Inazuma Eleven Go Mixi Max คุณพ่อ(นักเตะ)มือใหม่ - Inazuma Eleven Go Mixi Max คุณพ่อ(นักเตะ)มือใหม่ นิยาย Inazuma Eleven Go Mixi Max คุณพ่อ(นักเตะ)มือใหม่ : Dek-D.com - Writer

    Inazuma Eleven Go Mixi Max คุณพ่อ(นักเตะ)มือใหม่

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามิกซิแม็กเกิดผิดพลาดขึ้นมา จนเกิดเป็นเด็กคนนึง [100% End] (กลับมาแก้ไขรูปภาพ)

    ผู้เข้าชมรวม

    10,650

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    29

    ผู้เข้าชมรวม


    10.65K

    ความคิดเห็น


    31

    คนติดตาม


    235
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 พ.ค. 58 / 13:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น










    สวัสดี และ ยินดีต้อนรับทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านหรือผู้ที่หลงเข้ามา นิยายเรื่องสั้น(แต่ยาว)เรื่องนี้ เป็นYAOI ตัวละครหลักจะเป็น เคียวเทน(KyouTen)

    ถ้าใครดูInazuma Go กันมาแล้ว ท่านก็คงรู้จักตัวละครกัน

    มาแนะนำตัวละครเพิ่มอีกซะหน่อย

    จากภาพด้านบน เด็กผู้ชายผมสีน้ำเงินคือ

    Kyouma (เคียวมะ) 
    เคียวมะเกิดจากข้อผิดพลาดของการมิกซิแม็กกันระหว่าง เทนมะ กับ สึรุงิ 

    อีกคน
    เด็กผู้ชาย(ย้ำเด็กผู้ชาย)ผมชมพูคือ

    Kiriya(คิริยะ)
    คิริยะก็เกิดจากข้อผิดพลาดของมิกซิแม็กเช่นกัน ระหว่าง คิริโนะ กับ คาริยะ


    อาาา ไปรับชมกันเลยดีกว่า
    ~


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      ''..........''



      ''=[]=..........''



      ''('w').......''





                สายตาของทุกคนจ้องไปยังเด็กทารกตัวน้อย ที่นั่งมองพวกเรากลับ ด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา ผมสีชมพูอ่อนๆกับดวงตาสีฟ้าที่คล้ายกับใครบ้างคนซะเหลือเกิน

                           

                            ''คิริโนะ.....ชั้นไม่ยักรู้ว่านายมีน้องด้วย...'' ชินโด ทาคุโตะ มาหน้าเพื่อนรักสลับกับทารกตัวน้อยไปมา



                            ''ชั้นลูกคนเดียวนะ ไม่มีน้องซะหน่อย....'' คิริโนะที่ดูเหมือนจะตะลึกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอยู่เช่นเดียวกับคนอื่นๆ

                                       
                                       
                             ''แล้วนี้น้องใคร?? '' ทุกคนจ้องหน้าซึ่งกันและกัน และสงสัยว่าเด็กคนนี้มาได้ยังไง แต่ละคนเริ่มคุยกัน และตั้งคำถามมากมาย 



                              ''ม๊า.....'' เสียงเล็กๆเบาๆ เรียกความสนใจทุกคนได้เป็นอย่างดี ทุกคนหันมองทารกน้อย ที่ดูเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูทารกน้อยเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆก็หันกันมาพร้อมกัน



                               ''มาม๊า...~'' ทารกตัวน้อยหันไปหาคิริโนะพร้อมกับยื่นแขนไปข้างหน้าทำท่าเหมือนอยากจะให้อุ้ม ในขณะเดียวกันที่คิริโนะยังจ้องทารกตัวน้อยข้างหน้าอย่างงงๆ

                                     
                               ''มาม๊า??''ทุกคนละสายตาจากทารกตัวน้อยแล้วหันไปจ้องคิริโนะกันแทน



                               ''คิริโนะ....นี่...ลูกนายหรอ??'' ชินโดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูตกตะลึง



                              ''จะบ้าหรอชินโด!! ชั้นผู้ชายนะโว้ย!? จะไปมีได้ยังไง!! =[]='' คิริโนะรีบปฏิเสธทันที ก่อนที่จะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ เพราะตนเองก็ตกตะลึงอยู่เหมือนคนอื่นๆ



                                ''มาม๊า...มาม๊า...ฮึอ..ฮึอ..~'' ทารกตัวน้อยเริ่มจะน้ำตาคลอหลังจากยื่นมือออกเป็นเวลานานแต่กลับไม่ได้การตอบรับอะไรกลับมาเลย



                                 ''อ๊ากกก! อย่าร้องนะ อย่าร้อง อุ้มก็อุ้ม !! ''คิริโนะรีบเข้าไปอุ้มทารกน้อย ทารกน้อยเกาะคิริโนะแน่น พร้อมกับเอาหน้าซุกที่ใหล่เหมือนเวลาทารกถูกคุณแม่อุ้ม

       

                                 ''สวัสดีครับ! หือ?เกิดอะไรขึ้นหรอ? '' หนุ่มน้อยผู้ร่าเริงประจำชมรมฟุตบอลวิ่งเข้ามาในห้องชมรมเหมือนเช่นเคยพร้อมกับคาริยะและชินสุเกะ แต่เหมือนคงไม่เหมือนเช่นเคยเพราะทุกคนไปออกันอยู่ที่โต๊ะกันหมด



                                  ''อ้าว? เทนมะ?'' คิริโนะหันมามองผู้มาทีหลัง ในขณะที่ยังอุ้มทารกตัวน้อยอยู่



                                 ''เอ๋! น้องรุ่นพี่คิริโนะหรอครับ? น่ารักจัง~'' เทนมะรีบเข้ามาดูทารกน้อยใกล้ๆ พร้อมกับชินสุเกะ



                                 ''ไม่ใช่หรอก ใครไม่รู้ =_='' คิริโนะถอยหายใจ ไม่รู้จะเอายังไงต่อกับเด็กคนนี้ดี


       

                                           
                                  ''ปาป๊า~''



                                  ''หือ?''


                            ทารกตัวน้อยที่ซุกใหล่คิริโนะซักพัก ก็หันมามองผู้มาใหม่ แต่เมื่อได้เห็นบุคคลคนนึง ทารกตัวน้อยถึงกับยื่นแขนไปหาคนๆนั้นแทน



                                ''ปาป๊า??'' ตอนนี้ทุกคนรวมทั้งคิริโนะ จ้องมองคาริยะด้วยสายตาเดียวกัน เจ้าถึงกับเหวอกันเลยทีเดียว



                                 ''คิริโนะ....ไม่จริงใช่มั้ย...นายกับคาริยะ........;[];'' ชินโดที่ชี้คิริโนะกับคาริยะสลับกันไปมา เหมือนเจ้าตัวจะเริ่มสติแตกแล้วสิ



                                 ''มะ ไม่ใช่นะชินโด ใจเย็นๆก่อน ! ''


      คิริโนะส่งทารกน้อยให้กับคาริยะ แล้วรีบไปดูอาการของเพื่อนสนิททันที



                                 ''ปาป๊า~ ปาป๊า~'' คาริยะที่ได้อุ้มทารกน้อยอย่างงงๆ ในขณะที่ทารกน้อยเอาฝ่ามือเล็กๆตีแก้มตนอย่างร่าเริง



                                ''เทนมะ~'' เทนมะหันไปตามเสียงเรียก เมื่อหันก็พบกับหนุ่มน้อยทรงผมทรงทวิน ผมและดวงตาสีเขียวสว่าง ใช่แล้ว เขาคือเพื่อนรักของเทนมะที่ออกเดินทางไปยุคต่างๆและออกตามหาผู้เล่นทั้ง11ด้วยกัน  เฟย์ รูน นั้นเอง



                                  ''เฟย์~~'' เมื่อทั้งสองเจอกัน เทนมะวิ่งเข้าไปกอดคนตรงหน้าด้วยความคิดถึง ทำเอาคนที่ถูกกอดถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้น



                                 ''ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงจังเลย ~''



                                 ''เหมือนกัน เทนมะ~''


      ทั้งสองกอดกันนานซักพัก ก็คลายกอดกัน ก่อนที่จะพากันลุกยืนขึ้น



                                 ''ว่าแต่ มีธุระอะไรหรอ ถึงมาที่นี่??'' เทนมะมองเพื่อนรักตรงหน้าด้วยความสงสัย ปกติแล้ว เทนมะกับเฟย์อยู่กันคนละช่วงเวลา ไม่มีโอกาศจะได้เจออยู่แล้ว



                                  ''จริงด้วย วันดาบะลืมของไว้น่ะ'' เฟย์มองไปรอบๆเหมือนหาอะไรบางอย่างแต่ต้องมาสะดุดตรงที่คาริยะ



                                   ''นั้นน้องใครหรอ?''

                                     

                                   ''ไม่รู้เหมือนกันน่ะ''


             เฟย์เดินเข้าไปสังเกตุทารกตัวน้อยใกล้ๆ เจ้าตัวน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น



                               ''หน้าตาเหมือนคาริยะกับรุ่นพี่คิริโนะผสมกันเลยแฮะ....''



                              ''นายรู้หรอว่าเกิดอะไรขึ้น?'' คาริยะพูดขึ้นในขณะที่เฟย์ยังจ้องมองทารกตัวน้อยต่อไป



                             ''ไม่แน่ใจหรอกนะ ว่าแต่มีใครเห็นเครื่องมิกซิแม็กบ้าง??'' ทุกคนหันไปมองหน้าซึ่งกันและกันเหมือนเดิม



                             ''คิดว่าน่าจะอยู่บนชั้นเก็บของล่ะมั้ง''คาริยะชี้ไปที่ชั้นเก็บของที่อยู่ตรงกำแพงห้องชมรม เฟย์ไม่รอช้าเข้าไปหยิบมันทันที่



                              ''คิดว่าน่าจะไปเพราะเจ้านี้ล่ะมั้ง'' เฟย์เขย่าเครื่องมิกซิแม็กเบาๆ แต่ดูเหมือนว่ามันคงพังไปก่อนหน้านี้แล้ว



                               ''ว่าแต่ คาริยะคุงรู้ได้ไงว่าอยู่ตรงนี้....'' เฟย์ที่จ้องคาริยะเหมือนกับจับผิด คาริยะถึงกับเหงื่อตก



                                ''เอาไปเล่นใช่มั้ยครับ?'' เหมือนเฟย์จะรู้ทัน เจ้าตัวถึงกับนิ่งก่อนที่จะพยักหน้าตอบอย่างช้าๆ



                                 ''ว่าแล้วเชียว ดูเหมือนเครื่องมิกซิแม็กมันจะรวนๆน่ะครับ จากที่ต้องผสมจากคนๆนึงไปอีกคนๆนึง กลับกลายเป็น เพิ่มมาอีกคนซะงั้น..'' เฟย์อธิบายไปสลับกับมองปืนมิกซิแม็กไป คาริยะหน้าลงเล็กน้อยเหมือนสำนึกผิด ซึงก็แอบหยิบไปเล่นจริงๆ เขาแค่อยากรู้ว่า ถ้าได้พลังจากอีกฝ่ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น



                                 ''แล้วจะเอายังไงกับเด็กคนนี้ดีล่ะ มันคงไม่หายไปเหมือนพลังด้วยสิ''



                                ''คาริยะ......'' คิริโนะที่จ้องมองคาริยะด้วยสายตาอาฆาตนิดๆ ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับตัวสั่น



                                ''ขอโทษครับ รุ่นพี่คิริโนะ!!'' คาริยะก้มหัวขอโทษในขณะที่ยังอุ้มทารกตัวน้อยอยู่



                                ''แล้วจะเอายังล่ะทีนี้.......''คิริโนะเริ่มเหนื่อยใจกับรุ่นน้องจอมป่วนของตน



                                  ''ในเมื่อผมเป็นทำ ผมก็จะรับผิดชอบครับ''


      คิริโนะถึงกับสะดุ้งกับประโยคเมื่อกี้ เหมือนเขาไปทำตนท้องแล้วมีลูก แล้วอีกฝ่ายต้องมาพูดรับผิดชอบเลยแฮะ ฟังดูแปลกๆพิลึกๆ



                                   ''ปาป๊า~ ''



                                  ''ครับๆ ว่าไง คิริยะ~''



                                 ''เดี๋ยวๆ ตั้งชื่อไว้เลยหรอเนื้ย!! =[]=''



      ทารกน้อยที่ถูกต้องชื่อไว้เรียบร้อย โดยคุณพ่อ(?)อย่างคาริยะ เป็นการตั้งชื่อที่เอามาผสมกันจนฟังดูแปลกๆ



                                 ''คิริโนะ......T-T'' ชินโดที่ยังยืนมองห่างๆอยู่อย่างงั้น ถึงกับทรุดลงมานั่งกับพื้นเลยทีเดียว



                                 ''ชะ ชินโด!! =[]='' คิริโนะที่ต้องเข้าไปหาชินโดอีกรอบ ท่าทางจะซ้ำใจมากเลยสินะ



                                 ''ขอบใจนะเฟย์ ทึ่คลายความสงสัยให้~'' เทนมะเดินเข้าไปหาเพื่อนรัก เฟย์หันกลับมาด้วยรอยยิ้ม



                                  ''ไม่เป็นไรหรอก เทนมะ''



                                  ''มันพังแล้วจริงๆหรอ??'' เฟย์พยักหน้าตอบ พร้อมกับกดไกปืนให้ดู



                                  ''ขอจับดูหน่อยสิ~'' หลังจากที่รู้ว่ามันไม่มีอันตรายอะไรแล้ว เฟย์ส่งปืนมิกซิกแม็กให้เทนมะ เทนมะจับหมุนดูรอบๆ พร้อมกับกดไกปืนเล่นๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่...






      ฟิ้วววว!






                             ''เอ๋!??'' อยู่ๆเครื่องมิกซิแม็กก็เกิดทำงานขึ้นมา หัวปืนจ่อไปที่ตัวของเทนมะ และปืนอีกอันมันยิงลำแสงไปที่สึรุงิที่ยืนพิงผนังอยู่ริมห้องนั้นเอง



                              ''????''



                              ''เทนมะ เป็นอะไรมั้ย???'' เฟย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบเข้าไปดูเพื่อนรักทันทีที่ปืนมิกซิแม็กหยุดทำงาน



                               ''ชั้นไม่เป็นไร....''เทนมะสำรวจตัวเอง ว่ายังอยู่ดีทุกส่วนหรือไม่ ก่อนจะหันไปมองอีกฝ่ายที่ถูกยิงเช่นเดียวกัน



                              ''??'' ดูเหมือนสึรุงิยังดูงงๆกับสถานการณ์ในตอนนี้ เขารีบสำรวจดูตัวเองทันที



                             ''ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสินะ ก็ดีไป....''เฟย์มองไปรอบๆ มันอาจจะมีเด็กโผล่ออกมาเหมือนคิริโนะกับคาริยะก็ได้



                              ''ตกใจหมดเลย....''



                             ''ชั้นว่าต้องรีบเอามันกลับไปซ่อมโดยด่วนแล้วล่ะ...'' เฟย์ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบเครื่องมิกซิแม็กขึ้นมาด้วย



                             ''จะไปแล้วหรอเฟย์.....'' เทนมะมองอีกฝ่ายที่กำลังเดินจากไปด้วยสายตาเศร้าสร้อย



                             ''อื้ม... ถ้ามีโอกาศชั้นจะกลับมาเยื่ยมนายนะเทนมะ''



                           ''โอเค งั้นชั้นจะรอนะเฟย์~ อ้อ! แล้วก็ฝากสวัสดีคินาโกะด้วยนะ บอกว่าทุกคนคิดถึงคินาโกะมากๆเลย^^''



                              ''ได้ เดี๋ยวบอกแม่ให้นะ ^^''


             หลังจากนั้นไม่นาน เฟย์ก็กลับอนาคตไป รุ่นพี่คิริโนะกับคาริยะต้องช่วยกันเลี้ยงดูเด็กน้อยผู้มาใหม่ ทุกคนอื่นๆพยายามทำตัวให้ปกติ แล้วออกไปซ้อมฟุตบอลกันต่อ 




      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .

      .




                                           
                             ''เอ้า! ชินโด'' คิริโนะเตะลูกบอลส่งไป ชินโดที่อยู่ข้างหน้าเขาไปวิ่งไปเรื่อยๆ แต่ก็ถูกสกัดด้วยกองหลังของตัวทีมตัวสำรอง



                              ''เทนมะ!! '' ชินโดที่สังเกตุเห็นเทนมะที่วิ่งอยู่ตรงข้ามสนามโดยไม่มีใครประกบ



                               ''เอ๋!?'' เจ้าตัวมองลูกบอลที่กลิ้งผ่านหน้าไป ปกติเขามักจะวิ่งไปรับลูกบอลได้อย่างแม่นยำ ที่ทีนี้เหมือนจะช้าไปหรอ?



                              ''เทนมะ นายโอเคไหมเนื้ย??''ชินโดที่เห็นเทนมะดูแปลกๆ จึงเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง



                               ''คะ ครับ ผมไม่เป็นไร...''



                              ''ไปพักก่อนก็ได้''



                              ''คะ ครับ ''

      เทนมะรีบเดินไปนั่งพักที่จุดพักนักกีฬาทันที เขาก็รู้สึกว่าตัวเองแปลกๆเหมือนกัน เหนื่อยง่าย แล้วก็รู้สึกอ่อนล้า ยังไงไม่รู้



                            ''เอ๋ะ!!'' คิริยะที่นั่งอยู่ข้างๆก็หยิบขวดน้ำมาให้



                            ''อาา ขอบใจนะ คิริยะ'' ผมรับขวดน้ำมาจากคิริยะ ดูจากลักษณะแล้ว คิริยะน่าจะอายุประมาณ ขวบสองขวบล่ะมั้ง คงเป็นวัยกำลังอยากรู้อยากเห็นอยู่พอดี ทถ้าสอนเด็กคนนี้ให้เป็นนักฟุตบอลล่ะก็ คงได้เป็นกองหลังที่เก่งเหมือน รุ่นพี่คิริโนะก็ได้



                             ''...รู้สึกอยากอ้วกยังไงไม่รู้.....อุ๊!......''

      ผมรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที หลังจากที่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจะพุ่งออกมา



      ------------------------------------------------------------------------------
       

                ผมอุดปากตัวเองแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที และไม่รอช้าที่จะหาห้องน้ำที่ว่างอยู่แล้วตรงเข้าไปที่ชักโครกทันที



      แหวะ......



               ของเก่าทั้งหมดที่กินไปเมื่อเช้าถูกคายออกจนหมด ไม่เหลือชิ้นดี มือผมเอื้อมไปกดปุ่มชักโครกอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นแล้วเดินไปบ้วนปากที่อ่างล้างหน้า

         

                            ''เทนมะ เกิดอะไรขึ้น??''


      เสียงใสๆของเด็กชายคนนึงพูดขึ้นหลังจากที่เขาก็พึ่งออกจากห้องน้ำมาเหมือนกัน



                             ''ฮิคารุเองหรอ....''ผมพูดตอบอย่างไร้เรี่ยวแรง ฮิคารุเห็นผมในสภาพนั้นก็เข้าไปช่วยพยุงผมทันที



                             ''เป็นอะไรมั้ย เทนมะ ดูนายไม่ค่อยดีเลย....'' ฮิคารุมองผมด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงแบบสุดๆ ผมส่ายหัวให้เล็กน้อย



                              ''ไม่เป็นไรหรอก สงสัยจะไม่สบายนิดหน่อยน่ะ... ^^''


                             
                              ''ผมว่าเทนมะควรไปหาหมอซักหน่อยนะ นายแลดูอาการไม่ดีสุดๆเลย''



                               ''ชั้นบอกไม่เป็นไรไง ชั้น อุ๊!!... ''



      พูดไม่ทันจบ ผมต้องวิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ ฮิคารุก็เข้ามาลูบหลังผมให้


      .
      .
      .
      .
      .
      .



                         ''กลับล่ะนะ พรุ่งนี้เจอกัน''


           
                         ''อื้ม พรุ่งนี้เจอกัน คิริยะ บ๊ายบาย ^^''



                          ''แอ๊ะ!~''


                    คิริยะส่งเสียงใสๆตอบให้ ก่อนที่คาริยะจะจับคิริยะอุ้มแล้วเดินออกจากห้องชมรมไป คาริยะถูกรุ่นพี่คิริโนะทำโทษให้เลี้ยงดูคิริยะอาทิตย์ละ4วัน ส่วนรุ่นพี่จะไปรับคิริยะไปเลี้ยงอีก3วัน



                        ''ผมก็ขอตัวล่ะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ ผมแนะนำให้ไปหาหมอนะ'' ฮิคารุที่เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว หันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วง



                        ''เข้าใจแล้วน๊า~ พรุ่งนี้เจอกัน~''

             

                    เมื่อผมพูดเสร็จฮิคารุก็เดินออกจากห้องชมรมไปอีกคน ผมเปลี่ยนชุดกีฬาเป็นชุดนักเรียน เสร็จก็หยิบกระเป๋านักเรียนแล้วเดินออกจากห้องชมรมไป
      ผมเดินออกจากประตูโรงเรียน ก่อนที่จะต้องหยุดชะงักเพราะบุคคลคนนึง



                         ''สึรุงิ~~''



      ผมวิ่งเข้าไปหาสึรุงิ เขาหันกลับมาตามเสียงเรียก

               
         
                       ''จะไปเยื่ยมพี่ชายหรอ?''



                       ''อ่าาา...''


      เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูแปลกใจที่อยู่ผมถึงพี่ชายของเขา



                      ''จริงสิ สึรุงิ วันนี้นายรู้สึกอะไรแปลกๆบ้างมั้ย??''



      สึรุงิทำท่าเหมือนยืนคิดอยู่ซักครู่ก่อนที่จะส่ายหัวกลับมา



                        ''งั้นหรอ...ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้เจอกันนะ ^^'' ผมยิ้มให้สึรุงิแล้วเดินนำเข้าไป

















                          ''เอ่อ.....เทนมะคุง ยังไม่อิ่มอีกหรอจ๊ะ?^^;''

                       

                           ''หือ?? ''


       

                   น้าอากิมองผมด้วยสายตาที่ดูแปลกใจ ที่จริงวันนี้ผมกินข้าวเย็นไปแล้ว 4 ชามแล้ว ในมือผมคือชามที่5 และดูท่าว่าจะมีชามที่6อีกด้วย ปกติผมแค่ชามเดียวก็กินไม่ค่อยหมดอยู่แล้ว



                         ''ซ้อมฟุตบอลหนักหรอ ถึงได้หิวขนาดนี้''


      ที่จริงวันนี้ผมก็ไม่ได้ซ้อมอะไรเลยมากกว่า ได้แต่นั่งริมสนามทั้งวัน



                         ''ก็ไม่ได้ซ้อมอะไรหนักเลยครับ''



                         ''งั้นหรอ..แปลกจังเลยนะ....''



                     ผมคีบข้าวเข้าปากพร้อมกับคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำไมผมกับสึรุงิโดนลำแสงมิกซิแม็กแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กับคาริยะและรุ่นพี่คิริโนะถึงได้มีคิริยะได้ล่ะ?? แถมวันนี้ตัวผมดันเกิดอาการแปลกๆ หลังจากกลับจากห้องน้ำ ผมกลับเข้าไปวิ่งในสนามไม่นานก็ต้องถูกลากกลับมาอยู่ริมสนามอีกรอบเพราะว่าผมดันเป็นลมซะงั้น ทุกคนก็เลยเป็นห่วงผมกันมาก



                          ''อื่มแล้วครับ...'' เมื่อข้าวในชามที่5ของผมหมดลง ผมตัดสินใจไม่กินต่อ ที่จริงผมน่ะยังไม่อิ่มด้วยซ้ำ



                          ''อิ่มแล้วหรอ วันนี้เทนมะทำสถิติกินข้าวหมดหม้อเลย..^^;''

      น้าอากิหยิบหม้อข้าวให้ดู ผมถึงกับตกใจเล็กน้อย ในหม้อไม่เหลือข้าวเลยแม้แต่นิดเดียว....



                          ''พาซาสึเกะ ไปเดินเล่นป่ะ เทนมะก็เดินออกกำลังกายไปด้วยเลย''



                          ''คือ....ผมรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะครับ ผมขอตัวไปพักก่อนนะครับ''


      ผมหันไปหาซาสึเกะที่นอนอยู่ข้างเก้าอี้กินข้าวผม เหมือนจะรอให้ผมพามันไปเดินเล่น



                         ''ขอโทษนะ ซาสึเกะ....'' ผมก้มลงลูบหัวซาสึเกะ ซาสึเกะทำเหมือนว่าเข้าใจที่ผมพูด มันเลยนอนนิ่งไม่ขยับไปไหน



                        ''งั้นเทนมะก็นอนพักเยอะๆ จะได้ดีขึ้น...'' น้าอากิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแลดูเป็นห่วง


                        ''ครับ''

       
             ผมเดินขึ้นบันไดและกลับเข้าไปในห้องของผม ผมล้มตัวลงบนเตียงของผม
      นอนเร็วไปหรือป่าวนะ ยังไม่ง่วงเลย 
      ด้วยความว่างของผม ผมคว้ารีโมททีวี มาเปิดดู



                       ''มีอะไรดูบ้างน๊า...''ผมกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีช่องไหนถูกใจผมเลย



      [''เอาล่ะค่ะ วันนี้เราจะมาสอบถามคุณแม่คนนี้กันบ้างน่ะคะ']'



            เมื่อผมกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ผมถึงกับมาสะดุดกับช่องนี้



      [''ไม่ทราบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์กี่เดือนแล้วคะ ?'']



      [''8 เดือนแล้วคะ '']



      [''รู้สึกยังไงบ้างคะ ที่รู้ว่าตัวเองจะได้เป็นคุณแม่แล้ว'']



      [''คะ รู้สึกดีใจและ ตื่นเต้นมากๆเลยคะ'']



      [''อยากรู้น่ะคะ ว่าตอนช่วงท้องแรกของคุณเป็นยังไงบ้างคะ?'']



      [''คะ ก็ตอนแรกๆนะคะ ก็จะรู้สึกเมื่อยล้าและก็เหนื่อยง่ายค่ะ'']



      [''แล้วไงต่อคะ?'']



      [''ตอนนั้นดิฉันอาเจียนแทบตลอดเวลาเลยค่ะ ทรมานสุดๆ'']



           ทำไมผมยิ่งฟังยิ่งคล้ายผมเลยแฮะ



      [''แล้วไงต่อคะ?'']



      [''ก็จะทานข้าวเยอะเป็นพิเศษ ดิฉันทานจนเริ่มกลัวตัวเองหลังคลอดแล้วน้ำหนักขึ้นมากเลยคะ'']



                           ''..........''



      [''ค่ะ มันก็เรื่องปกติตอนท้องแรก น่ะแหละคะ มีอะไรจะฝากบอกผู้ชมที่กำลังตั้งครรภ์แรก เพื่อเป็นกำลังให้พวกเธอบ้างคะ?'']



      [''ก็ไม่เป็นไรนะคะ การตั้งครรถ์มันเป็นเรื่องมหัจรรย์มากๆ 1หรือ2ชีวิตเล็กๆในท้องของท่านเป็นอะไรดีและเขาจะทำให้เรามีความสุขนะคะ '']



      [''ค่ะ ก็ขอขอบคุณมากเลยนะคะ ที่มาเป็นแขกรับเชิญให้รายการนี้นะคะ'']



      [''ค่ะ ^^'']



      ผมกดปิดทีวีทันที บ้าน่า มันคงไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดหรอก ผมเป็นผู้ชายนะ เป็นจะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีทางหรอก อย่าคิดมากน่า เทนมะ มันไม่มีจริงหรอก



                      ''หือ?''



                 ผมพึ่งสังเกตุตัวเอง ในขณะที่ผมยังจดจ่อกับรายการนั้นมือผมอีกข้างที่ไม่ได้ใช้จับรีโมทอยู่นั้น มันไปวางอยู่บนหน้าท้องของผม ผมรีบชักมือออกทันที แล้วหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเอง



                     ''ไม่จริงหรอก...เทนมะ ไม่จริง อย่าคิดมากสิเทนมะ.. @[]@''


      ผมพยายามพูดเชิงปลอบใจตัวเอง และพยายามหยุดขึ้นเรื่องแบบนี้












                    ''เป็นไรหรอเทนมะ? เห็นเหม่อตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว..''

             
                  ชินสุเกะพูดขึ้นในขณะที่ผมนั่งเหม่ออยู่ริมสนาม เย็นของอีกวันนึงผมก็ยังไม่สามารถลงไปซ้อมกับทุกคนได้ เพราะผมเข้าไปวิ่งนิดวิ่งหน่อยก็เป็นลมถูกลากมาริมสนามอีกเช่นเคย ในเวลาเรียนก็ขออนุญาติคุณครูแล้วรีบพุ่งไปห้องน้ำตั้งหลายรอบ พักกลางวันข้าวกล่องที่เตรียมมาเหมือนจะไม่พอสำหรับผมซะด้วยสิ ตอนนี้บนตักผมมีคิริยะที่นั่งมอง รุ่นพี่คิริโนะกับคาริยะสลับกันไปมา


                    ''เทนมะ!?''



                    ''หะ ห๊า??''


          ผมรีบหันไปตามเสียงเรียกของชินสุเกะ



                   ''ดูนายไม่ค่อยดีเลยนะ...''



                 ''ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ ชินสุเกะ^^''



            ผมพยายามยิ้มกลับให้ชินสุเกะ ชินสุเกะมองผมด้วยสายตาที่ดูเป็นห่วงเช่นเดียวกับคนอื่นๆ



                 ''ถ้ามีเรื่องไม่สบายอะไรบอกชั้นได้นะ ชั้นจะรับฟังนายทุกอย่างเลย''



                 ''ขอบใจนะชินสุเกะ แต่ชั้นไม่เป็นไรจริงๆ ^^''



                   ''งั้นหรอ ถ้านายพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกได้นะ ชั้นพร้อมรับฟังเสมอ''



                    ''อื้ม ''


      หลังจากนั้นชินสุเกะก็วิ่งเข้าไปในสนามอีกครั้งทิ้งผมให้อยู่กับคิริยะ



                   ''แอ๊ะ!?''
       

                คิริยะเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับชี้ไปที่รุ่นพี่คิริโนะที่กำลังใช้ท่าไม้ตาย เดอะมิสต์ในการแย่งลูกบอล



                    ''อ่อ ท่าเดอะมิสต์น่ะ ใช้หมอกปกคลุมให้ทั่วแล้ว เข้าไปเขี่ยลูกออกมา สุดยอดไปเลยใช่มั้ย? ^^''



                     ''อาาา~~'' คิริยะที่เหมือนจะรู้ว่าผมพูดอะไร คิริยะพยักหน้าแล้วยิ้มให้ผม
      ผมลูบหัวคิริยะด้วยความเอ็นดู
















                         ''........''


                   หลังซ้อมฟุตบอลเสร็จ(ยังไม่ได้เเตะแม้กระทั่งลูกบอล) ไม่รู้อะไรที่ทำให้ผมกล้าเดินมาถึงที่นี่ ที่นี่คือโรงพยาบาลที่พี่ยูอิจิพี่ชายของสึรุงิรักษาตัวอยู่นั้นเอง วันนี้ผมไม่ได้จะมาเยื่ยมพี่ยูอิจิหรอก ผมจะตรวจสอบอะไรนิดหน่อย....



                         ''มัทสึคาเสะ เทนมะ สินะ''


      ผมหันไปตามเสียงเรียก พบกับคุณฟุยุกะ นางพยาบาลของโรงพยาบาลนี้


                         ''มีอะไรให้ช่วยไหมจ๊ะ?''


                          ''.......''














                       ''จะขอยืมที่ตรวจครรภ์หรอ? จะเอาไปทำอะไร?''



                       ''แล้วได้ไหมล่ะครับ....''



      ผมเนื้ยแทบจะก้มลงคุกเข่าขอร้องอยู่แล้ว คุณฟุยุกะมองผมทำท่าคิดหนักอยู่ซักพัก


                       ''จะเอาไงดีล่ะ.... ''


                        ''..........''







                     และแล้วผมก็ได้มันกลับบ้านมา คุณฟุยุกะบอกว่ามันเป็นที่ตรวจครรภ์แบบผ่าน วิธีตรวจคือปัสสาวะผ่านที่ตรวจได้เลยแล้วปิดฝาวางไว้ในแนวราบแล้วรอดูผลได้เลย แค่นี้เองสินะ แลดูไม่ยากซักเท่าไหร่

      มันไม่ไหวจะเคลียจริงๆ ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่ผมคิดก็ดีสิ....


                     
                      ''กลับมาแล้วหรอ เทนมะ....?''

      น้าอากิที่กำลังเทอาหารให้ซาสึเกะอยู่ เอ่ยทักทายผมทันที่ผมเดินเข้ามาในเขตบ้าน แต่ผมรีบเดินผ่านน้าอากิไปตรงไปที่ห้องน้ำแล้ว หยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาจากกระเป๋า


                        ''แน่ใจหรอ ถ้ามันมีจริงๆล่ะ....'' ผมมองที่ตรวจครรภ์ตรงหน้าอย่างลังเล 

      และแล้วผมก็ลองทำตามขั้นตอนจริงๆ ในใจภาวนาอย่าให้มันมี ผมรอจนเส้นสีแดงปรากฏขึ้นมา


                        ''มะ ไม่จริงน่า.....!''

      ----------------------------------------------------------------------

       

      ผมถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น หลังจากที่ที่ตรวจครรภ์ขึ้นขีดสีแดง 2 ขีด...

      เป็นไปไม่ได้น่า.... มิกซิแม็กที่ผิดพลาดมันไม่ได้ออกมาแบบ คิริยะ แต่มันอยู่ในตัวของผมเลยเนื้ยนะ....

      ผมเช็ดเครื่องตรวจครรภ์ และลองทดสอบอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ผิดพลาด
      จะกี่ครั้งๆ ผลก็ยังออกเป็นเหมือนเดิม ผมเดินออกจากห้องน้ำแล้วรีบวิ่งกลับเข้าห้องของตัวเอง แล้วคว้าโทรศัทพ์มือถือแบบฝาพับในกระเป๋าออกมา ผมเปิดฝาพับโทรสัทพ์ขึ้น เข้าไปในรายชื่อ และหาชื่อเขาคนนั้น



                   ''.......''


      ผมเกิดความลังเลเล็กน้อย นิ้วโป้งอยู่ค้างที่ปุ่มโทรออก จะโทรไปดีมั้ย? จะพูดว่ายังไงดี? 
      ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วตัดสินใจกดปุ่มโทรออกทันที




      ติ๊ดดดด~......ติ๊ดดดดด~.....ติ๊ดดดดด~




      [ฮัลโหล?]


      ''สึรุงิ....''


      [มีอะไรถึงได้โทรมา เทนมะ?]


      ''........''


      [ถ้าไม่มีอะไร งั้นชั้นวางล่ะ...]


      ''ดะ เดี๋ยวสิ สึรุงิ!''


      [อ่า แล้วมีเรื่องอะไร?]


      ''สึรุงิ ตัวนายรู้สึกอะไรแปลกๆบ้างมั้ย?''


      [แปลกๆหรอ ก็ไม่นิ ทำไม?]


      ''สึรุงิ....คือ...เหมือนว่า...ชั้นจะ...ท้องน่ะ..''


      [.............]


      ''............''


      [จะบ้าหรอ ผู้ชายบ้านไหนเขาท้องได้กันล่ะ]


      ''จริงๆนะ มันคงผลของมิกซิแม็กน่ะ...''


      [มันเป็นไปไม่ได้หรอก เทนมะ ]


      ''แต่มันเป็นไปแล้วนิ...''


      [แล้วไง จะให้ชั้นเป็นพ่อของลูกนายงั้นหรอ?]


      ''เรื่องนั้น.....''


      [บอกไว้ก่อนเลยนะเทนมะ ชั้นไม่เกี่ยว มันเป็นความผิดของนาย ที่เล่นเครื่องบ้านั้น...]


      มันก็จริง..เขานั้นไม่เกี่ยวอะไรเลยจริงๆ


      ''แต่สึรุงิ....''


      [ไม่มีแต่ล่ะ ยังไงซะ ชั้นไม่เกี่ยวแค่นี้แหละ...]


      ''สึรุงิ!? เดี๋ยวสิ.....! ''




      ตู๊ด.... ตู๊ด.... ตู๊ด......




                    หลังจากที่อีกฝ่ายตัดสายไป ตัวผมในตอนนี้ถึงขั้นพูดอะไรไม่ออก น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาหยดลงบนเครื่องโทรศัทพ์ ก็อย่างที่เขาบอกน่ะแหละ เขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย ผมต่างหาก ถ้าไม่ไปเล่นไอ้เครื่องบ้าๆนั้น มันก็คงไม่เกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้



      ตุบ!



      ผมปาหมอนที่อยู่บนเตียงใส่กำแพงด้วยความโกรธ โกรธตัวเองที่ทำอะไรบ้าๆ


                     ''อ๊ากกกกก....ฮึอ....ฮึอ....''



                     ''เทนมะ! เกิดอะไรขึ้น??'' น้าอากิรีบเปิดประตูเข้ามาทันที และตกตะลึกกับสภาพผมที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย



                      ''ไม่เป็นไรน๊า เทนมะ เกิดอะไรขึ้น?''น้าอากิเข้ามากอดผมแน่น พร้อมกับลูบหัวปลอบผม



                      ''น้าอากิครับ....ฮึอ....ฮึอ...น้าอากิ.... ''ผมกอดน้าอากิกลับพร้อมปลอดปล่อยน้ำตาออกมาเต็มที่



               หลังจากนั้นผมก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้น้าอากิฟังทั้งน้ำตา น้าอากิก็พยักหน้าเข้าใจ และพูดปลอบใจผมเป็นระยะๆ









                      ''ไปล่ะครับ....''


                        ''จ๊ะ....''


              ครั้งนี้ผมพาซาสึเกะออกไปเดินเล่น และก็ถือเป็นการไปคลายความเคลียดด้วย ผมพาซาสึเกะเดินไปเรื่อยๆ จนถึงสวนสาธารณะ และตัดสินใจหยุดนั่งพัก



                       ''เทนมะนิ?''


                        ''แอ๊~~''


                        ''?''



       เสียงเรียกของรุ่นพี่คิริโนะนั้นเอง รุ่นพี่ก็คงออกมาเดินเล่นพร้อมกับคิริยะสินะ



                       ''รุ่นพี่เองหรอครับ....''



                       ''หือ? อาการยังไม่ดีขึ้นหรอเทนมะ...?''

      และแล้วผมก็เล่าเรื่องให้รุ่นพี่คิริโนะฟังอีกคน



                        ''อย่างงั้นหรอ...แย่จังเลยน๊อ....''



                        ''ครับ.....''



                        ''ที่จริงชั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วยเหมือนกัน''


      จริงด้วย รุ่นพี่คิริโนะก็ถูกลำแสงที่คาริยะเล่นใส่ด้วยนินา



                        ''ทำไมรุ่นพี่ถึงยอมมาเลี้ยง คิริยะแบบนี้ล่ะครับ?''



                         ''อือ....นั้นสิทำไมชั้นต้องมานั่งเลี้ยงคิริยะกันนะ?''



                         ''อ้าว?''



                        ''ก็เด็กคนนี้ ดันมิกไปทางชั้นมากไปล่ะมั้ง ไม่รู้สิ ถ้าให้คาริยะไปเลี้ยงคนเดียวมันรู้สึกผิดน่ะ....''รุ่นพี่คิริโนะพูดไปพร้อมกับมองหน้าคิริยะไปด้วย



                         ''งั้นหรอครับ...''



                        ''ก็นะ แต่เทนมะเนื้ย ก็เหมือนโดนลงโทษอยู่แล้ว ต้องมาท้องเองเนื้ยทรมารใช่มั้ยล่ะ...''



                        ''ครับ...''



                       ''คิดว่าถ้าสึรุงิรู้ว่า นายต้องมาทรมารแบบนี้ เขาก็ต้องรู้สึกผิดบ้างแหละ''



                       ''ผมว่าเขาไม่คิดแบบนั้นหรอก...''



                       ''ปัญหาที่ตัวนายเยอะนะ เด็กอยู่ส่วนไหนในท้องนายก็ไม่รู้ จะคลอดยังไงก็ไม่รู้เลย...''



                       ''นั้นสิ...ต้องรอ 9 เดือนเลยนินา...?''



                      ''ชั้นว่าไม่....จริงมั้ย คิริยะ?''



                       ''จริงฮะ.. จริงอะไรหรอ?? ''



                       ''ห๊า??'' คิริยะที่พูดตอบรุ่นพี่คิริโนะเป็นประโยคได้แล้ว ทำเอาผมทึ่งไปเลย ไม่กี่วัน ไม่สิวันนี้ ยังพูดอ๊อ แอ๊ะ อยู่เลย



                       ''ใช่ม๊าา ชั้นก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าเด็กพวกนี้จะมีวิวัฒนาการเร็วนะ'' รุ่นพี่คิริโนะจับคิริยะวางลงจากพื้น ซักพักคิริยะก็ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ

      ทึ่งx2 บอกว่าเร็วแต่ก็ไม่คิดจะเร็วขนาดนี้??



                       ''มาม๊า.... ;^; ''คิริยะที่ยืนได้ซักพัก ถึงกับขาสั่นเหมือนว่ายังยืนไม่แข็งสินะ



                        ''เฮ้ย...บอกกี่ครั้งแล้ว อย่าเรียก มาม๊า =_=''รุ่นพี่คิริโนะก็อุ้มคิริยะมานั่งบนตักเหมือนเดิม



                        ''ก็เริ่มพูดได้แล้วนิ เก่งแล้ว เก่งๆ ^^'' ผมเอื้อมมือไปลูบหัวคิริยะด้วยความเอ็นดู



                        ''อ่า มีคนชมต้องพูดอะไร?'' คิริยะเงยหน้ามองรุ่นพี่คิริโนะ แล้วหันมาหาผม



                       ''ขอบคุณฮะ...คุณเทนมะ... ^^''



                        ''อื้ม ^^''



                        ''ต้องไปล่ะ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน เทนมะ'' รุ่นพี่คิริโนะอุ้มคิริยะแล้วลุกขึ้น



                        ''ครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ'' ผมพูดพร้อมกับยิ้มส่งให้ คิริยะโบกมือให้ผม แล้วรุ่นพี่คิริโนะก็เดินจากไป

      ดีขึ้นเยอะเลย แม้จะยังกังวลอยู้บ้างล่ะนะ



                        ''กลับกันเถอะ ซาสึเกะ'' ผมจับสายจูงสุนัขแล้วเดินไป ซาสึเกะที่นอนอยู่เมื่อโดนผมลากก็ต้องลุกแล้วเดินตามไป












      นี่ก็เป็นอีกวันที่ผมไม่ได้ลงสนาม ผมก็เลยมานั่งเล่นในห้องชมรมแทน คนที่รู้ว่าผมท้องก็คงมีแค่รุ่นพี่คิริโนะกับสึรุงิเท่านั้น




      ครืดดดดด~~





              เสียงประตูห้องชมรมดังขึ้น คนที่ผมยังไม่อยากเจอตอนนี้เดินเข้ามา อย่างในห้องชมรมอย่างช้าๆ เหมือนเขาจะชะงักที่เห็นผม แต่เขาก็ไม่สนใจแล้วเดินผ่านผมไป



                     ''ถ้านายไม่อยากยุ่งก็ไม่เป็นไรหรอก....'' ผมเปิดประเด็นพูด เจ้าตัวหยุดเดินแล้วมองผมด้วยหางตา



                      ''ถ้าเด็กคนนี้เกิดขึ้นมาจริงๆ ชั้นจะเลี้ยงเอง ชั้นจะต้องรับผิดชอบเองทุกอย่างเลย ต้องทรมารแค่ไหนชั้นก็จะทน....เพื่อเด็กคนนี้...''



                      ''จะบอกว่า รังเกียจชั้นแล้วสินะ...''



                     ''ไม่.....ยังไงซะ คนที่ชั้นรักก็ยังคงเป็นนาย...แม้นายจะบอกไม่รักชั้นก็ตาม...''



                     ''..........'' อีกฝ่ายไม่พูดตอบอะไร เขาเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทิ้งผมให้อยู่คนเดียวอีกเช่นเคย


      แน่นอนผมเคยไปสารภาพรักกับสึรุงิ แต่เขาก็ปฏิเสธผมกลับอย่างไม่ใยดี วันนั้นทำเอาผมนอนร้องไห้หลายคืน คนอย่างเขาคงไม่สนใจผมจริงๆ....



                    ''คุณเทนมะ คุณเทนมะ~ '' คิริยะที่กึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาผมพร้อมลูกบอล



                    ''บอลล่ะ บอลๆ'' คิริยะหยิบลูกบอลที่ขนาดเท่าๆตัวของเจ้าตัวเล็ก พร้อมกับยื่นมาทางผม



                   ''ว่าไง อยากเล่นหรอ?'' ผมก้มมองคิริยะที่พยักหน้าตอบ ผมว่าให้คิริยะสัมผัสลูกบอลไปเรื่อยๆก่อน จนเริ่มชินกับมันไปก่อนดีกว่า



                  ''เทนมะ~ เมื่อไหร่น้องของเทนมะจะออกมาเล่นกับผมหรอ?''คิริยะที่จ้องมองมาที่ท้องของผม เมื่อวานที่คุยกับรุ่นพี่คิริโนะเลยฟังมาด้วยสินะ



                  ''รู้เรื่องด้วยหรอเนื้ย....''



                  ''ก็มาม๊า....บอกว่าคุณเทนมะกำลังจะมีน้อง... ผู้ชายหรือผู้หญิงหรอ??? ''

      คิริยะที่ดูเหมือนจะสนใจเด็กในท้องเป็นพิเศษ



                  ''ไม่รู้สิ คิริยะคิดว่าผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ? ''



                 ''ผู้ชายมั้งฮะ...''ผมหัวเราะเบาๆกับความใสซื่อไร้เดียงสาของคิริยะ เด็กคนนี้ก็คงอยากจะมีเพื่อนเล่นด้วยล่ะมั้ง



                   หลังจากนั้นคิริยะก็มานั่งคุยกับผมเป็นประจำ และหลายๆวันเข้าท้องผมก็เหมือนจะเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆด้วยสิ ตอนนี้ทุกคนในชมรมรู้เรื่องผมกันหมด
      บางคนก็ตื่นเต้น บางคนก็แปลกใจ บางคนก็รอลุ้นเด็กที่อยู่ในท้องผม 
      หลายคนถาม แล้วเด็กคนนี้จะอยู่ไหนในท้อง จะคลอดทางไหน ผมถามด้วยความมั่นใจว่า''ไม่รู้ครับ ^^'' แต่ท้องผมก็ไม่ใหญ่ขนาดดูปุ๊บรู้เลยอะไรแบบนี้ก็ไม่ใช่ มันเหมือนคนกินข้าวจนพุงกลางซะมากกว่า...


                ตอนนี้ผมก็มานั่งดูทุกคนเล่นฟุตบอลอยู่ริมสนามตามปกติ ทุกอย่างเหมือนเดิม พวกรุ่นพี่ก็ซ้อมๆๆๆ ซ้อมกันอย่างเดียวเลย ส่วนสึรุงิ.....ที่เห็นมักจะแยกตัวออกมาซ้อมคนเดียว ไม่ก็หายตัวไปเลย วันนี้เขาไปซ้อมคนเดียวอยู่อีกฝั่งของสนาม แบบผมเห็นเขา เขาก็เห็นผม แต่เขาไม่คิดจะหันมามองผมเลยซักนิด....





                    ''โอ๊ะ!.....''




                     อีกแล้ว ไม่รู้เด็กดิ้นหรืออะไร มันจะเจ็บเพียงชั่วครู่แล้วมันก็หายไป แต่ครั้งนี้มันเจ็บแบบไม่เหมือนเดิม




                  ''อะ โอ๊ยยยย........T[]T''




                  ''เทนมะ!??''



      ความเจ็บและความปวดมากมายมหาศาลมันไปรวมกันที่ท้องของผม ผมถึงขั้นลงไปนอนกุมท้องกันเลยทีเดียว ความเจ็บที่ทำเอาน้ำตาแทบไหล และสติของผมก็ค่อยๆดับไป.......





      --------------------------------------------------------------------------------------------
       

                    ''อือ..........'' ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสีขาว อุณหภูมิภายในห้องเย็นจนตัวแทบสั่น ผมมองไปรอบๆก็ไม่พบใครอยู่ในห้องนี้เลย 
       
       

                    ''โรงพยาบาลงั้นหรอ......?''
       

                  ใช่แล้วที่นี้โรงพยาบาลจริงๆดูจากชุดที่ผมใส่อยู่ มันคือชุดคนไข้นั้นเอง ผมค่อยๆขยับตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง แต่รู้สึกเจ็บจิ๊ดที่หน้าท้อง ผมหยิบผ้าห่มออกแล้วเปิดเสื้อดู มันมีผ้าก๊อซพันรอบตัวผมอยู่ รู้สึกตัวผมจะเบาๆลง หน้าท้องแบนราบไปแล้ว หรือว่า......?
       


                    ''ตื่นแล้วหรอจ๊ะ?''
       

      ผมหันไปตามเสียง คุณฟุยุกะที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมอะไรซักอย่างที่ห่อผ้าขนหนูสีขาว 
       

                    ''ดีใจด้วยนะจ๊ะ ได้ลูกชายจ๊ะ ^^''
       


                    ''..........'' คุณฟุยุกะเดินเข้ามาหาผมแล้ววางห่อผ้าไว้ข้างๆหน้าผม ผมหันไปมองห่อผ้าตรงหน้า พร้อมกับใช้มือค่อยๆดึงปลายผ้าลงมาเบาๆเผยให้เห็นใบหน้าของเด็กทารกตัวน้อยที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ 
      น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความรู้สึกตึ้นตัน ถึงผมไม่อยากยอมรับมันก็เถอะ
      แม้จะผิดธรรมชาติไปหน่อย ที่ผู้ชายอย่างผมถึงได้กำเนิดเด็กคนนี้ขึ้นมาได้
       


                    ''จริงสิ! มีคนตั้งชื่อเด็กคนนี้ให้แล้วนะ เด็กนี้น่ะชื่อ เคียวมะ... ''
       


                    ''เคียวมะ.... ใครเป็นคนตั้งหรอครับ?''
       


                   ''เขาไม่ให้บอกน่ะจ๊ะ ^^''
       


                   ''งั้นหรอครับ ไม่เป็นไรครับ...''
       


                   และแล้วคุณฟุยุกะก็เดินออกจากห้องไป ผมหยิบห่อทารกตัวน้อยมาไว้ในอ้อมกอด ใครเป็นคนตั้งชื่อให้น๊า? รุ่นพี่คิริโนะหรอ? หรือรุ่นพี่ชินโด? ต้องเป็นคาริยะแน่ๆ เอ๋! ชินสุเกะหรือป่าว?? ผมคิดพร้อมกับพิจารณาหน้าของเด็กคนนี้ เส้นผมสีน้ำเงินแบบสึรุงิเลย สงสัยน่าจะมิกไปทางสึรุงิจริงๆด้วย
       




      ก๊อกๆๆ! 
       



                   ''คะ ครับ??''
       


                   ''ขอเข้าไปได้มั้ย เทนมะคุง?'' เสียงที่ดังจากอีกด้านของประตู เป็นเสียงที่คุ้นเคยเสียงที่ดูอ่อนโยนนั้น
       


                   ''ได้ครับ...''
       
                ประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ บุคคลที่นั่งอยู่บนรถเข็นขับเข้ามาข้างในแล้วปิดประตูอย่างเบามือ เขาคือพี่ชายของสึรุงิ 
       


                   ''คุณยูอิจิ!''
       


                   ''ไงเทนมะคุง เป็นยังไงบ้าง? ^^'' ยูอิจิค่อยๆเลื่อนรถเข็นเข้ามาใกล้ๆผม
       


                    ''ก็ดีครับ...'' 
       


                   ''เคียวสุเกะ เล่าเรื่องนายให้ชั้นฟังแล้วล่ะ''
       


                   ''งั้นหรอครับ...''
       


                  ''ได้ลูกชายสินะ ยินดีด้วยนะเทนมะคุง^^''
       


                  ''ขะ ขอบคุณครับ ''
       


                  ''จะบอกอะไรให้นะ เทนมะคุง...เคียวสุเกะเขาน่ะ เป็นห่วงเทนมะมากเลยนะ''คุณยูอิจิลดเสียงตัวเองให้เบาลง เหมือนกลัวใครจะได้ยิน
       


                   ''เอ๋!? เขาน่ะหรอ เป็นห่วงผม...''
       


                   ''อื้ม เพราะงั้นไม่ต้องกังวลนะ'' คุณยูอิจิยิ้มให้ เขาเหมือนเข้าใจผม เกี่ยวกับผมกับสึรุงิ....
       


                   ''ขออุ้มหน่อยได้ไหม เคียวมะน่ะ^.^'' 
       


                  ''อะ..ได้ครับ '' ผมยื่นเคียวมะที่อยู่ในอ้อมกอดผม ให้คุณยูอิจิ เขารับเคียวมะที่อยู่ในห่อผ้ามาอุ้มอย่างระมัดระมัง
       


                   ''น่ารักดีนะ เหมือนมีหลานเลย ^.^'' ประโยคที่คุณยูอิจิพูดทำเอาผมสะดุ้งและหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
       






      ครืดดดดด~
       


       



      ทั้งผมและคุณยูอิจิพากันสะดุ้ง และรีบหันไปมองผู้มาใหม่
       


                   ''อยู่นี่จริงๆด้วย ได้เวลาทานยาแล้วนะพี่.....''
       
                สึรุงิที่เปิดประตูเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ เขาเดินเข้ามาหาคุณยูอิจิและไม่สนใจที่จะหันมาทัก ไม่สิ ไม่คิดจะหันมามองผมเหมือนเดิม
       


                   ''อย่าพึ่งสิ เล่นกับเคียวมะอยู่นะ -3-''
       


                   ''หลับอยู่ชัดๆ อย่าไปกวนเขาดีกว่า....''
       


                   คุณยูอิจิทำหน้าเหมือนว่า ยังไม่อยากไป แต่ยังไงได้เวลาทานยามันก็สำคัญ คุณยูอิจิส่งเคียวมะมาให้ผม ก่อนที่สึรุงิจะเข็นคุณยูอิจิออกไป 
      ก่อนที่เขาจะปิดประตู เขาหันกลับมามองผมเพียวครู่นึงแล้วก็ปิดประตูไป
       














                    ''อุแว้!!!!~ อุแว้!!!!~''
       


                   ''...........'' ตอนนี้นะครับ ตี3ครึ่ง และไม่ใช่ครั้งแรกที่จู่ๆเคียวมะก็ตื่นขึ้นร้องตอนกลางดึกแบบนี้ มันครั้งที่4แล้ว เริ่มจากตอน5ทุ่ม มาเที่ยงคืน ตี2 แล้วก็มาตี3ครึ่งเนื้ยแหละครับ ไม่รู้ร้องทำไม หิว? ปวดท้อง? ไม่สบายตัว? หรือยังไง
      คุณแม่ครับ ผมรู้ถึงความลำบากของคุณแม่แล้วครับ T^T
       


                   ''โอ๋ๆ~ อย่าร้องน๊า หลับซักทีเถอะ T^T''
       


      อุแว๊!!!~~
       
       

                    ''เคียวมะ~ หยุดร้องนะ.... ขอร้องง่วง~T^T''
       


      อุแว๊!!!!~~
       


                   ผมตัดสินใจนอนตะแคงข้าง ถึงจะรู้สึกเจ็บที่ช่วงท้องเพราะ ผมผ่าคลอดสินะ มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว แล้วจะให้เคียวมะจะออกยังไง
      ผมคว้าตัวของเคียวมะขยับเข้ามาอยู่ในผ้าห่มมาไว้ที่อกผม ที่ผมคิด เคียวมะคงจะหนาวล่ะมั้ง 
       


      ''............'' 
       


      เงียบไปแล้ว หลับหรือยัง??  เคียวมะหลับแล้ว!! โอเย้!!! หลับแล้ว!!! หลับแล้วจริงๆ ผมต้องทนนอนเจ็บท้องเนื้ย มันไม่เสียเปล่าแล้วสินะ ผมก็จะได้หลับซักที TwT
       












               




        ซะที่ไหนล่ะ......
       

















                    ''คุณเทนมะ.... ทำไมตาเป็นแพนด้าแบบนั้นล่ะฮะ? ''

      คิริยะที่มาอยู่กับผมที่โรงพยาบาล คิริยะจ้องมองหน้าผมด้วยความสงสัยขณะที่คิริยะเองก็นั่งเอานิ้วเขี่ยแก้มเคียวมะที่กำลังหลับอยู่ 
       

                   
                     ''ไม่มีอะไรหรอก....^^'' ที่จริงเมื่อคืนก็อดหลับอดนอนทั้งคืนเลย ผมทำใจเตรียมพร้อมกับคืนนี้เรียบร้อยแล้วล่ะ
       

                   
                      ''งั้นหรอฮะ...นี่  เมื่อวานนี้น่ะ...''
       

                     
                      ''เมื่อวาน? ทำไมหรอ?''
       
         
                   
                       ''ผมพึ่งเคยเห็น คุณสึรุงิดีใจล่ะ ~''
       

                     
                        ''ดีใจ?''
       


                       ''ใช่ฮะ...ก็ตอนที่ เทนมะหลับไปน่ะ คุณสึรุงิวิ่งไปอุ้มเทนมะมาที่นี้''
       
      ตอนที่หลับหรอ คงจะบอกว่า ตอนที่ผมสลบไปล่ะนะ สึรุงิอุ้มผมมาโรงพยาบาลเลยหรอเนื้ย?
       

                    ''คุณสึรุงิเขาเดินวนไปวนมา อยู่หน้าประตูใหญ่ๆ พอผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาวถือเคียวมะออกมา คุณสึรุงิเขาก็ดีใจใหญ่เลยฮะ''
       


                     ''..........''
       

                   
                      ''เขาเลยตั้งชื่อ เคียวมะ ว่าเคียวมะ... น่ะฮะ''
       

                   
                      ''งั้นหรอ?''
       

                   
                      ''ผมว่าเขาต้องรักเทนมะแน่ๆเลย~''
       

                     
                      ''ห๊า?''
       

                     
                      ''คุณเทนมะรักคุณสึรุงิมั้ย?''
       

                   
                      ''ก็ต้องรักสิ... แต่เขาคงไม่รักชั้นจริงๆหรอก....''
       

                     
                     ''ไม่จริงหรอกฮะ! เหมือนปาป๊าที่รักมาม๊า แต่มาม๊ารักคุณชินโด คุณชินโดก็รักมาม๊า แต่มาม๊าก็รักปาป๊าด้วย!!''
       
      ผมซักไม่แน่ใจแล้วว่าเด็กคนนี้ ขวบสองขวบจริงหรือเปล่าเนื่ย มีวิวัฒนาการเร็วจริงๆ ตัวแค่นี้รู้เรื่องขนาดนี้เลยหรอเนื้ย
       
       
                       
                        ''.........''
       

                       
                        ''เอ่อ....คือ.... ขอโทษนะฮะ ผมแค่.....''
       

                       
                        ''ช่างมันเถอะ...''
       

      ผมเอื้อมมือไปลูบหัวคิริยะเบาๆ  เด็กคนนี้ก็คงอยากให้ความหวังกับผมเหมือนคนอื่นๆ
       

                     









                        ''ไปล่ะครับ คุณเทนมะ~''
       

                       
                        ''ขอโทษที่เอามารบกวนนายนะ เทนมะ''
       

                       
                         ''ไม่เป็นไรหรอกครับ รุ่นพี่คิริโนะ''
       
       
      หลังจากนั้นรุ่นพี่คิริโนะก็จูงมือคิริยะออกจากห้องไป  
       
       




                           ''ฮือออออ~''
       

                           ''เป็นอะไรน่ะ เคียวมะ หิวหรอ?''
       
      ผมคว้าเคียวมะเอาอุ้มไว้ และเอื้อมมือไปหยิบขวดนม ที่อยู่บนหัวเตียง ภายในขวดไม่เหลือนมเลยแม้ที่หยดเดียว
       

                           
                            ''หมดแล้วหรอเนื้ย?''
       
      ผมวางขวดนมลงและกำลังจะไปกดปุ่มเรียกคุณพยาบาล
       
       






      ครืดดดดดดด~
       
       







                             ''หือ?''
       
      บุคคลที่คุ้นเคยเปิดประตูเข้ามาในห้องผม และไม่เคยคิดจะเคาะประตูอีกเช่นเคย
       

                            ''สึรุงิ....''
       

                         
                            ''พยาบาลฝากให้เอาไอ้นี้มาให้นายน่ะ...'' สึรุงิยื่นขวดนมมาให้ผม 
       

                           
                           ''อื้ม...ขอบใจนะ... '' ผมรับขวดน้ำจากสึรุงิแล้วป้อนนมให้เคียวมะทันที
       

                           
                            ''.........''
       

                           
                             ''.........''
       

                ปกติสึรุงิเมื่อเสร็จภารกิจที่ต้องทำแล้ว เขาก็ต้องไปแล้วสิ ทำไมเขายังยืนจ้องเคียวมะอยู่อีกล่ะ
       
                         
                            ''เทนมะ....''
       

                         
                           ''หะ หือ?''  
       

                         
                           ''ขอโทษ...'' สึรุงิที่ทำหน้าสำนึกผิดอะไรบ้างอย่าง เขาก้มหน้าไม่สบตาผม
       

                         
                           ''ขอโทษเรื่องอะไร...?''
       

                         
                            ''หลายๆเรื่อง....ทุกเรื่องที่ชั้นทำไม่ดีกับนาย...''
       

                         
                            ''.........''
       

                         
                            ''ชั้นขอโทษ...'' 
       
              สึรุงิอยู่ๆเข้ามาสวมกอดผมเบาๆ ไม่เคยโดนเขากอดมาก่อน รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าทั้งชีวิตจะถูกเขากอด
       
                           
                             ''....!?''
       
              อีกฝ่ายจับหัวผมแล้วก้มลงประกบปากผม ผมที่อึ้งจนตัวแข็งค้างไป ก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงแล้วจูบตอบเขาไป ไม่นานนักเขาก็ถอดจูบออก
       

                         
                           ''สึรุงิ....'' 
       

                          ''ชั้นรักนาย....เทนมะ...''

      สึรุงิที่หน้าแดงจัดไม่ต่างกับผมในตอนนี้ คนที่ผมเคยไปสารภาพรักแล้วโดนปฏิเสธกลับ ดันกลับมาสารภาพรักตอบ ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลยตอนนี้



                          ''ทำไมจู่ๆ นายถึง....''


                          ''ชั้นแค่..ไม่อยากเห็นคนที่รัก ต้องมาทนลำบาก..ก็เท่านั้น''


                           ''สึรุงิ....''

                         
                          ''ส่วนเรื่องเคียวมะ.... ชั้นก็จะช่วยนายดูแลเอง เพราะเด็กคนนี้ก็ลูกชั้นนิ...''


                    ผมดีใจจนน้ำตาไหลรินออกมา สึรุงิเห็นดังนั้นดึงใช้มือมาจับที่แก้มผมแล้วใช้นิ้มโป้งเช็ดน้ำตาออกให้ มืออุ่นๆของเขาทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ ผมกังวลเรื่องสึรุงิมาตลอก ความกังวลนั้นหายไป และความสุขมันก็เข้าแทนที่เรียบร้อย


                            ''แอ๊
      ~~'' เสียงของเคียวมะ เรียกว่าสนใจพวกเราให้ก้มลงมามอง ดวงตาสีน้ำตาลสว่างสดใส ดวงตาที่เคยกับบุคคลที่อยู่ตรงหน้า


                            ''เคียวมะ ลืมตาแล้ว!! 0.0'' 


                            ''ก็ดีไม่ใช่หรอ ตื่นขึ้นมาก็เห็นหน้าพ่อแม่แบบนี้น่ะ''


                            ''นั้นสิ...''


                            ''โห...กินเก่งเหมือนใครเนื้ย? ''สึรุงิหยิบขวดนมที่ให้เคียวมะไปก่อนหน้านี้ มันลดจนเหลือแค่ครึ่งขวดแล้ว


                           ''กินเก่ง...เฉพาะตอนท้องเท่านั้นแหละ...=3='' 


                           ''ครับๆ'' 
















                    เย้
      ~สวัสดีครับ ผม มัทสึคาเซะ เทนมะ เองครับ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว หลังจากแผลที่ท้องหาย ผมก็สามารถออกไปวิ่งไล่เตะลูกบอลได้อย่างมีความสุข แบบไม่ต้องกลัวว่าจะล้มลงไปนอนกับพื้นเหมือนตอนท้องเคียวมะอีกแล้ว ตอนนี้ผมกับสึรุงิก็คบกันอย่างเป็นทางการ ที่จริงเขาก็ไม่ใช่คนเย็นชาอะไรอย่างงั้น ออกจะขึ้อ้อนมากกว่า หวงเคียวมะกับผมด้วย พูดถึงเคียวมะตอนนี้ก็ไปวิ่งไล่ลูกบอลอยู่กับคิริยะ สองคนนี้สนิทกันมากเลย มักจะชวนกันไปเล่นข้างนอกบ่อยๆด้วย ขอบอกเลยว่าเคียวมะโตเร็วมาก แป๊ปๆตัวเท่าคิริยะซะแล้ว

                       ''เลิกซ้อมกันแค่นี้ กลับบ้านได้'' โค้ชเอนโดที่นั่งมองพวกเราอยู่นานเขาก้มมองนาฬิกาก่อนที่จะบอกเลิกซ้อม

                       ''ขอบคุณครับ โค้ช!''


                       ''เหนื่อยจังเลย
      ~'' 


                       ''นั้นสินะครับ''


                       ''ไปกินราเมงกันมั้ย?''


                       ''ผมไปด้วยสิครับ''



                        ''กลับบ้านได้แล้ว เคียวมะ
      ~'' ผมเดินเข้าไปหาเคียวมะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่แบบไม่เหน็ดเหนื่อยเลย


                        ''คิริยะก็กลับได้แล้ว'' คาริยะเดินเข้ามาหาคิริยะเช่นกัน



                         ''กลับก่อนนะ เคียวมะ พรุ่งนี้เจอกัน
      ~''



                          ''อื้ม''



      คิริยะก็เดินตามคาริยะไป เคียวมะจึงวิ่งไปเก็บลูกบอลแล้วกลับมาหาผม



                        ''แล้วคุณพ่อไปไหนแล้ว?''


                        ''ไปเยื่ยมลุงยูอิจิน่ะ ^^''


                         ''อยากไปบ้าง...'' 


                        ''ได้ๆ ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ แล้วเดี๋ยวไปหา ลุงยูอิจิกัน^^''


      แล้วเคียวมะพยักหน้าก็วิ่งไปเปลี่ยนชุดทันที 







      ครืดดดดด
      ~


        



                       ''อ้าว?เคียวมะคุง เทนมะคุงด้วย ^^''


                       ''สวัสดีครับ..''


                 คุณยูอิจิที่ยังนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยหันมามองพวกเราด้วยความดีใจ และมีสึรุงินั่งอยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วยด้วย 

       
                       ''ผมซื้อเค้กมาฝากคุณยูอิจิด้วยล่ะครับ ^^'' ผมชูถุงใส่กล่องเค้กที่ซื้อมาระหว่างทางให้ดู ก่อนที่จะเดินไปวางไว้บนโต๊ะ 


                       ''ขอบคุณนะ เทนมะคุง อ่า ว่าไงเคียวมะ? ^^'' คุณยูอิจิลูบหัวเคียวมะที่เดินมาเกาะอยู่ขอบเตียง ผมเลยหยิบเก้าอี้อีกตัวไปนั่งข้างๆสึรุงิ


                        ''ไม่มีของฝากมาให้บ้างเลยหรอ?''


                        ''ถ้าอยากกิน เดี๋ยวขากลับไปซื้ออีกรอบก็ได้นะ?
      ''


                        ''ไม่กินอยากกินเค้ก...อยากกินเทนมะมากกว่า... ''สึรุงิขยับหน้าเข้ามาใกล้ผม และพูดกระซิบที่ข้างๆหูผมเบาๆ


                        ''สึรุงิ..!บ้า!! =//[]//='' ผมดันหน้าสึรุงิออกด้วยความเขินอาย


                       
                         ''ทำไม คราวก่อนเราทำกันไม่ได้เพราะเคียวมะตื่นพอดี คืนนี้ขอไม่ได้หรอ?''



                         ''จะบ้าหรอ สึรุงิ มาพูดเรื่องนี้ทำไม คุณยูอิจิกับเคียวมะอยู่นะ.... =//[]//=''



                         ''ไม่เป็นไรหรอกน่า
      ~~''สึรุงิยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผม ผมถึงกับตัวแข็งทื่อ



                          ''สึรุงิ! บากะ
      (บ้า)ๆๆๆ >//[]//<'' 




                          ''คุณพ่อกับคุณแม่เขาคุยอะไรกันหรอครับ ลุงยูอิจิ?'' เคียวมะหันมามองผมกับสึรุงิก่อนจะหันกลับไปถามคุณยูอิจิ


                           ''ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน เคียวมะ ^^'' คุณยูอิจิพูดขึ้นพร้อมกับลูบหัวเคียวมะ












                                                                                                      Happy End


      ---------------------------------------------------------------------------
       อ่าาาาาา แต่งจบแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เม้นท์มีคนให้กำลังใจมาเยอะเลยก็ขอขอบคุณมากๆจากใจ เรื่องอื่นก็รอต่อไป รู้สึกเพลียกับการแต่งเรื่องนี้มาก คงอีกนาน

      ที่จริงก็อยากทำตอนต่อ เป็นตอนของ เคียวมะกับคิริยะ ล่ะน๊า(หางานให้ตัวเองทำอีก!!!)  


      ขอบคุณทุกท่านจริงๆ ^^ ขอลงท้ายด้วยภาพของเคียวมะคุงล่ะกัน











       





                                    ภาพนี้ไรท์นั่งวาดเองเลย ใช้เม้าส์หนูวาดล่ะ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ








                             


                                      อร๊ายยยย น่ารัก!! ><



       






      หลับกันซะแล้ว ^^





      อร๊ายยยย เท่เหมือนพ่อเลย ><




      คิริยะ สวยเหมือนแม่(?) !!





      อร๊ายยยยย น่ารัก!




      สงสัยเคียวมะจะดิ้นแรงไปหน่อย ^^




      ร้องไห้ใหญ่เลย...





      ครอบครัว



       
      Arigatou



       

       

       
       




       
       
       


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×