ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Psalms of the New World

    ลำดับตอนที่ #17 : The New World (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      0
      11 พ.ค. 51

                 "นี่มันแย่...แย่ที่สุด" 


                  ผมสีน้ำตาลเข้มที่ผูกเป็นผมแกะด้วยโบว์หลากสีสันพัดพลิ้วไหวไปตามสายลมอ่อนๆ  ผิวขาวเนียนอมชมพูเรื่อของเธอเปล่งประกายกับแสงอาทิตย์ของเช้ายามสายอันสดใส  ถึงแม้ดวงตาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว  แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอันกลมโตนั้นกลับดูเจิดจรัสราวกับทำมาจากอำพัน  ใบหน้าที่ถึงแม้เวลานี้จะเต็มไปด้วยความกังวลและความเซ็งสุดชีวิต  แต่มันก็ไม่อาจจะปกปิดความงดงามที่ราวกับออกมาจากภาพวาดของนางฟ้าในจินตนาการ  ชุดสีชมพูอันฟูฟ่องที่เต็มไปด้วยริบบิ้นและโบว์ดูราวกับถอดมาจากชุดของตุ๊กตายิ่งดึงดูดสายตาของทุกคนให้มาจับจ้อง  ชายกระโปรงทำเป็นจีบลายลูกไม้ที่ยาวจนถึงข้อเท้าพลิ้วไปตามการเคลื่อนไหวของเธอ


                    "นี่มันไม่ใช่เวลามัวแต่ทำอะไรอย่างนี้นะ  ทำไมเราต้องมาอยู่ในสภาพทุเรศแบบนี้ด้วย"


                    "วันนี้อากาศดีจังเลยนะ"  เสียงหวานๆ ดังออกมาจากบุคคลที่เดินอยู่ด้านหน้าที่ไม่ใช่ใครอื่น  ไบรอันนั่นเอง  เขาเปิดเครื่องแปลงเสียงทำให้เสียงอันแหบแห้งของไบรอันกลับดูอ่อนหวาน  ใสปิ๊งเหมือนกับสาวน้อยทั่วๆ ไปคนหนึ่ง


                     "นี่จ่า..."  รอสเดินขึ้นมากระซิบไบรอันที่กำลังแบกเสื้อผ้าอยู่ในมือ


                      "พูดเบาๆ หน่อย(ครับ)  เรียก(ผม)ข้างนอกให้เรียกว่า ซีเรีย จะดีกว่า"  ไบรอันกระซิบตอบ  "ถ้าคนอื่นได้ยินเข้าเดี๋ยวจะยุ่งเอา(ครับ)" 


                      "งั้น...ทำไมต้องให้ฉันแต่งตัวชุดนี้ด้วยล่ะ  มันไม่สะดุดตาไปหน่อยเหรอ?"  รอสกระซิบถามไบรอันด้วยความกระอักกระอ่วนใจเพราะชุดอันฟูฟ่องของเขาดูท่าจะเป็นเป้าสายตาของผู้คนตามทางเหลือเกิน


                      "ก็เมเปิ้ล ในชุดนี้น่ารักดีออก"  ไบรอันเรียกชื่อรอสด้วยนามแฝง  "คนน่ารักใส่ชุดอะไรคนเค้าก็มองอยู่แล้ว"


                       รอสมองไปรอบๆ ก็เห็นมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมด  ยิ่งทำให้เขารู้สึกหวั่นใจที่อยู่ท่ามกลางผู้สิ่งมีชีวิตอันป่าเถื่อน  ไร้ซึ่งอารยธรรม  และโหดเหี้ยมดังเช่นที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก 


                     หลังอาบน้ำครั้งนั้นเสร็จ  ไบรอันก็จับรอสแต่งตัวซะอย่างสนุกสนาน  หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นาน  สุดท้ายรอสก็ยอมใส่เสื้อกระโปรงบานฟูฟ่องโดยเข้าใจว่าเป็นแฟชั่นยอดฮิตที่ผู้หญิงนิยมใส่กัน  พอเอาเข้าจริงแล้วชุดที่ทั้งสองใส่กลับดูเหมือนหลงมาจากนิยายแฟนตาซีซะมากกว่า (แล้วนี่ไม่ใช่นิยายแฟนตาซีหรอกเรอะ


                   "เอ่อ... แล้วมันจะไม่ผิดสังเกตไปหน่อยเหรอ"  รอสถามไบรอันอย่างเป็นกังวล


                  "อ๋อ...ไม่ต้องห่วงหรอก...ชั้นก็แต่งตัวอย่างนี้ของชั้นทุกวันนั่นล่ะ  ไม่เห็นมีใครเค้าว่าเลย"  ไบรอันตอบด้วยใบหน้าอันร่าเริงที่ดูเหมือนจะไม่กังวลกับสภาพที่ทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาเลยซักครั้ง  ซึ่งรอสก็ทำได้แต่ปลงกับภาวนาขอให้ความอย่าเพิ่งแตกเลย


                   ทั้งสองอยู่ในตัวเมืองที่ห่างจากเซฟเฮาส์ประมาณ 20 นาทีโดยการเดิน  ถึงแม้จะเรียกว่าเป็นตัวเมืองก็คงเรียกได้ไม่เต็มปากเพราะรอบๆ ตัวมีแต่ต้นไม้สูงสุดลูกหูลูกตา เพียงแต่บนต้นไม้ (แม้กระทั่งในต้นไม้) มีทั้งอาคาร  ผู้คนและสัตว์อาศัยอยู่มากมาย และแน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด สิ่งก่อสร้างต่างๆ ดูกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติได้เป็นอย่างดีจนแทบจะแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนเกิดจากธรรมชาติ  สิ่งในเกิดจากมนุษย์  เหล่าผู้หญิงและหมู่สัตว์ทั้งหลายต่างเดินกันให้ขวักไขว่ ทั้งบนพื้นและบนทางเดินที่อยู่เหนือพื้นที่เชื่อมระหว่างต้นไม่แต่ละต้น  


                    ทั้งรอสและไบรอันต่างเป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนบนท้องถนน  ผู้คนส่วนใหญ่เตรียมตัวสำหรับงานประจำวัน แม่ค้าต่างตั้งแผงร้านขายของในร้านต้นไม้ของตนเอง ผู้คนต่างหยุดแวะทักทายซึ่งกันและกันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไปอีกวันหนึ่ง


                     "แล้วเรามาทำอะไรกันที่นี่นะ"  รอสถามไบรอันด้วยความกระวนกระวายใจ  "เราควรจะไปที่โรงเรียนโซเฟียอะไรนั่นเลยไม่ใช่เหรอ"


                     "อย่าเพิ่งรีบร้อนสิค๊า"  ไบรอันดัดเสียงพูดเลียนแบบผู้หญิง "เดี๋ยวต้องไปส่งเสื้อที่ร้านขายเสื้อในตลาดก่อน  แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน"  


                      รอสยังกังวลถึงเรื่องที่ซาฮากล่าวไว้  ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ไว้ใจกับข้อมูลเหล่านั้น  แต่เรื่องที่เขามีเวลาอยู่เพียงแค่ครึ่งเท่านั้น  แต่ถึงกระนั้นการที่เขามาเอ้อละเหยอยู่ตอนนี้เวลาอันมีค่าก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ


                       "นี่ไม่ใช่เวลามัวแต่จะเอ้อระเหยนะ  ตอนนี้นะ..." 


                      ไบรอันเพียงเอามือมาแตะปิดปากรอสเบาๆ


                      "รีบมากไปการใหญ่จะเสียเอาได้น๊า..."  ไบรอันส่งยิ้มสบายให้กับรอส  "ตอนนี้เรามาค่อยๆ  ทำตัวให้คุ้นเคยกับที่นี่กันก่อนดีกว่านะ  ไม่เคยเรียนเหรอว่าจงบุกเมื่อยามที่แน่ใจว่าชนะแน่นอนนะ"


                        "เรื่องแค่นี้รู้อยู่แล้วน่า  เอามือออกไปได้แล้ว..."  รอสปัดมือของไบรอันออกไปก่อนหันตอบด้วยสีหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย


                       "งั้นเดี๋ยวส่งเสื้อเสร็จแล้วชั้นจะพาไปกินอะไรอร่อยๆ เอง"  ไบรอันขยิบตาให้รอสก่อนมุ่งหน้าไปยังใจกลางของตัวเมือง


                      ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงร้านขายเสื้อที่ว่า  เป็นร้านที่ใหญ่พอสมควร  หญิงวัยกลางคนที่อยู่ในร้าน  เมื่อเห็นไบรอันก็ออกมาทักทายไบรอันด้วยท่าทีของคนรู้จักกัน


                       "สวัสดีค่า  เอาเสื้อล็อตใหม่มาส่งค่า"  ไบรอันยื่นกองเสื้อผ้าให้กับหญิงคนนั้น


                      "ดีเลยค่า เดี๋ยวรอเดี๊ยนสักครู่น้า  เอาเสื้อไปเก็บก่อน"  หญิงวัยกลางคนคนนั้นรับเสื้อผ้าจากไบรอันด้วยความกระฉับกระเฉงก่อนจะหิ้วเสื้อผ้าทั้งหมดเข้าไปในร้าน  ปล่อยให้รอสกับไบรอันรออยู่ข้างนอก


                      "นี่เรามาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย"  รอสกระซิบถามไบรอันด้วยความสงสัย


                     "อ๋อ...พอดีอาชีพหน้าฉาก (ผม) เป็นช่างทำเสื้อนะครับ  ถ้าไม่มาส่งเสื้อเลยมันจะดูผิดสังเกตุไปหน่อย"  ไบรอันตอบ


                     "แล้ว...คุณทำเสื้อเป็นเหรอ"  รอสกระซิบถาม

     
                     "ไม่เป็นเลยซักกะติ๊ดขอรับ"  ไบรอันกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ  "ต้องขอบคุณการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ทำให้ผมทุ่นแรงได้เยอะทีเดียว"


                    หลังไบรอันพูดจบได้ไม่เท่าไร  หญิงวัยกลางคนก็เดินออกมาจากร้านพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง


                    "ไม่รู้เดี๊ยนจะขอบคุณยังไงดี  ถ้าไม่มี ซีเรีย แล้วละก็  ร้านเดี๊ยนคงมีเสื้อผ้าสวยๆ ขายไม่พอแน่นอน"


                   "อุ๊ยตาย  เสื้อผ้าของดิฮั้นไม่ดีถึงขนาดนั้นหรอกค่า"  ไบรอันดัดเสียงได้กระแดะที่สุดของที่สุด

     
                    "ต๊าย  ถ่อมตัวจังเลยนะค๊า  เสื้อผ้าของซีเรียนะถือได้ว่าตัดเย็บได้มีมาตรฐานสม่ำเสมอที่สุดในแถบนี้แล้ว  เดี๊ยนละอยากรู้จริงๆ เลยว่าทำได้ยังไง  ตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยมือได้ทั้งเยอะและเท่าๆ กันขนาดนี้  คุณใช้เวทมนตร์แบบไหนกันแน่คะ"  หญิงวัยกลางคนก็ยังชมไบรอันต่อไปโดยหารู้ไม่ว่าไบรอันเพิ่งขายผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักรด้วยราคาผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด  กำไรเห็นๆ


                     "ความลับทางธุรกิจค่า"  ไบรอันยิ้มตอบหน้าตาเฉย


                    "โห...งั้นเหรอคะ  น่าเสียดายจัง"  แล้วหญิงวัยกลางคนก็สังเกตเห็นรอส  "อ้าว  แล้วน้องสาวสุดสวยคนนี้เป็นใครเหรอคะ"  หญิงวัยกลางคนมองรอสจากหัวจรดเท้า  แล้วจึงยิ้มเหมือนรู้อะไรบางอย่าง  "อ๋อ...หรือว่ากิ๊กของคุณซีเรีย  แหมๆ เลิกกับแฟนเก่าไม่ทันไรหาคนใหม่ได้ไวจังนะคะ  แถมน่ารักอีกด้วย"


                     "ไม่ใช่ค่า  นี่เป็นญาติดิฮั้นเอง  เมเปิ้ล  ไซรัส  ค่า  แกอุตส่าห์ถ่อมาจากเทือกเขาคาเรซานเชียวนะคะเนี่ย"  ไบรอันจับไหล่รอสพร้อมกับดันไปข้างหน้าแนะนำรอสให้รู้จัก 


                     "เอ่อ...ส...สวัสดีค่ะ"  รอสตอบอย่างเหวอๆ


                    "ว้าย  เสียงน่ารักจังค่า  สนใจเป็นแฟนพี่มั้ย"  หญิงวัยกลางช้อนคางรอสขึ้นมา  รอสลืมตาตื่นก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้ง  หญิงวัยกลางคนนึกว่ารอสแค่กำลังอาย  แต่ความจริงแล้วรอสกลัวแทบตาย   


                    "พอดีเมเปิ้ลเค้าขี้อายหน่อยนะค่ะ  ปกติไม่ค่อยได้ออกมาเจอคนเยอะอย่างนี้หรอกค่า" 


                    ไบรอันคว้ารอสมาหลบข้างหลังก่อนจะเริ่มการสนธนาไร้สาระต่อไป  ไบรอันสาธยายถึงความเศร้าที่เซบาสเตียนเพิ่งเสียไปราวกับว่ามันเป็นคนในครอบครัวที่สำคัญยิ่ง  หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็ปลอบไบรอันโดยไม่รู้ว่าที่แท้แล้ว เซบาสเตียน ก็คือคอมพิวเตอร์บุโรบุโท่ดีๆ นี่เอง  รอสมองเข้าไปในร้านเพื่อฆ่าเวลา  ภายในร้านก็มีเสื้อผ้ามากมาย  มีทั้งเสื้อผ้าแบบที่รอสใส่อยู่  มีแบบธรรมดาตามที่คนธรรมดาเค้าใส่กัน  แต่สิ่งที่ทำให้รอสสนใจคือวิธีการที่พนักงานในร้านจัดชุด  เธอแทบจะไม่ต้องจับชุดเลย  อยู่ดีๆ ชุดทั้งหลายแหล่ที่ไบรอันเพิ่งเอามาส่งก็ "เดิน" ไปแขวนตัวเองบนราวแสดงสินค้าราวกับมันมีชีวิต


                     หลังจากคุยเรื่องไร้สาระสักพัก  ในที่สุดไบรอันก็ขอตัวเจ้าของร้านไปทำธุระต่อ 


                    "นี่ต้องคุยไร้สาระอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ"  รอสถามไบรอันที่เดินตัวปลิวอย่างสบายอารมณ์


                    "ก็...ผู้หญิงก็เงี้ย"  ไบรอันไม่ตอบอะไรมาก 


                     แล้วทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเสื้อนัก  ตัวอาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน  มีเสียงเพลงของเหล่าหมู่นกคอยขับขานประสานเสียง  ภายในร้านมีโต๊ะกลมๆ วางอยู่สามสี่ตัว  โต๊ะในร้านถูกจับจองไปบ้างแล้ว  แต่ก็ยังพอมีที่เหลือสำหรับรอสกับไบรอัน


                     "ฮ่า...ไหนดูจิ๊  วันนี้เมนูแนะนำมีอะไรบ้าง"  ไบรอันหยิบเมนูมาเปิดดูอย่างสบายอารมณ์โดยไม่สนรอสที่กำลังกระวนกระวายใจเกี่ยวกับภารกิจอยู่  "เมเปิ้ลก็ดูเลยว่าจะสั่งอะไร" 


                    ไบรอันยื่นเมนูอีกอันให้กับรอส  พอรอสเปิดอ่านก็เจอแต่ตัวอักษรหวัดๆ ที่เขาแทบจะอ่านไม่ออก  แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นภาษาเดียวกัน  สำหรับรอสที่เคยอ่านแต่ตัวพิมพ์แล้ว  อ่านลายมือเขียนค่อนข้างจะสาหัสพอสมควร  สุดท้ายรอสก็ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี  จึงปล่อยให้ไบรอันเป็นคนจัดการเรื่องอาหาร


                       "งั้นเอากาแฟกับฟิชแอนด์ชิพแล้วกันนะ"  ไบรอันปิดเมนูเป็นอันตกลง  "เอ...แล้วบ๋อยไปไหนล่ะ"


                     "บ๋อย?" 


                     โฮ่ง!


                     รอสตกใจจนเกือบจะตกจากเก้าอี้  ที่ตรงปลายเท้าของเขามีหมาตัวใหญ่ขนปุกปุยน้ำตาลแซมเทายืนลิ้นห้อยมองจ้องตาแป๋วมายังรอส 


                     "อ้อ...อยู่นี่เอง  งั้นสั่งกาแฟกับฟิชแอนด์ชิพสองที่นะ"  ไบรอันก้มไปคุยกับเจ้าหมาตัวนั้น  ราวกับมันรู้ภาษาคน  มันพยักหน้ารับออเดอร์จากไบรอันก่อนจะวิ่งดุ๊กๆ หายไปด้านหลังร้านอาหาร


                    "นั่นมัน..."  รอสยังไม่หายช็อคจากการเพชิญหน้ากับคุณตูบขนปุยตัวเป็นๆ ครั้งแรกในชีวิตของเขา


                    "อ๋อ...ก็บ๋อยที่ว่าไง  เดี๋ยวอีกซักพักเค้าก็คงเอาอาหารมาเสิร์พให้เองล่ะ"   ไบรอันพูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ  ปล่อยให้รอสประสบพบเจอเคาเจอร์ช็อคอีกรอบไป


                    อีกไม่นาน  เจ้าตูบนั่นก็กลับมาพร้อมกับลากรถเข็นเล็กๆ ที่มีกาแฟสองถ้วยมาด้วย  ไบรอันหยิบกาแฟขึ้นวางบนโต๊ะก่อนจะลูบหัวเจ้าตูบนั่นด้วยความเอ็นดู  จากนั้นเจ้าตูบก็เดินลากรถเข็นเล็กๆ กลับไปยังด้านหลัง


                    "ดื่มซี่  กาแฟแท้ๆ เลยนา"  ไบรอันเติมน้ำตาลลงไปสองก่อนหมุนนิ้วรอบๆ แก้ว  ปรากฏว่ากาแฟภายในแก้วหมุนเป็นเกลียวทั้งๆ ที่ไบรอันไม่ได้แตะแก้วเลยแม้แต่น้อย


                     รอสได้แต่มองไบรอันด้วยความทึ่งก่อนจะมองยังแก้วกาแฟตรงหน้าตน  แล้วจึงมองที่กำไลของตน 


                      "อย่าดีกว่า" รอสล้มเลิกความคิดที่จะใช้เวทมนตร์  แต่ทางร้านไม่มีอะไรพอที่จะใช้คนได้เลยดังนั้นเขาจึงดื่มมันสดๆ ซะอย่างนั้น


                     กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ลอยออกมาทำเอารอสแทบเคลิบเคลิ้มไปกับมัน  เมล็ดกาแฟแท้ที่มูราลถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก  การที่รอสได้ลิ้มรสกาแฟที่กรองมาจากเมล็ดกาแฟแท้ถือเป็นความสุขที่ไม่อาจจะจินตการได้


                      ระหว่างที่รอสกำลังละเมียดละไมจิบกาแฟอยู่นั้น  ไบรอันก็ลุกไปหยิบหนังสือพิมพ์มาจากโต๊ะข้างๆ ที่ว่างอยู่  ก่อนจะเปิดอ่านดูข่าวค(ร)าวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในอาราเนียเมื่อวานนี้  รอสเห็นดังนั้นหยิบมาอ่านบ้างหวังว่าอาจจะมีเบาะแสอะไรในหนังสือพิมพ์บ้าง  แต่เขาอ่านเพียงไม่กี่บรรทัดก็แทบจะเขวี้ยงมันทิ้งไปเลย  ข่าวที่เขาพบกลับเป็นเรื่องของคนโน้นไปกิ๊กคนนี้บ้าง  คนโน้นข่าวกับคนโน้นบ้าง  ไฮซงไฮโซอะไรก็ไม่รู้ที่รอสไม่รู้เรื่องเลยแทบจะเรียกได้ว่าข่าวขยะ ไร้สาระสุดๆ เลยก็ว่าได้


                       "เมเปิ้ลจะอ่านไหม"  ไบรอันยื่นหนังสือพิมพ์ที่เขาอ่านอยู่ให้รอส  "ถ้าจะอ่านข่าวมีสาระต้องฉบับนี้"    


                       รอสหยิบมันมาอ่านก็พบแต่ข่าวการเมืองของอาราเนียที่แทบจะไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการเลย  แต่ว่ารอสเองก็ได้รับการถ่ายทอดเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองของอาราเนียมาบ้างเหมือนกัน 


                       เท่าที่เขาทราบมา  ชื่อเต็มของประเทศนี้คือสหพันธรัฐอาราเนีย  เดิมทีเคยปกครองระบอบศักดินา  มีพระราชินีเป็นประมุข  โดยแต่พื้นที่จะถูกปกครองโดย "เจ้า" ประจำถิ่นอีกทีหนึ่ง  เป็นการปกครองอย่างหลวมๆ โดยเจ้าของแต่ละรัฐจะสวามิภักดิ์ต่อพระราชินี  แต่เมื่อ 17 ปีก่อน  พระราชินีก็ประกาศคืนอำนาจคืนสู่ประชาชน  หลังจากมีความขัดแย้งภายในเล็กน้อย  อำนาจของรัฐก็ตกอยู่ในมือของกลุ่มอำนาจที่รวมตัวกันเป็นคณะรัฐบาลแห่งชาติ  ณ ปัจจุบัน  สาธารณรัฐอาราเนียปกครองโดยระบอบสหพันธรัฐแบบพรรคการเมืองเดียว  มีกรุง อาจายาน่า เป็นเมืองหลวง  ถึงแม้รัฐต่างๆ จะยังคงมีอำนาจปกครองส่วนท้องถิ่นบ้าง  แต่นโยบายส่วนใหญ่ทั้งหมดขึ้นตรงต่อคณะรัฐบาลแห่งชาติโดยมีคณะผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งภายในพรรคจำนวน 5 คนทำหน้าที่บริหารรัฐ  มีสภาสูงเป็นผู้กำหนดมาตรากฎหมายโดยสมาชิกพรรคจะเป็นสมาชิกของสภาโดยอัตโนมัติ  หน้าที่ของพรรคคือปูพื้นฐานของประชาธิปไตยให้กับประชาชนจนกระทั่งทุกคนพร้อมเต็มที่สำหรับประชาธิปไตยที่แท้จริงในอนาคต


                      นั่นคือข้อมูลอย่างคร่าวๆ ที่รอสได้เรียนรู้มา 


                     "แต่นั่นมีข้อมูลที่หายไปอยู่อย่างนึงนะ"  ไบรอันกล่าวขึ้นมา


                     "แล้วราชินีหายไปไหน"  รอสตอบขึ้นมา


                     "ปิ๊งป่อง  ถูกต้องแล้ว"  ไบรอันชูชี้ขึ้นมา  "ความจริงแล้วหลังจากนั้นไม่นาน  พระราชินีก็สวรรคตซะงั้น  แต่ก็ทิ้งทายาทผู้สืบทอดอายุ 2 ขวบเศษไว้  ความจริงการขัดแย้งนั้นเป็นการขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจเก่าที่ชูเจ้าหญิงน้อยนั้น กับอีกพวกขั้วอำนาจใหม่ที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยม  ดูเผินๆ เหมือนฝ่ายขั้วอำนาจใหม่จะชนะ  แต่ความจริงแล้วพวกนั้นตกลงกันได้ต่างหาก"


                     "ข้อตกลง?"  รอสตั้งใจฟัง


                     "ใช่แล้ว  ในแง่ทฤษฎีแล้ว คณะรัฐบาลแห่งชาติถือเป็นผู้มีอำนาจเต็มของสหพันธรัฐอาราเนียใช่ม้า  แต่ความจริงแล้วอำนาจของคณะรัฐบาลแห่งชาติไม่ได้มีอำนาจครอบคลุมทุกพื้นที่หรอก  ตัวอย่างง่ายๆ เลยก็อย่างที่ที่พวกเรากำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจเฉิบอยู่นี่ล่ะ"  ไบรอันเริ่มดื่มกาแฟของตนมั่ง แล้วจึงพูดต่อ  "รัฐโซเฟียแห่งนี้ขึ้นชื่อเป็นเมืองหลวงเก่าของอาราเนีย  มีการปกคองตนเองโดยพระราชินีมีสิทธิ์ขาดในพื้นที่แถบนี้ทั้งหมด"


                    "งั้นโรงเรียนโซเฟียก็ตั้งตามชื่อรัฐนะสิ"  รอสถามต่อ


                    "ใช่แล้วล่ะ  รัฐนี้ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาก็เพราะโรงเรียนโซเฟียนี้นี่ล่ะ  ใครๆ ก็อยากมาเข้าเรียนที่นี่กัน  ไม่ใช่แค่รัฐนี้รัฐเดียวนะ  พื้นที่แถบทุ่งหญ้าเสต็ปทางตอนใต้ก็ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางหรอกนะ  ทางนั้นเค้าก็มีเจ้าปกครองเป็นอิสระยิ่งกว่ารัฐโซเฟียอีก  แต่ว่าพื้นที่แถบนั้นมันมีแต่หญ้ากับหญ้า  รัฐบาลกลางเลยไม่ค่อยสนใจนัก  ตอนนี้มันเลยกลายเป็นว่าประเทศเดียวแต่มีหลายส่วนการปกครองยังไงล่ะ" 


                    "แล้วคุณรู้อะไรเกี่ยวกับโรงเรียนโซเฟียอีกมั่ง"  รอสถามต่อด้วยความสนอกสนใจ


                     "ก็...เท่าที่รู้ก็เป็นโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาราเนียละนะ  ส่วนข้อมูลอื่นๆ ชั้นก็ไม่รู้นักหรอก" 


                      "งั้นเหรอ"  รอสกล่าวด้วยความผิดหวัง


                      หลังจากที่รอสพูดจบ  ก็ได้เวลาที่เจ้าตูบเอาฟิชแอนด์ชิพมาเสิร์พ  รอสจ้องดูไบรอันที่นั่งกินอย่างเอร็จอร่อยรอสลังเลอยู่นานพร้อมกับมองปลาทอดตัวโตกับเฟรนช์ฟรายในจานของเขา  ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยกินอะไรอย่างนี้มาก่อนนอกจากอาหารสังเคราะห์ที่วนอยู่กันไม่กี่รส


                       "ลองกินดูซี่  แล้วจะติดใจ" 


                      ไบรอันพูดกับรอสทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวปลาตุ้ยๆ อยู่  หลังจากเสียงของท้องมันเรียกร้องจากการที่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเมื่อวานก่อน  สุดท้ายรอสก็ลองหยิบเฟรนชฟรายมากินชิ้นหนึ่ง  เขาลองชิมโดยกัดชิ้นเล็กๆ ดู  หลังจากนั้นไม่นาน  ทุกอย่างในจานก็หมดเกลี้ยงเรียบวุธ  ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้กินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน  แค่การได้ลิ้มรสกาแฟแท้ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็บุญโขแล้ว  นี่ยังได้ลิ้มรสอาหารที่ราวกับประทานมาจากสรวงสวรรค์อีก 


                      สุขใจซะจนเกือบลืมเรื่องราวที่เขากังวลใจอยู่ซะหมดเลย...


                      หลังจากเรียกคุณตูบมาเก็บเงิน  ไบรอันก็พาเดินเที่ยวในเมืองต่อหลายต่อหลายที่  แต่ความสุขมันก็อยู่ได้ไม่นาน  ความรู้สึกกังวลมันค่อยๆ คืบคลานกลับมาอีกครั้งอย่างเยือกเย็น และไม่ปราณี 


                    "ฉันว่าน่าจะได้เวลาเริ่มงานจริงๆ จังแล้วซะทีนะ"  รอสกล่าวออกมาระหว่างการตระเวนสำรวจเมือง


                    "เดี๋ยวก่อนซี่  ยังพาไปดูไม่ครบทุกที่เลยนา  ยังไม่ได้ไปดู..."  ไบรอันยังคงยิ้มไปคุยไปโดยที่ไม่รู้ว่ารอสใกล้จะถึงจุดเดือด


                     "เรามัวแต่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระมากพอแล้ว"  ในที่สุดรอสก็ระเบิดออกมา  เขารู้สึกว่าเขาเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระมากพอแล้ว    


                     "แต่ว่า...."


                    "นี่เป็นคำสั่งนะ (จ่า)!"  รอสแอบกระซิบข้างหูไบรอันด้วยน้ำเสียงอันดุดัน  "พาผมไปที่โรงเรียนโซเฟียเดี๋ยวนี้"


                      ไบรอันจ้องหน้ารอสด้วยความอึ้งอยู่ชั่วขณะหนึ่ง  ดูเหมือนไบรอันไม่อยากจะไปสถานที่นั้นเหลือเกิน  แต่ในตอนนี้รอสอยากจะยืนยันข้อมูลที่รอสได้มาว่าจะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน


                      "ก็ได้ (ครับ)"  ไบรอันตอบด้วยสีหน้าซึมๆ  "งั้นเดี๋ยว (ผม) จะพาไปเอง"

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@

    Edit Log: May 10th, 2008: แก้ไขข้อมูล

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×