เรื่องจริงของความรักตากับยาย - เรื่องจริงของความรักตากับยาย นิยาย เรื่องจริงของความรักตากับยาย : Dek-D.com - Writer

    เรื่องจริงของความรักตากับยาย

    โดย DR.CHETKUNZ

    ผู้เข้าชมรวม

    843

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    843

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ย. 53 / 02:33 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

      มีตากับยายอยู่คู่หนึ่ง เป็นเพื่อนของยายเราเอง เรื่องๆนี้มันเคยเกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว (2550) เราลงไปหายายที่บ้าน ที่จังหวัดๆหนึ่ง เพื่อนของยายเรา เค้าทั้งสองมีนิสัยความรักแบบวัยรุ่น รักกันแบบวัยรุ่น ต่างคนต่างมีความทันสมัยอยู่เฉยๆตัวเหมือนกัน และยายเล่าให้ฟังว่า คู่นี้เค้ารักกันมาปีนี้ (2550) ก็น่าจะ 53 ปีแล้ว ยายชื่อยายน้อยอายุ 73 ปี ตาชื่อตาช่วงมีอายุ 73 ปีเท่ากัน เราก็อยากจะรู้ว่าอะไรทำให้ยายกับตารักกันได้ เราจึงได้เดินเข้าไปถามเพราะความที่เราก็สนิทกับคู่นี้พอควร

      ก่อนอื่นขอเท้าความก่อนนะ ไหนๆก็จะเล่าแล้ว คือว่า ตากับยายคู่นี้ เป็นแฟนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะเรียนเป็นครูวิชาเดียวกัน มีลูกด้วยกันแค่คนเดียว คือลูกชาย ตอนนี้ก็เป็นครูอยู่ที่ต่างจังหวัดทางภาคเหนือ เมืองใหญ่ๆอ่ะ คงรู้นะ และลูกชายเขาก็มีลูกแล้ว 1 คน ตอนนี้กำลังจะมีคนที่สอง ตายายคู่นี้ เคยทะเลาะกันจนถึงขั้นเอ่ยบอกเลิกมาแล้ว ราวๆ 10 ครั้ง และสิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่มี คือความรักแบบที่เด็กวัยรุ่นเป็นกัน ทันสมัยพอตัว ใช้มือถืออะไรเป็นหมด ถือว่าเป็นคนที่ทันสมัยมาก มีเล่นเอ็มเอสเอ็นด้วย แต่คุณตาไม่ค่อยชอบเล่น เพราะสายตาไม่ค่อยดี มองตัวหนังสือไม่ออก ด้วยความที่ผมสงสัยว่าทำไมถึงรักกันได้นานมาก และยังทะเลาะกัน 10 กว่าครั้ง ทั้งๆที่น่าจะเลิกรากันไป บอกเลิกกันกี่ครั้ง ก็กลับมาคืนดีกันทุกที จนผมอดไม่ได้ที่ต้องถามตากับยายคู่นี้แล้วหล่ะ...

                  ก่อนอื่นผมถามยายก่อนว่า (ตอนนั้นยายทะเลาะกับตาพอดี)ทำไมยายถึงเลิกกับตา ยายตอบว่า ตาไม่เข้าใจยายแม้แต่นิดเดียว แล้วเราเลยถามกลับว่า แล้วยายทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ยายบอกเลิกกับตามาเป็นสิบครั้งแล้ว แต่ตั้งแต่ที่ยายคบกับตามา ปีนี้(2550) ก็เกือบจะ 50 ปีแล้ว ตาเขาก็ง้อยาย ยายก็กลับไปคืนดี ยายฟังเขาทุกครั้งที่เขาพูด มันไร้สาระนะ ที่ต้องนั่งฟังตาง้อ แต่การที่ตาทำแบบนั้น ยายก็พอเข้าใจตาเขาอยู่ บางครั้งตาเขาก็อารมณ์เสียใส่ยาย แต่ยายใจเย็นและให้คำปรึกษา ยายก็ยอมรับว่ายายไม่ดีพอสำหรับตา แต่ตาเคยบอกยายไว้อย่างหนึ่งว่า “การที่ตาตัดสินใจมาคบกับยายตั้งแต่แรก ต่อให้เกิดอะไรขึ้น ไม่มีวันที่ตาจะทิ้งยาย ตาไม่เคยโกรธยายที่ตาทิ้ง แต่ตากลับคิดว่า การที่ตาทำแบบนี้แล้วทำให้ยายต้องบอกเลิกนั้น เพราะตาอยากให้ยายได้รับสิ่งที่ดีกว่าตน และต้องการเห็นรอยยิ้มของยาย และทำให้ยายรู้สึกได้ว่า ยายคือคนที่โชคดีที่สุดในใจตาแล้ว” และเราก็นั่งคิดซึ่งในตอนนั้น เรายังเด็กอยู่ แต่เราก็อยากจะรู้ว่าทำไมถึงต้องงอนกันด้วย

      ตาไม่ใช่ว่าเราไม่ถามนะ เราก็ไปถามมา ตาเขาบอกว่า “ตาคบกับยายมา ก็ไม่ใช่ว่ายายคือคนแรกที่ตาเจอ ตาเจอคนมาเยอะ แต่ตาเลือกยาย เพราะยายเขามีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ตาสามารถมอบชีวิตให้เขา อยากรู้ไหม ว่าทำไมตากับยายถึงทะเลาะกันบ่อยๆ บอกเลิกกันแบบวัยรุ่น และกลับมาคืนดีกันทุกครั้ง ก็พอว่า ตากับยายจะนึกถึงเรื่องดีๆของยายเสมอ และตามีนิสัยเหมือนกับเรานั่นหล่ะ ขี้งอน ขี้โมโห ชอบเซ้าซี้ และชอบคิดมาก แต่ยายเขาก็ไม่เข้าใจตาหรอก แต่ยายเขาใช้คำว่า “ความรัก” มาเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง ไม่ใช่ว่ายายเขาไม่รู้สึกอะไรนะ มีครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ตากับยายเลิกกัน ทิ้งระยะเกือบ 1 เดือน ตาอารมณ์เสียแล้วเผลอโมโหใส่ยาย ตอนนั้นกำลังเป็นวัยรุ่นเลย อายุแค่ 20 หน่อยๆเอง นิสัยยังเด็กอยู่มาก ยายเขาบอกกับตาว่า ถ้าตามาหาที่บ้านยาย ยายจะเอาไม้ไล่ตีออกจากบ้าน และจะปิดบ้านหนี ตาก็เศร้าๆอยู่นะ ตาส่งจดหมายหายายทุกวัน จากเมื่อก่อน 1 ฉบับ ตอนนี้ยายเขามีจดหมายในตอนนั้นเกือบ 100 ฉบับ เพราะตอนนั้นไม่มีอะไรแบบนี้หรอกลูก กว่าที่ยายจะหายโกรธตา ตาก็ร้องไห้ไปเยอะ แต่ตาคิดว่า ตารักยายคนเดียว ความรักที่ตามีให้ยาย มันเป็นสิ่งที่พิชิตใจยายตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ตาเองก็เคยโกรธยาย แต่โกรธแค่ไม่ถึง 3 วิ ตาก็ต้องหายโกรธ แต่แค่ทำฟอร์มไว้ ผู้ชายอ่ะนะ แบบนั้นหล่ะลูก และเหตุผลที่ทำให้ตากับยายอยู่มาถึง 50 กว่าปีได้ เพราะ ตารักยายงัย ตาทำให้ยายรู้เสมอว่าตารักมากแค่ไหน ยายเขาลำบากใจหลายๆครั้งที่จะกลับมาหาตา แต่ยายเขาถือว่า อะไรที่มันจะลดหลั่นกันได้ ยายก็จะไม่สนใจ แต่จะใช้การกระทำ ทำให้เขาเห็นว่า เรากำลังไม่พอใจ และแสดงออกมาชัดเจน จำไว้นะลูก ความรักมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย มีเลิกได้ มันก็ไม่แปลกที่จะกลับมาหากันอีกครั้ง”

      หลังจากที่เราถามตาแล้ว ยายกับตาก็คืนดีกัน และกอดกัน แต่หลังจากวันนั้น จนถึงเมื่อปี 2552 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้ทราบข่าวว่า ตาได้เสียชีวิตไปแล้ว ผมถึงขั้นอึ้งและร้องไห้เลย ผมรีบลงไปหายายที่บ้านทันที และถามว่า ทำไมตาถึงรีบจากยายไป คำตอบที่ได้ยินกลับมาทำให้ผมคิดเสมอๆจนถึงวันนี้ คือ

      “ตอนนั้น ตากับยายทะเลาะกัน มันเหมือนคราวที่ตาทะเลาะกับยายครั้งใหญ่เลย ตากับยายไม่มองหน้ากัน ตากลับไปหาอยู่บ้านน้องชายซึ่งห่างกับบ้านยายราวๆ 50 กิโลเลย เรียกได้ว่าคนละอำเภอเลย ตอนไปตาเขาก็ขับรถไปปรกตินะ แล้วทีนี้ น้องของตาเล่าให้ฟังว่า ตาไปซื้อดอกกุหลาบ 99 ดอก ตาเขาชอบทำอะไรแบบวัยรุ่นมากๆ ดูทีวีเยอะ เลยเก็บมาใช้หมด ตาไปซื้อดอกกุหลาบเต็มหลังรถเก๋งสีดำที่ตาชอบขี่ไปอ่ะ แล้ววันนั้นเป็นวันที่ตากับยายจะครบรอบวันที่รักกันได้ 52 ปี ซึ่งวันนั้นจะเป็นวันที่ยายจะหายโกรธ ยายพยายามคิดแล้วคิดอีกว่าจะทำยังไงกับตาให้เข้าใจว่า สิ่งที่ตาทำมันไม่ถูกต้อง สิ่งที่ตาทำมันทำให้ยายอึดอัด คือว่า ตาหน่ะ อยากทำแกงกะหรี่ไก่ ตาก็ตื่นตั้งแต่ตี 5 เลย ไปตลาดโดยที่เดินไป ไม่ยอมเอารถไป และตลาดกับบ้านมันห่างกัน 5 กิโลกว่าๆ แล้วก็ไปซื้อของมาทำแกง ล้างถ้วยล้างชาม ทำความสะอาดบ้านแบบใหญ่โตเลย จนถึงเวลาประมาณ 8 โมง ตาชวนยายลงมากิน ยายสังเกตเห็นที่มือตามันมีพลาสเตอร์ติดแผลอยู่ ยายก็ถามว่าไปทำอะไรมา ทำไมเป็นแบบนี้ ตาก็บอกว่า นั่งสับไก่ให้กิน กลัวจะเขี้ยวยาก เพราะชิ้นมันใหญ่ไปหน่อย ยายจะได้กินสะดวกๆ เพราะยายไม่มีฟันแล้ว ไม่เหมือนตาที่ยังเหลืออยู่ แล้วตาพลาดไปโดนมีดบาด ยายเลยโกรธที่ไม่ฟังคำเตือนของยาย เพราะตาเป็นโรคเบาหวาน เวลาแผลเลือดออก เลือดมันหยุดไหลยาก ตาก็โมโหใส่ ว่าทำไมต้องว่าตา ทั้งๆที่ตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตี 5 เพื่อที่จะทำให้กิน เพราะเห็นว่ายายอยากกิน และทีนี้ ยายก็โกรธตา เดินออกจากบ้าน แล้ววันนั้นฝนมันตก ตาเลยวิ่งออกมาหายายแล้วเขียนหนังสือทิ้งไว้ให้ยายว่า เข้าบ้านไปเถอะ เดียวตาจะกลับไปบ้านน้องชาย ถ้ายายอารมณ์ดีแล้วค่อยมาคุยกัน และหลังจากวันนั้น ตากับยายก็ไม่คุยกันอีก แต่ส่งข้อความ ตาใช้หลานของน้องชายตาพิมพ์ข้อความให้ แล้วส่งหายาย ยายก็อ่านไม่ออกหรอก ตัวมันเล็ก เลยให้ไอ่ป๋องมันอ่านให้ ยายก็ไม่สนใจที่จะส่งไป เพราะยายอยากให้ตารู้ว่า ยายเตือนอะไรไปหัดฟัง และหัดเข้าใจกันบ้างว่า มันห่วงกันแค่ไหน และในคืนวันที่ครบรอบ ตาก็ไปซื้อดอกกุหลาบมา แล้วขี่รถมาหายายกลางคืน น่าจะประมาณ 2 ทุ่ม แล้วจู่ๆก็มีรถบรรทุก 10 ล้อ มันขับเร็วมาก มาชนตา ตายคาที่เลย ยายแทบจะเป็นลม (ยายร้องไห้มาละ) และยายก็ไปดูในรถที่สภาพพังยับ มีการ์ดที่ทำมือ ประกอบกับเศษดอกกุหลาบเยอะแยะในรถ การ์ดเขียนไว้ไม่ค่อยชัด เพราะมันขาดด้วย แต่พอจับใจความว่า ขอโทษนะ ที่รัก อะไรทำนองนั้น แล้วยายก็โทษตัวเองว่าทำอะไรลงไป ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้” และเราเลยบอกว่า ตาเขารักยายนะ เขาไม่โกรธยายเลยด้วยซ้ำ ยายจะเสียใจไปทำไม ยายก็หายโกรธตาสิ ที่ตายอมมาง้อแล้ว ยายกลับตอบมาว่า “ยายโกรธ โกรธที่ยายทำแบบนี้กับตา ถ้ายายไม่เดินออกจากบ้าน ยายไม่งอนตาแบบนั้น และยายสนใจตา คุยกับตาและลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเข้าใจตามากกว่านี้ ตาก็คงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้” และสุดท้ายยายก็เป็นลมคับ จากที่ผมจับใจความจากน้องชายตาได้ ท่านบอกว่า ตาช่วงหน่ะ อยากทำเซอร์ไพรล์ เลยไปตัดกระดาษมาทำการ์ด ตาก็ไม่ดี หลานตาช้างได้ช่วยทำ และข้อความตาช่วงก็เป็นคนเขียนเอง และตาช่วงกะว่า ถ้าวันนี้ไม่ยอมคืนดี ตาช่วงจะเอากีต้าร์มาดีดง้อให้ยายหายโกรธ เพราะยายน้อยชอบฟังเพลงอยู่แล้ว แต่ไม่ทันได้หยิบกีต้าร์ไป เพราะรีบ มัวแต่งตัวหล่อเลย และที่รู้ก็เพราะว่า กีต้าร์ที่ตาช่วงที่เขาชอบเล่นมันตกลงมา แล้วกล่องมันแตก สักพักโทรศัพท์ก็โทรเข้ามา ตาช้างเลยทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้าโทรไปบอกยาย จนหลานมันแอบโทรไปหา เพราะอยากให้ยายรู้ ยายเลยเป็นลม แต่ดีนะในตอนนั้นลูกของยายน้อยกับตาช่วงกลับมาเยี่ยมพอดี เพราะตนเองจะมาช่วยอีกแรงหนึ่งให้ตากับยายคืนดี แต่ตาช่วงก็มาตายเสียก่อน

      เมื่อผมได้ฟัง ถึงกับร้องไห้เลย ว่าทำไมตาถึงทำแบบนั้น ทำไมตาถึงรีบจากยายไป ทำไมถึงไม่อยู่ให้นานกว่านี้ (พูดแล้ว น้ำตาจะไหล) สิ่งที่ได้จากเหตุการณ์นี้ คือ การที่เราทะเลาะกัน การที่เราไม่เข้าใจกัน แล้วไม่หันหน้ามาปรับความเข้าใจกัน มันอาจจะทำให้สูญเสียคนๆหนึ่งไปเลยก็ได้ ถ้าเกิดว่า วันนั้นยายไม่เดินออกจากบ้าน ตาก็จะไม่กลับไปหาน้องชาย เพราะตากลัวว่าจะทำให้ยายลำบากใจที่เห็นตาอยู่

      ผมอยากเล่าให้คนๆหนึ่งได้รู้ว่า จริงๆแล้วผมไม่ได้เห็นว่าเขาเป็นแบบนั้นเลยแม้แต่นิด ไม่ได้เป็นที่ระบายอารมณ์ ไม่ได้ไม่เข้าใจ แต่แค่พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และไม่ได้ต้องการตรอกย้ำหรือย้อนนะ แต่แค่พูดถึงตากับยาย เราเลยนึกถึงตากับยายคู่นี้ เพราะปีนี้ผมจะลงไปหายาย เพราะยายเขาย้ายมาอยู่กับยายของผมแล้ว อยู่คนเดียวเขาเหงา เขานั่งร้องไห้ทุกวัน มียายผมอย่างน้อยๆก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก็เป็นได้...

       อยากให้ทุกคนฟังเป็นอุทาหรณ์ของความรักนะคับ

       เรื่องนี้คือเรื่องจริง ที่เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อปีที่แล้ว ผมไม่ได้แต่งแม้แต่คำพูดเดียว เพราะผมจำมันได้ขึ้นใจ...

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×