คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : P O S E ❥ 8 | My boyfriend
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
My boyfriend.
HUNBIN TALK:
“ฮันบิน”
…คบกันหรอ?
“คิมฮันบิน!”
“ค..ครับ?” ผมสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือเล็กๆ ของอีกคนแตะลงบนบ่า จินฮวานเอียงคอพลางทำตาบ๊องแบ๊วมองหน้าผม ผมกระพริบตาปริบๆ ให้อีกคน
เมื่อกี้เราคุยกันเรื่องอะไรนะ?
“ไม่อาบน้ำหรอครับ?” จินฮวานเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะชี้มาที่ผม ผมมองตามนิ้วของเขาก่อนจะพบว่า ใช่ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนี่หว่า
“พี่ง่วงหรือยังครับ?” ผมเอ่ยถาม ห้องน้ำที่ห้องผมมันมีแค่ห้องเดียวแล้วมันก็ดันอยู่ในห้องนอนของผมซะด้วย ถ้าเขาไปนอนแล้วผมคงไม่กล้าไปอาบน้ำหรอกครับ เดี๋ยวไปอาบห้องไอ้จีวอนก็ได้มั้ง
“พี่จะรอฮันบินอาบน้ำก่อน”
หากแต่เสียงใสที่ตอบกลับมาทำเอาผมเผลออ้าปากค้างอย่างนึกไม่ถึง ประโยคที่ได้รับกลับมาฟังดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับคำถามที่ผมถามไปเลยสักนิด แต่มันกลับทำให้หัวใจผมเต้นแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อกี้เขาพูดอะไรน่ะ? จะรอผม? รอผมอาบน้ำเนี่ยนะ?
“รีบๆ ไปอาบสิ พี่เริ่มง่วงนิดๆ แล้วนะ” เสียงใสเอ่ยอีกครั้ง ใบหน้าอ้อนๆ ของเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะหลุดออกมาจากอกยังไงยังงั้นเลย
อย่ามาพูดเสียงอ้อนๆ ด้วยใบหน้าน่ารักขนาดนั้นได้มั้ยเล่า!
“ยังไม่ไปอีกแน่ะ” จินฮวานขมวดคิ้วนิดๆ ด้วยหน้าดุๆ พลางทำท่าจะยกมือฟาดผม ผมส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะวิ่งพรวดเดียวเข้ามาในห้อง
บ..บ้าชิบ ใจสั่นอย่างกับกลองเลยเว้ยคิมฮันบิน!
แกร๊ก ~
ผมเปิดประตูห้องน้ำเบาๆ พลางเช็ดผมที่เปียกของตัวเองไปด้วย แต่เมื่อก้าวออกจากห้องน้ำผมก็ตกใจจนเผลอทำผ้าขนหนูล่วง เพราะภาพตรงหน้ามัน...
“ทำอะไรของพี่น่ะ?!” ผมโวยวายเสียงหลง จินฮวานที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพ ‘เปลือยเกือบทั้งตัว’ ลืมตามามองผมพลางอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินมาจูงมือผมไปนั่งบนเตียงโดยไม่ลืมหยิบผ้าขนหนูที่ผมทำร่วงไปด้วย
“สระผมตอนนี้เดี๋ยวก็ป่วยหรอกเด็กดื้อ” เสียงใสเอ่ยดุเบาๆ ขณะใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมของผมไปด้วย แต่เฮ้ย ตอนนี้มันไม่ใช่ประเด็นนี้นะเว้ย!
“เดี๋ยว พี่ถอดเสื้อทำไมเนี่ย?!” ผมโวยวายอีกครั้งและพยายามจะเอนศีรษะหนีจากมือของอีกคน แต่จินฮวานก็จับต้นคอของผมไว้ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอเบาๆ เป็นเชิงให้ผมอยู่นิ่งๆ
“ก็มันร้อนนี่นา” คนตัวเล็กพึมพำเบาๆ ขณะขยี้หัวของผมอย่างเมามัน ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วลง
“แล้วทำไมพี่ไม่เปิดแอร์เล่า!”
“พี่หารีโมตแอร์เราไม่เจอนี่นา” เสียงใสเอ่ยพึมพำน้อยๆ ผมเผลอหัวเราะเบาๆ ให้กับคำสารภาพนั้น แค่ร้อนแล้วหารีโมตแอร์ไม่เจอจนต้องถอดเสื้อออกเลยเนี่ยนะ เชื่อเขาเลยจริงๆ
“เดี๋ยวผมเปิดให้” ผมทำท่าเตรียมจะลุกไปคว้ารีโมตแอร์ใต้โต๊ะข้างเตียง แต่จินฮวานก็ใช้สองมือเล็กๆ กดไหล่ผมให้นั่งลงที่เดิม
“เดี๋ยวค่อยเปิดก็ได้ เช็ดผมให้เสร็จก่อนสิ”
“แต่ผมก็ร้อนเหมือนกันนี่นา” ผมพึมพำเบาๆ จินฮวานหัวเราะคิกก่อนจะเอื้อมมือมาถกชายเสื้อผมขึ้นและถอดมันออกอย่างรวดเร็ว!
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจและคาดไม่ถึงกับการกระทำของเขา จินฮวานหัวเราะร่าเมื่อเห็นว่าผมพยายามใช้สองมือปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้
อยู่ดีๆ มาถอดเสื้อคนอื่นตามใจชอบได้ยังไงวะ!
“พี่!”
“ชู่วววว” ผมเตรียมหันหน้าไปด่าเขาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวเล็กยกนิ้วเรียวสวยของเขาแตะที่ริมฝีปากผมเบาๆ พลางส่งเสียงชู่วในลำคอเป็นเชิงบอกให้ผมเงียบ นัยน์ตาสีสวยมองลึกเข้ามาในดวงตาของผม ปลายจมูกของผมกับเขาห่างกันไม่ถึงสิบเซ็นด้วยซ้ำ กลิ่นแชมพูอ่อนๆ กระจายไปทั่ว หยดน้ำจากเส้นผมของผมที่กระเด็นไปโดนลำตัวขาวๆ นั่นก็ทำเอาผมเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างทำอะไรไม่ถูก
“ก็บอกแล้วไงว่าเช็ดผมให้แห้งก่อน” คนตัวเล็กพึมพำเบาๆ ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นและจับคอผม ดันให้ศีรษะผมซบลงตรงหน้าอกของเขาจนผมต้องเผลอใช้แขนแกร่งรัดเอวคอดๆ นั่นไว้อย่างเสียไม่ได้
จินฮวานขยี้ผ้าขนหนูลงบนผมของผมเบาๆ เราต่างคนไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ แม้แต่จะหายใจผมยังไม่กล้าเลยตอนนี้ ผมกลัวลมหายใจร้อนๆ ของผมจะไปทำให้เขาร้อนกว่าเดิมน่ะสิ! แต่บ้าชะมัด ผมว่าเขานั่นแหละที่กำลังทำให้ผมร้อน ร้อนมากด้วยโว้ยยยยย!
“…พี่จินฮวาน” ผมเผลอส่งเสียงเรียกเขาอย่างคนไม่มีสติ จินฮวานชะงักมือที่กำลังเช็ดผมของผมไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเริ่มเช็ดต่อ
“หืม?” เสียงตอบรับเบาๆ ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง ผมค่อยๆ กระชับแขนที่กอดเอวคอดไว้ให้แน่นมากขึ้น จินฮวานสะดุ้งนิดๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจแล้วเอ่ยต่อ
“ตอนนี้เราเป็นแฟนกันจริงๆ หรอครับ?” ผมส่งเสียงถาม จินฮวานชะงักไปอีกครั้ง “ผมอยากรู้ว่ามันไม่ใช่ความฝันของผมใช่มั้ย?”
“…….”
“ผมรักพี่ แล้วพี่ก็รักผม นั่นใช่เรื่องจริงหรือเปล่า?” ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตัวเล็กที่ก้มมองลงมาที่ผมเช่นเดียวกัน จินฮวานมองผมนิ่งๆ ด้วยสายตาที่ผมเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกันว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม วางคางลงบนอกอีกคนและมองสบตาเขาด้วยแววตาจริงจัง
“ตอบผมหน่อยได้มั้ย ว่าพี่รักผมจริงๆ หรือเปล่า?” ผมเอ่ยเสียงเว้าวอน จินฮวานมองหน้าผมนิ่งๆ นัยน์ตาคู่สวยเริ่มมีแววของความสั่นไหวเล็กๆ แต่แค่ครู่เดียวมันก็จางหายไป หายไปพร้อมๆ กับเสียงหัวใจของผมที่ดังแข่งกับคำสารภาพของเขา…
“พี่รักฮันบินครับ”
สิ้นคำพูดนั้นริมฝีปากของคนตัวเล็กก็กดลงประทับกับปากผมอย่างแผ่วเบา นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เราจูบกัน และเป็นครั้งที่สองที่เขาเริ่มมันก่อน แต่ครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกทั้งเจ็บปวดและรู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน จินฮวานกดริมฝีปากค้างอยู่แบบนั้นก่อนจะค่อยๆ ถอนมันออก
“พี่ง่วงแล้ว อ๊ะ!”
แต่ผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้น ผมเลื่อนริมฝีปากไปประทับจูบคนตัวเล็กอีกครั้ง จินฮวานร้องเสียงหลงอย่างตกใจ ผมกดริมฝีปากลงไปอย่างพยายามจะให้มันอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำให้ รสชาติหวานๆ จากริมฝีปากที่ติดอยู่ที่ปลายลิ้นของอีกคนทำเอาสติสัมปชัญญะของผมเริ่มเลือนหายไปทีละนิด ไออุ่นร้อนๆ จากผิวกายเปล่าเปลือยของเขาก็ทำเอาแขนผมที่รัดเอวเขาอยู่แทบไหม้ สัมผัสริมฝีปากที่นุ่มละมุนทำให้ผมไม่อยากถอนมันออกไปเลยสักนิด
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเขาทำให้ผมแทบคลั่งจริงๆ แน่นอนว่าไอ้การ ‘อ่อย’ ของเขามันได้ผล ผมเหมือนกับลูกหมาที่พร้อมจะยอมเขาทุกเมื่อ และเขาก็เหมือนสารเสพติดสำหรับผม ทุกๆ อย่างที่เป็นเขาทำให้ผมหลงใหล สัมผัสทุกสัมผัสของเขาพรากสติและลมหายใจของผมได้เสมอ
พี่จินฮวานกำลังทำให้ผมรักเขาจนไม่สามารถถอนตัวได้อีกแล้ว..
“อื้อ” จินฮวานส่งเสียงทักท้วงในลำคอเบาๆ ผมค่อยๆ ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง เมื่อเป็นอิสระคนตัวเล็กก็หอบหายใจแฮกๆ พลางใช้สายตาดุๆ มองผม
“พี่หายใจไม่ออก” เสียงเล็กส่งเสียงบ่น ใบหน้าน่ารักง้ำงอลง ผมหัวเราะเบาๆ ให้กับภาพนั้นก่อนจะคว้าเอวเล็กๆ มากอดไว้อีก จินฮวานสะดุ้งพลางตีมือผมเป็นพัลวัน
“คิมฮันบิน!”
“ครับผม?” ผมตอบรับเสียงระรื่น จินฮวานขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเริ่มบ่นผมไม่หยุดปาก
“ทำไมหน้ามึนแบบนี้เนี่ย!” ปากเล็กง้ำงอลงอย่างน่ารัก “เป็นคนชอบฉวยโอกาสแบบนี้หรือไงกัน หื่นจริงๆ เลย ไม่เล่นด้วยแล้ว พี่จะไปนอน”
“พี่เริ่มก่อนนะ” ผมเอ่ยท้วง จินฮวานสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของผมก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงโดยไม่วายหันมาค้อนใส่ผมอีก
“ไม่จำเป็นต้องต่อก็ได้นี่นา!”
ผมหัวเราะเบาๆ ให้กับเสียงเหวี่ยงๆ และใบหน้าบู้บี้นิดๆ ของคนตัวเล็กก่อนจะคว้ารีโมตแอร์มากดเปิดแอร์ พลางหันไปมองคนตัวเล็กที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“พี่จินฮวาน”
“หืม?” เสียงใสเอ่ยรับเบาๆ ผมคว้าเสื้อที่เขาถอดทิ้งไว้ยื่นให้ก่อนจะเอ่ยสั่งเสียงเข้ม
“ใส่เสื้อซะ”
“ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจใส่” คนดื้อว่าพลางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง ให้ตายสิ! เขานี่มันดื้อชะมัดเลยแฮะ ถ้าขืนเขายังอยู่ในสภาพแบบนี้ผมยั้งตัวเองไม่ได้แบบเมื่อกี้แล้วนะ!
“ตามใจ งั้นผมไปนอนล่ะ แต่อย่าลืมห่มผ้านะครับ เดี๋ยวไม่สบาย”
สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะคว้าหมอนกับผ้าห่มเตรียมออกจากห้อง
“ไปไหนน่ะ?”
ติดที่ว่าเสียงใสๆ นี่เรียกไว้ซะก่อน
“ไปนอนไงครับ” ผมหันไปตอบจินฮวาน คนตัวเล็กขมวดคิ้วมุ่น เห็นแบบนั้นผมเลยพูดต่อ “ผมก็จะไปนอนที่โซฟาข้างนอกไง”
คำพูดของผมทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วมากกว่าเดิมซะอีก ไม่ใช่ว่าผมสุภาพบุรุษหรืออะไรหรอกนะครับ แต่เขาเล่นนอนถอดเสื้อแบบนี้ ให้ตายผมก็นอนกับเขาไม่ได้
ผมไม่สามารถหยุดตัวเองได้บ่อยๆ หรอกนะครับ..
“นอนที่นี่แหละ มานอนด้วยกันมา” จินฮวานเอ่ยออกมาพลางตบเตียงข้างๆ ด้วยด้วยใบหน้าบ๊องแบ๊ว โว้ยยยย จะทำท่าทางน่ารักนั่นไปถึงเมื่อไหร่กันวะเนี่ย!
“ไม่เอา” ผมกำหมอนในมือแน่นและเตรียมเปิดประตูจะออกจากห้อง หากแต่..
หมับ!
สัมผัสเบาๆ ที่เอวทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว จินฮวานสอดแขนเข้ามากอดเอวผมไว้ก่อนจะแนบใบหน้ากับแผ่นหลังผม
“โกรธพี่หรือเปล่า?”
“ห๊ะ? ครับ?” ผมตอบรับงงๆ เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“พี่ไปใส่เสื้อก็ได้ มานอนด้วยกันเถอะ ไม่ต้องไปนอนข้างนอกหรอก” จินฮวานเอ่ยอีกครั้ง ผมหมุนตัวหันไปเผชิญหน้ากับคนตัวเล็ก
“ผมไม่ได้โกรธพี่” ผมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นใบหน้าสำนึกผิด นี่เขาคิดว่าที่ผมจะไปนอนข้างนอกเพราะโกรธที่เขาไม่ยอมใส่เสื้อตามคำสั่งผมเนี่ยนะ ฮ่าๆ เชื่อเขาเลยจริงๆ
ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมคนตัวเล็กอย่างหมันเขี้ยว จินฮวานหดคอลงก่อนจะเอ่ยเสียงอ้อนอีกครั้ง
“งั้นไปนอนได้หรือยังอ่ะ ง่วงแล้วนะ”
“แน่ใจหรือไงว่าจะให้ผมนอนด้วย” ผมถามอีกครั้ง คนตัวเล็กพยักหน้ารัวก่อนจะวิ่งไปหยิบเสื้อมาใส่อย่างรวดเร็ว ผมเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะกอดเอวเขาจากทางด้านหลังไว้หลวมๆ จินฮวานสะดุ้งนิดๆ ก่อนจะส่งเสียงเรียกผมเบาๆ
“…ฮันบิน”
“เฉยๆ น่า ผมไม่ทำอะไรพี่หรอก”
“แต่...”
“ให้ผมอยู่แบบนี้สักพักนะครับ” ผมพึมพำเสียงแผ่วพลางซบใบหน้าลงกับไหล่เล็ก จินฮวานนิ่งไป ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ความเงียบแผ่กระจายไปทั่ว ได้ยินแต่เพียงเสียงลมหายใจของผมกับเขาดังแข่งเสียงแอร์เท่านั้น…
ไม่สิ.. เสียงหัวใจที่เต้นรัวๆ ไม่ยอมหยุดนี่ด้วย
“พี่เป็นแฟนผมแล้วนะ” ผมพึมพำเบาๆ ข้างหูของอีกคน
“อืม”
“พี่ห้ามไปทำตัวน่ารักแบบนี้ใส่ใครอีกได้มั้ยครับ?”
“…...”
“อย่าไปราดไวน์รดตัวเองให้ใครเห็น”
“…….”
“อย่าไปทำโจ๊กให้ใครกิน”
“…….”
“อย่าไปส่งยิ้มให้ใครแบบที่ยิ้มให้ผม”
“…….”
“อย่าจับมือใคร อย่ากอดใคร แบบที่เราทำด้วยกัน”
“……”
“อย่าไปจูบใคร”
“……..”
“อย่าไปอ่อยใครแบบนี้อีกนะ”
สิ้นประโยคสุดท้ายผมก็หมุนตัวจินฮวานให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะโน้มตัวไปประทับจุมพิตลงบนหน้าผากอีกคนอย่างแผ่วเบา จินฮวานหลับตาลง ผมจึงเลื่อนไปประทับริมฝีปากที่เปลือกตาของเขาและลากไปจบด้วยความชิมความหวานจากริมฝีปากของเขาอีกครั้ง
ผมไม่ได้จูบลึกซึ้งเหมือนครั้งแรก ผมทำแค่เพียงกดจูบบนริมฝีปากเขาเบาๆ และละริมฝีปากออกมาก็เท่านั้น จินฮวานค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหน้าผม ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะจูงมือเขาไปนอนที่เตียง ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ก่อนจะยกศีรษะของอีกคนให้นอนหนุนแขนผม
“นอนกันเถอะครับ” ผมกดรีโมตเพื่อปิดไฟก่อนจะหันมามองคนในอ้อมแขน แม้ว่ามันจะมืดแต่ผมก็เห็นว่าจินฮวานกำลังลืมตามองผมอยู่ แต่พอผมส่งเสียงฮึมในลำคอเบาๆ คนตัวเล็กก็หลับตาปี๋ทันทีราวกับกลัวว่าถ้าไม่ยอมหลับแล้วผมจะไปทำอะไรเขายังไงยังงั้น
ฮะๆ โหมดลูกแมวตัวน้อยๆ ของเขาก็น่ารักดีนะครับ J
“ฝันดีนะครับคุณแฟน” ผมเลื่อนริมฝีปากไปประทับจูบลงบนหน้าผากเขาอีกครั้งก่อนจะเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาบังแก้มออก และขยับศีรษะของเขาให้ใบหน้าซุกลงกับอกผมแทน
“อื้อ ฝันดีเหมือนกันครับ” เสียงใสเอ่ยอู้อี้ ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกระซิบข้างหูของเขา
“คุณแฟนด้วยสิครับ”
“น่าอาย” จินฮวานว่าเสียงอู้อี้ แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ ซุกใบหน้าลงกับอกผมมากขึ้นก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว
“ฝันดีเหมือนกันนะครับ ‘คุณแฟน’ ”
อา… คืนนี้ต้องเป็นคืนที่ผมฝันดีที่สุดแน่ๆ เลยครับ
To be continued.
บทนี้ไม่มีอะไรเลย หวานอย่างเดียว หวานล้วนๆ 55555555
สำหรับเรื่องที่สงสัยๆ กันนั่นจะเริ่มมาแล้วในบทต่อๆ ไป อดใจรอนิดเนอะ (:
อ้ออ มีนิยายที่จะแต่งใหม่ด้วยค่ะ เป็นโปรเจคคู่กับไรท์เตอร์ม่อน ไว้รอติดตามกันด้วยนะ
แท็กเริ่มเงียบแล้วนะตัวเองง แท็กฮันบินคนกากก็มีคนเริ่มแล้วนะ
มาสกรีมกัน มาสกรีมกัน >3<
ติดต่อกันได้ทั้งสองเพจเลยนะคะ
IDOL FIC THAILAND
INDY_LIQUEUR
ทวิตเตอร์ IndyLiqueur
สกรีมลงแท็กที่
#จินฮวานคนขี้อ่อย
เชิญชวนต่อแท็ก
#ฮันบินคนกาก
ความคิดเห็น