[Fanfic:SteveXTony] First date - [Fanfic:SteveXTony] First date นิยาย [Fanfic:SteveXTony] First date : Dek-D.com - Writer

    [Fanfic:SteveXTony] First date

    งานแปลของฟิคคู่ สตีฟโทนี่ จาก ค่าย มาร์เวล ค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    758

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    758

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 เม.ย. 57 / 23:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Title : First date(s)

       

       

       

      Author : ashinan

       

      Pairing : SteveXTony

      Translator : Bloody Snow

      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                      สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะคะ เนื่องด้วยวันนี้ 4 เมษายน วันเกิดของป๋าดาวน์นีย์ผู้เป็นที่รักยิ่ง เลยอยากจะมาแปลฟิค Stony ประเดิมวันเกิดปีนี้กัน เป็นคู่หนึ่งที่น่ารักกันมากๆ หากมีส่วนไหนควรปรับปรุงแก้ไขในผลงานชิ้นนี้ ผู้อ่านสามารถแนะนำติชมเพิ่มเติมได้เลยนะคะ >w<

      ลิ้งค์สู่นิยายต้นฉบับค่ะ >>> http://archiveofourown.org/works/348944

      +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      ถ้าจะชวนคนที่เปรียบเหมือนกับสัญลักษณ์ของชาติไปออกเดทด้วยนี่จะต้องทำอะไรบ้าง?โทนี่ถามเพ็พเพอร์ที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาจากกองงานพร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้นด้วยความสงสัย

       

      ทำไม?เพ็พเพอร์ถามกลับโทนี่ที่กำลังชักสีหน้าเมื่อเขาเห็นแบบฟอร์มโครงการ Hinlim ที่กำลังรอการเซ็นอนุมัติอยู่ตรงหน้า และเพ็พเพอร์ก็จรดปลายปากกาเซ็นมันเรียบร้อยหลังจากนั้น โทนี่ นี่คุณคิดจะวางแผนทำอะไรกัน?

       

      เปล่านี่!” โทนี่ตอบเธอราวกับถูกสบประมาทอะไรบางอย่างจนเพ็พเพอร์ต้องหรี่ตามอง โอเค ก็ได้ ฉันแค่ฉันกำลังอยู่ในช่วงแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับสตีฟน่ะ เธอเองก็เคยเห็นเขาแล้วใช่ไหม? นอกจากรูปร่างหน้าตาจะสมบูรณ์แบบไปทุกอย่างแล้ว ฉันว่าเขาเองก็ไม่เลวนะ ถึงแม้ว่าจะดูงงๆ เวลาที่ฉันพูดถึงหนังบางเรื่องก็ตามที แต่สตีฟเองก็กำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ และก็สามารถที่จะเริ่มเข้าใจระบบอันซับซ้อนที่ฉันใส่ไว้ในฐานข้อมูลของ SHIELD ได้แล้ว เขาแฮ็คมันได้ง่ายๆ เลย แล้วฉันก็ -”

       

      รัก หรือ หลง?เพ็พเพอร์พูดขึ้นตัดบทโทนี่

       

      อะไรนะ?

       

      สิ่งที่นายเป็นอยู่ตอนนี้ คือ ความรัก หรือ การหลง โทนี่เพ็พเพอร์ชี้ปลายปากกามาที่เขาก่อนจะเคาะลงที่ปลายจมูกทำให้โทนี่ต้องยกมือขึ้นปัดมันออก

       

      เธอถามฉันเรื่องแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพ็พ ฉันน่ะเธอก็รู้นี่นา ว่าฉันไม่เก่งเรื่องพวกนั้นโทนี่หยิบปากกาของเธอมาและเริ่มสร้างอะไรบางอย่างจากคลิปหนีบและลวดเย็บกระดาษ เขากำลังคิดถึงคำว่า สตรอว์เบอร์รี่ ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างก่อนจะเริ่มสร้างจากส่วนฐานขึ้นมา

       

      ก็จริงอยู่ แต่นายถามฉันถึงการเดท ไม่ใช่การยั่ว ดังนั้น ฉันขออนุมานว่านายหมายถึงคำแรกละกันนะ”  โทนี่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและตัดสินใจว่าจะไม่ตอบคำถามนั้น เพราะความเป็นไปได้ของการล้มเหลวมันสูงจนจะล้มทับเขาอยู่แล้ว เพ็พเพอร์ยื่นมือมาดึงหนึ่งในคลิปหนีบของเขาออกไปส่งผลให้โครงสร้างทั้งหมดล้มตัวลงมาจนโทนี่ต้องหันไปถลึงตามอง สนใจที่ฉันพูดหน่อยสิ ฉันอุตส่าห์กำลังบอกทางแก้ไขเป็นวิทยาทานให้นายอยู่นะ

       

      ไม่ เธอกำลังโหดร้ายทารุณกับฉันอย่างไม่จำเป็น และกำลังล้อเลียนฉันอยู่ต่างหากเพ็พเพอร์ถึงกับกลอกตาใส่สิ่งที่โทนี่พูด

       

      เอาล่ะ ฉันจะพูดเรื่องต่อไปนี้ แค่ครั้งเดียว และนายควรจะทำตามสิ่งที่ฉันบอกซะ นายควรจะทำ เพราะมันจะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้นายผ่านปัญหาตอนนี้ไปได้ และสามารถที่จะมีความสัมพันธ์ที่น่าจะอยู่รอดต่อไป โอเคมั้ย? เพ็พเพอร์เซ็นเอกสารเพิ่มเติมเมื่อโทนี่โน้มตัวมาใกล้เธอมากขึ้น นี่เป็นเคล็ดลับของการชวนคนที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของชาติของนายออกไปเดทนะ : แค่ชวนเขาไปเดทซะ

       

      โทนี่ใช้มือขยี้ผมทันทีที่ได้ยินสิ่งที่เพ็พเพอร์พูดออกมา “ไม่ แบบนั้นไม่ได้ ฉันลองคำนวณทางคณิตศาสตร์ดูแล้ว ลองแม้กระทั่งใส่ตัวแปรทุกอย่าง และความเป็นไปได้ทั้งหมดที่มันจะได้ผลเมื่อทำแบบนั้นมันแทบจะเป็นศูนย์ หรือ ถ้าสตีฟตอบตกลงจริงๆ กราฟบอกฉันว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะจบลงภายในสามอาทิตย์โทนี่ถึงกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน ช่วยฉันที เพ็พเพอร์

       

      เพ็พเพอร์ถอนหายใจก่อนจะตอบว่า “ฉันกำลังช่วยนายอยู่นะ โทนี่ นายแค่ต้องเก็บความกลัวของนายไว้แล้วลองเสี่ยงดูสักครั้ง ใครจะรู้ล่ะ นายอาจจะชนะโชคครั้งนี้ก็ได้

       

      เธอไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย บอกทีซิว่าทำไมฉันถึงต้องถ่อบินมาถึงที่นี่น่ะ

       

      เพราะว่านายต้องการความชาญฉลาดของฉัน และ นายเองก็คงจะคิดถึงฉันล่ะสิ

       

      โทนี่ยกยิ้มให้กับโต๊ะ พลางใช้นิ้วจิ้มไปที่คลิปหนีบกระดาษตัวหนึ่ง “ก็คงใช่ล่ะนะ

       

                      แน่นอนว่าคำแนะนำของเพ็พเพอร์ฟังดูเรียบง่ายแต่ในขณะเดียวกัน เขาเองก็ยังคงคิดไม่ออกว่าจะใช้มันในการเริ่มต้นยังไงดี ทุกครั้งที่เขาจะเอ่ยปาก เขารู้สึกว่าลิ้นมันพันกันไปหมด ทำได้เพียงจ้องมองสตีฟนิ่งๆ ราวกับสาวแรกรุ่น และจบลงด้วยการพาตัวเองกลับมาที่แล็บทุกครั้ง สตีฟที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นสภาพอารมณ์ของเขาจึงลากเขาออกไปร้านกาแฟด้วยกัน ซึ่งโทนี่หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันคือการเดทจริงๆ เขายังคงขลาดเกินกว่าที่จะเอ่ยปากถามแม้กระทั่งตอนที่สตีฟเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มให้แก่เขาที่ตอนนี้รู้สึกตัวเองมืดมนยิ่งกว่ากาแฟดำเสียอีก โทนี่ก่นด่าเพ็พเพอร์ในใจก่อนจะส่งข้อความที่ประกอบไปด้วยคำว่า ‘ล้มเหลวหรือ ชาญฉลาดบ้านเธอสิและอื่นๆ อีกมากมายไปหา ทว่าเพ็พเพอร์กลับตอบกลับมาด้วยไอคอนหน้ายิ้มเท่านั้น และเมื่อสตีฟวางจานกาแฟลงตรงหน้าเขาพร้อมกับถามถึงความเสียหายครั้งล่าสุดที่ฮัลค์ทำไว้กับบ้านที่น่าสงสารของเขา โทนี่จึงได้ถอนหายใจออกมา

       

                      ความพยายามครั้งที่สอง โทนี่ได้ลองคำนวณใหม่อีกครั้งและพบว่ามีโอกาสที่จะสำเร็จแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม จึงเริ่มพูดถึงการออกไปเดทอย่างจริงจังจนสตีฟหันมามองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ ก่อนจะลากโทนี่ออกไปร้านกาแฟเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับกลยุทธ์การต่อสู้ ต่อด้วยไปดูหนังที่โทนี่เคยอ้างว่าเป็นแหล่งอ้างอิงทางวัฒนธรรมเพื่อให้ตามทันโลกเพราะเขาเองก็เริ่มเหนื่อยกับการที่ไม่เข้าใจในตัวโทนี่เหมือนกัน ซึ่งโทนี่ก็ตามใจเขาแต่โดยดี แหงล่ะ โทนี่จะไม่ตามใจได้ยังไงกัน – แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเสียหน่อย โทนี่พยายามต่อสู้กับตัวเองเพื่อทำตามคำแนะนำของเพ็พเพอร์และชวนออกเดทอีกครั้ง แต่ยิ่งสตีฟพาโทนี่ตะลอนในโลกแห่งความเป็นจริงเท่าไหร่ โทนี่ยิ่งเห็นความเป็นไปได้ในการมีความสัมพันธ์กับสตีฟที่ใกล้ชิดกว่านี้น้อยลงเท่านั้น ความสัมพันธ์ในตอนนี้ของทั้งสองคนคือ มิตรภาพระหว่างเพื่อนและโทนี่คงจะต้องตัดแขนขวาตัวเองทิ้งหากเขาทำมันพังหรือแย่กว่าเดิม

       

      ครั้งที่สามและครั้งที่สี่นั้น ไม่มีค่าแม้แต่จะพูดถึงมัน

       

                      โทนี่จ้องมองลงไปในถ้วยกาแฟด้วยสายตาอันว่างเปล่า พยายามปรับให้มันมีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสตอนที่สตีฟเดินเข้ามาในห้องครัวก่อนเสยผมเปียกๆ ของตนเอง สตีฟทักทายโทนี่ด้วยการหอมแก้มก่อนจะเดินไปยังตู้เย็น พยายามคุ้ยหาซีเรียลยี่ห้อ Fruit Loops ตอนที่โทนี่หันไปคำรามใส่และนั่งหลังตรงดิ่งเมื่อเลื่อนแก้วกาแฟกลับมา

       

      เดี๋ยวนะ นั่นมันอะไรกัน?

       

                      สตีฟกระพริบตาใส่โทนี่จากตู้เย็น มีเหยือกนมที่กำลังจะเข้าปาก และโทนี่ไม่สามารถจะหยุดจ้องมองเขาได้ เมื่อความรู้สึกถึงรอยจูบของสตีฟยังคงอยู่บนผิวแก้มของเขา โทนี่ไล้นิ้วผ่านจุดนั้นอย่างเหม่อลอยก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง

       

      นี่นายพึ่ง ขอโทษนะ นั่นมันอะไรกัน?

       

                      สตีฟขมวดคิ้ว ก่อนที่จะดื่มนมของเขาให้หมด และหยิบถ้วยกาแฟของโทนี่ที่หายไปแล้วครึ่งนึงมาเติมใหม่ พร้อมกับนำไปวางไว้ที่เดิมข้างหน้าโทนี่ อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสพอดีเป๊ะ มือของโทนี่สั่นเทาตอนที่เขายื่นมือไปรับมา และเมื่อมือสตีฟสัมผัสกับนิ้วของเขาอย่างระวัง โทนี่เหลือบมองร่างสูงชั่วครู่ พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและความเป็นไปได้ของการที่เขาจะเข้าใจผิดยามที่สตีฟสำรวจมือของเขา ไล้ไปมาบริเวณผิวส่วนที่ด้านหนาตรงขอบฝ่ามือของเขาที่โทนี่สามารถตอบได้ว่าแต่ละรอยแผลเป็นหรือส่วนนูนนั้นเขาได้มาจากไหน เขาสามารถบอกสตีฟได้ ณ วินาทีนั้น แต่เมื่อสตีฟยิ้มกลับมา คำพูดทุกอย่างที่อยู่ในหัวของเขาก็พลันหายไป

       

      นายไม่รู้งั้นหรือ?โทนี่ได้แต่กระพริบตาใส่สตีฟที่ยิงคำถามนั้นใส่

       

      รู้เรื่องอะไรล่ะ? เห็นๆ กันอยู่ว่าฉันค่อนข้างช้าในการรับรู้เรื่องพวกนี้ เพราะว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้น่ะมันมันเป็นสิ่งที่ความเป็นไปได้ที่ฉันคำนวณไว้ว่า มันไม่มีทางเกิดขึ้น นะสตีฟโทนี่พูดก่อนละสายตาไปจากนัยน์ตาสีสว่างของสตีฟจนสตีฟต้องเดาะลิ้นกับการกระทำนั้น

       

      ฉันได้รับข้อความที่น่าสนใจอันหนึ่งจากคุณพ็อตส์เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนสตีฟพูดพร้อมกับปล่อยมือของโทนี่ออก เขารู้สึกเย็นทันทีที่สัมผัสนั้นหายไปก่อนจะกระชับนิ้วไว้กับแก้วกาแฟตรงหน้า และหรี่ตามองจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่สตีฟยื่นมาให้เขาดู

       

      ตอบคำถามที่คุณได้ถามมาคราวก่อน : ชวนเขาไปเดทซะ ฉันแน่ใจว่าโทนี่ไม่ปฏิเสธแน่นอน

       

      แน่ใจเหรอครับ?

       

      เชื่อฉันสิ สตีฟ สติปัญญาของฉันน่ะไร้ขอบเขต และความรู้ของฉันที่มีเกี่ยวกับคนที่ชื่อว่า โทนี่ สตาร์ค มันมากมายจนคุณคาดไม่ถึงเลยล่ะ

       

      แล้วฉันก็เลยชวนนายออกเดทยังไงล่ะโทนี่อ่านทวนซ้ำข้อความนั้นอีกสองสามรอบก่อนที่สตีฟจะพูดต่อ แล้วเมื่อนายตอบตกลง ฉันแทบจะไม่เชื่อในความโชคดีของตัวเองเลย แต่พอคุณพอตส์บอกว่านาย เอ่อ ค่อนข้างจะช้าในเรื่องพวกนี้ อย่างที่นายบอก ฉันก็เลยต้องทำอะไรสักอย่างที่มันชัดเจนมากๆ เพื่อที่นายจะได้รู้ตัวสักที

       

      นี่นายกำลังบอกฉันว่าโทนี่เริ่มต้นพูดพลางก้มลงมองถ้วยกาแฟด้วยความสับสนงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น นายกำลังบอกฉันว่าพวกเราได้ไปเดทกันมาแล้วอย่างนั้นเหรอ

       

      ที่จริงก็ เก้าครั้งแล้วล่ะสตีฟชี้ชัดถึงจำนวน จนโทนี่ต้องฟุบลงไปนอนบนเคาน์เตอร์

       

      โอเคโทนี่งึมงำกับเคาน์เตอร์หินอ่อนที่เขาฟุบลงไป แทนที่จะก้มลงมองถ้วยกาแฟอย่างเดิมเพราะมันดูจะสะท้อนหน้าของเขาได้ชัดเจนเกินไป

       

                      ร่างสูงส่งรอยยิ้มพร้อมกับลูบหัวโทนี่ “ฉันกินข้าวเช้าได้แล้วใช่มั้ย? เราจะได้มาคุยกันว่านายแย่ขนาดไหนเวลามีเรื่องเดทมาเกี่ยวข้อง ฉันหมายถึง นี่มันก็สามอาทิตย์แล้วนะ โทนี่ ฉันอาจจะมาจากยุค 40 แต่ไม่มีใครรอนานขนาดนั้นสำหรับ การจูบ หรอกนะ เราไม่จำเป็นต้องมีเซ็กซ์หรืออะไร แต่แค่จูบสักจูบก็ดีเยี่ยมแล้วล่ะ รู้ตัวรึเปล่าว่า -”

       

      โทนี่กระโจนใส่สตีฟและหยุดคำพูดที่กำลังจะออกมาจากปากนั้นเนิ่นนาน ดูท่าว่าเขาคงต้องพลาดมื้อเช้าไปเสียแล้วล่ะ

       

                      หลังจากที่สตีฟกับโทนี่เข้าใจกันดีแล้ว โทนี่จึงได้รีบส่งข้อความเร็วแสงไปยังเพ็พเพอร์ว่า เธอถูกไล่ออก >:(’

       

      และได้รับคำตอบกลับมาในเวลาชั่วอึดใจว่า ด้วยความยินดี ;)’

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×