คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Confession of the Dangerous Mind (1)
ในช่วงเย็นเตเต้ขอตัวไปเคลียร์การบ้านของอาทิตย์ก่อนที่เธอยังไม่ได้มา เรียน ดังนั้นยุทธการคบเพลิงนี้จึงมีผู้เข้าร่วมเพียงสามคนคือแจ๊ส คอนเน่ และ เมเปิ้ล หลังจากนั้นไม่นานโต๊ะที่ได้รับความสนใจในห้องอาหารมากที่สุดก็ต้องถึงเวลาที่จะสลายโต๋
"เอาล่ะ งั้นเดี๋ยวเราต้องหาอุปกรณ์กันก่อน...อืมมม ต้องมีสายสิญจณ์ น้ำมนตร์ แล้ว..."
"เอ่อ แจ๊ส...อีกไม่กี่นาทีจะเริ่มการเรียนการสอนแล้วนะ" เมเปิ้ลทักแจ๊สที่ทำท่าจะลากพวกเธอไปทำเรื่องแปลกๆ อีกแล้ว
"อ้อ ไม่เป็นไรหรอก งั้นพวกเธอไปเรียนก็แล้วกัน เดี๋ยวชั้นจะหาอุปกรณ์ระหว่างนี้เอง"
สรุปแล้วอาเจ๊แจ๊สก็โดดเรียนคาบบ่าย
"แต่ว่า...มีกันแค่ 3 คนเอง น่าจะมีคนมากกว่านี้อีกซักหน่อย" แจ๊สเปรยออกมา
"คือว่า..." คอนเน่ดึงแขนเสื้อของแจ๊สเบาๆ แล้วจึงชี้ไปยังตรงโต๊ะที่อยู่หลืบริมสุดของโรงอาหาร "แล้วเมลิซซ่า กับแพทตี้ล่ะ?"
หนึ่งในสองคนที่คอนเน่พูดถึงก็คือเมลิซซ่า ที่เป็นทั้งรูมเมทของเมเปิ้ลและเป็นทั้งเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดูแลความเรียบร้อยตัวยุ่งที่คอยขัดแข้งขัดขาแจ๊สมาตลอด ส่วนอีกคนที่คอนเน่เรียกว่าแพ็ทตี้เป็นสาวน้อยร่างเล็กที่ดูเหมือนกับตุ๊กตาน้อยๆ ที่น่ารัก ผมสีบลอนด์แพลทตินั่มของเธอผูกเป็นเปียสองข้างยาวราวผ้าไหม ผิวขาวเนียนดูนุ่มนิ่มไร้ซึ่งราคีน่าทนุถนอมตรงกันข้ามกับบุคคลอีกคนที่เธอนั่งคุยอยู่ด้วยเลย แพทตี้ ชื่อจริงคือ แพทริเชีย ซาติน เป็นนักเรียนชั้นปีที่สอง ดังนั้นเธอจึงใส่เครื่องแบบต่างจากทั้งเมเปิ้ล หรือเมลิซซ่า เมเปิ้ลเคยเจอเธอมาแล้วตั้งแต่วันแรกที่มาถึงโรงเรียนนี้ จำได้ว่าปกติทั้งสองมักจะอยู่คู่กันเป็นปาท่องโก๋เสมอ
ทั้งสองนั่งคุยกันสองต่อสองราวกับว่าตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ทั้งสีหน้าและรอยยิ้มของเมลิซซ่าในตอนนี้กับใบหน้าอันเกรี้ยวกราดของเมื่อเช้าดูจะเหมือนเป็นความฝันไปโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน แพทตี้ก็ดีเหมือนจะมีความสุขมากที่ได้นั่งคุยกับเมลิซซ่า
"ช่างสองคนนั่นเหอะ...ปล่อยให้พวกนั้นอยู่ในโลกส่วนตัวต่อไปเถอะ" แจ๊สเมินทั้งสองก่อนจะเดินจากไป "ชั้นถือว่าพวกนั้นเป็นแค่สมาชิกผีที่ใส่ชื่อไปพอจะให้ชมรมมันมีคนครบๆ เท่านั้นล่ะ"
แล้วทั้งกลุ่มก็แยกย้ายกันไปเรียนในคาบต่อไป แต่ก่อนออกจากโรงอาหารเมเปิ้ลแอบชำเลืองดูเมลิซซ่า มือจับกำไลสีทองไปมา แล้วจึงค่อยเดินทางต่อ
@@@@@@@@@@@@@@@@
คาบต่อไปของเมเปิ้ลคือวิชาธรรมชาติศึกษา คราวนี้เมเปิ้ลไปถึงห้องเรียน 10 นาทีก่อนเริ่มเรียนเป็นคนแรกของห้อง ยังดีที่เตเต้เรียนวิชานี้ด้วยทำให้เธอไม่ต้องนั่งคนเดียว สุดท้ายแล้วอาจารย์ที่สอนคาบนี้มาสายไป 15 นาที อาจารย์ทาเทียน่าเป็นสูงเพรียว อายุประมาณ 27 กว่าๆ ผิวสีดำราวกับนิลที่ส่องประกายใต้แสงจันทร์ แต่ถ้าไม่มีแสงจันทร์ตัวอาจารย์ก็แทบจะล่องหนได้เลยทีเดียวนอกจากอาจารย์แกจะยิงฟันและลืมตา ตอนที่อาจารย์มาถึงมีนักเรียนมาถึงราวซัก 4 ถึง 5 คนจากที่ลงทะเบียนไว้ทั้งหมดเกือบ 20 คน ซึ่งมันก็คงจะเป็นเช่นนั้นเพราะอาจารย์ดันไม่เช็คชื่อหรืออะไรทั้งนั้น ใครจะมาหรือไม่มาก็เรื่องของนักเรียน
นิสัยอาจารย์ใจดี และเป็นกันเองผิดกับหน้าตาลิบ ภายในชั่วโมง อาจารย์พานักเรียนออกเดินชมนกชมไม้ภายในโรงเรียนเป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้หนังสือ ระหว่างพาเดินชมต้นไม้ต่างๆ อาจารย์ก็เข้ามาทักทายเมเปิ้ล
"เธอคือเมเปิ้ล ซายราสที่ค้าวพูดถึงซีนา" อาจารย์ทาเทียน่าจับมือทักทายกับเมเปิ้ล
"ค...ค่ะ"
"ม่ายต้องอายปายหรอก สมัยก่อนตอนเพิ่งออกจากป่าหม่ายๆ สามเนียงครูก็แปร่งๆ อย่างนี้ลา พูดไปซ้ากพ้ากมานก็จาเข้าที่เองล่ะ ขืนไม่พูดเลยแล้วจะเปลี่ยนมันได้ยังไงล่ะ จริงมั้ย"
"ค...ค่ะ หนูจะพยายามค่ะ"
"เห็นม้าย เสียงหนูออกจาน่าร้ากออก" ว่าแล้วอาจารย์ก็ลูบหัวเมเปิ้ล "เดี๋ยวครูปายสอนต่อลาน้า เดี๋ยวครูจาเรียกถามเธอเปนราย้าๆ จาด้ายฝึกพูดงาย"
แล้วก็จริงอย่างที่อาจารย์ว่าไว้ อาจารย์แทบจะถามเมเปิ้ลตลอดคาบทำเอาเมเปิ้ลเหนื่อยไปเลย
"เป็นไง อาจารย์เค้าใจดีออกนิ" เตเต้มานั่งข้างๆ เมเปิ้ลระหว่างพัก
"ก็ดี..." เมเปิ้ลตอบห้วนด้วยความเหนื่อยจากการที่ต้องพูดแทบทั้งชั่วโมง
"สนิทกับอาจารย์ไว้ก็ดีนิ เพราะอาจารย์ก็เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมข่าวกระบือบ๊องด้วยนิ คงจะได้เจอกันบ่อยๆนิ"
"เหรอ...เธอนี่รู้เยอะจังเลยนะ ทั้งๆ ที่เพิ่งเข้าพร้อมๆ กับฉันแท้ๆ" เมเปิ้ลหันไปมองหน้าเตเต้
“แฮะๆๆ พอดีคือว่าเพื่อนๆ เค้าบอกๆ กันมานิ"
เตเต้หัวเราะแห้งๆ จากนั้นไม่นานอาจารย์ทาเทียน่าก็เรียกให้ทุกคนไปดูตัวหนอนกำลังฟักตัว เตเต้ก็รีบลุกไปทันที ทิ้งให้เมเปิ้ลมองตามหลังด้วยสายตาแบบมีเลศนัย โดยมือของเมเปิ้ลลูบกำไลสีทองไปมา
@@@@@@@@@@@@@
"ช้าจริงๆ เลย ให้ตายเซ่!"
เวลา 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียนเมเปิ้ลมีนัดทำความสะอาดที่ห้องสมุด เมื่อไปถึงแจ๊สที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำตาลกับคอนเน่ยืนรออยู่หน้าห้องสมุดก่อนแล้ว
"ขออภัยด้วย พอดีเดินวนหาห้องสมุดตั้งนานกว่าจะเจอ" เมเปิ้ลตอบ
"ช่างมัน รีบๆ ไปทำงานซะให้เสร็จเถอะ เดี๋ยวจะได้เริ่มทำเรื่องของเรากันต่อ" แจ๊สกวักมือเรียกเมเปิ้ลให้เข้าไปข้างในห้องสมุด
อาคารตรงหน้าที่มีป้ายเขียนว่า ห้องสมุด เป็นเพียงอาคารเล็กๆ โทรมๆ ขนาดประมาณแค่โรงจอดรถตั้งอยู่ริมทะเลสาบ เมเปิ้ลถึงกับสงสัยว่านี่หรือคือห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดของอาราเนีย แต่เมื่อก้าวผ่านประตูบานใหญ่ ลมเย็นเฉียบก็ตีเข้ามาใส่หน้าอย่างจังจนทำเอาเมเปิ้ลที่ไม่ทันได้เตรียมตัวขนลุกซู่ ปรากฏว่าภายในอาคารมีเพียงบันไดสุดหรูปูด้วยพรมสีสดเรืองแสงนำทางไปยังชั้นใต้ดินที่อยู่ลึกไปอีกหลายเมตร เมื่อถึงชั้นใต้ดิน เมเปิ้ลก็ยิ่งต้องขนลุกซู่ยิ่งขึ้นเมื่อได้ยลโฉมกับภาพเบื้องหน้า
ชั้นหนังสือสูงๆ นับร้อยนับพันเรียงรายกันเป็นแถวยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา หนังสือเรียงเป็นตับชั้นแล้วชั้นเล่าถูกวางเรียงรายกันจนแทบจะทำให้ห้องสมุดกลายเป็นเขาวงกตไปเลย เหนือหัวขึ้นไปเป็นทิวทัศน์ของใต้ผืนทะเลสาบสีฟ้าใส มีหมู่ปลาน้อยใหญ่เวียนว่ายไปมาราวกับหมู่ดาราบนท้องฟ้า แสงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องทะลุผืนน้ำสร้างแสงสว่างสีทองอร่ามให้กับห้องสมุดทั้งห้อง ดูไปดูมาห้องสมุดนี้อาจจะเหมือนกับเป็นอควอเรี่ยมโชว์สัตว์ใต้น้ำซะมากกว่าด้วยซ้ำ
"ตามมาเร็วเข้า" แจ๊สตะโกนเรียกเมเปิ้ลที่ยังยืนตะลึงบนบันได
เมเปิ้ลและคอนเน่ต้องไปรายงานตัวที่บรรณารักษ์ก่อนเพื่อรับหน้าที่ที่บรรณารักษ์จะมอบหมายงานให้ ทั้งสามเดินไปยังเคาท์เตอร์ที่อยู่ไม่ห่างจากบันไดนัก
"แจ๊ซซี่ คอนเน่ แล้วก็เมเปิ้ล ยินดีต้อนรับสู่ห้องสมุดค่า"
บุคคลที่กล่าวทักทายทั้งสามจากหลังเคาท์เตอร์นั้นคือสาวน้อยที่นั่งรับประทานอาหารกับเมลิซซ่าเมื่อตอนกลางวัน แพทตี้นั่นเอง หน้าตาอันหน่อมแน้ม บ้องแบ้ว บริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ ยิ้มหวานให้กับทั้งสามอย่างเป็นกันเอง นัยน์ตาสีน้ำตาลใสอันกลมโตดูมีมนต์เสน่ห์จนแทบจะดึงดูดให้ทุกคนเข้ามาลูบหัวเล่น
"อ้าว วันนี้เวรเธอเหรอ" แจ๊สเดินไปชิดกับเคาท์เตอร์ทักด้วยด้วยความเป็นกันเอง
"ค่ะ...วันนี้เป็นเวรของแพทตี้เองค่า อยู่จนถึงห้องสมุดปิดเลยค่า" ทั้งๆ ที่อยู่ปีสอง แต่แพ็ทตี้ก็คุยราวกับว่าทุกคนเป็นรุ่นพี่ "อ้อ...เกือบลืมแนะคะ อาจารย์ฟลอร่าฝากให้แพทตี้จัดการใช้งานทั้งคอนเน่และเมเปิ้ลได้เต็มที่เลยน่ะค่ะ" แพทตี้หันไปยิ้มหวานให้กับทั้งสอง เมเปิ้ลเองก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป
เมเปิ้ลหันไปดูรอบๆ ห้องสมุดอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้แล้วนึกในใจว่าจะจัดการมันเสร็จได้ยังไง
"งั้นแพ็ทตี้มอบหมายงานให้เลยแล้วกันนะค่ะ ความจริงอาจารย์ฟลอร่าอยากให้ถูพื้นโดยไม่ให้ใช้เวทมนตร์ แต่ว่าพอดีพวกแพทตี้เพิ่งทำไปเมื่อวานก่อนนี่เอง งั้นเดี๋ยวอยากให้คอนเน่กะเมปี้ไปช่วยจัดเก็บหนังสือหน่อยละกันค่า เดี๋ยวอีกสักครู่ตามแพทตี้มาเลยก็แล้วกัน"
ว่าแล้วแพทตี้ก็โบกไม้คฑา สักพักหนังสือเป็นสิบๆ เล่มก็ต่างลอยไปเรียงเป็นตั้งๆ บนรถเข็นอย่างเป็นระเบียบ
"งั้นเราไปกันเถอะค่า" แพทตี้สับเปลี่ยนเวรกับนักเรียนปีสองอีกคนหนึ่งก่อนจะมาเดินรวมกลุ่มกับพวกแจ๊ส
"นี่แพทตี้ ชั้นมีเรื่องจะขอร้องหน่อย" แจ๊สเดินเข้าไปกระซิบข้างๆ แพทตี้
"คะ?"
แล้วแจ๊สก็ก้มตัวไปกระซิบอะไรซักอย่างข้างๆ หูแพทตี้สักครู่ ซึ่งแพทตี้ก็พยักหน้าหงึกๆ ตาม
"ตกลงตามนี้นะ" แจ๊สตบไหล่แพ็ทตี้เบาๆ
"รับทราบค่า" เธอยิ้มตอบรับ แต่ดูเหมือนเธอจะนึกเรื่องอะไรบางอย่างออก "อ้อ แจ๊ซซี่ พอดีแพ็ทตี้เพิ่งนึกออกว่าวันนี้เวรรักษาความปลอดภัยของห้องสมุดเป็นของเมลิซซ่านะค่ะ คือว่า..."
"ไม่เป็นไรหรอกน่า ก็แค่เราจัดการเรื่องให้เสร็จก่อนที่ยัยนั่นจะมาเจอก็พอ" แจ๊สกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
"แต่ว่า...ซิก...แต่ว่า เมื่อครั้งก่อนเมลิซซ่าก็..." แพทตี้เงยหน้ามองแจ๊สด้วยสายตาที่เด็กน้อยกำลังมีปัญหาน้ำตากำลังจะคลอเบ้า
"ไม่เป็นไรหรอก พวกชั้นไม่ก่อปัญหาให้เมลิซซ่าหรอกน่า วางใจได้เลย ถึงยังไงยัยนั่นก็เป็นสมาชิกชมรมคนนึงด้วยนี่นา ยัยนั่นน่าจะเข้าใจอยู่แล้ว" แจ๊สเช็ดน้ำตาที่คลอเบ้าของแพทตี้แล้วจึงขยี้หัวของแพทตี้ด้วยความเอ็นดู "ไงๆ ซะยัยนั่นก็เพื่อนของพวกเราเหมือนกัน"
"ค่า...รับทราบค่ะ งั้นแพ็ทตี้จะทำหน้าที่ในฐานะของสมาชิกชมรมข่าวกระบือบ๊องให้ดีที่สุดค่า" แพทตี้ทำมือตะเบ๊ะอย่างน่ารัก
เมเปิ้ลสาบานได้เลยว่าแว่บนึงระหว่างที่แพทตี้กำลังเช็ดน้ำตา แจ๊สหันมาแลบลิ้นอย่างเจ้าเล่ห์ให้เมเปิ้ลเห็น
"เมื่อกี๊คุยอะไรกับแพทริเชียเหรอ" เมเปิ้ลกระซิบถามแจ๊ส
"อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอก...แค่บอกว่าขอแอบอยู่ในห้องสมุดต่อตอนปิดแค่นั้นเอง" แจ๊สตอบ
"แล้วมันจะไม่เป็นไรหรือ"
"เป็นสิ โดนจับได้ละก็แค่โดนกักบริเวณแค่นั้นเอง คงไม่แย่ไปกว่าเมื่อวานร๊อก" แจ๊สพูดออกมาเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติซึ่งเมเปิ้ลก็ได้แต่ปลง
แล้วทั้งสามก็เดินตามแพทตี้ที่เดินเข็นรถเข็นไปตามซอกซอยของเขาวงกตชั้นหนังสือ คอนเน่คอยเดินตามหลังเกาะแจ๊สซะแน่นเนื่องจากบรรยากาศมันวังเวงเหมือนจะอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ถึงแม้จะยังมีแสงส่องลงมา แต่บรเวณภายในทางเดินก็ค่อนข้างจะมืดสลัว เนื่องจากว่าต้องการรักษาเนื้อกระดาษของหนังสือไม่ให้เสียจากการสัมผัสแสงแดดมากเกินไป มันใช้เวลาสักครู่กว่าจะไปถึงจุดหมาย มันเป็นลานทรงกลมที่เส้นทางทุกเส้นมาบรรจบกัน โดยบนพื้นมีลวดลายอักขระแปลกๆ
"เอาล่ะ คอนเน่กับเมเปิ้ลช่วยขนหนังสือลงมากองกับพื้นหน่อยนะค้า พอดีตรงนี้มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนกับเวทมนตร์อื่นนะค่า"
ว่าแล้วก็ได้เวลาใช้แรงงาน เมเปิ้ลกับคอนเน่ต้องช่วยกันขนหนังสือกองแล้วกองเล่ามาวางกับพื้น แจ๊สอาสาจัดหนังสือทุกเล่มให้เป็นกองๆ ตามที่ต้องการ ส่วนคอนเน่ยกได้ไม่กี่กองก็เหนื่อยหอบแฮ่กๆ จนสุดท้ายหนังสือทุกเล่มก็ถูกยกมาเรียงรอบๆ แพทตี้
"ทุกคนถอยไปก่อนค่า"
แพทตี้เคลียร์พื้นที่ เมื่อทุกคนออกนอกวงอักขระแล้วแพทตี้ก็หลับตาตั้งสมาธิ จู่ๆ ลวดลายบนพื้นก็เริ่มเรืองแสง หนังสือรอบๆ ตัวแพทตี้ก็เริ่มลอยขึ้นมา แล้วมันก็พุ่งไปยังยังทิศต่างๆ ทีละเล่มๆ
"แพทริเชียทำอะไรอยู่น่ะ" เมเปิ้ลกระซิบเบาๆ
"จัดหนังสืออ่ะ อย่างที่รู้ว่าห้องสมุดมันใหญ่แค่ไหน ขืนหาที่ของหนังสือแต่ละที่ก็คงเหนื่อยตายก่อน ที่แพทตี้ทำนะคือตั้งสมาธิให้หนังสือมันไปอยู่ในที่ๆ มันควรจะอยู่นะ" แจ๊สกระซิบตอบ "แต่ว่ายัยนี่ไม่คล่องงานเล้ย ช้าเหลือเกิ๊น"
ในที่สุดแจ๊สก็หมดความอดทน
"มา เดี๋ยวชั้นจัดการเอง"
แจ๊สไม่รอช้าลากแพทตี้ออกมาจากวงเวทก่อนจะไปยืนแทนที่ ซักพักวงเวทก็เรืองแสงจ้ากว่าทีแรก แถมหนังสือที่เคยลอยไปช้าๆ ก็พุ่งรัวเป็นปืนกล
ทั้งเมเปิ้ล และคอนเน่ต่างมองด้วยความตะลึง มีแต่แพทตี้ที่ดูรู้อยู่แต่แรกแล้ว
"แจ๊ซซี่เค้ามาอ่านหนังสือในห้องสมุดอยู่บ่อยๆ นะจ๊ะ เรื่องฝีมือการใช้ห้องสมุดนี่เผลอๆ จะเหนือกว่าทุกคนในชมรมห้องสมุดเลยนะค่ะ"
หลังจากนั้นเมเปิ้ลกับคอนเน่ก็ถูกขอร้อง (ใช้) ให้ไปเอาหนังสือมาเก็บเพิ่ม ส่วนแพทตี้ต้องคอยอยู่คุมแจ๊สเพราะมันความจริงมันเป็นหน้าที่ของแพทตี้ ซึ่งทั้งสองก็ต้องวนกลับไปยังเคาน์เตอร์อีกรอบ เนื่องจากทั้งสองไม่อนุญาตให้ใช้เวทมนตร์ช่วยงาน ดังนั้นพวกเธอจึงต้องยกหนังสือทีละกองไว้บนรถเข็นแล้วเข็นรถเข็นอันหนักอึ้งกลับมา ทีแรกทั้งสองตกลงกันว่าจะช่วยกันเข็น แต่พอเข็นไปได้ไม่เท่าไรคอนเน่ก็หมดแรงเอาซะดื้อๆ เมเปิ้ลเลยต้องเข็นคนเดียวตลอดทาง
นอกจากจะต้องคอยจัดส่งหนังสือแล้ว พวกเธอยังต้องคอยตรวจเช็คหนังสือบนชั้นทีละชั้นมาอยู่ผิดที่ผิดทางหรือไม่ ถึงแม้ว่าแจ๊สจะทุ่นเวลาลงไปได้เยอะ แต่เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ห้องสมุดเองก็เริ่มมืดลงเรื่อยจนต้องจุดตะเกียงเพื่อมองทาง
"นี่มันได้เวลาปิดแล้วนี่นา" แพทตี้กล่าวด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงระฆัง
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกชั้นจะแอบอยู่ที่นี่ต่อ ตกลงนะ" แจ๊สกระซิบ
"ก็ได้ งั้นเดี๋ยวแพทตี้จัดการเรื่องเซ็นรับรองว่าคอนเน่กับเมเปิ้ลทำงานเสร็จแล้วกันนะค่ะ งั้นแพ็ทตี้ของตัวก่อนละค่ะ" แพทตี้อำลาเบาๆ ก่อนจะเดินจากไปในความมืด ทิ้งไว้ให้สามสาวที่เหลืออยู่กันตามลำพัง
แจ๊สมองไปรอบๆ ให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นพวกเค้าแล้ว
"เอาล่ะ ดับตะเกียงซะ" แจ๊สสั่งคอนเน่ที่ถือตะเกียงอยู่
"เอ๋"
"เดี๋ยวคนอื่นเค้าเห็นหมด เธอก็ใช้จมูกดมแทนเซ่"
คอนเน่ลังเลอยู่พักนึงจนกระทั่งแจ๊สต้องแย่งตะเกียงมาดับเอง ทันทีที่ดับตะเกียงทุกอย่างก็พลันมืดลงทันที คอนเน่เกือบจะร้องกรี๊ดออกมา แต่แจ๊สก็เอามือปิดปากไว้ทัน ส่วนเมเปิ้ลก็ยังมีสีหน้าปรกติ เพียงแต่คลำตรงกำไลสีทองไปมา
"เอาล่ะ เรามาสรุปสถานการณ์ก่อนนะ" แจ๊สกระซิบให้ทุกคนได้ยิน "หลังจากประชุมเมื่อตอนกลางวันชั้นก็ไปหาข้อมูลมาเพิ่มอีก ตอนแรกชั้นก็สงสัยว่ามีใครใช้เวทมนตร์เล่นตลกหรือปล่าว แต่เท่าที่พวกชมรมห้องสมุดตรวจดูแล้วไม่มีร่องรอยของเวทมนตร์เลย ถึงถ้ามีจริงวงเวทที่ใช้เก็บหนังสือต้องได้รับผลแล้ว แสดงว่าเรื่องนี้มีเค้าแน่" แจ๊สค่อยๆ เล่าเบาๆ อย่างตื่นเต้น
"ส...ส...สรุปว่าม...ม...มันเป็นผีจริงๆ เหรอ" คอนเน่กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทิ้ม
"ชั้นก็หวังให้เป็นอย่างงั้นแหละ ต่อจากที่ค้างไว้ดีกว่า ตอนนี้ประเด็นคือว่าจะหาโซนหนังสือนั่นเจอได้ยังไง"
"จะให้เราเดินวนหาทั้งห้องสมุดเนี่ยนะ" เมเปิ้ลถามขึ้นมา
"เปล่า จำได้มั้ยว่าตอนที่พวกเธอขนหนังสือจากรถเข็นนะ ตอนที่ชั้นอาสาช่วยจัดหนังสือนั่นนะ ชั้นก็แอบป้ายน้ำหอมจางๆ กลิ่นต่างกันไว้บนหนังสือทุกเล่มเลย ดังนั้นถ้าเราตามกลิ่น..."
"เดี๋ยวๆ" เมเปิ้ลแย้ง "แล้วจมูกใครมันจะดีขนาดนั้นล่ะ"
"หึ ใครน้อจะมีจมูกดีขนาดนั้น" แจ๊สเอื้อมมือไปกอดคอคอนเน่ "เนอะคอนเน่...ใครมันจะจมูกดมกลิ่นได้ดีเหมือนหมากันเล่า"
"แต่ว่า หนังสือที่เราเก็บวันนี้อาจจะไม่ได้มาจากโซนหนังสือโซนนั้นก็ได้นะ"
"อ๋อ...เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ช่วงบ่ายว่างๆ ชั้นมานั่งเล่นที่ห้องสมุดไปพลาง เอาหนังสืออย่างละเล่มจากทุกโซนหนังสือมาอ่านเล่นไปพลางๆ..." แจ๊สพูดอย่างสบายใจ
"งั้นหมายความว่าหนังสือที่ฉันขนมาตลอดก็คือ..."
"ถูกต้อง...พวกนั้นคือหนังสือที่ชั้นอ่านเองล่ะ" แจ๊สตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน "ระบบค้นหาหนังสือของที่นี่ใช้เวทมนตร์ในการช่วย ชั้นเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันมาจากไหนบ้าง แค่สั่งให้พวกมันลอยมาเป็นตั้งๆ แค่นั้นเอง"
เมเปิ้ลแทบฉุนขาด ที่แท้หนังสือกองพะเนินที่เธอแทบจะต้องเข็นมาคนเดียวนั้นเป็นผลงานของแจ๊สนี่เอง
"เอาล่ะ มาต่อกันดีกว่า ตอนที่ชั้นอาสาช่วยจัดเรียงหนังสือแทนแพ็ทตี้นะ เพราะว่าชั้นต้องการตามตามรอยของหนังสือว่ามันจะไปที่ไหนบ้าง ชั้นจับจุดผิดปรกติได้ประมาณ 9 จุด เราจะตีกรอบโซนหนังสือที่ต้องสงสัย 9 จุดนั่นแหละ เพราะฉะนั้น..." แจ๊สหยิบของบางอย่างจากแจ๊กเก็ตของเธอ มันคือเชือกเส้นยาว
"เราจะผูกติดกันไว้จะได้ไม่หลง โอเค๊ คอนเน่จะเป็นคนนำ"
"เอ๋!" คอนเน่อุทานด้วยความตกใจ
"ชู่ว์...เงียบหน่อย เธอนั่นล่ะนำ เพราะเธอต้องเป็นคนนำทางไปยังจุดทั้ง 9 จุดนั่น ส่วนชั้นจะอยู่ตรงกลางคอยสั่งการ เมเปิ้ลรั้งท้ายระวังหลัง เอาตามนี้นะ" ว่าแล้วแจ๊สก็ค่อยผูกเชือกที่เอวทุกคนต่อๆ กัน
"เอาล่ะ คอนเน่นำไปเลย กลิ่นแรก เชอร์เบ็ต"
@@@@@@@@@@@
Edit Log: June 21th, 2008: แก้ ค่า เป็นค่ะบางส่วน
ความคิดเห็น