คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่เก้า : หญิงงามล่มเมือง
เป็นมารดาของทรราชมิใช่เรื่องง่าย
แต่งโดย เดือนสีนวล
*
ตอนที่เก้า : หญิงงามล่มเมือง
*
ยังไม่ตรวจคำผิด
ยังไม่ตรวจคำผิด
ยังไม่ตรวจคำผิด
รัชศกจินเหยียนปีที่แปดของแคว้นเฮ่อหลางนั้นนับว่ารุ่งโรจน์ การทหารก้าวหน้ากว่าแคว้นข้างเคียง ภาษีที่ราษฎรต้องเสียนั้นก็ไม่ถือว่าไม่เข้าเนื้อ อาหารการกินมีเอกลักษณ์ วัฒนธรรมโดดเด่น อีกทั้งภูมิศาสตร์ของแคว้นเฮ่อหลางยังเปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เหมืองทอง เหมืองหยก แม้กระทั่งเหมืองมุกราตรีก็หาได้ไม่ยากเย็น ทว่าส่วนใหญ่แล้วเหมืองแร่เหล่านั้นล้วนเป็นของหลวง ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแคว้นเฮ่อหลาง แคว้นข้างเคียงย่อมบังเกิดความริษยา สามชายแดนภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้จึงเกิดสมรภูมิรบอยู่บ่อยครั้ง
แต่สนามรบที่ดุเดือดมากที่สุด โหดเหี้ยมมากที่สุด มีศพทหารนับหมื่นนับแสนล้วนมาจากสงครามจากชายแดนภาคใต้ แคว้นตงอู๋ ว่ากันว่าแคว้นตงอู๋นั้นขึ้นชื่อเรื่องกำลังทหารและการรบ หลายร้อยปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ยุคปฐมกษัตริย์ ทั้งสองแคว้นมักจะทำสงครามแย่งชิงดินแดนกันบ่อยครั้ง และส่วนใหญ่ก็เป็นแคว้นเฮ่อหลางที่กำชัยชนะกลับบ้านเมือง เนื่องด้วยภูมิศาสตร์ชายแดนภาคใต้ของแคว้นเฮ่อหลางนั้นเป็นเทือกเขาสูง แคว้นตงอู๋จึงเสียเปรียบในด้านสนามรบ ทว่าห้าปีที่ผ่านมานี้แคว้นตงอู๋มีการเปลี่ยนรัชศกใหม่ ผู้ครองบัลลังก์มังกรคืออดีตแม่ทัพ ก่อนที่จะขึ้นครองราชบัลลังก์ทรราชผู้นี้ได้ทำการปลิดชีพเชื้อพระวงศ์แคว้นตงอู๋จนหมดสิ้น
ฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นถึงอดีตแม่ทัพเกรียงไกร เห็นคนฆ่าคน เห็นผีฆ่าผี ด้วยสัญชาติญาณ ประสบการณ์ และการวางแผนรบของฮ่องเต้องค์ใหม่ สงครามที่ชายแดนภาคใต้ของแคว้นเฮ่อหลางจึงเริ่มตึงมือมากขึ้น ด้วยกำลังทหารที่ถูกฝึกอย่างโหดเหี้ยม ยุทโธปกรณ์รูปแบบใหม่ หากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ แคว้นเฮ่อหลางคงพ่ายแพ้ให้กับแคว้นตงอู๋ในอีกไม่ช้า
ด้วยเหตุนี้แม่ทัพจากทั้งจตุุรทิศของแคว้นเฮ่อหลาง รวมถึงองค์จักรพรรดิซ่งจินเหยียน จึงต้องเดินทางมาถึงสนาบรบด้วยตนเอง สถานการณ์ที่เคยตึงเครียดจึงเริ่มผ่อนคลายลง แคว้นตงอู่ถอยทัพกลับบางส่วน เหตุเพราะวรยุทธของฮ่องเต้ซ่งจินเหยียนนั้นนับว่าสูงส่ง ด้วยกระบี่คู่วรกาย ตวัดหนึ่งครั้งศัตรูล้มตายถึงสี่คน แม่ทัพจากแดนเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และแดนใต้ก็มิอาจดูแคลนได้ กล่าวกันว่าบุรุษทั้งห้าคนนี้เติบโตมาจากอาจารย์คนเดียวกัน เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่เหนียวแน่น เมื่อทหารแคว้นเฮ่อหลางเห็นนายเหนือหัวร่วมสนามรบ ย่อมบังเกิดกำลังใจต่อสู้ ผ่านไม่ไปถึงหนึ่งเดือนสถานการณ์จึงพลิกฝัน องค์จักรพรรดิซ่งจินเหยียนและแม่ทัพจตุรทิศสามารถกำชัยชนะแดนใต้กลับมาได้อย่างราบคาบ
กลายเป็นว่าแคว้นเฮ่อหลางได้ครอบครองดินแดนของแคว้นตงอู๋เพิ่ม จับเชลยศึกได้นับร้อย อีกทั้งแคว้นตงอู๋ยังมีสมุนไพรล้ำค่าในแดนเหนืออีกมากมาย ชัยชนะของแคว้นเฮ่อหลางจึงนับว่าได้กำไรมหาศาล ไม่ขาดทุนเลยแม้แต่น้อย เมื่อสมรภูมิรบได้ตัดสินผู้ชนะ องค์จักรพรรดิซ่งจินเหยียนและกองกำลังทหารอีกสามแดนที่เข้ามาช่วยเหลือจักต้องกลับแดนของตนเพื่อประจำการ คาดว่าอีกหนึ่งเดือนฮ่องเต้แคว้นเฮ่อหลางน่าจะถึงเมืองหลวง ชาวเมืองที่ทราบข่าวต่างยินดีให้กับชัยชนะครั้งนี้ อีกไม่นานน่าจะมีงานเลี้ยงและเทศกาลสำคัญสำหรับเฉลิมฉลองข่าวดี
เมื่อองค์จักรพรรดิซ่งจินเหยียนไม่ประจำอยู่เมืองหลวง ผู้มีอำนาจสูงสุดย่อมเป็นเมิ่งไทเฮา วันนี้นับว่าเป็นฤกษ์งามยามดี แคว้นเฮ่อหลางกำชัยชนะ ภายในงานเลี้ยงประชันบุปผาจึงคึกคักยิ่งนัก มีคุณหนูและคุณชายสูงศักดิ์จากต่างสกุลมากหน้าหลายต่างเข้าร่วมงานเลี้ยง เมิ่งไทเฮานั้นให้ความสำคัญกับยศฐาบรรดาศักดิ์เป็นอย่างยิ่ง คุณหนูคุณชายผู้ใดถือกำเนิดจากฮูหยินรอง หรืออนุภรรยา ย่อมไม่มีสิทธิก้าวเข้างาน แขกเหรื่อที่พูดคุยกันมากมายจึงมีเพียงสตรีและบุรุษที่ถือกำเนิดจากฮูหยินเอก
งานเลี้ยงประชันบุปผาจัดขึ้น ณ อุทยานหลวง รอบข้างเต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ บุปผาถูกจัดเรียงอย่างสวยงามคล้ายเชยชมแดนสวรรค์ ใจกลางอุทยานมีโต๊ะไม้หอมขนาดใหญ่และลากยาว แบ่งซ้ายขวาชัดเจน ฝั่งขวาคือฝั่งของบุรุษ ส่วนฝั่งซ้ายคือฝั่งของสตรีที่ยังไม่ออกเรือน ด้านหน้าสุดที่เป็นใจกลางมีพระที่นั่งงดงามและหรูหราเจ็ดตำแหน่ง ถูกสร้างด้วยทองและหยกชั้นดี มีเพียงพระที่นั่งสองตำแหน่งที่ถูกประดับด้วยมุกราตรี แน่นอนว่าเชื้อพระวงศ์ที่สามารถครองพระที่นั่งทั้งสองนี้ได้ มีเพียงเว่ยฮองเฮา ฮ่องเต้ซ่งจินเหยียน และเมิ่งไทเฮาเท่านั้น แต่ด้วยองค์จักรพรรดิยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ จึงเหลือเพียงเมิ่งไทเฮาและเว่ยฮองเฮา
“ข้าเพิ่งจะได้มีโอกาสมาอุทยานหลวงครั้งแรก เมิ่งไทเฮาทรงพระปรีชาสามารถในด้านการตกแต่งงานเลี้ยงยิ่งนัก”
“เจ้าไม่รู้อะไร ปีที่แล้วเมิ่งไทเฮาถึงขั้นจัดงานเลี้ยงในท้องพระโรง ข้าได้เห็นมุกราตรีนับพันประดับข้างผนัง เสาหนึ่งต้นก็สามารถซื้อจวนได้หลายสิบจวนแล้ว ปีนี้แม้จะไม่หรูหราเท่าปีที่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าบุปผางามหายากเหล่านี้สร้างความจรรโลงใจไม่น้อย”
เสวี่ยหนิงฮวาลอบฟังบทสนทนาของสองฮูหยินเอกสกุลอื่น นางคลี่ยิ้มอ่อนหวานให้สามีพร้อมปรนนิบัติเขาด้วยกิริยาเรียบร้อย เจิ้งกู่หยวนคุณชายสามสกุลเจิ้ง หรือสกุลรองแม่ทัพแห่งเมืองหลวง นางได้โอกาสคว้าหัวใจบุรุษอันดับหนึ่ง ทั้งยังเป็นอดีตคู่หมั้นหมายของน้องหญิงสาม เสวี่ยหนิงฮวาย่อมรู้สึกภาคภูมิใจ
หากนางไม่ได้แต่งเป็นฮูหยินเอกของเขา เสวี่ยหนิงฮวาย่อมไม่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ เหตุผลหลักนั่นก็เพราะนางคือบุตรีที่เกิดจากฮูหยินรอง แต่เมื่อแต่งเข้าจวนสามี บุตรสาวที่แต่งงานออกไปก็กลายเป็นลูกคนอื่น นางจึงมีสิทธิเข้าร่วมงานเลี้ยงประชันบุปผาปีนี้ได้ แตกต่างกับหนิงเหมยและหนิงซินที่ไม่เคยมีโอกาสย่างกรายเข้าแม้แต่ปลายนิ้ว
เสวี่ยหนิงฮวาโดดเด่นมากที่สุดในบรรดาบุตรของสกุลเสวี่ย นางงดงามยิ่งกว่ามารดาของตน ท่านแม่เคยบอกเสวี่ยหนิงฮวาว่ารูปโฉมนางคล้ายพี่สาวของมารดาที่จากไป ในอดีตท่านป้าเคยเป็นสาวงามเลื่องชื่อ แต่โดยความโชคร้ายจึงสิ้นชีพก่อนวัยปักปิ่น คาดว่าท่านแม่และท่านป้าคงจะไม่ถูกกัน เสวี่ยหนิงฮวาที่มีใบหน้าคล้ายท่านป้าจึงถูกมารดาเกลียดชังไปด้วย ที่ผ่านมานับสิบเก้าปีเสวี่ยหนิงเหมยหรือน้องหญิงสามจึงสามารถกลั่นแกล้งนางได้ตามใจชอบ ในที่สุดนางก็สามารถหนีออกจากนรกบนดินแห่งนั้นได้เสียที
“ท่านพี่เจ้าคะ น้องเคยได้ยินว่าสวีกุ้ยเฟยงดงามเป็นอย่างยิ่ง” นางชวนสามีพูดคุยเสียงเบา โต๊ะไม้หอมฝั่งขวาที่เป็นฝั่งของบุรุษ มีเพียงสตรีที่ถูกตบแต่งเป็นฮูหยินเอกเท่านั้นจึงจะสามารถนั่งข้างกายบุรุษได้
เจิ้งกู่หยวนวางจอกชาลงและพยักหน้า “เป็นความจริง พี่เคยเห็นพระสนมตอนเข้าท้องพระโรง พระนางงดงามดังคำเปรียบเปรยจริงๆ”
เสวี่ยหนิงฮวายิ้มรับ หากไม่นับเชื้อพระวงศ์ ในงานเลี้ยงประชันบุปผาเสวี่ยหนิงฮวามีความงามโดดเด่นมากที่สุด มีบุรุษมากหน้าหลายตาต่างลอบชมนางอยู่บ่อยครั้ง เจิ้งกู่หยวนย่อมมองเห็นสายตาริษยาของบุรุษด้วยกัน เขาคิดถูกแล้วจริงๆ ที่รับเสวี่ยหนิงฮวาเป็นฮูหยินเอก
เสวี่ยหนิงเหมยมีกิริยาเพรียบพร้อม และเป็นบุตรีที่เสนาบดีเสวี่ยให้ความสำคัญก็จริง แต่ทว่าข่าวลือของนางนั้นโหดเหี้ยม เคยมีบ่าวรับใช้ถูกโทษโบยจนตายเพียงเพราะประพฤติตนผิดพลาดเล็กน้อย มิหนำซ้ำเสวี่ยหนิงเหมยยังโมโหร้ายเป็นอย่างยิ่ง สตรีใดที่เจิ้งกู่หยวนข้องเกี่ยว นางเหล่านั้นต่างถูกลอบทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
เสวี่ยหนิงฮวาลอบมองบิดาของนางที่อยู่ถัดไป ข้างกายเสนาบดีเสวี่ยหรงซวนนั้นมีฮูหยินเอกมู่เฟิ่งเซียน อดีตเป็นหญิงงามล่มเมืองและคู่หมั้นของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง ข้างกายบิดายังมีพี่ชายต่างมารดรอย่างเสวี่ยหยุนเชิง นางหลุบตาลงหลังบิดาหันมาสบตา ภายใต้ใบหน้านุ่มนวลนั้นซุกซ่อนความเย้ยหยัน
หึ ท่านแม่ ต่อให้ท่านเป็นที่โปรดปราน เป็นที่รักของท่านพ่อแล้วอย่างไร ท้ายที่สุดสตรีที่ท่านพ่อสามารถควงเข้างานเลี้ยงสูงศักดิ์ได้ ก็มีเพียงมู่เฟิ่งเซียนผู้นั้น นางจะไม่มีวันใช้ชีวิตเฉกเช่นมารดาของตนอย่างแน่นอน
“เมิ่งไทเฮา เว่ยฮองเฮาเสด็จ” ขันทีหน้างานเอ่ยประกาศเสียงดัง ข้าหลวงและแขกเหรื่อต่างคำนับ
“ถวายพระพรเมิ่งไทเฮา ถวายพระพรเว่ยฮองเฮา ของพระองค์ทรงพระเจริญพันๆ ปี” บุรุษและสตรีในงานเลี้ยงต่างเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ
เว่ยฮองเฮาประครองเมิ่งไทเฮาด้วยพระพักตร์อ่อนโยน บางครั้งพระนางทั้งสองก็ต่างสนทนากันเล็กน้อย ความอบอุ่นระหว่างลูกสะใภ้และมารดาสามีสร้างความจรรโลงใจในงานเลี้ยงนี้มากขึ้น เว่ยฮองเฮา หรือเว่ยอวี้หลัน บ้านเดิมของนางเป็นถึงผู้มีพระคุณของปฐมกษัตริย์แคว้นเฮ่อหลาง อีกทั้งก่อนที่นางจะตบแต่งเป็นพระชายาเอกซ่งจินเหยียน เว่ยอวี้หลันเคยช่วยเหลือเมิ่งไทเฮาจนฟื้นแก่ความตาย ด้วยประการนี้เมิ่งไทเฮาจึงเอ็นดูและโปรดปราณลูกสะใภ้คนนี้มากที่สุด
เว่ยอวี้หลันมิใช่สตรีที่งดงามมากที่สุดในวังหลัง ทว่านางสามารถครองใจแม่สวามีได้ อีกทั้งบ้านเดิมยังมีความเป็นมายิ่งใหญ่ แม้ตนจะไม่มีทายาทให้สืบทอดราชบัลลังก์ พระนางก็ยังไม่ถูกปลดจากตำแหน่งฮองเฮา
ด้านหลังของสตรีสูงศักดิ์ทั้งสอง คือสวีกุ้ยเฟยและจ้าวซูเฟย เป็นอีกครั้งในงานเลี้ยงประชันบุปผาที่สวีกุ้ยเฟยผู้นี้กลายเป็นจุดโดดเด่น นางสวมอาภรณ์สีทองสง่า ปักลวดลายนกยวนยางด้วยดิ้นเงิน กรงโปรงถูกประดับด้วยเพชรพลอยสีเหลืองทอง ชายอาภรณ์ยังมีดิ้นขาวปักลวดลายดอกฉูจู๋ร์ เครื่องหัวที่สวมอยู่นั้นยังมีมุกราตรีถึงสามมุก ใบหน้าขาวผ่องคล้ายจันทราถูกตกแต่งด้วยเรียวคิ้วโก่ง นัยน์ตาหงส์ จมูกจิ้มลิ้ม และริมฝีปากแดงจัดจากชาดคุณภาพดี ปิ่นที่ปักเรือนผมดำขลับอยู่นั้นล้วนเป็นปิ่นหยกขาวมันแพะที่ดีที่สุด ทั้งถูกแกะสลักให้เป็นลวดลายดอกฉูจู๋ร์ บุรุษในงานทั้งหลายต่างลอบทอดสายตามองสวีกุ้ยเฟยคล้ายคนต้องมนต์สะกด
เว่ยฮองเฮาลอบจิกมือของตน พระพักตร์ของนางยังคงแย้มยิ้มเฉกเช่นเคย แม้จะสวมอาภรณ์สีแดงฉานตามธรรมเนียมมารดาของแผ่นดิน แม้เครื่องประดับ และผ้าทั้งหมดจะเป็นของที่ดีที่สุด เว่ยฮองเฮาก็มิอาจสู้ความงามของอิสตรีด้านหลังได้จริงๆ ที่พ่ายแพ้อย่างน่าอดสู คือเด็กชายตัวเล็กร่างอวบอ้วนถึงสองคนที่ยืนข้างกายสวีกุ้ยเฟย
องค์ชายใหญ่ซ่งหลี่เฉียง และองค์ชายรองซ่งตันเยี่ยน ทั้งสองล้วนถือกำเนิดจากสวีกุ้ยเฟยเพียงแต่ผู้เดียว รองลงจากเว่ยฮองเฮา นางผู้นี้เป็นที่โปรดปรานของมารดาสามี สกุลเดิมมั่งคั่งร่ำรวยอันดับหนึ่ง เว่ยฮองเฮาจึงมิอาจกระทำอุกอาจต่อสวีกุ้ยเฟยได้ ยามสวีเจียลี่คลอดโอรส ใจจริงของเว่ยอวี้หลันนั้นแทบอยากจะฉุดทารกทั้งสองมาเป็นของตน แต่เนื่องด้วยสวีกุ้ยเฟยนับว่ามีอำนาจในวังหลัง ทั้งมารดาสามีก็เอ็นดูสวีกุ้ยเฟยไม่น้อย นางจึงไม่อาจทำตามพระทัยนึกได้
เมื่อเชื้อพระวงศ์ทั้งหกคนประทับนั่งในที่ของตน บุรุษและสตรีในงานก็ต่างสังเกตเห็นว่ายังมีพระที่นั่งอีกหนึ่งตำแหน่งที่ว่างเว้นอยู่ บางคนเริ่มสนทนากันว่าพระที่นั่งนั้นเป็นของใคร บางคนก็สำรวมกิริยาต่อหน้าเชื้อพระวงศ์ หวังให้ตนต้องตาของสตรีสูงศักดิ์
“สวีเต๋อเฟยยังไม่มาอีกหรือ” เว่ยฮองเฮาตรัสเสียงเย็น นางได้โอกาสเหน็บแนมสตรีที่ตนเกลียดชัง จึงตรัสอย่างลำพอง “สวีกุ้ยเฟย เจ้าเป็นถึงพี่สาว สั่งสอนน้องสาวอย่างไรให้มางานสำคัญล่าช้ากว่าแม่งาน”
สวีเจียลี่ลูบหลังโอรสทั้งสองของตน นางแสร้งยิ้มเศร้าโศก ปัดความผิดไปให้สายเลือดเดียวกัน “เรียนฮองเฮา แท้จริงแล้วหม่อมฉันได้เตือนสวีเต๋อเฟยให้มาตรงเวลาแล้วเพคะ หม่อมฉันทั้งส่งจดหมายให้นางปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ไม่คิดเลยว่า…”
“เอาล่ะๆ พวกเจ้าอย่าทะเลาะกันต่อหน้าราษฎรเช่นนี้ ไม่รู้สึกขายหน้าเลยรึ” เมิ่งไทเฮาตรัสเสียงเบาด้วยความขุ่นเคือง เดิมทีนางก็ไม่โปรดปรานสวีเต๋อเฟยอยู่แล้ว สตรีนางนั้นทั้งเหี้ยมโหด อารมณ์ร้าย เมิ่งเจี่ยนซินย่อมรู้สึกรังเกียจสตรีที่ไม่แม้แต่จะเก็บงำความโสมมของตน
ขณะที่แม่งานกำลังจะป่าวประกาศเปิดงาน เสียงขันทีอยู่ด้านหน้าประตูก็พลันเอ่ยเสียงดังสนั่นเสียก่อน “สวีเต๋อเฟยเสด็จ!”
แขกเหรื่อในงานรวมถึงเชื้อพระวงศ์ต่างหันไปมองสตรีที่เดินเข้ามาอย่างพร้อมใจ คราแรกสวีกุ้ยเฟยและเว่ยฮองเฮาคิดจะติเตียนสวีเต๋อเฟยที่มางานสายกว่าผู้อื่นเสียหน่อย แต่เมื่อได้ยลโฉมของหนึ่งในสี่พระสนมเอกที่เคยขึ้นชื่อว่างดงามน้อยที่สุด พวกนางก็ต่างตะลึงค้าง
“…”
ลมหายใจของบุรุษนับร้อยถูกช่วงชิงในพริบตา สตรีสูงศักดิ์ผู้นี้คือสวีเต๋อเฟยจริงหรือไม่
ความงามล้ำเลอค่าปานหยาดสวรรค์ พระพักตร์ขาวมนกระจ่างใสยิ่งกว่าอิสตรีใด เรือนผมหนานุ่มดำขลับดุจหมึกถูกเก็บรวบไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นคอเรียวขาวปานพระจันทร์ เครื่องหัวล้วนเหมาะสมตามตำแหน่งเต๋อเฟย ใบหน้าของอดีตพระสนมที่เคยขึ้นชื่อว่างามน้อยที่สุด ในยามนี้แม้แต่สวีกุ้ยเฟยที่เลื่องลือเรื่องความงามยังมิอาจสู้ได้ ความงามล่มบ้านล่มเมือง สร้างสงครามแย่งชิงระหว่างดินแดนนั้นเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดเหล่าแขกเหรื่อและเชื้อพระวงศ์ที่เหลือต่างเข้าใจในที่สุด คิ้วของพระนางนั้นเรียงเรียวคล้ายถูกปรมาจารย์ชื่อดังวาดไว้ นัยน์กลมโตสว่างไสวดูลึกลับคล้ายนางหงส์ที่หลบซ่อนในป่าท้อสวรรค์ หางพระเนตรเรียวคมดุจบาดลึกจิตใจบุรุษมากมายที่ทอดมอง เปลือกตาของนางประดับด้วยสีแดงหม่น ยามต้องแสงอาทิตย์ยังเปล่งประดายระยิบระยับ โดยเฉพาะริมฝีปากแดงระเรื่อ ดูธรรมชาติ ราวกับมิได้ทาชาดแม้แต่อย่างใด
รูปโฉมสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน แต่ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้น คืออาภรณ์สีน้ำเงินเข้มที่สวมอยู่ ช่างเพริศพริ้งสะดุดตา ไล่เลียงสีจากด้านบน อ่อนไปถึงเข้ม ประดับด้วยแสงระยิบระยับ ยามต้องเงาคล้ายทอแสงได้เอง ชายกระโปรงสีเข้มถูกปักด้วยดิ้นทอง ยิ่งทอดมองอาภรณ์ก็ราวกับได้เชยชมดวงหมู่ดารานับหมื่น สวีเต๋อเฟยในยามนี้งามล่มเมืองยิ่งกว่าอิสตรีใด หากสวีกุ้ยเฟยดูงดงามและหรูหรา สวีเต๋อเฟยงดงามยิ่งกว่านั้น นางดูลึกลับ ดูน่าค้นหา เสน่ห์เย้ายวนกำจายออกมาจนเหล่าบุรุษหน้าแดงด้วยความตะลึงค้าง
ติดตามตอนต่อไป
_Talk With Me_
วันนี้มาแปลกค่ะ ได้ลงตอนสี่ทุ่มกว่าๆ เฉย
ความคิดเห็น