พรุ่งนี้ก็ถอนสายบัว
ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน แต่เราสามารถเลือกทางเดินของเราเองได้
ผู้เข้าชมรวม
210
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรแน่นอนจริง ฉันรู้จักกับนายเอกตอนที่เรียนอยู่ ม.ปลาย เราเรียนพิเศษที่โรงเรียนเดี๋ยวกัน นายเอกเป็นคนเก่งและขยันมาก บางอย่างที่ฉันไม่เข้าใจก็ได้นายเอกนี่แหละคอยแนะนำ ฉันกับนายเอกเราเริ่มสนิทกันมากขึ้น จนกลายเป็นเงาตามกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดยิ่งพอเข้ามหาวิทยาลัย เราดันเข้ามหาวิทลัยเดียวกันคณะเดียวกัน ทำให้เรายิ่งสนิทกันมากขึ้น จนเพื่อนๆหลายคนต่างพูดกันไปว่าเราเป็นแฟนกัน
สำหรับฉันเองก้อเคยคิดเหมือนกันว่าถ้าได้ป็นแฟนกับนายเอกก้อคงดี แต่จะให้ฉันเริ่มก่อนฉันก็คงไมทำ คงได้แต่เฝ้ารอ เฝ้าคอยว่าสักวันหนึ่งนายเองจะคิดแบบเดียวกับฉัน
หลายครั้งที่เราทะเลาะกัน แต่เพียงไม่นาน ไม่ฉันก็นายเอกจะต้องมาตามง้อกัน เราไม่เคยโกรธกันจริงจังสักที กับกลายเป็นว่าทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น แต่สิ่งที่ฉันเฝ้ารอมันก็ยังมาไม่ถึงสักที จนฉันเองเริ่มไม่แนใจว่าฉันจะได้มีวันนั้นหรือเปล่า จนบางครั้งฉันเกือบจะถอดใจ
หลายครั้งที่มีชายหนุ่มหน้าตาดี ชาติตระกูลดีมาจีบฉัน ฉันพยายามที่จะไปสนใจคนเหล่านั้น แต่แล้วก็ทำไม่ได้ ทุกครั้งมันจะต้องจบด้วยคำว่า “ขอโทษนะ เรามีคนที่ชอบอยู่แล้ว”
และยังมีความหวังเสมอ
นายเอกเองก็ไม่ใช่ย่อย มีสาวๆตามติดกันแจเหมือน เพราะนายเอกนี่ก็เธอว่าเป็นชายหนุ่มเนื้อหอม ไม่เบา แต่นายเอกเองก็ทำเหมือนไม่สนใจใคร เราเจอกันที่มหาวิทยาลัยทุกวัน เราทานข้าวด้วยกันทุกวัน หลังจากกลับถึงบ้านเราโทรหากันทุกวัน วันไหนที่ไม่มีเรียน เราไม่ได้เจอกัน ไม่ฉันก็นายเอกจะต้องบอกคิดถึงกัน อย่างนี้จะให้ฉันคิดว่าอย่างไร แต่จะยังไงได้นายเมื่อนายเอก ไม่เคยพูดในทำนองว่าเราเป็นแฟนกัน ใครละจะกล้าคิดไปเอง
และแล้ววันที่ฉันรอค่อยก็มาถึง ฉันจำได้ดี วันนั้นเป็นวันก่อนสอบปลายภาค เราไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย นายเอกมาหาฉันที่บ้านแต่เช้า และช่วนแนออกไปทานข้าว ฉันก็ไม่ได้คิดอะไร จนระหว่างทานข้าวนายเอกก็พูดขึ้นมาว่า “น้ำถ้าฉันพูดอะไรออกไปเธอจะไม่โกรธฉันใช่ไหม” ฉันก็ยังไม่ไดคิดว่าสิ่งที่นายเอกจะพูดจะเป็นสิ่งที่ฉันรอคอยมานาน “เราจะไปโกรธนายเรื่องอะไรหล่ะ มีอะไรก็พูดมาเถอะ แต่ถ้ามีอะไรแล้วไม่บอกเราอาจโกรธนายก็ได้นะ”ฉันพูดหน้าตาเฉยเพราะไม่ได้คิดอะไรจริง นายเอกก้มหน้านิดนึงแล้วพูดออกมา “น้ำฉันชอบผู้หญิงคนนึงอะ”แล้วนายเอกก็เงียบไป ตอนนั้นใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะฉันไม่รู้เลยว่าผู้หญิงที่นายเอกชอบคือใคร คำพูดของนายเอกมันทำให้ฉันชาไปทั้งตัว ความรู้สึกตอนนั้นมันสับสนไปหมด จะว่าเสียใจก็ไม่ใช่ ฉันจึงกลั้นใจพูดออกไป “ถ้าเรื่องนี่ นายคงต้องไปบอกเธอคนนั้นเองแหละหล่ะ”ตอนแรกฉันตั้งใจจะถามว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นคือใคร แต่พอเอาจริงฉันกับคิดว่าฉันไม่รู้ซะดีกว่า แต่นายเอกกับอมยิ้มนิดๆแล้วพูออกม่หน้าตาเฉย “งั้นก็ถูกแล้วหล่ะ เพราะผู้หญิงที่เราชอบ ก็คือ น้ำนี่ไง” พอฉันได้ยินคำนั้นจากปากของนายเอก ฉันแบบจะทำอะไรไม่ถูก มันเหมือนน้ำตาจะไหลจนต้องพยายมกั้นไหว
หลังจากนั้นนายเอกพยามถามเพื่อจะหาคำตอบ ว่าฉันคิดเหมือนเขาหรือเปล่า แต่ตอนนั้นฉันดันรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก เลยตัดสินบอกนายเอกว่า ถ้าอยากรู้ พรุ่งนี้บ่าย 2 โมงให้โทรหา แล้วฉันจะบอกทุกอย่าง หลังจากนั้นเราด็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน หลังนั้นฉันได้แต่เฝ้ารอส่าเมื่อไหร่จะถึงบ่าย 2 โมง คืนนั้นทั้งคืนฉันแทบจะไม่ได้นอนเพราะใจมัวแต่จะเฝ้ารอให้นายเอกโทรมา
และล้วก็ถึงเวนาที่ฉันรอคอน อีกสิบนาทีก็จะถึงบ่าย 2 ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก บ่าย 2 โมง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันรีบรับด้วยความดีใจ แต่เรากลับผิดคาดเพราะคนที่โทรมาไม่ใช่นายเอก แต่เป็นยัยนงค์เพื่อนที่มหาวิทยาลัยโทรมาถามการบ้าน ฉันจึงได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่หนานายเอกจะโทรมา จนแล้วจนรอดนายเอกก็โทรมาสักที จนฉันทนไม่ไหวพยายามโทรกลับไป แต่กลายเป็นไม่มีสัญญาณตอบรับ ฉันพยายามโทรอยู่หลายครั้งแต่ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม ฉันจึงได้แต่รอ รอไปเรื่อยอย่างคนหมดหวัง ฉันคืดว่าเขาคงเปลี่ยนใจไม่ชอบฉันแล้ว
จนเวลาผ่านไปประมาณ 6 วันเสียงโทรศัพดังบอกสัญญาณว่ามีข้อความเข้า ฉันหยิบมันขึ้นมาอ่านแบบหมดอะไรตายอยาก แล้วฉันก็ต้อแปลกใจ เพราะคนที่ส่งข้อความมาคือนายเอก ในข้อความเขียนว่า “โทรกลับมาหาเราหน่อย เราอยากฟังคำนั้นจากเธอ” ฉันอ่านมันจบน้ำยาก็ค่อยๆไหล เฝ้าคิดแต่ว่าแล้วนายหายไปไหนตั้งหลายวัน แต่แล้วฉันก็อดที่จะตัดสินใจโทรไม่ได้ ฉันโทรไปหานายเอกที่เบอร์มือถือของเขา แต่กลับกลายเป็นว่า “ไม่มีสัญญารตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” ฉันรู้สึกหงุดหงิดมาก แต่แล้วฉันก็ตัดสินใจโทรไปที่บ้านของนายเอก สัญญาณเรียกขึ้นหลายครั้ง และแล้วคนที่รับโทรศัพท์กลับกลายเป็นแม่นายเอก ฉันรีบกรอกเสียงตามสายเพื่อขอสายนายเอก เสียงแม่นายเอกร้องไห้โฮแล้วพูดกลับมาว่า “นี่ยัยน้ำอย่ามาล้อเล่นกลับแม่นะ นายเอกนะตายไปแล้ว วันนี้ก็วันที่ 6 แล้ว”ฉันแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง จึงพยายามถามแม่เอกว่ามันเกินอะไรขึ้น แม่เอกจึงเล่าให้ฟังว่าวันนั้นเมื่อ 6 วันก่อน คงเป็นวันที่ฉันไปทานอาหารกับนายเอก ช่วงนึก นายเอกนึกขึ้นได้ว่าเงินในโทรศัพท์หมด จึงขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อที่ร้านหน้าปากซอย แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รถสิบล้อที่มีคนขับเป็นคนเมา วิ่งมาด้วยความเร็วสูง และชนกลับมอเตอร์ไซค์ที่นายเอกขี่อย่างแรง นายเอกสิ้นใจคาที่ ฉันฟังเรื่องที่แม่นายเอกเล่าแล้วน้ำตาก็ไหล ฉันแทบจะล้มทั้งยืนทำอะไรไม่ถูก คืนนั้นฉันรีบไปที่วัดที่ตั้งสวดศพนายเอก แล้วเดินไปเคาะที่โลงแล้วเอ่ยว่า “นายเอก ฉันรักนายนะ นี่ใช่ไหมที่นายอยากจะฟัง”
ผลงานอื่นๆ ของ dr_bot ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ dr_bot
"เศร้าจัง"
(แจ้งลบ)เรื่องเศร้าจัง น่าสงสารนางเอก แต่ก็นะ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เขาถึงบอกว่า " อยากทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่จะสายเกินไป " เวลาไม่คอยใครนะ เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ปล. น่าจะเขียนที่มันแหวกแนวกว่านี้นะ ...เพราะแนวเรื่องแบบนี้มีคนเขียนเยอะแล้ว ...แต่เราก้ชอบชื่อเรื่องนะ แหวกแนวดีแล้ว พยายามต่อไปนะ สู้ๆ ... อ่านเพิ่มเติม
เรื่องเศร้าจัง น่าสงสารนางเอก แต่ก็นะ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เขาถึงบอกว่า " อยากทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่จะสายเกินไป " เวลาไม่คอยใครนะ เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ปล. น่าจะเขียนที่มันแหวกแนวกว่านี้นะ ...เพราะแนวเรื่องแบบนี้มีคนเขียนเยอะแล้ว ...แต่เราก้ชอบชื่อเรื่องนะ แหวกแนวดีแล้ว พยายามต่อไปนะ สู้ๆ อ่านน้อยลง
A-malgam | 12 ส.ค. 52
2
0
"เศร้าจัง"
(แจ้งลบ)เรื่องเศร้าจัง น่าสงสารนางเอก แต่ก็นะ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เขาถึงบอกว่า " อยากทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่จะสายเกินไป " เวลาไม่คอยใครนะ เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ปล. น่าจะเขียนที่มันแหวกแนวกว่านี้นะ ...เพราะแนวเรื่องแบบนี้มีคนเขียนเยอะแล้ว ...แต่เราก้ชอบชื่อเรื่องนะ แหวกแนวดีแล้ว พยายามต่อไปนะ สู้ๆ ... อ่านเพิ่มเติม
เรื่องเศร้าจัง น่าสงสารนางเอก แต่ก็นะ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เขาถึงบอกว่า " อยากทำอะไรก็รีบทำ ก่อนที่จะสายเกินไป " เวลาไม่คอยใครนะ เวลาเป็นสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ ปล. น่าจะเขียนที่มันแหวกแนวกว่านี้นะ ...เพราะแนวเรื่องแบบนี้มีคนเขียนเยอะแล้ว ...แต่เราก้ชอบชื่อเรื่องนะ แหวกแนวดีแล้ว พยายามต่อไปนะ สู้ๆ อ่านน้อยลง
A-malgam | 12 ส.ค. 52
2
0
ความคิดเห็น