ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Diary CM01/02

    ลำดับตอนที่ #18 : [ฤดูกาลที่ 12] เวทีพรีเมียร์ลีคปีที่ 8 ผลงานรวมปี 2012/2013

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 335
      2
      27 ก.ค. 58

    สรุปรวมฤดูกาล 2012/2013 - กลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็น


    หลังจากที่ทีมแกว่งมา 2-3 ปีก่อนจนต้องปรับโครงสร้างใหม่ ปีนี้ก็ยังเน้นผสมผสาน ดาวรุ่ง ตัวกำลังพีค และดาวโรยที่ยังเก๋า ลดการโรเตชั่นหรือปั้นตัวที่ไม่แน่นอนลง ขายออกไปบ้างเพื่อเปิดโอกาส และหมุนเวียนเงิน

    ภาพรวมปีนี้การซื้อตัวลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะตำแหน่งค่อนข้างลงตัว ที่เหลือคือหาตัวที่คิดว่าใช้มาโรเตชั่นเท่านั้นเอง และเอาดาวรุ่ง หรือตัวที่เล็งไว้ที่ราคาตกมาเข้าทีม
    14.25m เท่านั้น น้อยกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัว แต่ผลงานดีขึ้นแบบก้าวกระโดดก็แสดงว่าระบบที่วางไว้กำลังเข้าที่ข้างทาง


    ส่วนขายออกก็ยังคงทำเงินได้ไม่น้อย
    ปีนี้ขายไปได้ถึง 59m เลยทีเดียว ทำให้เงินสโมสรมีทะลุร้อยล้านได้ในปีนี้เอง


    พูดถึงภาพรวมปีนี้ก็ถือว่าลงตัวอย่างเห็นได้ชัดเลย ทั้งชุดหลัก ชุดสำรอง และชุดเยาวชน
    ตัวหลักๆที่เข้ามาแล้วทำให้ทีมดีขึ้นอย่างชัดเจนเลยก็คือ

    Jean Makoun
    นักเตะชาวคาเมรูน
    263
    ในลีคยิงไป 14 จ่ายไป 10 ถือว่าทำได้ดีมากในตำแหน่งหน้าต่ำที่จืดมานานครับ


    อีกตัวก็คือ
    Christos Perros
    กลางรุกชาวกรีซ ที่ว่ากันว่าเป็นตัวเทพ CM ตัวหนึ่ง แต่พลังช่วงแรกน้อยมากผมเลยไม่ได้สนใจนัก พอเซฟนี้เล่นไปนานๆแล้วราคาไม่แพง ก็เลยลองซื้อมาใช้ดู
    อายุเยอะแล้วแต่พลังก็ยังไม่ดี แต่ผลงานดีผิดพลังมากในลีค ยิง 12 จ่าย 14 กระจุยกระจายกันเลยทีเดียว


    อีกคนก็ฟูลแบ็ก
    John Schut
    ซื้อมาราคา 1M จาก PSV ซึ่งตรงข้ามกับพลังดีแท้
    ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจในฟอร์มสักเท่าไหร่ แต่แบ็กขวาผม 3 ตัวก่อนหน้าอายุ 31 32 และ 34 ตามลำดับ จะช้าจะเร็วก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนถ่าย ผลที่สุดท้ายฤดูกาลนี้ก็ได้โอกาสทดลองกันเลย และสอบผ่านใช้ได้เลย
    ก็ดูกันว่าปีหน้าจะเวิร์คไหม


    ปีนี้คุมทีมง่ายเพราะสมดุลเข้าที่อย่างที่ว่า ชนะมากกว่าเสมอไปแพ้จนนับไม่ได้เลยล่ะ
    และจบนัดที่ 31 เท่านั้น Northwich Victoria ก็คว้าแชมป์พรีเมียร์อย่างเป็นทางการโดยทิ้งห่างอันดับ 2 ณ เวลานั้นซึ่งก็คือเชลซี มากถึง 24 แต้มเลยทีเดียว

    พอครบ 38 นัดคะแนนก็ฉีกกว่าเดิมเป็น 25 แต้ม
    ชนะ 33 เสมอ 4 แพ้ 1 ได้มา 103 คะแนน ได้มากและเสียน้อย


    ที่สนุกคืออันดับ 2-6 มากกว่าครับเพราะแย่งพื้นที่ UCL โดยเฉพาะทีม Rotherham ที่ปีนี้มาดีมาก เกมรับแน่นมากจนช่วงหนึ่งขึ้นเบียดมาอันดับ 2 จี้ผมอยู่เลย

    แต่ก็ประคองได้ไม่นาน นัดสุดท้ายก็ยังมีหวังไป UCL อยู่นะหากชนะสเปอร์ได้ แต่ว่าสเปอร์ปีนี้ก็ไม่เบา หลุดไปถึงรอบชิง UCL ด้วยซ้ำ พอแข่งบ้านสเปอร์ก็ไม่เหลือล่ะครับ แพ้ 1-0 ไปแต่ก็ 3 แต้มสำคัญ
    ผลที่สุดสเปอร์ก็แซงทั้งลิเวอร์พูลและเชลซีขึ้นที่ 2 ไป


    อย่างที่บอกครับปีนี้นับผลชนะไม่ได้ แต่ถ้าผลแพ้ล่ะก็ทุกรายทุกถ้วยแบบทางการรวมกันราวๆ 63 นัด แต่แพ้ไปแค่ 2 นัดเท่านั้นครับ... น้อยจนจำได้ (และเจ็บใจจนลืมไม่ลง)
    แพ้ครั้งแรกคือ FA Cup รอบ 3 กับ W.B.A. ซึ่งก็กล้าพูดแบบไม่อายเลยว่า โดนปล้นคาบ้านอีกแล้ว...
    ใช้คำว่าปล้นก็ดูแรงไปหน่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นมันชนะดีๆได้สักครั้งเลย ต้องมีอะไรสักอย่างมาเปลี่ยนเกมที่ไม่ใช่ด้วยตัวนักเตะเอง... แต่เป็นกรรมการ...
    นัดนี้ก็ใช่ใบแดงมาไว จากนั้นก็จุดโทษ แล้วก็ o.g. ให้ขาด 2-0 พอยิงไล่มาก็โดนแดงอีก สุดท้ายแพ้แบบไม่ควรจะแพ้เลยสักนิด


    รูปเกมก็อย่างที่เห็น บดอยู่ข้างเดียว อีกฝ่ายโงหัวได้บ้างเพราะตัวได้เปรียบ
    เข้ากรอบน้อยแต่ได้ประตูจุดโทษกับ o.g. ส่วนทางยิงเข้ากรอบไปเหอะแทบไม่ได้ 


    อีกนัดก็เปิดบ้านรับแบล็คเบิร์นในรายการพรีเมียร์ลีค 
    โรเตชั่นก็จริง แต่ชุดนี้ก็ชุดไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่ม UCL นะครับ ธรรมดาที่ไหนล่ะ
    แต่ชุดดีถ้าถูกล็อคมามันก็เป็นไปได้...
    ก็เอาซะแบบนี้...
    ไม่รู้เป็นส้นตึกอะไร แพ้ทางทีมนี้บัดซบเลย 3 ปีหลังนี่ลุ้นมากไม่ได้เลย ถ้าจะแพ้นี่คือโกล์ฟอร์ม 9-10 ไปเลย ไม่ก็โกล์เราฟอร์ม 5 แบบจู่ๆก็วันดวงแตก
    พูดง่ายๆคือยิงฉิบหายแต่ยังไงก็ไม่เข้า ไม่งั้นก็ยิงกันไม่ได้แต่เจอกรรมการก็ช่วยอีก

    เหมือนเช่นนัดนี้...
    นัดนี้โกล์ห่วยแรกและปรับเงินรับกรรมไปแล้ว แต่ที่เคืองคือ 2 ประตูได้แต่ล้ำหน้านี่ล่ะ
    แพ้ไป 1-2

    ดูทรงเกมยังไงมันก็ไม่น่าแพ้...
    แต่เมื่อมันบีบมาให้แพ้ แก้เกมยังไงก็ไม่เปลี่ยน... แต่ถ้าโหลดใหม่ผมมั่นใจว่ามียำเกิน 2 ลูกแน่ๆ หงุดหงุดแต่ช่างมัน...


    ดราม่าอีกอย่างคือปีนี้กองหน้าเริ่มประสบปัญหาฝืดบ้างแล้ว Skalidis ที่ช่วยทีมมาตลอดก็ใกล้ถึงเวลาเลิกเล่นแล้ว
    ปีนี้ก็มาซวยอีก วันที่ 27 ตุลาคม 2012 เขาได้รับบาดเจ็บและต้องพักยาวถึง 4 เดือน...

    ซึ่งก็เป็นโอกาสของดาวรุ่งได้ลงสนามล่ะนะ
    แต่เพราะกองหน้าตัวหลักเจ็บนี่เองทีมถึงได้เด่นแบบกระจายกันหน่อย

    ดูผลงานรวมก็อย่างที่ว่ามาครับ เด่นกันหลายๆตำแหน่งเลย
    หน้า กลางรับ กลางคุมเกม หลัง และกลางรุก... ได้มาแบบกระจายๆไม่กระจุกที่ใครเลย


    ประตูยิงเองก็ไล่เรี่ยกันดี
    ที่ 1 ยิงได้เท่ากัน แต่ที่ 3 (อันดับ2) Ben Howell นี่คือดาวรุ่งที่ว่าลงแทน Skalidis ครับ พอตัวหลักหายมาทางนี้ก็เลยต้องโรเตชั่น ไม่งั้นอันดับสักคนอาจแซงไปไกลแล้วก็ได้


    ดาวจ่ายบอลก็เด่นมาก



    แต่โดยรวมก็ยังได้ถ้วยมาหลายใบอยู่

    เริ่มจากชาลิตีชิลด์ ที่ได้มาไม่ง่าย เจอกับซันเดอร์แลนด์ เพราะต้องบดไปถึงจุดโทษโน่น 
    โดนยิงนำไปก่อนอีกต่างหาก ไปตีเสมอได้นาทีที่ 82 แล้วก็ลุ้นต่อกัยจุดโทษ 
    แต่ก็ชนะมาจนได้


    รายการต่อมาก็ลีคคัพ
    แรกๆเหมือนจะงานง่ายรอบ 3 เจอลูตันไม่เครียด แต่รอบ 4 เจอแมนยู... ผ่านมาได้รอบ 5 เจอลิเวอร์พูลต่อ... รอบรองชนะเลิศเจอสเปอร์... เอากันให้สนุก
    ดีอย่างที่ส่วนใหญ่ได้เล่นในบ้านงานเลยง่ายมาหน่อย

    สุดท้ายรอบชิงเจอเอฟเวอร์ตัน งานนี้ไม่ง่ายเลยเพราะอีกฝ่ายจัดเกมรุกมาบดแต่เนิ่นๆ
    โดนยิงนำไปก่อน 2 รอบเลยทีเดียว ไล่ตีเสมอเหนื่อยลากเลือดก่อนที่จะยิงนำได้นาทีที่ 75 แล้วฝังในนาทีที่ 90 ด้วยจุดโทษ
     

    ที่อยากอวดก็คือ UCL ครับเพราะผลงานดีกว่าในลีคอีก 
    เริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม ได้อยู่กลุ่ม E มี Rostock มี FC Kobenhavn และ Partizan
    งานนี้ง่ายเลย และทำให้ชุดสำรองก็ได้โดดเด่นกันเป็นทิวแถว
    ชนะรวดทุกนัด ยิงได้ 21 เสีย 1


    รอบสองหินขึ้น หนนี้ถูกจับไปอยู่กลุ่ม D เจอ Maseille กับ Milan และ Lokomotiv
    ก็นึกว่าจะต้องบดกับมิลานจนเหนื่อย แต่ก็ไม่เลย ชนะรวดเช่นเคย เข้าที่ 1 ยิงได้ 22 เสีย 2 ประตูรวม +20 เท่ากับรอบแรก ผลงานดีสุดๆ 

    รอบ 8 ทีมสุดท้ายเจอ Samdoria จากอิตาลี ก็ชนะด้วยประตูรวม 3-0
    รอบ 4 ทีมสุดท้ายเจอ Dortmund จากเยอรมัน ก็ชนะด้วยประตูรวม 2-0

    และในรอบชิงได้เจอกับ Tottenham Hotspur

    การแข่งเริ่มในวันที่ 22 พฤษภาคม 2013 ณ สนาม Stade de France, Saint-Denis 
    สนามกีฬาแห่งชาติของประเทศฝรั่งเศษ ท่ามกลางผู้ชมมากกว่า 76,528 คน

    อุตส่าห์ทำผลงานได้น่าประทับใจแล้ว ยังไงก็ต้องเน้นไว้ก่อน เลยจัดทีมผสมระหว่างแชมป์พรีเมียร์ร่วมว่าที่แชมป์ UCL
    แล้วก็ได้เรื่องเลย ในนาทีที่ 1 เท่านั้น Marcel Verbeek กองกลางค่าตัวสถิติสโมสรในปีก่อน ที่ผมให้โอกาสเล่นใน UCL ปีนี้ก็สร้างผลงานสุดประสบใจด้วยการซัดประตูนำไปก่อนเลย

    จากนั้นทรงเกมเหมือนจะสูสี แต่ทางเราก็คุมไว้ได้อยู่หมัด จนกกระทั่งนาทีที่ 79 David Villa ที่ซื้อมาเมื่อก่อนในราคาแค่ 3m และยิงผลงานในบอลถ้วยมาตลอด ก็ได้บวกสกอร์เพิ่มอีกเป็น 2-0 ทิ้งขาด
    และก็เป็นประตูฝังการแข่งนัดนี้ไปเลย

    เป็นการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ของสโมสรจากการเข้าชิงถึง 4 ครั้ง ในการแข่งขันที่ได้เข้าร่วมทั้งสิ้น 6 ครั้งล่ะครับ 

    นักเตะเองก็ทำได้เยี่ยม ดาวซัลโวอันดับ 1 2 และ 4 


    ดาวจ่ายยอดเยี่ยมก็ติดกันด้วย


    ส่วนพรีเมียร์ก็อย่างที่บอกครับคว้าแชมป์แต่ไก่โห่
    แล้วก็เป็นการครองแชมป์แบบ 3 ปีติดกันเป็นรอบที่ 2 (รอบแรก 2006/07 - 2008/09)

    อีกทั้งปีนี้ก็ทุบสถิติแต้มสูงสุดในลีคไปแล้วครับ โดยทำแต้มรวมได้ที่ 103 แต้ม (สถิติเดิมที่เคยทุบไว้อยู่ที่ 101 แต้มในปี 2008/2009)


    ก็สิริรวม 4 แชมป์ครับปีนี้


    อีก 3 ฤดูกาลก็จะครบ 15 ปีของการคุมมาล่ะครับ มาลุ้นกันต่อว่า 3 ปีที่เหลือกับระบบใหม่ที่ปรับปรุงจะทำได้ดีแค่ไหน


    ปล. เดี๋ยวมีผลงานทีมชาติมารายงานตัวต่อครับ ปีนี้คุมทีมชาติสนุกเลยล่ะ มันคาบเกี่ยวกับบอลโลกด้วยสิ ไว้แข่งครบเมื่อไหร่จะสรุปอีกทีครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×