ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บุษบาลวงรัก ชุดทัณฑ์รักบุษบา

    ลำดับตอนที่ #30 : หน้ามึนเบอร์สิบ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.3K
      16
      11 พ.ย. 60

    12

    หน้ามึนเบอร์สิบ

    “คุณพริก!” หญิงสาวอุทานออกมาเมื่อหาเสียงตัวเองเจอ หลายคำถามผุดขึ้นมาในหัว พลับพลึงมองผู้ชายที่เรียกเธอว่า เมียจ๋าเสียงหวายจ๋อย ขนกายหญิงสาวลุกชันหลากหลายอารมณ์กำลังประเดประดังเข้าสู่ร่างกาย ไม่รู้จะดีใจ ประหลาดใจหรือตกใจกันแน่ที่ได้พบเขาอีกครั้ง หลังจากเปลี่ยนเบอร์ลบไอดีไลน์เดิมเธอก็พยายามลืมเขา ไม่คาดคิดเรื่องเขาจะบุกมาถึงที่นี่ แถมยังมาในสภาพ... หญิงสาวกวาดสายตามองสารรูปของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วก่อนจะทำหน้าเบ้ แบบนี้เลวร้ายกว่าตอนอยู่อิตาลีหลายร้อยเท่า

    “จ๋าาา คิดถึงพี่ใช่ไหมคนดี” หนุ่มดอกไม้ที่มาแบบเหนือเมฆทอดเสียงอ่อนเสียงหวาน ชอบใจกับท่าทางตกอกตกใจของหญิงสาว เธอทำหน้าอึ้งได้น่ารักเสียจนเขาอยากหยิกแก้ม

    ชายหนุ่มยกมือไหว้ผาณิตกับวงเดือนที่กำลังทำหน้าอึ้งด้วยท่าทางป้อแป้ยืนเอวอ่อนเอวคด จับกรรมการตัดสินรางวัลออสการ์มานั่งตรงนี้ แน่นอนว่ารางวัลจะต้องเป็นของหนุ่มพริกสิบเม็ดอย่างไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยตุ้ม นักแสดงเจ้าบทบาทจงใจข้ามหน้าข้ามตาไม่ไหว้วรนิตให้เสียมือ วีรกรรมต่างๆ ที่เธอสร้างผ่านหูเขาทุกวันจนต้องเก็บไว้รวบยอดคิดบัญชีม้วนเดียวจบ

    “ไอ้กุ๊ยถ่อยอย่ามาทำเสียงแบบนี้กับหลานฉันนะ” วรนิตชี้หน้าคนที่ไม่เห็นเธอกับแม่เป็นหัวหลักหัวตอ

    “หลานคุณ...แต่เมียโผ้ม พลับพลึงคิดถึงพี่ม้ายยย” ชายหนุ่มตอบโดยที่เรดาร์สายตายังไม่เปลี่ยน เขาไม่แม้แต่จะปรายหางตาไปยังวรนิตยังหยอดยาหวานให้สาวที่ยังทำหน้าอึ้ง

    “แต่ฉันเป็นน้านังพลับพลึง”

    คราวนี้หนุ่มดอกไม้หันกลับไปสบตาคนอ้างสิทธิ์ ชายหนุ่มยิ้มพราย ลักษณะท่าทางขัดกับรัศมีบางอย่างที่แผ่กระจายกับการแต่งตัวอย่างสุดฤทธิ์

    “ใครกันแน่ที่เป็นคนอื่น คร้ายยย...มันเอาหลานไปเร่ขายห๊ะ”

    อินเนอร์จัดเต็มกับวาจาเชือดเฉือนภายใต้เสื้อผ้าซอมซ่อดึงสติพลับพลึงให้กลับมา หญิงสาวกวาดสายตามองการแต่งตัวชายหนุ่มอีกครั้งแล้วต้องเบียนหน้าไปทางอื่นยามเขาหันมาสบตา ใจไม่รักดีเต้นตึกตักอย่างหาสาเหตุไม่ได้ แต่ที่รู้คือการแต่งตัวที่ขัดกับบุคลิกของชายหนุ่มดึงเธอเข้าสู่ภวังค์ความเศร้า

    ครั้งหนึ่งเขาเคยหลอกเธอแบบนี้เพื่อให้เธอตายใจคิดว่าเขาจน ...แล้วครั้งนี้เขาทำไปเพื่ออะไร

    “นะ นี่มันอะไรกัน” วงเดือนเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอถามลูกสาว ตายังมองชายหนุ่มที่มาด้วยสภาพเหลือจะกล่าวไม่กะพริบ เสื้อยืดขาดจนย้วยชื้นด้วยเหงื่อแถมยังมีรอยคราบไคล กางเกงสีดำที่เหมือนจะดีแต่มีรอยเปื้อนของดิน สภาพเหมือนเพิ่งไปฟัดกับสุนัขมาสักสิบตัวทำให้วงเดือนถึงกับเรอยาวก่อนจะเป็นลมล้มพับ

    ผาณิตวิ่งเข้าไปประคองผู้เป็นแม่ไว้ได้ทันท่วงที พลับพลึงโผเข้าไปตามหลัง หยิบหนังสือมาพัดให้ยาย ส่วนวรนิตทำเพียงแต่ชักสีหน้าก่อนจะหันมาออกปากไล่กัลปพฤกษ์

    “ออกไป! ที่นี่ไม่ต้อนรับแก”

    “นี่บ้านเมียโผ้ม โผ้มจะอยู่” คนถือสิทธิ์ลมๆ บอกอย่างไม่หยี่ระ แสร้งเดินโซเซไปข้างหน้าสองก้าวแล้วถอยหลังอีกสาม มุมปากชายหนุ่มกดลึกยามเห็นวงเดือนปรือตาขึ้นมามองแวบหนึ่งก่อนจะเรอยาวอีกครั้ง

    “แม่ไม่ยอมนะอ้อย แม่ไม่เอามันเป็นหลานเขย” หญิงชราไม่ได้แกล้งหากแต่วูบไปจริงๆ ออดเสียงอ่อน เวทนาสังขารตัวเองไม่น้อยที่เห็นสภาพว่าที่หลานเขยแล้วถึงกับเป็นลมล้มพับ เทียบกับอดีตลูกเขยซึ่งก็คือสามีคนแรกของวรนิตนับว่าชายหนุ่มยังห่างไกลโข แต่ก็ใกล้เคียงกันไม่น้อย กลิ่นเหล้าขาวเหม็นคลุ้งยังให้วงเดือนนิ่วหน้า อดไม่ได้ที่จะนึกถึงอดีตของลูกสาว

    ส่วนวรนิตถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธและเกลียดสุดหัวใจ กลิ่นเหล้า สภาพการแต่งตัวสกปรกยังให้คำพูดหยาบๆ ผุดขึ้นมาในหัวเหมือนน้ำหลาก

    “แม่กลับไปก่อนเถอะจ้ะ” ผาณิตที่ยังครองสติได้ดีเอ่ยขึ้น ตกใจกับสภาพว่าที่ลูกเขยไม่น้อยไปกว่าคนอื่น หากแต่พอได้เห็นลูกมองค้อนผู้ชายคนนั้นก็เลยฉุกใจ

    “นี่เอ็งไล่แม่เหรออ้อย”

    “ไม่ใช่จ้ะแม่ แต่อยู่ไปรังแต่จะทะเลาะกัน”

    “แล้วเอ็งต้อนรับมันเรอะ ไอ้ขี้เหล้านั่นน่ะ” คนมีความหลังกับอดีตลูกเขยถึงกับน้ำตาคลอ มันเลวถึงขนาดเคยพุ่งมาตบนางด้วยซ้ำ ตอนนี้ความเลวที่ก่อทำให้มันไปชดใช้กรรมอยู่ในคุกได้หลายปีแล้ว

    “ไว้ให้เด็กมันคุยกันก่อนเถอะจ้ะแม่ ฉันยังไม่สรุปอะไรทั้งนั้น” คนที่ให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับแรกบอก เคยผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้จะไม่ให้พลาดเด็ดขาด

    “นี่ยังจะให้มันคุยกันเรอะ”

    “พอเถอะแม่ ปล่อยพวกใฝ่ต่ำไปเถอะ” วรนิตอดไม่ได้จึงแทรกขึ้น

    “แต่...”

    “กลับก่อนเถอะแม่ อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์” หญิงสาวถลึงตาบอกความนัยผู้เป็นแม่ ตอนนี้ต้องถอยไปตั้งหลักก่อน อยู่ไปรังแต่จะให้พวกมันแฉเธอมากกว่านี้

    วงเดือนยอมกลับไปแต่โดยดี โดยมีลูกกับหลานพยุงมาส่งที่รถ ผู้เป็นยายถึงกับน้ำตาคลอเมื่อหันมาพูดกับหลาน

    “คิดดีๆ นะพลับพลึง อย่าให้ความลุ่มหลงมันนำทาง”

    กัลปพฤกษ์ยืนกอดอกอยู่เชิงบันไดถึงกับส่ายหน้า ประโยคนั้นวงเดือนควรเก็บไว้เตือนตัวเอง ...อย่าให้ความลุ่มหลงนำไปในทางที่ผิด หลงไปกับเงินทอง หลงไปกับรูปทรัพย์สงศคารจนจิตใจมืดบอด

    ผู้บริหารหนุ่มที่มาในสารร่างของกุ๊ยถึงกับขบฟันแน่น หลายวันก่อนจะเดินทางเขาต้องโหมสะสางงานที่คลั่งค้างเพื่อมาที่นี่ ชายหนุ่มรับรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับพลับพลึงผ่านญาติผู้พี่ เป็นเรื่องบังเอิญและน่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ที่พลับพลึงอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกับคาวี แถมยังรู้จักมักจี่กันอีกด้วย หะแรกที่อ่านที่อยู่เธอในหนังสือเดินทางเขาเอะใจไม่น้อย ตอนเขาโทรศัพท์มาขอคำปรึกษา คาวีถึงกับมึนงง ซักฟอกเขาอยู่พักใหญ่จึงอุทาน

    นี่มันพรหมลิขิตหรืออะไรวะพริก พลับพลึงเด็กที่นายช่วยไว้เพิ่งโทร. หาพี่ไม่กี่นาทีก่อน น้องกำลังจะไปแจ้งความเอกสารหายและไปสถานกงสุล

    งั้นพี่คาวีอย่าเพิ่งบอกพลับพลึง อำนวยความสะดวกให้เขา เดี๋ยวผมจัดการเรื่องเจ้าหน้าที่ที่นี่เอง แล้วจะเอากระเป๋ากับหนังสือเดินทางไปรอน้องที่สนามบิน

    ทำไมไม่ให้เลยล่ะ ต้องไปแจ้งให้เสียเวลาทำไม

    ผมไม่อยากให้น้องรู้สึกอึดอัด ให้เขาทำสิ่งที่เขาอยากทำไป ส่วนผมก็จะทำในสิ่งที่ผมควรทำแต่แรก

    ยุ่งยากไปไหมวะ

    เรื่องมันไม่ง่ายตั้งแต่ผมคิดโกหกแล้ว ยังไงผมก็ขอบคุณพี่มากนะ

    เออๆ ว่าแต่เรื่องนี้พูดคุยในไลน์ได้ไหมวะพริก เผือกตัวพ่อถาม

    ตามสบาย ถ้าอากงผมรู้แล้วไปราวีพลับพลึง ผมจะโทษพี่แล้วกัน

    หนุ่มดอกไม้ขอความช่วยเหลือแถมยังข่มขู่ไปในที หากไม่จับได้ว่าคาวีเอ็นดูพลับพลึงไม่น้อย เขาคงไม่ใช้แผนนี้ อย่างไรเสียพักนี้ให้ไลน์กลุ่มเงียบสงบเป็นดีที่สุด ก่อนจะถูกคลื่นพายุถล่มอีกครั้งเมื่อเขาจัดการปราบพยศเด็กดื้อเรียบร้อย

     

    สองแม่ลูกเดินขึ้นบ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดี คนหนึ่งยังงงกับการได้เจอชายหนุ่มแปลกหน้าที่มาในสภาพไม่น่าชื่นชมนัก อีกคนกำลังตกใจกับการกฎตัวของเขาไม่หาย คำพูดของยายกับเสียงด่าทอของผู้เป็นน้าตอกย้ำว่าเธอไม่ฝันไป เป็นเขาจริงๆ เขามาที่นี่ มาในสภาพที่... แก้มสาวแดงก่ำด้วยความโกรธ หญิงสาวจ้องคนนั่งอยู่บนโซฟาหวายตาเขียวปัด กลิ่นเหล้าขาวโชยหึ่งไปทั่วบริเวณ

    “ยายหนูโกหกแม่ทำไมลูก” เห็นสภาพชายหนุ่มและท่าทางของลูกสาวแล้วผาณิตจึงต่อว่าอย่างอ่อนใจ

    “หนูเปล่านะจ๊ะแม่” หญิงสาวรีบปฏิเสธด้วยรู้ว่าแม่หมายถึงเรื่องอะไร เธอไม่ได้โกหก คนที่กำลังทำคือผู้ชายหน้ามึนคนนั้นต่างหาก

    “แล้วนี่หมายความว่ายังไง” นี่ของผาณิตหมายถึงว่าที่ลูกเขยที่เนื้อตัวมอมแมมแถมยังมีกลิ่นเหล้าโชยคลุ้ง

    “เอ่อ ให้ผมอธิบายได้ไหมครับแม่” ส่วนเกินที่ทำให้วงแตกเอ่ยขึ้น เหมารวบเรียกแม่แบบหน้ามึนๆ ไม่สนใจสายตาเขียวเรืองรองของสาวดอกไม้

    “อ้าว ไม่ได้เมาเรอะพ่อคุณ” ผาณิตเขม้นตามองชายหนุ่มที่ลุกขึ้นมาพูดเป็นการเป็นงาน “เมื่อตะกี้ไม่ใช่แบบนี้นี่” ตอนเถียงกับวรนิตชายหนุ่มยังทำท่าป้อแป้ผิดกับตอนนี้ที่ดูจริงจังขัดกับเสื้อผ้าและกลิ่นเหล้าหึ่งๆ นั่นเชียว

    “แกล้งเมาครับแม่ เหล้านี่อาบมา” หนุ่มเจ้าของฉายาพริกสิบเม็ดสารภาพไปตามตรง เรียกว่าอาบเหล้ามาก็ไม่ถูกนัก เขาราดมันลงตัว ที่สำคัญตอนนี้เริ่มจะเมากลิ่นพร้อมกับมีอาการอยากอาเจียนอยู่รอมร่อ เป็นเพราะรีบบึ่งรถมาที่นี่พร้อมกับข้าวของที่ให้คนสนิทไปตระเตรียมเลยทำให้ลืมกินข้าว เจอกลิ่นเหล้าขาวเข้าไปหน่อยเลยพลอยทำให้วิงเวียนท้องไส้ร้องโครกครากชอบกล

    “แกล้งเมา?”

    “ครับ ผมแกล้งเมา ได้ข่าวว่ายายเดือนปลื้มเลยอยากทำให้ประทับใจ”

    ผาณิตตบอกตัวเอง หันไปทางลูกสาวที่กำลังเบ้หน้าเหมือนถูกจับกลอกยาขม ทว่าสายตากลับเป็นประกายจนคนเป็นแม่อ่อนใจ เลี้ยงมาแต่ตีนเท่าฝาหอย มองแค่นี้ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกกำลังดีใจไม่น้อยที่ได้พบผู้ชายตรงหน้าอีกครั้ง

    “ไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ แล้วค่อยมาคุยกัน” ผาณิตชี้ไปทางห้องน้ำ “ส่วนพลับพลึงไปเอาเสื้อผ้าพ่อมาสักชุดไป เหม็นอับหน่อยแต่คงพอแก้ขัดได้”

    “แม่...” สาวดอกไม้ออด ยังตั้งรับไม่ค่อยทันแล้วก็ไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่สักเท่าไหร่

    “มีอะไรก็คุยกันให้รู้เรื่อง ก่อนอื่น...ต้องกำจัดกลิ่นเหล้านี่เสีย แม่เวียนหัว”

    “หนูก็เวียนหัวจะแย่เหมือนกันค่ะ” หญิงสาวหันไปค้อนให้คนนั่งหัวเราะแหะๆ อย่างเก้อเขินกับแผนการปรากฏตัวเพื่อให้วงเดือนประทับใจจนเป็นลมล้มพับ ไหง...กลายเป็นว่าเขาคือตัวมลภาวะเสียได้

    ชายหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ในขณะที่พลับพลึงถูกผู้เป็นแม่ไล่ให้ไปหาเสื้อผ้าพร้อมผ้าขนหนูมาให้เขา หนุ่มดอกไม้อมยิ้มแก้มป่องอย่างอดขำไม่ได้ตอนเห็นหน้าบึ้งๆ ของคนที่คิดถึงทุกขณะจิต เธอทำให้เขาทำงานไม่รู้เรื่อง แถมยังกินได้น้อยจนป้าแป้นออกปากบ่น พอสะสางงานเสร็จแล้วเขาบอกจะมาเมืองไทย ทุกคนในบ้านต่างอวยพรขอให้เขาพาดอกพลับพลึงกลับไปปลูกที่บ้านดอกไม้ให้ได้

    กัลปพฤกษ์ทำจมูกฟุตฟิตตอนถอดเสื้อผ้า จะว่าไปตัวเขามันก็เหม็นจับจิตจับใจจริงๆ ด้วย นับว่าพอลกับฟาลโคทำงานได้ดีเยี่ยม ทั้งชุดและพร็อพต่างๆ ทำให้วงเดือนประทับใจจนเป็นลม หนุ่มดอกไม้กดยิ้มเจ้าเล่ห์ หลังจากซักถามประวัติบรรดาญาติๆ ของพลับพลึงจากปากคาวีทางโทรศัพท์ เขาก็วางแผนต่างๆ นาๆ เอาไว้ในหัว หนึ่งในนั้นคือทำให้วงเดือนประทับใจ ทำให้วรนิตร้อนใจ คะเนจากสีหน้าคนทั้งสองนับว่ามันได้ผลยิ่งนัก

    เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่แก้ผ้าเตรียมชำระล้างร่างกายหลบอยู่หลังประตูก่อนปลดกลอนจากด้านใน แง้มบานประตูออกเพียงเล็กน้อยเพื่อโผล่หน้าออกไป

    พลับพลึงมองใบหน้าชายหนุ่มตาปริบๆ อย่างไม่อยากเชื่อว่าเขาได้มาอยู่ตรงหน้า กลิ่นเหล้าและรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้าหล่อเหลาช่วยยืนยันอีกครั้งว่าเธอไม่ได้ฝันไป

    “ยายเอ๋อ...พี่คิดถึงเรานะ” หนุ่มดอกไม้ออดเสียงอ่อนเหมือนมอดกัดไม้ ชายหนุ่มกล้าสาบานเลยว่านอกจากแม่เขาไม่เคยทำเสียงแบบนี้กับใคร

    “ยังคิดว่าหนูโง่อยู่เหรอคะ” หญิงสาวทำเสียงมึนตึง กำลังคิดว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์เหมาะสมกับการบอกรักฝากความคิดถึงสักเท่าไหร่ การที่เธอยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ส่วนเขายืนแก้ผ้าหลบอยู่หลังประตูห้องน้ำเนี่ยมันควรค่ากับฉากโรแมนติกตรงไหน

    “ไม่ได้เรียกเพราะโง่ซะหน่อย พี่เรียกยายเอ๋อเพราะเอ็นดู”

    “คุณมาที่นี่ทำไม”

    “มาหาเรานั่นแหละ ก่อนกลับไม่ยอมฟังพี่เลย” หนุ่มดอกไม้กัดปาก ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เขาจะทอดเสียงอ่อนเสียงหวานไปทำไมวะ

    “เรื่องของเรามันจบไปแล้วนี่คะ ส่วนเงินกับบัตรเครดิตของคุณ หนูตั้งใจจะส่งคืนให้อยู่แล้ว”

    “ไม่เอา พี่ให้แล้วให้เลยไม่รับคืน หัวใจพี่ก็เหมือนกันนะพลับพลึง”

    เจอรุกหนักตั้งแต่เช้า แก้มสาวเลยเป็นสีแดงประจานความรู้สึกตัวเอง กระนั้นเธอก็หาได้ปล่อยให้ตัวเองจมลึกไปกับความรู้สึกหลอกลวง เพราะบาดแผลที่มองไม่เห็นและเพิ่งหาสาเหตุได้มันยังเจ็บ

    “ยังแกล้งหนูไม่พอเหรอคะ”

    “พี่ขอโทษ ยอมรับว่าตอนแรกอยากหยอกเล่น แต่หลังๆ มันกลัวเลยไม่กล้าบอก”

    “หนูไม่ใช่ยักษ์ แค่คุณพริกสารภาพว่ารวยคงไม่ทำให้หนูกระโจนไปขบหัวคุณพริกหรอกค่ะ นอกเสียจากว่าคุณพริกกลัวหนูกระโจนเข้าไปจับเพราะรู้ว่าคุณพริกรวย” เด็กที่ทำหน้าดุยิ่งกว่ายักษ์ในความรู้สึกกัลปพฤกษ์บอก

    “ถ้ายังไม่รู้ก็รู้ไว้ซะนะ แค่เราถลึงตาทำหน้าดุใส่ ใจพี่ก็ล่วงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว ส่วนเรื่องจับพี่ไม่ว่าหรอก ตอนนี้ยืนให้จับดีๆ แบบไม่ต้องใช้กำลังเลย”

    ยิ่งเขาหยอด ความรู้สึกหญิงสาวยิ่งห่างไกลจากความหวั่นไหว ทั้งหมดเหมือนที่เขาเคยทำตอนอยู่อิตาลีเลย หากเปรียบเธอเป็นเหยื่อ เขาก็คือเจ้าป่าที่ค่อยๆ หลอกให้เหยื่อตายใจก่อนจะฆ่าอย่างเลือดเย็น

    “หนูไม่เชื่อ พอเถอะค่ะคุณพริก อย่าแกล้งหนูอีกเลย สิ่งที่คุณพริกทำมันสร้างความเดือดร้อนให้หนูกับแม่”

    “พี่จะรับผิดชอบเอง” จอมวางแผนที่มองเห็นเส้นชัยแต่แรกเริ่มบอก เดิมพันนี้เขาทุ่มทั้งหมดชีวิตเพื่อพิชิตตัวและหัวใจสาวดอกไม้

    “ยังไงคะ คุณพริกจะแต่งงานกับหนูเหรอ แต่งทั้งๆ ที่ทำให้ยายเข้าใจผิดว่าคุณพริกเป็นพวกกุ๊ยเนี่ยนะ” กลิ่นเหล้าขาวยังคงโชยคลุ้งตอกย้ำสิ่งที่ชายหนุ่มเพิ่งทำลงไป

    กัลปพฤกษ์เพิ่งรู้ว่าเปิดเกมพลาดเอาตอนนี้เอง เขามัวแต่คิดเอาชนะวงเดือนโดยลืมคำนึงถึงความรู้สึกพลับพลึง

    “พี่คิดน้อย พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มออด ถึงอย่างนั้นในใจก็ค้านว่ามันเป็นวิธีเดียวที่จะดัดหลังวงเดือนกับหักหน้าวรนิตได้ และที่สำคัญท้ายที่สุดตอนฐานะเขาเปิดเผยทุกคนก็จะยินดีกับพลับพลึงเอง

    “กะ...”

    “ยายหนูปล่อยให้พี่เขาอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” เสียงผาณิตดังขัดขึ้นก่อนที่พลับพลึงจะออกปากไล่ชายหนุ่ม สองหนุ่มสาวสบตากันก่อนฝ่ายสาวจะรีบยัดเสื้อผ้าพร้อมผ้าขนหนูในมือส่งให้ชายหนุ่ม กัลปพฤกษ์หัวเราะยามนึกขึ้นได้ว่าเขาและเธอพูดคุยกันแบบไหน ...ได้แก้ผ้าคุยกับสาวมันก็จะฟินๆ หน่อย

    ผาณิตค้อนไปทางห้องน้ำที่ลูกสาวกำลังเดินจากมา หล่อนใจไม่ดีตั้งแต่ได้ยินคำว่า

    ...จะยืนให้จับดีๆ แบบไม่ต้องใช้กำลังแล้ว

    “เด็กสมัยนี้นี่ยังไง พูดจาล่อแหลมไม่เกรงใจผู้ใหญ่!




    พี่พริกมาแล่วววววววววววววว

    ผู้โชคดีเหลือกี่เล่ม เดี๋ยวขอเช็กก่อนนะคะ 

    หนังสือยังจองได้ค่า

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×