คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ออกเดินทางสู่โลกกว้าง
เสียงสายลมพัดกระทบกับใบไม้ที่พากันร่วงกรูออกมาจากต้นบ่งบอกว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเยือน
" เฮ้อ!!! สอบเสร็จกันสักที่นะเรา" ชายหนุ่มร่างยักษ์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี "แถมยังเป็นการปิดเทอมใหญ่อีกด้วย อิอิ ฉันคงจะได้ไปเที่ยวทะเลกับเทย่าสักที่" เขาพูดต่อพลางจินตนาการถึงสาวน้อยที่เขาแอบชอบมานาน - ได้ดูเทย่าใส่ชุดว่ายน้ำด้วย - "อู้ว....ไม่อยากจะคิด" เค้าบ่นพึมพำกับตัวเอง
"ก็แน่ละสิ คนอย่างนายก็คงคิดได้แค่นี้ละนะไอ้สมองทึ่มเอ๊ย" สาวน้อยที่ตกเป็นเหยื่อทางความคิดของบุรุษร่างยักษ์ย้อนกลับ
"แน่นอนอยู่แล้วจ้ะ ดาลิ้งค์" เขาพูดพลางทำท่าส่งจูบ ซึ่งตอนนี้เด็กสาวกำลังชาร์จพลังเตรียมพร้อมที่จะเตะฟรีคิกส่งไอ้คนบ้ากามตรงหน้าไปดาวอังคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้บ้า
.. " เธอพูดออกมาเสียงดังด้วยความโมโหระดับสูงสุด แล้ววิ่งไล่เตะก้นชายหนุ่มร่างยักษ์ราวกับว่าเธอเป็นแมวแล้วชายหนุ่มเป็นหนูตัวเล็กๆ
"อู๊ย .!! เจ็บจังเลยเทย่าจ๋า มาทำกับบุรุษร่างเหล็กอย่างอารอนได้ยังไง" ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากที่เขาโดนสุภาพสตรีร่างบอบบางไล่เตะก้นไปรอบโรงเรียน "ถ้าไม่ติดที่ว่าเขาชอบตัวเองอยู่ ไม่งั้นเขาคงไม่ให้ทำอย่างนี้หรอก"
"ยังมีหน้ามาพูดอีกไอ้คนโรคจิต โดนแค่นี้มันน้อยไปใช่มั้ย " เทย่า มานิสซาร์ สาวน้อยร่างบางเส้นผมสีม่วงกับนัยตาสีฟ้าแกมน้ำเงินพูดขึ้น " ไอ้ชุดนักเรียนบ้านี่ก็เกะกะจริงๆ ฉันเลยแสดงฝีมือได้ไม่เต็มที่ ไม่งั้นละก็นายได้เข้าโรงพยาบาลฉลองปิดเทอมแน่" เธอพูดขู่พลางหักนิ้วมือตัวเองเสียงดัง กร๊อบๆ
"ไม่คิดอย่างนั่นแล้วจ้ะเทย่าที่รัก " ชายหนุ่มร่างโตกำยำทำเสียงหวานออดอ้อน ซึ่งดูแล้วช่างไม่เข้ากับหน้าตาของเขาเอาซะเลย ร่างกายของเขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ คล้ายคนบ้ากำลัง เส้นผมสีดำกับนัยตาสีน้ำตาลในร่างกายที่ใหญ่โตพูดขึ้น "แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ดีนะ อิอิ"
"หน๋อยแน่ะ!!! อยากโดนอีกใช่มั้ยไอ้บ้าอารอน" เธอถึงจุดเดือดขึ้นมาอีกครั้ง เตรียมที่จะไล่เตะคนบ้ากามข้างหน้าเธอ ที่ซึ่งบัดนี้ผู้ที่อ้างว่าเป็นบุรุษเหล็กกำลังเตรียมที่จะวิ่งหนีสุดชีวิต
แต่แล้วระฆังสวรรค์ก็ดังขึ้นช่วยชีวิตบุรุษเหล็กอย่าง อารอน ดาร์กเกอร์ไว้ได้อย่างทันท่วงที
"พวกนายสองคนทำอะไรกันเหรอ" เสียงกวนๆของเด็กหนุ่มผมสีแดง นัยตาสีดำในชุดนักเรียนที่ค่อนข้างจะผิดระเบียบนิดหน่อยพูดขึ้น
"อ๋อ ฉันก็กำลังจะพิพากษาคดีคนบ้ากามอยู่นะสิ" เทย่าพูด
" เหรอ!! งั้นฉันขอคั่นเวลาแป๊บนึงนะ คือว่ามีอะไรจะมาบอกนะ " ชายหนุ่มนาม พลัส เบราเซอร์พูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ
" อืมนายมีอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าไร้สาระละก็
.น่าดู" เธอพูดขู่ เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้งเพราะรู้ฤทธิ์เพื่อนสาวของตัวเองดี
"ใจเย็นก่อนสิ คือว่า ไอ้ทรอสนะมันให้ฉันมาชวนพวกนายสองคนไปกินไอศกรีมกันนะ ฉลองปิดเทอม " เขาพูดขึ้น "พวกนายสนใจหรือเปล่า"
"ไปสิไป เรื่องอย่างนี้ฉันจะพลาดได้ยังไง" อารอนรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว
"นายนี่มันเห็นแก่กินจริงๆเลยนะอารอน" เด็กสาวพูดแซว
"ว่าแต่เธอจะไปรึเปล่า" พลัสหันมาถามเทย่า
"ถ้าทุกคนในกลุ่มไปแล้วฉันจะไม่ไปได้ยังไงกันละจ๊ะ" เธอตอบอย่างคนดีใจ
"โอเค! งั้นเย็นนี้เรามาเจอกันที่ร้าน
.ตอน5โมงเย็นแล้วกันนะ" พลัสบอกเวลานัดพลางเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินจากไป
"เย็นนี้ได้กินไอศกรีมฟรีด้วย ดีใจจัง" อารอนพูดขึ้น "แล้วเย็นนี้ฉันจะใส่ชุดอะไรดีน๊า อืม
"
"ฉันว่าก่อนที่นายจะเลือกชุด เอาเวลามาคิดหาทางเอาตัวรอดจากฉันก่อนดีกว่า" ว่าแล้วเด็กสาวก็วิ่งไล่เตะฟรีคิกใส่เด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว ทำให้สงครามระหว่างสองคนนี้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
เวลายามเย็นมีผู้คนมากมายเดินอยู่บนท้องถนนสวนกันไปสวนกันมา บางคนมาเดินเล่น บางคนมาหาอะไรทาน บางคนมาหาคนรัก บางคนยิ้ม บางคนอารมณ์บูดดูแล้วหลากหลายอารมณ์แตกต่างกันไป รถราบนท้องถนนติดกันเป็นทางยาวควันจากท่อไอเสียคละคลุ้งทั่วท้องถนนเต็มไปหมด
" ฉันว่าตอนเย็นๆแบบนี้ไม่มีอะไรจะมีความสุขมากไปกว่าการมานั่งทานไอศกรีมอย่างนี้อีกแล้ว" ชายหนุ่มร่างโตในชุดเสื้อกล้ามสีเหลืองรัดรูปเพื่ออวดเรือนร่างอันแข็งแร็งของเขากับกางเกงขาสามส่วนสีดำ รองเท้าผ้าใบสีเดียวกันกับกางเกง พูดขึ้นอย่างดีใจพลางตักไอศกรีมรสช็อกโกแล็ตคำโตเข้าปาก
"ก็มันแหงอยู่แล้วหล่ะ ได้ทานไอศกรีมเย็นๆ ใครไม่มีความสุขบ้างล่ะ" เด็กสาวผมสีม่วงนามว่า
เทย่า มานิสซาร์พูดขึ้น วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อยืดพอดีตัวสีเขียวกับกางเกงยีนส์ขายาวดูทะทัดทะแมง กับ รองเท้าผ้าใบสีขาว
" อย่ามัวมาเถียงกันอยู่เลยพวกนาย จะปิดเทอมทั้งทีทำตัวให้มีความสุขกันหน่อยสิ" เสียงของเด็กหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น
" อ้าว!! มาแล้วหรอคะคุณทรอส มาคัส" เสียงของเทย่า เอ่ยแซวเด็กหนุ่ม
"เธอก็นะ
นั่งก่อนสิ" พลัสพูดขึ้นวันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสามส่วนสีเขียวเข้ม รองเท้าผ้าใบสีดำดูแล้วทะทัดทะแมงไม่แพ้กัน
"ทำไมวันนี้มาช้าล่ะจ๊ะ ทรอส "เด็กสาวสมาชิกอีกคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สุภาพต่างกับเทย่าลิบลับ
"พอดีฉันไปทำธุระกับพ่อมานะเลยมาช้า คงไม่ว่ากันนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ทรอส มาคัส ชายหนุ่มผมสีฟ้ากับนัยตาสีเทาที่แสนสุภาพ เขาเป็นประธานนักเรียน แถมยังเป็นขวัญใจสาวๆในโรงเรียนอีกด้วย นอกจากนั้นเขายังเป็นทายาทนักธุรกิจชื่อดังระดับประเทศ วันนี้เขาอยู่ในชุดสบายๆ เสื้อโปโลสีฟ้ากับกางเกงแสล็คสีขาวรองเท้าหนังสีน้ำตาล
"ไม่มีใครว่าอะไรหรอก เธอมีธุระสำคัญนี่" สาวน้อยแสนสุภาพพูดขึ้น
"เธอนี่ใจดีไม่มีเปลี่ยนเลยนะยูริ" พลัสพูดแซวเพื่อนสาวของเขา
" ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ" เธอพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ยูริ มอดอรัส สาวน้อยน่ารักประจำกลุ่ม เธอเป็นขวัญใจของหนุ่มๆประจำโรงเรียน เธอมีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน กับดวงตาสีเดียวกัน ใบหน้าเรียวยาวเข้ารูปรับกับร้อยยิ้มสดใสของเธอที่ส่งออกมา
หลังจากที่ทุกคนในกลุ่มมารวมตัวกันครบแล้วทั้งหมดก็นั่นทานไอศกรีมกันอย่างมีความสุขโดยที่หารู้ไม่ว่าบัดนี้ท้องฟ้ากำลังเกิดความแปรปรวนขนาดหนัก สายลมแห่งเหมันต์ที่พัดพาความเย็นอย่างอ่อนโยน บัดนี้กลับกลายเป็นกรรโชกแรงคล้ายพายุทอนาโดที่บ้าคลั่ง ผู้คนที่เดินอยู่ตามท้องถนนต่างวิ่งหาที่หลบกันอย่างวุ่นวาย แม่ค้าที่ขายของอยู่ริมถนนต่างกุลีกุจรเก็บข้าวของกันเป็นการใหญ่
"แย่แล้วหัวหน้า ข้างนอกอยู่ดีๆก็มีพายุเกิดขึ้นมา" เสียงของพนักงานต้อนรับร้านไอศกรีมพูดขึ้น
"งั้นท่าทางเราคงต้องปิดร้านกันแล้วหล่ะ" เจ้าของร้านพูดขึ้น "ไม่งั้นมีหวังร้านพังแน่เลย"
"แล้วลูกค้าในร้านล่ะ" เสียงของพนักงานหันไปถามหัวหน้า
"วันนี้ฟรี" หลังจากพูดจบทุกคนต่างกุลีกุจรออกจากร้านกันเป็นยกใหญ่ มีแต่หนุ่มสาวมัธยมปลาย5คนนี้เท่านั้นที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย ทั้ง5คนกำลังเดินออกจากร้านอย่างหน้าตาเฉย
"ลมวันนี้เย็นจังเลยนะ" อารอน พูดขึ้นอย่างสำราญใจ
"จะบ้าหรอนายนะ ลมแรงซะขนาดนี้ ยังจะมีหน้ามายืนชมอยู่ได้" เทย่าหันไปต่อว่าเด็กหนุ่มผู้ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"อืม!! จริงด้วย แต่
จะว่าไป ทำไมพวกเราไม่รู้สึกเลยละว่าลมมันแรง" พลัสพูดขึ้นเวยความสงสัย "แค่รู้สึกเหมือนลมพัดธรรมดาเอง" เขาพูดต่อ
"นายก็รู้สึกเหมือนกันหรอ" ทรอสพูด "มันก็น่าแปลกอยู่เหมือนกัน"
ระหว่างที่ทุกคนกำลังยืนคุยกันอยู่นั้นเองก็มีเสียงประหลาดดังมาจากฟากฟ้า มันเป็นเสียงที่คล้ายกับการร่ายมนต์อะไรสักอย่าง ที่เป็นคำพูดแปลกๆก้องอยู่ ทุกคนหันมามองหน้ากันอย่างงุนงง แล้วทันใดนั้นก็พากันวิ่งไปที่ต้นเสียงประหลาดโดยที่ไม่ต้องปรึกษากัน
"นั่นมันเสียงอะไรนะ" อารอนถาม
"ไม่รู้สิ แต่ว่ามันแปลกมาก ดูเหมือนจะมีแต่พวกเราเท่านั้นที่ได้ยิน" ทรอสพูดพลางมองไปรอบๆตัว
"ฉันว่าต้นเสียงมันต้องมาจากทางสวนสาธารณะแน่เลย " เทย่าพูดขณะที่กำลังวิ่งสวนทางกับคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังพาหนีตายออกมาจากสวนสาธารณะ
"นี่พวกเธอไม่กลัวกันบ้างเลยหรอ" ยูริถามเพื่อนของเธอ "ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ" เธอพูดต่อขณะที่กำลังวิ่งตามทุกคนไป
"ไม่รู้สิ แต่ในใจมันบอกว่าให้ไปดู" พลัสพูดและคนที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
ขณะนี้บนท้องฟ้าเหล่าก้อนเมฆทั้งหลายได้มารวมตัวกันเป็นรูปก้นหอยขนาดใหญ่โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ลานกว้างของสวนสาธารณะประจำเมือง ที่บัดนี้ไร้เงาของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เว้นแต่เด็กหนุ่มสาวกล้าตายทั้ง 5 ที่วิ่งมาจนถึงลานนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ฉันว่าที่นี่ต้องเป็นจุดศูนย์กลางของเสียงประหลาดนั่นแน่เลย พวกนายว่ามั้ย " เทย่าเสนอความเห็น
"ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ เพราะว่าเสียงมันชัดมากเลย " พลัสเสริม
"อ๊ะ!! พวกนายดูที่ท้องฟ้านั้นสิ" อารอนพูดขึ้นมาอย่างคนตกใจสุดขีดพลางชี้มือไปที่ท้องฟ้า
"นั่นมันแสงอะไรนะ" ทรอสพูด "แล้วฉันก็คิดว่ามันกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเราด้วยสิ"
"ฉั..น
ก็ว่า..อย่างนั้นแหละ" ยูริพูดตะกุกตัก น้ำเสียงของเธอตอนนี้แสดงถึงความกลัวและความตกใจเมื่อมองไปที่แสงประหลาดสีขาวที่มาจากท้องฟ้า บัดนี้มันกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็ว "พวกเราไม่น่ามาที่นี่เลย"
"จะพูดตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วหล่ะ" เทย่าแย้งขึ้น
"เรารีบหนีไปจากที่นี่กันดีกว่า" อารอนออกความเห็น พร้อมกับตั้งท่าจะวิ่งด้วยความเร็วสุดขีด แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังจะวิ่งหนี ลำแสงประหลาดได้พุ่งมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็วและดูดกลืนทั้ง5หายไปในลำแสงประหลาดนั้นในพริบตา เมื่อลำแสงสีขาวหายไป เหตุการณ์วุ่นวายในเมืองก็สงบลง พร้อมกับนักเรียนมัธยมปลายทั้ง5ที่บัดนี้ได้หายไปเช่นกัน
แสงสีขาวที่หอคอยสูงสงบลง บัดนี้ทุกอย่างกลับเป็นปกติทุกอย่าง เว้นแต่มีร่างของบุคคลลึกลับทั้ง5ที่ยืนอยู่ตรงกลางของหอคอยสูง
"ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย " อารอนพูดขึ้นเป็นคนแรก พลางมองไปรอบๆห้องประหลาด ที่คล้ายๆกับปราสาทในหนังฝรั่งที่เขาเคยดู
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" พลัสพูดเสริม "จำได้ว่าพวกเราอยู่ที่สวนสาธารณะ แล้วก็กำลังจะวิ่งหนีไอ้แสงประหลาดนั่น อยู่ดีๆก็โดนแสงนั่นดูดมาแล้วก็มาโผล่ที่นี่แหละ
"ยินดีต้อนรับทุกคน" เสียงสุภาพของชายหนุ่มปริศนาดังขึ้น ซึ่งเรียกความสนใจของคนทั้ง5ให้หันไปมองกันเป็นสายตาเดียว
" หา!!! นั่นมันพ่อมดนี่" เทย่าร้องโวยวายระคนตกใจ "ฉันต้องตายไปแล้วแน่ๆเลย ฮือๆๆ" เธอร้องออกมา
"นี่นะเหรอ ผู้กล้าที่จะมาช่วยดินแดนของเรา ดูขี้แยจังเลย การแต่งตัวก็ดูแปลกๆ อย่างนี้จะไหวเหรอท่านพ่อ" เสียงของสาวน้อยเรือนผมสีน้ำตาลพูดขึ้น
"นี่ราเซีย เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปว่าท่านผู้กล้าอย่างนั้นนะ " คนเป็นพ่อทำเสียงดุ
"ก็มันจริงนี่ท่านพ่อ" เธอพูดอีก
"ราเซีย!! " เขาตวาด "ถ้าลูกไม่เลิกพูดพ่อจะทำโทษเจ้า"เขาทำเสียงขู่
"ไม่พูดแล้วก็ได้ โธ่!!" เธอทำสีหน้าไม่พอใจพลางมองไปที่อาคันตุกะทั้ง5ที่บัดนี้กำลังทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกไปตามๆกัน
"เอ่อ
ขอโทษนะครับ คุณชุดขาว" เด็กหนุ่มที่สุภาพที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น "ไม่ทราบว่าที่นี่ที่ไหนหรอครับ" เขาถามต่อ
"เรียกข้าว่าดราฟ ข้าขอต้อนรับพวกท่านสู่เมืองอามอรัสเมืองที่เป็นศูนย์กลางแห่งนครคาซัส" ชายหนุ่มในชุดจอมเวทย์สีขาวพูดขึ้น
"แล้วทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะท่าน.. เอ่อ!! ดราฟ" เทย่าพูดขึ้นหลักจากที่เธอตั้งสติได้
"ก็พวกท่านคือผู้กล้าที่จะมาปกป้องดินแดนแห่งนี้ยังไงละ" ดราฟพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ "ที่พวกเจ้ามาที่นี่ได้ก็เพราะว่าท่านเทพเป็นคนเลือกพวกเจ้านะสิ" เขาพูด "พวกเจ้าคือคนที่ถูกเลือกแล้วจากท่านเทพ"
" หา!!! อย่างพวกเราเนี่ยนะผู้กล้า ท่านคงเลือกคนผิดแล้วหล่ะ" อารอนรีบค้านเสียงแข็ง
"นั่นสิ อย่างพวกเราจะเป็นผู้กล้าได้ยังไง ในเมื่อ ..เราต่อสู้ก็ไม่เป็น ฟันดาบก็ไม่เป็น แถมยังเป็นนักเรียน ม.ปลายอีกด้วย" ยูริออกความเห็นพลางเอามือปัดขี้ฝุ่นที่เกาะตามเสื้อผ้า "แล้วที่นี่ที่ไหนก็ไม่รู้"
"ท่านดราฟอาหารกับที่พักทางเราเตรียมพร้อมแล้วครับ" เสียงนายทหารนายหนึ่งขัดขึ้น
"ดีมาก ขอบใจนะฟารอส " ดราฟพูดขอบใจนายทหารคนสนิท "ข้าว่าพวกเจ้าพักผ่อนกันก่อนเถอะ แล้วข้าจะเล่าให้พวกเจ้าฟัง"
ที่ห้องอาหาร ภายในถูกตกแต่งด้วย รูปภาพของวิวทิวทัศน์มากมายซึ่งดูแล้วทำให้เจริญอาหารมากขึ้น โต๊ะทานข้าวเป็นโต๊ะไม้ขอบทองขนาดยาวกับเก้าอี้สีเดียวกันเข้าชุด บัดนี้มีผู้คนจำนวนหนึ่งกำลังนั่งกันอยู่ ผู้ที่นั่งอยู่หัวตัวคือหัวหน้าของเหล่าพ่อมด ดราฟ ขวามือของเขาคือ ราเซีย ลูกสาวคนโปรด ถัดมาคือกลุ่มจอมเวทย์ในชุดคลุมสีต่างกัน และสุดท้ายคือนายทหารคนสนิทฟารอส ทางด้านซ้ายมือก็คือกลุ่มอาคันตุกะ 5 คนที่มีท่าทีต่างกัน 2 คนแรก สุขุมเรียบร้อย อีกสองคนนั่งคุย และคนสุดท้ายนั่งกิน
"หวังว่าอาหารคงจะถูกปากพวกท่านนะ" ดราฟเอ่ยถามอย่างสุภาพ
"ขอบคุณมากนะครับสำหรับอาหาร" ทรอสพูดขึ้น "ว่าแต่ท่านจะบอกพวกเราได้รึยังว่าทำไมพวกเราถึงได้มาอยู่ที่นี่" เขาถามต่อ
"งั้นข้าขอเล่าตั้งแต่แรกเลยแล้วกันนะ" ดราฟเอ่ย "คือว่า เมื่อ19ปีที่แล้วดินแดนคาซัสของเราถูกรุกรานจากจอมปีศาจเวเดสก้า มันมันมีเป้าหมายที่จะยึดครองดินแดนแห่งนี้และทุกดินแดนที่มีอยู่ในโลกไม่ว่าจะเป็นมิติไหนๆก็ตาม บ้านเรือนต่างถูกทำลาย ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก" เขาพูดด้วยสีหน้าที่ขมขื่น "พวกเราใช้พลังที่มีต่อต้านมันไว้แต่ก็ไม่เป็นผล พวกมันมีกำลังมากเกินกว่าที่พวกเราจะรับไหว จนพวกเราเกือบจะเสียดินแดนแห่งนี้ไป" เขาทำสีหน้าจริงจังมากขึ้น "แต่ในที่สุดปาฏิหารย์ก็เข้าข้างพวกเราเมื่อท่านเทพผู้คุ้มครองดินแดนแห่งนี้ได้ตื่นขึ้นจากการจำศีล และมาปราบเหล่ามารร้ายจนสิ้นซาก" ทุกคนในที่ประชุมมีท่าทีสนใจ โดยเฉพาะเหล่าอาคันตุกะทั้ง 5 "ท่านเทพสามารถผนึกจอมปีศาจไว้ได้แต่ก็ต้องแลกด้วยพลังทั้งหมดของท่าน จนในที่สุดร่างกายของพวกท่านก็สูญสลายและหลอมรวมกลายเป็นลูกแก้ว และกระจายไปอยู่ตามทิศทางต่างๆ
"
"แล้วไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับพวกเราตรงไหนเลย" ชายหนุ่มจอมกวนแทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
"มันต้องเกี่ยวกับพวกท่านอยู่แล้ว ก็เพราะก่อนที่ท่านเทพจะสลายไปท่านได้บอกกับพวกเราว่า
-เมื่อใดที่สงครามเกิดขึ้นอีกครั้งให้นำคริสตัลอันนี้ตามหาผู้ที่คู่ควรกับพลังของพวกข้า และให้พวกเขาตามหาลูกแก้วแห่งเทพ ที่กระจัดกระจายอยู่ตามดินแดนต่างๆ เพื่อนำมาปราบมารร้ายที่กำลังจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา- และนั่นก็คือเหตุผลที่คริสตัลนี้เลือกพวกท่านมาที่นี่" เขาพูด
"ดูเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่จังเลยนะ
ว่ามั๊ยเทย่าที่รัก " อารอนพูดยียวนเทย่าหลังจากที่เขาทานอาหารบนโต๊ะจนเรียบก่อนใครๆ
"หน๋อยไอ้บ้านี่
. " ว่าแล้วสาวน้อยก็อับปาคัสชายหนุ่มร่างโตจนฟุบไปกองกับโต๊ะ
"เธอนี่โหดจังแฮะ" ราเซียที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่พูดขึ้น ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็ได้แต่นั่งยิ้มเจือนๆ
"แล้วตกลงคริสตัลก็เลยเลือกพวกเราใช่มั้ย" ทรอสที่ดูจะฉลาดที่สุดเอ่ยขึ้นพลางหันไปมองหน้า
ดราฟที่อยู่หัวโต๊ะ ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าให้เขาเป็นสัญญาณ
"แล้วถ้าพวกเราไม่ตกลงที่จะทำภารกิจครั้งนี้ละ" เสียงของพลัสแทรกขึ้นมาซึ่งเรียกความสนใจของทุกคนในห้องอาหาร "พวกเราแทบจะไม่รู้จักดินแดนแห่งนี้เลยด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกท่านสามารถไว้ใจได้หรือเปล่า"
"พวกท่านจงมั่นใจเถิดว่าทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นความจริง และพวกเราก็ปรารถนาดีกับพวกท่านทุกคน และไม่คิดที่จะทำร้ายพวกท่าน" ดราฟพูดยืนยันด้วยใบหน้าที่จริงจัง
"เมื่อเสร็จงานนี้ เราสัญญาว่าเราจะส่งท่านกลับไปในที่ที่ท่านมาทันที" จอมเวทย์ในชุดคลุมสีฟ้ากล่าวยืนยันและจอมเวทย์ที่เหลือก็พยักหน้าเป็นการยืนยันเช่นกัน
"เหลือแต่พวกท่านแล้วหละ ที่จะตกลงรับทำภารกิจอันยิ่งใหญ่อันนี้หรือเปล่า" ฟารอสพูดขึ้น "ถึงแม้ว่ามันอาจดูอันตรายแต่ระหว่างการเดินทางพวกท่านก็จะได้รับการคุ้มครองจากข้า แม้ว่าข้าต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม" เขาพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
"และข้าก็เช่นกัน" ราเซียพูดสมทบฟารอส "ข้าจะใช้เวทย์มนต์ที่ข้ามีปกป้องพวกท่านทุกคนให้ปลอดภัยกลับมาแน่นอน"
"มันก็น่าสนอยู่นะ นายว่ามั้ย "เทยาหันไปคุยกับอารอน ซึ่งชายหนุ่มมีท่าทีเห็นด้วย
"มันเป็นประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับพวกเราที่จะได้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ และอีกอย่างตอนนี้ก็ปิดเทอมด้วยมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฉันคนนึงละที่ตกลงจะทำงานนี้" เทย่าพูดพร้อมกับยืนขึ้น ซึ่งอารอนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นตามเช่นกัน "ฉันก็ตกลง"
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฉันเอาด้วยก็ได้ มันไม่มีอะไรที่จะต้องเสียแล้วนี่" พลัสพูดพร้อมกับยืนขึ้นเช่นกัน
"ถึงแม้ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง อันตรายแค่ไหน แต่ว่าถ้ามีเพื่อนๆอยู่ฉันก็รู้สึกอุ่นใจและคิดว่าพวกเราต้องปลอดภัยกลับไปด้วยกันแน่นอน ..งั้นฉันก็เอาด้วย" ยูริ สาวน้อยผู้เรียบร้อยที่สุดในกลุ่มพูดและลุกขึ้นยืนพลางหันไปยิ้มให้กับเพื่อนๆของเธอ ซึ่งเพื่อนๆของเธอก็ยิ้มตอบอย่างภาคภูมิใจเช่นกัน
“ แล้วนายล่ะ ทรอส ว่าไง" พลัสหันไปถามเพื่อนหนุ่มของตนที่ยังนั่งอยู่หัวโต๊ะ
"ถ้าพวกทึ่มๆอย่างพวกนายไป แล้วฉันจะไม่ตามไปดูแลได้ยังไงกันเล่า ฉันเอาด้วย " เขาพูดพร้อมกับหันไปมองทุกคน
"ดีมากทุกคน ข้าซึ้งในน้ำใจของทุกคนเหลือเกิน" ดราฟพูดขึ้น "และการเดินทางครั้งนี้ทุกคนจะต้องปลอดภัย จากการอารักขาจากนายทหารมือหนึ่งและจอมเวทย์ชั้นเยี่ยมแน่นอน " เขาพูดต่อพลางมองไปยังบุคคลที่ถูกกล่าวถึง
"และพวกข้าก็มีสิ่งของบางอย่างที่จะให้พวกท่านก่อนการเดินทางเช่นกัน "จอมเวทย์ในชุดคลุมสีแดงพูดขึ้น พร้อมกับจอมเวทย์อีก4ที่บัดนี้พยักหน้าเพื่อเป็นการยืนยัน "แต่ว่าต้องเป็นพรุ่งนี้นะ" เธอพูดต่อ
" ข้าว่าเราแยกกันไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า พวกท่านคงเหนื่อยกันมากแล้ว" ดราฟพูดขึ้นพลางยกคทาของตัวเองขึ้นเหนือศรีษะ ทันใดนั้นคทาของเขาก็เปล่งแสงขึ้นและบังเกิดแสงสีฟ้าเจิดจ้าจากลูกแก้วเวทย์มนต์ แสงจากลูกแก้วแยกออกเป็น5สายพุ่งตรงไปด้านหน้าของผู้กล้าทั้ง5และหยุดลงตรงหน้า เมื่อแสงสีฟ้าหายไปเบื้องหน้าของทั้ง 5 ก็คือ ลูกพลังกลมๆใสที่มีแสงสีฟ้าส่องประกายอยู่ ภายในมีวัตถุชิ้นหนึ่งลอยอยู่มันคือ
"มันคือกุญแจห้องของพวกท่าน คืนนี้ขอให้พักผ่อนให้สบายแล้วกัน แล้วพรุ่งนี้เราค่อยเจอกันใหม่” ดราฟพูดขึ้น
"ว้าว!! วิเศษไปเลย นี่มันเวทย์มนต์ใช่มั้ยเนี่ย " เทย่าพูดด้วยใบหน้าที่ตื่นตะลึง ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้นทุกคนในกลุ่มต่างก็ทำสีหน้าไม่ต่างจากเทย่า
"เดี๋ยวข้าจะนำพวกท่านไปที่พักเอง ตามข้ามาสิ" ราเซียที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้าประตูห้องพูดขึ้นพลางผายมือเรียกทั้ง5คนให้ตามเธอไป
ราเซียนำทุกคนออกจากห้องอาหาร ทุกคนเดินตรงไปเรื่อยๆจนไปถึงใจกลางของปราสาทมันเป็นทางแยก4ทางซึ่งราเซียนำทุกคนเดินไปทางซ้าย เมื่อเดินเข้ามาก็พบกับประตูมากมายติดอยู่กับกับแพง ซึ่งมีทั้งสีน้ำเงินและสีชมพู ประตูสีน้ำเงินนั้นจะอยู่ทางขวามือ ส่วนประตูสีชมพูจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
"ห้องของผู้ชายประตูสีน้ำเงินนะ ส่วนผู้หญิงก็สีชมพู พวกเจ้าเลือกห้องพักกันเอาเองแล้วกัน ข้าไปก่อนหละ" เธอพูด และทำท่าจะหันหลังเดินออกไป " อืม! พรุ่งนี้อย่าตื่นสายกันละ" เมื่อพูดเสร็จเธอก็เดินจากไปทันที
"ไม่น่าเชื่อเลย ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย นายว่ามันจะเกี่ยวกับเรื่องโลกร้อนมั้ย" อารอนพูด
"มันจะเกี่ยวกันได้ยังไงเล่า นายนี่ท่าทางจะกินมาก" พลัสตอบ
"ฉันว่าพวกเราพักผ่อนกันก่อนดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกัน" ทรอสพูดพร้อมกับหันเปิดประตูเดินเข้าห้องพักของตนเอง ซึ่งทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนเช่นกัน
ภายในห้องพักถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม บนผนังห้องมีภาพของวิวทิวทัศน์ที่สามารถขยับได้เองเหมือนกับว่ามันมีชีวิต บนพื้นห้องถูกปูด้วยพรมสีแดงอย่างดี ส่วนตรงกลางของเพดานห้องมีแท่งคริสตัลสีขาวขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่มันมีสีขาวสว่างเกิดขึ้นเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้องและเมื่อลงนั่งบนเตียงมันมันก็กลายเป็นสีเหลืองอ่อน สำหรับเตียงนอนเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ มีเสาอยู่ทั้ง 4 มุม บนเตียงนอนถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสีครีมเช่นเดียวกันกับหมอนใบโต ที่มุมของห้องมีโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้สีน้ำตาลขนาดใหญ่แข็งแรงทนทานตั้งอยู่กับเก้าอี้สีเดียวกัน ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือเมื่อเข้ามาจากประตู ภายในมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไว้สำหรับแช่ และมีลูกแก้วที่เรืองแสงอ่อนๆออกมาตลอดเวลา มันส่งกลิ่นคล้ายกับกลิ่นอโรมา
" ก๊อกๆๆ "เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ใครนะ " เจ้าของห้องตะโกนถาม
"ฉันเอง พลัส " ชายหนุ่มพูด "เปิดประตูให้หน่อยมีอะไรจะคุยด้วย" เขาพูดต่อ
" เข้ามาสิ ฉันไม่ได้ล็อค" ทรอสพูดขึ้นขณะที่นั่งเล่นอยู่บนโต๊ะทำงานในห้อง
" มีอะไรกับฉันรึเปล่า " ทรอสถามเพื่อนซี้ของเขา
"คือว่า ฉันนอนไม่หลับนะ มันแปลกที่แปลกทางเลยไม่ชิน" เขาพูด "ว่าจะมาหาเพื่อนคุยสักหน่อย ก็เลยลองเดินมาที่ห้องนาย "
"แล้วอารอนละ " ทรอสถาม
"ไอ้นั่นนะหรอ มันนอนหลับไปตั้งนานแล้ว " พลัสพูด "ไอ้หมอนั่นมันไม่เคยรู้ร้อน รู้หนาวอะไรหรอก" เขาพูดต่อ "ว่าแต่นายเถอะ รู้สึกยังไงกับที่นี่บ้างละ"
"ฉันนะหรอ อืม
ก็ดีนี่ ผู้คนที่นี่ก็ต้อนรับพวกเราดีนี่" ทรอสพูดขึ้น "นายมีอะไรรึเปล่า"
"ฉันนะรู้สึกแปลกๆนะ ที่อยู่ดีๆ นักเรียนม.ปลายอย่างพวกเราต้องหลงมาอยู่ที่โลกนี้แล้วก็กลายมาเป็นผู้กล้าบ้าบออะไรนี่นะ" พลัสพูดความในใจออกมา
"นายยังทำใจไม่ได้ใช่มั้ย " ทรอสหันไปถามเพื่อนหนุ่มที่ตอนนี้นั่งอยู่ที่ปลายเตียงของเขา
"ก็คงอย่างนั้นแหละ " เขาพูดขึ้น
"ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลาในการปรับตัว ฉันเองก็ใช่ว่าจะทำใจได้ซะเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างมันก็พาไป มีแต่พวกเราต้องยอมรับมันเท่านั้น" ทรอสพูดให้กำลังใจเพื่อนของเขา
"อืม
ก็จริงอย่างนายว่าล่ะนะ ฉันเองก็จะลองปรับตัวดูก็แล้วกัน" พลัสพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่สบายใจขึ้น "งั้นฉันไม่รบกวนนายก็แล้วกัน นายพักผ่อนไปเถอะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน" เขาพูดพลางลุกขึ้นเดินไปที่ประตู
"ขอบใจมากนะ "พลัสพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่ประตูห้องจะปิดลง
เมื่อแสงตะวันยามเช้าสาดส่องเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ก็ต่างพากันออกมาหากิน ผู้คนก็เช่นเดียวกัน บางคนเดินเข้าไปเก็บฟืนในป่า บางคนทำอาหาร บางคนไปจ่ายตลาด พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างก็ส่งเสียงดังแข่งกันเพื่อที่จะเรียกลูกค้าเข้าร้านของตน บรรดาเด็กเล็กๆต่างพากันเดินไปเรียนที่โรงเรียนเวทย์มนต์ ซึ่งดูแล้วสร้างสีสรรค์ให้กับบรรยากาศยามเช้าเป็นอย่างมาก
"อรุณสวัสดิ์ทุกท่าน" เสียงของจอมเวทย์ในชุดคลุมสีขาวพูดขึ้นขณะที่ทุกคนนั่งประจำที่ของตนในห้องอาหาร
"อรุณสวัสดิ์ทุกท่านเช่นกัน" เสียงของทรอสเอ่ยทักทายกลับ
"เมื่อคืนพวกท่านคงหลับสบายกันดีนะ" ฟารอสพูดขึ้น
"แน่นอนอยู่แล้วท่าน ถึงแม้ว่าจะดูแปลกที่ไปสักนิด " อารอนพูดพลางหยิบขนมปังชิ้นโตเข้าปาก
" ดีแล้วหล่ะที่ทุกท่านพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะว่าวันนี้คงต้องออกเดินทางกัน" ดราฟพูดพร้อมกับจิบชาร้อนในถ้วยสีขาวขุ่น
"อะไรนะ!! พวกเราต้องออกเดินทางกันแล้วหรอ " เทย่าพูดขึ้นระคนตกใจ
"ของใช้ต่างๆที่พวกท่านต้องใช้ข้าให้ราเซียไปจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง" จอมเวทย์ในชุดสีเขียวพูดขึ้น
"ข้างนอกออกจะอันตราย แล้วพวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับศัตรูละ "พลัสที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้น "เวทย์มนต์ของพวกเราก็ไม่มี จะเอาเพียงแค่กำลังกายไปสู้เห็นทีคงจะยากนะท่านพ่อมด "
"ใช่ค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีทั้งองครักษ์ และจอมเวทย์ติดตามไปด้วย แต่ถ้า
.." ยูริพูดขึ้น
"ถ้าเราต้องให้ 2 คนนั้นเอาแต่ปกป้อง พวกเราก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กตัวเล็กๆเลย" เทย่าเสริมจากยูริ
"เรื่องนั้นพวกท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าและพรรคพวกได้เตรียมของที่จะให้พวกท่านไว้ป้องกันตัว ระหว่างการเดินทางแล้ว" จอมเวทย์ในชุดสีแดงพูดขึ้นพลางส่งของที่อยู่ในมือให้กับทั้ง 5 คน
"หา!! นี่มันแหวนนี่ " อารอนพูดขึ้นเป็นคนแรกด้วยใบหน้างุนงง ขณะกำลังถือแหวนสีทองที่มีอัญมณีสีน้ำตาลอยู่ตรงกลาง "แล้วมันจะช่วยอะไรพวกเราได้นะท่านแม่มดชุดน้ำตาล"
" แหวนนี่เป็นแหวนเวทย์มนต์ มันเกิดจากพลังอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ละวงจะมีพลังที่ต่างกัน" จอมเวทย์ในชุดสีน้ำตาลพูด พร้อมกับชี้ไปที่แหวนในมือของอารอน "อย่างในมือของเจ้า มันคือแหวนที่มีพลังของดิน"
"แหวนเนี่ยนะ" เขาพูดขึ้นอีกครั้งพลางก้มหน้าไปมองแหวนที่บัดนี้สวมอยู่ในนิ้วของเขาเรียบร้อยแล้ว
"ใช่แล้วหล่ะ ส่วนแหวนสีแดงก็มีพลังของไฟอยู่ สีฟ้าคือพลังของน้ำ สีเขียวคือพลังของลม และสีเหลืองคือพลังแห่งจิตใจ " จอมเวทย์ในชุดคลุมสีเหลืองพูดขึ้น ซึ่งบัดนี้แหวนได้สวมอยู่บนนิ้วมือของทั้ง5คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อากอน สวมแหวนที่มีพลังแห่งดิน - ทรอส สวมแหวนที่มีพลังแห่งน้ำ- เทยา สวมแหวนที่มีพลังแห่งลม-พลัส สวมแหวนที่มีพลังแห่งไฟ และ ยูริ สวมแหวนที่มีพลังแห่งจิตใจ
"ข้าว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พวกท่านรีบทานอาหารกันก่อนดีกว่า จากนั้นจะได้เตรียมสัมภาระสำหรับการเดินทาง" ดราฟพูด
เมื่อทุกคนเตรียมสัมภาระกันเรียบร้อยแล้วทั้งหมดก็มารวมตัวกันที่หน้าปราสาทเพื่อที่จะเตรียมตัวสำหรับเดินทาง โดยที่การเดินทางในครั้งนี้มีสมาชิกทั้งหมด7คนด้วยกันคือ 5 อัศวินผู้กล้า หนึ่งจอมเวทย์และหนึ่งองครักษ์
"ทำไมพวกเราต้องออกเดินทางเร็วขนาดนี้ด้วยละท่านพ่อ "ราเซียหันไปถามคนเป็นพ่อ
" ก็เพราะว่าถ้าเรารีบเดินทางกันตั้งแต่ตอนนี้ จะทำให้การเดินทางง่ายขึ้นนะสิ เพราะว่าตอนนี้พลังของจอมปีศาจยังไม่สมบูรณ์เต็มที่" คนเป็นพ่อพูด "ซึ่งถ้าจอมปีศาจฟื้นพลังขึ้นมาแล้ว การเดินทางของพวกเจ้าก็จะยิ่งลำบากมากขึ้นเป็นเท่าตัว
"ข้าเข้าใจแล้ว" ราเซียพูด "ว่าแต่เราจะไปทางไหนกันก่อนละ"
"เจ้าก็ใช้คริสตัลที่เจ้ามีอยู่หาหนทางที่จะต้องไปกันสิ" จอมเวทย์ในชุดคลุมสีฟ้าพูดขึ้น
ราเซียหยิบคริสตัลที่อยู่ที่คอของเธอออกมา แล้วกุมคริสตัลไว้ด้วยสองมืออยู่ระหว่างอก จากนั้นเธอจึงเริ่มอธิษฐาน"ข้าแต่พลังศักสิทธิ์ จงชี้นำเส้นทางที่ถูกต้องแก่พวกข้าเพื่อตามหาลูกแก้วแห่งเทพทั้ง 5 ด้วยเถิด" คริสตัลเปล่งแสงสีขาวสว่างออกมา แล้วลอยออกมาจากมือของราเซีย ทันใดนั้นก็เปลี่ยนจากแสงสีขาวกลายเป็นแสงสีเขียวแล้วพุ่งลำแสงไปที่ป่าด้านหน้าของราเซียแล้วฉับพลันลำแสงนั้นหายไปคริสตัลกลับมาเป็นปกติและลอยกลับมาอยู่ที่มือของราเซียดังเดิม
"นั่นมันเป็นป่าไร้แสงนี่ " ดราฟพูดอย่างตกใจ
"ฉันไม่เห็นว่ามันจะไร้แสงตรงไหนเลยนะท่านดราฟ " เทย่าทำท่าทางงุนงง " มันก็เหมือนป่าปกตินี่นา"
"ภายนอกนะเหมือนป่าปกติ แต่เมื่อใดที่พวกเจ้าย่างก้าวเข้าไปในป่านั่นมันจะกลับกลายเป็นมืดมิดเหมือนตอนกลางคืน" จอมเวทย์ในชุดสีแดงพูดพลางมองไปทางป่าลึกที่อยู่เบื้องหน้า "และในนั้นค่อนข้างที่จะอันตรายมากซะด้วยสิ ปกติไม่ค่อยมีใครเข้าไปในนั้นหรอก คนที่เข้าไปส่วนมากจะเป็นจอมเวทย์ที่มีพลังเวทย์สูงๆ "
"อีกอย่าง เท่าที่ข้ารู้มา ไม่มีใครเข้าไปในนั้นแล้วจะออกมาได้สักราย " จอมเวทย์ในชุดคลุมสีเขียวเสริม
"แล้วพวกเราจะไหวมั้ยเนี่ย พวกท่านเล่นขู่กันซะขนาดนั้น " อารอนพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก "ฉันละไม่อยากจะนึกว่าข้างในมันจะมีอะไร"
"แต่พวกท่านก็ไม่ต้องห่วงหรอก ภายในป่านั้นถูกปกครองด้วยภูตประจำป่าชื่อว่า เดซี่ ถ้าตามหานางพบ พวกท่านก็จะสามารถออกมาจากป่านั้นอย่างปลอดภัย " ดราฟพูด " และนี่ก็คือบททดสอบของพวกท่านยังไงละ ข้าคิดว่าเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังวิหารย์แห่งเทพทั้ง5ยังไงละ เพียงแค่ระหว่างทางพวกท่านเกาะกลุ่มกันไว้เท่านั้นก็จะปลอดภัยเอง"
"พูดง่ายนะท่าน "พลัสพูดด้วยสีหน้าเจือนๆ "แล้วในนั้นมันมีอันตรายอะไรมากมายขนาดที่ต้องระวังตัวเป็นพิเศษด้วยหรอท่าน"
"ก็พวกมอนสเตอร์ที่โหดๆแต่
เป็นแค่ระดับต้นๆละนะ แค่โดนเวทมนต์เล็กน้อยซัดเข้าไปมันก็ตายแล้ว ไม่ต้องห่วง" ราเซียพูดพร้อมกับทำสีหน้ามั่นใจสุดขีด "ไปกับข้าพวกเจ้าไม่ต้องห่วง สบายใจได้"
" หรอ "เทยาพูดแขวะ และทุกคนก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
"อืม!!.งั้น
.เราเดินทางกันเลยดีกว่ามั้ยทุกคน เพราะฟังจากชื่อป่าแล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยดีนะ " ยูริที่ยืนฟังมานานพูดขึ้น "ขนาดตอนกลางวันยังมืด แล้วถ้าตกกลางคืนล่ะจะมันจะอันตรายขนาดไหน" หลังจากที่เธอพูดทุกคนในกลุ่มก็มีท่าทีเห็นด้วยจึงเริ่มเดินทางสู่ป่าไร้แสง ที่ที่มีอันตรายอันใหญ่หลวงคอยต้อนรับพวกเขาอยู่
"ทำไมมันมืดอย่างนี้เนี่ย " อารอนบ่นหลังจากที่ก้าวเข้ามาในป่าไร้แสง ภายในสภาพเหมือนกับป่าปกติทุกอย่าง มีต้นไม้ใหญ่น้อยสลับกันสองข้างทางพวกสัตว์ป่าตัวเล็กๆที่หากินตอนกลางคืนต่างก็ออกมาหาอาหาร มีสัตว์ตัวหนึ่งกำลังบินมาทางพวกเขา มันมีลักษณะคล้ายกับผีเสื้อที่มีขนาดลำตัวเท่าลูกสุนัข ปีกสีดำทั้งสองมีขนาดใหญ่ และที่ก้นของมันก็มีแสงสีเหลืองกระพริบอยู่คล้ายกับหิงห้อย
"นั่นมันตัวอะไรนะ" เทยาพูดขณะที่กำลังยืนมองสัตว์ประหลาดตัวนั้นอยู่ "ทำไมมันเหมือนผีเสื้อ กับหิงห้อยผสมกันจังเลยละ"
"จริงด้วยสิ เหมือนกับผีเสื้อแล้วก็หิงห้อยจริงๆด้วย หรือว่ามันจะเป็น
..ผีห้อย" อารอนพูดติดตลก
"นายจะบ้าเหรอ คิดได้ยังไงผีห้อย "พลัสพูดต่อว่าเจ้าเพื่อนสมองทึ่มของเขา " มันคงจะเป็นสัตว์เวทย์ของที่นี่ละมั้ง"
"ใช่แล้วหละ มันคือ บาไรต์ ยังไงละ เป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน" ฟารอสพูด "มันไม่ทำอันตรายใครหรอก”
"น่ารักจังเลย "ยูริพูดพลางเอามือยื่นไปเพื่อที่จะอุ้มบาไรต์ แต่มันก็บินหนีไปเพราะความตื่นกลัว
"ที่นี่ยังมีอะไรแปลกๆที่พวกเจ้ายังไม่เคยเห็นอีกเยอะเลย" ราเซียพูด "แล้วเดี๋ยวอีกหน่อยพวกเจ้าก็จะได้เห็นเองแหละ
"โฮก!!! " เกิดเสียงคำรามน่ากลัวดังอยู่เบื้องหน้าของทุกคน ฟังจากเสียงแล้วไม่น่าจะเกิน100 เมตร
"ระวังตัวให้ดีนะทุกคน " ฟารอสพูดขึ้นขณะที่ดาบใหญ่ข้างกายถูกชักออกมาจากฝัก "มันเสียงของตัวอะไรนะท่านฟารอส" ราเซียพูดพร้อมกับตั้งท่าเตรียมพร้อม ขณะนี้ในมือของเธอถือคทาเวทย์ที่เรืองแสงสีชมพูอยู่ "พวกเจ้าระวังตัวกันด้วยนะ" เธอพูดพร้อมกับมองไปยังคนที่เหลือ
"นี่พวกเราจะได้บู๊แล้วเหรอเนี่ย "เทย่าพูดพลางขยับตัวในท่าเตรียมพร้อม "ชักสนุกแล้วสิ"
ทันใดนั้นเองเจ้าของเสียงประหลาดก็โผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ มันมีลักษณะคล้ายกับสุนัขขนาดใหญ่ที่ยืนได้ด้วยสองขา มีขนสีน้ำเงินปกคลุมทั้งตัว มันมีแขนคล้ายกับมนุษย์ แต่ที่พิเศษกว่าคือมันมีถึง 6 แขน มีปีกเหมือนค้างคาวขนาดใหญ่ทั้งสองอยู่ที่กลางหลัง ใบหน้าของมันเหมือนกับหมาป่าที่ดุร้ายดวงตาสีแดงก่ำกับฟันอันแหลมคมยื่นออกมาอย่างสยดสยองพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้ทุกเวลา ขณะนี้มันกำลังพุ่งตรงมาที่ยูริ เด็กสาวตอนนี้ทำได้เพียงแค่รอความตายเท่านั้น
"ยูริระวัง!!!!! " เสียงของพลัสตะโกนขึ้น ซึ่งตอนนี้ดูท่าจะสายไปซะแล้ว
ความคิดเห็น