คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 : ร่างโคลนนิ่ง [Rewrite]
Chapter 7
ร่างโคลนนิ่ง
ณ บริเวณประตูทางเข้าใหญ่ของหมู่บ้านโคโนฮะ มีเหล่านินจาระดับจูนินอยู่สี่นายกำลังทำหน้าที่
เฝ้ายามด้วยความเบื่อหน่าย เนื่องจากพวกเขาต้องมาคอยทำหน้าที่ซ้ำๆเดิมๆทุกวันทั้งที่เหตุการณ์ภายในหมู่บ้าน
ก็สงบมาได้เกือบจะหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่มีการลักพาตัวเด็กเกิดขึ้น แต่ถึงกระนั้น โฮคาเงะก็ยังมีคำสั่งให้พวกเขา
ทำหน้าที่อย่างเข้มงวดเหมือนเดิม แถมยังเพิ่มเวลาในการเฝ้ายามให้มากขึ้นอีกด้วย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวก
เขาเบื่อหน่ายที่ต้องเสียเวลาส่วนตัวให้กับงานที่ได้รับคำสั่งมาจากเบื้องบน
“เฮ้อออ ~ เบื่อโว้ย! เมื่อไรถึงเวลาเปลี่ยนเวรซักที ฉันอยากจะกลับบ้านอยู่แล้ว !”
จูนินนายหนึ่งบ่นออกมาขณะกำลังเอนหลังพิงกับกำแพงก่อนจะคีบบุหรี่ออกมาจากริมฝีปากแล้วพ่นควันสี
ขาวออกมาอย่างช้าๆ
“อย่าบ่นไปน่าคาซูโอะ นายก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้ท่านคิโดกำลังโดนเพ่งเล็งอยู่ อีกไม่กี่วันก็จะครบเดือนแล้ว
ถ้าเหตุการณ์ยังสงบแบบนี้มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? พอท่านคิโดโดนจับ เราก็จะได้เวลาปกติกลับคืนมา” จูนินอีกนาย
หนึ่งว่า เขาเองก็เบื่อไปไม่น้อยกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ก็ต้องทนเพราะเขาเป็นแค่จูนินคนหนึ่งเท่านั้น
“นี่ มิโนรุ ฉันถามอะไรหน่อย นายว่าคนอย่างท่านคิโดจะเป็นตัวการจริงๆหรือวะ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย
หน่วยลับที่ท่านดูแลอยู่ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ทำไมท่านจะต้องลักพาตัวเด็ก หรือทำร้ายคุณซากุระที่อยู่ศูนย์ฟื้นฟู
ด้วยวะ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ อาจจะมีเหตุผลบางอย่างล่ะมั้ง แต่ก็นะ...มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราอยู่ดี นายไม่จำเป็น
ต้องอยากรู้ไปหรอก”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น คาซูโอะก็หันไปมองเพื่อนร่วมงานอย่างไปสบอารมณ์ ทำไมเขาจะแปลไม่ออกว่ามิโนรุ
กำลังจะบอกเขาว่าอย่าเข้าไป ‘จุ้น’ เรื่องของคนอื่น
ระหว่างที่ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากบทสนทนาระหว่างจูนินทั้งสองนายจบลง ก็มีกลุ่มชายสวมหน้ากาก
ประมาณยี่สิบคนกระโดดมาตามต้นไม้บริเวณใกล้กับประตูหมู่บ้าน มีเพียงหนึ่งคนที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ชายผู้นี้
ใส่เสื้อคลุมสีดำพร้อมกับสวมฮู้ดเพื่อบดบังใบหน้า มีเพียงแววตาสีแดงก่ำเท่านั้นที่สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเด่น
ชัด
เขาเป็นคนนำทีมชายสวมหน้ากากทั้งสิบเก้าคนมายังหน้าประตูหมู่บ้าน
ดวงตาสีแดงของเขามองไปยังจูนินทั้งสี่คนที่กำลังยืนเฝ้าประตูหมู่บ้านอยู่ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับกลุ่ม
ชายสวมหน้ากาก ทันใดนั้นกลุ่มชายสวมหน้ากากก็แยกตัวกันไปเป็นกลุ่มละห้าคน กลุ่มหนึ่งมุ่งไปยังประตูหน้า
หมู่บ้าน
ส่วนอีกสามกลุ่มมุ่งไปยังกลุ่มจูนินที่กำลังทำหน้าที่สำรวจหมู่บ้านอยู่เช่นกัน
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
เสียงฝีเท้าของกลุ่มชายสวมหน้ากากกระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนทั้งหมดจะยืดตัวขึ้นเผชิญหน้ากับกลุ่ม
จูนินทั้งสี่นายที่กำลังมองอย่างตกตะลึงก่อนจะเตรียมตัวตั้งรับกับฝ่ายศัตรูที่บุ่มบ่ามเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ในเวลาอื่นๆไม่โผล่มา
ทำไมต้องมาตอนที่พวกฉันกำลังจะออกเวรอยู่ไม่กี่ชั่วโมงด้วยวะ!
คาซูโอะคิดอยู่ในใจอย่างหัวเสีย ก่อนจะมองไปยังกลุ่มชายสวมหน้ากากไล่เรียงกันไปทีละคนอย่างพินิจ
พิเคราะห์
“พวกแกเป็นใคร?!” มิโนรุร้องถามออกไป
กลุ่มชายสวมหน้ากากไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะพุ่งเข้าใส่เหล่าจูนินทั้งหมดแทน ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าปะทะ
กันอย่างดุเดือดโดยมีชายผู้มีดวงตาสีแดงก่ำยืนดูสถานการณ์อยู่ด้านหลัง
ไม่นานกลุ่มจูนินอีกห้านายวิ่งเข้ามาสมทบ แต่ยังไม่ทันเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนที่กำลังเพลี่ยงพล้ำต่อชายสวม
หน้ากาก ร่างของพวกเขาทั้งหมดก็ถูกดูดมายังตรงหน้าชายชุดดำก่อนที่เขาจะชักดาบคุซานางิออกมาจากฝักแล้ว
เสียบทะลุไปยังร่างของจูนินนายหนึ่งคล้ายกับเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู
เหล่าจูนินที่เหลือเมื่อเห็นร่างของเพื่อนโดนเสียบทะลุ ก็พากันดิ้นเพื่อให้ร่างกายหลุดออกจากแรงดึงที่มอง
ไม่เห็น
มีเพียงหนึ่งคนที่มองเข้าไปยังใบหน้าใต้เสื้อคลุมนั่น เมื่อได้เห็นชัดๆก็ทำให้เขาถึงกับผงะ
‘จะเป็นไปได้ยังไงกัน!!
ใบหน้านั่นมัน... อุจิวะ ซาสึเกะ!!!’
ขณะที่กำลังสับสน ร่างของเขาก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกต้นไม้ด้วยความรุนแรงจนสลบเหมือดพร้อมๆกับเพื่อน
ที่ถูกเหวี่ยงกระเด็นไปคนละทิศละทาง
ร่างสูงของชายชุดดำเดินตรงเข้าไปในหมู่บ้านอย่างช้าๆก่อนจะยื่นมือออกไปเตรียมระเบิดบ้านเรือนของชาว
บ้านที่อยู่ใกล้ๆ
ที่ขณะนี้ทุกคนต่างพากันวิ่งแตกตื่นออกไปจากบริเวณนั้นกันหมดแล้ว
“คาถาไฟลูกบอลเพลิงยักษ์!”
กลุ่มเพลิงไฟลูกใหญ่พุ่งตรงมายังร่างของชายชุดดำที่กำลังเตรียมจะระเบิดบ้านเรือนอยู่ ไฟนั้นได้เผาร่างของ
เขาทันที ใบหน้าของโจนินที่ทำการเผาร่างศัตรูยิ้มกริ่มให้กับผลงานตัวเอง คาถานี้มีพลังร้ายแรงมาก ผู้ที่โดนมัน
เข้าไปต้องเป็นอันถึงแก่ชีวิต
ทันทีที่เพลิงมอดลง ร่างที่ควรจะกลายเป็นเถ้าถ่านกลับยังคงยืนอยู่ที่เดิม ตามลำตัวมีแค่รอยถลอกเพียงเล็ก
น้อยเท่านั้น ดวงตาสีแดงก่ำหันมามองจูนินที่กำลังยืนช็อกอยู่ด้วยแววตาเย็นชา
“มะ ไม่จริง...
เป็นไปไม่ได้!!”
สองขาของเขาก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ร่างสูงของชายชุดดำเดินตรงมายังจูนินผู้โชคร้ายก่อนจะบีบคอ
ของเขาแล้วยกขึ้นเหนือพื้น
ดาบคุซานางิถูกชักออกมาจากฝักอีกครั้งก่อนจะเตรียมเสียบไปยังร่างของโจนินนายนั้น
“หยุดนะ !!”
เสียงของผู้เป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านดังขึ้น ร่างสูงของนารูโตะวิ่งเข้ามาพร้อมกับชิกามารุ ทั้งสองมองไปยังชาย
ชุดดำที่กำลังเตรียมลงมือสังหารจูนินอยู่ เมื่อเห็นร่างที่ปรากฏมาใหม่ เขาก็เหวี่ยงร่างที่อยู่ในกำมือไปอัดกับกำแพง
บ้าน
ก่อนร่างนั้นจะตกลงมายังพื้นด้วยอาการแน่นิ่ง
“กล้าดียังไงถึงเข้ามาทำลายหมู่บ้านของฉัน
! อย่าอยู่เลยไอ้เบื๊อกกก!”
นารูโตะร้องบอกก่อนจะเคลื่อนฝีเท้าเข้ามาหาชายชุดดำด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกระสุนวงจักรที่เตรียม
อัดใส่ศัตรูอย่างเต็มกำลัง
แต่ร่างของชายชุดดำกลับกระโดดหลบได้อย่างคล่องแคล่ว
“คาถาเงาเลียนแบบ!”
ชิกามารุที่ยืนอยู่ไม่ห่างใช้คาถาประจำตระกูลนาราออกไป เงาสีดำเลื้อยรัดเข้าไปตรึงร่างของชายชุดดำทันที
จนร่างนั้นหยุดเคลื่อนไหว นารูโตะที่เห็นเป้าหมายหยุดนิ่งจึงปั้นกระสุนวงจักรยักษ์ขึ้นมาเพื่อเตรียมทะลวงเข้าใส่
ศัตรูแต่ชิกามารุก็ห้ามไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งนะนารูโตะ! เราต้องจับเป็นหมอนี่ อีกอย่างฉันก็อยากรู้ว่ามันเป็นใคร” เมื่อกล่าวจบเขาก็ก้าวขา
เข้าไปยังตำแหน่งที่ชายชุดดำยืนอยู่ก่อนจะมองเข้าไปที่ใบหน้าใต้เสื้อคลุมนั่น
“ซะ ซาสึเกะ! “
ชายชุดดำอาศัยจังหวะที่ทั้งสองคนกำลังตกตะลึง ตัดเงาที่ตรึงร่างของตนอยู่ออกก่อนจะพุ่งตัวขึ้นไปบน
หลังคา ชิกามารุจึงใช้คุไนที่ติดยันต์ระเบิดเขวี้ยงตามไป แต่ร่างนั้นก็หลบหลีกได้ทันก่อนจะหายออกไปด้วยความ
รวดเร็ว
“หรือว่า...ร่างนั้นจะเป็นร่างปลอมของซาสึเกะที่ครูคาคาชิเคยบอก”
นารูโตะเอ่ยกับชิกามารุหลังจากปล่อยให้ร่างนั้นหลบหนีไป ถึงจะตามไปอย่างไรก็คงไม่ทันเพราะร่างนั้นมี
พลังเกือบจะเทียบเท่ากับร่างจริงของเพื่อนรักของเขา
“น่าจะใช่ ทั้งจักระ
หน้าตา และพลัง เหมือนกับซาสึเกะไม่มีผิด”
“เราต้องรีบนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับอาจารย์คาคาชิให้เร็วที่สุด
ก่อนที่เรื่องนี้จะบานปลายออกไป”
“งั้นนายไปก่อนเลยนารูโตะ
ฉันจะรีบไปแจ้งให้หน่วยนินจาแพทย์เข้ามาช่วยคนเจ็บก่อน แล้วจะตามไป”
“งั้นไว้เจอกันนะ ชิกามารุ”
.....................................................................
“ความเสียหายที่เกิดขึ้นถึงจะไม่มาก แต่ก็ทำให้พวกชาวบ้านบริเวณนั้นหวาดผวาไปมากเช่นกัน”
โฮคาเงะรุ่นที่หกกล่าวขึ้นภายในห้องทำงานที่มีชิกามารุ นารูโตะ ซากุระ และคนที่โดนปลอมร่างไปอย่าง
ซาสึเกะ
เขาโดนคาคาชิเรียกตัวมาอย่างกะทันหันขณะที่กำลังออกไปทำภารกิจอยู่นอกหมู่บ้าน
นารูโตะที่เพิ่งจะเคยได้เจอหน้าเพื่อนรักในรอบสองปีกว่าอดที่จะเข้าไปแขวะซาสึเกะไม่ได้ ชายหนุ่มกลับ
มายังหมู่บ้านได้ซักพักแล้วแต่ยังไม่เคยไปปรากฏตัวให้ใครเห็นนอกจากโฮคาเงะและ...
ซากุระ!
ทั้งๆที่เขาเองก็อยู่ทีมเจ็ดเหมือนกันแต่ยังไม่เคยได้เจอหน้าชายหนุ่มซักทีนอกจากดอกไม้ที่ซาสึเกะส่งไปให้
ในวันแต่งงานของเขา
“นายนี่มันจริงๆเลยนะ ซาสึเกะ! กลับมาแล้วไม่เคยจะบอกฉันซักคำ งานแต่งงานฉันก็ไม่ไป ส่งมาแค่ดอกไม้
งี่เง่านั่น นายยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่รึเปล่าฮะ
!”
“หุบปากได้แล้วนารูโตะ เพราะนายเป็นอย่างนี้ฉันถึงไม่อยากบอก”
“นี่ ซาสึเกะ...”
“เอาน่านารูโตะ เข้าเรื่องกันก่อนเถอะ ฉันว่า...เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทางผู้บริหารคงจะไม่ให้ซาสึเกะอยู่ใน
หมู่บ้านได้อีกต่อไป”
คาคาชิว่าพร้อมกับทำหน้าเครียด
“ว่ายังไงนะครับ! ถึงแม้ว่าร่างนั้นจะเป็นร่างปลอมของซาสึเกะอย่างนั้นหรือ!?”
“ใช่... ถึงแม้ว่าเราจะรู้หรือผู้บริหารจะรู้ว่านั่นเป็นร่างปลอม แต่ชาวบ้านและบุคคลอื่นๆย่อมไม่รู้ และตอนนี้
พวกเขากำลังมองว่าซาสึเกะเป็นภัยต่อหมู่บ้าน”
“แล้วจะมีทางอื่นไหมคะอาจารย์”
ซากุระถามด้วยความด้วยความเป็นห่วง เธอไม่อยากให้เรื่องร้ายๆพวกนี้ส่งผลกับตัวซาสึเกะอีกแล้ว
เธอกลัวว่าเขาจะหลงทางไปอีก
“ไอ้มีมันก็มีอยู่หรอก แต่ก็อย่างที่รู้... เกือบจะครบเดือนอยู่แล้วที่เหตุการณ์ในหมู่บ้านสงบ แต่พอวันนี้กลับมี
การโจมตีเกิดขึ้น มันก็แสดงว่าคิโดเป็นผู้บริสุทธิ์ ฉันว่ามันคงเป็นแผนของไอ้หมอนั่น มันกำลังรอใส่ความให้ซาสึเกะ
ไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านได้อีกต่อไป
และคงจะเปิดทางสะดวกให้มันได้จัดการซากุระ”
“เลวจริงๆ นะไอ้เจ้าคิโดเนี่ย” ชิกามารุว่าพลางทำหน้าสมเพชต่อชายผมขาวที่ตอนนี้คงกำลังได้รับการ
ยกเลิกให้เป็นผู้ต้องสงสัย
“เพราะแบบนี้...
ฉันจึงอยากส่งซากุระไปอยู่ที่สึนะงาคุเระซักพัก
ที่นั่นคงจะปลอดภัยต่อตัวเธอมากกว่า”
“อา นั่นสินะครับ เดี๋ยวผมจะฝากให้กาอาระดูแลซากุระจังให้เต็มที่ไปเลย!” นารูโตะว่าพลางชกหมัดไปที่
ฝ่ามือพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
ทว่าประโยคนั้นทำให้ซาสึเกะรู้สึกแปลกๆอย่างน่าประหลาด
“แต่ว่าอาจารย์คะ…”
“ไม่เป็นไร ซากุระ ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบที่จะหนีปัญหา แต่คนอย่างคิโดน่ะ ฉันจะจัดการเอง เธอเป็นลูกศิษย์ของ
ฉันนะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา
ฉันคงรู้สึกไม่ดีที่ทำให้เธอได้รับอันตราย”
“ขอบคุณนะคะอาจารย์ แล้ว...เอ่อ ซาสึเกะคุงล่ะคะ ?”
“นี่แหละคือสิ่งที่ฉันจะบอก
ภารกิจใหม่ของนาย...คือคุ้มกันซากุระไปส่งที่สึนะงาคุเระนะซาสึเกะ”
“ว่ายังไงนะครับ/คะ?!?” เป็นนารูโตะและซากุระที่ตะโกนออกมาแทบจะพร้อมๆกัน ส่วนคนที่ได้รับภารกิจ
ใหม่ยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งสิ้น
“ไหนๆพักนี้ซาสึเกะก็คงอยู่ที่หมู่บ้านไม่ได้ ฉันก็เลยคิดว่าให้คุ้มกันซากุระไปส่งที่สึนะเลยเป็นยังไงล่ะ
นอกจากนี้ซากุระก็ยังจะได้ไปดูแลศูนย์ฟื้นฟูฯที่นั้นด้วยเป็นการแลกเปลี่ยนในการให้ความคุ้มครองของทางซึนะ
พวกเธอว่าดีไหม”
“โอ้ว ! เป็นความคิดที่ดีนะครับครู แต่ให้ผมร่วมภารกิจด้วยได้ไหม? อยากจะไปรำลึกกับทีมเจ็ดอีกซักครั้ง
ฮ่าๆๆ” นารูโตะว่าพลางหัวเราะลั่นกับความคิดอันดีงามของตนเอง แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็ทำเอาชายหนุ่มถึง
กับใจสลาย
“ไม่ได้ ภารกิจนี้จะมีแค่ซากุระและซาสึเกะเท่านั้น คนมีครอบครัวแล้วอย่างนายจงอยู่ที่หมู่บ้านแล้วดูแลเมีย
กับหมู่บ้านให้ดีก่อนเถอะ”
“โธ่! ครูคาคาชิ...” นารูโตะโอดครวญก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้น
แต่ก็ไม่มีใครสนใจชายหนุ่ม
“เอาล่ะ มาสรุปกันได้แล้ว ชิกามารุ นายคอยอยู่ช่วยฉันเรื่องหลักฐานเอาผิดคิโด ซาสึเกะกับซากุระ เตรียม
ตัวออกเดินทางในอีกสองชั่วโมงข้างหน้า
ส่วนนารูโตะ…”
เมื่อได้ยินอาจารย์เรียกชื่อ นารูโตะก็ลุกพรวดขึ้นมาอย่างดีใจที่เขาจะได้รับภารกิจเหมือนกัน เขาไม่ได้รับ
ภารกิจจากคาคาชิมานานแล้วหลังจากแต่งงาน ชายหนุ่มผู้เป็นโฮคาเงะให้เพียงแต่หนังสือการปกครองหมู่บ้านมา
อ่านเท่านั้น
“คร้าบบบ ครับ!”
“จงกลับบ้านไปอยู่กับเมียนายซะ!!!”
.........................................................
นี่เป็นการเดินทางไปสู่ซึนะงาคุเระเป็นรอบที่สองในปีนี้ของซากุระ และรอบนี้เธอก็เลือกที่จะใช้เวลาในการ
เดินทางสามวันเท่ากับรอบที่แล้ว
เพราะเธอกลัวว่าศัตรูจะบุกเข้ามาโจมตีระหว่างทาง
ซาสึเกะที่ร่วมทางมาด้วยยังคงเงียบเหมือนเช่นเคย ซากุระรู้ดีว่าเขาเป็นคนไม่ชอบพูดเท่าไร และการมาด้วย
การสองต่อสองมันทำให้เธอประหม่าอยู่ไม่น้อย
“นี่ ซาสึเกะคุง หิวหรือยังจ๊ะ” ซากุระตัดสินใจถามออกไประหว่างที่กำลังเดินทาง ตั้งแต่ออกมาจากหมู่บ้าน
โฮคาเงะพวกเขาก็ยังไม่ได้หยุดพักเลยด้วยซ้ำ
“เธอหิวแล้วงั้นเหรอ”
“นิดหน่อยนะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราแวะพักกันที่ริมน้ำข้างหน้าก่อนแล้วกัน”
ที่ริมแม่น้ำภายในป่าซึ่งเป็นเส้นทางไปยังซึนะงาคุเระ สองหนุ่มสาวกำลังนั่งทานข้าวกล่องกันอย่างเงียบๆใต้
ต้นไม้ใหญ่
ทว่าท่าทีของซาสึเกะดูไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไร เธอจึงถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“เธอไม่สบายหรือเปล่า”
“เปล่า ฉันแค่ไม่ค่อยหิว” เขาตอบพร้อมกับเก็บกล่องข้าวปั้นลงกระเป๋าหลังจากทานไปเพียงเล็กน้อย
ก่อนจะสังเกตเห็นว่ากระเป๋าสัมภาระเธอใหญ่กว่าปกติ
“แล้วนั่น...เธอขนอะไรมาตั้งเยอะแยะ”
“อ๋อ พวกวิตามินน่ะ ฉันจะเอาไปฝากกาอาระคุง เห็นเขาไม่ค่อยได้พักผ่อน”
“อย่างนั้นหรือ”
“ฮื่อ ก็ฉันเคยไปช่วยศูนย์ฟื้นฟูที่นั่นมาก่อน แล้วกาอาระคุงกับคุณเทมาริก็ดูแลฉันดีมาก เลยอยากจะหา
อะไรตอบแทนพวกเขาซักหน่อย”
“…”
ความรู้สึกไม่สบายใจเกิดขึ้นกับซาสึเกะเมื่อเห็นว่าเธอกำลังให้ความสำคัญกับคนอื่นด้วยเหมือนกัน
นั่นทำให้เขานึกตำหนิตัวเองที่คิดอะไรแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองคิดอย่างไรกับเธอ อันที่จริงนั้นความรักคือ
อะไรเขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ ฉะนั้นเขายังคงต้องเรียนรู้อะไรอีกมากและก็หวังว่าความรู้สึกพวกนี้จะชัดเจนโดยเร็วที่สุด
เพื่อไม่ให้เธอต้องมารักเขาอยู่ฝ่ายเดียว
“ซาสึเกะคุง
เราออกเดินทางกันต่อเถอะ”
“…”
“ซาสึเกะคุง!”
“มีอะไรงั้นหรือ”
“ฉันว่าเธอต้องไม่สบายแน่ๆ
ขอฉันดูหน่อยนะ”’
พูดจบเธอก็ยื่นมือไปสัมผัสกับแก้มของอีกฝ่ายว่าตัวร้อนหรือไม่ คนถูกสัมผัสชะงักค้างในทันทีเมื่อเธอยื่น
หน้าเข้ามาใกล้จนห่างกันแค่ไม่กี่คืบ
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ ”
เธอบอกขณะเลื่อนไปสบตากับเขา แต่พอเห็นดวงตาสองสีที่มองมาอยู่ก่อนแล้วทำให้เธอมองเห็นใบหน้า
ของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตานั่น ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกราวกับว่ามีแรงดึงดูดจนไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้
และเพียงไม่นาน เธอก็หลับตาลงเมื่อเห็นว่าเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธอมากขึ้นจนห่างกันไม่ถึงเซนก่อนที่เขาจะ
ทาบริมฝีปากลงกลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบาแล้วผละออกช้าๆ มือขวาของเขายกขึ้นประคองท้ายทอยเธอเอาไว้แล้ว
บดจูบลงไปใหม่อย่างหนักหน่วงมากขึ้นตามสัญชาตญาณของบุรุษเพศจนกระทั่งผ่านไปหลายนาทีกว่าที่เขาจะ
ปล่อยเธอเป็นอิสระ เธอนึกคำพูดอะไรไม่ออกซักคำหลังจากเขาถอนริมฝีปากออกไป หัวสมองของเธอขาวโพลนไป
หมดเพราะนี่เป็นจูบครั้งแรก ซาสึเกะที่มีสติมากกว่าดึงมือขึ้นมาจากพื้นเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเพียงแค่ยิ้ม
มุมปากให้กับเธอแล้วเอ่ยขึ้นเพียงสั้นๆ
”ไปกันเถอะ...ซากุระ”
......................................................
Ps1.ขอประทานอภัยที่หายไปนมนาน ไม่มีอะไรจะแก้ตัวจริมๆ แบบว่าไปต่างจังหวัด ไปแว๊นโน่น นั่น นี่ และ...ขี้เกียจ!!(เลวจริง!) เพราะฉะนั้นจึงขอก้มกราบไปที่เล็บขบของนักอ่านซัก 38 ที เอ้า กราบบบ !
Ps3. อ่านไกเด็น 700+8 แล้วปริ่มมาก ทีนี้แหละกำลังใจที่จะแต่งฟิคมาเต็ม(สะตออีกและ!) ทีม SasuSaku สู้ต่อค่ะ! ไฝววววว้ !! XD
ความคิดเห็น