ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Naruto ] April Snow เมื่อหิมะ...หลงฤดู

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : ร่างโคลนนิ่ง [Rewrite]

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 59





    Chapter 7 

    ร่างโคลนนิ่ง







                ณ บริเวณประตูทางเข้าใหญ่ของหมู่บ้านโคโนฮะ มีเหล่านินจาระดับจูนินอยู่สี่นายกำลังทำหน้าที่

    เฝ้ายามด้วยความเบื่อหน่าย เนื่องจากพวกเขาต้องมาคอยทำหน้าที่ซ้ำๆเดิมๆทุกวันทั้งที่เหตุการณ์ภายในหมู่บ้าน

    ก็สงบมาได้เกือบจะหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่มีการลักพาตัวเด็กเกิดขึ้น  แต่ถึงกระนั้น โฮคาเงะก็ยังมีคำสั่งให้พวกเขา

    ทำหน้าที่อย่างเข้มงวดเหมือนเดิม แถมยังเพิ่มเวลาในการเฝ้ายามให้มากขึ้นอีกด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวก

    เขาเบื่อหน่ายที่ต้องเสียเวลาส่วนตัวให้กับงานที่ได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบน


                เฮ้อออ ~ เบื่อโว้ย! เมื่อไรถึงเวลาเปลี่ยนเวรซักที ฉันอยากจะกลับบ้านอยู่แล้ว !”


                จูนินนายหนึ่งบ่นออกมาขณะกำลังเอนหลังพิงกับกำแพงก่อนจะคีบบุหรี่ออกมาจากริมฝีปากแล้วพ่นควันสี

    ขาวออกมาอย่างช้าๆ


                อย่าบ่นไปน่าคาซูโอะ นายก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้ท่านคิโดกำลังโดนเพ่งเล็งอยู่ อีกไม่กี่วันก็จะครบเดือนแล้ว 

    ถ้าเหตุการณ์ยังสงบแบบนี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? พอท่านคิโดโดนจับ เราก็จะได้เวลาปกติกลับคืนมาจูนินอีกนาย

    หนึ่งว่า เขาเองก็เบื่อไปไม่น้อยกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ต้องทนเพราะเขาเป็นแค่จูนินคนหนึ่งเท่านั้น


                นี่ มิโนรุ ฉันถามอะไรหน่อย นายว่าคนอย่างท่านคิโดจะเป็นตัวการจริงๆหรือวะ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย 

    หน่วยลับที่ท่านดูแลอยู่ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ทำไมท่านจะต้องลักพาตัวเด็ก หรือทำร้ายคุณซากุระที่อยู่ศูนย์ฟื้นฟู

    ด้วยวะ?”


                “ฉันเองก็ไม่รู้ อาจจะมีเหตุผลบางอย่างล่ะมั้ง แต่ก็นะ...มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราอยู่ดี นายไม่จำเป็น

    ต้องอยากรู้ไปหรอก


                เมื่อได้ฟังเช่นนั้น คาซูโอะก็หันไปมองเพื่อนร่วมงานอย่างไปสบอารมณ์ ทำไมเขาจะแปลไม่ออกว่ามิโนรุ

    กำลังจะบอกเขาว่าอย่าเข้าไป จุ้น เรื่องของคนอื่น 


                ระหว่างที่ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากบทสนทนาระหว่างจูนินทั้งสองนายจบลง ก็มีกลุ่มชายสวมหน้ากาก

    ประมาณยี่สิบคนกระโดดมาตามต้นไม้บริเวณใกล้กับประตูหมู่บ้าน มีเพียงหนึ่งคนที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ชายผู้นี้

    ใส่เสื้อคลุมสีดำพร้อมกับสวมฮู้ดเพื่อบดบังใบหน้า  มีเพียงแววตาสีแดงก่ำเท่านั้นที่สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเด่น

    ชัด เขาเป็นคนนำทีมชายสวมหน้ากากทั้งสิบเก้าคนมายังหน้าประตูหมู่บ้าน


                ดวงตาสีแดงของเขามองไปยังจูนินทั้งสี่คนที่กำลังยืนเฝ้าประตูหมู่บ้านอยู่ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับกลุ่ม

    ชายสวมหน้ากาก ทันใดนั้นกลุ่มชายสวมหน้ากากก็แยกตัวกันไปเป็นกลุ่มละห้าคน กลุ่มหนึ่งมุ่งไปยังประตูหน้า

    หมู่บ้าน ส่วนอีกสามกลุ่มมุ่งไปยังกลุ่มจูนินที่กำลังทำหน้าที่สำรวจหมู่บ้านอยู่เช่นกัน


                ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!


                เสียงฝีเท้าของกลุ่มชายสวมหน้ากากกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนทั้งหมดจะยืดตัวขึ้นเผชิญหน้ากับกลุ่ม

    จูนินทั้งสี่นายที่กำลังมองอย่างตกตะลึงก่อนจะเตรียมตัวตั้งรับกับฝ่ายศัตรูที่บุ่มบ่ามเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย


                ในเวลาอื่นๆไม่โผล่มา ทำไมต้องมาตอนที่พวกฉันกำลังจะออกเวรอยู่ไม่กี่ชั่วโมงด้วยวะ!


                คาซูโอะคิดอยู่ในใจอย่างหัวเสีย ก่อนจะมองไปยังกลุ่มชายสวมหน้ากากไล่เรียงกันไปทีละคนอย่างพินิจ

    พิเคราะห์


                พวกแกเป็นใคร?!” มิโนรุร้องถามออกไป


                กลุ่มชายสวมหน้ากากไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะพุ่งเข้าใส่เหล่าจูนินทั้งหมดแทน ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าปะทะ

    กันอย่างดุเดือดโดยมีชายผู้มีดวงตาสีแดงก่ำยืนดูสถานการณ์อยู่ด้านหลัง


                ไม่นานกลุ่มจูนินอีกห้านายวิ่งเข้ามาสมทบ แต่ยังไม่ทันเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังเพลี่ยงพล้ำต่อชายสวม

    หน้ากาก ร่างของพวกเขาทั้งหมดก็ถูกดูดมายังตรงหน้าชายชุดดำก่อนที่เขาจะชักดาบคุซานางิออกมาจากฝักแล้ว

    เสียบทะลุไปยังร่างของจูนินนายหนึ่งคล้ายกับเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู


                เหล่าจูนินที่เหลือเมื่อเห็นร่างของเพื่อนโดนเสียบทะลุ ก็พากันดิ้นเพื่อให้ร่างกายหลุดออกจากแรงดึงที่มอง

    ไม่เห็น มีเพียงหนึ่งคนที่มองเข้าไปยังใบหน้าใต้เสื้อคลุมนั่น เมื่อได้เห็นชัดๆก็ทำให้เขาถึงกับผงะ


                จะเป็นไปได้ยังไงกัน!! ใบหน้านั่นมัน... อุจิวะ ซาสึเกะ!!!’


                ขณะที่กำลังสับสน ร่างของเขาก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกต้นไม้ด้วยความรุนแรงจนสลบเหมือดพร้อมๆกับเพื่อน

    ที่ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปคนละทิศละทาง


                ร่างสูงของชายชุดดำเดินตรงเข้าไปในหมู่บ้านอย่างช้าๆก่อนจะยื่นมือออกไปเตรียมระเบิดบ้านเรือนของชาว

    บ้านที่อยู่ใกล้ๆ ที่ขณะนี้ทุกคนต่างพากันวิ่งแตกตื่นออกไปจากบริเวณนั้นกันหมดแล้ว


                คาถาไฟลูกบอลเพลิงยักษ์!


                กลุ่มเพลิงไฟลูกใหญ่พุ่งตรงมายังร่างของชายชุดดำที่กำลังเตรียมจะระเบิดบ้านเรือนอยู่ ไฟนั้นได้เผาร่างของ

    เขาทันที ใบหน้าของโจนินที่ทำการเผาร่างศัตรูยิ้มกริ่มให้กับผลงานตัวเอง คาถานี้มีพลังร้ายแรงมาก ผู้ที่โดนมัน

    เข้าไปต้องเป็นอันถึงแก่ชีวิต


                ทันทีที่เพลิงมอดลง ร่างที่ควรจะกลายเป็นเถ้าถ่านกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตามลำตัวมีแค่รอยถลอกเพียงเล็ก

    น้อยเท่านั้น ดวงตาสีแดงก่ำหันมามองจูนินที่กำลังยืนช็อกอยู่ด้วยแววตาเย็นชา


                มะ ไม่จริง... เป็นไปไม่ได้!!”


                สองขาของเขาก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงของชายชุดดำเดินตรงมายังจูนินผู้โชคร้ายก่อนจะบีบคอ

    ของเขาแล้วยกขึ้นเหนือพื้น ดาบคุซานางิถูกชักออกมาจากฝักอีกครั้งก่อนจะเตรียมเสียบไปยังร่างของโจนินนายนั้น


                หยุดนะ !!”


                เสียงของผู้เป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านดังขึ้น ร่างสูงของนารูโตะวิ่งเข้ามาพร้อมกับชิกามารุ ทั้งสองมองไปยังชาย

    ชุดดำที่กำลังเตรียมลงมือสังหารจูนินอยู่ เมื่อเห็นร่างที่ปรากฏมาใหม่ เขาก็เหวี่ยงร่างที่อยู่ในกำมือไปอัดกับกำแพง

    บ้าน ก่อนร่างนั้นจะตกลงมายังพื้นด้วยอาการแน่นิ่ง


                กล้าดียังไงถึงเข้ามาทำลายหมู่บ้านของฉัน ! อย่าอยู่เลยไอ้เบื๊อกกก!”


                นารูโตะร้องบอกก่อนจะเคลื่อนฝีเท้าเข้ามาหาชายชุดดำด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกระสุนวงจักรที่เตรียม

    อัดใส่ศัตรูอย่างเต็มกำลัง แต่ร่างของชายชุดดำกลับกระโดดหลบได้อย่างคล่องแคล่ว


                คาถาเงาเลียนแบบ!”


                ชิกามารุที่ยืนอยู่ไม่ห่างใช้คาถาประจำตระกูลนาราออกไป เงาสีดำเลื้อยรัดเข้าไปตรึงร่างของชายชุดดำทันที

    จนร่างนั้นหยุดเคลื่อนไหว นารูโตะที่เห็นเป้าหมายหยุดนิ่งจึงปั้นกระสุนวงจักรยักษ์ขึ้นมาเพื่อเตรียมทะลวงเข้าใส่

    ศัตรูแต่ชิกามารุก็ห้ามไว้ก่อน


                อย่าเพิ่งนะนารูโตะ! เราต้องจับเป็นหมอนี่ อีกอย่างฉันก็อยากรู้ว่ามันเป็นใคร”  เมื่อกล่าวจบเขาก็ก้าวขา

    เข้าไปยังตำแหน่งที่ชายชุดดำยืนอยู่ก่อนจะมองเข้าไปที่ใบหน้าใต้เสื้อคลุมนั่น


                  ซะ ซาสึเกะ!


                  ชายชุดดำอาศัยจังหวะที่ทั้งสองคนกำลังตกตะลึง ตัดเงาที่ตรึงร่างของตนอยู่ออกก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปบน

    หลังคา ชิกามารุจึงใช้คุไนที่ติดยันต์ระเบิดเขวี้ยงตามไป แต่ร่างนั้นก็หลบหลีกได้ทันก่อนจะหายออกไปด้วยความ

    รวดเร็ว


                หรือว่า...ร่างนั้นจะเป็นร่างปลอมของซาสึเกะที่ครูคาคาชิเคยบอก


                นารูโตะเอ่ยกับชิกามารุหลังจากปล่อยให้ร่างนั้นหลบหนีไป ถึงจะตามไปอย่างไรก็คงไม่ทันเพราะร่างนั้นมี

    พลังเกือบจะเทียบเท่ากับร่างจริงของเพื่อนรักของเขา


                น่าจะใช่ ทั้งจักระ หน้าตา และพลัง เหมือนกับซาสึเกะไม่มีผิด


                “เราต้องรีบนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับอาจารย์คาคาชิให้เร็วที่สุด ก่อนที่เรื่องนี้จะบานปลายออกไป


                “งั้นนายไปก่อนเลยนารูโตะ ฉันจะรีบไปแจ้งให้หน่วยนินจาแพทย์เข้ามาช่วยคนเจ็บก่อน แล้วจะตามไป


                “งั้นไว้เจอกันนะ ชิกามารุ



    .....................................................................




              ความเสียหายที่เกิดขึ้นถึงจะไม่มาก แต่ก็ทำให้พวกชาวบ้านบริเวณนั้นหวาดผวาไปมากเช่นกัน


                โฮคาเงะรุ่นที่หกกล่าวขึ้นภายในห้องทำงานที่มีชิกามารุ นารูโตะ ซากุระ และคนที่โดนปลอมร่างไปอย่าง

    ซาสึเกะ เขาโดนคาคาชิเรียกตัวมาอย่างกะทันหันขณะที่กำลังออกไปทำภารกิจอยู่นอกหมู่บ้าน


                นารูโตะที่เพิ่งจะเคยได้เจอหน้าเพื่อนรักในรอบสองปีกว่าอดที่จะเข้าไปแขวะซาสึเกะไม่ได้ ชายหนุ่มกลับ

    มายังหมู่บ้านได้ซักพักแล้วแต่ยังไม่เคยไปปรากฏตัวให้ใครเห็นนอกจากโฮคาเงะและ...


                ซากุระ!


                ทั้งๆที่เขาเองก็อยู่ทีมเจ็ดเหมือนกันแต่ยังไม่เคยได้เจอหน้าชายหนุ่มซักทีนอกจากดอกไม้ที่ซาสึเกะส่งไปให้

    ในวันแต่งงานของเขา


                นายนี่มันจริงๆเลยนะ ซาสึเกะ! กลับมาแล้วไม่เคยจะบอกฉันซักคำ งานแต่งงานฉันก็ไม่ไป ส่งมาแค่ดอกไม้

    งี่เง่านั่น นายยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าฮะ !”


                “หุบปากได้แล้วนารูโตะ เพราะนายเป็นอย่างนี้ฉันถึงไม่อยากบอก


                “นี่ ซาสึเกะ...


                “เอาน่านารูโตะ เข้าเรื่องกันก่อนเถอะ ฉันว่า...เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทางผู้บริหารคงจะไม่ให้ซาสึเกะอยู่ใน

    หมู่บ้านได้อีกต่อไปคาคาชิว่าพร้อมกับทำหน้าเครียด


                ว่ายังไงนะครับ! ถึงแม้ว่าร่างนั้นจะเป็นร่างปลอมของซาสึเกะอย่างนั้นหรือ!?”      

       

                “ใช่... ถึงแม้ว่าเราจะรู้หรือผู้บริหารจะรู้ว่านั่นเป็นร่างปลอม แต่ชาวบ้านและบุคคลอื่นๆย่อมไม่รู้ และตอนนี้

    พวกเขากำลังมองว่าซาสึเกะเป็นภัยต่อหมู่บ้าน


                “แล้วจะมีทางอื่นไหมคะอาจารย์


                ซากุระถามด้วยความด้วยความเป็นห่วง เธอไม่อยากให้เรื่องร้ายๆพวกนี้ส่งผลกับตัวซาสึเกะอีกแล้ว 

    ธอกลัวว่าเขาจะหลงทางไปอีก


                ไอ้มีมันก็มีอยู่หรอก แต่ก็อย่างที่รู้... เกือบจะครบเดือนอยู่แล้วที่เหตุการณ์ในหมู่บ้านสงบ แต่พอวันนี้กลับมี

    การโจมตีเกิดขึ้น มันก็แสดงว่าคิโดเป็นผู้บริสุทธิ์ ฉันว่ามันคงเป็นแผนของไอ้หมอนั่น มันกำลังรอใส่ความให้ซาสึเกะ

    ไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้อีกต่อไป และคงจะเปิดทางสะดวกให้มันได้จัดการซากุระ


                “เลวจริงๆ นะไอ้เจ้าคิโดเนี่ยชิกามารุว่าพลางทำหน้าสมเพชต่อชายผมขาวที่ตอนนี้คงกำลังได้รับการ

    ยกเลิกให้เป็นผู้ต้องสงสัย


                เพราะแบบนี้... ฉันจึงอยากส่งซากุระไปอยู่ที่สึนะงาคุเระซักพัก ที่นั่นคงจะปลอดภัยต่อตัวเธอมากกว่า


                “อา นั่นสินะครับ เดี๋ยวผมจะฝากให้กาอาระดูแลซากุระจังให้เต็มที่ไปเลย!” นารูโตะว่าพลางชกหมัดไปที่

    ฝ่ามือพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างร่าเริง


                ทว่าประโยคนั้นทำให้ซาสึเกะรู้สึกแปลกๆอย่างน่าประหลาด


                แต่ว่าอาจารย์คะ…”


                ไม่เป็นไร ซากุระ ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบที่จะหนีปัญหา แต่คนอย่างคิโดน่ะ ฉันจะจัดการเอง เธอเป็นลูกศิษย์ของ

    ฉันนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ฉันคงรู้สึกไม่ดีที่ทำให้เธอได้รับอันตราย


                “ขอบคุณนะคะอาจารย์ แล้ว...เอ่อ ซาสึเกะคุงล่ะคะ ?”


                “นี่แหละคือสิ่งที่ฉันจะบอก ภารกิจใหม่ของนาย...คือคุ้มกันซากุระไปส่งที่สึนะงาคุเระนะซาสึเกะ


                “ว่ายังไงนะครับ/คะ?!?” เป็นนารูโตะและซากุระที่ตะโกนออกมาแทบจะพร้อมๆกัน ส่วนคนที่ได้รับภารกิจ

    ใหม่ยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น


                ไหนๆพักนี้ซาสึเกะก็คงอยู่ที่หมู่บ้านไม่ได้ ฉันก็เลยคิดว่าให้คุ้มกันซากุระไปส่งที่สึนะเลยเป็นยังไงล่ะ 

    นอกจากนี้ซากุระก็ยังจะได้ไปดูแลศูนย์ฟื้นฟูฯที่นั้นด้วยเป็นการแลกเปลี่ยนในการให้ความคุ้มครองของทางซึนะ 

    พวกเธอว่าดีไหม


                “โอ้ว ! เป็นความคิดที่ดีนะครับครู แต่ให้ผมร่วมภารกิจด้วยได้ไหม? อยากจะไปรำลึกกับทีมเจ็ดอีกซักครั้ง

     ฮ่าๆๆ นารูโตะว่าพลางหัวเราะลั่นกับความคิดอันดีงามของตนเอง แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็ทำเอาชายหนุ่มถึง

    กับใจสลาย


                ไม่ได้ ภารกิจนี้จะมีแค่ซากุระและซาสึเกะเท่านั้น คนมีครอบครัวแล้วอย่างนายจงอยู่ที่หมู่บ้านแล้วดูแลเมีย

    กับหมู่บ้านให้ดีก่อนเถอะ


                “โธ่! ครูคาคาชิ...นารูโตะโอดครวญก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจชายหนุ่ม


                “เอาล่ะ มาสรุปกันได้แล้ว ชิกามารุ นายคอยอยู่ช่วยฉันเรื่องหลักฐานเอาผิดคิโด ซาสึเกะกับซากุระ เตรียม

    ตัวออกเดินทางในอีกสองชั่วโมงข้างหน้า ส่วนนารูโตะ…”


                เมื่อได้ยินอาจารย์เรียกชื่อ นารูโตะก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างดีใจที่เขาจะได้รับภารกิจเหมือนกัน เขาไม่ได้รับ

    ภารกิจจากคาคาชิมานานแล้วหลังจากแต่งงาน ชายหนุ่มผู้เป็นโฮคาเงะให้เพียงแต่หนังสือการปกครองหมู่บ้านมา

    อ่านเท่านั้น


                คร้าบบบ ครับ!”          


                จงกลับบ้านไปอยู่กับเมียนายซะ!!!




    .........................................................

     



                นี่เป็นการเดินทางไปสู่ซึนะงาคุเระเป็นรอบที่สองในปีนี้ของซากุระ และรอบนี้เธอก็เลือกที่จะใช้เวลาในการ

    เดินทางสามวันเท่ากับรอบที่แล้ว เพราะเธอกลัวว่าศัตรูจะบุกเข้ามาโจมตีระหว่างทาง


                ซาสึเกะที่ร่วมทางมาด้วยยังคงเงียบเหมือนเช่นเคย ซากุระรู้ดีว่าเขาเป็นคนไม่ชอบพูดเท่าไร และการมาด้วย

    การสองต่อสองมันทำให้เธอประหม่าอยู่ไม่น้อย


                นี่ ซาสึเกะคุง หิวหรือยังจ๊ะซากุระตัดสินใจถามออกไประหว่างที่กำลังเดินทาง ตั้งแต่ออกมาจากหมู่บ้าน

    โฮคาเงะพวกเขาก็ยังไม่ได้หยุดพักเลยด้วยซ้ำ


                “เธอหิวแล้วงั้นเหรอ


                “นิดหน่อยนะ 


                “ถ้าอย่างนั้นเราแวะพักกันที่ริมน้ำข้างหน้าก่อนแล้วกัน


     

                ที่ริมแม่น้ำภายในป่าซึ่งเป็นเส้นทางไปยังซึนะงาคุเระ สองหนุ่มสาวกำลังนั่งทานข้าวกล่องกันอย่างเงียบๆใต้

    ต้นไม้ใหญ่ ทว่าท่าทีของซาสึเกะดูไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร เธอจึงถามขึ้นอย่างเป็นห่วง


                เธอไม่สบายหรือเปล่า


                “เปล่า ฉันแค่ไม่ค่อยหิว เขาตอบพร้อมกับเก็บกล่องข้าวปั้นลงกระเป๋าหลังจากทานไปเพียงเล็กน้อย 

    ก่อนจะสังเกตเห็นว่ากระเป๋าสัมภาระเธอใหญ่กว่าปกติ


                 แล้วนั่น...เธอขนอะไรมาตั้งเยอะแยะ


                “อ๋อ พวกวิตามินน่ะ ฉันจะเอาไปฝากกาอาระคุง เห็นเขาไม่ค่อยได้พักผ่อน


                อย่างนั้นหรือ


                “ฮื่อ ก็ฉันเคยไปช่วยศูนย์ฟื้นฟูที่นั่นมาก่อน แล้วกาอาระคุงกับคุณเทมาริก็ดูแลฉันดีมาก เลยอยากจะหา

    อะไรตอบแทนพวกเขาซักหน่อย


                “…”


                ความรู้สึกไม่สบายใจเกิดขึ้นกับซาสึเกะเมื่อเห็นว่าเธอกำลังให้ความสำคัญกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน 

    นั่นทำให้เขานึกตำหนิตัวเองที่คิดอะไรแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองคิดอย่างไรกับเธอ  อันที่จริงนั้นความรักคือ

    อะไรเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ฉะนั้นเขายังคงต้องเรียนรู้อะไรอีกมากและก็หวังว่าความรู้สึกพวกนี้จะชัดเจนโดยเร็วที่สุด

    เพื่อไม่ให้เธอต้องมารักเขาอยู่ฝ่ายเดียว


                ซาสึเกะคุง เราออกเดินทางกันต่อเถอะ


                “…”


                “ซาสึเกะคุง!”


                มีอะไรงั้นหรือ


                ฉันว่าเธอต้องไม่สบายแน่ๆ ขอฉันดูหน่อยนะ”’


                พูดจบเธอก็ยื่นมือไปสัมผัสกับแก้มของอีกฝ่ายว่าตัวร้อนหรือไม่ คนถูกสัมผัสชะงักค้างในทันทีเมื่อเธอยื่น

    หน้าเข้ามาใกล้จนห่างกันแค่ไม่กี่คืบ


                ตัวก็ไม่ร้อนนี่


                เธอบอกขณะเลื่อนไปสบตากับเขา  แต่พอเห็นดวงตาสองสีที่มองมาอยู่ก่อนแล้วทำให้เธอมองเห็นใบหน้า

    ของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตานั่น ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่ามีแรงดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้ 

    และเพียงไม่นาน เธอก็หลับตาลงเมื่อเห็นว่าเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธอมากขึ้นจนห่างกันไม่ถึงเซนก่อนที่เขาจะ

    ทาบริมฝีปากลงกลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบาแล้วผละออกช้าๆ มือขวาของเขายกขึ้นประคองท้ายทอยเธอเอาไว้แล้ว

    บดจูบลงไปใหม่อย่างหนักหน่วงมากขึ้นตามสัญชาตญาณของบุรุษเพศจนกระทั่งผ่านไปหลายนาทีกว่าที่เขาจะ

    ปล่อยเธอเป็นอิสระ เธอนึกคำพูดอะไรไม่ออกซักคำหลังจากเขาถอนริมฝีปากออกไป หัวสมองของเธอขาวโพลนไป

    หมดเพราะนี่เป็นจูบครั้งแรก  ซาสึเกะที่มีสติมากกว่าดึงมือขึ้นมาจากพื้นเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเพียงแค่ยิ้ม

    มุมปากให้กับเธอแล้วเอ่ยขึ้นเพียงสั้นๆ


              ไปกันเถอะ...ซากุระ





    ......................................................




     

    Ps1.ขอประทานอภัยที่หายไปนมนาน ไม่มีอะไรจะแก้ตัวจริมๆ แบบว่าไปต่างจังหวัด ไปแว๊นโน่น นั่น นี่ และ...ขี้เกียจ!!(เลวจริง!) เพราะฉะนั้นจึงขอก้มกราบไปที่เล็บขบของนักอ่านซัก 38 ที เอ้า กราบบบ ! 





    Ps3. อ่านไกเด็น 700+8 แล้วปริ่มมาก ทีนี้แหละกำลังใจที่จะแต่งฟิคมาเต็ม(สะตออีกและ!) ทีม SasuSaku สู้ต่อค่ะ! ไฝววววว้ !! XD 


    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×