อาสนมหาวิหารเอ็นโดรมุนต์
อาสนมหาวิหารแอนโดรมุนต์ มหาวิหารขนาดใหญ่ สำหรับประกอบพระราชพิธีและพิธีต่างๆให้ประชาชน และเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงของดราโกรนัส
ผู้เข้าชมรวม
611
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
อาสนมหาวิหารเอ็นโดรมุนต์
ในศักราช 2015 เดือนมีนาคม
จักรพรรดิวิคเตอร์ทรงดำริในท้องพระโรงบรันเดนบรูกส์ ความว่า
"อนุสาวรีย์ใดๆในอาณาจักรนี้ย่อมมิได้ยืนยง ไม่ว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ข้าพเจ้า
หรือสมเด็จฟลัวน่าฯ ในพระราชวังบรันเดนบรูกส์ก็ดี หรือแม้แต่บารัดดรูว์ทางตะวันออก
ก็ไม่เหมาะจะเป็น "สิ่งมหัศจรรย์" ในเครือจักรภพ"
สมเด็จพระอัครมหาเสนาบดีอเล็กซิส-ลิลิธ
บรันเดนบรูกส์ เสนอว่า "ข้าพระองค์เสนอว่า
ควรสร้างสิ่งใดสักสิ่งเป็นสักการะบูชาในพระศาสนจักร หรือ เป็นอนุสรณ์ใดๆจากพระองค์ในการศึก
เพราะเป็นที่สร้างพระราชกุศลอุทิศแด่พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์”
ทรงได้ยินอัครมหาเสนาบดีก็ทรงยินดี
จึงมีรับสั่งให้ดำเนินการปรับพื้นที่และบริเวนในละแวกกรุงบรันเดนบรูกส์
และได้พื้นที่ตะวันออกที่ยังเป็นทุ่งหญ้างดงามนั้น
จึงได้ตราราชโองการเสนอไปถึงกรุงวาติกัน ขอพระราชทานสมเด็จพระสันตปะปาในการสร้าง
"มหาวิหาร" ขนาดมหึมาขึ้นมาในกรุงบรันเดนบรูกส์
"อาสนมหาวิหารเอ็นโดรมุนต์"
มหาวิหารขนาดสองหมื่นที่นั่งจึงได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของพระอัครมหาเสนาบดีอเล็กซิส
โดยพระองค์ทรงดำริ ออกแบบและตกแต่งทั้งหมดในสไตล์กอธิกเรเนสซอง
ภายในนั้นเป็นมหาวิหารซ้อนในมหาวิหาร
มีสามชั้นครึ่ง มีแท่นบูชาขนาดมหึมา และกางเขนทองคำที่หล่อด้วยทองคำเจ็ดแสนชั่ง
ทั้งพระรูปพระเยซูถูกตรึงกางเขนนั้นก็หล่อด้วยทองคำถึงแสนชั่งเช่นกัน แท่นบูชาทำด้วยทองคำแผ่
ใช้เนื้อทองหนักถึงหนึ่งตัน และตู้มิซซาทองคำหนักร้อยชั่ง
อีกทั้งเชิงเทียนและพระแท่นต่างๆยังเป็นทองคำทั้งหมด
ที่ชาเปล มีรูปหล่อพระแม่มารีย์ผู้ทรงพรหมจารีย์สูงเท่าคนจริงประทับอยู่
ในน้ำหนักทองห้าพันชั่ง อีกทั้งยังมีรูปหล่อของอัครสาวกที่หล่อด้วยทองคำองค์ละสองพันชั่งรอบมหาวิหาร
รวมไปถึงนักบุญ บุญราศี และทูตสวรรค์อีก
ในผนังโดยรอบมหาวิหารเป็นภาพเขียนเรื่องราวของพระเยซูคริสตเจ้าตั้งแต่บททำนายของอิสยาห์ผู้ทำนายจนกระทั่งถึงเสด็จขึ้นสรวงสวรรค์ในเบื้องขวาพระบิดาถึงหนึ่งพันสี่ร้อยภาพ
(ปรกติมี 14 ภาพในวัดต่างๆ แต่ทรงดำริให้ขยายเรื่องราวทั้งหมดเป็น 1,400 ภาพ)
โดยว่าจ้างจิตรกรทั่วทั้งจักรวรรดิมาลงแรงและงานทั้งมวล
ภายนอกเป็นวิหารคตแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่หลังคาเป็นโดมกลมยาวถึงด้านละหนึ่งกิโลเมตร มีประตูเข้าด้านละ 3 ประตู
และประตูออกสู่ตัววิหารด้านละ 1 ประตู โดยตรงประตูทุกด้านจะทำเป็นซุ้มโดมขนาดงดงาม
และมีภาพบนโดมเขียนถึงสรวงสวรรค์แบบยุคเรเนสอย่างงดงามทุกซุ้มประตู
ตัววิหารทำเป็นรูปไม้กางเขน มีสามประตู
มีประตูทิศเหนือ ประตูทิศใต้ ประตูทิศตะวันตก โดยหันหัวไปทางทิศตะวันออก
(แท่นบูชาอยู่ทางทิศตะวันออกหันหน้าลงทิศตะวันตก) และยังมีหอระฆังขนาบประตูใหญ่ตะวันตกสูงถึงเจ็ดสิบเมตร
ประดิษฐานระฆังใหญ่ถึงสามตันจำนวนสิบสองลูกบนหอระฆัง
ตรงกลางเป็นพระแท่นบูชานั้น
เป็นจุดรวมของกางเขนกลางวิหาร มีหอสูงเจ็ดสิบเมตรอยู่ด้านบน ภายในนั้นเป็นรูปโดม
แต่ด้านบนหลังคาเป็นยอดแหลม ประดิษฐานกางเขนเหล็กขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไว้
น้ำหนักยอดดังกล่าวหนักถึงสามร้อยตัน
เมื่อแล้วเสร็จจึงเปิดใช้เป็นพระกุศลพระศาสนจักรจนเลื่องลือถึงความงดงามไปทั่วโลก
แม้แต่สมเด็จพระสันตปะปาทรงดำริเมื่อเสด็จมาทำมิซซาครั้งแรกว่า
"เป็นมหาวิหารที่ยิ่งกว่ามหาวิหารเสียอีก"
โดยภายใต้อาสนนี้นั้นเป็นอุโมงขนาดยักษ์สำหรับบรรจุพระบรมศพเชื้อพระวงศ์ดราโกรนัสทุกพระองค์
และผู้ที่สร้างความดีความชอบในดราโกรนัสจะถูกบรรจุในอุโมงนี้อย่างสง่างาม
ผลงานอื่นๆ ของ ราชโองการจักรพรรดิ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ราชโองการจักรพรรดิ
ความคิดเห็น