เรื่องสั้น เวลาที่หยุดนิ่ง - เรื่องสั้น เวลาที่หยุดนิ่ง นิยาย เรื่องสั้น เวลาที่หยุดนิ่ง : Dek-D.com - Writer

    เรื่องสั้น เวลาที่หยุดนิ่ง

    หากทุกสิ่งที่เคยมีอย่างปกติหยุดนิ่งลงไป ลองหยุดมองถึงปัญหาและคนสำคัญที่คุณมองข้ามไป

    ผู้เข้าชมรวม

    732

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    732

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 เม.ย. 54 / 14:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เมื่อเวลาหยุดนิ่ง หลายสิ่งที่อยู่ใกล้ก็หายไป อย่าลืมดูแลและรักษาเพื่อนและญาติที่อยู่ใกล้ของคุณ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      “สำเร็จแล้วๆ”        เสียงตะโกนจาก เอ นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ที่ตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความดีใจ หลังจากที่เขาคลุกอยู่แต่ในห้องวิจัยมาเป็นเวลานานหลายอาทิตย์ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ที่เขาคิดว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนโลกทั้งใบเลยทีเดียว สิ่งประดิษฐ์นั้นคือเครื่องหยุดเวลานั้นเอง ซึ่งเป็นความฝันของมนุษย์มาโดยตลอด และวันนี้เขาทำได้สำเร็จแล้ว

                      “วันนี้แหละที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกชื่อของเราไว้ เทียบชั้นกับเอดิสัน ในฐานะนักประดิษฐ์อัจฉริยะ 555

                      มันคงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ถ้าจะเป็นเช่นนั้น เครื่องหยุดเวลานี้เขาใช้เวลาในการคิดทฤษฎีกว่า 20 ปี แล้วนำความคิดนั้นมาประดิษฐ์ให้เป็นจริง แต่หากจะกล่าวทฤษฎีให้ผู้อ่านฟังก็คงจะงงกันถ้วนหน้า จึงขอไม่เล่าละกัน

                      เอ ก้าวออกจากห้องวิจัยที่เขาคลุกอยู่ไม่ได้ออกมาหลายสัปดาห์

                      “เอ ออกมาแล้วหรอลูก กินข้าวหน่อยไหม”

                      “ไม่ แม่”  แม่เป็นอีกแล้วนะ คนเขากำลังมีความสุข แต่ไม่เห็นจะสนใจผลงานของเราเลย ดูสถานการณ์หน่อยสิแม่ เป็นเรื่องปกติที่เอและแม่ไม่ได้คุยกันมาหลายปีแล้ว พ่อของเขาก็จากไปนานแล้ว เขาต้องทำงานหนักคิดหาทางประดิษฐ์เครื่องหยุดเวลา ในระหว่างที่เรียนหนังสือ เอก็อยู่ที่หอ เพราะรู้สึกรำคาญแม่ที่จู้จี้จุกจิก คอยบ่น คอยสั่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาเรียนจบก็ไม่ให้แม่ไปงานรับปริญญา เพราะเขารู้สึกน่ารำคาญที่มีแม่มาคุม หลังจากเรียนจบเอก็พยายามสอบชิงทุนไปต่างประเทศ และเขาก็ทำสำเร็จ เขาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศนานกว่า 3 ปี แต่เขาก็ส่งเงินมาให้แม่ตลอดเวลานะ เขาทำเพื่อความสำเร็จใครจะว่าเขาก็ไม่ได้

                      “เดี๋ยวผมไปข้างนอกนะ”

                      “จะไปไหนละ ลูก”

                      “แม่ไม่ต้องรู้หรอกนะ”           วันๆหนึ่งแม่จะคอยจู้จี้กี่ทีกันนะ รำคาญที่สุด แต่แล้วเอก็ออกมาจากบ้าน เดินไปตามท้องถนน เขาไม่เคยรู้สึกผิดเลยที่ทิ้งแม่ไว้ที่บ้าน เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังอยู่กับแม่ ส่งเงินให้ใช้ ผิดกับอีกหลายๆคนที่ทิ้งพ่อแม่ออกมา ไม่เคยสนใจ ไม่เคยส่งเงินดูแล เอยังคิดว่า เขาทำถูกแล้ว เพราะสังคมปัจจุบันเป็นเช่นนี้ จะให้เหมือนกับในอดีตคงเป็นไปไม่ได้ อะไรๆก็เปลี่ยนไปแล้ว

                      ช่างเถอะ! เลิกสนใจเรื่องของแม่ดีกว่า ลองมาใช้งานเจ้าเครื่องหยุดเวลานี้ดีกว่า เอได้ออกแบบให้เครื่องมีลักษณะเหมือนมือถือโดยทั่วไป วิธีใช้ก็แสนจะง่าย เพียงแค่ตั้งเวลาว่าจะให้หยุดสักกี่นาที กี่ชั่วโมง แล้วกดปุ่มเขียว(ไม่ใช่ปุ่มโทรออกนะ) มันก็จะหยุดเวลาให้ทุกสิ่งในโลกยกเว้นผู้ที่ถือเครื่องนี้เท่านั้น เอคิดว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์มากหากใช้กับกรณีอุบัติเหตุ ลองคิดดูว่าในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน หากหยุดเวลาไว้แล้วทำการรักษา ก็คงจะไม่มีการเสียชีวิต แต่เอก็รู้ดีว่าสิ่งนี้มีโทษมากเช่นกัน หากมีกลุ่มคนร้ายเอาไปใช้ ปล้น ขโมยของตามสถานที่ต่างๆ หรืออาจจะลักพาตัว ข่มขืน หรือฆ่าคน เขาจะต้องไม่ทำสิ่งนี้ให้แพร่หลาย และจำกัดการใช้

                      เขาลองตั้งเวลาคร่าวๆ 5 นาที แล้วกดปุ่มเริ่มต้นการใช้งาน ทุกสิ่งหยุดนิ่ง ใบไม้ที่หยุดค้างกลางอากาศ สายน้ำหยุดค้าง เด็กน้อยที่วิ่งเล่นหยุดนิ่ง ชิงช้าสวรรค์ลอยค้าง เขาทำสำเร็จ เขาทำได้แล้ว เอ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มชาวไทยจะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล เมื่อเวลา 5 นาทีที่ตั้งไว้หมดลง ทุกสิ่งกลับคืนสู่สภาพเดิม เอ ยิ้มอย่างภูมิใจ และเดินกลับบ้านอย่างผู้ชนะ เอาละหลังจากนี้เขาจะทำอะไรดีนะ จะประกาศออกสื่อ หรือจะจดสิทธิบัตรก่อนดีนะ หรือว่าจะเอาไปแกล้งคนก่อนดี เอาละ เอตัดสินใจแล้ว ไหนๆเขาก็เหนื่อยกับมันมานานแล้ว เขาขอมีความสุขเล่นสักหน่อย

                      เขาตรงไปยังห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง ในขณะที่ผู้คนกำลังมากมายเพราะเป็นวันหยุด ถ้าหากเขากดหยุดเวลาตอนนี้ แล้วเวลาคืนสภาพคงจะเป็นที่สงสัยแน่ เอาละ เอตัดสินใจเข้าไปยังห้องน้ำ จากนั้นตั้งเวลา อืม ลองระยะยาวหน่อยดีกว่า เอตั้งค่าไว้ที่ 1 ชั่วโมง แล้วกดเริ่มการทำงาน

                      ทุกสิ่งหยุดนิ่ง เอ เดินออกจากห้องน้ำ เขารู้สึกเดินท่ามกลางหุ่นจำนวนมาก เขาสังเกตแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ก็ไม่ค่อยจะเห็นครอบครัวใหญ่เลย หากเป็นปกติเขาคงจะเดินผ่านไปไม่สนใจ แต่เมื่อเวลาหยุดนิ่งเขามีเวลาสังเกตได้มากขึ้น โดยมาแล้วเป็นวัยรุ่นที่มากัน บางคนมากับเพื่อนเป็นกลุ่ม บางคนก็มากับแฟนดูได้จากที่เดินจับมือกัน เขาคิดแล้วก็แปลกใจหากเป็นเมื่อก่อน การจะเป็นแฟนกันนั้นเป็นไปได้ยาก ถึงให้เป็นแฟนกันก็คงจะสวีทหวานแหววได้ยากยิ่ง สงสัยเขาจะแก่แล้ว เอาละๆ นี้ไม่ใช่เวลามาสังเกตสักหน่อย เอคิด เรามาเพื่อแกล้งคนต่างหาก

                      เขาเดินไปที่ศูนย์อาหาร หยิบอาหารที่แพงๆมากินโดยไม่ต้องสนใจว่าจะเสียเงิน ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนทำ เขาเดินออกไปมาแกล้งคนไปเรื่อย เขาแอบเปลี่ยนอาหารในจานของคนนู้น คนนี้ บางคนตักใส่ช้อนเตรียมจะเข้าปาก เขาก็เปลี่ยนออกแล้วเติมพริกลงไปเต็มช้อน เชื่อเถอะว่าเขาไม่คิดไปในทางอกุศลเลย จริงๆ เอาละเขาดูจากในเครื่องพบว่าเวลากำลังจะหมดลง เขาไปแอบซ่อนอยู่ไม่ไกลจากนั้น คอยดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น

                      เมื่อเวลาที่หยุดไว้หมดลง ความโกลาหลก็เกิดขึ้นย่อมๆ อาหารหลายจานหายไป ลูกค้าเริ่มโวยวาย แต่ที่น่าสงสารสุดคงจะหนีไม่พ้นคนที่โดนเปลี่ยนอาหารในช้อนให้เป็นพริก เพราะเขาวิ่งไปทั่วร้านด้วยความเผ็ด ตะโกนอย่างปวดร้อน เรียกหาน้ำอย่างด่วน ในที่สุดก็กระโดดลงสระน้ำกลางห้าง เอ ที่แอบดูอยู่อดขำไม่ได้ทำไมกันนะ คนถึงเข้าใจว่าการกินเผ็ดต้องแก้ด้วยน้ำ ทั้งๆที่ความจริงแล้วยิ่งเป็นการเพิ่มความเผ็ดให้กระจายไปทั่วปากอีก หากจะทำให้หายเผ็ดลองกินนมไม่ก็เกลือสิ เฮ้อ เอาละเขาเล่นสนุกมามากพอแล้ว เขาจึงรีบกลับบ้านดีกว่า

                      เมื่อถึงหน้าบ้าน เขามีความคิดที่จะแกล้งแม่ของเขาด้วยการไปโผล่หน้าแม่ เอาละความคิดดีๆ เริ่มลงมือกันเลยดีกว่า เขาตั้งค่าให้ไม่นานสัก 5 นาที เอาละ กดปุ่มเริ่มใช้งาน เขาเข้าไปในบ้าน เจอแม่แล้ว แม่กำลังจัดเตรียมอาหารบนโต๊ะ กี่ปีแล้วนะที่เขาไม่ได้นั่งกินข้าวร่วมกับแม่ เอาละ เขานั่งบนโต๊ะ เมื่อเวลาที่หยุดไว้หมดลง เขาก็จะโผล่ต่อหน้าแม่ทันที อิอิ เอนั่งรอสักพัก น่าจะได้เวลาแล้วๆ เอาละๆ เตรียมตัวๆ แต่ความผิดปกติก็เกิดขึ้น เพราะทุกสิ่งยังคงหยุดนิ่ง เอเริ่มแปลกใจและหยิบเครื่องหยุดเวลาออกมาดู เขาพบว่ามันเกิดเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น เขาตั้งเวลาหยุดเวลาผิด จากที่คิดจะตั้งเพียงแค่ 5 ปี แต่กลับกลายเป็นว่าเขาตั้งไว้ที่ 50 ปี และที่แย่กว่าเดิมนั้นคือเขาลืมสร้างปุ่มยกเลิก

                      ความกระวนกระวายเกิดขึ้น มันจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ได้กลับไปพูดคุยกับแม่อีกแล้วหรอ เขาจะทำอย่างไรดี เขาคิดจะปรับปรุงเครื่องหยุดเวลานี้ แต่แล้วมันก็เกิดปัญหา เพราะมันขัดกับหลักทฤษฎีนี้ เพราะการหยุดเวลาเป็นเหมือนการย้ายมิติ เขาไม่สามารถทำอะไรในมิตินี้ให้เหมือนเดิมได้

                      คิดสิๆ มันต้องมีทางออก เขาเดินวนไปมารอบบ้าน เวลายังคงหยุดนิ่ง แต่ในความเป็นจริงคงจะผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง เขากำลังจะเป็นบ้า เมื่อไม่สามารถหาทางออกไป เขานั่งอย่างหมดหวังที่โซฟาตัวประจำของแม่ เขาร้องไห้ด้วยความอ้างว้าง โทรทัศน์ที่เปิดไว้ภาพจอก็ค้างไว้ที่เดิม เขาเผลอหลับไป

                      “เอ มากินข้าวกันๆ วันนี้แม่ทำอาหารสุดฝีมือเลยนะ เป็นของขวัญฉลองที่ลูกสอบได้ที่ 1 ไง”

                      “เย้ๆ ขอบคุณครับแม่ อาหารฝีมือแม่อร่อยที่สุดเลย” เขาฝันเห็นตัวเองในวัย 8 ขวบ เป็นครั้งแรกที่เขาสอบได้ที่ 1 เขารู้สึกภูมิใจที่ทำให้พ่อกับแม่มีความสุข อาหารที่แม่ทำในวันนั้นคือไก่ปั้นเป็นชิ้นทอดสูตรพิเศษที่แม่ไม่เคยบอกเขาเสียทีว่าทำไงถึงอร่อยกว่าที่อื่นๆ

                      ความฝันตัดไปที่เขาในวัย 14 ปี พ่อของเขาเสียชีวิตเพราะการทำงานหนัก จนเครียดและเส้นเลือดในสมองแตก มันเป็นเหมือนฝันร้ายของครอบครัวเขา เขาจำได้ว่าเขาเห็นแม่ร้องไห้ เขาเข้าไปปลอบแม่ว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงไปครับแม่ เอนี้แหละจะเป็นผู้นำครอบครัวแทนพ่อเอง แม่อย่าร้องไห้ไปนะ” วันนั้นเป็นวันที่แม่เตรียมทำไก่ปั้นทอดสูตรพิเศษเช่นเดิม แต่รสชาติไม่อร่อยเหมือนทุกที

                      ในวัย 18 ปี เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ฝันได้สำเร็จ เขาจำได้ว่าเป็นครั้งแรกนับแต่ที่พ่อเสียที่แม่ของเขายิ้ม เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ที่เขาสอบติด แม่บอกเขาว่าจะทำอาหารฉลองแต่เขาปฏิเสธแม่และออกไปฉลองกับเพื่อนๆ

                      ผ่านไป 1 ปีหลังจากเข้ามหาวิทยาลัย ในช่วงแรกเขากลัวแม่จะอยู่คนเดียว จึงไปกลับ แต่เนื่องจากการเรียนที่หนักทำให้เขาเหนื่อย เมื่อเวลากลับมาบ้านก็เจอแม่จู้จี้จุกจิกอีก จึงทำให้เขาตัดสินใจไปอยู่หอ ทิ้งให้แม่อยู่บ้านลำพัง ชีวิตที่หอก็สนุกและการได้อยู่กับเพื่อนทำให้เขาสนุกจนลืมกลับบ้าน บางครั้งไม่ได้กลับบ้านหลายเดือน

                      เขาเรียนจบประสบความสำเร็จได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองตามที่ฝัน ในวันรับปริญญาเขาอยากจะสนุก จึงห้ามแม่ไปงานรับปริญญา แต่เขาก็รู้ว่าแม่แอบมางานของเขา เมื่อเขากลับบ้านก็พบว่ามีไก่ปั้นทอดสูตรพิเศษ ที่ไม่ได้กินมานาน เขาพบว่ารสชาติมันช่างอร่อยยิ่งกว่าเดิม

                      เขาสอบชิงทุนได้ไปต่างประเทศ ในตอนแรกเขาลังเลที่จะไป เพราะไม่อยากที่จะทิ้งแม่ไปไหน แต่แม่ก็หาเรื่องทะเลาะกับเขา จนเขาทนไม่ไหว ต้องหนีแม่ไปต่างประเทศจนได้ ไม่รู้แม่จงใจทะเลาะเพื่อให้เขาไปหาอนาคตใหม่หรือเปล่านะ เพราะในวันจะไปแม่ก็ทำไก่ปั้นสูตรพิเศษมาเช่นเคย

                      เขาเรียนจบกลับมาบ้าน และรับงานเป็นนักวิจัยผลิตสิ่งประดิษฐ์ เขาได้ทำงานที่บ้านไม่ต้องไปทำงานข้างนอก แต่แปลกที่เขาแทบไม่เคยคุยกับแม่เลย หลายปีที่เขาไม่เคยพาแม่ไปเที่ยวไหน ไม่เคยได้กินข้าวด้วยกัน ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา

                      “เอ ตื่นได้แล้วลูก” เขาสะดุ้งตื่นขึ้น เขาคิดว่าเขาได้ยินเสียงปลุกของแม่ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อโลกนี้หยุดนิ่ง แม่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เทอาหารลงใส่จาน แล้วเขาก็พบว่าในจานบนโต๊ะมี ไก่ปั้นทอดสูตรพิเศษอยู่ด้วย น่าแปลกที่เขาไม่ได้กินเมนูนี้มานานแล้ว เพราะแม่จะทำก็ต่อเมื่อโอกาสพิเศษเท่านั้น สงสัยว่าแม่คงจะได้ยินเสียงที่เขาดีใจเมื่อสร้างเครื่องหยุดเวลาได้สำเร็จ จึงนำมาฉลอง

                      เอ นั่งลงข้างๆแม่ ร่างกายของแม่ซูบผอมลงไปกว่าเดิมที่เขาเคยจำได้ ผมหงอกมากขึ้น แต่ก่อนแม่เป็นคนที่แต่งกายสวย ย้อมผมแฟชั่นตลอด แต่หลายปีผ่านมานี้เขาไม่เคยได้สังเกตเลยว่าแม่เปลี่ยนไปมาก แม่ผอมและแก่ลงไปมาก เงินจำนวนมากที่เขาให้แม่หายไปไหนหมด เขาเพิ่งสังเกตว่าชุดที่แม่ใส่อยู่นี้ใส่บ่อยครั้งมาก นับแต่เขาเรียนจบ เป็นชุดที่เขาซื้อให้แม่เมื่อเขาเรียนจบ แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่แม่ก็ยังนำมาใส่บ่อยมาก

                      “แม่ครับ ไม่รู้ว่าเราอยู่ไกลกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เราอยู่บ้านเดียวกัน แต่เราไม่เคยได้คุยกัน เราคุยกันวันหนึ่งๆยังไม่ถึง 10 คำด้วยซ้ำ ผมไม่เคยพาแม่ไปไหน ไม่เคยกินข้าวด้วยกัน ไม่เคยแม่แต่บอกรักแม่ ถ้าหากเวลาไม่หยุดนิ่ง ผมคงยังมองผ่านแม่ไปเหมือนเคย ผมคงจะสูญเสียแม่ไปเสียแล้ว ถึงแม้จะอยู่ด้วยกัน แต่แม่จะไม่มีวันตอบกลับผมแล้ว จะไม่มีวันที่แม่จะจู้จี้จุกจิกแล้ว ผมขอโทษ” แล้วเอก็ร้องไห้ จนหลับไป

                      เวลาผ่านไปหลายวันในความจริง ทุกอย่างยังคงหยุดนิ่ง ทั้งโลก ทั้งจักรวาลมีเพียงเอคนเดียวที่ขยับได้ เขาอ้างว้าง เขาคุยกับแม่ แต่ไม่มีการตอบรับกลับใดใด เขาเหงา เขาต้องการใครสักคน เขาอยากจะระบายความรู้สึกออก

                      เวลากลับมาเดินอีกครั้ง เหมือนทุกสิ่งจะเหมือนเดิม ยกเว้นว่าในกระเป๋ากางเกงของทุกคน มีจดหมายมาจากไหนไม่รู้ ในนั้นมีข้อความว่า “อย่าปล่อยให้คนที่อยู่ใกล้ต้องไกลห่าง อย่าลืมดูแลและรักษาคนใกล้ตัว จากคนที่สูญเสียไปแล้ว” คงเป็นเอที่ใช้เวลาที่หยุดนิ่งไปเตือนสติคนทั้งหลาย ด้วยการเขียนใส่กระเป๋าและประกาศบนท้องฟ้า

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×