ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    merMAID Princess!! เงือก เมด เจ้าหญิง ป่วน!

    ลำดับตอนที่ #1 : นิทานกล่อมนอนและคุณพ่อผู้บ้ามวยปล้ำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.76K
      10
      13 มิ.ย. 55

    บทนำ

     

                    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  สมัยที่ผืนสมุทรยังคงเป็นผืนเดียวกันและโลกยังไม่ถูกแบ่งเป็นสอง  ภายใต้ผืนน้ำสีฟ้ายังมีเจ้าหญิงเงือกน้อยคนหนึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ผู้เป็นราชาและราชีนีเงือกปกครองท้องทะเล  ทั้งสามมีชีวิตอย่างมีความสุขภายใต้ท้องสมุทรที่แสนกว้างใหญ่  เจ้าหญิงเงือกน้อยเป็นดั่งความภาคภูมิใจของราชาและราชินีเงือก  เจ้าหญิงเงือกน้อยมีสิริโฉมน่ารักน่าเอ็นดู  เทียบกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันแล้วเจ้าหญิงเงือกน้อยเป็นผู้ที่ร้องเพลงได้ไพเราะที่สุด  ไม่มีใครในท้องสมุทรที่ไม่รู้จักเจ้าหญิงเงือกน้อยในฐานะเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง  แต่ละวันของเจ้าหญิงน้อยมีแต่ความสนุกสนาน

     

    แต่ความสุขภายใต้ผืนน้ำสีครามนี้ก็มิอาจทำให้เจ้าหญิงเงือกน้อยเลิกสนใจเรื่องชีวิตบนผืนดินเหนือน้ำได้  ตั้งแต่เกิดมาเจ้าหญิงเงือกน้อยได้ฟังเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ของโลกเหนือผืนน้ำจากประสบการของเงือกตนอื่นมากมาย  ทั้งเรื่องท้องฟ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา  ดวงจันทร์  แสงดาว  หมู่เมฆ  สิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ที่เรียกว่านก

     

    และยานพาหนะประหลาดของพวกคนบนดินที่เรียกว่าเรือ

     

     กระนั้นเจ้าหญิงเงือกจะได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นเหนือน้ำเมื่อมีอายุครบ 15 ปีเท่านั้น  ดังนั้น  ดังนั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยจึงตั้งตารอคอยวันที่เธอจะมีอายุครบ 15 ปีอย่างจดจ่อ  ทุกวันเต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการต่างๆ มากมายถึงโลกเหนือน้ำ    

     

                    เมื่อเจ้าหญิงเงือกน้อยมีอายุครบ 15 ปี  เธอก็ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวเล่นเหนือน้ำสมใจอยาก  เธอแหวกว่ายขึ้นไปยลโฉมโลกเหนือน้ำที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยความหรรษา  ตื่นใจกับท้องฟ้าและหมู่เมฆอันกว้างใหญ่  แกล้งฝูงนกที่พยายามจะมากินหมู่ปลาให้ตกใจเล่น

     

    และแล้วโชคชะตาก็พาให้เจ้าหญิงเงือกน้อยได้พบกับเรือโดยสารลำหนึ่ง  บนเรือลำนั้นมีเจ้าชายหนุ่มรูปงามโดยสารมาด้วย

     

    เจ้าหญิงเงือกน้อยตกหลุมรักเจ้าชายยามแรกพบโดยทันที   

     

                    ทว่าโชคก็ไม่เข้าข้างเจ้าชายนัก  เมื่อเรือโดยสารของเจ้าชายประสบกับพายุอันเกรี้ยวกราดซึ่งได้กลืนกินเรือจมหายไปยังก้นทะเล  เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยก็รีบเข้าไปช่วยเจ้าชายกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย  ระหว่างที่เจ้าชายสลบไสลอยู่นั้นเจ้าหญิงเงือกน้อยได้ร้องเพลงขับกล่อมเจ้าชายด้วยน้ำเสียงอันไพเราะที่สุดในท้องทะเล  ท่วงทำนองของเธอสามารถสะกดได้ทุกอย่าง  แม้กระทั่งท้องฟ้าที่เกรี้ยวกราดยังสงบลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเสียงเพลงของเจ้าหญิงเงือกน้อย

     

                    ในที่สุดเจ้าชายรูปงามก็ฟื้นขึ้น  แต่บุคคลที่ช่วยเขาไว้นั้นได้หายไปแล้ว  เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสียงอันไพเราะนุ่มนวลในความทรงจำของเจ้าชายที่ขับกล่อมตลอดเวลาที่สลบอยู่  เจ้าหญิงเงือกน้อยที่ตกหลุมรักกับเจ้าชายอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้วจึงดั้งด้นไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล เธอปรารถนาอยากมีขาสองข้างที่จะทำให้เจ้าหญิงเงือกน้อยสามารถขึ้นไปบนบกได้  แม่มดแห่งท้องทะเลตอบตกลงทันที  แต่ก็มีเงื่อนไขคือเจ้าหญิงเงือกน้อยต้องแลกขาสองข้างน้ำเสียงอันไพเราะของเธอ  อีกทั้งเธอไม่อาจกลับไปยังบ้านเกิดและครอบครัวที่เธอรักยิ่งได้อีก  นอกจากนั้นหากเจ้าชายนั้นไปตกหลุมรักและแต่งงานกับหญิงอื่นเมื่อไร  เจ้าหญิงเงือกน้อยจะต้องกลายเป็นฟองมลายหายไปกับเกลียวคลื่นอย่างเดียวดาย...

     

     เจ้าหญิงเงือกน้อยได้ถูกม่านหมอกของความรักบังตาจนมืดบอดเสียแล้ว แม้ข้อแลกเปลี่ยนจะมีราคาแพงเหลือเกิน  แต่เธอก็ตอบตกลง  เจ้าหญิงเงือกน้อยได้สูญเสียน้ำเสียงอันงดงามแลกกับขาสองข้างเพียงเพื่อจะได้อยู่เคียงข้างกับเจ้าชาย

     

                    ในขณะเวลาเดียวกัน  กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่  พ่อของเจ้าชายรูปงามก็จัดการหมั้นหมายเจ้าชายกับเจ้าหญิงของเมืองข้างเคียง  แต่หัวใจของเจ้าชายนั้นได้มอบให้กับสตรีปริศนาที่ช่วยเหลือเขาเมื่อตอนเรือแตกไปเสียแล้ว  ทว่าเนื่องจากนางได้จากไปก่อนที่เขาจะได้เห็นใบหน้าของนาง  สิ่งเดียวที่เขาจำได้คือน้ำเสียงอันไพเราะที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมาในโลกนี้  เจ้าชายจึงได้แต่เฝ้าเดินตามชายหาดเพื่อที่ว่าเขาอาจจะได้พบกับนางในฝันผู้ที่มีเสียงอันไพเราะนั้นอีกครั้ง

     

                    หลังจากที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนกับแม่มดเรียบร้อยแล้ว  เธอจึงรีบรุดไปหารักแท้ทันที  เพียงพบว่าเจ้าชายนั้นจำเงือกน้อยไม่ได้แม้แต่น้อย  แม้เธออยากจะเอ่ยปากบอกความในใจของเธอเพียงใด  แต่เสียงก็ไม่ออกมาจากปากแม้แต่คำเดียว 

     

                    ในระหว่างนั้นเอง  กลับมีหญิงสาวอีกคนโผล่ขึ้นมาจากท้องทะเล  น้ำเสียงที่เธอเอ่ยเอื้อนออกมานั้นเป็นน้ำเสียงอันไพเราะของเงือกน้อย  หญิงสาวที่ว่าคือแม่มดแห่งท้องทะเลผู้ที่ช่วงชิงเสียงเงือกน้อยไปนั่นเอง!  เมื่อเจ้าชายได้ยินเสียงที่เหมือนกับเสียงในความทรงจำนั้น  ก็เข้าใจผิดคิดว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นนางในความทรงจำของตน  จึงได้ตกหลุมรักกับหญิงสาวที่ว่าทันที

     

                    น้ำตาของเธอไหลพรั่งพรูด้วยความโทมนัส  เงือกน้อยหัวใจแตกสลายในชั่วพริบตา  เมื่อนั้น  ร่างของเธอจึงค่อยๆ ถูกกลืนหายไปกับท้องทะเล  กลายเป็นฟองสลายไปกับเกลียวคลื่นที่ซัดโถมเข้าหาฝั่ง

     

    @@@@@@@@@@@@@

     

                    "ฮึก...ซิกๆๆ....ทำไม...ทำไมเจ้าหญิงเงือกถึงต้องตายด้วย....ซิกๆ"

     

                    บนเตียงอันอ่อนนุ่มภายในห้องนอนที่ถูกจุดสว่างโดยเทียนไข  เด็กหญิงตัวน้อยในอ้อมอกของมารดาร้องห่มร้องไห้ด้วยความเศร้าสร้อย  มารดาเห็นดังนั้นจึงเช็ดหน้าตาอันไร้เดียงสาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและขี้มูก  ก่อนจะลูบหัวอย่างแผ่วเบา  ปลอบปะโลมลูกน้อยอย่างอบอุ่น

     

                    "โธ่...แม่ไม่น่าเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟังเลย"

     

                    "มันเศร้ามากเลยนะคะ  ทั้งๆ ที่เงือกน้อยเค้าเสียสละขนาดนี้แท้ๆ แต่ทำไม...ทำไม"

     

                    เจ้าเด็กน้อยหลั่งน้ำตาอันไร้เดียงสาออกมาไม่หยุด  มารดาถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนก่อนค่อยๆ โอบกอดลูกน้อยด้วยความอ่อนโยน

     

                    "มันเป็นเพียงแค่นิทานเท่านั้น  เจ้าหญิงเงือกน้อยได้เลือกหนทางที่เธอต้องการแล้วละ  ถึงแม้ว่ามันจะนำพาความทุกข์ระทมมาสู่เธอก็เถอะ..."

     

                    "ต...แต่ว่า  มันผิดด้วยเหรอคะที่เงือกน้อยจะไปหลงรักเจ้าชาย  ทำไมเจ้าชายถึงได้โง่....โง่ๆๆๆ ได้ขนาดนี้ล่ะคะ  แม่มดนั่นล่ะที่เลว...แย่งเจ้าชายไปจากเจ้าหญิงเงือกน้อย"

     

                    เด็กน้อยยังคงส่งเสียงเจื้อนจ้อยไม่หยุด  ส่วนผู้เป็นแม่ก็ได้แต่มองเด็กน้อยในอ้อมอกด้วยความรัก กระนั้นแววตาของมารดากลับแฝงไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย และความเศร้าสร้อยที่พยายามจะแอบซ่อนไว้  แม่ลูบแก้มของเด็กน้อยอย่างนุ่มนวลพร้อมกับเอาหน้าผากตนมาแตะกับหน้าผากของลูกน้อย

     

                    "ฟังนะลูก  อนาคตต่อจากนี้ไปลูกอาจจะพบกับเหตุการณ์เหมือนกับเจ้าหญิงน้อยนั่นก็ได้  แต่แม่อยากให้ลูกเข้มแข็งไว้  อย่าได้ย่อท้อต่อความผิดหวังเหมือนเจ้าหญิงเงือกน้อยนะ  คนเรานั้นมีทางเลือกอยู่เสมอ  แม่อยากให้ลูกเลือกทางที่มีความสุขที่สุดสำหรับตัวของหนูนะ"

     

                    เด็กน้อยดูงุนงงกับคำพูดของมารดา  แต่มารดาก็ค่อยๆ อุ้มเด็กน้อยลงนอนบนเตียงราวกับวางผลงานศิลปะอันละเอียดอ่อนที่สุด  ก่อนจะจุมพิตกับหน้าผากของเด็กน้อยอย่างเปี่ยมไปด้วยความรัก

     

                    "ได้เวลานอนแล้วล่ะ  เจ้าหญิงตัวน้อยของแม่  แม่ขอโทษจริงๆ ที่เล่าเรื่องเศร้าให้ลูกฟัง  ประเดี๋ยววันหลังแม่จะเอานิทานที่ไม่เศร้ามาอ่านให้ฟังก็แล้วกัน"

     

                    "ไม่เป็นไรค่ะ  แค่ท่านแม่มาเล่าให้ฟังหนูก็ดีใจแล้ว"  ตาของเด็กน้อยที่จ้องมองมารดานั้นบวมช้ำเนื่องจากการร้องไห้  แต่มันก็เป็นสายตาที่มองมารดาด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ และเปี่ยมไปด้วยความรักที่เอ่อล้นออกมา

     

                    "ฝันดีนะลูก"

                   

                    มืออันเรียวบางของผู้เป็นมารดาค่อยๆ ปิดเปลือกตาของบุตรี  เธอจ้องมองหน้าลูกน้อยสักพักแล้วจึงเตรียมจะเป่าเทียนดับไฟในห้อง

     

    ทันใดนั้นเองเจ้าหญิงน้อยที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้วกลับลืมตาตื่นแป๋วขึ้นมาพร้อมกับเริ่มสาธยายสิ่งที่อยู่ในหัวอีกครั้ง

     

    "แต่ว่า  ถ้าหนูเป็นเจ้าหญิงเงือกนะ  หนูจะรีบวิ่งไปกระโดดดร็อปคิกถีบแม่มดนั่นแล้วจับทุ่มซูเพล็คสองตลบแล้ว...."

     

    ท่านแม่แทบจะสะดุดหกล้มกลิ้งเมื่อได้ยินคำพูดพิลึกๆ จากลูกสาวอันเป็นที่รัก 

     

    "ล...ลูกจ๋า...ไปเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหนกัน" มารดาจ้องมองตาที่จ้องแป๋วอย่างตื่นเต้นของลูกสาวอย่างเป็นกังวล  "หลับได้แล้วลูก  พรุ่งนี้ต้องมีเรียนภาษากลางแต่เช้าไม่ใช่เหรอจ๊ะ"

     

    "แต่ว่า..."

     

    "นอนได้แล้วนะ"  ถึงแม้ท่านแม่ยังยิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความรักอยู่  แต่ใบหน้าบัดนี้ดูเหมือนมีเส้นประสาทเดือดปุดๆ  ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  ลูกสาวตัวดีจึงรีบนอนคลุมโปงโดยพลัน

     

    "เชื่อพ่อเค้าเลย"  ท่านแม่บ่นอุบอิบก่อนจะดับเทียนในห้อง  "อุตส่าห์บอกแล้วบอกไม่รู้กี่ทีแล้วว่าไม่ให้เอาลูกไปดูมวยปล้ำด้วย"

     

    ........................................

    ..........................

    ................

    ........ 
                  ....





    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    Edit Log: April 12th, 2008: แก้คำผิด 
    Edit Log: July 29th, 2009: แก้คำผิด ขอบคุณท่าน olihime มากที่ช่วยชี้จุดแก้ให้นะครับ
    Edit Log: June 24, 2011: เริ่มมหกรรมรีไรท์กับแก้สำนวน
    Edit Log: June 13, 2012: รีไรท์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×