[Fic Beyblade : KaiXTakao] : A Wish on Christmas Night
Do you have any belief in your life...? Status : Complete 100%
ผู้เข้าชมรวม
1,445
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: A Wish on Christmas Night
Author: cherry fantasy
Translator: Bloody Snow
Anime: Beyblade
Pairing: KaiXTakao
Rate: Unknown 555+
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
.:A Wish on Christmas Night:.
ใครกันที่บอกว่าในคืนวันคริสต์มาส ความปรารถนาของเราจะกลายมาเป็นความจริง?
คนโง่คนไหนกันที่พูดไว้แบบนั้น
จะเป็นใครก็แล้วแต่ พวกเขาเหล่านั้นกำลังเข้าใจผิดถนัด
สิ่งเหล่านี้เคยเป็นความคิดของไคมาก่อน
ความปรารถนาใช่ว่าจะกลายเป็นจริงเพียงแค่ปฏิทินเขียนไว้ว่าเป็นวันที่ 25 ธันวาคม นี่เป็นความคิดงี่เง่าแบบไหนกัน? ใช่ว่าจะมีอะไรพิเศษในวันนี้ของปีสักหน่อย อะไรที่ทำให้วันนี้แตกต่างจากวันอื่นๆ กัน? อา...นั่นสิ คงเป็นพวกเรื่องวุ่นวายเกี่ยวกับของขวัญเอย ต้นคริสต์มาสเอย การประดับตกแต่งเอย ซานตาคลอสเอย และ อะไรพวกนั้น... อะไรกัน ก็ไม่เห็นจะมีอะไรวิเศษ การที่คนเราจะไปลากต้นไม้เข้าบ้านเพื่อประดับไฟกับดาวพลาสติกบนยอดมันวิเศษตรงไหนกันนะ แล้วไหนจะพวกคนบ้าที่เกือบจะฆ่ากันตายที่ห้างสรรพสินค้าตอนไป "ซื้อของของวันคริสต์มาส" อีกล่ะ? แล้วมันวิเศษตรงไหนกันกับชายแก่ไว้เคราที่คอยแลกขนมหวาน มันไม่ได้วิเศษอะไรเลย แล้วอะไรกันล่ะ ที่ทำให้วันนี้เป็นวันพิเศษ ไคไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะรักวันคริสต์มาสกันมากทีเดียว เพราะ เป็นโอกาสที่จะได้ใช้เวลากับครอบครัวในการเฉลิมฉลองและแลกเปลี่ยนของขวัญกัน ไคไม่เคยรู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย หรือบางทีเขาอาจจะเคยรู้ก็เป็นได้ ณ ช่วงหนึ่งของชีวิต ในวันที่เขายังเด็กและพ่อกับแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่... แต่ถ้ามันเคยเกิดขึ้นจริง เขาก็จำอะไรเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลย ราวกับมันถูกฉีกกระชากออกไปจากความคิดเมื่อเขายังเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง นานก่อนที่สติอันน้อยนิดของเขาจะสามารถสร้างความทรงจำที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้ และหลังจากนั้น... โวลแตร์เอง แน่นอนอย่างที่สุดว่าไม่มีการจัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสหรือวันหยุดสำคัญใดๆ อีก เช่นกันกับบอริสและที่โบสถ์เอง
การเติบโตที่โบสถ์เป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก ไม่ควรมีเด็กคนไหนต้องพานพบกับประสบการณ์แบบนี้เลย การที่ไคกลายเป็นคนเย็นชาก็เพื่อปกป้องตัวเขาเอง เพื่อไม่ให้ใครมาทำร้ายเขาได้อีก เขาจึงปฏิเสธการมีเพื่อนหรือใกล้ชิดกับใครอีก หากไม่ทำแบบนั้น ถ้าไม่ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น... ตัวเขาเองคงจะแตกสลายเกินกว่าที่จะเยียวยาได้
แม้กระนั้น ไคก็ยังรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นกลุ่มเด็กที่มาฝึกที่โบสถ์ ที่ยังโชคดีที่มีครอบครัวคอยเป็นห่วง คอยเก็บของและไปเที่ยวกันในช่วงวันหยุดคริสต์มาส ซึ่งเป็นหนึ่งในโอกาสหายากที่แทบจะเป็นโอกาสเดียวที่จะได้รับอนุญาตให้หยุดกัน แต่ไคไม่มีโอกาสแบบนั้น แน่นอนว่าเขาเองก็อยากกลับบ้านเหมือนกัน แต่ที่บ้านของไคไม่ได้เฉลิมฉลองงานเทศกาลอะไรเลย ไคใช้เวลาหยุด 2 อาทิตย์เพียงลำพังในห้องที่แม้จะหรูหราแต่กลับให้ความรู้สึกหนาวเย็น ถ้าไม่อ่านหนังสือ ไคก็จะวาดรูป โดยที่แทบจะไม่ได้เห็นปู่ของตนเลย และนั่นคงจะเป็นสิ่งดีเพียงสิ่งเดียวจริงๆ
ไม่มีการนำต้นคริสต์มาสเข้ามาในบ้านหลังนี้และไม่มีการเชิญเพื่อนหรือแลกเปลี่ยนของขวัญใดๆ สำหรับไคแล้ว คริสต์มาสหาใช่สิ่งที่มีตัวตน ปู่ของไคมักจะบอกว่าการเฉลิมฉลองอะไรแบบนี้เป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย และมักพูดเสมอว่า การให้ของขวัญกันเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอและซานตาคลอสเป็นเพียงสิ่งที่เกิดมาจากจินตนาการของเด็กโง่ๆ และการสนุกกับอะไรแบบนั้นอย่างวันคริสต์มาสเองก็เป็นเพียงการเสียเวลาเปล่า
อย่างไรก็ดี มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ไคยังมีความเชื่อมั่นเล็กๆ เกี่ยวกับวันคริสต์มาส แน่นอนว่า เขาไม่เคยบอกปู่เรื่องนี้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ตัวเขาเองก็ยังคงไม่แน่ใจ... บางทีอาจเป็นเพราะพ่อแม่ของไค ที่ไครู้ดีว่ายังคงรักเขาเสมอ แม้ว่าไคเองจะจำหน้าของพวกท่านไม่ได้แล้วก็ตาม แต่เขายังคงจำรอยยิ้มของพวกท่านได้ ทั้งเสียงทุ้มต่ำที่คอยหัวเราะพร้อมกับเขา หรือเพลงกล่อมเด็กที่อ่อนโยนที่ร้องให้ไคฟังก่อนเข้านอน... เพื่อเป็นการให้เกียรติพ่อแม่ที่ไครัก แม้ว่าใบหน้าพวกท่านจะเลือนหายไปจากความทรงจำของเขาแล้ว ไคจึงปฏิเสธที่จะหยุดเชื่อในเรื่องวันคริสต์มาสโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ทุกคืนวันคริสต์มาสของทุกปี ไคมักจะขออธิษฐานพรอยู่หนึ่งข้อ ไม่เคยมากไปกว่านั้น มันเป็นความเชื่อเล็กๆ ที่แสนเปราะบางของไคว่าหากเขาอธิษฐานในคืนวันนี้ ท้ายที่สุดแล้วคำอธิษฐานนั้นจะกลายเป็นจริง และในแต่ละครั้ง ไคจะอธิษฐานในสิ่งเดิมๆ นั่นคือ การมีใครสักคนเป็นห่วงเขา ใครสักคนที่จะรัก ไม่ว่าเขาจะทำผิดมากมายเพียงใด ใครสักคนที่จะยอมให้อภัยในความผิดพลาดและคอยปลอบโยนให้เขาหายจากความกลัว คนที่จะทำให้เขาไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกต่อไป
ทว่าเวลาหลายปีได้ผ่านไป แต่คนคนนั้นก็ยังไม่มา ในที่สุดไคจึงหยุดที่จะเชื่อในเรื่องพวกนี้ซะ เขาถอนตัวเองออกมาจากคนอื่นและใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากกว่าเดิม เพื่อให้ลืมความเจ็บปวดและความรู้สึกที่ตนถูกทรยศ รวมทั้งเพื่อให้ลืมความอยุติธรรมทั้งมวลที่เกิดกับตัวเอง และเพื่อให้ลืมว่า เขาได้อยู่เพียงลำพังมาโดยตลอดอาจเพราะตอนนั้นความผิดของเขาช่างมากมายและเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงเสียจนไม่มีทางที่จะมีใครต้องการเขาอีกต่อไป
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ คนคนนั้น ก็ได้มาถึง ในช่วงเวลาที่ไคอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด เป็นช่วงเวลาที่ตัวของไคเองเคยคิดไว้ว่าเขานั้นอยู่ในจุดที่เกินกว่าที่จะมีใครมาช่วยได้ และ เขาได้สูญสิ้นความเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้วนั้นเอง... คนคนนั้น ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งบ้าระห่ำ ส่งเสียงดัง และ มั่นใจในตัวเองจนเกินไป... คนคนนั้น ราวกับเป็นนางฟ้าที่ตกมาจากสรวงสวรรค์ ที่แสนกระตือรือร้น ใสซื่อบริสุทธิ์ และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา คนคนนั้น เป็นคนที่ใจกว้างที่สุดเท่าที่ไคเคยเห็น อีกทั้งนิสัยที่ชอบให้อภัยที่เทียบได้กับนักบุญนั่นอีก คนคนนั้นทำให้ทุกคนมีความรู้สึกลึกๆ ว่ายังคงมีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้สิ่งต่างๆ นั้นดีขึ้นได้ และเหนือสิ่งอื่นใด คนคนนั้น ก็เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้เช่นกัน
คนคนนั้น คือ คนที่ได้ช่วยเหลือไคไว้ ในหลายๆ ความหมาย แม้ว่า เขา จะไม่รู้เรื่องนี้เลยก็ตาม
แม้กระนั้น ไคก็ได้ถลำลึกมากจนเกินไป เขาไม่สามารถเชื่ออะไรได้อีก ในความคิดของเขา ความปรารถนาที่แท้จริงนั้นยังไม่สำเร็จสมหวัง ไม่ใช่ทั้งหมด คนคนนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่ว่าแค่นั้นมันยังไม่พอ ไคต้องการ...คนคนนั้น...ให้รู้สึกกับเขาในแบบที่พิเศษ แต่เขาก็รู้ดีว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้น ด้วยเพราะเขาไม่สมควรที่จะได้รับมัน และเขาได้ทำสิ่งที่ผิดมามากมายเหลือเกิน
เขาพบว่าตนเองยังคงเฝ้าฝัน เฝ้าหวัง และ ปรารถนา ... ถ้าเพียงแต่ คนคนนั้น สามารถรักเขาในแบบนั้นได้... ถ้าหากไคจะสามารถครอบครองและอยู่กับคนคนนั้นได้ตลอดไป...
ทว่าไคเองก็รู้ดียิ่งกว่าใครว่าความปรารถนานั้นไม่ได้อะไรกลับมาเลย ไม่ว่าจะเป็นวันคริสต์มาสหรือวันอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกเสียจากให้ความหวังผิดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นจริง...และไคเองจะไม่มีวันถูกหลอกอีกเป็นครั้งที่สอง
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเสียงหนึ่งที่เรียกเขาให้ออกจากภวังค์ของตนเอง :
"ไค! เข้ามาข้างในนี่สิ! นายต้องมาเห็นต้นไม้นี่นะ! มันเจ๋งมากเลยอ่ะ!"
ไคทอดถอนใจ ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเฉลียงหน้าประตูบ้านของทาคาโอะ เหม่อมองไปยังเกล็ดหิมะขนาดเล็กที่ร่วงหล่นอย่างแผ่วเบามาจากฟากฟ้า พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจึงราวกับถูกย้อมไปด้วยสีขาว ทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ รวมกับแสงโพล้เพล้ยามพระอาทิตย์ตกดินแล้ว...ไคชอบความเงียบแบบนี้เหลือเกิน เพราะมันช่วยให้เขาคลายเครียดและทำให้ความคิดของเขานิ่งยิ่งขึ้น
เรย์ เคียวจู แม็กซ์ และ ตัวเขาเอง ได้มาที่บ้านของทาคาโอะเพื่อมาฉลองคริสต์มาสกัน ทาคาโอะที่ได้ถามพวกเขาให้มากัน แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถตอบปฏิเสธได้เลย ไคเองก็สงสัยเหมือนกันว่าจะมีใครที่ไหนปฏิเสธทาคาโอะได้บ้าง ทาคาโอะมีความสามารถที่จะชักจูงคนอื่นให้ทำตามสิ่งที่เขาต้องการและไม่ใช่เพราะว่าเขาเป็นผู้ชนะการแข่งขันเบย์เบลดระดับโลกถึงสามปีซ้อน มันก็แค่เพราะว่าเขาเป็น...ทาคาโอะ ง่ายๆ แค่นั้นเอง เขามีบรรยากาศรอบตัวที่ยากที่จะอธิบายได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้คนอื่นมารวมตัวกันอยู่รอบๆ ตัวเขา และเมื่อเขาทำตาราวกับลูกสุนัขใส่ ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธอะไรทาคาโอะได้เลย เป็นเพราะบทเรียนส่วนตัวบ้าๆ ของแม็กซ์แท้ๆเชียว! ไคคิด
คนอื่นๆ อีกสี่คนอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว คอยช่วยทาคาโอะตกแต่งต้นไม้ในวันคริสต์มาสซึ่งเป็นวันพรุ่งนี้ คุณปู่เองก็ได้ตกแต่งส่วนนอกบ้าน และไคเองก็ต้องยอมรับ(แม้จะไม่เต็มใจ)ว่ามันออกมาดูดีทีเดียว ตอนนี้คุณปู่ได้ไปที่บ้านของเพื่อนที่ได้เชิญเขาให้ไปร่วมงานปาร์ตี้คริสต์มาสกันและคงจะกลับมาในช่วงดึกเลย ตอนแรกคุณปู่ไม่อยากที่จะปล่อยให้ทาคาโอะอยู่คนเดียวในวันคริสต์มาสอีฟ ทว่าทาคาโอะเองยืนยันว่าเขาไม่เป็นไรเพราะมีเพื่อนๆ มาที่บ้านด้วย หลังจากนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะชักนำให้คุณปู่รีบไปงานปาร์ตี้ในทันที (มันดูเป็นแนวคิดที่แปลกมาก แต่คุณปู่เองก็เป็นคนที่แปลกอยู่แล้ว...และทาคาโอะเองก็เป็นคนแรกที่พูดไปแบบนั้นด้วย!)
"ไค!" ทาคาโอะเรียกเขาอีกครั้งจากด้านใน "นายแข็งไปแล้วหรือยังไง? เข้ามาข้างในได้แล้วน่า!"
ไคส่งเสียงลอดไรฟันก่อนจะยืนขึ้น นี่แหละทาคาโอะ ไม่เคยให้เขาได้มีช่วงเวลาของความเงียบสงบเลย ทำไมเขาต้องตกหลุมรักเจ้าบ้านี่ด้วยนะ?
ใช่แล้วล่ะ ไครู้ความรู้สึกนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน ภายหลังชัยชนะของพวกเขา (พูดให้ถูกคือชัยชนะของทาคาโอะมากกว่า) ต่อทีม BEGA ถึงอย่างนั้น ความรู้สึกนี้คงจะมีมาก่อนหน้าที่เขาจะรู้สึกตัวอยู่นานโข ไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงไหนในการลบล้างมันออกไป...ความรู้สึกที่ว่าทาคาโอะคือคนคนนั้นสำหรับเขา คนที่เขาตามหามานานตลอดชีวิต คนที่เขาได้สูญสิ้นซึ่งความหวังในการตามหา คนที่เขาเฝ้าปรารถนามาหลายต่อหลายครั้งในคืนวันคริสต์มาสอีฟ... คนคนนั้นได้มาอยู่ตรงนี้แล้ว ทว่าไคเองก็ไม่สามารถที่จะครอบครองคนผู้นั้นได้ แน่นอนว่าไครู้ดีว่าทาคาโอะนั้นคอยเป็นห่วงเป็นใยเขา แต่ก็แค่ในฐานะเพื่อนเท่านั้น ไม่เคยคิดมากไปกว่านั้น คงจะงี่เง่าสิ้นดีสินะหากจะยังเฝ้าหวังต่อไป...
บางทีเขาคงกำลังถูกลงโทษสำหรับการที่เขาหยุดเชื่อในวันคริสต์มาส ความคิดนี้ยิ่งทำให้ไครู้สึกโกรธและหดหู่ ซ้ำยิ่งทำให้เขาไม่อยากที่จะเปลี่ยนความคิดในเรื่องนี้ ใครกันที่จะโหดร้ายพอที่จะนำสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุดมาวางไว้ให้ตรงหน้าก่อนที่จะทำให้เขารู้ว่าไคไม่สามารถที่จะครอบครองได้ไม่ว่าเขาจะพยายามมากมายเพียงใด มันทำให้ไครู้สึกโกรธและภายในอกก็รู้สึกเจ็บ...ทั้งๆ ที่ใกล้จนแทบจะสัมผัสได้ถึงความรัก แต่ก็ยังไกลเกินเอื้อม
ไคปัดหิมะออกจากกางเกงก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะโดนจู่โจมจากทาคาโอะที่กำลังมีความสุขเกินเหตุที่ซึ่งกำลังเต้นไปรอบๆ ตัวเขาอย่างบ้าคลั่งพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า :
"ทำอะไรอยู่น่ะ ไค? ตุ๊กตาหิมะเหรอ? ช่างมันเหอะ นายต้องเข้ามาดูต้นไม้นี่นะ! แม็กซ์กับฉันพึ่งประดับของตกแต่งชิ้นสุดท้ายลงไป! มันสวยจนนายไม่อยากเชื่อเลยแหละ!"
ไคที่พึ่งถอดรองเท้าบู้ตออก พยายามกลั้นยิ้มต่อความกระตือรือร้นของทาคาโอะ ที่ช่าง...น่ารักชะมัด เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่หลงรักผู้ชายคนนี้เข้า
ทาคาโอะที่ดูเหมือนจะคิดว่าไคช่างชักช้าเสียจริง จึงรีบคว้าข้อมือไคเอาไว้และลากเขาเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยที่ไคพยายามที่จะระงับความสุขที่แล่นขึ้นมาจากการถูกเนื้อต้องตัวกัน ดวงตาหรี่เล็กลงเพื่อให้ทาคาโอะไม่สังเกตเห็นถึงความรู้สึกยุ่งยากใจที่เกิดขึ้น ถ้าหากเพียงไคกล้าที่จะมองไปที่ทาคาโอะล่ะก็ เขาคงสังเกตเห็นไปแล้วถึงสีหน้าเขินอายที่แดงจัดของคนที่กำลังลากเขาอยู่ในตอนนี้
ทั้งสองคนเข้าไปในห้องนั่งเล่นขณะที่คนอื่นๆ กำลังนั่งรออยู่ เรย์ที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้นอนกำลังดื่มชาอย่างใจเย็นโดยมีแม็กซ์ซบอยู่พร้อมกับเอาหัวพิงไหล่ของเนโกะจินไว้ ทุกคนต่างรู้ดีว่าตอนนี้ทั้งสองคนกำลังคบหากันอยู่ เมื่อมองไปที่ทั้งสองคนแล้ว ไคจึงรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยที่ทั้งสองมีชีวิตอยู่ในแบบที่เขาฝันถึง และแน่นอนว่าทั้งสองคนคงไม่ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้แน่ๆ
เคียวจูเองก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเช่นกัน เขานั่งอยู่ในเก้าอี้เท้าแขนตัวใหญ่พร้อมกับคอมพิวเตอร์คู่ใจวางอยู่บนตัก
เมื่อทาคาโอะจู่ๆ ก็ปล่อยข้อมือของไคมันถึงกับทำให้ไครู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาทันทีทันใดและเขาต้องใช้ความพยายามในการควบคุมตนเองถึงที่สุดที่จะไม่เอื้อมแขนไปดึงตัวทาคาโอะกลับมาหาตน เขาก้าวออกไปด้านหน้าและชี้ไม้ชื้มือพร้อมกับตะโกนก้อง :
"แต่นแต๊น! คิดว่ายังไงกันบ้างล่ะ?"
ไคละความสนใจจากทาคาโอะ(ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก)ก่อนจะมองไปยังต้นคริสต์มาสที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มุมซ้ายของห้องนั่งเล่น ทั้งสีน้ำเงิน แดง ทอง เขียว ชมพู... สีสันหลากหลายเสียจนทำให้เขารู้สึกเวียนหัว แต่ไคเองต้องยอมรับเลยว่ามันดูดีและสวยงามมากจริงๆ แต่ก็ยังน้อยกว่าร่างบางที่เขาขอไม่เอ่ยชื่อ...
"ว่าไงล่ะ?" ทาคาโอะถามขึ้น "นายชอบมันรึเปล่า?"
มีประกายความหวังบางอย่างในดวงตาของทาคาโอะเมื่อไคหันไปมอง เมื่อพ่ายแพ้ต่อดวงตาสีน้ำตาลช็อคโกแลตคู่นั้น ไคจึงได้แต่ตอบไปอย่างสัตย์จริง :
"ก็สวยดีนี่" 'เหมือนนายไงล่ะ...' ไคเติมประโยคหลังในความคิดของเขา
"จริงเหรอ?" ทาคาโอะพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างที่แทบจะส่องสว่างไปทั่วบริเวณห้องก็ว่าได้
"จริงสิ" ไคย้ำ
บนเก้าอี้นอน เรย์กับแม็กซ์ส่งรอยยิ้มรู้ทันมาให้ไคซึ่งทาคาโอะมองไม่เห็น เพราะมัวแต่อธิบายว่าแม็กซ์กับตัวเองเอาดาวไปประดับบนยอดต้นไม้ได้อย่างไร แต่แน่นอนว่าไคทันเห็นรอยยิ้มรู้ทันนั้นและถลึงตามองกลับไป เรย์จึงกลอกตา ส่วนแม็กซ์ก็หัวเราะคิกคักตอบ คู่รักคู่นี้ดูท่าว่าจะไม่กลัวโดนลอบฆ่าตอนเผลอหลับแล้วเป็นแน่แท้...หรือไม่บางทีทั้งสองคนคงชอบที่จะอยู่อย่างโลดโผนกระมัง...
ช่วงเย็นที่เหลือผ่านไปด้วยความสงบเงียบ ยกเว้นแต่ตอนที่เรย์ไล่จับทาคาโอะและแม็กซ์ ซึ่งนานประมาณยี่สิบนาที สำหรับการขโมยแปรงหวีผมของเขาไป หรือตอนที่เคียวจูเกือบเป็นลมตอนที่ทาคาโอะเกือบทำช็อคโกแลตร้อนหกใส่คอมพิวเตอร์แสนรักของเขา
เวลาห้าทุ่ม คือเวลาที่ทุกคนเข้านอนกันหมด เว้นเสียแต่ไคที่กลับไปนั่งบนเฉลียงหน้าบ้านอีกครั้ง เขาต้องการเวลาที่จะคิด...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครกันนะที่บอกว่าในคืนวันคริสต์มาส ความปรารถนาของเราจะกลายเป็นความจริง
มันทำให้ไครู้สึกหงุดหงิดที่จะคิดว่ามีใครบางคน เชื่อ เรื่องหลอกลวงนี่จริงๆ เป็นไปได้ยังไงกัน? ประโยคนั่นไม่เห็นจะมีอะไรจริงสักอย่าง ไครู้ดี เพราะ เขาได้รู้ซึ้งถึงมันมาแล้วในแบบที่ช่างทรหด
ไคอยากจะโกรธโลกใบนี้ที่ทำให้เขาเคยคิดว่าเพียงแค่ปรารถนาถึงบางสิ่ง สิ่งนั้นสามารถเกิดขึ้นจริงได้ ในเวลาที่เขายังเด็ก เขาเคยเชื่อมันอย่างสุดใจ... ทำไมเขาถึงต้องโดนหลอกลวงอย่างโหดร้ายแบบนี้ด้วย
เมื่อรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะหดหู่ ไคจึงพยายามคิดถึงสิ่งอื่นที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแทน
เขาไม่แปลกใจเลยที่ความคิดของเขาจะหันไปสนใจในเรื่องของทาคาโอะในทันที
ทาคาโอะ... เส้นผมสีน้ำเงินที่นุ่มลื่นราวกับเส้นไหมกับดวงตาสีน้ำตาลที่แสนอบอุ่นคู่นั้นที่ไคจมดิ่งลึกลงไปอย่างยินดี ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในความคิดและจิตใจของเขามีเพียงทาคาโอะเท่านั้น ทั้งแข็งแกร่ง ซื่อสัตย์ และ จิตใจแน่วแน่... ไครู้สึกเป็นหนี้บุญคุณร่างบางเหลือเกิน ทาคาโอะเป็นคนที่เปลี่ยนตัวเขาได้อย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน เป็นคนแรกที่มาเป็นเพื่อนกับเขาในขณะที่คนอื่นพยายามที่จะหลีกเลี่ยง ทาคาโอะยังเชื่อในตัวเขา อยู่กับเขา และเชื่อมั่นในตัวเขา... ทำให้เขามีเพื่อนมากมาย รวมทั้งครอบครัวและความหวัง ทาคาโอะให้อภัยในความผิดพลาดของเขาทุกอย่างแม้แต่ความผิดที่แสนใหญ่หลวง ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ทาคาโอะก็คงจะไม่พยายามจะทำแบบนี้กับเขาอีกต่อไป แต่ทาคาโอะก็เพียรพยายามที่จะทำต่อไป และเขาก็ทำมันสำเร็จ ตอนนี้หัวใจและจิตวิญญาณของไคพร้อมจะมอบให้ทาคาโอะ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับมัน ไคก็ยินดี เรื่องเศร้าก็คือ ทาคาโอะไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิดเดียว
ไคถอนใจด้วยความรู้สึกผิดหวัง ชีวิตของเขาช่างยุ่งเหยิงเสียนี่กระไร แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ ไม่เคยมีสิ่งไหนที่เขาต้องการมากเท่ากับความรักจากทาคาโอะ หากเพียงเขาได้ครอบครองมันแล้วล่ะก็ เขาจะไม่ร้องขออะไรอีกเลยในชีวิตนี้
...แต่ไม่ว่าเขาจะต้องการมันมากถึงเพียงไหน ก็ไม่ได้ทำให้มันเกิดขึ้นจริงได้สินะ? ชีวิตไม่ได้ง่ายแบบนั้น ไม่ว่าจะอยากได้มากขนาดไหน แต่ถ้าไม่ได้ถูกกำหนดให้ได้มันมา ก็ไม่มีวันจะได้มันมาหรอกนะ
และการอธิษฐานให้ได้มันมาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ว่าจะเป็นวันคริสต์มาสหรือไม่ก็ตาม
'ถึงจะต้องเจ็บแล้วมันยังไงล่ะ?' ไคคิด 'แค่เพียงครั้งเดียว...ครั้งสุดท้าย ฉันไม่ต้องการสิ่งไหนมากขนาดนี้มาก่อนตลอดชีวิตของฉัน... ถึงยังไงก็ไม่มีใครจะล่วงรู้ถึงสิ่งนี้'
มาถึงขนาดนี้แล้ว เขามีอะไรจะต้องเสียอีกล่ะ?
คิดได้ดังนั้น ไคจึงมองขึ้นไปบนฟากฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ดวงตาค่อยๆ มองตามจุดสีขาวเล็กๆ ที่ยังคงร่วงหล่นลงมา...และทำการอธิษฐาน :
"ได้โปรดเถอะ" ไคกระซิบอย่างแผ่วเบา "ขอแค่ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย...ฉันอยากที่จะอธิษฐาน ให้คนที่ฉันรักรักฉันตอบบ้าง...มันยากที่จะทำให้นักหรือไงกัน?"
แน่นอนว่าไม่มีใครตอบเขากลับมา ไคถอนหายใจอีกรอบ นี่มันสิ้นหวังชะมัด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาพึ่งทำอะไรลงไป ตอนนี้ความหวังของเขาถูกทำลายลงไปอีกรอบแล้ว เขาคงชอบที่จะทำให้ตัวเองทรมานสินะ นั่นสิ...สายเกินกว่าที่จะถอนคำพูดแล้วด้วย เขาคงต้องอยู่กับความจริงที่ว่าเขากับทาคาโอะคงไม่สามารถเป็นอะไรกันได้มากกว่าความเป็นเพื่อน และถ้านั่นเป็นสิ่งที่เขาจะได้ เขาก็ยินดีที่จะรับมัน กระนั้นเขาก็ยังคงปรารถนาให้-
"ไครึเปล่า?"
ไคสะดุ้งก่อนจะหันกลับไปมอง...ไม่สามารถเค้นเสียงออกมาจากลำคอได้เมื่อดวงตาสีน้ำตาลช็อคโกแลตจ้องตอบกลับมา
"นายมาทำอะไรอยู่ข้างนอกตอนนี้เนี่ย?" ทาคาโอะถาม "นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ"
ไคไม่ได้ตอบกลับไป แต่กลับสังเกตที่ตัวทาคาโอะแทนที่ตอนนี้สวมเพียงชุดนอน เส้นผมสีน้ำเงินเข้มถูกปล่อยสยายไม่ได้มัดหางม้าเหมือนอย่างเคยตกลงมาเคลียไหล่ สำหรับไคแล้ว เขาไม่เคยเห็นคนตรงหน้าสวยงามมากขนาดนี้มาก่อน...
"ไค? นายโอเครึเปล่า?"
โอเครึเปล่า...? พระเจ้าคงจะสงสารในจิตวิญญาณดวงนี้ของเขาสินะ สิ่งที่เขาต้องการจะทำในตอนนี้คือได้สัมผัสตัวทาคาโอะ ได้ไล้มือผ่านแก้มนุ่มนั่น และสัมผัสกับเส้นผมนุ่มราวกับไหม ได้โอบกอดเขา...และได้จูบ...
"ฮัลโหล! ไค นายยังอยู่รึเปล่า! มีใครอยู่บ้างมั้ย?"
ไคสั่นหัว พยายามจะลบภาพที่อยู่ในหัวของเขาออกไปก่อนหันหนีทาคาโอะและตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ :
"ฉันไม่เป็นไร นายกลับไปนอนเถอะ ทาคาโอะ"
บ้าจริง เขาแน่ใจว่าเสียงของเขาสั่นตอนที่เรียกชื่อนั้นออกไป...
"แล้วทิ้งนายหนาวไว้ตรงนี้เนี่ยนะ? ไม่เอาหรอก!" ทาคาโอะแย้งกลับ
ชายหนุ่มผมน้ำเงินจึงเดินเข้าไปหาไคและนั่งลงข้างเขา
"ทำอะไรของนายน่ะ?" ไคถามด้วยความงุนงง
"ก็รอนายกลับเข้าไปข้างในน่ะสิ ฉันไม่ยอมให้นายแข็งตายหรอก"
"งั้นนายก็จะแข็งไปด้วยน่ะสิ"
"นั่นแหละประเด็นล่ะ" ทาคาโอะตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย "นายคงไม่ปล่อยให้ฉันแข็งตายหรอก ใช่มั้ย?"
'ไม่ ไม่มีวันซะหรอก' เป็นสิ่งที่ไคคิด แต่สิ่งที่เขาพูดมีเพียง :
"หึ"
ทาคาโอะกลอกตาอย่างขำๆ คำตอบแบบนี้จากไคเคยทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดแต่ตอนนี้เขาพบว่ามันดูตลกดี
สายลมเริ่มแรงขึ้นจนทาคาโอะตัวสั่น ก็เขาใส่มาแต่ชุดนอนนี่!
ไคที่สังเกตเห็นในทันทีพูดอย่างใจเย็นราวกับไม่ค่อยใส่ใจ :
"ก็ได้ เข้าไปข้างในกัน ยังไงซะมันก็ดึกแล้ว"
ทาคาโอะยิ้มเยาะใส่เพราะรู้ว่าตัวเองชนะไคได้อีกครั้งแล้ว
ทั้งสองคนเดินเข้าบ้านอย่างเงียบเชียบเพราะไม่อยากทำให้คนอื่นตื่น และทาคาโอะก็ตัดสินใจว่าพวกเขาควรจะดื่มช็อคโกแลตร้อนเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นก่อนเข้านอน ทั้งสองต่างนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเครื่องดื่มในมือ ต้นคริสต์มาสกับแสงสลัวหลากสีของมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ห้องนี้ไม่ได้มีแต่ความมืด ซ้ำยังได้ยินเสียงนาฬิกาเดินอย่างเป็นจังหวะเป็นฉากหลังอีกด้วย...
ทาคาโอะที่อิงแอบอยู่ด้านหนึ่งของเก้าอี้นอนจู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า :
"ไค นายเชื่อรึเปล่าว่าความปรารถนาเราจะเป็นจริงในคืนวันคริสต์มาสน่ะ?"
ไคมองทาคาโอะด้วยสีหน้าประหลาดใจและตกตะลึง จะให้เขาตอบไปว่าอะไร? แต่ดูแล้วทาคาโอะไม่ได้ต้องการคำตอบนั้นเพราะพูดต่อโดยไม่ได้รอเขาพูดเลย :
"ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงนะ แต่ว่าคงต้องอยากได้มากจริงๆ เลยล่ะมันถึงจะกลายเป็นจริงได้"
ไคทำได้เพียงขมวดคิ้ว เขารู้ดีว่าความปรารถนานั้นไม่ได้เป็นความจริง เขารู้ดียิ่งกว่าใคร... ถ้ามันเป็นจริงขึ้นมาล่ะก็ ถ้างั้นทาคาโอะก็คง-
"ไค ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกนายแหละ" ทาคาโอะพูดขัดขบวนความคิดของเขาขึ้นมา
ไคชำเลืองมองและสังเกตว่าทาคาโอะดูกระสับกระส่ายและดูไม่ค่อยแน่ใจในการกระทำของตัวเอง นั่นดูไม่ใช่ทาคาโอะเอาซะเลย ร่างตรงหน้ามองตรงมาที่ไคและพูดอย่างแผ่วเบา :
"ไค ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องนี้มานานแล้ว...และฉันเข้าใจดีถ้าหากนายเกิดเกลียดฉันขึ้นมา แต่ยังไงฉันก็ยังอยากให้นายรู้ไว้..."
'เขาต้องการจะพูดอะไรกัน?' ไคคิดด้วยความกังวลใจ อย่างกับว่าเขาจะเกลียดทาคาโอะลงอย่างนั้นแหละ! ทาคาโอะคือนางฟ้าของเขา เขาไม่มีวันเกลียดลงหรอก... ชายตรงหน้าที่นั่งข้างไคยังคงพูดต่อโดยไม่รู้ถึงความอลหม่านวุ่นวายในส่วนลึกของไคเลย :
"ฉัน...คือว่านะ...ไค ฉันคิดว่า...คิดว่าฉันน่ะ..." ทาคาโอะหยุดไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดต่อว่า : "ฉันรักนายนะ..."
ทาคาโอะพูดประโยคสุดท้ายเบาๆ แต่ยังไงไคก็ยังได้ยิน เขาจ้องมองทาคาโอะ ไม่อยากจะเชื่อถึงสิ่งที่เขาพึ่งได้ยินเมื่อครู่นี้ บางทีเขาคงจะฝันไป...มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงสินะ...แต่ทาคาโอะกลับเข้าใจในความเงียบนี้แบบผิดๆ เขาคอตกด้วยความผิดหวังก่อนจะยืนขึ้นช้าๆ ไม่กล้ามองมาที่ไค และพูดว่า :
"ถ้างั้น...ฉันไปล่ะนะ...ฉันรู้ว่านายคงเกลียดฉันแล้วล่ะสิ...ฉันขอโทษ..."
ทาคาโอะที่เริ่มเดินจากไป กลับถูกมือของไคคว้าข้อมือดึงลงมานั่งที่เดิมบนเก้าอี้นอนเสียก่อน ด้วยความประหลาดใจและตื่นกลัวเล็กน้อย ทาคาโอะเงยหน้าจ้องมองไปที่ไค แต่สิ่งที่ไคพูดกลับเป็นว่า :
"พูดใหม่อีกครั้งซิ"
"อะไรนะ?"
"พูดมันใหม่อีกรอบได้ไหม"
ครู่หนึ่ง ทาคาโอะจึงเข้าใจในสิ่งที่ไคพึ่งพูดไป ทาคาโอะจึงหลุบตาลงต่ำก่อนกระซิบอย่างแผ่วเบา :
"ฉันรักนาย..."
ไคซึมซับประโยคนั้นไว้ด้วยความรู้สึกไม่เชื่อหูตัวเองเลยแม้แต่นิด มันเป็นไปได้อย่างนั้นหรือ...? มันคงไม่ใช่แค่เพียงอาการไข้ใจของเขาเองที่กำลังแกล้งเขาอยู่ตอนนี้หรอกใช่มั้ย? นี่ทาคาโอะพึ่งพูดสิ่งที่เขาเคยได้แต่หวังไว้มานานจริงๆ สินะ? ทาคาโอะรักฉัน! ทาคาโอะรักฉัน! หัวใจของไคกรีดร้องใส่ตัวเขาอยู่
'เขารักฉัน...' ไคคิดพร้อมกับรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย ราวกับความรู้สึกอันหนักอึ้งมันถูกยกออกไปจากตัวเขาหมด เขารู้สึกมีความสุขมากเสียจนเขากลัวว่าหัวใจของเขาจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไคจึงผุดรอยยิ้มขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ทาคาโอะที่กำลังก้มหน้าอยู่จึงไม่ทันเห็นมัน ก่อนที่ไคจะได้ยินเสียงเล็กกระซิบสั่นๆ :
"ฉันขอโทษนะ..."
ไคที่ตอนนี้กำลังยิ้มอยู่ ยื่นมือไปเชยคางของทาคาโอะขึ้นอย่างอ่อนโยนเพื่อให้เขาสามารถจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลคู่นี้ได้ ก่อนที่จะใช้อีกมือหนึ่งประคองแก้มของเขาขึ้นมาพร้อมกับเช็ดน้ำตาอุ่นๆ ที่ไหลออกมาอย่างเงียบงันให้ พยายามอย่างยิ่งที่จะใส่ความอบอุ่นทั้งหมดที่เขามีลงไปในคำพูดนี้
"ฉันก็รักนายเหมือนกันนะ"
ทาคาโอะมองไคตอบด้วยสายตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไคพยายามที่จะไม่ถูกสายตาตรงหน้าดึงดูด แต่ก็ต้องล้มเหลวอย่างไม่อาจต้านทานได้
"นาย...เหมือนกันงั้นเหรอ?" ในที่สุด ทาคาโอะก็หาเสียงของตัวเองเจอ
ไคเพียงแค่พยักหน้า และเขาก็ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป เขาประคองใบหน้าตรงหน้าไว้ด้วยสองมือให้มาใกล้กับใบหน้าตน...และรอ ว่าทาคาโอะจะผละหนีออกไปหรือไม่ แต่ทาคาโอะกลับหลับตาลงและถอนหายใจด้วยความสุข ไคไม่ต้องการคำอนุญาตใดๆ มากไปกว่านี้อีกแล้ว
ไคยังคงไม่สามารถเชื่อในโชคดีของตนได้อย่างเต็มที่ แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีวันปล่อยมันให้หลุดไปจากมือของเขาแน่ เขาเอียงหน้าก้มลงปิดปากทาคาโอะด้วยปากของตนเอง... มันเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยมอย่างที่สุดที่เขาเคยรู้สึกมา ขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังบดเบียดริมฝีปากนุ่มตรงหน้า เขาค่อยๆ โน้มน้าวให้ร่างตรงหน้าเปิดปากออก ก่อนที่ไคจะได้ลิ้มรสราวกับการขึ้นสวรรค์ภายในโพรงปากร้อนที่เขากำลังค้นหาด้วยลิ้นของตน ความฝันของเขาได้กลายมาเป็นความจริงและมันช่างดีกว่าอะไรๆ ที่เขาเคยจินตนาการไว้ทั้งหมดเสียอีก...
เมื่อความต้องการอากาศเริ่มเพิ่มขึ้น ทั้งคู่จึงผละออกจากกันอย่างไม่เต็มใจนัก ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ยังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอยู่ดี เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทาคาโอะยกมือขึ้นโอบรอบคอของไคไว้ ส่วนแขนของไคในตอนนี้กลับโอบไว้รอบเอวของร่างตรงหน้า ทั้งคู่อยู่อย่างนั้นสักพักหนึ่งด้วยความที่ไม่อยากจะขยับไปไหน ก่อนที่ทาคาโอะจะกระซิบขึ้นมาโดยที่ยังคงยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
"รู้อะไรมั้ย? นี่มันเป็นความปรารถนาของฉันเลยนะ ว่านายจะรักฉันตอบกลับมาบ้าง..."
ไคแทบจะหัวเราะออกมากับประโยคที่ดูราวกับจะประชดตัวของเขาเอง ไคยกมือขึ้นปัดปอยผมของคนรักที่นุ่มราวกับไหมออกจากใบหน้าของทาคาโอะ ก่อนที่จะยอมรับออกมาว่า :
"มันเป็นความปรารถนาของฉันเหมือนกัน"
'และจะเป็นความปรารถนาของฉันตลอดไป...'
ทาคาโอะเงยหน้ามองไคด้วยรอยยิ้มสว่างที่แทบจะทำให้ดวงอาทิตย์ยังต้องอาย ไคที่กำลังจะก้มลงจูบทาคาโอะอีกรอบก็โดนเสียงนาฬิกาข้อมือของทาคาโอะร้องขัดขึ้นซะก่อน ทำให้เด็กหนุ่มผมสีฟ้าต้องหัวเราะก่อนที่จะกดปิดเสียงนั้นไป
"เที่ยงคืนแล้วนะ สุขสันต์วันคริสต์มาสนะ ไค!"
ไคยิ้มก่อนที่จะกระชับอ้อมแขนให้ทาคาโอะเข้ามาใกล้ขึ้น ก่อนจะตอบกลับออกไป
"สุขสันต์วันคริสต์มาสเช่นกัน รักนะ"
นี่สิ สุขสันต์วันคริสต์มาส ที่แท้จริง เป็นวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดที่ไคเคยมีมา เพราะปีนี้ เขามีครอบครัวที่เขาสามารถเฉลิมฉลองด้วยได้ มีเพื่อนที่จริงใจและเป็นห่วงเขาอย่างแท้จริง เขามีบ้านที่ประดับประดาไว้แล้วกับต้นคริสต์มาส แต่เหนือสิ่งอื่นใด นี่เป็นครั้งแรก ที่ความปรารถนาของเขากลายเป็นจริง ; คนที่เขารัก นางฟ้าสีฟ้าของเขา ได้รักเขาตอบกลับมาแล้ว และนี่คือ ของขวัญวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดที่ไคเคยได้รับมา
"ไค?" เขาได้ยินเสียงคนรักของเขาพูดขึ้นมา (รู้สึกดีจริงๆ ที่ได้เรียกทาคาโอะแบบนี้)
"มีอะไรเหรอ?" ไคตอบกลับอย่างเรียบๆ
ทาคาโอะที่เงยหน้ามองอยู่จึงถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา
"อยู่กับฉันตลอดไปได้มั้ย?"
ไคยิ้มตอบกับคำถามนั้นก่อนจะตอบออกไปว่า
"ฉันจะอยู่กับนายตลอดไป" ไคยืนยัน
ไคก้มหน้าลงจูบทาคาโอะอีกครั้ง ราวกับให้จูบนี้คือคำมั่นสัญญา ทำให้ทาคาโอะจึงจูบตอบอย่างกระตือรือร้น
ไม่นานนัก ทั้งสองคนแทบจะผลอยหลับอยู่บนระเบียงบ้านในอ้อมแขนของกันและกัน เพราะ รู้สึกดีจนไม่อยากจะขยับไปไหนหรือกลับไปที่ห้องของตนเอง ไคที่กำลังรู้สึกว่าเปลือกตาของตนช่างหนักอึ้งจึงประคองร่างของทาคาโอะที่หลับไปแล้วไว้และจัดท่าทางให้ตนเองกับทาคาโอะนอนลงบนพื้นได้สำเร็จ ไคเอื้อมมือไปโอบไหล่ทาคาโอะไว้และจูบหน้าผากของร่างตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ยังคงรู้สึกยินดีกับความจริงที่ว่าตอนนี้ทาคาโอะคือคนรักของเขาแล้ว และเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ไคจะสงสัยว่าใครกันนะที่บอกว่าความปรารถนานั้นจะกลายเป็นจริงในคืนวันคริสต์มาส...
'ไม่ว่าจะเป็นใคร คนพวกนั้นคงจะปรารนาถึงเรื่องความรักด้วยเหมือนกันสินะ...' ไคคิดพร้อมกับยกยิ้มหยัน
เขารู้ได้ยังไงน่ะหรือ? ก็แค่ลางสังหรณ์ ก็เท่านั้น
ไม่ช้า ไคจึงหลับไปอยู่ข้างกับคนรักของตน ใต้ต้นคริสต์มาสสดใสที่เป็นพยานเพียงผู้เดียวที่เห็นเหตุการณ์
ด้านนอก บนท้องฟ้ากว้างใหญ่ มีดาวสองดวงท่ามกลางดาวนับล้านได้ส่องแสงกะพริบเล็กน้อย ก่อนที่จะลับหายไป ความปรารถนาในวันคริสต์มาสของคนสองคนได้กลายเป็นจริงแล้ว
++++++
เสร็จแล้ว เย้! น้ำตาไหลพราก
ภาษาอาจจะดูทื่อๆ เพราะเป็นมือใหม่ ยังไงก็ขอคำติชมด้วยนะเจ้าคะ
หวังว่าทุกคนจะสนุกกับฟิคเรื่องนี้ และ สนับสนุน KaixTakao ต่อไป >[]</
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow
"สนุกมาก"
(แจ้งลบ)เป็นเนื้อหาที่สนุก ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร เนื้อหาเยี่ยม เนื้อหาทำให้นึกถึงคริสต์มาส สงสารไคอ่ะ อ่านเพิ่มเติม
เป็นเนื้อหาที่สนุก ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร เนื้อหาเยี่ยม เนื้อหาทำให้นึกถึงคริสต์มาส สงสารไคอ่ะ
Hi21 | 4 มิ.ย. 53
2
0
"สนุกมาก"
(แจ้งลบ)เป็นเนื้อหาที่สนุก ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร เนื้อหาเยี่ยม เนื้อหาทำให้นึกถึงคริสต์มาส สงสารไคอ่ะ อ่านเพิ่มเติม
เป็นเนื้อหาที่สนุก ไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร เนื้อหาเยี่ยม เนื้อหาทำให้นึกถึงคริสต์มาส สงสารไคอ่ะ
Hi21 | 4 มิ.ย. 53
2
0
ความคิดเห็น