพระนาง ก่อนจะทรงนำไปเทใส่คนโทอีกคนโทหนึ่ง แพรจินต์ที่รู้หน้าที่เลยนำไปผสมให้เข้ากันกับน้ำยาสมุนไพรสาวล้านปีของเธอ“เสวยสิเพคะ เพราะอีกไม่นานความงามนิรันดร์จะเป็นของพระองค์” แพรจินต์คลานเข่าเพื่อนำมาให้พระมเหสีคันธฤดีเสวยพระมเหสีรับมาเสวยจนหมด ก่อนที่พระพักตร์ของนางจะงดงามดังเช่นเคย พระมเหสีผู้คงความอ่อนเยาว์ไว้บนพักตราช่างงดงามสมดังคำร่ำลือ! | |
|
| ปิ่นทองบุษราคัม ภาค 2 | ดวงดาหลา | www.mebmarket.com | ‘อันว่าดอกไม้ยามหอมกลับรัญจวนใจจนยากที่จะเลิกเสน่หายามโรยรากลับเป็นที่น่ารังเกียจเปรียบดั่งชีวิตของพระสนมทั้งสี่ทิศ’==================================== แสงอรุณเบิกขอบฟ้า ดวงตะวันสาดรัศมีส่องลงมายังผืนน้ำกว้างใหญ่ เส้นแสงสีทองสว่างสะท้อนให้เห็นหมู่มัจฉาที่แหวกว่ายกันอย่างขวักไขว่ บ้างมีลวดลายสีสันแปลกตากันไป… ตามขอบสระมีหินสีขาวแซมกรวดเรียงร้อยต่อกันเชื่อมต่อล้อมรอบสระบัวขนาดใหญ่ ก้านดอกนวาระพลิ้วไหวไปมาตามแรงวาโยราวกับภุมรีเริงระบำอย่างสราญใจ เอนไปทางซ้ายทีเอนทางขวาที อ่อนไหว…ราวมีชีวิต==========================================“โอ๊ยทำไมมันร้อนอย่างนี้ นางแสง” สุรเสียงหวานตรัสออกจากเรียวโอษฐ์สีชาดเข้ม“กรี๊ด” พระสนมปราพินีหวีดร้องดังลั่นยามเมื่อแหงนพระพักตร์ขึ้นไปยังฝ้าเพดาน เงาตะคุ่มสีดำทะมึนเกาะอยู่ ทว่าฉับพลันวิญญาณพระมเหสีคันธาฤรากลับห้อยเศียรลงมารดพระนาสิกของสนม ปราพินี“ออกไปนางมเหสีคันธาฤรา” สุรเสียงนั้นกรีดร้องจนแหบพร่า พระสนมคว้าหมอนฟาดไปที่วิญญาณร้าย | |
|
| นางฟ้อนปักปิ่นตาย | ดวงดาหลา | www.mebmarket.com | เพริศพิลาสเลอฟ้านางอัปสรอรชรโสภาเสมอไหนเจ้ามาจากฟากฟ้าวิมานใดสี่ห้องใจร่ำร้องเรียกหานาง++++วะศวรยธปุระ บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นด้วยบารมีของกษัตริย์รูปงาม วะศวรวิฑูรา ข้างพระพาหาของพระองค์มีมเหสีเลอโฉม ‘อมรามันตรี’ ปกครองร่วมกัน ว่ากันว่า เจ้านางอมรามันตรีเป็นธิดาท่านเจ้าพญาเมือง ‘อมฤตมันตรา’ และเจ้านางสิริมณฑา ธิดาท่านท้าวพญา อรุณโศนรณะ แสงสุรีย์ฉายฉาบขอบฟ้าอาบท้องคคนานต์จนเห็นเส้นเป็นสีทองอร่ามตา สาดส่องลงมายังพระตำหนักศิลาขาวจนเกิดเป็นเส้นแสงลอดผ่านทะลุช่องประตูด้านข้าง ‘พระตำหนักมเหสี’ ตั้งอยู่ตรงรอยต่อระหว่างตัวปราสาทแห่งนี้ตำหนักใหญ่ทำจากหินอ่อนสีขาวกระจ่างตา รอบด้านพระตำหนักเต็มไปด้วยรูปสลักนูนต่ำ บ้างก็เป็นรูปนาคี บ้างก็เป็นรูปกินนรีถูกสร้างขึ้นด้วยหินผาอย่างปราณีตและงดงาม รอบด้านพระตำหนัก ทางทิศเหนือยังมีสระโกมุทสีสวย หินพิมายเรียงรายวางอย่างบรรจงรอบขอบสระ สระบัวปริ่มน้ำจะทะลักเป็นสระน้ำที่ใสแจ๋วเสียจนเห็น หมู่ปุถุโลมว่ายน้ำกันอย่างสราญอารมณ์ | |
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น