ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psalms of the New World

    ลำดับตอนที่ #4 : Confession of the Dangerous Mind (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 595
      0
      21 มิ.ย. 51

                    ในช่วงเย็นเตเต้ขอตัวไปเคลียร์การบ้านของอาทิตย์ก่อนที่เธอยังไม่ได้มา เรียน    ดังนั้นยุทธการคบเพลิงนี้จึงมีผู้เข้าร่วมเพียงสามคนคือแจ๊ส  คอนเน่  และ เมเปิ้ล  หลังจากนั้นไม่นานโต๊ะที่ได้รับความสนใจในห้องอาหารมากที่สุดก็ต้องถึงเวลาที่จะสลายโต๋ 
     

                  "เอาล่ะ งั้นเดี๋ยวเราต้องหาอุปกรณ์กันก่อน...อืมมม ต้องมีสายสิญจณ์ น้ำมนตร์ แล้ว..."

     
                  "เอ่อ แจ๊ส...อีกไม่กี่นาทีจะเริ่มการเรียนการสอนแล้วนะ"  เมเปิ้ลทักแจ๊สที่ทำท่าจะลากพวกเธอไปทำเรื่องแปลกๆ อีกแล้ว

     
                  "อ้อ  ไม่เป็นไรหรอก  งั้นพวกเธอไปเรียนก็แล้วกัน  เดี๋ยวชั้นจะหาอุปกรณ์ระหว่างนี้เอง"  

     
                  สรุปแล้วอาเจ๊แจ๊สก็โดดเรียนคาบบ่าย

     
                  "แต่ว่า...มีกันแค่ 3 คนเอง  น่าจะมีคนมากกว่านี้อีกซักหน่อย"  แจ๊สเปรยออกมา

     
                  "คือว่า..."  คอนเน่ดึงแขนเสื้อของแจ๊สเบาๆ  แล้วจึงชี้ไปยังตรงโต๊ะที่อยู่หลืบริมสุดของโรงอาหาร  "แล้วเมลิซซ่า กับแพทตี้ล่ะ?"

     
                  หนึ่งในสองคนที่คอนเน่พูดถึงก็คือเมลิซซ่า  ที่เป็นทั้งรูมเมทของเมเปิ้ลและเป็นทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดูแลความเรียบร้อยตัวยุ่งที่คอยขัดแข้งขัดขาแจ๊สมาตลอด  ส่วนอีกคนที่คอนเน่เรียกว่าแพ็ทตี้เป็นสาวน้อยร่างเล็กที่ดูเหมือนกับตุ๊กตาน้อยๆ ที่น่ารัก  ผมสีบลอนด์แพลทตินั่มของเธอผูกเป็นเปียสองข้างยาวราวผ้าไหม  ผิวขาวเนียนดูนุ่มนิ่มไร้ซึ่งราคีน่าทนุถนอมตรงกันข้ามกับบุคคลอีกคนที่เธอนั่งคุยอยู่ด้วยเลย  แพทตี้  ชื่อจริงคือ  แพทริเชีย  ซาติน  เป็นนักเรียนชั้นปีที่สอง  ดังนั้นเธอจึงใส่เครื่องแบบต่างจากทั้งเมเปิ้ล หรือเมลิซซ่า  เมเปิ้ลเคยเจอเธอมาแล้วตั้งแต่วันแรกที่มาถึงโรงเรียนนี้  จำได้ว่าปกติทั้งสองมักจะอยู่คู่กันเป็นปาท่องโก๋เสมอ 


                 ทั้งสองนั่งคุยกันสองต่อสองราวกับว่าตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง  ทั้งสีหน้าและรอยยิ้มของเมลิซซ่าในตอนนี้กับใบหน้าอันเกรี้ยวกราดของเมื่อเช้าดูจะเหมือนเป็นความฝันไปโดยสิ้นเชิง  ในขณะเดียวกัน  แพทตี้ก็ดีเหมือนจะมีความสุขมากที่ได้นั่งคุยกับเมลิซซ่า


                 "ช่างสองคนนั่นเหอะ...ปล่อยให้พวกนั้นอยู่ในโลกส่วนตัวต่อไปเถอะ"  แจ๊สเมินทั้งสองก่อนจะเดินจากไป  "ชั้นถือว่าพวกนั้นเป็นแค่สมาชิกผีที่ใส่ชื่อไปพอจะให้ชมรมมันมีคนครบๆ เท่านั้นล่ะ" 


                 แล้วทั้งกลุ่มก็แยกย้ายกันไปเรียนในคาบต่อไป  แต่ก่อนออกจากโรงอาหารเมเปิ้ลแอบชำเลืองดูเมลิซซ่า  มือจับกำไลสีทองไปมา  แล้วจึงค่อยเดินทางต่อ


    @@@@@@@@@@@@@@@@


                  คาบต่อไปของเมเปิ้ลคือวิชาธรรมชาติศึกษา  คราวนี้เมเปิ้ลไปถึงห้องเรียน 10 นาทีก่อนเริ่มเรียนเป็นคนแรกของห้อง  ยังดีที่เตเต้เรียนวิชานี้ด้วยทำให้เธอไม่ต้องนั่งคนเดียว  สุดท้ายแล้วอาจารย์ที่สอนคาบนี้มาสายไป 15 นาที   อาจารย์ทาเทียน่าเป็นสูงเพรียว  อายุประมาณ 27 กว่าๆ  ผิวสีดำราวกับนิลที่ส่องประกายใต้แสงจันทร์  แต่ถ้าไม่มีแสงจันทร์ตัวอาจารย์ก็แทบจะล่องหนได้เลยทีเดียวนอกจากอาจารย์แกจะยิงฟันและลืมตา  ตอนที่อาจารย์มาถึงมีนักเรียนมาถึงราวซัก 4 ถึง 5 คนจากที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมดเกือบ 20 คน  ซึ่งมันก็คงจะเป็นเช่นนั้นเพราะอาจารย์ดันไม่เช็คชื่อหรืออะไรทั้งนั้น  ใครจะมาหรือไม่มาก็เรื่องของนักเรียน 


                   นิสัยอาจารย์ใจดี และเป็นกันเองผิดกับหน้าตาลิบ  ภายในชั่วโมง  อาจารย์พานักเรียนออกเดินชมนกชมไม้ภายในโรงเรียนเป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้หนังสือ  ระหว่างพาเดินชมต้นไม้ต่างๆ  อาจารย์ก็เข้ามาทักทายเมเปิ้ล


                  "เธอคือเมเปิ้ล  ซายราสที่ค้าวพูดถึงซีนา"  อาจารย์ทาเทียน่าจับมือทักทายกับเมเปิ้ล


                  "ค...ค่ะ"


                  "ม่ายต้องอายปายหรอก  สมัยก่อนตอนเพิ่งออกจากป่าหม่ายๆ  สามเนียงครูก็แปร่งๆ อย่างนี้ลา  พูดไปซ้ากพ้ากมานก็จาเข้าที่เองล่ะ  ขืนไม่พูดเลยแล้วจะเปลี่ยนมันได้ยังไงล่ะ  จริงมั้ย" 


                  "ค...ค่ะ  หนูจะพยายามค่ะ"


                  "เห็นม้าย เสียงหนูออกจาน่าร้ากออก"  ว่าแล้วอาจารย์ก็ลูบหัวเมเปิ้ล  "เดี๋ยวครูปายสอนต่อลาน้า  เดี๋ยวครูจาเรียกถามเธอเปนราย้าๆ  จาด้ายฝึกพูดงาย" 


                  แล้วก็จริงอย่างที่อาจารย์ว่าไว้  อาจารย์แทบจะถามเมเปิ้ลตลอดคาบทำเอาเมเปิ้ลเหนื่อยไปเลย


                  "เป็นไง  อาจารย์เค้าใจดีออกนิ"  เตเต้มานั่งข้างๆ  เมเปิ้ลระหว่างพัก


                  "ก็ดี..."  เมเปิ้ลตอบห้วนด้วยความเหนื่อยจากการที่ต้องพูดแทบทั้งชั่วโมง


                  "สนิทกับอาจารย์ไว้ก็ดีนิ  เพราะอาจารย์ก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมข่าวกระบือบ๊องด้วยนิ  คงจะได้เจอกันบ่อยๆนิ"


                  "เหรอ...เธอนี่รู้เยอะจังเลยนะ  ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าพร้อมๆ กับฉันแท้ๆ"  เมเปิ้ลหันไปมองหน้าเตเต้ 


                  “แฮะๆๆ  พอดีคือว่าเพื่อนๆ  เค้าบอกๆ กันมานิ"  


                  เตเต้หัวเราะแห้งๆ  จากนั้นไม่นานอาจารย์ทาเทียน่าก็เรียกให้ทุกคนไปดูตัวหนอนกำลังฟักตัว  เตเต้ก็รีบลุกไปทันที  ทิ้งให้เมเปิ้ลมองตามหลังด้วยสายตาแบบมีเลศนัย  โดยมือของเมเปิ้ลลูบกำไลสีทองไปมา


    @@@@@@@@@@@@@


                 "ช้าจริงๆ เลย  ให้ตายเซ่!" 


                 เวลา 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียนเมเปิ้ลมีนัดทำความสะอาดที่ห้องสมุด  เมื่อไปถึงแจ๊สที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำตาลกับคอนเน่ยืนรออยู่หน้าห้องสมุดก่อนแล้ว


                 "ขออภัยด้วย  พอดีเดินวนหาห้องสมุดตั้งนานกว่าจะเจอ"  เมเปิ้ลตอบ


                 "ช่างมัน  รีบๆ ไปทำงานซะให้เสร็จเถอะ  เดี๋ยวจะได้เริ่มทำเรื่องของเรากันต่อ"  แจ๊สกวักมือเรียกเมเปิ้ลให้เข้าไปข้างในห้องสมุด 


                 อาคารตรงหน้าที่มีป้ายเขียนว่า ห้องสมุด  เป็นเพียงอาคารเล็กๆ โทรมๆ ขนาดประมาณแค่โรงจอดรถตั้งอยู่ริมทะเลสาบ  เมเปิ้ลถึงกับสงสัยว่านี่หรือคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดของอาราเนีย  แต่เมื่อก้าวผ่านประตูบานใหญ่  ลมเย็นเฉียบก็ตีเข้ามาใส่หน้าอย่างจังจนทำเอาเมเปิ้ลที่ไม่ทันได้เตรียมตัวขนลุกซู่  ปรากฏว่าภายในอาคารมีเพียงบันไดสุดหรูปูด้วยพรมสีสดเรืองแสงนำทางไปยังชั้นใต้ดินที่อยู่ลึกไปอีกหลายเมตร  เมื่อถึงชั้นใต้ดิน  เมเปิ้ลก็ยิ่งต้องขนลุกซู่ยิ่งขึ้นเมื่อได้ยลโฉมกับภาพเบื้องหน้า


                  ชั้นหนังสือสูงๆ  นับร้อยนับพันเรียงรายกันเป็นแถวยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา  หนังสือเรียงเป็นตับชั้นแล้วชั้นเล่าถูกวางเรียงรายกันจนแทบจะทำให้ห้องสมุดกลายเป็นเขาวงกตไปเลย  เหนือหัวขึ้นไปเป็นทิวทัศน์ของใต้ผืนทะเลสาบสีฟ้าใส  มีหมู่ปลาน้อยใหญ่เวียนว่ายไปมาราวกับหมู่ดาราบนท้องฟ้า  แสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องทะลุผืนน้ำสร้างแสงสว่างสีทองอร่ามให้กับห้องสมุดทั้งห้อง  ดูไปดูมาห้องสมุดนี้อาจจะเหมือนกับเป็นอควอเรี่ยมโชว์สัตว์ใต้น้ำซะมากกว่าด้วยซ้ำ


                  "ตามมาเร็วเข้า"  แจ๊สตะโกนเรียกเมเปิ้ลที่ยังยืนตะลึงบนบันได


                  เมเปิ้ลและคอนเน่ต้องไปรายงานตัวที่บรรณารักษ์ก่อนเพื่อรับหน้าที่ที่บรรณารักษ์จะมอบหมายงานให้  ทั้งสามเดินไปยังเคาท์เตอร์ที่อยู่ไม่ห่างจากบันไดนัก 


                   "แจ๊ซซี่  คอนเน่ แล้วก็เมเปิ้ล  ยินดีต้อนรับสู่ห้องสมุดค่า" 


                   บุคคลที่กล่าวทักทายทั้งสามจากหลังเคาท์เตอร์นั้นคือสาวน้อยที่นั่งรับประทานอาหารกับเมลิซซ่าเมื่อตอนกลางวัน  แพทตี้นั่นเอง  หน้าตาอันหน่อมแน้ม  บ้องแบ้ว  บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ ยิ้มหวานให้กับทั้งสามอย่างเป็นกันเอง  นัยน์ตาสีน้ำตาลใสอันกลมโตดูมีมนต์เสน่ห์จนแทบจะดึงดูดให้ทุกคนเข้ามาลูบหัวเล่น


                   "อ้าว  วันนี้เวรเธอเหรอ"  แจ๊สเดินไปชิดกับเคาท์เตอร์ทักด้วยด้วยความเป็นกันเอง


                   "ค่ะ...วันนี้เป็นเวรของแพทตี้เองค่า  อยู่จนถึงห้องสมุดปิดเลยค่า"  ทั้งๆ ที่อยู่ปีสอง  แต่แพ็ทตี้ก็คุยราวกับว่าทุกคนเป็นรุ่นพี่  "อ้อ...เกือบลืมแนะคะ  อาจารย์ฟลอร่าฝากให้แพทตี้จัดการใช้งานทั้งคอนเน่และเมเปิ้ลได้เต็มที่เลยน่ะค่ะ"  แพทตี้หันไปยิ้มหวานให้กับทั้งสอง  เมเปิ้ลเองก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป


                    เมเปิ้ลหันไปดูรอบๆ ห้องสมุดอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้แล้วนึกในใจว่าจะจัดการมันเสร็จได้ยังไง


                    "งั้นแพ็ทตี้มอบหมายงานให้เลยแล้วกันนะค่ะ  ความจริงอาจารย์ฟลอร่าอยากให้ถูพื้นโดยไม่ให้ใช้เวทมนตร์  แต่ว่าพอดีพวกแพทตี้เพิ่งทำไปเมื่อวานก่อนนี่เอง  งั้นเดี๋ยวอยากให้คอนเน่กะเมปี้ไปช่วยจัดเก็บหนังสือหน่อยละกันค่า  เดี๋ยวอีกสักครู่ตามแพทตี้มาเลยก็แล้วกัน" 


                   ว่าแล้วแพทตี้ก็โบกไม้คฑา  สักพักหนังสือเป็นสิบๆ เล่มก็ต่างลอยไปเรียงเป็นตั้งๆ บนรถเข็นอย่างเป็นระเบียบ


                  "งั้นเราไปกันเถอะค่า"  แพทตี้สับเปลี่ยนเวรกับนักเรียนปีสองอีกคนหนึ่งก่อนจะมาเดินรวมกลุ่มกับพวกแจ๊ส


                  "นี่แพทตี้  ชั้นมีเรื่องจะขอร้องหน่อย"  แจ๊สเดินเข้าไปกระซิบข้างๆ แพทตี้


                  "คะ?"


                 แล้วแจ๊สก็ก้มตัวไปกระซิบอะไรซักอย่างข้างๆ หูแพทตี้สักครู่  ซึ่งแพทตี้ก็พยักหน้าหงึกๆ ตาม


                  "ตกลงตามนี้นะ"  แจ๊สตบไหล่แพ็ทตี้เบาๆ


                  "รับทราบค่า"  เธอยิ้มตอบรับ  แต่ดูเหมือนเธอจะนึกเรื่องอะไรบางอย่างออก  "อ้อ  แจ๊ซซี่  พอดีแพ็ทตี้เพิ่งนึกออกว่าวันนี้เวรรักษาความปลอดภัยของห้องสมุดเป็นของเมลิซซ่านะค่ะ  คือว่า..."


                  "ไม่เป็นไรหรอกน่า  ก็แค่เราจัดการเรื่องให้เสร็จก่อนที่ยัยนั่นจะมาเจอก็พอ"  แจ๊สกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ


                 "แต่ว่า...ซิก...แต่ว่า  เมื่อครั้งก่อนเมลิซซ่าก็..."  แพทตี้เงยหน้ามองแจ๊สด้วยสายตาที่เด็กน้อยกำลังมีปัญหาน้ำตากำลังจะคลอเบ้า


                 "ไม่เป็นไรหรอก  พวกชั้นไม่ก่อปัญหาให้เมลิซซ่าหรอกน่า  วางใจได้เลย  ถึงยังไงยัยนั่นก็เป็นสมาชิกชมรมคนนึงด้วยนี่นา  ยัยนั่นน่าจะเข้าใจอยู่แล้ว"  แจ๊สเช็ดน้ำตาที่คลอเบ้าของแพทตี้แล้วจึงขยี้หัวของแพทตี้ด้วยความเอ็นดู  "ไงๆ ซะยัยนั่นก็เพื่อนของพวกเราเหมือนกัน"


                "ค่า...รับทราบค่ะ  งั้นแพ็ทตี้จะทำหน้าที่ในฐานะของสมาชิกชมรมข่าวกระบือบ๊องให้ดีที่สุดค่า"  แพทตี้ทำมือตะเบ๊ะอย่างน่ารัก 


                เมเปิ้ลสาบานได้เลยว่าแว่บนึงระหว่างที่แพทตี้กำลังเช็ดน้ำตา  แจ๊สหันมาแลบลิ้นอย่างเจ้าเล่ห์ให้เมเปิ้ลเห็น


                "เมื่อกี๊คุยอะไรกับแพทริเชียเหรอ"  เมเปิ้ลกระซิบถามแจ๊ส


                "อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก...แค่บอกว่าขอแอบอยู่ในห้องสมุดต่อตอนปิดแค่นั้นเอง" แจ๊สตอบ


                "แล้วมันจะไม่เป็นไรหรือ"


                "เป็นสิ  โดนจับได้ละก็แค่โดนกักบริเวณแค่นั้นเอง  คงไม่แย่ไปกว่าเมื่อวานร๊อก"  แจ๊สพูดออกมาเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติซึ่งเมเปิ้ลก็ได้แต่ปลง


                แล้วทั้งสามก็เดินตามแพทตี้ที่เดินเข็นรถเข็นไปตามซอกซอยของเขาวงกตชั้นหนังสือ  คอนเน่คอยเดินตามหลังเกาะแจ๊สซะแน่นเนื่องจากบรรยากาศมันวังเวงเหมือนจะอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ  ถึงแม้จะยังมีแสงส่องลงมา  แต่บรเวณภายในทางเดินก็ค่อนข้างจะมืดสลัว  เนื่องจากว่าต้องการรักษาเนื้อกระดาษของหนังสือไม่ให้เสียจากการสัมผัสแสงแดดมากเกินไป  มันใช้เวลาสักครู่กว่าจะไปถึงจุดหมาย  มันเป็นลานทรงกลมที่เส้นทางทุกเส้นมาบรรจบกัน  โดยบนพื้นมีลวดลายอักขระแปลกๆ


                "เอาล่ะ  คอนเน่กับเมเปิ้ลช่วยขนหนังสือลงมากองกับพื้นหน่อยนะค้า  พอดีตรงนี้มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนกับเวทมนตร์อื่นนะค่า"


                ว่าแล้วก็ได้เวลาใช้แรงงาน  เมเปิ้ลกับคอนเน่ต้องช่วยกันขนหนังสือกองแล้วกองเล่ามาวางกับพื้น  แจ๊สอาสาจัดหนังสือทุกเล่มให้เป็นกองๆ ตามที่ต้องการ  ส่วนคอนเน่ยกได้ไม่กี่กองก็เหนื่อยหอบแฮ่กๆ  จนสุดท้ายหนังสือทุกเล่มก็ถูกยกมาเรียงรอบๆ แพทตี้


               "ทุกคนถอยไปก่อนค่า" 


               แพทตี้เคลียร์พื้นที่  เมื่อทุกคนออกนอกวงอักขระแล้วแพทตี้ก็หลับตาตั้งสมาธิ  จู่ๆ ลวดลายบนพื้นก็เริ่มเรืองแสง  หนังสือรอบๆ ตัวแพทตี้ก็เริ่มลอยขึ้นมา  แล้วมันก็พุ่งไปยังยังทิศต่างๆ ทีละเล่มๆ


               "แพทริเชียทำอะไรอยู่น่ะ"  เมเปิ้ลกระซิบเบาๆ


               "จัดหนังสืออ่ะ  อย่างที่รู้ว่าห้องสมุดมันใหญ่แค่ไหน  ขืนหาที่ของหนังสือแต่ละที่ก็คงเหนื่อยตายก่อน  ที่แพทตี้ทำนะคือตั้งสมาธิให้หนังสือมันไปอยู่ในที่ๆ มันควรจะอยู่นะ"  แจ๊สกระซิบตอบ  "แต่ว่ายัยนี่ไม่คล่องงานเล้ย  ช้าเหลือเกิ๊น"


               ในที่สุดแจ๊สก็หมดความอดทน 


               "มา  เดี๋ยวชั้นจัดการเอง" 


               แจ๊สไม่รอช้าลากแพทตี้ออกมาจากวงเวทก่อนจะไปยืนแทนที่  ซักพักวงเวทก็เรืองแสงจ้ากว่าทีแรก  แถมหนังสือที่เคยลอยไปช้าๆ ก็พุ่งรัวเป็นปืนกล


               ทั้งเมเปิ้ล และคอนเน่ต่างมองด้วยความตะลึง  มีแต่แพทตี้ที่ดูรู้อยู่แต่แรกแล้ว


               "แจ๊ซซี่เค้ามาอ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่บ่อยๆ นะจ๊ะ  เรื่องฝีมือการใช้ห้องสมุดนี่เผลอๆ จะเหนือกว่าทุกคนในชมรมห้องสมุดเลยนะค่ะ" 


                หลังจากนั้นเมเปิ้ลกับคอนเน่ก็ถูกขอร้อง (ใช้)  ให้ไปเอาหนังสือมาเก็บเพิ่ม  ส่วนแพทตี้ต้องคอยอยู่คุมแจ๊สเพราะมันความจริงมันเป็นหน้าที่ของแพทตี้  ซึ่งทั้งสองก็ต้องวนกลับไปยังเคาน์เตอร์อีกรอบ  เนื่องจากทั้งสองไม่อนุญาตให้ใช้เวทมนตร์ช่วยงาน  ดังนั้นพวกเธอจึงต้องยกหนังสือทีละกองไว้บนรถเข็นแล้วเข็นรถเข็นอันหนักอึ้งกลับมา  ทีแรกทั้งสองตกลงกันว่าจะช่วยกันเข็น  แต่พอเข็นไปได้ไม่เท่าไรคอนเน่ก็หมดแรงเอาซะดื้อๆ  เมเปิ้ลเลยต้องเข็นคนเดียวตลอดทาง


                นอกจากจะต้องคอยจัดส่งหนังสือแล้ว  พวกเธอยังต้องคอยตรวจเช็คหนังสือบนชั้นทีละชั้นมาอยู่ผิดที่ผิดทางหรือไม่  ถึงแม้ว่าแจ๊สจะทุ่นเวลาลงไปได้เยอะ  แต่เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ห้องสมุดเองก็เริ่มมืดลงเรื่อยจนต้องจุดตะเกียงเพื่อมองทาง


                 "นี่มันได้เวลาปิดแล้วนี่นา"  แพทตี้กล่าวด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงระฆัง 


                 "ไม่เป็นไร  เดี๋ยวพวกชั้นจะแอบอยู่ที่นี่ต่อ  ตกลงนะ"  แจ๊สกระซิบ


                 "ก็ได้  งั้นเดี๋ยวแพทตี้จัดการเรื่องเซ็นรับรองว่าคอนเน่กับเมเปิ้ลทำงานเสร็จแล้วกันนะค่ะ  งั้นแพ็ทตี้ของตัวก่อนละค่ะ"  แพทตี้อำลาเบาๆ ก่อนจะเดินจากไปในความมืด  ทิ้งไว้ให้สามสาวที่เหลืออยู่กันตามลำพัง


                  แจ๊สมองไปรอบๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นพวกเค้าแล้ว 


                  "เอาล่ะ ดับตะเกียงซะ"  แจ๊สสั่งคอนเน่ที่ถือตะเกียงอยู่


                 "เอ๋"


                 "เดี๋ยวคนอื่นเค้าเห็นหมด  เธอก็ใช้จมูกดมแทนเซ่" 


                 คอนเน่ลังเลอยู่พักนึงจนกระทั่งแจ๊สต้องแย่งตะเกียงมาดับเอง  ทันทีที่ดับตะเกียงทุกอย่างก็พลันมืดลงทันที  คอนเน่เกือบจะร้องกรี๊ดออกมา  แต่แจ๊สก็เอามือปิดปากไว้ทัน  ส่วนเมเปิ้ลก็ยังมีสีหน้าปรกติ  เพียงแต่คลำตรงกำไลสีทองไปมา


                 "เอาล่ะ  เรามาสรุปสถานการณ์ก่อนนะ"  แจ๊สกระซิบให้ทุกคนได้ยิน  "หลังจากประชุมเมื่อตอนกลางวันชั้นก็ไปหาข้อมูลมาเพิ่มอีก  ตอนแรกชั้นก็สงสัยว่ามีใครใช้เวทมนตร์เล่นตลกหรือปล่าว  แต่เท่าที่พวกชมรมห้องสมุดตรวจดูแล้วไม่มีร่องรอยของเวทมนตร์เลย  ถึงถ้ามีจริงวงเวทที่ใช้เก็บหนังสือต้องได้รับผลแล้ว  แสดงว่าเรื่องนี้มีเค้าแน่"  แจ๊สค่อยๆ เล่าเบาๆ อย่างตื่นเต้น


                  "ส...ส...สรุปว่าม...ม...มันเป็นผีจริงๆ เหรอ"  คอนเน่กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทิ้ม


                  "ชั้นก็หวังให้เป็นอย่างงั้นแหละ  ต่อจากที่ค้างไว้ดีกว่า  ตอนนี้ประเด็นคือว่าจะหาโซนหนังสือนั่นเจอได้ยังไง"


                  "จะให้เราเดินวนหาทั้งห้องสมุดเนี่ยนะ"  เมเปิ้ลถามขึ้นมา


                  "เปล่า  จำได้มั้ยว่าตอนที่พวกเธอขนหนังสือจากรถเข็นนะ  ตอนที่ชั้นอาสาช่วยจัดหนังสือนั่นนะ  ชั้นก็แอบป้ายน้ำหอมจางๆ กลิ่นต่างกันไว้บนหนังสือทุกเล่มเลย  ดังนั้นถ้าเราตามกลิ่น..."


                 "เดี๋ยวๆ"  เมเปิ้ลแย้ง  "แล้วจมูกใครมันจะดีขนาดนั้นล่ะ"


                 "หึ  ใครน้อจะมีจมูกดีขนาดนั้น"  แจ๊สเอื้อมมือไปกอดคอคอนเน่  "เนอะคอนเน่...ใครมันจะจมูกดมกลิ่นได้ดีเหมือนหมากันเล่า"


                 "แต่ว่า  หนังสือที่เราเก็บวันนี้อาจจะไม่ได้มาจากโซนหนังสือโซนนั้นก็ได้นะ"


                  "อ๋อ...เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง  ช่วงบ่ายว่างๆ ชั้นมานั่งเล่นที่ห้องสมุดไปพลาง  เอาหนังสืออย่างละเล่มจากทุกโซนหนังสือมาอ่านเล่นไปพลางๆ..."  แจ๊สพูดอย่างสบายใจ


                  "งั้นหมายความว่าหนังสือที่ฉันขนมาตลอดก็คือ..." 


                 "ถูกต้อง...พวกนั้นคือหนังสือที่ชั้นอ่านเองล่ะ"  แจ๊สตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน  "ระบบค้นหาหนังสือของที่นี่ใช้เวทมนตร์ในการช่วย  ชั้นเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันมาจากไหนบ้าง  แค่สั่งให้พวกมันลอยมาเป็นตั้งๆ แค่นั้นเอง"    


                 เมเปิ้ลแทบฉุนขาด  ที่แท้หนังสือกองพะเนินที่เธอแทบจะต้องเข็นมาคนเดียวนั้นเป็นผลงานของแจ๊สนี่เอง 


                  "เอาล่ะ  มาต่อกันดีกว่า  ตอนที่ชั้นอาสาช่วยจัดเรียงหนังสือแทนแพ็ทตี้นะ  เพราะว่าชั้นต้องการตามตามรอยของหนังสือว่ามันจะไปที่ไหนบ้าง  ชั้นจับจุดผิดปรกติได้ประมาณ  9 จุด  เราจะตีกรอบโซนหนังสือที่ต้องสงสัย 9 จุดนั่นแหละ  เพราะฉะนั้น..."  แจ๊สหยิบของบางอย่างจากแจ๊กเก็ตของเธอ  มันคือเชือกเส้นยาว 


                  "เราจะผูกติดกันไว้จะได้ไม่หลง  โอเค๊  คอนเน่จะเป็นคนนำ"


                 "เอ๋!"  คอนเน่อุทานด้วยความตกใจ


                 "ชู่ว์...เงียบหน่อย  เธอนั่นล่ะนำ  เพราะเธอต้องเป็นคนนำทางไปยังจุดทั้ง 9 จุดนั่น  ส่วนชั้นจะอยู่ตรงกลางคอยสั่งการ  เมเปิ้ลรั้งท้ายระวังหลัง  เอาตามนี้นะ"  ว่าแล้วแจ๊สก็ค่อยผูกเชือกที่เอวทุกคนต่อๆ กัน 


                 "เอาล่ะ  คอนเน่นำไปเลย  กลิ่นแรก เชอร์เบ็ต" 


    @@@@@@@@@@@

    Edit Log: June 21th, 2008: แก้ ค่า เป็นค่ะบางส่วน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×