วันสุดท้าย
              บนโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสิ่งเอื้ออำนวยความสะดวกก็เริ่มมีมากขึ้น ความเชื่อแบบโบราณก็ค่อยๆลดลง แต่สิ่งโบราณสำหรับพวกมนุษย์ยุคนี้ที่ยังไม่สาบสูญนั้นก็คือสงคราม
..
คลิฟตันเป็นเด็กผู้ชายอายุ7ขวบที่ฉลาดพอกับคนอายุ25แต่แม้คลิฟตันจะฉลาดมากไปหน่อยเขาก็ยังไม่คิดว่าเขานั้นเป็นผู้ใหญ่พอ แม้ว่าเขาจะตอบคำถามได้หมดก็ตาม
              บัสตอมส์คือผู้นำของประเทศเขาและเขาก็เป็นผู้ที่ใหญ่ที่สูดถ้าเกิดใครไปทำให้เขาโกรธ เขาก็จะสามารฆ่าได้ทุกเวลาบัสตอมส์ชอบรุกรานประเทศอื่นๆจนทำให้ประเทศอื่นเสียหาย  แต่แม้ว่าประเทศที่ถูกรุกรานเสียหายเพียงใดประเทศนั้นก็ไม่เคยเอาเรื่อง  จนบัสตอมส์รู้สึกเหมือนว่าไม่มีใครสนใจเขา จนทำให้เขาตั้งแผนการชั่วร้าย ชึ่งจะฆ่ามนุษย์ให้หมด รวมทั้งเขาด้วย
              ความคิดของบัสตอมส์ค่อยๆจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ววันหนึ่งบัสตอมส์ก็เริ่มประดิษฐ์ระเบิดที่เรียกว่า ระเบิดแทรกชึมซึ่งสามารถทะลุแทรกซึมไปซ่อนอยู่ได้ทุกที่แต่ไม่ใช่แค่นั้นที่        บัสตอมส์ชั่วร้ายได้ประดิษฐ์ เขาได้ประดิษฐ์นิวเคลียแทรกซึมซึ่งเขาก็จะไปไว้ใจกลางของประเทศทั่วโลก    บนเวทีอิเลคโทรนิควงกลมกลางใจเมืองบัสตอมส์ค่อยๆเดินบนเวทีอย่างสง่า และเขาก็พูดกับเครื่องอิเล็คโทรนิคพูดขนาดจิ๋วที่ติดไว้ตรงแก้มว่า 
“พ่อแม่พี่น้องของข้าเอ๋ย”  บัสตอมส์รู้สึกขยะแขยงในคำพูดนี้  แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมา
“พรุ่งนี้ทุกคนจะได้ดังฝันเพียงแค่เขียนสิ่งที่ต้องการวางไว้บนหัวนอนเท่านั้น”บัสตอมส์ยิ้มแบบมีเล่ห์เหลี่ยม    คลิฟตันได้ไปร่วมงานของบัสตอมส์เหมือนกัน แต่ในขณะที่เขาเดินออกจากงานเขาก็ได้ยินแผนการของบัสตอมส์จนหมดและการป้องกันการระเบิด  คลิฟตันพยายามหาทางช่วยเมืองไว้ แต่อุปสรรคมันอยู่ตรงที่ว่าเขาจะหามันได้อย่างไร ?
คลิฟตันวิ่งเข้าไปในตัวเมืองเพื่อบอกผู้คน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนจะเชื่อเด็กเจ็ดขวบ แต่ก็ยังมีเด็ก2คนที่เชื่อ เธอก็คือ แซนดร้าและโลบาเธอร์ ซึ่งก็คือเพื่อนของคลิฟตันทั้งสอง
                เวลา2ทุ่มตรงเป็นเวลาที่มืดพอสำหรับบางคน แต่สำหรับคลิฟตันมันยังคงเป็นเวลากลางวันที่เขาจะเดินทางไปตามหาระเบิด 
“ไม่ทันแน่ๆเลย นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่บัสตอมส์บ้านั่นจะระเบิดแล้ว คลิฟตันกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
“เราต้องไปกลางใจเมืองแล้วขุดกัน”
“จะบ้าเหรอ!”  โลบาเธอร์ค้าน 
“แล้วเธอรู้ได้ไงว่ามีระเบิด”
“ต้องมีซิ” คลิฟตันเชื่อมั่นในคำพูด แล้วเขาก็รีบเดินหน้าไปกลางเมืองแล้วลงมือขุดท่ามกลางพื้นคอนกรีต
                ทั้งหมดเดินตามคลิฟไปแล้วช่วยกันขุดอย่างรวดเร็วเวลาเริ่มผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ทำยังไงดี
พวกเรายังขุดไม่เจอระเบิดเลย” แซนดร้าพูดอย่างเคร่งเครียดในขณะที่ขุดอยู่
“ฉันคิดว่ามันต้องอยู่ที่นี่ เชื่อฉันซิ”  คลิฟตันรีบขุดอย่างเร่งด่วนสุดๆ
                  ในขณะที่บัสตอมส์กำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ในคฤหาสน์อย่างสนุกสนานเขาก็เริ่มรู้สึกมึนนิดหน่อยเนื่องจากดื่มไวท์มากไป แต่ก็ยังคุมสติได้ และเขาก็ค่อยๆเดินโซซัดโซเซเข้าไปในห้องบังคับระเบิด                                คลิฟตันซึ่งกำลังขุด ก็ยังไม่พบแม้แต่นิดเดียวแต่ยังไงเขาก็ต้องขุดต่อไปเรื่อยๆ
“นี่เวลาเท่าไหร่แล้ว” คลิฟตันถามแซนดร้าในขณะที่กำลังขุดอย่างไม่สนใจ
“ห้าทุ่มครึ่งแล้ว”แซนดร้าตอบแล้วมองคลิฟตันอย่างสงสาร”
“ฉันหวังว่าชาติหน้าฉันคงได้พบเธออีกและมาช่วยเหลือเธออีกอย่างนี้นะ”  แซนดร้าพูดกับคลิฟตันอย่างหมดหวังและเธอก็นั่งหมดแรงดูคลิฟตันขุดต่อ
ตูม..
เสียงระเบิดประเทศข้างๆดังขึ้นเศษซากบ้านและรถกระเด็นมาถึงประเทศนี้ รวมถึงชิ้นส่วนคนและเลือดที่มีให้เห็นตามเศษเนื้อ
ตูม
.
เสียงประเทศต่อมาเริ่มระเบิด
โฮ่
เสียงทหารของเมืองแต่ละเมืองรบกันและดังเข้ามาถึงเมืองนี้
ปั้ง
เสียงปืนก็มีกันให้ได้ยินทั่วเมือง ทุกประเทศกำลังสับสน สงครามเริ่มขึ้นภายในเวลาไม่กี่นาที
“กี่ทุ่มแล้วแล้วแซนดร้า” คลิฟตันหยุดขุดแล้วนั่งมองเพื่อนทั้งสองอย่างเศร้าสลด
ตี้ด
ตี้ด
เสียงนาฬิกาข้อมือของแซนดร้าดังขึ้น
..
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น