Waiting for Someone : First love - นิยาย Waiting for Someone : First love : Dek-D.com - Writer
×

    Waiting for Someone : First love

    ฉันคงได้แค่เพียงแอบชอบเธอเท่านั้นแหละ

    ผู้เข้าชมรวม

    393

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    393

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  12 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  10 ก.ค. 64 / 23:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       ย้อนไปเมื่อ​ 12​ ปีก่อนที่ผมยังเป็นแค่เด็กประถมที่เหมือนกับเด็กทั่วไป​ แต่สิ่งที่ผมต้องพบเจอเป็นบางวันถึงจะไม่บ่อยก็ตาม​ แต่มันก็สร้างกำแพงที่อยู่ภายในจิตใจขึ้นมาเรื่อยๆ​ ซึ่งวัตถุดิบ​เหล่านั้นคือการสั่งสมของการกลั่นแกล้งเป็น​ประจำ​ มันทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวถึงแม้ว่าผมจะรู้เป็นอย่างดีก็ตาม​ แต่มันทำให้ผมเริ่มที่จะหลบสายตาพวกนั้น​ จนกระทั่งผมเริ่มที่จะเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้านไม่ออกไปเดินเล่น​ หรือออกมาเล่นข้างนอกเลยแม้แต่น้อย​

    ผมรู้ดีว่าถ้าเกิดเจอคนพวกนั้น​ สายตาเหล่านั้นที่จับจ้องมองมายังผมที่ดูเหมือนตัวตลก​ ใช่! สาเหตุที่ผมไม่สามารถเข้ากับพวกนั้นคือ​ ' ผมแตกต่าง​ ความคิดแปลกประหลาด​ พูดไม่รู้เรื่อง​ '​ เพราะเหตุนั้นผมจึงปลีกตัวออกมาเสียดีกว่า​ และคอยกีดกั้น​ความสัมพันธ์​ที่เรียกว่าเพื่อนทิ้งเสีย​ จากนั้นมาผมก็ไม่สามารถเรียกใครว่าเพื่อนได้อีกเลย​

    เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า​ ผมเริ่มรู้สึกดีกับการที่ได้อยู่ตัวเดียว​ มันทำให้มีเวลาคุยกับตัวเองอีกคนนึง​ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองบ้าเลยสักครั้ง​ เพราะผมนั้นแตกต่าง​ออกไปจากพวกเด็กธรรมดาที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมคิด​ สิ่งที่ผมทำ​ ซึ่งตอนแรกที่ผมพยายาม​ปรับเข้าหาพวกนั้นแล้ว​ มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จเลยแม้แต่ครั้งเดียว​ ดังนั้นแล้วผมจึงเป็นเป้าหมายในการถูกกลั่นแกล้ง​ทุกครั้งที่ผมออกมาเล่นด้วย

    การอยู่คนเดียวผมไม่คิดว่ามันบ้า​ แต่มันคือการอยู่กับตัวเอง​ การเข้าใจตัวเอง​ และการค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการและแล้วเมื่อจิตใตที่ผมเติบโตขึ้นมา​ ผมก็ค้นพบในสิ่งที่ผมมี​ นั่นก็คือการจับการโกหกของคนอื่นได้​ เพียงแค่ผมได้ยินน้ำเสียงที่พูดออกมา รวมไปถึงแววตาที่เขาจ้องมองมานั้น​ เพียงแค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าจริงหรือเท็จ​ แต่ถ้าให้พูดตอบโต้ไปเป็นผมคงไม่ทำมัน​ เพราะผมเลือกที่จะเดินหนีโดยที่ไม่โต้ตอบบทสนทนาไร้สาระทันที

    ดังนั้นนิสัยของผมจะว่าเลวร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้​ ถ้าพวกนั้นรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผม​ แต่ว่าสิ่งที่พวกนั้นรับรู้กับตัวตนของผมนั้นเป็นแค่ของจอมปลอมเพียงเท่านั้น​

    แต่ทว่าเมื่อ​ 4 ปีก่อนผมที่อยากลองเปิดใจแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาสักครั้งหนึ่ง​ มันเกือบทำให้ชีวิตของผมพัง​ ชีวิตมอปลายกับหญิงสาวคนหนึ่ง​ ชื่อของเธอคือ​ ' เจน​ '​ เธอเป็นหญิงสาวที่น่ารักคนนึงเลยก็ว่าได้​ แต่นิสัยของเธอมัน... ผมรู้ดีเลย​ ทั้งคำพูด​ น้ำเสียง​ และการแสดงที่เธอทำอยู่นั้นมันชวนน่าหงุดหงิด​ เธอพยายามเข้ามาตีสนิทกับผมเพื่อหวังประโยชน์​ในวิชาคณิตศาสตร์​ เธอสวมหน้ากากเข้าหาผมและบอกว่า​ ' ชอบนะ เป็นแฟนกันนะ​ '​ แต่ผมก็ไม่คิดอะไรมาก​ แต่ผมอยากที่จะกระชาก​หน้ากากอันนั้นออกมา​ ผมจึงตอบตกลงกับเธอไป​ แต่การกระทำของผมที่พยายามบอกใบ้ว่าไม่สนใจเธอเลย​ แต่เธอก็ยังคงดิ้นรน​เหมือนกับสัตว์​ที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้​

    " ผมล่ะเกลียดพวกชอบหลอกลวงมากที่สุด​ "

    แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มตีตัวออกห่างไป​ พร้อมกับเปิดตัวแฟนที่แท้จริงของเธอนั่นก็คือ​ ' กาฟิวส์​ '​ เพื่อนร่วมชั้นนั่นเอง​ แถมตอนนั้นเธอคนนั้นยังมีหน้าควงผู้ชายคนนั้นและมาบอกกับผมว่า

    " ขอโทษนะ​ แต่เค้าคบกับคนนี้แล้วนะ​ "

    ผมนิ่งเงียบแค่มองหน้ากาฟิวส์แล้วหลับตาลงพลางยิ้มเล็กน้อยก่อนที่ผมจะหันหน้ากลับมานั่งคุยกับเพื่อนที่ไม่รู้ว่าเรียกเพื่อนได้ไหม แต่ผมจะยอมเรียกเพื่อนร่วมชั้นเรียนแทนละกัน​ กลุ่มของผมมีกันห้าคน​ และยังเป็นกลุ่มที่ถูกทอดทิ้งจากทุกคนในห้องอีกต่างหาก​ ถ้าจะพูดง่ายๆเลยก็คือพวกส่วนเกิน​ แต่ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้นอยู่​ เพราะผมอยู่คนเดียว​มาตลอด​ 9​ ปีแล้ว ดังนั้นผมจึงไม่แคร์สายตาของใครทั้งนั้นว่าจะมองผมหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียนสี่คนนี้เป็นแค่ส่วนเกิน

    ผมคิดว่าผมควรบอกพวกคุณแค่นี้พอแล้ว​ แต่ผมอยากให้พวกคุณมองตัวผมในอีกด้านหนึ่งบ้าง​ ด้านที่อ่อนโยนของตัวผมเอง​ ถึงแม้ว่าการกระทำที่แสดงออกมาจะดูดุดันก็ตาม​ แต่เพื่อความสำเร็จของส่วนเกินอย่างพวก​ ผมพยายามผลักดันตัวเองและอีกสี่คนให้ก้าวไปข้างหน้าและยืนหยัดด้วยตัวเอง​ ส่วนผมน่ะหรอ... ผมเริ่มยืนหยัดด้วยตัวเองมาตั้งแต่ 9​ ปีที่แล้ว​ ดังนั้นแล้วผมจึงนำหน้าพวกนี้ไปหลายก้่วแล้วล่ะ

    วันสุดท้ายก่อนจบมอ​ 6 ผมได้กล่าวถึงความฝันและความหวังกำลังใจให้กับพวกนั้น​ ก่อนที่ผมจะเดินหายไปจากตรงนั้น​ ถึงตัวผมจะหายไปแต่แชทกลุ่มที่มีพวกเราอยู่ก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน​ ความผูกพันธ์​จากการเป็นส่วนเกินนั้นมันทำให้ผมสามารถเรียกสี่คนนี้ได้ว่าเป็น

    " เพื่อน​ "

    ถึงผมจะทำเป็นหรูหราจนดูเท่​ แต่ในสายตาพวกนั้นคงคิดว่าผมสมเพชอยู่ดีนั่นแหละ​ แถมยังเพ้อเจ้อพูดจาบ้าบออะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย​ ถ้าเรื่องนั้นผมไม่ผิด​ แต่พวกนั้นผิดเองต่างหาก​ ที่เกิดมาแล้วไม่เข้าใจถึงจิตใจของคนอื่นได้​ ดังนั้นแล้วผมที่อยู่ในส่วนของพวกที่ไม่มีคนทั่วไปจะเข้าใจได้​ในสิ่งตนเองต้องการจะสื่อมันออกไป​ ดังนั้นแล้วผมจึงต้องการคนที่สามารถคุยอย่างปกติกับผมได้ ซึ่งผมได้พบกับคนคนนั้นที่มหาลัย​ เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นเช่นเดียวกัน​ เธอเป็นคนแรกที่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดออกมา​ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่เธอเป็นคนเดียวและคนแรกที่ผมรู้สึกดีที่ได้คุย​ แต่แล้วพวกเราต้องถูกจับแยกเพราะความกดดันและลมปากที่พวกมนุษย์​หน้าโง่เหล่านั้นพูดออกมา​ มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจนต้องทิ้งระยะห่างและปลีกตัวออกห่างจากเธอไปทันที​ และกลับมาอยู่ตัวคนเดียวอีกครั้งหนึ่ง

    ชีวิตของผมมันไม่ได้สวยงามอะไรหรอก​ ใช่เพราะผมมันคือมนุษย์เพียงไม่กี่คนที่แตกต่างออกไปจากพวกมนุษย์​ธรรมดา​ เพราะความแตกต่างที่สร้างความขัดแย้งและความน่ารังเกียจ​ของทางสังคมออกมาได้เห็นอย่างชัดเจน​ แต่มีเพียงสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันคือความรัก​ ควากรู้สึกที่แอบชอบใครสักคน​ แต่มันก็เป็นไปได้ยากที่จะสื่อความรักนั้นออกไปให้เขาได้รับรู้​ เพราะความแตกต่างไปสามารถเข้าถึง​มนุษย์​ธรรมดาได้​ แต่เพราะความน่ารักของเธอที่ผมยอมให้กับเธอ​ และนิสัยที่ชวนหลงใหล​ของเธอ​ มันทำให้ผมมีความกล้าที่จะสื่อความรักไปให้ด้วยวิธีของมนุษย์ที่แตกต่าง​ ต่อให้เธอจะมีคนอื่นแต่ผมก็ขอแอบชอบไปชั่วดิรันด์​ เพราะเธอคือสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าการแอบชอบนั้นมันเป็นยังไง​ และการรักมันเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม​ แต่สักวันเราคงต้องจากกันอยู่ดี​ หรือเปล่านะ?

    ปัจจุบัน

    ผมนั่งอยู่ที่ที่รอรถรางและรอเธอด้วยเช่นกัน

    " ฮัลโหลอิงน้ำ​ ตอนนี้มึงอยู่ไหนอ่ะ​ "

    " อยู่ที่มอเนี่ยแหละ​ ขอเวลาสัก​ 5 นาทีนะ​ "

    " อืม​ เดี๋ยวรอที่ที่รอรถรางหน้ามอนะ​ "

    " อือ​ โอเคเลย​ "

    ผมวางสายเธอและนั่งรอเธออยู่ที่รอรถราง​ และสิ่งที่ผมรู้เกี่ยวกับเธอนั้นคือคำพูดของเธอแต่ละคำนั้นมันมักจะต้องต่อยอดต่อไปอีกเท่าตัว​ เมื่อเวลาผ่านไปเธอขับมอเตอร์ไซค์​มาหาผมที่นั่งรออยู่

    " 5 นาทีของมึงเนี่ยกูไม่อยากจะเชื่อเลย​ "

    " เอาน่า​ อย่างน้อยกูก็มาแล้วนะ​ "

    " อืม​ "

    ผมลุกและเดินไปจับที่แฮนด์มอเตอร์ไซด์​เพื่อให้เธอนั้นขยับถอยไปด้านหลัง​ ส่วนผมก็มาเป็นคนขับให้เธอแทน​ ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกตอนนั้นก็รับรู้ได้เลยว่า​หัวใจที่อยู่ข้างในเต้นแรง​ แต่ความรู้สึกภายนอกกลับถูกความรู้สึก​ภายในกัดกร่อนเล็กน้อย​ ผมแอบมองหน้าเธอผ่านกระจกข้างก่อนที่จะออกรถไปยังหอพักของเธอ

    เมื่อถึงหอพักผมจึงยกกล่องมาแล้วยื่นมันให้กับเธอพร้อมด้วยรอยยิ้มที่สร้างขึ้นปะปนกับจากใจจริง​

    " มึงแบกเอาไว้ละกัน​ ส่วนกูจะขับเอง​ "

    " เออ​ ไปถึงหอในเลยก็ได้นะ​ "

    " ไม่ต้องบอกก็รู้น่า​ กูน่ะขับไปถึงนั่นอยู่แล้วล่ะ​ "

    " มึงก็เนอะ​ "

    ระหว่างทางที่ขับมอเตอร์ไซค์​ผ่านทางถนนเส้นหลักที่นับว่าเป็นสถานที่ที่โรแมนติกเลยก็ว่าได้​ มันคืออุโมงค์​ของต้นไม้ขนาดใหญ่​ ร่มเงา​ที่ปกคลุมไปทั่ว​ แสงแดดอ่อนที่ทะลุผ่านออกมาจากช่องหว่างระหว่างของใบไม้สวยงาม​ ผมจึงผ่อนเกียร์​ลงและขับช้าๆ​ ผมหวังว่าสิ่งที่ผมทำนี้จะทำให้เธอรู้สึกดี​ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าผมทำเพราะชอบเธอก็ตาม​ แต่ขอแค่ผมได้ทำในสิ่งที่อยากทำก็พอแล้ว​ ส่วนเรื่องอื่นนั่นที่ขึ้นอยู่กับเธอก็ปล่อยมันไป​ เพราะผมเองก็รู้ดีว่าการที่จะคบกับใครสักคนนั้นมันเป็นเรื่องยาก​ เพราะงั้นแล้วผมรู้ตัวเองดี​ ไม่ต้องรอให้ใครมาบอกมาสอนหรอก

    แต่แล้วเมื่ออุโมงค์​แห่งความโรแมนติก​หมดไป​ ผมจึงเร่งเครื่องขึ้นทันที​ และมุ่งตรงกลับไปที่หอใน

    " ถึงแล้ว​ "

    ผมลงจากมอเตอร์ไซค์​และคว้ากล่องจากมือเธอมา​ พร้อมกับเงยหน้ามองตาเธอ

    " ขอบใจนะ​ เดี๋ยวตอบแทนวันหลังละกัน​ "

    " พูดแล้วนะ​ ห้ามลืมสัญญาล่ะ​ "

    " อืม​ งั้นกูขอตัวก่อนล่ะ​ กลับดีๆนะ​ "

    " อือ​ "

    หลังจากนั้นผมจึงหันกลับหลังและเดินแยกทางจากเธอทันที​ ' ทางใครทางมันแล้วล่ะนะ​ '​

    ' ส่วนเรื่องสัญญากูไม่มีวันลืมหรอก​ ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นแหละ​ '​

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น