พรหมลิขิตวันสุดท้าย
พรหมลิขิตอาจนำพามาเจอกัน แต่สิ่งที่ลิขิตแล้วคือตัวเรา ขอแค่ความเข้าใจที่มีใครสักคนที่เป็นห่วงก็มากเกินพอแล้ว สำหรับชีวิตอย่างฉัน
ผู้เข้าชมรวม
160
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจส่วนตัวเธอเดินลงมาชั้นล่างเพื่อที่จะรับประทานอาหารเช้าที่แม่เตรียมไว้ให้
“ลูกสาวสุดที่รักตื่นแล้วหรอจ๊ะ วันนี้มีงานเลี้ยงจบม.6ใช่ไหม กี่โมงล่ะ พ่อจะได้ไปส่ง”พ่อพูด
“6โมงค่ะ” นกยูงตอบ แต่สีหน้าเธอก็ยังมีอะไรครุ่นคิดอยู่
“แล้วเสื้อผ้าพร้อมหรือยัง”คุณแม่สุดที่รักถามด้วยความเป็นห่วง
“พร้อมค่ะ” นกยูงตอบด้วยเสียงมั่นใจ เพราะเธอเตรียมตัวสำหรับงานนี้มาทั้งอาทิตย์ทั้งเสื้อผ้า และของขวัญที่จะเอาไปให้เพื่อนเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็พร้อมอยู่ในถุงสีแสดใบหนึ่งที่อยู่บนโซฟาใกล้ๆโต๊ะรับประทานอาหาร
เมื่อมาถึงโรงแรมทุกคนจะต้องเห็นป้ายหนึ่งที่มีข้อความเขียนไว้สะดุดตาว่า “งานเลี้ยงอำลา ของนักเรียนโรงเรียนปั้นดิน” พอเดินเข้าไปถึงหน้างานจะมีโต๊ะที่มีหนังสือกองไว้อยู่เต็ม แต่ละกองก็จะมีสมุดเท่ากับจำนวนนักเรียนในห้องนั้น สมุดแต่ละเล่มจะเขียนชื่อของนักเรียนในห้องไว้ที่หน้าปก หนึ่งชื่อต่อหนึ่งเล่ม เมื่อเปิดเข้าไปดูบางเล่มก็จะมีลายมือแบบวัยรุ่นที่กำลังฮิตเขียนอยู่ แต่บางเล่มก็ยังคงว่างเปล่าเหมือนรอใครบางคนมาเขียน ข้อความที่เขียนเหล่านี้มักเขียนถึงการอำลาจากเพื่อนที่เรารัก นกยูงเธอคิดมาตลอดทั้งคืน เธอต้องการเขียนบทความหนึ่งลงไปในหนังสือที่หน้าปก มีชื่อว่า ใบไม้ สดใส เพื่อนสาวที่เรียกได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนรัก สมัยป.5-ม.4 ก่อนที่จะมีเรื่องกันเมื่อปีที่แล้ว จากนั้นเราทั้งสองคนก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกันอีกเลย นกยูงได้เขียนลงไปว่า “ถึงเพื่อนรัก
แม้ตอนนี้ใบไม้จะไม่รักนกยูงแล้วก็ตาม แต่นกยูงก็ยังคงคิดว่าใบไม้คือเพื่อนที่นกยูงรักอยู่เสมอ ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ นกยูงยังจำได้ดีถึงตอนที่นกยูงขึ้นม.4ใหม่ๆ นกยูงมักคิดว่าคนในห้องใหม่มองนกยูงว่านิสัยไม่ดีไม่น่าคบ ไม่มีใครรู้จักนกยูง และยิ่งสำคัญคือนกยูงไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับใบไม้เพราะเราต่างเลือกสายที่เรียนต่างกัน เราต่างมีจุดหมายที่ต่างกัน แถมทุกคนที่ย้ายมาอยู่ห้องนี้กลับมาจากห้องเดียวกันเป็นกลุ่มยกเว้น ฉันนกยูงที่มาคนเดียว ทำให้นกยูงรู้สึกเหงาและไม่มีเพื่อน แต่นกยูงก็ได้ใบไม้นี้แหละที่คอยเป็นห่วง โทรมาถามไถ่อยู่ทุกเย็น นกยูงรู้สึกว่ามีใบไม้เป็นเพื่อนคนเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ใบไม้ก็ทำให้นกยูงรู้ว่านกยูงต้องลองยอมเปิดใจรับเพื่อนใหม่ ใบไม้ได้แสดงตัวอย่างให้นกยูงเห็นจากการที่ใบไม้อยู่ห้องใหม่และปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ดี ทำให้ปัจจุบัน เพื่อนทุกคนในห้องต่างก็รักนกยูงมากขึ้น และนกยูงก็เข้าใจแล้วว่า แต่ก่อนที่พวกเพื่อนเขาทำแบบนั้น เพราะพวกเขาไม่รู้จักนกยูงดีพอ
นกยูงต้องขอโทษใบไม้กับสิ่งที่เราทะเลาะกันในวันนั้น นกยูงคงไม่มีอะไรที่จะเรียบเรียงคำใดได้ดีพอเท่ากับคำว่า “ขอโทษ” ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ใบไม้ทำให้นกยูง และสุดท้ายขอให้ใบไม้มีความสุข อนาคตสดใสสมนามสกุลนะ
จากนกยูง”
นกยูงเดินเข้าไปในงานหลังจากเขียนให้เพื่อนคนอื่นต่อ แต่ข้อความที่เขียนให้คนอื่นส่วนใหญ่ก็จะเหมือนกัน เช่น โชคดีนะ อย่าลืมฉันล่ะโกรธแน่ ภายในงานถูกจัดตกแต่งไปด้วยสีสันของดอกไม้ มีเวทีหนึ่งอยู่ตรงกลางห้อง เวทีไม่ใหญ่มากมีไมล์ที่เสียบอยู่ที่แท่นไมล์ นกยูงเดินเข้าไปพร้อมกับทักทายเพื่อนที่รู้จัก และนำของที่เตรียมมามอบให้เหล่าเพื่อนทั้งหลาย
“สวัสดีนักเรียนทุกคน ครูในฐานะครูแนะแนวของโรงเรียน ครูดีใจที่นักเรียนที่จบม.6ปีนี้สอบติดมหาวิทยาลัยและได้ในคณะที่อยากเรียน ครูดีใจกลับความสำเร็จที่เพิ่งจะเริ่มต้นของพวกเราทุกคน เวลานี้ได้เวลาที่จะเริ่มงานแล้ว ตามประเพณีของโรงเรียนเรา จะเอาสมุดที่พวกเพื่อนของเธอเขียนถึงเธอมาอ่านที่นี่ ให้เวลาอ่านคนละ30นาที หลังจากนั้นก็พลัดกันขึ้นมาพูดบนเวที ใครอยากจะบอกรักหรือจะจัดกิจกรรมโชว์เพื่อนก็ได้ ครูไม่รบกวนล่ะ เริ่มอ่านกันได้เลย”นักเรียนทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งใจอ่าน
“สามคนสุดท้ายใครจะพูดก่อน”ครูแนะแนวถามเด็กนักเรียนที่เหลืออยู่
“ผมเองครับ สวัสดีครับอาจารย์และเพื่อนๆทุกคน ผมขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์มอบให้ทั้งความรักความเอ็นดู และเพื่อนทุกคนที่มาเติมเต็มชีวิตผมให้มีสีสัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะพูดกับเธอคนหนึ่ง ซึ่งผมตั้งใจไว้นานแล้วที่จะบอกในวันนี้ เพราะมันจะเป็นวันที่ผมมองเห็นอนาคตและความเป็นไปได้รวมถึงภาวะที่เหมาะสม ผมขอมอบเพลงนี้แก่เธอ ...” ท่อนสุดท้ายที่ร้องคือ แต่คืนนี้ อยากบอกเธอนะคนดี อยากให้เธอเชื่อฉันคนนี้ ฉันรักเธอ พร้อมกับร่างสูงผอมของเขาไปอยู่ต้องหน้าหญิงสาวร่างท้วม เธอก็คือนกยูง หมอยื่นอัลบั้มรูปที่มีรูปถ่ายนกยูงตั้งแต่วันแรกที่เจอหมอ-วันปิดเทอมวันสุดท้าย และใต้ข้อความทุกภาพมีข้อความบรรยายไว้กำกับ สายตาของหมอมองเหมือนต้องการรอคำตอบบางอย่าง ส่วนเธอได้พูดแต่คำว่า “ขอบใจนะ”
“คราวนี้เหลือสองคนใครจะพูดก่อน” ครูแนะแนวถาม
“หนูขอก่อนค่ะ” ใบไม้เธอวิ่งขึ้นไปบนเวทีหลังจากพูดจบ และใบหน้าของเธอยังคงไม่แห้งด้วยน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสอง หลังจากอ่านข้อความที่นกยูงได้เขียนให้เธอ
“สวัสดีค่ะ ฉันๆๆๆๆๆ” เสียงของเธอสั่น
“ฉันขอโทษนะนกยูง ใบไม้เข้าใจและรู้แล้วว่านกยูงไม่เคยลืมฉัน ที่ใบไม้โกรธนกยูงเพราะนึกว่านกยูงลืมวันเกิดของใบไม้ แต่วันนี้หลังจากใบไม้ได้อ่านข้อความเพื่อนคนหนึ่งที่นกยูงฝากของขวัญไว้ให้ก่อนที่นกยูงจะไปค่าย แต่เขากลับมาบอกว่าเขาซื้อให้ใบไม้ ทำให้ใบไม้เข้าใจผิด ใบไม้ผิดที่ใบไม้ไม่เชื่อนกยูง ใบไม้ขอโทษ” ใบไม้วิ่งมากอดนกยูงอย่างคิดถึงเวลาที่สูญเสียไป นกยูงจูงมือใบไม้พร้อมกับขึ้นไปพูดบนเวที
“สวัสดีค่ะ ฉันมีความในใจอย่างหนึ่งที่จะบอกกับเพื่อนรักที่ยืนอยู่ข้างๆฉันในตอนนี้ ฉันต้องขอขอบคุณพรหมลิขิตที่ทำให้ฉันได้มาพบกับเธอคนนี้ และทำให้ฉันไม่สูญเสียเธอไป พรหมลิขิตทำให้เราในที่นี้ได้เจอกัน แต่พรหมลิขิตจะไม่ลิขิตให้ชีวิตใครต้องแยกจากกัน สิ่งเหล่านี้คนที่ลิขิตคือตัวของเราเอง และสิ่งฉันจะลิขิตตอนนี้คือฉันนกยูงจะเป็นเพื่อนรักและเข้าใจกันกับใบไม้ตลอดไป หมอไว้ดูกันก่อนนะเพราะไงเราก็ยังคงเรียนอยู่ด้วยกันอยู่ดี เมื่อเราลิขิตตัวเองได้ พรหมลิขิตวันสุดท้ายก็จะมาถึง”
ผลงานอื่นๆ ของ อมา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ อมา
ความคิดเห็น