ตอนที่ 22 : twenty-one -
Twenty-one
วันนี้จงอินและเซฮุนช่วยกันขายบะหมี่แทนป๊าเพราะรู้สึกไม่สบาย ร่างบางเดินเอาผ้ากันเปื้อนไปใส่ให้และใช้ผ้าสีขาวโพกบนหัวให้จงอิน คนเป็นแฟนกันการดูแลเอาใจใส่ถือเป็นเรื่องสำคัญ พวกเขาทั้งสองคนมักจะแสดงออกจากการกระทำมากกว่าคำพูด
“น้ำซุปจะหมดแล้วอ่ะทำเพิ่มไหม ? ”
“อืม...ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวปิดร้านเลยแล้วกัน”
“เอางั้นก็ได้”
คนเป็นพี่พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันไปต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใหม่ ชายหญิงสองคนยืนรออยู่หน้าร้านแล้วมองเข้าไปด้านในของร้านสายตาจับจ้องอยู่ที่โอเซฮุน หญิงสาวมองเซฮุนสลับกับหน้าของเขาจนจงอินต้องถามออกไปว่ามีอะไรหรือเปล่า เธอไม่ตอบแต่ยังคงมองอยู่แบบนั้น
“จงอินโต๊ะสี่....แม่ พ่อ!!!”
ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นกันผ่านรูปภาพแต่เซฮุนจำได้ดีว่าชายหญิงคู่นี้เป็นพ่อและแม่ที่ทิ้งเขาไว้กับป๊าตั้งแต่อายุได้สามเดือน เสียงของเซฮุนทำให้จงอินหันไปหา ร่างบางมีสีหน้าตกใจดวงตาเบิกกว้าง จงอินทำอะไรไม่ถูกนอกจากยื่นมือไปกุมมืออีกคนแล้วบีบเบาๆเพื่อเป็นการให้เซฮุนตั้งสติ ชายหญิงพยายามที่จะเดินเข้ามาหาลูกชายตัวเองแต่เซฮุนถอยหลังแล้วดึงจงอินมาบังหน้าเอาไว้ยกแขนข้างที่ไม่ได้ถูกกุมมือขึ้นมากอดเอวคนเป็นพี่เอาไว้หลวมๆ
“เซฮุนลูก...”
“อย่าครับ ..อย่าเรียกผมแบบนั้น”
“แม่ขอโทษ...”
จงอินรู้สึกได้ถึงแรงกอดที่แขน เขาบีบมือเซฮุนแล้วหันมาบอกให้อีกคนขึ้นไปบนห้องก่อนส่วนเรื่องร้านเขาจะจัดการเอง คนเป็นน้องพยักหน้าอย่างว่าง่าย จงอินรู้ว่าเซฮุนกำลังสับสนแฟนเขาเป็นคนใจดีและน่ารักแต่กับบางเรื่องมันอาจจะต้องใช้เวลา ยิ่งเรื่องครอบครัวด้วยแล้วเขาไม่คิดว่าโอเซฮุนจะยอมรับได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง
“ผมจะคุยกับน้องให้แต่ตอนนี้พวกคุณช่วยกลับไปก่อนได้หรือเปล่าครับ ?”
“นายเป็นใคร ?”
“ไว้คุณรอถามน้องเองดีกว่านะครับ”
“ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าลูกชายฉันจะเชื่อฟังนาย”
“เชื่อผมเถอะครับ”
หญิงสาวหันไปมองสามีของเธอ เขาพยักหน้าเป็นเชิงว่าให้เชื่อในสิ่งที่จงอินพูด จากการกระทำเมื่อกี้ผู้ชายด้วยกันจะดูออก สายตาที่จงอินใช้มองเซฮุนมันมีมากกว่าความห่วงใย
จงอินให้เวลาเซฮุนอยู่คนเดียวในห้องเกือบสองชั่วโมง ป๊าเซฮุนลงมาช่วยจงอินปิดร้านดูเหมือนว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าพ่อและแม่ของเซฮุนจะเข้ามาในวันนี้ จงอินเก็บในส่วนของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขอตัวขึ้นไปดูเซฮุนข้างบน
เปิดประตูเข้ามาในห้องจงอินเห็นคนเป็นน้องนั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง ไม่มีคำพูดหรือคำด่าแบบที่เซฮุนชอบทำเวลาที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยที่ไม่เคาะประตู จงอินคุกเข่านั่งลงตรงหน้าเซฮุน เขาเห็นรอยแดงเต็มหลังมือเซฮุนเต็มไปหมด มือหนาค่อยๆจับมืออีกคนขึ้นมาแล้วเป่าลมลงไปมันไม่ใช่การปลอบแค่ร่างกายแต่เขาอยากให้เซฮุนรู้สึกถึงหัวใจ
“มึงอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“................................”
“ไม่มีใครทนเห็นคนที่ตัวเองรักเจ็บปวดได้หรอก”
“พูดจาโคตรพระเอกฟิคเลย”
“เอ้า..ก็เรื่องนี้กูเป็นพระเอก”
“จงอิน..ขอบคุณ”
“อย่าร้องไห้นะเว้ย กูไม่ชอบเห็นน้ำตามึง”
คนเป็นพี่ยืดตัวให้สูงขึ้นแล้วจับหัวเซฮุนกดลงบนไหล่ให้ซบหน้าลงมา ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบภายในห้องมีเพียงเสียงสะอื้นของคนร่างบางเท่านั้น จงอินเชื่อว่าความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกไม่มีวันตัดขาดออกจากกันแต่ไม่ว่าเซฮุนจะเลือกทางไหนเขาก็จะอยู่ข้างๆเซฮุนตรงนี้
“เลิกร้องไห้ก่อนเร็วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาเที่ยวทะเล”
“ไปทำไม ?”
“จะพาไปเปลี่ยนบรรยากาศ ชายหาดบ้างก็ดีนะมึงว่าไหม ?”
“หื้ม........ไปให้ไกลเลยนะ เคยมีเรื่องเครียดอยู่ในหัวบ้างไหมฮะ !!!!”
คยองซูเดินลงมาหาอะไรกินเพราะลู่หานกับแบคฮยอนกำลังสวีทหวานกันอยู่บนห้องจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน คนตัวเล็กยืนรอขนมที่สั่งไปอยู่สักพักก็มีรถสีดำเปิดประทุนคันหรูมาจอดอยู่ข้างหลัง เจ้าของรถถอดแว่นดำแล้วเอามือเท้าลงกับขอบประตู คยองซูหันมามองแบบงงๆแล้วเบะหน้าใส่หนุ่มผมทองที่มักจะตามเขาด้วยรถคันนี้เสมอ
มืดขนาดนี้ยังใส่แว่นดำนี่พี่เขาบ้าหรือว่าไม่เต็มกันแน่ =_=
“ไม่ทราบว่าน้องคยองซูพอจะมีเวลาไปนั่งรถเล่นกับพี่บ้างไหมครับ ?”
“ไม่อ่ะหนาวขนาดนี้ให้นั่งรถเปิดประทุน”
“เดี๋ยวพี่ปิดให้ก็ได้ครับ ไปกับพี่เถอะนะ..”
“บอกมาก่อนจะพาไปไหน”
“น้องอยากกินอะไรพี่พาไปหมดเลย อาหารญี่ปุ่นไทยจีนเกาหลีพี่ก็จะหามาให้”
“โอเคตกลง”
คิมจุนมยอนพาคยองซูขับรถมาจอดริมแม่น้ำฮัน คนตัวเล็กทำตาโตเกาะกระจกพร้อมกับมองออกไปข้างนอก คยองซูชอบเกาหลีตอนกลางคืนที่สุดเพราะนอกจากจะสวยแล้วยังมีของอร่อยมากมายให้เลือกกิน
“เปิดประทุนออกให้หน่อยดิ” หันมายิ้มกว้างให้อีกคน
จุนมยอนไม่ได้พูดอะไรเขาพยักหน้าแล้วกดปุ่มเปิดหลังคาตามที่คนตัวเล็กบอก คยองซูในตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังใช้มือสองข้างเกาะขอบประตูแล้วมองแสงสีที่กำลังส่องสว่างอยู่ทั่วไป ยิ่งใกล้เทศกาลคริสมาสต์แล้วบริเวณรอบก็เลยเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารักมากมาย คยองซูยกมือขึ้นกอดตัวเองเพราะรู้สึกถึงอากาศเย็นแต่ไม่นานก็มีเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ลงมาคลุมตัวเอาไว้จนรู้สึกอุ่น
“ห่มเอาไว้นะครับเดี๋ยวไม่สบาย”
คยองซูไม่ได้หันกลับไปพูดหรือว่าขอบคุณอะไร คนตัวเล็กแอบอมยิ้มแล้วดึงเสื้อกันนั้นมาห่มตัวเองแล้วกอดเอาไว้แน่น
มีคนรวยมาจีบมันดีแบบนี้นี่เอง ..
เป็นปกติอยู่แล้วที่คิมจงอินจะตื่นก่อนในทุกเช้าที่นอนด้วยกัน เมื่อคืนเซฮุนจำได้ว่าตัวเองร้องไห้หนักมากแล้วก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดของจงอิน ร่างบางยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงเดินลงบันไดแล้วตรงไปที่ห้องครัวเพราะเขารู้ดีว่าจงอินต้องอยู่ที่นั่น
เซฮุนยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร คนร่างบางหลุดขำกับภาพที่ตัวเองได้เห็นอยู่บ่อยๆในตอนเช้า จงอินมักจะคิ้วขมวดหน้ายุ่งทุกครั้งเวลาทำอาหารเมื่อรู้สึกไม่เข้าใจในตำราที่ตัวเองดู แล้วสุดท้ายก็จับทุกอย่างใส่ในกระทะแล้วยำรวมกันหมด
“ถ้ามันยุ่งยากก็หยุดเถอะเดี๋ยวไปซื้อร้านป้าหน้าปากซอยก็ได้”
ร่างบางพูดพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดอีกคนจากด้านหลัง จงอินหันมามองคนที่กำลังเอาหน้าซบลงบนแผ่นหลังตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“กูก็ทำให้มึงกินเกือบทุกเช้า ถึงหน้าตามันจะห่วยแตกแต่รสชาติมันก็พอแดกได้นะเว้ย”
เซฮุนไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มออกมาแล้วกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม เอาคางเกยไหล่อีกคนเอาไว้แล้วดูหน้าตาอาหารของจงอินวันนี้ ทั้งสองคนหยอกล้อกันตามภาษาคนรักโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่
“วันนี้แม่จะมาใช่ไหม ?”
“อืม”
จงอินดึงแขนที่กอดเอวตัวเองอยู่ออกแล้วหันหน้ามาหาเซฮุน คนร่างบางไม่ได้ร้องไห้แบบที่เขากังวลอยู่แต่สีหน้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าเมื่อคืนมากนัก มันทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงมากกว่าเดิมกับคำถามและความคิดของเซฮุนที่จงอินไม่สามารถอ่านมันออกได้ มือหนาเลื่อนขึ้นไปจับแก้มคนเป็นน้องให้เงยหน้ามอง
“อย่าทำหน้าแบบนี้ดิ ไปข้างนอกไหม ?”
“ไม่เป็นไรหรอกเมื่อวานก็แค่ตกใจตอนนี้หายแล้ว”
“แล้วถ้าร้องไห้อีกจะทำยังไง..”
“เดี๋ยวให้ลงโทษเลย”
“มึงพูดแล้วนะ ไปเรียกป๊ามากินข้าวแล้วอย่าแอบไปร้องไห้นะ”
“รู้แล้วหน่า...ไม่ใช่เด็กขนาดนั้นนี่โตแล้ว”
จงอินยีผมของคนที่กำลังทำหน้าอวดดีใส่แล้วออกแรงผลักเบาๆด้วยความหมั่นไส้ เซฮุนย่นจมูกใส่คนเป็นพี่คืนแล้วรีบวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นสอง
วันนี้ทั้งวันจงอินและเซฮุนช่วยกันทำความสะอาดอุปกรณ์และเตรียมเครื่องสำหรับการขายบะหมี่ในเย็นนี้แทนป๊าอีกวัน ร่างบางนั่งมองคนเป็นพี่นั่งขัดหม้อต้มแล้วก็นึกสงสัยว่าทำไมต้องมาทำอะไรให้ตัวเองเหนื่อยทั้งที่ตัวเองก็มีเงินมากมายแค่กระดิกนิ้วทุกอย่างก็พร้อมจะเดินมาหาโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไร
“นี่จงอิน...เหนื่อยไหม?”
“ไม่อ่ะก็ทำอยู่ทุกวัน นี่มึงเป็นอะไรเนี๊ย”
“เปล่า....แต่ก็ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย”
“กูทำด้วยใจเว้ยนี่เพราะรักเลยนะรู้ยัง ?”
เซฮุนเบะปากคว่ำใส่คนเป็นพี่แล้วสะบัดน้ำใสจากนั้นก็ลุกเดินหนีไปหาอะไรทำแก้เขิน จงอินมองตามด้วยรอยยิ้มแต่ชั่ววูบหนึ่งความคิดบางอย่างก็ไหลเข้ามา
มึงยังไม่เคยบอกรักกูเลยนะรู้ยัง ?
เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ร้านบะหมี่โอจะคนเยอะ เซฮุนและจงอินช่วยกันขายบะหมี่ไม่นานก็หมด ตอนนี้ภายในร้านมีแค่พวกเขาทั้งสองคนเท่านั้นส่วนป๊าเซฮุนก็นอนอยู่ที่ห้อง พวกเขาช่วยกันเก็บร้านคนร่างบางจัดการตักน้ำซุปใส่ถุงเก็บเอาไว้ส่วนคนเป็นพี่ก็ดูแลความเรียบร้อยภายในร้าน
ทุกอย่างหยุดชะงักเมื่อโอเซฮุนเหลือบมองไปเห็นสองคนที่เข้ามาอยู่ในหัวเขาตลอดทั้งวัน หญิงสาวยืนยิ้มอยู่ห่างโดยมีชายคนรักกำลังโอบไหล่เธออยู่ เซฮุนคิดมาตลอดว่าถ้าวันหนึ่งแม่กลับมาเขาจะบอกเธอสักครั้งว่าเขาดีใจที่ได้เจอ เขาไม่ได้โกรธที่พวกท่านทิ้งไปเพราะป๊าสอนเสมอว่าผู้ใหญ่ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง
“แม่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม ?”
“ครับ”
“งั้นผมขอตัวไปซื้อของข้างนอกก่อนนะครับ”
จงอินพูดขึ้นก่อนจะเดินออกมาหน้าร้านแล้วตรงไปยังหน้าปากซอยเพื่อให้ครอบครัวเขาได้คุยกัน คนเป็นพี่เดินเอามือล้วงกระเป๋าเตะก้อนหินไปเรื่อย
“เดี๋ยว ...” เสียงทุ้มใหญ่ดังขึ้นข้างหลัง จงอินหันกลับไปดูก็พบว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อของเซฮุน
“ครับ ?”
“ฉันเองก็มีเรื่องะคุยกัยนาย”
สองคนนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ยาว จงอินทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าเช่นเดียวกับพ่อของเซฮุนพวกเขานั่งเงียบอยู่ตรงนี้มาได้สักพักแล้ว จงอินรอให้อีกฝ่ายเปิดประเด็นพูดก่อน
“ฉันขอถามนายตรงๆเลยนะ....นายกับลูกชายฉันเป็นอะไรกัน ?”
“ผมรักน้องครับและเราสองคนเป็นแฟนกัน”
จงอินตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังและมั่นใจ ตั้งแต่เกิดมานอกจากคำแม่สอนก็มีประโยคนี้ที่เพิ่งหลุดออกจากปากนี่แหละที่ตัวเขามั่นใจมากที่สุดในชีวิต
“แต่ฉันกำลังจะพาลูกชายกลับไปอยู่ด้วยกัน”
เหมือนมีอะไรมากกระแทกหน้าสำหรับประโยคที่เขาได้ยิน จงอินมีสีหน้าตกใจก่อนจะปรับให้มันเป็นปกติก่อนจะพูดประโยคที่อาจจะโดนซัดหน้าหลังจากพูดจบก็ได้
“ไม่ครับ...ผมจะไม่ให้เซฮุนไปไหนทั้งนั้น”
“แต่เขาเป็นลูกชายฉัน”
“ผมเป็นคนนอกคงจะพูดอะไรมากไม่ได้แต่ตลอดเวลาที่ผมคบกับน้องมา ผมดูแลเขามาอย่างดีตลอดและคิดว่าผมจะทำได้ดีกว่านี้ในทุกวัน ผมจะไม่ยอมให้คุณพาเซฮุนไปไหนผมจะขอดูแลเขาต่อไปจากนี้ครับ”
“ดูจะมั่นใจกับคำพูดตัวเองจังเลยนะ”
“คุณไม่ต้องเชื่อผมตอนนี้ก็ได้ครับ”
“ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องเชื่อนายเพราะยังไงฉันก็จะพาลูกชายฉันกลับ”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทิ้งให้จงอินนั่งอยู่กับตัวเอง เกือบครึ่งชั่วโมงที่จงอินนั่งตากลมอยู่ตรงนั้นหิมะขาวเริ่มโปรยลงมาจากบนท้องฟ้า ร่างสูงลุกขึ้นเดินเตะกระป๋องแถวนั้นกระจัดกระจายไปหมด
“โอ๊ย เหี้ยเอ้ย !!!!”
ไม่ทันได้ดูเผลอเตะก้อนหินก้อนใหญ่จนข้อเท้าเจ็บล้มลงกุมปลายนิ้วตัวเองเอาไว้ สบถด่าในความโง่ของตัวเองอยู่ไม่นานก็พบใบหน้าของคนรักที่วิ่งมาดูเขาด้วยท่าทางตกใจ เซฮุนย่อตัวลงแล้วถามด้วยความเป็นห่วงแต่จงอินกลับไม่ตอบแล้วหันหาหนี คนเป็นน้องถอนหายใจแล้วถอดรองเท้าจงอินออกพบว่ามันกำลังบวมแดง
“เดินไหวไหม ?”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
“เป็นอะไร ?”
“เปล่า มึงกลับไปเถอะเดี๋ยวกูหาทางกลับไปเองอ่ะ”
“พ่อคุยอะไรด้วยทำไมเป็นแบบนี้”
“ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง”
“งั้นก็นั่งอยู่ตรงนี้แหละ” เซฮุนลุกขึ้นยืนแต่แล้วข้อมือบางก็ถูกอีกคนจับไว้
“มึงจะไม่ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่มึงใช่ไหม ?” ตอนนี้จงอินเหมือนกับเด็กที่กำลังร้องขออะไรสักอย่าง เขานั่งมองเซฮุนด้วยสายตาอ้อนวอน
ฉันกำลังขอร้องอ้อนวอนเธออย่าปายยยยยยย .....
“ไป...”
ง้อววววววววว กูไม่ให้มึงไปปปปปปปปปป ....
พอได้ยินคำตอบจงอินก็เบะปากก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง บางทีเขาก็อาจจะสำคัญตัวเองผิดไปคิดว่าเซฮุนจะยอมอยู่ด้วยกันที่นี่
“ไปได้ยังไงหัวใจอยู่ตรงนี้ J”
คนเป็นพี่ยิ้มกว้างหลังจากได้ยินคำตอบแล้วดึงอีกคนให้ล้มลมมานั่งบนตัก หิมะเริ่มตกเยอะขึ้นแล้วแต่จงอินไม่สนเขาดีใจที่เซฮุนเลือกเขา อยากจับคนตรงหน้าเข้ามากอด จูบแล้วบอกรักจนกว่าเสียงตัวเองจะหายไป
“พูดใหม่อีกรอบดิกูอยากฟัง เสี่ยวใช่เล่นนะมึงเนี๊ย”
“ไม่ !”
“โห่ไรวะ พูดอีกดิพูดอีกกกกกกกกกกกกกกก !”
“เลิกดิ้นเป็นเด็กได้แล้ว กลับบ้านเยอะหนาว”
“กูลุกไม่ขึ้นอ่ะเจ็บหัวนิ้วโป้งตีนมาก”
“แล้วให้ทำไง ?”
“แบก...”
ทั้งที่สวนสาธารณะกับบ้านมันไม่ไกลกันมากแต่เซฮุนกลับรู้สึกเหนื่อยเหมือนตัวเองเดินวนรอบมหาลัยตัวเองมาสามรอบ คนเป็นพี่ที่กำลังขี่อยู่บนหลังเขาเอาคางเกยอยู่บนไหล่ก่อนจะแหกปากร้องเพลงรักแบบไม่กลัวว่าชาวบ้านแถวนั้นจะขว้างอะไรใส่
“เลิกร้องเพลงได้แล้วหนวกหู”
แค่รู้ว่าฉันรักเธอ รู้แค่ว่าฉันรักเธอมันมากมายจนหยุดมันไม่ไหว
ไม่รู้ปลายทางเป็นอย่างไร ไม่รู้จะจบลงอย่างไร รู้แค่เพียงฉันนั้นรักเธอหมดใจ
“รู้แล้วว่ารัก ..”
แค่รู้ว่าฉันรักเธอ รู้แค่ว่าฉันรักเธอ เมื่อรับฟังเธอคงจะเข้าใจ ให้ฉันนั้นรักเธอต่อไป
ขอเธออย่างห้ามกันได้ไหมเพราะจากนี้ชีวิตของฉันไม่อาจรักใครได้อีก
“แล้วรู้หรือยังว่านี่ก็รักเหมือนกัน ?”
“รู้แล้วแต่อยากได้ยินอีก กูอยากได้ยินมึงบอกรักกูทุกวัน”
“โลภมากจริงๆ”
จงอินกอดคอเซฮุนแน่นขึ้นแล้วแอบขโมยหอมแก้มน้องฟอดใหญ่ เซฮุนพยายามหลบแต่ตัวเองเสียเปรียบเพราะเขาให้จงอินขี่หลัง แล้วทั้งสองคนก็หยอกล้อกันไปตลอดทางจนถึงบ้าน
“เออจริงสิพ่อฝากกระดาษนี่มาให้อ่ะ”
“อะไรวะ ?”
“ลองเปิดอ่านดูดิ”
ฉันฝากดูแลเซฮุนลูกชายฉันด้วยนะทำเหมือนกับที่นายพูดเอาไว้ ไอ้ลูกเขยร้านบะหมี่โอ..
________________________________________
ได้อัพแล้ววววววววววววววววว
จะร้องไห้กับชีวิตปีหนึ่ง ฮือออออออ
ขอให้ทุกคนฟินกับตอนนี้ ความจริงนี่คือตอนจบแต่เราแถมตอนหน้าให้อีกตอน
55555555555555555555555555555
#ฟิคคนแมน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กลัวดราม่ามากเลย แต่ไม่ งืออ รู้สึกดี
มีร้องพงร้องเพลงจีบกัน จ้าาา หวานกันสุดๆ
ในที่สุดก็ได้รู้ซะทีว่าชายปริศนาของคยองคือใคร พี่จุนคนรวยนี่เอง
คุณพ่อน่ารักจังเลยค่ะ จุดพลุฉลองงงงง ><
พอน้องฮุนตอบแบบนั้น จงอินนี่คือทำตัวเป็นเด็กเลย 55555555555 น้องยังพูดไม่ทันจบเลยนะ
ขำคยองซู คนรวยก็งี้ ทำไรก็ได้ใจ 5555555555555555
เราไม่แมนยังแพ้เลยข่าาา ทั้งละมุนทั้งทะเล้น อยากด้ายยยย
มีคนแบบจงอินอีกมั้ยคะ แต่ขอเซฮุนด้วยได้มั้ยคะ อยากได้แพคคู่เลยฮอลลลล
เรื่องนี้น้องคยองมาวิน คนรวยจีบ ขรรม