คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : HW -- Play for Fun Class (AC)
การบ้าน #2
ชื่อ – นามสกุล : เมืองราม ฉัตรสิริย์สกุล
ชื่อเล่น : ขันโตก
Dormitory : Spinel
รหัสประจำตัว : ACS15
สถานภาพการขาดส่งงาน : 0
การบ้านวิชา : กิจกรรมนันทนาการ
คำสั่ง :
สถานที่ส่ง : สวนแห่งการไล่ล่า
ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์แคนดี้
ll ส่วนเนื้อหา ll
ชื่อการแสดง : การ 'ต้อนรับ'
ความหมายของการแสดงชุดนี้ : " ขันโตกเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่ผมไม่ได้จะต้อนรับด้วยสถานที่ ผมต้อนรับด้วย 'ใจ' ของผมเอง แก่นหลักมีเท่านี้ล่ะครับ หวังว่าจะชอบการแสดงของผมนะ! "
เริ่มการแสดง :
ขันโตกยอมรับว่าตนนั้นประหม่าเอาการเลยทีเดียว
การแสดงของคนก่อนหน้านั้นต่างตราตรึงและน่าสนใจทั้งนั้น
เด็กหนุ่มกังวลใจอยู่ไม่น้อย ว่าตนเองจะสื่อเอกลักษณ์ ให้ออกมาน่าจดจำพอรึไม่?
เฮาจะเอาหยังมาอู้ฮื้อคนอื่นสนใจ๋กันน้อ...
นี่คือสิ่งที่ทำให้ขันโตกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
คิดไปก็ปรบมือยิ้มให้กำลังใจเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลาย
อย่างไรก็ดี เขาจะพยายามให้ถึงที่สุด อย่างน้อยสิ่งที่ตระเตรียมมา
น่าจะเพียงพอ ที่เมื่อคนอื่นได้เห็น อาจคิดถึงตัวเขา
ล่ะมั้งนะ?
ดูเหมือนครั้งนี้จะต้องพยายามงัดความสามารถมาใช้ส่วนหนึ่งด้วยแล้ว
.
.
.
เมื่อเวลามาถึง ขันโตกลุกขึ้นยืน มือกำแน่นให้กำลังใจตนเอง
เขาขอตัวไปเอาของที่ได้จัดไว้ ซึ่งมันอยู่ไม่ไกล
ดังนั้นจึงไม่ใช้เวลานานนักที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
แต่พอดีว่าเขาก็ใช้เวลาเปลี่ยนชุดไม่นานนักเช่นกัน
เด็กหนุ่มผมสีซีดในชุดม่อฮ่อมสีครามเข้มเต็มตัววิ่งเหยาะๆ เข้ามา
หากจะกล่าวถึงม่อฮ่อมแล้ว มันนับเป็นชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว
ชุดของขันโตกเป็นม่อฮ่อมแขนสั้นและกางเกงขายาว ทำจากผ้าฝ้ายไทย
เขากลัดปมกระดุมเรียบร้อย สีครามของชุดนับว่ารับกับสีของดวงตาเลยทีเดียว
นอกจากนี้ที่เอวยังคาดผ้าขาวม้าหลากสีเอาไว้อีกด้วย
ส่วนตรงคอนั้นมีพวงมาลัยมะลิเล็กๆ คล้องอยู่
ขันโตกค่อยๆ จัดแจงปูเสื่อไผ่สานใหญ่บนพื้น ให้มีบริเวณกว้างพอที่จะรองรับผู้ชมทุกคนได้
จากนั้นเขาจึงจัดแจงวางภาชนะอย่างหนึ่งลงบนเสื่อด้วยกันสี่อัน
มันเป็นภาชนะทำด้วยไม้สำหรับวางอาหาร มีรูปร่างเป็นถาดกลม
ขนาดประมาณ 24 นิ้วและสูงขึ้นจากพื้นนั่งประมาณ 1 ฟุต
(กว่าจะยกมาได้เจ้าตัวก็ทุลักทุเลไม่น้อย)
เด็กหนุ่มหยิบไมค์ ก่อนจะกลืนน้ำลายเล็กน้อยแล้วค่อยพูดออกช้าๆ ทว่าชัดเจน
" เอ่อ...ขอเชิญผู้ชมทุกท่านนั่งที่เสื่อ... ล้อมรอบภาชนะที่ผมวางไว้เลยนะครับ
ถึงจะมีสี่อันก็ไม่ต้องแยกโดมหรอกครับ นั่งปนกันได้เลย "
และแล้วเขาก็รอให้ทุกคนมานั่งกันจนครบ ขันโตกจัดแจงวางขนมหวานลงบนภาชนะนั้น
มันมีอยู่ทั้งหมดสี่อย่างด้วยกัน ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ข้างๆ กันมีคนโทน้ำขนาดใหญ่ใส่น้ำดื่มเอาไว้
พร้อมกับแก้วที่เตรียมมาให้ครบจำนวนคน
เสร็จทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ขันโตกจึงเดินปลีกออกมาด้านหน้า และกล่าวขึ้น
" สำหรับบางท่าน อาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร ...
ภาชนะที่ใส่ขนมเหล่านั้นคือ 'ขันโตก' ครับ
ใช่แล้วครับ มันคือชื่อของผมเอง "
เด็กหนุ่มเว้นช่วง ก่อนจะสาธยายต่อ
" ขันโตกที่ผมใช้คือขันโตกฮาม หรือจะเรียกว่าสะโตกทะรามก็ได้ เป็นขันโตกขนาดกลางครับ
อันนี้ไม่มีอะไรมากหรอก ... เพราะผมคิดว่าถ้าใช้ขนาดเล็กมันจะไม่พอน่ะ
แต่ถ้าคิดอีกแง่ อาจเป็นตัวผมที่ตอนนี้เป็นวัยรุ่นก็ได้นะครับ "
หนุ่มชาวเหนือคลี่ยิ้มบางคล้ายขบขันในความคิดของตน
" ขนมในขันโตกมีข้าวปาด ข้าวแต๋น ข้าวควบ และเมี่ยงคำครับ
ผมทำเองแหละครับ ถ้าอย่างไรสามารถติชมได้ทีหลังนะ
แต่หากจำนวนไม่พอต้องขออภัยด้วยนะครับ มันไม่ค่อยจะทัน
อ๊ะ หรือถ้าหิวน้ำก็รินจากคนโทน้ำได้เลยนะครับ!
ผมคิดว่าบางคนอาจจะหิวนะ อย่างน้อยก็เติมพลังกันหน่อยไหมครับ? "
ประโยคนั้นราวกับจะกล่าวเชื้อเชิญให้ทุกคนลงมือทานของหวานกัน
ระหว่างนั้นขันโตกได้นำเสื่อผืนเล็กมาปูบริเวณพื้นที่ของตน
แต่คราวนี้เขาได้หยิบสะล้อติดไม้ติดมือมาพร้อม
เด็กหนุ่มนั่งพับเพียบ มือซ้ายจับคันสะล้อ มือขวาจับคันชัก ตรวจสอบเสียงอีกเล็กน้อย
คราวนี้เขาไม่คิดจะใช้ไมค์แต่อย่างใด
" ถึงตรงนี้...ทุกคนสงสัยอีกอย่างรึเปล่าครับว่าผมทำอะไร?
ที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้คือการ 'จ๊อย' ครับ
ฮ่ะๆ... ผมเองก็ไม่ได้จ๊อยมานานมากแล้วสิ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่
แต่การจ๊อยครั้งนี้ ถือเป็นการแนะนำตัวในฉบับของผมนะครับ
เอ่อ --- ถ้าฟังคำเมืองไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอกครับ "
ขันโตกกระแอมเบาๆ สูดหายใจเข้าลึก ไหว้ผู้ชมทุกคนก่อนเริ่มแสดง...
นิ้วเรียวของเด็กหนุ่มเริ่มขยับกดสายสะล้อ พร้อมมือขวาที่สีคันชัก
เด็กหนุ่มขึ้นต้นทำนองสะล้อ แล้วจึงร้องออกมาเสียงดังฟังชัด
พ่วงมากับสำเนียงภาษาถิ่นของเจ้าตัวด้วย
" ย๊กมือสิบนิ้ว หว่างกิ๊วเกศา สวัสดีตี้มา ฟังผมวันนี้
ผมจื่อเมืองราม รูปงามแต๊ปี้ จีบได้ก่นิ ปี้คนงาม
ตั๋วผมอายุ สิบเจ๊ดปี๋ฮาม รูปร่างกะงาม ดูดี
หล่อและบ่ร้าย อย่าก้ายแหนงหนี ปี่สาวคนดี ผมฝากใจ๋ด้วย ... "
เมื่อจบ เสียงของขันโตกค่อยๆ แผ่วลงพร้อมๆ กับเสียงสะล้อ
เขาส่งยิ้มกว้างให้กับทุกคน รวมถึงอาจารย์แคนดี้
" ผมเป็นคนที่สื่ออะไรไม่เก่งสักเท่าไหร่ แต่ว่าจะขออธิบายแล้วกันนะครับ
ชื่อของผม ... ขันโตก เป็นภาชนะที่ใช้สำหรับต้อนรับแขกในบ้านของคนภาคเหนือครับ
ของหวานบนนั้นก็เป็นที่นิยมในภาคเหนือเช่นกัน
เมื่อมีการต้อนรับ ย่อมมีการแสดง ผมเลยเลือกการจ๊อยมา
ผมอยากจะบอกว่า ที่ AC แห่งนี้ได้ต้อนรับผมแล้ว
ดังนั้นผมเลยอยากจะต้อนรับบ้างเท่านั้นเอง "
ขันโตกพักช่วงหายใจ
" ในการต้อนรับของผมไม่ใช่ด้านสถานที่หรอกครับ
แต่เป็นในใจผมต่างหาก
ผมเปิดใจต้อนรับทุกคนเสมอนะครับ แม้ว่าบางครั้ง ---
เอ่อ... ผมอาจจะไม่ค่อยได้พูดคุยด้วยเท่าไหร่ (ยิ้มแห้ง)
แหม แต่อย่างน้อยก็ภาวนาให้มันเป็นการต้อนรับที่อบอุ่นนะครับ
อย่างน้อยผมก็คิดว่าตัวเองอบอุ่นระดับหนึ่งนะ (หัวเราะ)
อีกอย่าง การที่ให้ทุกคนนั่งล้อมวง เดาว่าคงได้พูดคุยกันแล้วบ้างสินะครับ?
ขันโตกเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ร่วมทานอาหารด้วยนะครับ
และ ผมได้ใช้การจ๊อย ในการแนะนำตนเองให้ทุกคนรู้จักเช่นกัน ในแบบของผมเอง
ผมเองก็เป็นคนเหนือ เลยเลือกที่จะใช้คำเหนือไปเลย
แต่พอดีว่ารีบแต่งไปหน่อย สัมผัสหรือความไพเราะอาจไม่ค่อยมีนะครับ (ยิ้มเจื่อน)
เอ่อ... อีกอย่างที่ชมตัวเองกับคำหยอกในนั้นขำๆ นะครับ~
เพราะปกติจ๊อยเขามักใช้เกี้ยวสาว เกี้ยวคนดูน่ะ เลยแต่งไปตามเคยชิน ...
อย่าเพิ่งหมั่นไส้ผมกันนะครับ (ขำ) แล้วก็ผมไม่คิดจะจีบใครหรอก ฮ่ะๆ~
ไม่ซีเรียสกันเนอะ ? ถึงจะแปลกๆ ที่มาแนะนำตัวแต่เข้าบทเกี้ยวซะแทน
บางทีผมอาจไม่ใช่ขันโตกที่ดูเรียบร้อยก็ได้นะครับถ้าตัดสินจากจ๊อย (หัวเราะอีกครั้ง)
อ้อ แล้วก็ ...
อีกนัยยะของการต้อนรับ ถ้าหากเปรียบใจของผมเป็นบ้านหลังเล็กๆ แล้วล่ะก็
อยากจะให้ทุกคนมาเป็นครอบครัวใหญ่ในนั้นกันนะครับ
หวังว่าถ้าได้ไปเที่ยวแล้วเห็นขันโตก จะนึกถึงกันนะครับ "
ขันโตกหัวเราะร่วน เมื่อกล่าวจบแล้ว
เขาจึงไหว้หนึ่งครั้ง
" ขอบคุณที่ชมการแสดงจนจบนะครับ
มันไม่มีอะไรหวือหวา อลังการ คงเพราะผมไม่ค่อยจะมีเซ้นส์ด้านนี้ล่ะมั้ง (หัวเราะ)
แต่ความเรียบง่ายนี่แหละครับ คือผมเลยล่ะ
แล้วถ้าหากยังทานขนมไม่หมดกัน จะเก็บกลับหอ หรือให้ผมเก็บก็ได้นะครับ "
ใบหน้านั้นยังคงยิ้มแย้ม
" เมืองราม ฉัตรสิริย์สกุล หรือขันโตก
ขอจบการแสดงเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ! "
-------------------------------------------------------
อูย ... จ๊อยไปแล้วคนเขาจะกึ้ดหยังกะเฮาบ้างก่นิ อายแต๊ ...
ความคิดเห็น