คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : The New World (2)
"นี่มันแย่...แย่ที่สุด"
ผมสีน้ำตาลเข้มที่ผูกเป็นผมแกะด้วยโบว์หลากสีสันพัดพลิ้วไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ผิวขาวเนียนอมชมพูเรื่อของเธอเปล่งประกายกับแสงอาทิตย์ของเช้ายามสายอันสดใส ถึงแม้ดวงตาจะเต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอันกลมโตนั้นกลับดูเจิดจรัสราวกับทำมาจากอำพัน ใบหน้าที่ถึงแม้เวลานี้จะเต็มไปด้วยความกังวลและความเซ็งสุดชีวิต แต่มันก็ไม่อาจจะปกปิดความงดงามที่ราวกับออกมาจากภาพวาดของนางฟ้าในจินตนาการ ชุดสีชมพูอันฟูฟ่องที่เต็มไปด้วยริบบิ้นและโบว์ดูราวกับถอดมาจากชุดของตุ๊กตายิ่งดึงดูดสายตาของทุกคนให้มาจับจ้อง ชายกระโปรงทำเป็นจีบลายลูกไม้ที่ยาวจนถึงข้อเท้าพลิ้วไปตามการเคลื่อนไหวของเธอ
"นี่มันไม่ใช่เวลามัวแต่ทำอะไรอย่างนี้นะ ทำไมเราต้องมาอยู่ในสภาพทุเรศแบบนี้ด้วย"
"วันนี้อากาศดีจังเลยนะ" เสียงหวานๆ ดังออกมาจากบุคคลที่เดินอยู่ด้านหน้าที่ไม่ใช่ใครอื่น ไบรอันนั่นเอง เขาเปิดเครื่องแปลงเสียงทำให้เสียงอันแหบแห้งของไบรอันกลับดูอ่อนหวาน ใสปิ๊งเหมือนกับสาวน้อยทั่วๆ ไปคนหนึ่ง
"นี่จ่า..." รอสเดินขึ้นมากระซิบไบรอันที่กำลังแบกเสื้อผ้าอยู่ในมือ
"พูดเบาๆ หน่อย(ครับ) เรียก(ผม)ข้างนอกให้เรียกว่า ซีเรีย จะดีกว่า" ไบรอันกระซิบตอบ "ถ้าคนอื่นได้ยินเข้าเดี๋ยวจะยุ่งเอา(ครับ)"
"งั้น...ทำไมต้องให้ฉันแต่งตัวชุดนี้ด้วยล่ะ มันไม่สะดุดตาไปหน่อยเหรอ?" รอสกระซิบถามไบรอันด้วยความกระอักกระอ่วนใจเพราะชุดอันฟูฟ่องของเขาดูท่าจะเป็นเป้าสายตาของผู้คนตามทางเหลือเกิน
"ก็เมเปิ้ล ในชุดนี้น่ารักดีออก" ไบรอันเรียกชื่อรอสด้วยนามแฝง "คนน่ารักใส่ชุดอะไรคนเค้าก็มองอยู่แล้ว"
รอสมองไปรอบๆ ก็เห็นมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมด ยิ่งทำให้เขารู้สึกหวั่นใจที่อยู่ท่ามกลางผู้สิ่งมีชีวิตอันป่าเถื่อน ไร้ซึ่งอารยธรรม และโหดเหี้ยมดังเช่นที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก
หลังอาบน้ำครั้งนั้นเสร็จ ไบรอันก็จับรอสแต่งตัวซะอย่างสนุกสนาน หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นาน สุดท้ายรอสก็ยอมใส่เสื้อกระโปรงบานฟูฟ่องโดยเข้าใจว่าเป็นแฟชั่นยอดฮิตที่ผู้หญิงนิยมใส่กัน พอเอาเข้าจริงแล้วชุดที่ทั้งสองใส่กลับดูเหมือนหลงมาจากนิยายแฟนตาซีซะมากกว่า (แล้วนี่ไม่ใช่นิยายแฟนตาซีหรอกเรอะ)
"เอ่อ... แล้วมันจะไม่ผิดสังเกตไปหน่อยเหรอ" รอสถามไบรอันอย่างเป็นกังวล
"อ๋อ...ไม่ต้องห่วงหรอก...ชั้นก็แต่งตัวอย่างนี้ของชั้นทุกวันนั่นล่ะ ไม่เห็นมีใครเค้าว่าเลย" ไบรอันตอบด้วยใบหน้าอันร่าเริงที่ดูเหมือนจะไม่กังวลกับสภาพที่ทั้งสองตกเป็นเป้าสายตาเลยซักครั้ง ซึ่งรอสก็ทำได้แต่ปลงกับภาวนาขอให้ความอย่าเพิ่งแตกเลย
ทั้งสองอยู่ในตัวเมืองที่ห่างจากเซฟเฮาส์ประมาณ 20 นาทีโดยการเดิน ถึงแม้จะเรียกว่าเป็นตัวเมืองก็คงเรียกได้ไม่เต็มปากเพราะรอบๆ ตัวมีแต่ต้นไม้สูงสุดลูกหูลูกตา เพียงแต่บนต้นไม้ (แม้กระทั่งในต้นไม้) มีทั้งอาคาร ผู้คนและสัตว์อาศัยอยู่มากมาย และแน่นอนว่าต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมด สิ่งก่อสร้างต่างๆ ดูกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติได้เป็นอย่างดีจนแทบจะแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนเกิดจากธรรมชาติ สิ่งในเกิดจากมนุษย์ เหล่าผู้หญิงและหมู่สัตว์ทั้งหลายต่างเดินกันให้ขวักไขว่ ทั้งบนพื้นและบนทางเดินที่อยู่เหนือพื้นที่เชื่อมระหว่างต้นไม่แต่ละต้น
ทั้งรอสและไบรอันต่างเป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนบนท้องถนน ผู้คนส่วนใหญ่เตรียมตัวสำหรับงานประจำวัน แม่ค้าต่างตั้งแผงร้านขายของในร้านต้นไม้ของตนเอง ผู้คนต่างหยุดแวะทักทายซึ่งกันและกันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันทั่วๆ ไปอีกวันหนึ่ง
"แล้วเรามาทำอะไรกันที่นี่นะ" รอสถามไบรอันด้วยความกระวนกระวายใจ "เราควรจะไปที่โรงเรียนโซเฟียอะไรนั่นเลยไม่ใช่เหรอ"
"อย่าเพิ่งรีบร้อนสิค๊า" ไบรอันดัดเสียงพูดเลียนแบบผู้หญิง "เดี๋ยวต้องไปส่งเสื้อที่ร้านขายเสื้อในตลาดก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน"
รอสยังกังวลถึงเรื่องที่ซาฮากล่าวไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ไว้ใจกับข้อมูลเหล่านั้น แต่เรื่องที่เขามีเวลาอยู่เพียงแค่ครึ่งเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นการที่เขามาเอ้อละเหยอยู่ตอนนี้เวลาอันมีค่าก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ
"นี่ไม่ใช่เวลามัวแต่จะเอ้อระเหยนะ ตอนนี้นะ..."
ไบรอันเพียงเอามือมาแตะปิดปากรอสเบาๆ
"รีบมากไปการใหญ่จะเสียเอาได้น๊า..." ไบรอันส่งยิ้มสบายให้กับรอส "ตอนนี้เรามาค่อยๆ ทำตัวให้คุ้นเคยกับที่นี่กันก่อนดีกว่านะ ไม่เคยเรียนเหรอว่าจงบุกเมื่อยามที่แน่ใจว่าชนะแน่นอนนะ"
"เรื่องแค่นี้รู้อยู่แล้วน่า เอามือออกไปได้แล้ว..." รอสปัดมือของไบรอันออกไปก่อนหันตอบด้วยสีหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย
"งั้นเดี๋ยวส่งเสื้อเสร็จแล้วชั้นจะพาไปกินอะไรอร่อยๆ เอง" ไบรอันขยิบตาให้รอสก่อนมุ่งหน้าไปยังใจกลางของตัวเมือง
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงร้านขายเสื้อที่ว่า เป็นร้านที่ใหญ่พอสมควร หญิงวัยกลางคนที่อยู่ในร้าน เมื่อเห็นไบรอันก็ออกมาทักทายไบรอันด้วยท่าทีของคนรู้จักกัน
"สวัสดีค่า เอาเสื้อล็อตใหม่มาส่งค่า" ไบรอันยื่นกองเสื้อผ้าให้กับหญิงคนนั้น
"ดีเลยค่า เดี๋ยวรอเดี๊ยนสักครู่น้า เอาเสื้อไปเก็บก่อน" หญิงวัยกลางคนคนนั้นรับเสื้อผ้าจากไบรอันด้วยความกระฉับกระเฉงก่อนจะหิ้วเสื้อผ้าทั้งหมดเข้าไปในร้าน ปล่อยให้รอสกับไบรอันรออยู่ข้างนอก
"นี่เรามาทำอะไรกันที่นี่เนี่ย" รอสกระซิบถามไบรอันด้วยความสงสัย
"อ๋อ...พอดีอาชีพหน้าฉาก (ผม) เป็นช่างทำเสื้อนะครับ ถ้าไม่มาส่งเสื้อเลยมันจะดูผิดสังเกตุไปหน่อย" ไบรอันตอบ
"แล้ว...คุณทำเสื้อเป็นเหรอ" รอสกระซิบถาม
"ไม่เป็นเลยซักกะติ๊ดขอรับ" ไบรอันกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงกวนๆ "ต้องขอบคุณการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ทำให้ผมทุ่นแรงได้เยอะทีเดียว"
หลังไบรอันพูดจบได้ไม่เท่าไร หญิงวัยกลางคนก็เดินออกมาจากร้านพร้อมเงินจำนวนหนึ่ง
"ไม่รู้เดี๊ยนจะขอบคุณยังไงดี ถ้าไม่มี ซีเรีย แล้วละก็ ร้านเดี๊ยนคงมีเสื้อผ้าสวยๆ ขายไม่พอแน่นอน"
"อุ๊ยตาย เสื้อผ้าของดิฮั้นไม่ดีถึงขนาดนั้นหรอกค่า" ไบรอันดัดเสียงได้กระแดะที่สุดของที่สุด
"ต๊าย ถ่อมตัวจังเลยนะค๊า เสื้อผ้าของซีเรียนะถือได้ว่าตัดเย็บได้มีมาตรฐานสม่ำเสมอที่สุดในแถบนี้แล้ว เดี๊ยนละอยากรู้จริงๆ เลยว่าทำได้ยังไง ตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยมือได้ทั้งเยอะและเท่าๆ กันขนาดนี้ คุณใช้เวทมนตร์แบบไหนกันแน่คะ" หญิงวัยกลางคนก็ยังชมไบรอันต่อไปโดยหารู้ไม่ว่าไบรอันเพิ่งขายผลิตภัณฑ์จากเครื่องจักรด้วยราคาผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด กำไรเห็นๆ
"ความลับทางธุรกิจค่า" ไบรอันยิ้มตอบหน้าตาเฉย
"โห...งั้นเหรอคะ น่าเสียดายจัง" แล้วหญิงวัยกลางคนก็สังเกตเห็นรอส "อ้าว แล้วน้องสาวสุดสวยคนนี้เป็นใครเหรอคะ" หญิงวัยกลางคนมองรอสจากหัวจรดเท้า แล้วจึงยิ้มเหมือนรู้อะไรบางอย่าง "อ๋อ...หรือว่ากิ๊กของคุณซีเรีย แหมๆ เลิกกับแฟนเก่าไม่ทันไรหาคนใหม่ได้ไวจังนะคะ แถมน่ารักอีกด้วย"
"ไม่ใช่ค่า นี่เป็นญาติดิฮั้นเอง เมเปิ้ล ไซรัส ค่า แกอุตส่าห์ถ่อมาจากเทือกเขาคาเรซานเชียวนะคะเนี่ย" ไบรอันจับไหล่รอสพร้อมกับดันไปข้างหน้าแนะนำรอสให้รู้จัก
"เอ่อ...ส...สวัสดีค่ะ" รอสตอบอย่างเหวอๆ
"ว้าย เสียงน่ารักจังค่า สนใจเป็นแฟนพี่มั้ย" หญิงวัยกลางช้อนคางรอสขึ้นมา รอสลืมตาตื่นก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้ง หญิงวัยกลางคนนึกว่ารอสแค่กำลังอาย แต่ความจริงแล้วรอสกลัวแทบตาย
"พอดีเมเปิ้ลเค้าขี้อายหน่อยนะค่ะ ปกติไม่ค่อยได้ออกมาเจอคนเยอะอย่างนี้หรอกค่า"
ไบรอันคว้ารอสมาหลบข้างหลังก่อนจะเริ่มการสนธนาไร้สาระต่อไป ไบรอันสาธยายถึงความเศร้าที่เซบาสเตียนเพิ่งเสียไปราวกับว่ามันเป็นคนในครอบครัวที่สำคัญยิ่ง หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็ปลอบไบรอันโดยไม่รู้ว่าที่แท้แล้ว เซบาสเตียน ก็คือคอมพิวเตอร์บุโรบุโท่ดีๆ นี่เอง รอสมองเข้าไปในร้านเพื่อฆ่าเวลา ภายในร้านก็มีเสื้อผ้ามากมาย มีทั้งเสื้อผ้าแบบที่รอสใส่อยู่ มีแบบธรรมดาตามที่คนธรรมดาเค้าใส่กัน แต่สิ่งที่ทำให้รอสสนใจคือวิธีการที่พนักงานในร้านจัดชุด เธอแทบจะไม่ต้องจับชุดเลย อยู่ดีๆ ชุดทั้งหลายแหล่ที่ไบรอันเพิ่งเอามาส่งก็ "เดิน" ไปแขวนตัวเองบนราวแสดงสินค้าราวกับมันมีชีวิต
หลังจากคุยเรื่องไร้สาระสักพัก ในที่สุดไบรอันก็ขอตัวเจ้าของร้านไปทำธุระต่อ
"นี่ต้องคุยไร้สาระอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ" รอสถามไบรอันที่เดินตัวปลิวอย่างสบายอารมณ์
"ก็...ผู้หญิงก็เงี้ย" ไบรอันไม่ตอบอะไรมาก
แล้วทั้งสองก็มาถึงร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเสื้อนัก ตัวอาคารที่เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสัน มีเสียงเพลงของเหล่าหมู่นกคอยขับขานประสานเสียง ภายในร้านมีโต๊ะกลมๆ วางอยู่สามสี่ตัว โต๊ะในร้านถูกจับจองไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังพอมีที่เหลือสำหรับรอสกับไบรอัน
"ฮ่า...ไหนดูจิ๊ วันนี้เมนูแนะนำมีอะไรบ้าง" ไบรอันหยิบเมนูมาเปิดดูอย่างสบายอารมณ์โดยไม่สนรอสที่กำลังกระวนกระวายใจเกี่ยวกับภารกิจอยู่ "เมเปิ้ลก็ดูเลยว่าจะสั่งอะไร"
ไบรอันยื่นเมนูอีกอันให้กับรอส พอรอสเปิดอ่านก็เจอแต่ตัวอักษรหวัดๆ ที่เขาแทบจะอ่านไม่ออก แต่ก็พอจะเดาออกว่าเป็นภาษาเดียวกัน สำหรับรอสที่เคยอ่านแต่ตัวพิมพ์แล้ว อ่านลายมือเขียนค่อนข้างจะสาหัสพอสมควร สุดท้ายรอสก็ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี จึงปล่อยให้ไบรอันเป็นคนจัดการเรื่องอาหาร
"งั้นเอากาแฟกับฟิชแอนด์ชิพแล้วกันนะ" ไบรอันปิดเมนูเป็นอันตกลง "เอ...แล้วบ๋อยไปไหนล่ะ"
"บ๋อย?"
โฮ่ง!
รอสตกใจจนเกือบจะตกจากเก้าอี้ ที่ตรงปลายเท้าของเขามีหมาตัวใหญ่ขนปุกปุยน้ำตาลแซมเทายืนลิ้นห้อยมองจ้องตาแป๋วมายังรอส
"อ้อ...อยู่นี่เอง งั้นสั่งกาแฟกับฟิชแอนด์ชิพสองที่นะ" ไบรอันก้มไปคุยกับเจ้าหมาตัวนั้น ราวกับมันรู้ภาษาคน มันพยักหน้ารับออเดอร์จากไบรอันก่อนจะวิ่งดุ๊กๆ หายไปด้านหลังร้านอาหาร
"นั่นมัน..." รอสยังไม่หายช็อคจากการเพชิญหน้ากับคุณตูบขนปุยตัวเป็นๆ ครั้งแรกในชีวิตของเขา
"อ๋อ...ก็บ๋อยที่ว่าไง เดี๋ยวอีกซักพักเค้าก็คงเอาอาหารมาเสิร์พให้เองล่ะ" ไบรอันพูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ปล่อยให้รอสประสบพบเจอเคาเจอร์ช็อคอีกรอบไป
อีกไม่นาน เจ้าตูบนั่นก็กลับมาพร้อมกับลากรถเข็นเล็กๆ ที่มีกาแฟสองถ้วยมาด้วย ไบรอันหยิบกาแฟขึ้นวางบนโต๊ะก่อนจะลูบหัวเจ้าตูบนั่นด้วยความเอ็นดู จากนั้นเจ้าตูบก็เดินลากรถเข็นเล็กๆ กลับไปยังด้านหลัง
"ดื่มซี่ กาแฟแท้ๆ เลยนา" ไบรอันเติมน้ำตาลลงไปสองก่อนหมุนนิ้วรอบๆ แก้ว ปรากฏว่ากาแฟภายในแก้วหมุนเป็นเกลียวทั้งๆ ที่ไบรอันไม่ได้แตะแก้วเลยแม้แต่น้อย
รอสได้แต่มองไบรอันด้วยความทึ่งก่อนจะมองยังแก้วกาแฟตรงหน้าตน แล้วจึงมองที่กำไลของตน
"อย่าดีกว่า" รอสล้มเลิกความคิดที่จะใช้เวทมนตร์ แต่ทางร้านไม่มีอะไรพอที่จะใช้คนได้เลยดังนั้นเขาจึงดื่มมันสดๆ ซะอย่างนั้น
กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ลอยออกมาทำเอารอสแทบเคลิบเคลิ้มไปกับมัน เมล็ดกาแฟแท้ที่มูราลถือว่าเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามาก การที่รอสได้ลิ้มรสกาแฟที่กรองมาจากเมล็ดกาแฟแท้ถือเป็นความสุขที่ไม่อาจจะจินตการได้
ระหว่างที่รอสกำลังละเมียดละไมจิบกาแฟอยู่นั้น ไบรอันก็ลุกไปหยิบหนังสือพิมพ์มาจากโต๊ะข้างๆ ที่ว่างอยู่ ก่อนจะเปิดอ่านดูข่าวค(ร)าวว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในอาราเนียเมื่อวานนี้ รอสเห็นดังนั้นหยิบมาอ่านบ้างหวังว่าอาจจะมีเบาะแสอะไรในหนังสือพิมพ์บ้าง แต่เขาอ่านเพียงไม่กี่บรรทัดก็แทบจะเขวี้ยงมันทิ้งไปเลย ข่าวที่เขาพบกลับเป็นเรื่องของคนโน้นไปกิ๊กคนนี้บ้าง คนโน้นข่าวกับคนโน้นบ้าง ไฮซงไฮโซอะไรก็ไม่รู้ที่รอสไม่รู้เรื่องเลยแทบจะเรียกได้ว่าข่าวขยะ ไร้สาระสุดๆ เลยก็ว่าได้
"เมเปิ้ลจะอ่านไหม" ไบรอันยื่นหนังสือพิมพ์ที่เขาอ่านอยู่ให้รอส "ถ้าจะอ่านข่าวมีสาระต้องฉบับนี้"
รอสหยิบมันมาอ่านก็พบแต่ข่าวการเมืองของอาราเนียที่แทบจะไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการเลย แต่ว่ารอสเองก็ได้รับการถ่ายทอดเกี่ยวกับระบบการเมืองการปกครองของอาราเนียมาบ้างเหมือนกัน
เท่าที่เขาทราบมา ชื่อเต็มของประเทศนี้คือสหพันธรัฐอาราเนีย เดิมทีเคยปกครองระบอบศักดินา มีพระราชินีเป็นประมุข โดยแต่พื้นที่จะถูกปกครองโดย "เจ้า" ประจำถิ่นอีกทีหนึ่ง เป็นการปกครองอย่างหลวมๆ โดยเจ้าของแต่ละรัฐจะสวามิภักดิ์ต่อพระราชินี แต่เมื่อ 17 ปีก่อน พระราชินีก็ประกาศคืนอำนาจคืนสู่ประชาชน หลังจากมีความขัดแย้งภายในเล็กน้อย อำนาจของรัฐก็ตกอยู่ในมือของกลุ่มอำนาจที่รวมตัวกันเป็นคณะรัฐบาลแห่งชาติ ณ ปัจจุบัน สาธารณรัฐอาราเนียปกครองโดยระบอบสหพันธรัฐแบบพรรคการเมืองเดียว มีกรุง อาจายาน่า เป็นเมืองหลวง ถึงแม้รัฐต่างๆ จะยังคงมีอำนาจปกครองส่วนท้องถิ่นบ้าง แต่นโยบายส่วนใหญ่ทั้งหมดขึ้นตรงต่อคณะรัฐบาลแห่งชาติโดยมีคณะผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้งภายในพรรคจำนวน 5 คนทำหน้าที่บริหารรัฐ มีสภาสูงเป็นผู้กำหนดมาตรากฎหมายโดยสมาชิกพรรคจะเป็นสมาชิกของสภาโดยอัตโนมัติ หน้าที่ของพรรคคือปูพื้นฐานของประชาธิปไตยให้กับประชาชนจนกระทั่งทุกคนพร้อมเต็มที่สำหรับประชาธิปไตยที่แท้จริงในอนาคต
นั่นคือข้อมูลอย่างคร่าวๆ ที่รอสได้เรียนรู้มา
"แต่นั่นมีข้อมูลที่หายไปอยู่อย่างนึงนะ" ไบรอันกล่าวขึ้นมา
"แล้วราชินีหายไปไหน" รอสตอบขึ้นมา
"ปิ๊งป่อง ถูกต้องแล้ว" ไบรอันชูชี้ขึ้นมา "ความจริงแล้วหลังจากนั้นไม่นาน พระราชินีก็สวรรคตซะงั้น แต่ก็ทิ้งทายาทผู้สืบทอดอายุ 2 ขวบเศษไว้ ความจริงการขัดแย้งนั้นเป็นการขัดแย้งระหว่างขั้วอำนาจเก่าที่ชูเจ้าหญิงน้อยนั้น กับอีกพวกขั้วอำนาจใหม่ที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยม ดูเผินๆ เหมือนฝ่ายขั้วอำนาจใหม่จะชนะ แต่ความจริงแล้วพวกนั้นตกลงกันได้ต่างหาก"
"ข้อตกลง?" รอสตั้งใจฟัง
"ใช่แล้ว ในแง่ทฤษฎีแล้ว คณะรัฐบาลแห่งชาติถือเป็นผู้มีอำนาจเต็มของสหพันธรัฐอาราเนียใช่ม้า แต่ความจริงแล้วอำนาจของคณะรัฐบาลแห่งชาติไม่ได้มีอำนาจครอบคลุมทุกพื้นที่หรอก ตัวอย่างง่ายๆ เลยก็อย่างที่ที่พวกเรากำลังนั่งจิบกาแฟสบายใจเฉิบอยู่นี่ล่ะ" ไบรอันเริ่มดื่มกาแฟของตนมั่ง แล้วจึงพูดต่อ "รัฐโซเฟียแห่งนี้ขึ้นชื่อเป็นเมืองหลวงเก่าของอาราเนีย มีการปกคองตนเองโดยพระราชินีมีสิทธิ์ขาดในพื้นที่แถบนี้ทั้งหมด"
"งั้นโรงเรียนโซเฟียก็ตั้งตามชื่อรัฐนะสิ" รอสถามต่อ
"ใช่แล้วล่ะ รัฐนี้ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาก็เพราะโรงเรียนโซเฟียนี้นี่ล่ะ ใครๆ ก็อยากมาเข้าเรียนที่นี่กัน ไม่ใช่แค่รัฐนี้รัฐเดียวนะ พื้นที่แถบทุ่งหญ้าเสต็ปทางตอนใต้ก็ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางหรอกนะ ทางนั้นเค้าก็มีเจ้าปกครองเป็นอิสระยิ่งกว่ารัฐโซเฟียอีก แต่ว่าพื้นที่แถบนั้นมันมีแต่หญ้ากับหญ้า รัฐบาลกลางเลยไม่ค่อยสนใจนัก ตอนนี้มันเลยกลายเป็นว่าประเทศเดียวแต่มีหลายส่วนการปกครองยังไงล่ะ"
"แล้วคุณรู้อะไรเกี่ยวกับโรงเรียนโซเฟียอีกมั่ง" รอสถามต่อด้วยความสนอกสนใจ
"ก็...เท่าที่รู้ก็เป็นโรงเรียนประจำที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาราเนียละนะ ส่วนข้อมูลอื่นๆ ชั้นก็ไม่รู้นักหรอก"
"งั้นเหรอ" รอสกล่าวด้วยความผิดหวัง
หลังจากที่รอสพูดจบ ก็ได้เวลาที่เจ้าตูบเอาฟิชแอนด์ชิพมาเสิร์พ รอสจ้องดูไบรอันที่นั่งกินอย่างเอร็จอร่อยรอสลังเลอยู่นานพร้อมกับมองปลาทอดตัวโตกับเฟรนช์ฟรายในจานของเขา ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยกินอะไรอย่างนี้มาก่อนนอกจากอาหารสังเคราะห์ที่วนอยู่กันไม่กี่รส
"ลองกินดูซี่ แล้วจะติดใจ"
ไบรอันพูดกับรอสทั้งๆ ที่กำลังเคี้ยวปลาตุ้ยๆ อยู่ หลังจากเสียงของท้องมันเรียกร้องจากการที่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเมื่อวานก่อน สุดท้ายรอสก็ลองหยิบเฟรนชฟรายมากินชิ้นหนึ่ง เขาลองชิมโดยกัดชิ้นเล็กๆ ดู หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างในจานก็หมดเกลี้ยงเรียบวุธ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้กินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน แค่การได้ลิ้มรสกาแฟแท้ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตก็บุญโขแล้ว นี่ยังได้ลิ้มรสอาหารที่ราวกับประทานมาจากสรวงสวรรค์อีก
สุขใจซะจนเกือบลืมเรื่องราวที่เขากังวลใจอยู่ซะหมดเลย...
หลังจากเรียกคุณตูบมาเก็บเงิน ไบรอันก็พาเดินเที่ยวในเมืองต่อหลายต่อหลายที่ แต่ความสุขมันก็อยู่ได้ไม่นาน ความรู้สึกกังวลมันค่อยๆ คืบคลานกลับมาอีกครั้งอย่างเยือกเย็น และไม่ปราณี
"ฉันว่าน่าจะได้เวลาเริ่มงานจริงๆ จังแล้วซะทีนะ" รอสกล่าวออกมาระหว่างการตระเวนสำรวจเมือง
"เดี๋ยวก่อนซี่ ยังพาไปดูไม่ครบทุกที่เลยนา ยังไม่ได้ไปดู..." ไบรอันยังคงยิ้มไปคุยไปโดยที่ไม่รู้ว่ารอสใกล้จะถึงจุดเดือด
"เรามัวแต่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระมากพอแล้ว" ในที่สุดรอสก็ระเบิดออกมา เขารู้สึกว่าเขาเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระมากพอแล้ว
"แต่ว่า...."
"นี่เป็นคำสั่งนะ (จ่า)!" รอสแอบกระซิบข้างหูไบรอันด้วยน้ำเสียงอันดุดัน "พาผมไปที่โรงเรียนโซเฟียเดี๋ยวนี้"
ไบรอันจ้องหน้ารอสด้วยความอึ้งอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ดูเหมือนไบรอันไม่อยากจะไปสถานที่นั้นเหลือเกิน แต่ในตอนนี้รอสอยากจะยืนยันข้อมูลที่รอสได้มาว่าจะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน
"ก็ได้ (ครับ)" ไบรอันตอบด้วยสีหน้าซึมๆ "งั้นเดี๋ยว (ผม) จะพาไปเอง"
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
Edit Log: May 10th, 2008: แก้ไขข้อมูล
ความคิดเห็น