คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #40 : Chapter 36 : การตัดสินใจของฮิเซ็น [100%]
Chapter 36
การตัดสินใจของฮิเซ็น
หลังจากเสียงระเบิดที่ซ่อนอยู่ใต้ดินถูกจุดขึ้น
ทำให้ทุกคนในลานพิธีวิ่งหนีกันราวกับผึ้งแตกรัง
จะมีเพียงแต่คนคุ้มกันที่เข้ามาตีวงล้อมคอยป้องกันมิโกะสาวเอาไว้หลังจากซาสึเกะปล่อยตัวเธอลงจากแผ่นหลัง
ทว่ายังไม่ทันได้หายใจหายคอก็มีกลุ่มคนบุคคลแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้นในชุดกิโมโนสีแดงสด
“ดูเหมือนว่าพิธีจะยังไม่สมบูรณ์นะ”
ชายคนหนึ่งในจำนวนสองคนพูดขึ้น
ร่างสูงใหญ่กวาดตามองหาใครบางคนก่อนจะหันมาหยุดที่เด็กชายด้วยสายตาคุกคาม
“เด็กนั่น...ส่งมาให้ฉัน”
“ไม่มีทาง!” ซากุระที่อุ้มฮิเซ็นไว้อยู่ปล่อยตัวเด็กชายลงแล้วผลักไปไว้ด้านหลัง
ดวงตาสีมรกตหันไปสบตากับซาสึเกะที่ยืนอยู่กับกลุ่มของมิโกะก่อนจะพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย
เธอไม่รอช้าที่จะเริ่มแผนการด้วยการหยิบมีดคุไนติดยันระเบิดออกมาจากกระเป๋าคาดเอวแล้วเขวี้ยงไปทางกลุ่มชายในชุดกิโมโนสีแดงอย่างรวดเร็ว
ตู้มมมม
!
จังหวะที่ควันจากระเบิดกระจายไปทั่วอากาศจนกลบทัศนียภาพ ร่างของฮิเซ็นถูกอุ้มขึ้นอีกครั้งแล้วพุ่งทะยานไปบนต้นไม้อย่างรวดเร็ว
“เหอะ
ของกระจอกแบบนี้คิดว่าจะทำอะไรฉันได้เหรอ”
ชายร่างยักษ์ในชุดกิโมโนสีแดงแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วรีบพุ่งตัวตามไปติดๆพร้อมกับชายร่างเล็กในชุดเดียวกันอีกคน ซาสึเกะขยับฝีเท้าจะเคลื่อนตัวตามไปก็ถูกมือปริศนาที่โผล่พ้นมาจากพื้นดินจับข้อเท้าเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงร่างของเขาอัดกระแทกต้นไม้อย่างแรงจนแทบบอบช้ำ
“ซาสึเกะคุง!”
ชิออนร้องตะโกนอย่างตกใจจนไม่ทันสังเกตเห็นว่าชายที่โผล่มาจากพื้นดินกำลังจะหันมาเล่นงานพวกเธอแทน
คนคุ้มกันนายหนึ่งรีบชักดาบมาปกป้องมิโกะทันทีแต่ก็โดนฝ่ามือหวดเข้าใส่จนดาบกระเด็นไปไกล ซาสึเกะที่ฟื้นตัวดีแล้วรีบพุ่งเข้ามากันเอาไว้อีกแรงแล้วตะโกนสั่งเสียงดังลั่น
“รีบพามิโกะออกไป!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนคุ้มกันก็รีบแบกร่างมิโกะสาวขึ้นพาดบ่าแล้ววิ่งเข้าไปในศาลเจ้าทันที
ซาสึเกะหันกลับมาใช้กระบวนท่าเข้าสู้ต่อจนอีกฝ่ายตั้งรับแทบไม่ทันเพราะถนัดที่จะใช้คาถามากกว่า
ดวงตาสีแดงฉานของคู่ต่อสู้ชำเลืองมองไปยังดาบคาตานะที่เหน็บไว้ด้านหลังของซาสึเกะอย่างระมัดระวังก่อนจะหยิบอาวุธขึ้นมาต่อสู้
แต่ก็ถูกปัดทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
“มีดาบแต่ไม่ใช้ คิดจะดูถูกกันหรือไง!”
“ไม่ได้ดูถูกแต่ฉันใช้ไม่ถนัดโว้ยเจ้าโง่!”
เมื่อพูดจบร่างตรงหน้าก็เปลี่ยนกลับเป็นร่างของซากุระพร้อมกับพุ่งหมัดเข้ามาซัดหน้าศัตรูทันทีจนกระเด็นชนต้นไม้พังราบเป็นหน้ากอง
“ขอเอาคืนที่แกบังอาจจะมาเหวี่ยงฉันก่อน”
ซากุระบอกอย่างโกรธเคืองพร้อมกับพุ่งตัวเข้ามาไปหาร่างที่นอนพะงาบอยู่บนพื้น
เธอย่อตัวลงแล้วกระชากคอเสื้อชายหนุ่มขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้ม
“บอกฉันมาว่าพวกแกเป็นใครถ้าไม่อยากตายน่ะ”
………………………………………..
ทางด้านซาสึเกะในร่างซากุระที่พาฮิเซ็นพุ่งทะยานมาตามต้นไม้ก็หยุดชะงักกึกเมื่อได้ระยะที่ไกลจากตัวศาลเจ้าและหมู่บ้านคนมาพอสมควรแล้ว ร่างบอบบางที่แบกเด็กชายมาหันไปเผชิญหน้ากับศัตรูในชุดกิโมโนสีแดงทั้งสองคนด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เปรี้ยง
!
เสียงสายฟ้าฟาดที่ผ่าต้นไม้ใหญ่จนล้มครืนลงมาราวกับเป็นการข่มขู่ทำให้ซาสึเกะจ้องมองไปยังชายร่างยักษ์ที่กำลังทำหน้าถมึงถึงอยู่บนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม
‘เจ้าร่างยักษ์นี่เป็นคนใช้คาถาสายฟ้านี่เอง’
“เฮ้ๆ ท่านพี่ อย่าขู่อะไรน่ากลัวแบบนั้นสิ นั่นมันผู้หญิงนะแถมยังน่ารักด้วยอ่ะ
เพลาๆมือหน่อยได้มั้ย”
ชายในชุดกิโมโนสีแดงคนที่ร่างเล็กกว่าร้องบอกอย่างใจอ่อน ดวงตาสีแดงมองไปยังร่างของซากุระพร้อมกับฉีกยิ้มจนเห็นฟันซี่แหลมให้เธอ
ทว่าสิ่งได้รับกลับมาคือรังสีอำมหิตที่แผ่กระจายออกมาจากหญิงสาวผมสีชมพูตรงหน้า
ดวงตาสีมรกตมองตรงมาอย่างขุ่นเคืองราวกับคำชมนั่นไปกระตุ้นความโกรธของเจ้าตัว
“แกมันอ่อนหัดไอ้โง่! ดูไม่ออกหรือไงว่านั่นมันเจ้าอุจิวะโว้ย !”
“หา!”
ฟุ่บ !
ซาสึเกะเปลี่ยนกลับสู่ร่างเดิมของตนอย่างรวดเร็วเมื่อโดนจับได้โดยมีสายตาของฮิเซ็นและชายร่างเล็กมองมาอย่างตกตะลึง
“ไปสลับตัวกันตอนไหนฟะ!”
“เลิกสงสัยไร้สาระแล้วไปเอาตัวไอ้เด็กนั่นมาได้แล้ว
เจ้าอุจิวะนั่นฉันจะจัดการเอง!”
ขณะที่ศัตรูทั้งสองคนกำลังเตรียมพุ่งเข้ามา ซาสึเกะก็เบิกเนตรสังสาระก่อนจะเกิดมิติเป็นวงขนาดใหญ่
จากนั้นเข้าก็เหวี่ยงร่างฮิเซ็นเข้าไปในมิติพร้อมกับปิดทันทีก่อนที่ชายร่างเล็กจะคว้าตัวเด็กชายไปได้เสียก่อน
เขายกเท้าขึ้นมาถีบร่างนั้นร่วงจากต้นไม้ไปอย่างรวดเร็วซึ่งพอดีกับที่ชายร่างยักษ์อีกคนจะเหวี่ยงลูกตุ้มยักษ์มาทางเขาจนกิ่งต้นไม้หักโค่นลง
เขาจึงเคลื่อนตัวหนีไปยังต้นไม้ด้านข้างแล้วชักดาบคาตานะขึ้นมาฟาดฟันจนเกิดประกายไฟแล่บออกมา
ทั้งคู่ผลัดกันแบ่งรับแบ่งสู้จนต้นไม้บริเวณนั้นหักโค่นเป็นแถว
ซาสึเกะหยิบมีดคุไนขึ้นมาปัดป้องเมื่อมีจิตสังหารพุ่งตรงมาจากด้านหลังซึ่งก็เป็นชายร่างเล็กอีกคนที่เป่าลูกดอกอาบยาพิษเข้ามา
เพราะมัวแต่ไปพะวงข้างหลังทำให้ชายร่างยักษ์ได้โอกาสเหวี่ยงโซ่ไปรัดร่างของซาสึเกะก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวเพื่อเตรียมหวดลูกตุ้มหนามเข้าใส่
“อย่านะท่านพี่!”
ชายร่างยักษ์เบิกตากว้างเมื่อร่างที่ถูกโซ่เหล็กรัดอยู่กลับเป็นน้องชายของเขา
แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถควบคุมลูกตุ้มเหล็กเอาไว้ได้ทันจึงหวดเข้าที่ร่างนั้นเข้าเต็มๆจนกระเด็นร่วงลงพื้นไปอีกครั้งแถมยังอาการสาหัสเพราะคมหนามจากลูกตุ้ม
“แก...ไอ้อุจิวะ!”
กึก!
ปลายดาบคาตานะที่จ่ออยู่ตรงคอหอยทำให้ชายร่างยักษ์หยุกชะงักทันที
เขาเงยหน้ามองเจ้าของดวงตาที่มีเนตรสังสาระอย่างรู้สึกหวาดกลัวเมื่อความตายหยิบยื่นเข้ามาในระยะประชิดถึงเพียงนี้
“อย่าขยับจะดีกว่า”
“ฆ่าฉันซะเลยสิ!” ชายร่างยักษ์บอกอย่างจำนน ถ้าต้องถูกศัตรูดูแคลนสู้ให้เขาตายยังดีกว่า
“ยังหรอก แกเป็นอาชญากรที่ทางคามินาริโนะต้องการตัว
เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ขอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
“แกรู้ได้ยังไง”
ชายร่างยักษ์ถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่าซาสึเกะรู้ว่าเขาคือแก๊งอาชญากรที่ก่อคดีมาหลายคดีจนนับไม่ถ้วน รอบนี้ก็เช่นกัน
เขาต้องการตัวเด็กชายผู้มีความหยั่งรู้นั้นไปเสนอขายให้กับตลาดมืด เพราะราคาค่าตัวเด็กชายมีมูลค่าสูงมาก
พวกเขาจึงยอมเสี่ยงที่จะเข้าทำลายพิธีปิดผนึกทันทีแต่ไม่คิดว่านี่จะเป็นจุดจบของแก๊ง
“เพราะว่า...ฉันก็เป็นอาชญากรมาก่อนเหมือนกับพวกแกนั่นแหละ”
ยังไม่ทันทีชายร่างยักษ์จะได้เข้าใจความหมายของประโยคนั่นดี
ซาสึเกะก็จัดการพลิกสันดาบฟาดเข้าที่ศีรษะชายร่างยักษ์อย่างแรงจนสลบเหมือดในคราเดียว
.....................................................
หลังจากจัดการศัตรูที่เข้ามาป่วนพิธีการได้แล้ว
นินจาหน่วยลับของทางคามินาริโนะคุนิก็มาคุมตัวคนทั้งหมดไปเพราะเป็นอาชญากรที่ทางการกำลังตามล่าเนื่องจากก่อไว้หลายคดี ตัวแทนหน่วยลับคนหนึ่งขยับฝีเท้าเข้ามายืนตรงหน้าซาสึเกะและซากุระก่อนจะโค้งศีรษะให้เล็กน้อย
“ขอขอบคุณนินจาจากทางโคโนฮะมากที่ช่วยจับตัวอาชญากรให้เรา
เราจะทำการแจ้งเรื่องไปให้ทางโคโนฮะรับทราบโดยเร็วที่สุดครับ”
“ฮิเซ็น!”
เสียงเรียกชื่อเด็กชายดังมาจากทางด้านหลังของกลุ่มหน่วยลับก่อนที่หญิงผิวสีจากแคว้นคามินาริโนะจะเดินผ่านกลุ่มหน่วยลับคนอื่นๆตรงเข้ามากอดเด็กชายไว้แนบอกด้วยความคิดถึง ซึ่งมือน้อยๆนั้นก็ยื่นไปกอดคนที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิดด้วยความคิดถึงเช่นเดียวกัน
“แม่ฮะ ผมคิดถึงแม่ที่สุดเลย!”
ซากุระมองภาพนั้นอย่างซึ้งใจจนน้ำตาไหลออกมา เมื่อเห็นเด็กชายมีความสุขเธอก็พลอยมีความสุขไปด้วย ชิออนเองก็ไม่ต่าง ภาพของฮิเซ็นกับแม่เลี้ยงทำให้เธอคิดถึงมารดาที่เสียไปขึ้นมาทันที
เธอยกมือปาดน้ำใสๆบนหางตาออกก่อนจะเดินมายืนตรงหน้าร่างเล็กๆของเด็กชาย
“เจ้าหนู เธอสนใจจะมาเป็นผู้สืบทอดต่อจากฉันหรือเปล่า”
ชิออนถามพลางตีสีหน้าจริงจังเหมือนเดิม
“ท่านชิออนหมายถึง…”
“พิธีปิดผนึกนั่น...เราทำมันไม่สำเร็จ ทำให้เธอตอนนี้มีคุณสมบัติเหมือนฉันทุกประการ
และตัวฉันเองก็ไม่มีผู้สืบทอด เพราะฉะนั้นในภายภาคหน้าฉันอยากให้เธอมาเป็น ‘องเมียวจิ’* ที่ศาลเจ้าแห่งนี้แทนฉัน
เธออยากจะรับหน้าที่นี้ไหม”
“ผม...” ฮิเซ็นรู้สึกลำบากใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก การที่เขาจะได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติมันจะทำให้ตัวเขาไม่ต้องเสี่ยงอันตรายและต้องอยู่หลบๆซ่อนๆอีกต่อไป
แต่ในทางกลับกันเขาก็ต้องย้ายตัวเองมาอยู่ที่แคว้นโอนิเป็นการถาวร ถ้าอย่างนั้นแล้วแม่ของเขาที่เป็นคนของแคว้นคามินาริโนะล่ะ?
“แต่ว่าแม่...”
“ฉันอนุญาตให้แม่ของเธออาศัยอยู่กับเธอที่ศาลเจ้าได้ เธอจะว่ายังไง"
“ไม่ว่าผมอยู่ไหน แม่จะอยู่กับผมใช่ไหมฮะ” ฮิเซ็นหันไปถามมารดา หญิงผิวสีทำแค่เพียงพยักหน้าให้เล็กน้อยอย่างยอมรับในการตัดสินใจของเด็กชาย
แม้จะรู้สึกใจหายที่ต้องจากแคว้นกำเนิดของตนก็ตาม แต่เธอเองก็รักฮิเซ็นราวกับลูกแท้ๆ ถ้าให้พรากจากเด็กชายเธอก็มิอาจทำได้เช่นกัน
“ผม...ตัดสินใจว่าจะอยู่ที่นี่ฮะ”
ฮิเซ็นหันไปบอกกับชิออนด้วยแววตาแน่วแน่
เมื่อได้ยินเช่นนั้นมิโกะสาวก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจที่เรื่องทุกอย่างดูจะเข้าที่เข้าทางไปเกือบทั้งหมดแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ขอตัว”
ซาสึเกะถือโอกาสนี้เอ่ยขึ้น
ในเมื่อฮิเซ็นเลือกที่จะอยู่ที่นี่เท่ากับว่าภารกิจของเขาและซากุระก็จบลงอย่างสมบูรณ์แบบแล้วเช่นกัน
“พี่ซากุระ...”
ฮิเซ็นวิ่งถลาเข้าไปกอดร่างของซากุระเอาไว้ด้วยความรู้สึกใจหาย
เด็กชายรักเธอมากเพราะตลอดการเดินทางที่ผ่านมาเกือบเดือนมันทำให้ทั้งคู่รู้สึกผูกพันกันไม่น้อย
ซากุระพยายามที่ไม่ร้องไห้ตามเด็กชายไปแต่ในที่สุดก็ไม่อาจฝืนน้ำตาไว้ได้
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่าทั้งคู่กอดคอกันกลมพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
“นี่ลุง...ฮึก ดูแลพี่ซากุระดีดีนะฮะ”
ฮิเซ็นเงยหน้าขึ้นมาจากไหล่ของซากุระแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
ดวงตาสีมรกตของเด็กชายหันมาสบตากับดวงตาสองสีโดยที่น้ำตายังคลอเบ้าอยู่
“อืม”
“ขอย้ำว่าดูแลให้ดีดีนะฮะ
ถ้าพี่ซากุระกับ... ถ้าพี่ซากุระเป็นอะไรไปผมจะตามไปเตะก้นลุงให้เขียวเลยนะ!”
“หึ” ซาสึเกะขยับยิ้มออกมาเล็กน้อย
มือขวายื่นไปขยี้ศีรษะเล็กๆนั่นอย่างเอ็นดูแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นั่นทำให้เด็กชายเกิดอาการก๊อกแตกขึ้นมาอีกรอบก่อนจะผละออกจากอกซากุระแล้วมากอดขาเขาไว้แน่นราวกับลูกลิง
“ลุง ฮึก ขอโทษด้วยที่ผมดื้อไม่ฟังลุงมาตลอด แงงงงงง~”
“เป็นผู้ชายอย่าร้องไห้สิ...ไว้เจอกันใหม่” ซาสึเกะใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาให้กับเด็กชายพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ฮิเซ็นจึงปล่อยมือจากขาของเขาแล้วเช็ดน้ำตาให้ตัวเองราวกับได้รับความเข้มแข็งมาจากประโยคนั้นก่อนที่จะยิ้มกว้างส่งกลับไปให้ซาสึเกะเช่นกัน
“ฮะ ไว้เจอกันใหม่!”
………………………………………………..
เหตุการณ์ที่ในวันนั้นผ่านมาได้เดือนกว่าๆแล้ว
แต่ซากุระยังคงคิดถึงฮิเซ็นอยู่เสมอ ช่วงแรกๆที่เธอเดินทางออกจากแคว้นโอนิทำเอาน้ำตาซึมอยู่นานจนซาสึเกะต้องคอยปลอบใจเป็นครั้งคราว
เขาไม่คิดว่าเธอจะอ่อนไหวถึงเพียงนี้ทั้งที่แต่ก่อนเธอเป็นคนเข้มแข็งมากคนหนึ่งแท้ๆ
“อีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะถึงหมู่บ้านทาคิแล้ว
แวะพักที่นั่นก็น่าจะดี”
ซาสึเกะบอกขณะเดินนำซากุระผ่านป่ากว้างซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างแคว้นสึจิโนะและแคว้นฮิโนะ
ทว่าความเงียบที่ตอบกลับมาทำให้เขาต้องหันหลังกลับไปมองก่อนจะเห็นว่าเธอกำลังยืนท้าวแขนกับต้นไม้ด้วยใบหน้าซีดเซียว
เขาไม่รอช้าที่จะรีบเข้าไปประคองเธอทันที
“ซากุระ เป็นอะไรไป
ไม่สบายหรือ”
“ปะ เปล่าจ้ะ ฉันแค่รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย
สงสัยจะเป็นเพราะอากาศร้อน” ซากุระบอกอย่างเหนื่อยอ่อน
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาเบาใจลงเลยแม้แต่น้อย
เขาค่อยๆประคองตัวเธอลงนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่แล้วเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“เธออยากจะไปหาหมอไหม ฉันจะพาไป”
“ฮะๆ ฉันนี่แหละหมอ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ” ซากุระพูดติดตลกเพื่อให้เขาคลายความกังวล
มือบางยกขึ้นลูบใบหน้าหล่อเหลาอย่างแผ่วเบา
“แน่ใจหรือ”
“อื้อ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะไปกรอกน้ำมาให้ดื่ม เธอนั่งพักอยู่ที่นี่แหละ”
หลังจากซาสึเกะออกไปแล้วซากุระก็เริ่มสังเกตตัวเองขึ้นมา
พักหลังมานี้เธอรู้สึกหน้ามืดบ่อย อารมณ์อ่อนไหวง่าย อีกทั้งยังร่างกายอ่อนเพลียและรู้สึกง่วงซึมบ่อย วันที่สู้กับศัตรูในพิธีปิดผนึกก็ทำเอาเธอหลับเป็นตายไปเกือบค่อนวัน
และล่าสุดก็คือประจำเดือนเธอขาดมาสองเดือนแล้ว
‘อีกสองเดือนพี่ซากุระจะมีข่าวดีฮะ’
‘แต่ว่าตัวเธอไม่ได้มีแค่คนเดียวอีกแล้วนะ’
ทันใดนั้นเองคำพูดของฮิเซ็นและชิออนก็ผุดขึ้นมาในหัว
หัวใจเธอบีบรัดขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่อยู่ ดวงตาสีมรกตมองต่ำลงไปยังหน้าท้องที่ดูเหมือนจะนูนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างตกใจระคนตื่นเต้น
‘นี่ฉัน...กำลังมีครรภ์อย่างนั้นหรือ?!’
………………………………………………..
*องเมียวจิ (Onmyoji) นักพรตผู้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตามวิถีแห่งองเมียว อยู่ในชุดแขนเสื้อยาว สวมหมวกทรงสูง นักพรตองเมียวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดได้แก่ อาเบโนะ เซย์เมย์
-TO BE CONTINUED-
Ps1. งุ้ยยย เด็กน้อยกำลังจะมา รอดูความมุ้งมิ้งของอิเกะได้เล้ยยย ! ><
Ps2. อดทนหน่อยนะที่รักทั้งหลาย ใกล้จะเรียนจบเต็มที่แล้ว(มั้ง) ชีวิตเด็กถาปัดมันโหดร้าย T.T เพราะฉะนั้นโผล่มาอีกทีเดือนพฤษภาอย่าว่ากันนะ หรือว่าอาจจะรอชินแล้วว 5555+ ฝากติดตามต่อแล้วกัน เขียนอีกไม่เกิน7ตอนก็น่าจะจบแล้วนะ เท่าที่วางไว้ (จบซักทีเหอะ 5555+)
ชอบรูปนี้ของคุณเซกิ น่าร้ากกก ! สองซากุระและซะมีของพวกหล่อน
แต่ซากุระจากการ์ดแคปเตอร์ยังเด็กไป
เอาเป็นเพื่อนชายคนสนิทละกัน 5555+
ความคิดเห็น