[Fic Inuyasha:SesshomaruXRin] : Happy Birthday - [Fic Inuyasha:SesshomaruXRin] : Happy Birthday นิยาย [Fic Inuyasha:SesshomaruXRin] : Happy Birthday : Dek-D.com - Writer

    [Fic Inuyasha:SesshomaruXRin] : Happy Birthday

    ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดว่า ความรัก นั้นเป็นสิ่งไร้ค่า แต่บัดนี้...สิ่งนั้นได้ทำให้ข้าได้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,912

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.91K

    ความคิดเห็น


    29

    คนติดตาม


    28
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 มี.ค. 53 / 23:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
                    ไร้สาระ หัวใจราวกับกำลังถูกบีบ ทรมานเหลือเกิน
     
              คนอย่างข้าไม่มีวันมีความรู้สึกพรรค์นั้นหรอก
     
                    แต่
     
              ถ้าเช่นนั้น ความรู้สึกนี่มันคืออะไร
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title        : Happy Birthday [SesshomaruXRin]
      Anime    : Inuyasha
      Author   : Bloody Snow
       
                       ถึง โมะโม่ ~ และแล้วฟิคเรื่องนี้ก็แต่งเสร็จจนได้ (เฮ้อ ~) ตามสัญญานะ ว่าฟิคเรื่องแรกจะแต่งให้ ถึงแม้อาจจะดองมานานข้ามปี (หลายปีก็ตาม) หวังว่ามันคงจะสนุกอ่ะนะ 555+
       
      ++++++++++++++++++++
                                 ใช่...
       
                      ไม่ใช่...
       
                      ใช่...
       
                      ไม่ใช่...
       
                      ...
                     
                      กลีบดอกไม้แต่ละกลีบที่ร่วงแล้วร่วงเล่าทุกครั้งยามที่เธอกระซิบกระซาบรำพึงรำพันกับตัวเอง พอเอ่ยปากว่า ‘ใช่’ มือเรียวสวยก็เด็ดทีนึง ครั้นเอ่ยว่า ‘ไม่ใช่’ ก็เด็ดอีกทีนึง เนิ่นนานเสียจนสวนดอกไม้ที่เคยนั่งกลายเป็นสวน ‘ก้าน’ ดอกไม้แทนเสียนี่
       
                                 ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวว่าชักจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไปจึงชะงักมือที่คิดจะเอื้อมไปเด็ดกลีบดอกไม้ต่อ พลางหันซ้ายหันขวาก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และทรุดตัวลงนั่งท่ามกลางกอง ‘กลีบ’ ดอกไม้ด้วยท่าทางกลัดกลุ้ม
       
                 “อ๋อย ~ รินจังไม่เห็นจะเข้าใจเลยยย” ร่างบางใช้มือเล็กๆ ขยี้ผมตัวเองราวกับเด็กน้อยที่ไม่ได้ของเล่นที่ตัวเองต้องการ เรือนผมสีดำยาวสลวยจึงพันกันยุ่งเหยิงไปหมด
       
             ทำไมข้าจึงนึกถึงแต่ภาพของท่านเซ็ซโชมารูกันนะ ไหนจะหัวใจที่เต้นถี่แบบนี้อีก
       
                 คิดแล้วร่างบางก็หน้าขึ้นสี สองมือเรียวยกขึ้นจับหน้าที่ร้อนผ่าวของตนด้วยความกระอักกระอ่วนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
       
                 “นี่! ริน เจ้าทำอะไรอยู่น่ะ? ท่านเซ็ซโชมารูเค้าไปแล้วนะ!” เสียงแหลมๆ ฟังแล้วน่ารำคาญของจาเก็น ปีศาจร่างเล็กที่มีร่างกายสีเขียวละม้ายคล้ายกบพยายามวิ่งมาหารินเพราะส่วนสูงที่เกือบๆ จะเท่ากับขนาดของดอกไม้ในสวนทำให้ดูงุ่นง่านพิกล
       
                 “อ๊ะ! แย่แล้ว ท่านจาเก็น ทำไมมาบอกเอาป่านนี้ล่ะ!” รินรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะวิ่งสวนทางกับจาเก็นไปหาอะกับอุนทันทีโดยไม่รอจาเก็นที่ใกล้จะจม‘ทะเล’ดอกไม้อยู่รอมร่อ
       
                “เฮ้ย! นี่เจ้าไม่คิดจะช่วยข้าก่อนเร้อออ”
       
                                จาเก็นผู้น่าสงสาร... ขอให้ไปสู่สุคติเถิด~
       
      ++++++++++++++++++++
                               ท่านเซ็ซโชมารู ~ รอรินด้วยค่ะเสียงใสกังวานของรินที่กำลังขี่อยู่บน อะ อุน พร้อมกับจาเก็นที่ยึดหางของมันอยู่เพราะจะตกแหล่มิตกแหล่ ดังขึ้นเบื้องหลังเซ็ซโชมารูที่กำลังลอยอยู่เหนือป่าทางทิศตะวันตก เรือนผมยาวสีเงินปลิวสะบัดลู่ไปด้านหลังเผยให้เห็นดวงหน้าคมคายที่ไม่ว่าหญิงใดได้เห็นต้องยินยอมมอบถวายทั้งหัวใจและกายให้โดยไม่ลังเล นัยน์ตาสีอำพันเหลือบมองร่างเล็กชั่วครู่อย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าใดนัก แต่กระนั้นก็ยังยอมลดความเร็วลงเล็กน้อยพอให้คนข้างหลังได้ตามทันอยู่บ้าง
       
                                 ทำไมกันนะ?ข้าถึงยอมให้มนุษย์ที่ไม่มีอะไรดีเลยอย่างเจ้าอยู่เคียงข้างข้าได้นานถึงเพียงนี้...
       
                      เซ็ซโชมารูลอบถามตัวเองในใจเงียบๆ ด้วยความรู้สึกอันหลายหลาก แต่ตัวของเขาเองก็หยิ่งทรนงเกินกว่าที่จะยอมรับคำตอบของคำถามนี้ได้
       
                                 จากตอนนั้นถึงตอนนี้ รินก็อายุได้ 18 ปีย่างเข้า 19 ปีแล้ว ร่างบางระหงมีเรือนผมสีดำขลับที่ยาวกว่าเดิม เรือนผมยาวตรงถึงกลางหลังปลิวสะบัดพัดไปทางด้านหลังตามแรงลม ดวงหน้าเรียวเล็กที่ไม่ว่าจะหันไปมองกี่ทีก็พบแต่ความร่าเริงยินดีเสียทุกครั้ง ส่วนนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยก็ยังคงทอประกายแลดูสดใสและไร้เดียงสาซะจนร่างสูงที่อยู่ด้านหน้าใจสั่นระรัวทุกครั้งที่แลเห็น
       
                                 ท่านเซ็ซโชมารูคะ วันนี้เราจะไปไหนกันร่างบางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นราวกับเด็กที่จะได้ของเล่นชิ้นใหม่
        
                                 “…”
       
                                 ข้าอยากไปหมู่บ้านที่มีร้านอาหารอร่อยๆ จะได้กินให้พุงกางไปเลย ~ ”
       
                                 “…”
       
                      “ท่านเซ็ซโ-
       
                       ก่อนที่รินจะเปิดปากพูดอีกรอบ จู่ๆ เซ็ซโชมารูก็พุ่งดิ่งลงสู่ผืนป่าด้านล่างอย่างรวดเร็วจน อะ อุน เกือบตามไปไม่ทัน แม้รินจะไม่ค่อยออกอาการอะไรแต่จาเก็นที่แหกปากร้องเสียงหลงเพราะเหมือนมีอะไรมากระชากอย่างแรงแทบลมจับเมื่อพบว่าเบื้องล่างนั้นคือ
       
      ++++++++++++++++++++
                                  นี่ข้ามาที่นี่จริงๆ สินะ
       
                       เซ็ซโชมารูลอบถอนหายใจกับตัวเองอย่างเงียบๆ เมื่อพบว่าตัวเองยืนอยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่งซึ่งมีแต่กลิ่นสมุนไพรโชยออกมาอยู่ตลอดเวลา นัยน์ตาสีอำพันลอบมองไปรอบๆ อย่างพินิจพิเคราะห์สถานที่และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่แค่ได้กลิ่นไอปีศาจรุนแรงจากตัวร่างสูงก็วิ่งเตลิดอย่างไม่คิดชีวิตซะแล้ว
       
                                  เอ๋?! นั่นท่านพี่!” เสียงหวานที่อุทานขึ้นอย่างตกใจดังขึ้นบริเวณหลังกระท่อม หล่อนรีบเร่งฝีเท้ามาด้านหน้าราวกับไม่เชื่อสายตาตนเองว่าจะเห็นพี่ชายต่างมารดาของคนรักมายืนอยู่ตรงหน้า
       
                       “ใครเป็นพี่เจ้า!” เซ็ซโชมารูเอ่ยเสียงเฉียบพร้อมกับส่งสายตาเย็นยะเยียบไปให้แต่ดูท่าทางแล้วคงไม่ทำให้สตรีตรงหน้าสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย กลับทำให้เธอปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างขำขันแทน
       
                       หลังจากที่พวกอินุยาฉะจัดการกับนาราคุและสมุนได้แล้ว ทุกอย่างในโลกปีศาจก็กลับมาปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง มิโรคุ กับ ซังโกะ ก็ตกลงปลงใจแต่งงานและมีลูกด้วยกันถึง 3 คนแล้ว โดยมีโครงการจะมีคนที่ 4 ต่อในไม่ช้า ส่วนโกฮักคุเอง หลังจากนาราคุถูกกำจัด ก็ตั้งปณิธานฝึกฝนตนเองให้กลายเป็นนักล่าปีศาจที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยชาวบ้านจากอสูรร้ายกับผู้เฒ่าโทโตไซ และ แน่นอนว่าทางด้านอินุยาฉะเองก็เช่นกัน คาโงเมะได้ตัดสินใจจะละทิ้งโลกปัจจุบันของตนเพื่อมาใช้ชีวิตร่วมกับครึ่งอสูรผู้เป็นที่รักของเธอในโลกอดีตนี้ ในฐานะมิโกะคนหนึ่งของหมู่บ้าน
       
                                  วางใจได้ ตอนนี้อินุยาฉะไม่อยู่หรอกคาโงเมะที่อยู่ในชุดมิโกะกล่าวยิ้มๆ กับร่างสูงที่คอยสอดส่ายสายตาไปรอบๆ อย่างระแวงระวัง
       
                                  งั้นก็ดี…” ร่างสูงกล่าวเสียงเย็นก่อนจะยื่นของสิ่งหนึ่งให้แก่คาโงเมะและกระซิบบอกสิ่งที่ต้องการ ซึ่งคาโงเมะถึงกับอดยิ้มไม่ได้
       
             “ขอเวลาหนึ่งวันละกันนะ จะทำสุดฝีมือเลยเธอหัวเราะเบาๆ พลางขยิบตาให้เป็นสัญญาว่าจะทำให้สำเร็จและรีบวิ่งไปอีกด้านอันเป็นที่ตั้งของบ้านเธอทันที
       
                                  เซ็ซโชมารูยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่แม้แต่จะขยับตัวแม้แต่ก้าวเดียว รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นถี่ขึ้นทุกวินาทีที่นึกถึงคำที่เอ่ยกับ มิโกะคนนั้นไป พาลทำให้อารมณ์เจ้าตัวหงุดหงิดเป็นทวีคูณ จึงระบายโทสะโดยการตวัดแขนทำลายป่าไปแถบหนึ่ง ก่อนจะกระโดดขึ้นฟ้าและลอยไปยังที่ที่ตนจากมา
       
      ++++++++++++++++++++
                     
                                  ท่านจาเก็น ท่านเซ็ซโชมารูไปไหนนานจัง?รินถามขึ้นหลังจากที่นั่งรอมาเป็นเวลานานจนท้องชักร้องประท้วงขึ้นมาซะแล้ว
       
                                 ท่านเซ็ซโชมารูคงเบื่อจะฟังเสียงเจ้าบ่นน่ะสิ! รู้ตัวแล้วก็อย่าพูดมาก!” จาเก็นได้ทีจึงซ้ำเติมรินด้วยความสะใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่สลดลงเล็กน้อยของ คู่แข่ง
       
                      “ท่านจาเก็นนั่นแหละ ชักช้า!”
       
                      “ว่าไงนะ?!”
       
                                 ทั้งสองอารมณ์เริ่มพุ่งปรี๊ดจึงปะทะคารมกันอย่างไม่ยั้งโดยไม่สนใจฟ้าฝนเลยแม้แต่น้อย กระทั่งปีศาจหนุ่มเดินมาถึงก็ยังไม่รู้สึกตัว จะมารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อรู้สึกถึงความอันตรายที่แผ่ซ่านใกล้ๆ ตน
       
                                 ท่านเซ็ซโชมารู ~ / ท่านเซ็ซโชมารูทั้งสองกล่าวแทบจะพร้อมๆ กัน โดยไม่ลืมจะหันมาส่งสายตาอาฆาตให้อีกฝ่าย
        
                                คืนนี้พักที่นี่แหละ พรุ่งนี้เย็นค่อยว่ากันกล่าวสั้นๆ ง่าย ร่างสูงก็เหาะจากไปโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ทว่า บางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนไป เพราะ ชั่วเวลาหนึ่งนั้นเอง มีประกายบางอย่างในสายตาของปีศาจหนุ่มผู้ เคยไร้ซึ่งหัวใจ
       
      ++++++++++++++++++++
                                 เช้าวันต่อมา
       
                                เซ็ซโชมารูนอนไม่หลับทั้งคืน พอเห็นว่าอาทิตย์เริ่มขึ้น และ ฟ้าเริ่มทอแสงสีส้มอ่อนจึงรีบเดินทางมาหาคาโงเมะทันที อาจจะเช้าไปหน่อย แต่ถึงคนในบ้านจะนอนหลับ ก็แค่ปลุกให้ตื่นก็สิ้นเรื่อง เพราะเขาแทบจะอดทนต่อไปไม่ได้แล้ว
       
                                โครม!
       
                      ร่างสูงถีบประตูกระเด็นโดยไม่แยแสว่าจะมีใครอยู่แถวนั้นหรือไม่ มองเข้าไปในบ้านก็ไม่เห็นแม้แต่เงาใครสักคน แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากด้านนอกจึงเดินออกไป
       
                                กรี๊ดดดดดด!!! ประตูของข้า! เจ้าเปิดประตูไม่เป็นรึยังไง?!” มิโกะสาว ผู้มีฐานะเป็น น้องสะใภ้ร้องขึ้นเมื่อเดินมาพบว่าประตูบ้านของตนได้ทำมุม 45 องศาซึ่งกันและกัน โดยมีกึ่งกลางประตูเป็นจุดยอดมุม
       
                                 ข้ามารับของร่างสูงกล่าวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือ จะพูดให้ถูกคือ ไม่สนว่าตนเองทำอะไรไปแล้วมากกว่า
       
                      คาโงเมะทำหน้ามุ่ย แต่ก็ส่งของให้เซ็ซโชมารูตามที่สั่งไว้ให้ ดวงตาบวมแดงราวกับอดหลับอดนอนมาทั้งคืน เริ่มจะปรือลงเรื่อยๆ จนแทบจะปิด
       
                                 ฮ้าว ~ ช่างเถอะๆ ข้าไปนอนก่อนดีกว่า โชคดีนะ ท่านพี่ร่างบางเน้นเสียงคำสุดท้ายให้ร่างสูงคิ้วกระตุกเล่นๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป พร้อมบ่นพึมพำอะไรบางอย่างที่จับความไม่ได้
                     
                                 เซ็ซโชมารูถือสิ่งนั้นไว้ในมือ มือเรียวที่มีเล็บแหลมคมเหมือนจิ้งจอกนำสิ่งนั้นใส่ไว้ในอกเสื้ออย่างทนุถนอมราวกับเป็นสิ่งที่บอบบางและกลัวว่าจะแตกสลายไปโดยง่าย
       
                                 อสูรจิ้งจอกผู้น่าเกรงขาม เร่งความเร็วไปยังทิศที่ห่างจากที่พักแรมของตนเล็กน้อย นัยน์ตาเรียวแหลมเล็กหรี่ลงอย่างใช้ความคิด และ ร่างทั้งร่างก็เคลื่อนไหวราวกับแสงสว่างที่แล่นผ่านเป็นเส้นตรงเหนือผืนป่าไปอย่างรวดเร็ว
       
                                  นี่สินะความรู้สึกที่ท่านพ่อเคยมีเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
       
                      'เซ็ซโช ลูกพ่อ จงจำไว้ ว่าดาบทุกเล่มที่ข้ามี ล้วนมีหน้าที่และความหมายของตัวมันเอง เจ้าลองไปคิดดูแล้วกัน ว่าทำไมข้าจึงให้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นแก่เจ้า…'
       
                      เสียงทุ้มต่ำดังกังวานราวกับดังขึ้นข้างๆ หู เซ็ซโชมารู นี่สินะสิ่งที่ท่านพ่อต้องการจะบอก ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นสามารถคร่าชีวิตยมทูตและฟื้นคืนชีวิตให้แก่ผู้ที่ตายได้  ดาบแห่งภพวิญญาณท่านสร้างดาบเล่มนี้ขึ้นเพื่อคนที่ท่านรักสินะ ถึงกระนั้นข้ากลับคิด ว่าชีวิตของมนุษย์ที่แสนต่ำต้อยผู้หนึ่ง เทียบไม่ได้เลยกับปีศาจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและชีวิตอันเป็นอมตะเช่นเรา แต่ท่านก็ยังหลวมตัว หลงรักมนุษย์ผู้หญิงคนนั้น ยอมสละชีวิตเพียงเพื่อปกป้องชีวิตอันแสนไร้ค่าชีวิตหนึ่ง
               
              เป็นเพราะรักอย่างนั้นหรือ?
       
             ถ้าอย่างนั้น ท่านคงจะให้ดาบเล่มนี้มาผิดคนเสียแล้ว
       
             …แต่
       
            ทำไมข้าต้องดีใจที่ได้รับมอบดาบเล่มนี้มากัน?
       
                พลัน สมองก็หวนคิดไปถึงวันที่ได้ใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นเป็นครั้งแรกภาพนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำและไม่เคยเลือนหาย
       
            …วันที่รินฟื้นคืนชีวิตและมาอยู่ข้างกายข้า
       
            …วันนี้พอดีสินะ
       
       
                      ไร้สาระ…” หัวใจราวกับกำลังถูกบีบ ทรมานเหลือเกิน
       
                      “คนอย่างข้าไม่มีวันมีความรู้สึกพรรค์นั้นหรอก
       
                                แต่
       
                      ถ้าเช่นนั้น ความรู้สึกนี่มันคืออะไร
       
                      เซ็ซโชมารูกัดฟันกรอด ก่อนจะค่อยๆ ลงถึงพื้นดิน ภาพแรกที่เห็น รินกำลังวิ่งมาหาด้วยความดีใจ สายตาที่แสนจะอบอุ่นคู่นั้น ทำไมข้าถึงเกลียดไม่ลงนะ
       
                               ท่านเซ็ซโชมารู ~ เรียกข้ามาหาเหรอคะเสียงใสๆ ของรินดังเข้าโสตประสาทของร่างสูงที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของตน
       
                               เซ็ซโชมารูรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ ไม่สิ ต้องเรียกว่ากำลังตกอยู่ในอาการประหม่าเป็นครั้งแรก
       
                               ครั้งแรกที่หัวใจเต้นเร็วขนาดนี้
       
                     ครั้งแรกที่รู้สึกราวกับเลือดทุกหยาดหยดถูกส่งขึ้นไปเลี้ยงบนหน้าจนเกินพอ
       
                      และครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นภายในจิตใจที่ดำมืดมาตลอด
       
                      ร่างสูงสอดมือเข้าไปในอกเสื้อ ก่อนจะหยิบบางสิ่งออกมา สิ่งที่เขาดั้นด้นมาถึงที่นี่ให้คาโงเมะทำให้
       
                       สร้อยที่ทำมาจากเขี้ยวของเขาเอง
       
                       ข้าให้ร่างสูงรีบจับสิ่งนั้นใส่มือเล็กๆ เล็กเสียจนเขากลัวว่าจะทำให้เธอเจ็บได้ทุกเมื่อ
       
                       สร้อยเส้นเล็กส่องประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ลูกแก้วสีฟ้าใสกระจ่างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเขี้ยวของชายตรงหน้า บัดนี้ กลับถูกชำระให้บริสุทธิ์ ไร้ซึ่งไอมารด้วยฝีมือของ คาโงเมะ ที่มีพลังในการชำระล้างของมิโกะ
       
                                  เพื่อความปลอดภัยของร่างบาง
       
                      สิ่งนี้คงจะช่วยขับไล่ปีศาจไปได้บ้าง
       
                                 สวยจังเลย! ท่านเซ็ซโชมารูใจดีจังเลยค่ะ ~” รินกล่าวด้วยความปลาบปลื้ม ดวงหน้าสดใสเต็มไปด้วยความดีใจ
       
       
                                   ข้าต่างหากที่ต้องพูดเช่นนั้น
       
                      ขอบคุณที่อยู่ข้างข้าตลอดมา
       
                      ริน เจ้าน่ะ 19 แล้วสินะเสียงเย็นๆ ที่อาจฟังดูน่ากลัว แต่สำหรับรินแล้ว ประโยคนี้ทำให้หัวใจเธอพองโตขึ้นมาทันทีหรือว่า
       
             ท่านจำวันนี้ได้
       
                 ร่างสูงค่อยๆ ก้มหน้าลงจนใบหน้าทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน ก่อนจะทาบทับริมฝีปากของตนกับริมฝีปากของร่างบาง นัยน์ตากลมโตค่อยๆ ปรือลง พร้อมกับมือเรียวที่ยกขึ้นโอบรอบคอของร่างสูงเมื่อรู้สึกว่าร่างทั้งร่างราวกับไร้เรี่ยวแรงอ้อมแขนแกร่งตวัดรอบเอวบางให้เป็นที่ประคับประคอง
       
                 เซ็ซโชมารูถอนริมฝีปากออกก่อนจะขยับยิ้มส่งให้
       
            รอยยิ้มที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมา
       
            รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของเขากลับมาเต้นได้อีกครั้ง
       
            รอยยิ้มที่เขาจะมีให้เธอเพียงคนเดียว
       
           “ข้ารักเจ้าเสียงแหบพร่าที่ดังราวกับเสียงกระซิบ แต่ก็ซึมซาบเข้าสู่หัวใจร่างบางได้ทุกคำ
       
            “และ…” เขาค่อยๆ ปล่อยตัวร่างบางที่ดวงหน้าขึ้นสีจนน่ากลัว
       
           “สุขสันต์วันเกิด…”
       
             แด่เธอผู้เป็นที่รัก
       
             ผู้มอบชีวิตอันแสนสุขนี้ให้แก่ข้าที่เคยไร้ซึ่งหัวใจ
       
      ~ End ~

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×