บิ้กฟุ้ต - บิ้กฟุ้ต นิยาย บิ้กฟุ้ต : Dek-D.com - Writer

    บิ้กฟุ้ต

    ผู้เข้าชมรวม

    980

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    980

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ต.ค. 49 / 15:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บิ๊กฟุต

      อเมริกาดูเหมือนจะเป็นประเทศยอดนิยม
      ที่มีการพบเห็นสัตว์ประหลาดดังๆ มากมาย
      โดยมีบิ๊กฟุตหรือไอ้ตีนโตเป็นหนึ่งในตัวอย่าง
      ตัวประหลาดที่รู้จักกันดีทั่วโลก เหตุที่มันได้รับ
      ความสนใจอย่างมากในแวดวงสัตว์ประหลาด
      อาจมาจากลักษณะของมันที่ใกล้เคียงกับมนุษย์
      ค่อนข้างมากนั่นเอง บิ๊กฟุตมีชื่อเรียกอยู่
      หลายชื่อแล้วแต่สถานที่ที่พบเห็น เช่นในแถบอเมริการเหนือจะเรียกมันว่า
      บิ๊กฟุต หรือ Sasquatch แถบเทือกเขาหิมาลัยเรียกมันว่าเยติ และแถบรัสเซีย
      อาจจะเรียกว่า อัลมา

      ครั้งแรกที่มีผู้อ้างว่าพบเห็นอะไรบางอย่าง
      เกี่ยวกับบิ๊กฟุตคือในราวปี 1811 แถวๆ
      เมืองจัสเปอร์ในแคนาดาปัจจุบัน สิ่งที่พบคือรอย
      เท้าบนหิมะซึ่งมีขนาดยาว 14 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว
      พบโดยนาย David Thompson เรื่องนี้จุดประกาย
      ตำนานบิ๊กฟุตซึ่งคงอยู่ไปนานนับศตวรรษเลยทีเดียว
      ปีที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์การพบเห็นบิ๊กฟุตคือ ปี 1924 ซึ่งมีการพบเห็นมัน
      อย่างจังถึง 3 ครั้งใหญ่ๆ ด้วยกัน ครั้งแรกโดยนายอัลเบิร์ต ออสมานชาวแคนาดา
      เขาอ้างว่าถูกครอบครัวบิ๊กฟุตครอบครัวหนึ่งจับไปกักขังไว้และเกิดหนีออกมาได้
      ในภายหลัง ผู้ที่เจอมันครั้งที่สอง คือกลุ่มนักขุดแร่แถบ Mount St. Helens
      กรุงวอชิงตัน ซึ่งยิงบิ๊กฟุตตัวหนึ่งตาย และในคืนนั้นพวกเขาก็ถูกฝูงบิ๊กฟุตของ
      เจ้าตัวที่ตายไปมารุมรังควานตลอดคืน สถานที่พบบิ๊กฟุตครั้งสุดท้ายในปีเดียวกัน
      นี้ยังคงเป็นแถบ Mount St. Helens อีก แต่คราวนี้เป็นนักสำรวจแร่ซึ่งถูกฝูงบิ๊กฟุต
      ขว้างก้อนหินใส่กระท่อมที่เขาพักแทบทั้งคืนเช่นกัน เมื่อตื่นเช้ามาเขาก็พบรอยเท้า
      ขนาดใหญ่รอบกระท่อมเต็มไปหมด

      หลักฐานการพบบิ๊กฟุตครั้งสำคัญถูกบันทึก
      ไว้ได้ในปี 1967 โดยนักล่าบิ๊กฟุต
      2 คน คือ Roger Patterson และ Bob Gimlin ได้ใช้กล้องวีดีโอบันทึกภาพสัตว์ร่าง
      คล้ายมนุษย์ตัวหนึ่งกำลังวิ่งผ่านทุ่งโล่งใกล้ Bluff Creek ทางตอนเหนือของแคนาดา
      ไม่มีการพิสูจน์ว่าภาพวีดิโอดังกล่าวเป็นภาพจริงหรือไม่คนที่ได้ดูภาพส่วนใหญ่
      ก็ยังคงเคลือบแคลงอยู่ว่าทั้งภาพที่บันทึกและเจ้าสัตว์ประหลาดที่เห็นเป็นของจริง
      หรือไม่ เช่นเดียวกับภาพถ่ายต่างๆ ของบิ๊กฟุตที่มีผู้บันทึกไว้ในภายหลังมากมาย
      นั่นเอง

      จากคำบอกเล่าของผู้พบเห็น บิ๊กฟุตน่าจะเป็นสัตว์ตระกูลใกล้เคียงกับลิงกอริลล่า อาจสูงได้ถึง 9 ฟุต หนักราว 600-900 ปอนด์ ลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีขนดกดำ ยาวปกคลุมทั้งตัวยกเว้นอุ้งมือและมีขนที่เท้าเงาเป็นมัน

      หลักฐานเกี่ยวกับบิ๊กฟุตที่ดูน่าเชื่อถือสุดคงจะเป็นรอยเท้าที่พบมากกว่า
      ส่วนใหญ่จะมีขนาดยาว 16 -18 นิ้ว กว้าง 7 นิ้ว ไม่มีส่วนโค้งที่อุ้งเท้า ส่วนส้นเท้า
      แบ่งเป็นลูกกลมๆ 2 ลูก คาดว่าเกิดจากการปรับตัวเพื่อรองรับน้ำหนักตัวที่มากของมัน

      สัตว์ประหลาดตัวนี้ได้รับความสนใจมากถึงขนาด
      มีการตั้งศูนย์วิจัยขึ้นหลายแห่งเพื่อทำการศึกษาค้นคว้า
      เกี่ยวกับมันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้องค์กร The Bigfoot Field
      Researchers Organization ยังมีการวางนำกล้องวิดีโอ
      ไปแอบบันทึกภาพบิ๊กฟุตในสถานที่ต่างๆ ที่อ้างว่าเคยมีการพบ
      เห็นมันด้วย นัยว่าเผื่อจะมีโอกาสได้หลักฐานที่น่าเชื่อถือ
      อย่างชัดเจนหากเกิดบังเอิญจับภาพมันได้


      หากคุณยังคงนึกไม่ออกว่าเจ้าบิ๊กฟุตนี่มันหน้าตาเป็นอย่างไร ลองแวะไปดูได้ที่เมือง Willow Creek ในแคลิฟอร์เนียที่นั่นมีรูปปั้นไม้จำลอง เจ้าตัวบิ๊กฟุตขนาดเท่าของจริงตั้งโชว์ไว้ให้ดูกลางเมืองให้สมกับที่ชาวเมืองตั้งฉายา
      เมืองตัวเองว่าเมืองหลวงแห่งประเทศที่พบบิ๊กฟุตตำนานสัตว์ประหลาดในอเมริกา
      ไม่ได้จบเพียงแค่นี้......


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×