คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : Chapter 32 : อุจิวะ ซากุระ [100%]
อุจิวะ ซากุระ
ซากุระตื่นขึ้นมาด้วยในช่วงเช้าของอีกวันด้วยความเพลียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความจริงเธอยังไม่หายง่วง
เลยด้วยซ้ำแต่ท่อนแขนหนักที่พาดเอวเธออยู่ถ่วงน้ำหนักเอาไว้จนรู้สึกอัดอัดและนอนไม่ได้ เธอเงยหน้าขึ้นมอง
เจ้าของเรือนผมสีดำที่ตอนนี้ยังคงสลบไสลอยู่ นึกอิจฉาเขาอยู่หน่อยๆที่เขากลับนอนได้อย่างสบายอกสบายใจโดยมี
เธอเป็นหมอนข้าง ใบหน้าหล่อเหลากำลังหลับตาพริ้มจนดูเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา ทว่าความจริงแล้วไม่ได้ไร้เดียงสา
เลยซักนิดโดยเฉพาะเมื่อคืน...
พอพูดถึงแล้วก็ใบหน้าก็เริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง เธอค่อยๆยกท่อนแขนเขาออกอย่างเบามือจนกระทั่งหลุดจาก
พันธนาการ จากนั้นจึงค่อยๆลุกไปจากเตียงอย่างแผ่วเบา ครั้นพอจะลุกความเจ็บปวดกลางลำตัวก็พลันแล่นขึ้นวาบ
ขึ้นมาจนต้องลงไปนั่งตุ๊บอยู่บนเตียงอีกรอบ ดวงตาสีมรกตมองไปยังกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมอันเล็กที่ตกอยู่ข้างเตียง
ข้างในนั้นยังคงเหลือสินค้าอยู่ครบทุกชิ้นเพราะเจ้าตัวไม่ได้แตะต้องมันเลยแม้แต่น้อย ชิ้นที่ฉีกฟอยล์ไปแล้วก็ยังคง
กองอยู่ที่พื้นเช่นกัน นั่นเป็นเพราะเขาเลือกวิธีที่จะใช้การ ‘ปล่อยธรรมชาติ’ ด้วยเหตุผลว่าอยากมีลูก สุดท้ายเธอก็
ยอมเขาไปด้วยความเต็มใจจนได้
แต่ใครจะคิดว่านั่นมันเป็นกับดักครั้งที่เท่าไรแล้วไม่รู้ของเขา เมื่อคืนกว่าเขาจะปล่อยให้เธอได้พักผ่อนก็แทบ
จะเกือบเช้า เพราะแบบนั้นเขาถึงได้หลับเป็นตายผิดกับเธอที่โดนกอดรัดจนนอนแทบไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมา
แถมยังพบกับความโหดร้ายเพราะร่างกายเธอแทบจะไร้เรี่ยวแรง
ความเจ็บปวดบริเวณช่วงเอวลงไปยังคงไม่ทุเลาลง
เธอก้มลมหยิบชุดยูกาตะมาสวมทับลวกๆพร้อมกับเก็บชุดชั้นในที่ถูกเขาถอดออกขึ้นมาจากพื้นก่อนจะเดิน
ตรงไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย
บานกระจกในห้องน้ำสะท้อนให้เห็นหญิงสาวเรือนผมสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้ดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ใบหน้าสวยดู
อิดโรย ส่วนตามลำตัวก็มีร่องรอยที่เขาทำไว้อยู่เต็มไปหมดและไม่มีทีท่าว่าจะจางลงไปง่ายๆ เธอสะบัดหัวทิ้งภาพ
เมื่อคืนออกไปอีกครั้งก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วไปชำระร่างกาย
“เฮ้อออ ~ ค่อยยังช่วยหน่อย”
ซากุระเปรยออกมาขณะแช่ออนเซ็นส่วนตัวของห้องพักต่อหลังจากได้ชำระร่างกายเสร็จ การแช่น้ำร้อนจะ
ช่วยทำให้ร่างกายเธอได้ผ่อนคลายขึ้นบ้าง เธอคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้สังเกตเห็นว่าใครบางคนนุ่งเพียง
แค่ผ้าขนหนูผืนสั้นออกมาจากห้องน้ำที่เชื่อมกับออนเซ็น เขาปลดผ้าขนหนูออกแล้วก้าวขาลงบ่อออนเซ็นข้างๆเธอที่
กำลังหันมามองด้วยความตกใจ
“ซะ ซาสึเกะคุง!”
“หืม…” เขาตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยเป็นปกติเหมือนมาแช่น้ำกับเพื่อนผู้ชายทั่วไป แต่สำหรับซากุระเธอไม่
คิดเช่นนั้น เธอรีบขยับตัวถอยห่างเขาไปอยู่หลังโขดหินเพื่อซ่อนร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเอง ดวงตาสีมรกตพยายาม
ไม่มองลงไปที่น้ำใสๆจนเห็นอะไรๆเด่นชัดแม้จะมีควันสีขาวลอยฟุ้ง
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง
“ทะ ทำไมมาแช่น้ำตอนนี้!”
“ตอนนี้ไม่ได้เหรอ”
“กะ ก็ฉันแช่อยู่น่ะสิ!”
“แล้วยังไงเหรอ”
ซากุระมองคนที่กำลังทำสีหน้าราบเรียบอยู่ไม่ไกลจากเธอ บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่าคนนิ่งๆแบบเขาเวลาอยู่
กับเธอแค่สองคนจะกลายเป็นคนที่ชอบทำตัวมึนๆ
ขี้แกล้ง และเจ้าเล่ห์ในบางครั้งจนเธอหลงกลเขาไปหลายรอบ
ซึ่งนั่นก็รวมถึงตอนนี้ด้วย...
“งั้นฉันจะขึ้นแล้ว ช่วยหันหลังไปหน่อยได้ไหม”
“ทำไมล่ะ”
“ฉันกำลังโป๊อยู่นะ!”
“ก็ไม่เห็นต้องอายอะไรนี่ เมื่อคืนก็เห็นกันมาหมดแล้ว” คำตอบของเขาทำให้เธออ้าปากพะงาบเพราะไม่คิด
ว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนั้นออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
“ซะ ซาสึเกะคุง!
ลามกที่สุด!”
“ก็ได้ๆ งั้นฉันจะขึ้นไปก่อน แล้วอย่านานนักล่ะ เดี๋ยวจะเป็นลมเอา”
เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกขึ้นจากบ่อน้ำร้อนทันทีทำเอาซากุระหันหน้าหนีแทบไม่ทัน แต่ก็จริงอย่างที่เขาพูด
นั่นแหละ เมื่อคืนทั้งคู่ก็เห็นกันมาหมดแล้ว เพียงแต่ว่าเธอไม่ใช่เขา ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ชินอยู่ดีกับการที่เขาล่อนจ้อน
ต่อหน้าเธอแบบนี้ถึงแม้ว่าเรือนร่างของเขาจะเซ็กซี่บาดใจผู้หญิงก็เถอะ!
…………………………………………….
ซากุระที่กลับมาอยู่ในชุดสีแดงเลือดหมูตัวเก่งอีกครั้งกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก ซาสึเกะบอกว่าวันนี้จะ
พาเธอไปพบใครบางคนซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย ถ้าหากว่าเขาจะพาเธอไปพบผู้หญิงกับเด็กผู้ชายที่
คิลเลอร์ บีพูดล่ะ เธอจะทำอย่างไร
แต่เมื่อคืน...เขาบอกว่าฉันคือคนแรก...?!?
เขาอาจจะโกหกเธอก็ได้นี่
!
ความคิดฝ่ายธรรมะและอธรรมตีกันอยู่ในหัวจนใบหน้ายุ่งเหยิง ซาสึเกะที่จัดเตรียมของเดินทางอยู่บนโซฟา
มองเธอผ่านกระจกเพราะก่อนจะสังเกตเห็นว่าใบหน้าเธอเปลี่ยนไปหลายอารมณ์มากขณะหวีผมอยู่
“ซากุระ...”
“…”
“ซากุระ...”
“…”
“อุจิวะ ซากุระ!”
“หะ หา ! มีอะไรงั้นเหรอ” ซากุระหันมาตามเสียงเรียกที่ทำเอาเธอหลุดออกจากภวังค์ความคิด แต่เมื่อกี้
เหมือนเขาจะเรียกเธอแปลกๆ เหมือนเขาจะเรียกเธอว่า...
อุจิวะ
ซากุระ…?
อุจิวะ ซากุระ...
อุจิวะ ซากุระ !!!
“มะ
เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ!”
สีหน้าตื่นตระหนกของเธอทำให้เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อกี้เขาแค่เรียกเธอด้วยนามสกุลของเขา
แต่ไม่คิดว่าเธอจะตกใจมากถึงขนาดนั้น
“ฟังไม่ผิดหรอก...อุจิวะ
ซากุระ ฉันตั้งใจจะเรียกเธอแบบนั้น”
คำตอบของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว ดวงตาสีมรกตเบิกกว้างเพราะนามสกุลของเธอได้ถูกเปลี่ยนจาก
‘ฮารุโนะ’ เป็น ‘อุจิวะ’
ไปเรียบร้อยแล้ว
“เธอกำลัง...ล้อฉันเล่นอยู่หรือเปล่า!?”
“เรื่องแบบนี้ใครจะล้อเล่นกันล่ะ” เขาบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง มือข้างขวาตบไปที่โซฟาเบาๆ “มานี่สิ ฉันมี
อะไรจะให้เธอนะ”
ซากุระมองเขาอย่างอึ้งงันไปซักพักเพราะยังตั้งตัวไม่ทัน แต่ถึงกระนั้นขาเรียวยาวก็พาตัวเองไปหยุดอยู่ตรง
หน้าเขา เมื่อเขาเห็นว่าเธอยังไม่ยอมนั่งเสียทีก็จัดการดึงมือของคนที่ยังดูเหมือนไร้สติลงมานั่งแปะอยู่บนตักทันที
“ว้ายยย! ทำอะไรน่ะซาสึเกะคุง!”
“ก็เธอไม่ยอมนั่งซักที”
เขาบอกพร้อมกับโอบเอวของเธอเอาไว้แน่น เธอเองก็พยายามจะผละตัวออกมาให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้าย
ก็ต้องยอมแพ้แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอย่างประหม่าเล็กน้อยเพราะสถานการณ์ตอนนี้มันดูล่อแหลมแปลกๆ
“ช่วงนี้...เธอไม่สบายหรือเปล่า”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”
“ก็เธอ...ดูเปลี่ยนไป เหมือนไม่ใช่เธอคนเดิม”
ซากุระพูดออกไปตามที่ใจคิด จะเรียกว่าเขาดู…เป็นผู้ชายเต็มตัวได้หรือเปล่า...เขามีอารมณ์ มีความรู้สึก
และความต้องการเหมือนผู้ชายทั่วไปทั้งที่เมื่อก่อนเขาไม่มีวี่แววว่าจะมาสนใจเรื่องพรรค์นี้เลยด้วยซ้ำ
“เธอไม่ชอบงั้นเหรอ”
“ปะ
เปล่าซักหน่อย...ฉันก็แค่...”
“ฉันอยากให้เธอ...เปลี่ยนมาใช้นามสกุลฉันได้หรือเปล่า”
ซาสึเกะถามแทรกขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังจนซากุระถึงกับเบิกตากว้างอย่างอึ้งๆกับสิ่งที่เขาเพิ่งบอกมา
การที่ผู้หญิงต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของผู้ชายนั้นมีอยู่เหตุผลเดียว...
“นี่เธอ...หมายความว่า...”
“เมื่อกลับไปหมู่บ้าน...เราจะจดทะเบียนกัน”
“จะ จดทะเบียน?!”
“อืม แต่จะไปพบพ่อแม่เธอก่อนก็ได้”
“พบพ่อแม่ฉัน ?!?”
“ตกลงตามนี้ก็แล้วกัน”
“เดี๋ยวสิ! เธอไม่คิดจะถามความคิดเห็นของฉันบ้างเลยเหรอ!”
ซากุระแย้งขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาคิดเองเออเองเสร็จสรรพโดยไม่เปิดช่องว่างให้เธอได้ตอบแม้แต่คำเดียว
แถมยังทำสีหน้ารำคาญเหมือนเธอเป็นคนผิดเสียอย่างนั้น
“แล้วเธอจะเอายังไง”
“นี่เธอกำลังขอฉันแต่งงานจริงๆใช่ไหมเนี่ย?!”
“ถ้าเธอไม่พอใจก็ขอฉันแต่งงานสิ”
“อะ อะไรนะ?!”
“ฉันตกลง”
เขาตอบรับโดยไวโดยที่เธอยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่เหมือนเดิม ความกวนประสาทเวลาอยู่ด้วยกันแค่
สองคนเริ่มเผยออกมาให้เห็นอีกครั้ง
“เดี๋ยวๆ ! ฉันยังไม่ได้ปริปากซักคำเลยนะ!”
“งั้นก็พูดมาสิ”
เขาพยายามบีบคั้นให้เธอเอ่ยปากขอเขาแต่งงานอีกครั้งพร้อมกับจ้องหน้าเธออย่างกดดัน นั่นทำให้เธอแทบ
จะหลุดขำให้กับความเอาแต่ใจของเขาไม่ได้
“แล้วถ้าฉันขอเธอแต่งงาน...เธอก็ต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฉันใช่หรือเปล่า”
“ว่ายังไงนะ?!”
“ฮารุโนะ ซาสึเกะ อืม...เข้าท่าดีเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆๆ”
ซากุระระเบิดหัวเราะออกมาในที่สุดขณะที่ยังนั่งอยู่บนตักของเขา ส่วนเขาก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับที่การขอ
เธอแต่งงานถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องตลกขบขันไปเสียได้
“สนุกมากไหมเธอน่ะ”
“ฮะ อะแฮ่ม! นี่ ฉันถามจริงๆนะ
ถ้าเธอต้องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลฉัน เธอจะยอมหรือเปล่า”
“...”
“...”
“ถ้าเธอต้องการจริงๆ... ฉันจะยอมให้ก็ได้”
เขาตอบเสียงเบาหวิว ใบหน้าหล่อเหลาขึ้นสีเล็กน้อย แต่ที่เด่นชัดที่สุดคือใบหูที่เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดนั่น
ไม่บ่อยนักที่เขาจะแสดงอาการเขินให้เธอเห็น
“นี่เธอพูดจริงๆงั้นเหรอ”
“อืม”
“ฮะๆ ฉันล้อเล่นน่ะ” เธอหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน “ฉันรู้ว่าเธอรักอุจิวะมาก
แค่ไหน”
มือบางขยับขึ้นไปลูบใบหน้าของเขาเบาๆพร้อมกับเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่ยาวจนปิดบังดวงตาข้างซ้ายไปทัดที่
ใบหู ดวงตาสองสีนั่นมีเงาของเธอสะท้อนอยู่ภายใน ไม่นานใบหน้าของทั้งคู่ก็โน้มเข้าหากันราวกับมีแรงดึงดูดก่อน
ริมฝีปากหยักจะเคลื่อนเข้าไปประทับบนกลีบปากนุ่มนิ่มสีชมพูอ่อนของเธออย่างบางเบา จากนั้นก็ค่อยๆละเลียดชิม
ความหวานอย่างอ้อยอิ่ง มือข้างขวาเคลื่อนจากเอวขึ้นมาลูบไล้แผ่นหลังเธออย่างช้าๆซึ่งมันกระตุ้นให้เธอเริ่มมี
อารมณ์เคลิ้มตามได้เป็นอย่างดี เธอเองก็ยกแขนไปโอบรอบคอเขาไว้เพื่อยึดเป็นหลักเช่นกัน
ซาสึเกะผละริมฝีปากออกมาอย่างช้าๆ แต่ยังคงไม่ละสายตาไปจากริมฝีปากสีชมพูปลั่งที่กำลังเผยอเพื่อเอา
อากาศเข้าปอดอย่างเต็มที่ เขาอาศัยจังหวะนั้นประกบริมฝีปากเข้าไปใหม่พร้อมกับสอดลิ้นอ่อนนุ่มเข้าไปหยอกล้อ
กับลิ้นของเธอ รสจูบที่แปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงนั้นทำให้รู้สึกเหมือนกับมีผีเสื้อบินวนอยู่ในท้องนับพันตัว
ร่างกายเริ่มอ่อนระทวยทุกครั้งที่เขาจูบเธอแบบดูดดื่ม เธอรู้ว่าไม่นานตัวเองจะต้องสูญเสียการควบคุมแน่ซึ่งมันก็เข้า
ทางของเขาพอดี เขากระชับร่างเธอเข้ามากอดไว้แน่นเพื่อเตรียมอุ้มเธอไปยังเตียงกว้าง แต่ทว่า...
ก๊อกๆๆ
ซากุระผละริมฝีปากออกจากซาสึเกะอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกพรวดขึ้นจากตักของเขาทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะ
ประตู อารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปแล้วทำให้เธอหันหลังให้กับเขาเพื่อซ่อนใบหน้าเห่อแดง เมื่อมองไปที่เสื้อตัวเก่งก็
พบว่าแถบกระดุมสีขาวถูกปลดออกจนหมดเผยให้เห็นชุดชั้นในสีหวานที่ซ่อนอยู่ด้านใน เธอจึงรีบตะครุบเสื้อเอาไว้
แล้วตรงไปยังห้องน้ำทันที
“ซากุระ กลับมานี่เดี๋ยวนี้!”
เขาตะโกนบอกด้วยความหงุดหงิดเพราะกว่าจะโอ้โลมเธอได้ก็เสียเวลาไปไม่น้อย แต่เสียงเคาะประตูที่ยังคง
ดังอย่างต่อเนื่องทำให้เขาตวัดสายตาไปมองด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่ปกติจะเก็บความรู้สึกไว้ภายใต้
ใบหน้าเรียบเฉยได้เป็นอย่างดี เขาลุกพรวดจากโซฟาแล้วตรงไปที่ประตูห้องก่อนจะกระชากบานประตูเปิดออกด้วย
อารมณ์คุกรุ่น
“อะ เอ่อ ผมเอาอาหารที่คุณโทรไปสั่งไว้มาส่งครับ”
พนักงานส่งอาหารหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่นเพราะคนตรงหน้าเหมือนกับมีรังสีอำมหิตอยู่รอบกาย
แต่ถึงอย่างนั้นก็พยายามทำใจดีสู้เสือเขาไว้ด้วยการส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ไม่ได้สั่ง”
“หา แต่ว่านี่มันห้องเบอร์... อ้าว ผิดห้องนี่!”
“...”
“แหะๆ”
“รีบไสหัวออกไปซะก่อนที่ฉันจะฆ่าแก…!”
ซาสึเกะปิดประตูห้องด้วยความหงุดหงิดที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า อยากจะเผามันด้วยเทวีสุริยานักเชียวที่
บังอาจมาขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มของเขา
เมื่อเขาหันกลับมาข้างในห้องก็เจอกับเธอที่มายืนอยู่ข้างผนังด้วยชุดที่ดูเรียบร้อยแล้วเหมือนครั้งแรก
เธอเลี่ยงที่จะสบตากับเขาแล้วตรงไปจับที่ลูกบิดประตูทันที ทว่าเขาก็คว้ามือเอาไว้แล้วดันเธอไปแนบชิดกับบาน
ประตู
“เธอจะไปไหน”
“คะ คือ...ฉันจะออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยน่ะจ้ะ!”
“ตอนสายๆแบบนี้น่ะเหรอ”
“อะ อื้อ
อยู่แต่ในห้องมันอุดอู้นี่นา”
“…”
“…”
“เธอกลัวฉันงั้นเหรอ”
“ฉันไม่ได้กลัว แต่ว่า…”
ซากุระชะงักค้างไปชั่วขณะเมื่อนึกคำพูดไม่ออก ดวงตาสีมรกตหลุบตาลงต่ำเพราะไม่รู้ว่าดวงตาสองสีนั่นจะ
ทำให้เธอเคลิ้มตามไปอีกหรือเปล่า เขาที่เห็นท่าทีแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางลูบเส้นผมสีชมพูอ่อนที่เริ่มยาว
จนถึงบ่าอย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องไปหรอก ฉันไม่ทำอะไรเธอแล้ว”
.................................................................
50%
เอ่อ....อิเกะคะ อันนี้คือขอผู้หญิงแต่งงานแล้วใช่มะ 55555555+
#อุจิวะสไตล์
ช่วงบ่ายในวันเดียวกัน ซาสึเกะพาซากุระมายังหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างไกลจากตัวเมืองมาพอสมควร หมู่บ้านแห่ง
นี้ไม่ได้มีพื้นที่ติดทะเลแต่โอบล้อมไปด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ซากุระที่เดินตามหลังมามีท่าทีที่อยากจะพูด
อะไรบางอย่างกับเขา แต่ริมฝีปากเล็กนั้นกลับไม่ได้เปล่งเสียงใดๆออกมา
“เธอทำสีหน้าไม่ดีมาตั้งแต่ออกจากโรงแรมแล้วนะ
เป็นอะไรหรือเปล่า”
ซาสึเกะตัดสินใจถามออกไปหลังจากเห็นเธอดูมีความกังวลที่แสดงออกมาทางสีหน้าตลอดทาง ซากุระจึง
หยุดฝีเท้าลงพร้อมกับเงยหน้าสบตากับเขา
“นี่...ซาสึเกะคุง
คนที่เธอจะไปพบน่ะ เป็นผู้หญิงกับเด็กผู้ชายใช่หรือเปล่า”
“นี่เธอไปรู้มาจากไหน” เขาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเธอเอ่ยข้อมูลที่เขายังไม่เคยบอกออกมา
“ลุงบีบอกมาน่ะ”
“ไอ้เวรนั่น...”
“เรื่องจริงเหรอ”
“อะไร”
“ก็ที่เธอมีภรรยากับลูกชายอยู่ที่นี่น่ะ”
“เธอจะบ้าเหรอ ฉันจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไง” เขาตอบด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธอยู่เนืองๆเพราะสิ่งที่เธอพูด
มันไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย เรื่องผู้หญิงเขาแทบจะไม่ผูกสัมพันธ์กับใครมากเกินกว่าเพื่อนหรือคนรู้จักยกเว้น
แค่เธอคนเดียวนั่นแหละ
“แล้วพวกเขาเป็นใคร”
“เรื่องมันซับซ้อนนิดหน่อย เอาไว้อธิบายให้ฟังเมื่อถึงที่หมายแล้ว
แต่ขอบอกว่าไม่ใช่แบบที่เธอคิดหรอก”
“อย่างนั้นเหรอ ฉันขอโทษนะที่คิดอะไรไม่เข้าท่า” เธอบอกเสียงอ่อยพร้อมกับหลบสายตา แต่เขาก็ยื่นมือมา
เชยคางเธอขึ้น ดวงตาสองสีจ้องมองเธอเขม็ง
“ถามเธอจริงๆนะ ฉันดูเหมือนคนที่จะทำแบบนั้นได้เหรอ”
“เอ่อ...คือ...”
“ตอบมาสิ”
“ก็ไม่...”
“ทีหลังอย่าคิดอะไรแบบนี้อีกนะ”
เขาบอกทิ้งท้ายก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง เธอเองก็ออกเดินตามร่างสูงนั่นไปติดๆ เธอแอบมองใบหน้า
ด้านข้างของเขาเพื่อดูว่าเขาโกรธอยู่หรือเปล่า แต่เจ้าตัวกำลังยกกระบอกน้ำขึ้นดื่มพอดี ริมฝีปากหยักที่เผยอขึ้นเล็ก
น้อยขณะดื่มทำให้ซากุระคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เขาจูบเธอเมื่อเช้า เพียงแค่คิดมวลท้องก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาทันที
ส่วนเขาที่รู้สึกเหมือนกับโดนจ้องมองอยู่ก็ปรายตาไปมองคนข้างๆ เขาขยับยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่ขึ้น
สีแดงระเรื่อของเธอพร้อมกับดวงตาสีมรกตที่มองเขาอย่างไม่รู้ตัว
“คิดลามกอยู่หรือไง”
“ปะ เปล่าซักหน่อย!”
ทั้งคู่เดินทางต่อเพียงไม่นานก็เจอบ้านไม้แบบญี่ปุ่นสมัยโบราณตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเดี่ยวในป่าใหญ่
เขาเดินเข้าไปเคาะที่ประตูบ้านเบาๆก่อนจะมีผู้หญิงวัยกลางเปิดประตูออกมา
“อ้าว คุณซาสึเกะ
แวะมางั้นเหรอคะ”
“ครับ แล้ว...”
“มาทำไมอ่ะตาลุงน่าเบื่อ”
เด็กชายตัวเล็กวัยหกขวบรอดใต้แขนของหญิงวัยกลางคนมายืนตรงหน้าซาสึเกะ เส้นผมสีดำสนิทดูยุ่งเหยิง
เล็กน้อย
ดวงตาสีมรกตจ้องมองไปที่ซาสึเกะอย่างไม่ค่อยชอบใจ
“นี่ ฮิเซ็น แม่บอกกี่ทีแล้วให้เรียกเขาว่าพี่ มันหยาบคายนะ!”
“ไม่เห็นจะสน”
ฮิเซ็นบอกอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นเด็กชายก็มองไปยังเบื้องหลังของซาสึเกะก่อนจะพบว่ามีหญิงสาวเรือน
ผมสีชมพูมองมายังเขาอย่างแปลกใจ ดวงตาที่มีสีเดียวกันทอประกายยินดีก่อนร่างเล็กจะพุ่งตรงไปหาเธอพร้อมกับ
คว้ามือเธอมาบีบไว้เบาๆ
“สวัสดีฮะ พี่สาวคนสวย”
“อุ้ย สวัสดีจ้ะ”
“ผมชื่อฮิเซ็นฮะ
พี่สาว...ชื่อซากุระใช่หรือเปล่า”
“เห ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ”
“ก็เพราะ...ผมของพี่สาวมีสีชมพูเหมือนดอกซากุระยังไงล่ะฮะ”
คำตอบที่ดูเป็นคนช่างเอาใจทำให้ซากุระรู้สึกเอ็นดูเด็กชายตรงหน้า เธอย่อตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับ
เด็กชายก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ผมสีดำเบาๆ
“ตัวแค่นี้ช่างเจรจาเสียจริงนะเรา”
“ผมไม่ได้โกหกนี่ฮะ ”
“นี่ ปากหวานขนาดนี้พี่ไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ บอกไว้ก่อน”
“งั้นถ้าผมโตขึ้น พี่สาวจะแต่งงานกับผมได้หรือเปล่า”
ซากุระตะลึงไปเล็กน้อยที่จู่ๆก็ถูกขอแต่งงานจากเด็กชายตัวน้อย เธอหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตอบรับคำ
อย่างไม่คิดอะไร
“ดะ…”
“ไม่ได้!”
“ซาสึเกะคุง!”
“แก่แดดเกินไปแล้วนะนาย”
ซาสึเกะดุด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ใบหน้าเย็นชาของเขาทำให้ฮิเซ็นน้ำตารื้นออกมาเล็กน้อย ริมฝีปากเล็ก
สั่นระริกอย่างพยายามที่จะไม่ร้องไห้
“ฮึก...”
“ซาสึเกะคุง! ฮิเซ็นยังเด็กอยู่นะ
เธอไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนี่”
ซากุระอดสงสารไม่ได้จึงดึงของเด็กชายเข้ามากอดไว้ ใบหน้าเล็กซบลงไปบนอกนุ่มนิ่มพร้อมกับกอดตอบ
เธอไว้แน่นเช่นกัน
“ไม่เป็นไรนะเด็กดี”
“ฮือ พี่ซากุระ! พี่ซาสึเกะเขาเกลียดผม”
“โอ๋ อย่าร้องไห้เลยนะฮิเซ็นคุง เขาไม่ได้ตั้งใจจะดุใส่เธอหรอกนะ”
ฮิเซ็นที่โอบกอดซากุระอยู่ก็หันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ซาสึเกะอย่างยียวนกวนประสาทโดยที่ซากุระไม่ได้ทัน
สังเกต ส่วนเขาก็ได้แต่กัดฟันกรอดอยู่ด้านหลังเพราะทำอะไรไม่ได้เนื่องจากฮิเซ็นยังเป็นแค่เด็กหกขวบ แต่ความคิด
ของเด็กคนนี้ไปไกลกว่าอายุอยู่มาก
“นี่ๆ พี่ซากุระ
ผมจะพาไปดูผักที่ผมปลูกกับแม่นะฮะ”
ฮิเซ็นว่าอย่างร่าเริง เด็กชายคว้าแขนของซากุระแล้วพาเธอวิ่งไปยังหลังบ้านซึ่งมีแปลงผักเล็กๆอยู่ ซาสึเกะ
มองภาพนั้นด้วยสายตานิ่งเฉยก่อนจะหันมาหญิงวัยกลางคนที่กำลังมองเด็กชายตัวน้อยอยู่เช่นกัน แต่แววตากลับ
เจือด้วยความกังวลจนเขารู้สึกได้
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ยังไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แต่ก็เริ่มมีคนแปลกหน้านอกจากคนที่ไรคาเงะส่งมาผ่านมาแถวนี้บ้างแล้ว
ดิฉันว่าอีกไม่นานคงฮิเซ็นคงถูกหาตัวเจอ…” ประโยคหลังเธอพูดด้วยน้ำเสียงเบาหวิว มือทั้งสองข้างบีบเข้าหากัน
แน่นอย่างตัดสินใจ ในที่สุดเธอก็เงยหน้าขึ้นมองซาสึเกะด้วยสายตาเว้าวอน
“คุณซาสึเกะคะ
ดิฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณ...เป็นครั้งสุดท้าย”
………………………………….....................
“เรื่องฮิเซ็นนี่มันยังไงกันแน่เหรอ”
ซากุระเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่กลับมายังโรงแรมเรียบร้อยแล้ว เธอตะแคงลำตัวไปหาซาสึเกะที่ยังคงนั่ง
จดบันทึกลงสมุดอยู่ด้านข้าง พอได้ยินเธอถามแบบนั้น เขาก็วางสมุดบันทึกลงบนโต๊ะข้างเตียงแล้วล้มตัวลงนอน
ข้างๆเธอ
“เธอเคยได้ยินตำนานของอามาปิเอะไหม”
“หืม...อามาปิเอะงั้นเหรอ”
“ใช่ ภูตแห่งท้องทะเลที่เป็นมิตรกับมนุษย์”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฮิเซ็นกันล่ะ”
“เด็กคนนั้น...สามารถทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคตกันใกล้ได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่คล้ายกับภูตอา
มาปิเอะ บวกกับแคว้นนามินาริโนะซึ่งเป็นแคว้นที่ล้อมรอบด้วยทะเล เพราะฉะนั้นความเชื่อส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับ
ทะเล และฮิเซ็นเองก็ได้การนับถือเหมือนกับเป็นตัวแทนของภูตตนนั้น”
“นี่เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ”
“ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ
แต่เท่าที่ลองทดสอบก็ทำให้ฉันเห็นว่าเด็กนั่นมีความสามารถในการทำนายจริงๆ”
“แล้วแบบนี้ฮิเซ็นจะไม่เป็นที่ต้องการตัวแย่เหรอ”
“นั่นแหละคือปัญหา เพราะความสามารถนั่นทำให้เป็นที่ต้องการตัวของพวกแสวงหาผลประโยชน์
ซูซูเมะ...เธอเป็นคนที่เลี้ยงฮิเซ็นมาตั้งแต่แรกเกิดไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น เธอพาฮิเซ็นหนีการไล่ล่าไปตาม
หมู่บ้านต่างๆ
จนฉันได้เจอกับเด็กนั่นเมื่อตอนมาสำรวจนามินาริโนะครั้งแรก”
คำบอกเล่าของซาสึเกะช่วยคลายความสงสัยของซากุระที่เธอสังเกตเห็นว่าหญิงวัยกลางคนที่ชื่อซูซูเมะนั้น
ไม่มีส่วนใดเหมือนกับฮิเซ็นเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นสีผม สีตา หรือสีผิวที่ซูซูเมะจะมีสีเข้มเหมือนกับคนส่วนใหญ่
ในแคว้น แต่ฮิเซ็นกลับมีผิวขาวราวกับหิมะ
“เด็กคนนั้น...คงไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปเลยเนอะ“
ซากุระตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความสงสาร แล้วยิ่งเธอทำงานด้านแผนกฟื้นฟูจิตใจของเด็กทำให้
เข้าใจถึงจิตใจของเด็กส่วนใหญ่เป็นอย่างดี
“อืม เพราะแบบนั้นฉันเลยต้องแวะมาที่นี่บ่อยครั้ง”
“ทำไมถึงไม่แจ้งให้ไรคาเงะช่วยคุ้มครองล่ะ”
“ไม่ได้หรอก มันจะยิ่งกลายเป็นเป้าสายตามากกว่าเดิม และคนที่ให้ฉันเข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ก็คือตัวไรคา
เงะเอง”
“จะว่าไป...พลังแบบนี้ฉันคิดว่ามันเหมือนกับใครบางคนที่ฉันรู้จัก”
“ใครงั้นเหรอ”
“ชิออนน่ะ เธอเป็นมิโกะที่เคยว่าจ้างพวกเราให้ไปช่วยคุ้มกันให้ ตอนนั้นเนจิเป็นคนคุมทีม แทบแย่เหมือนกัน
นะ
ไม่นึกเลยว่าจะมีคนที่มีพลังแบบนี้เหมือนกันแถมยังเป็นเด็กอยู่อีก”
“ชิออน...มิโกะแห่งแคว้นโอนิใช่หรือเปล่า”
“เห
ซาสึเกะคุงรู้จักด้วยเหรอ”
“อือ เคยเจอตอนไปแคว้นนั้น” ซาสึเกะเริ่มงึมงำเพราะความง่วง เขาหันไปสบตากับเธอที่ยังคงมองเขาตา
แป๋ว “เธอน่ะนอนได้แล้ว
พรุ่งนี้เราต้องออกไปพบไรคาเงะแต่เช้า”
“จ้า ~ “
ซากุระบอกก่อนจะเคลื่อนตัวไปซบใบหน้าลงบนไหล่กว้างของเขา แขนบางยกขึ้นไปกอดเอวเขาไว้หลวมๆ
นั่นทำให้ความอ่อนเพลียจากการเดินทางถูกพัดปลิวหายไปในทันที มือข้างขวาคว้าหมับเข้าที่มือของเธอพร้อมกับ
จ้องมองร่างเล็กในอ้อมแขนอย่างจริงจัง
“ถ้าจะนอน ก็อย่าเข้ามาใกล้ฉัน”
“เอ๋ ทำไมล่ะ ฉันอยากจะกอดเธอไม่ได้หรือ”
“ฉันไม่ได้มีความอดทนถึงขนาดนั้น”
“แค่กอดเนี่ยนะ!”
“ถ้ายังเซ้าซี้เธอจะไม่ได้นอน จะเอายังไง”
“บ้า! ซาสึเกะคุงลามก! ฉันจะนอนแล้ว”
ซากุระที่ใบหน้าแดงก่ำผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่นของเขา เธอย้ายหมอนตัวเองไปวางอยู่ชิดขอบเตียงแล้ว
นอนลงหันหลังให้กับเขาโดยทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร เห็นแบบนั้นแล้วเขาเองก็หันหลังไปอีกทางเช่นกัน อายุที่เริ่ม
เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ทำให้สัญชาตญาณของบุรุษเพศนั้นมีเต็มเปี่ยม ยอมรับว่าทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้เขาความต้องการก็ถูก
จุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เขาไม่ได้อยากจะหมกมุ่นกับเรื่องพรรค์นี้นักหรอกแต่ก็ไม่อาจฝืนสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาได้
เขาพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ให้กลับมาสงบดังเดิมซึ่งกินเวลานานพอสมควรจนกระทั่งหลับไปในที่สุด
ซาสึเกะลืมตาตื่นขึ้นมาในยามวิกาล ความฝันเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของครอบครัวยังคงวนเวียนอยู่ทุกครั้ง
แม้เรื่องต่างๆจะถูกสะสางไปหมดแล้ว มันมักจะเกิดในช่วงเวลาที่เขามีความกังวลมากๆ ความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวแทรก
เข้ามากัดกินหัวใจอีกครั้ง
ทว่า...ตัวเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว...
ดวงตาสองสีหันไปมองแผ่นหลังบอบบางของคนข้างๆ ที่ยังหันหน้าไปยังอีกฝั่งของเตียง ร่างกายที่ขยับเป็น
จังหวะบอกได้ว่าเธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเต็มตัวแล้ว เขาเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้เธอพร้อมกับรั้งร่างของเธอเขามากอด
ไว้หลวมๆ แต่เหมือนเขาจะยังไม่พอใจเท่าไรจึงพลิกร่างเธอให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา เธอทำเสียงฮึดฮัดในลำคอเมื่อ
ถูกรบกวนการนอนแม้ว่าเปลือกตายังคงปิดสนิท ซาสึเกะลอบยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งโดยที่ยัง
กอดเธอเอาไว้แนบกาย
……………………………………………………..
-TO BE CONTINUED-
Ps1. มาลงครบร้อยค่าาา ครึ่งหลังเหมือนกับการเปิดซีรีย์ใหม่เลย เด็กชายตัวน้อยผู้เป็นคู่กัดคนใหม่ของอิเกะ แต่ดัน เหมือนอิเกะกับซากุระผสมกัน สนองความต้องการที่อยากให้ได้ลูกชายของเค้า 5555555+
Ps2.หายไปเกือบสองอาทิตย์ เค้าขอโทษนะพอดีอยู่ในช่วงฝึกงาน กลับมาก็หมดแรงแล้ว เลยได้แต่รวบรวมข้อมูลไว้แต่งตอนใหม่ ส่วนน้องดะจะมาเมื่อไรก็ฝากตามต่อด้วยนะคะ !
24.06.60
ความคิดเห็น