ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (NOT) The Secret Part ♡

    ลำดับตอนที่ #25 : HW -- Play for Fun Class (AC)

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 58


    การบ้าน #2

     

    ชื่อ – นามสกุล : เมืองราม ฉัตรสิริย์สกุล

    ชื่อเล่น : ขันโตก

    Dormitory : Spinel

    รหัสประจำตัว : ACS15

    สถานภาพการขาดส่งงาน 0

    การบ้านวิชา : กิจกรรมนันทนาการ

    คำสั่ง ให้ Criminors ทุกคนออกมาแสดงที่สวนแห่งการไล่ล่าเพื่อสร้างการจดจำให้ทุกคน

    สถานที่ส่ง : สวนแห่งการไล่ล่า

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : อาจารย์แคนดี้

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

    ชื่อการแสดง : การ 'ต้อนรับ'
    ความหมายของการแสดงชุดนี้ : " ขันโตกเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง แต่ผมไม่ได้จะต้อนรับด้วยสถานที่ ผมต้อนรับด้วย 'ใจ' ของผมเอง แก่นหลักมีเท่านี้ล่ะครับ หวังว่าจะชอบการแสดงของผมนะ! "

    เริ่มการแสดง :

    ขันโตกยอมรับว่าตนนั้นประหม่าเอาการเลยทีเดียว
    การแสดงของคนก่อนหน้านั้นต่างตราตรึงและน่าสนใจทั้งนั้น
    เด็กหนุ่มกังวลใจอยู่ไม่น้อย ว่าตนเองจะสื่อเอกลักษณ์ ให้ออกมาน่าจดจำพอรึไม่?

    เฮาจะเอาหยังมาอู้ฮื้อคนอื่นสนใจ๋กันน้อ...
    นี่คือสิ่งที่ทำให้ขันโตกกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

    คิดไปก็ปรบมือยิ้มให้กำลังใจเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลาย
    อย่างไรก็ดี เขาจะพยายามให้ถึงที่สุด อย่างน้อยสิ่งที่ตระเตรียมมา
    น่าจะเพียงพอ ที่เมื่อคนอื่นได้เห็น อาจคิดถึงตัวเขา
    ล่ะมั้งนะ?

    ดูเหมือนครั้งนี้จะต้องพยายามงัดความสามารถมาใช้ส่วนหนึ่งด้วยแล้ว

    .
    .
    .

    เมื่อเวลามาถึง ขันโตกลุกขึ้นยืน มือกำแน่นให้กำลังใจตนเอง
    เขาขอตัวไปเอาของที่ได้จัดไว้ ซึ่งมันอยู่ไม่ไกล
    ดังนั้นจึงไม่ใช้เวลานานนักที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
    แต่พอดีว่าเขาก็ใช้เวลาเปลี่ยนชุดไม่นานนักเช่นกัน
    เด็กหนุ่มผมสีซีดในชุดม่อฮ่อมสีครามเข้มเต็มตัววิ่งเหยาะๆ เข้ามา
    หากจะกล่าวถึงม่อฮ่อมแล้ว มันนับเป็นชุดพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว
    ชุดของขันโตกเป็นม่อฮ่อมแขนสั้นและกางเกงขายาว ทำจากผ้าฝ้ายไทย
    เขากลัดปมกระดุมเรียบร้อย สีครามของชุดนับว่ารับกับสีของดวงตาเลยทีเดียว
    นอกจากนี้ที่เอวยังคาดผ้าขาวม้าหลากสีเอาไว้อีกด้วย
    ส่วนตรงคอนั้นมีพวงมาลัยมะลิเล็กๆ คล้องอยู่

    ขันโตกค่อยๆ จัดแจงปูเสื่อไผ่สานใหญ่บนพื้น ให้มีบริเวณกว้างพอที่จะรองรับผู้ชมทุกคนได้
    จากนั้นเขาจึงจัดแจงวางภาชนะอย่างหนึ่งลงบนเสื่อด้วยกันสี่อัน
    มันเป็นภาชนะทำด้วยไม้สำหรับวางอาหาร มีรูปร่างเป็นถาดกลม
    ขนาดประมาณ 24 นิ้วและสูงขึ้นจากพื้นนั่งประมาณ 1 ฟุต
    (กว่าจะยกมาได้เจ้าตัวก็ทุลักทุเลไม่น้อย)
    เด็กหนุ่มหยิบไมค์ ก่อนจะกลืนน้ำลายเล็กน้อยแล้วค่อยพูดออกช้าๆ ทว่าชัดเจน

    " เอ่อ...ขอเชิญผู้ชมทุกท่านนั่งที่เสื่อ... ล้อมรอบภาชนะที่ผมวางไว้เลยนะครับ
    ถึงจะมีสี่อันก็ไม่ต้องแยกโดมหรอกครับ นั่งปนกันได้เลย "


    และแล้วเขาก็รอให้ทุกคนมานั่งกันจนครบ ขันโตกจัดแจงวางขนมหวานลงบนภาชนะนั้น
    มันมีอยู่ทั้งหมดสี่อย่างด้วยกัน ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ข้างๆ กันมีคนโทน้ำขนาดใหญ่ใส่น้ำดื่มเอาไว้
    พร้อมกับแก้วที่เตรียมมาให้ครบจำนวนคน

    เสร็จทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ขันโตกจึงเดินปลีกออกมาด้านหน้า และกล่าวขึ้น

    " สำหรับบางท่าน อาจไม่รู้ว่ามันคืออะไร ...
    ภาชนะที่ใส่ขนมเหล่านั้นคือ 'ขันโตก' ครับ
    ใช่แล้วครับ มันคือชื่อของผมเอง "


    เด็กหนุ่มเว้นช่วง ก่อนจะสาธยายต่อ

    " ขันโตกที่ผมใช้คือขันโตกฮาม หรือจะเรียกว่าสะโตกทะรามก็ได้ เป็นขันโตกขนาดกลางครับ
    อันนี้ไม่มีอะไรมากหรอก ... เพราะผมคิดว่าถ้าใช้ขนาดเล็กมันจะไม่พอน่ะ
    แต่ถ้าคิดอีกแง่ อาจเป็นตัวผมที่ตอนนี้เป็นวัยรุ่นก็ได้นะครับ "


    หนุ่มชาวเหนือคลี่ยิ้มบางคล้ายขบขันในความคิดของตน

    " ขนมในขันโตกมีข้าวปาด ข้าวแต๋น ข้าวควบ และเมี่ยงคำครับ
    ผมทำเองแหละครับ ถ้าอย่างไรสามารถติชมได้ทีหลังนะ
    แต่หากจำนวนไม่พอต้องขออภัยด้วยนะครับ มันไม่ค่อยจะทัน
    อ๊ะ หรือถ้าหิวน้ำก็รินจากคนโทน้ำได้เลยนะครับ!
    ผมคิดว่าบางคนอาจจะหิวนะ อย่างน้อยก็เติมพลังกันหน่อยไหมครับ? "


    ประโยคนั้นราวกับจะกล่าวเชื้อเชิญให้ทุกคนลงมือทานของหวานกัน
    ระหว่างนั้นขันโตกได้นำเสื่อผืนเล็กมาปูบริเวณพื้นที่ของตน
    แต่คราวนี้เขาได้หยิบสะล้อติดไม้ติดมือมาพร้อม
    เด็กหนุ่มนั่งพับเพียบ มือซ้ายจับคันสะล้อ มือขวาจับคันชัก ตรวจสอบเสียงอีกเล็กน้อย
    คราวนี้เขาไม่คิดจะใช้ไมค์แต่อย่างใด

    " ถึงตรงนี้...ทุกคนสงสัยอีกอย่างรึเปล่าครับว่าผมทำอะไร?
    ที่ผมกำลังจะทำต่อไปนี้คือการ 'จ๊อย' ครับ
    ฮ่ะๆ... ผมเองก็ไม่ได้จ๊อยมานานมากแล้วสิ อาจจะไม่ดีเท่าไหร่
    แต่การจ๊อยครั้งนี้ ถือเป็นการแนะนำตัวในฉบับของผมนะครับ
    เอ่อ --- ถ้าฟังคำเมืองไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอกครับ "


    ขันโตกกระแอมเบาๆ สูดหายใจเข้าลึก ไหว้ผู้ชมทุกคนก่อนเริ่มแสดง...
    นิ้วเรียวของเด็กหนุ่มเริ่มขยับกดสายสะล้อ พร้อมมือขวาที่สีคันชัก

    เด็กหนุ่มขึ้นต้นทำนองสะล้อ แล้วจึงร้องออกมาเสียงดังฟังชัด
    พ่วงมากับสำเนียงภาษาถิ่นของเจ้าตัวด้วย

    " ย๊กมือสิบนิ้ว หว่างกิ๊วเกศา สวัสดีตี้มา ฟังผมวันนี้
    ผมจื่อเมืองราม รูปงามแต๊ปี้ จีบได้ก่นิ ปี้คนงาม
    ตั๋วผมอายุ สิบเจ๊ดปี๋ฮาม รูปร่างกะงาม ดูดี
    หล่อและบ่ร้าย อย่าก้ายแหนงหนี ปี่สาวคนดี ผมฝากใจ๋ด้วย ...
    "


    เมื่อจบ เสียงของขันโตกค่อยๆ แผ่วลงพร้อมๆ กับเสียงสะล้อ
    เขาส่งยิ้มกว้างให้กับทุกคน รวมถึงอาจารย์แคนดี้

    " ผมเป็นคนที่สื่ออะไรไม่เก่งสักเท่าไหร่ แต่ว่าจะขออธิบายแล้วกันนะครับ
    ชื่อของผม ... ขันโตก เป็นภาชนะที่ใช้สำหรับต้อนรับแขกในบ้านของคนภาคเหนือครับ
    ของหวานบนนั้นก็เป็นที่นิยมในภาคเหนือเช่นกัน
    เมื่อมีการต้อนรับ ย่อมมีการแสดง ผมเลยเลือกการจ๊อยมา
    ผมอยากจะบอกว่า ที่ AC แห่งนี้ได้ต้อนรับผมแล้ว
    ดังนั้นผมเลยอยากจะต้อนรับบ้างเท่านั้นเอง "


    ขันโตกพักช่วงหายใจ

    " ในการต้อนรับของผมไม่ใช่ด้านสถานที่หรอกครับ
    แต่เป็นในใจผมต่างหาก
    ผมเปิดใจต้อนรับทุกคนเสมอนะครับ แม้ว่าบางครั้ง ---
    เอ่อ... ผมอาจจะไม่ค่อยได้พูดคุยด้วยเท่าไหร่ (ยิ้มแห้ง)
    แหม แต่อย่างน้อยก็ภาวนาให้มันเป็นการต้อนรับที่อบอุ่นนะครับ
    อย่างน้อยผมก็คิดว่าตัวเองอบอุ่นระดับหนึ่งนะ (หัวเราะ)
    อีกอย่าง การที่ให้ทุกคนนั่งล้อมวง เดาว่าคงได้พูดคุยกันแล้วบ้างสินะครับ?
    ขันโตกเองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่ร่วมทานอาหารด้วยนะครับ
    และ ผมได้ใช้การจ๊อย ในการแนะนำตนเองให้ทุกคนรู้จักเช่นกัน ในแบบของผมเอง
    ผมเองก็เป็นคนเหนือ เลยเลือกที่จะใช้คำเหนือไปเลย
    แต่พอดีว่ารีบแต่งไปหน่อย สัมผัสหรือความไพเราะอาจไม่ค่อยมีนะครับ (ยิ้มเจื่อน)
    เอ่อ... อีกอย่างที่ชมตัวเองกับคำหยอกในนั้นขำๆ นะครับ~
    เพราะปกติจ๊อยเขามักใช้เกี้ยวสาว เกี้ยวคนดูน่ะ เลยแต่งไปตามเคยชิน ...
    อย่าเพิ่งหมั่นไส้ผมกันนะครับ (ขำ) แล้วก็ผมไม่คิดจะจีบใครหรอก ฮ่ะๆ~
    ไม่ซีเรียสกันเนอะ ? ถึงจะแปลกๆ ที่มาแนะนำตัวแต่เข้าบทเกี้ยวซะแทน
    บางทีผมอาจไม่ใช่ขันโตกที่ดูเรียบร้อยก็ได้นะครับถ้าตัดสินจากจ๊อย (หัวเราะอีกครั้ง)
    อ้อ แล้วก็ ...
    อีกนัยยะของการต้อนรับ ถ้าหากเปรียบใจของผมเป็นบ้านหลังเล็กๆ แล้วล่ะก็
    อยากจะให้ทุกคนมาเป็นครอบครัวใหญ่ในนั้นกันนะครับ
    หวังว่าถ้าได้ไปเที่ยวแล้วเห็นขันโตก จะนึกถึงกันนะครับ "


    ขันโตกหัวเราะร่วน เมื่อกล่าวจบแล้ว
    เขาจึงไหว้หนึ่งครั้ง

    " ขอบคุณที่ชมการแสดงจนจบนะครับ
    มันไม่มีอะไรหวือหวา อลังการ คงเพราะผมไม่ค่อยจะมีเซ้นส์ด้านนี้ล่ะมั้ง (หัวเราะ)
    แต่ความเรียบง่ายนี่แหละครับ คือผมเลยล่ะ
    แล้วถ้าหากยังทานขนมไม่หมดกัน จะเก็บกลับหอ หรือให้ผมเก็บก็ได้นะครับ "


    ใบหน้านั้นยังคงยิ้มแย้ม

    " เมืองราม ฉัตรสิริย์สกุล หรือขันโตก
    ขอจบการแสดงเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ! "


    -------------------------------------------------------

    อูย ... จ๊อยไปแล้วคนเขาจะกึ้ดหยังกะเฮาบ้างก่นิ อายแต๊ ...

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×