บิ๊กฟุต
อเมริกาดูเหมือนจะเป็นประเทศยอดนิยม
ที่มีการพบเห็นสัตว์ประหลาดดังๆ มากมาย
โดยมีบิ๊กฟุตหรือไอ้ตีนโตเป็นหนึ่งในตัวอย่าง
ตัวประหลาดที่รู้จักกันดีทั่วโลก เหตุที่มันได้รับ
ความสนใจอย่างมากในแวดวงสัตว์ประหลาด
อาจมาจากลักษณะของมันที่ใกล้เคียงกับมนุษย์
ค่อนข้างมากนั่นเอง บิ๊กฟุตมีชื่อเรียกอยู่
หลายชื่อแล้วแต่สถานที่ที่พบเห็น เช่นในแถบอเมริการเหนือจะเรียกมันว่า
บิ๊กฟุต หรือ Sasquatch แถบเทือกเขาหิมาลัยเรียกมันว่าเยติ และแถบรัสเซีย
อาจจะเรียกว่า อัลมา
ครั้งแรกที่มีผู้อ้างว่าพบเห็นอะไรบางอย่าง
เกี่ยวกับบิ๊กฟุตคือในราวปี 1811 แถวๆ
เมืองจัสเปอร์ในแคนาดาปัจจุบัน สิ่งที่พบคือรอย
เท้าบนหิมะซึ่งมีขนาดยาว 14 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว
พบโดยนาย David Thompson เรื่องนี้จุดประกาย
ตำนานบิ๊กฟุตซึ่งคงอยู่ไปนานนับศตวรรษเลยทีเดียว
ปีที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์การพบเห็นบิ๊กฟุตคือ ปี 1924 ซึ่งมีการพบเห็นมัน
อย่างจังถึง 3 ครั้งใหญ่ๆ ด้วยกัน ครั้งแรกโดยนายอัลเบิร์ต ออสมานชาวแคนาดา
เขาอ้างว่าถูกครอบครัวบิ๊กฟุตครอบครัวหนึ่งจับไปกักขังไว้และเกิดหนีออกมาได้
ในภายหลัง ผู้ที่เจอมันครั้งที่สอง คือกลุ่มนักขุดแร่แถบ Mount St. Helens
กรุงวอชิงตัน ซึ่งยิงบิ๊กฟุตตัวหนึ่งตาย และในคืนนั้นพวกเขาก็ถูกฝูงบิ๊กฟุตของ
เจ้าตัวที่ตายไปมารุมรังควานตลอดคืน สถานที่พบบิ๊กฟุตครั้งสุดท้ายในปีเดียวกัน
นี้ยังคงเป็นแถบ Mount St. Helens อีก แต่คราวนี้เป็นนักสำรวจแร่ซึ่งถูกฝูงบิ๊กฟุต
ขว้างก้อนหินใส่กระท่อมที่เขาพักแทบทั้งคืนเช่นกัน เมื่อตื่นเช้ามาเขาก็พบรอยเท้า
ขนาดใหญ่รอบกระท่อมเต็มไปหมด
หลักฐานการพบบิ๊กฟุตครั้งสำคัญถูกบันทึก
ไว้ได้ในปี 1967 โดยนักล่าบิ๊กฟุต
2 คน คือ Roger Patterson และ Bob Gimlin ได้ใช้กล้องวีดีโอบันทึกภาพสัตว์ร่าง
คล้ายมนุษย์ตัวหนึ่งกำลังวิ่งผ่านทุ่งโล่งใกล้ Bluff Creek ทางตอนเหนือของแคนาดา
ไม่มีการพิสูจน์ว่าภาพวีดิโอดังกล่าวเป็นภาพจริงหรือไม่คนที่ได้ดูภาพส่วนใหญ่
ก็ยังคงเคลือบแคลงอยู่ว่าทั้งภาพที่บันทึกและเจ้าสัตว์ประหลาดที่เห็นเป็นของจริง
หรือไม่ เช่นเดียวกับภาพถ่ายต่างๆ ของบิ๊กฟุตที่มีผู้บันทึกไว้ในภายหลังมากมาย
นั่นเอง
จากคำบอกเล่าของผู้พบเห็น บิ๊กฟุตน่าจะเป็นสัตว์ตระกูลใกล้เคียงกับลิงกอริลล่า อาจสูงได้ถึง 9 ฟุต หนักราว 600-900 ปอนด์ ลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีขนดกดำ ยาวปกคลุมทั้งตัวยกเว้นอุ้งมือและมีขนที่เท้าเงาเป็นมัน
หลักฐานเกี่ยวกับบิ๊กฟุตที่ดูน่าเชื่อถือสุดคงจะเป็นรอยเท้าที่พบมากกว่า
ส่วนใหญ่จะมีขนาดยาว 16 -18 นิ้ว กว้าง 7 นิ้ว ไม่มีส่วนโค้งที่อุ้งเท้า ส่วนส้นเท้า
แบ่งเป็นลูกกลมๆ 2 ลูก คาดว่าเกิดจากการปรับตัวเพื่อรองรับน้ำหนักตัวที่มากของมัน
สัตว์ประหลาดตัวนี้ได้รับความสนใจมากถึงขนาด
มีการตั้งศูนย์วิจัยขึ้นหลายแห่งเพื่อทำการศึกษาค้นคว้า
เกี่ยวกับมันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้องค์กร The Bigfoot Field
Researchers Organization ยังมีการวางนำกล้องวิดีโอ
ไปแอบบันทึกภาพบิ๊กฟุตในสถานที่ต่างๆ ที่อ้างว่าเคยมีการพบ
เห็นมันด้วย นัยว่าเผื่อจะมีโอกาสได้หลักฐานที่น่าเชื่อถือ
อย่างชัดเจนหากเกิดบังเอิญจับภาพมันได้
หากคุณยังคงนึกไม่ออกว่าเจ้าบิ๊กฟุตนี่มันหน้าตาเป็นอย่างไร ลองแวะไปดูได้ที่เมือง Willow Creek ในแคลิฟอร์เนียที่นั่นมีรูปปั้นไม้จำลอง เจ้าตัวบิ๊กฟุตขนาดเท่าของจริงตั้งโชว์ไว้ให้ดูกลางเมืองให้สมกับที่ชาวเมืองตั้งฉายา
เมืองตัวเองว่าเมืองหลวงแห่งประเทศที่พบบิ๊กฟุตตำนานสัตว์ประหลาดในอเมริกา
ไม่ได้จบเพียงแค่นี้......
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น