ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] รักวุ่นๆ ชุลมุนยกแก๊ง[KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #27 : Special Part : HanHyuk

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.22K
      9
      22 มิ.ย. 52



    กว่างานเลี้ยงส่งท้ายหนุ่มๆอดีตสมาชิกจะเลิกก็ปาเข้าเกือบเที่ยงคืน สมาชิกฝ่ายหนุ่มหล่อต่างพาแฟนหนุ่มหน้าหวานของตัวเองไปส่งบ้าน จะเว้นก็แต่ซีวอนที่ติดรถไปกับฮีชอลเพราะมีคนขับรถอย่างชินดงขับไปส่ง จะเหลือก็แต่ฮันคยองกับฮยอกแจเท่านั้นที่ยังยืนอยู่หน้าร้านหลังจากที่เพื่อนๆกลับกันไปหมดแล้ว
     “ไปส่งเอามั้ย” ฮันคยองเป็นฝ่ายถามขึ้น เพราะนี่ก็ดึกมากแล้ว รถเมล์ก็ไม่มี จะขึ้นแท็กซี่อย่างฮยอกแจท่าทางจะไม่รอด
                    “ไม่ต้อง กลับเองได้” ถึงจะตอบออกไปแบบนั้นแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับยังไงเพราะบ้านเค้าก็ใช่ว่าจะอยู่ใกล้ๆเหมือนเจ้าพวกนั้นที่กลับกันไปหมดแล้ว จะใจดีเอาเพื่อนกลับด้วยก็ไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้แม่ก็โทรจิกเขาไม่เลิก ก็เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา ไม่ได้คิดถึงตัวเองเลยว่าจะต้องกลับยังไง
                    “แล้วนายจะกลับยังไง”
                    “เอ่อ...ฉันมีทางกลับของฉันล่ะน่า ไม่ต้องมายุ่งหรอก จะกลับก็กลับไปสิ”
                    “คนอุตส่าห์มีน้ำใจจะไปส่ง รถไฟฟ้ากับรถเมล์ก็หมดแล้ว แท็กซี่น่ะมันอันตรายนะฮยอกแจ” ฮันคยองพูดจากใจจริงๆ ทำให้ฮยอกแจเริ่มลังเลขึ้นมา
                    “นายไม่อันตรายกว่าหรือไง”
                    “ฉันเคยทำอะไรนายงั้นหรอ ถึงมาบอกว่าฉันอันตรายน่ะ”
                    “...” ฮยอกแจตอบไม่ถูก เพราะไม่มีการกระทำใดๆที่ส่อแววว่าอันตรายเวลาฮันคยองอยู๋กับเค้าจะมีก็แต่คำพูดเท่านั้นแหละ แถมยังเป็นครั้งเดียวด้วย แต่ยังไงเค้าก็ไม่ชอบอยู่ดี ก็ฮันคยองว่าเขาเป็นเคะ รับไม่ได้จริงๆ
                    “ว่าไงล่ะ” ฮันคยองยังคงคาดคั้น
                    “ก็คำพูดไงล่ะ ฉันเกลียดคำพูดของนาย ฮันคยอง”
                    “โอเค ฉันขอโทษ ฉันไม่พูดว่านายเป็นเคะอีกแล้วก็ได้” ฮันคยองพูดออกไปยิ้มๆ ไม่คิดว่าฮยอกแจจะคิดมากเรื่องที่เขาพูดขนาดนี้
                    “นายรู้ได้ไงว่าฉันเกลียดที่คำพูดนั้น”
                    “ก็ตั้งแต่ฉันพูดไปนายก็ไม่คุยกับฉันอีกเลยหนิ แค่นั้นก็รู้แล้ว แต่ฉันขออะไรนายบ้างได้มั้ย...อย่าบอกว่าเกลียดฉันได้มั้ย” คำว่าเกลียดมันฟังดูแล้วร้ายแรงมากสำหรับเขา
                    “ทำไม” ถึงจะพูดออกมาเพียงสั้นๆแต่สีหน้าและน้ำเสียงของฮยอกแจกลับดูสลดลง อย่างกับว่ารู้สึกผิดที่ได้พูดแบบนั้นออกไป
                    “แค่คำพูดแค่ประโยคเดียวมันทำให้นายเกลียดฉันได้งั้นหรอ ทั้งที่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้นายเดือดร้อนเลยซักครั้ง”
                    “เอ่อ...ฉันขอโทษแล้วกัน”
                    “ช่างมันเถอะ ถือว่าหายกัน เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันไปส่งนายที่บ้านแล้วกัน” ฮันคยองสรุปแล้วเดินนำฮยอกแจไป ซึ่งฮยอกแจก็เดินตามไปแต่โดยดี
                    “นายเอารถมาด้วยหรอ” ฮยอกแจถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะตรงที่จอดรถของร้านก็ไม่มีรถคันไหนจอดอยู่เลย
                    “ก็แท็กซี่ไง” ฮันคยองตอบหน้าตาเฉยพลางมองหารถ
                    “หา! แท็กซี่เนี่ยนะ แล้วพูดได้ไงว่าจะไปส่งฉัน แถมเมื่อกี้นายยังบอกเองว่าแท็กซี่มันอันตรายไม่ใช่หรือไง” ฮยอกแจอุทานเสียงสูงกับคำตอบของฮันคยอง แล้วยืนกอดอกทำท่าทางเซ็งๆ ก็นึกว่าฮันคยองจะมีรถมารับเหมือนเจ้าเพื่อนพวกนั้นซะอีก
                    “นั่นในกรณีที่นั่งคนเดียว เพราะนี่มันดึกแล้ว”
                    “แล้วนายไม่มีรถหรือไง”
                    “....”
                    ฮันคยองไม่ได้ตอบคำถามของฮยอกแจเพียงแค่ยิ้มให้แล้วหันไปโบกรถแท็กซี่ จริงๆแล้ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีรถ เพียงแต่วันนี้ไม่ได้ขับมาเท่านั้น จะโทรไปบอกให้คนขับรถมารับก็รู้สึกเกรงใจเพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว แถมลุงคนขับรถก็อายุไม่ใช่น้อยๆแล้วเหมือนกัน ควรจะผักผ่อนแค่ทำงานให้พ่อกับแม่เขาก็คงเหนื่อยมากแล้ว
                    ฮันคยองเปิดประตูรถเข้าไปนั่งแล้วกวักมือเรียกฮยอกแจให้ตามเข้าไปนั่ง ฮยอกแจเบะปากเล็กน้อยก่อนจะขึ้นรถไป
                     “นายชอบคนมีรถหรอ” หลังจากรถแล่นออกมาได้ซักพักแล้วฮันคยองจึงเริ่มบทสานา
                    “ทำไมถามแบบนี้ล่ะ”
                    “เปล่า ก็แค่ถามเฉยๆ ตอบมาสิ”
                    “ก็เปล่าเหมือนกัน ก็เห็นนายบอกว่าจะไปส่งฉันก็นึกว่านายมีรถ” ฮยอกแจตอบเสร็จก็หันหน้าออกทางหน้าต่าง ยกมือปิดปากแล้วหาวก่อนจะเอนหัวพิงกระจก
                    “ง่วงหรอ” ฮันคยองเห็นท่าทางของฮยอกแจเลยอดที่จะถามไม่ได้
                    “นิดหน่อย”
                    “อีกไกลกว่าจะถึงบ้านนาย ให้ยืมตักเอามั้ย” ฮันคยองถามยิ้ม คิดว่าต้องโดนด่าแน่ๆที่ถามออกไปแบบนั้น
                    “ไม่ๆ อย่ามาถึงเนื้อถึงตัวกับฉันนะ” ฮยอกแจหันมาหาฮันคยองโบกไม้โบกมือพร้อมกับชี้หน้า
                    “ทีตอนไปเที่ยวนายยังเอนมาพิงฉันเลย แค่นี้ฉันไม่ถือหรอกน่า”
                    “พูดมาก” ฮยอกแจพูดแค่นั้นก็เอนหัวพิงกระจกตามเดิมก่อนจะหลับตาลง
     
                หลังจากนั้นทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบ ฮันคยองเขยิบเข้าไปใกล้ๆฮยอกแจก็พบว่าหลับไปเรียบร้อยแล้ว เลยได้แต่ยิ้มแล้วเขยิบออกมานั่งที่เดิม
                    “ชอบเขาหรอครับ” โชเฟอร์ที่มองทางกระจกหลังเห็นฮันคยองนั่งยิ้มเลยอดที่จะถามไม่ได้ เพราะการกระทำตั้งแต่ที่ขึ้นรถมามันทำให้อดคิดไม่ได้จริงๆ
                    “เปล่าหรอกครับ ก็แค่...สนใจ” ฮันคยองตอบยิ้มๆ
                    “เขาน่ารักดีนะครับ”
                    “ครับ น่ารักดี” พูดจบฮันคยองก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เลิก
                    การสนทนาเพียงไม่กี่ประโยคจบลงเพียงแค่นั่น ทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอย่างเดิม เวลาที่ใช้เดินทางเกือบชั่วโมงในที่สุดก็ถึงหน้าบ้านของฮยอกแจแต่เจ้าตัวกลับยังไม่ตื่น
                    “ฮยอกแจๆ” ฮันคยองเขย่าตัวฮยอกแจเบาๆเพื่อให้คนที่หลับไม่รู้เรื่องตื่น
                    “อืม...ถึงแล้วหรอ” ฮยอกแจลืมตาขึ้นพร้อมขยี้ตาเมื่อมองเห็นหน้าบ้านตัวเองลางๆ
                    “ถึงแล้ว รีบลงไปสิ แม่นายยืนรออยู่นั่นน่ะ” ฮันคยองจิ้มที่แขนฮยอกแจแล้วหันไปชี้ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้ารั้ว หน้าตาบ่งบอกถึงความโกรธอย่างสุดขีด
                    “ซวยแล้วไง นี่เงินนะ ฉันไปล่ะ” ฮยอกแจควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้ฮันคยอง
                    “ฉันไม่เอาหรอก ก็บอกแล้วไงว่าจะมาส่ง” ฮันคยองดันมือฮยอกแจกลับไป เอื้อมมือไปเปิดประตูให้
    ฮยอกแจพร้อมกับทักทายคุณแม่ของฮยอกแจเล็กน้อยก่อนจะดันหลังฮยอกแจให้ลงรถไป
                    “เออๆ ตามใจ บาย” ฮยอกแจโบกมือให้แล้วรีบลงจากรถทันที พอก้าวลงไปเท่านั้น คุณแม่มหาภัยก็ตรงดิ่งเข้ามาทันที พร้อมกับดึงหูลูกชายที่กลับบ้านไม่รู้เวล่ำเวลาเข้าบ้านไปด้วย
                    “ออกรถเลยครับ” ฮันคยองหันไปบอกคนขับรถแท็กซี่ก่อนจะรถจะออกตัวไปยังที่หมายแห่งใหม่
     
                    “มานี่เลย ทำไมไม่รับโทรศัพท์ พ่อกับแม่เป็นห่วงน่ะรู้บ้างมั้ย” แม่ของฮยอกแจสะบัดมืออกจากหูของลูกชายอย่างแรง ยืนท้าวเอวบ่น ส่วนฮยอกแจก็ได้แต่ทำหน้าสำนึกผิดมือก็ลูบหูข้างที่โดนบิดไปมา
                    “ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนซะ ถ้าขืนยังทำตัวแบบนี้อีก แม่จะไม่ตามใจเราอีกแล้วนะ” พูดจบก็เดินขึ้นชั้นบนไป
                    “บ่นจังเลย” ฮยอกแจพึมพำปากยื่นปากยาว ซักพักจึงเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองแล้วอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวจะเข้านอน
                    ครืดดดดดดด ครืดดดดดดด
                    เสียงเครื่องมือสื่อสารเครื่องจิ๋วของฮยอกแจที่วางอยู่บนหัวเตียงสั่นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ดูเหมือนว่าคนที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการอาบน้ำอยู่จะไม่รู้ตัวเลยซักนิด คงเพราะปิดเสียงไว้ตั้งแต่ที่แม่โทรตามเลยทำให้ไม่รู้ว่ามีคนที่อยากจะสนทนาด้วยในตอนนี้
                    หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จฮยอกแจก็กระโดดขึ้นเตียงทันที พอหัวถึงหมอนเปลือกตาก็ปิด ถ้าไม่ติดที่ว่า โทรศัพท์เครื่องจิ๋วมันสั่นขึ้นอีกครั้ง
                    “ใครน่ะ” ฮยอกแจกดรับพร้อมคำถามเพราะเบอร์ที่ขึ้นอยู่มันไม่คุ้นตาเลยซักนิด
                    (คนที่เพิ่งจากกันเมื่อกี้ไง) ปลายสายตอบกลับมาน้ำเสียงอารมณ์ดีสุดๆ
                    “คนที่เพิ่งจากกัน...ฮันคยอง” ฮยอกแจทำท่าเหมือนใช้ความคิดซักครู่ก่อนจะนึกออก คนที่เพิ่งจากกันเมื่อกี้ ก็คือคนที่นั่งแท็กซี่มาส่งเขาเมื่อกี้นี่เอง
                    (นอนหรือยัง)
                    “กำลังจะนอนไง ว่าแต่นายรู้เบอร์ฉันได้ไง” ฮยอกแจเอนตัวลงนอนอีกครั้งหลังจากลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ มือข้างซ้ายถือโทรศัพท์ส่วนอีกข้างก็เสยผมตัวเองเล่น
                    (ไม่ต้องรู้หรอกน่าว่ารู้ได้ยังไง)
                     “แล้วโทรมามีอะไร”
                    (ก็แค่อยากรู้ว่านอนหรือยัง)
                    “ถ้าเกิดฉันนอนแล้วนายก็โทรมากวนฉันน่ะสิ” ฮยอกแจหันตะแคงข้างก่อนจะดึงหมอนข้างใบโปรดเข้ามากอดไว้
                    (ว่าแต่ทำไมไม่รับ ฉันโทรมาตั้งหลายรอบ)
                    “อาบน้ำอยู่...แล้วนายถึงบ้านหรือยัง”
                    (ไม่ถึงง่ายหรอก บ้านนายอยู่ไกลขนาดนี้ บ้านฉันน่ะอยู่คนละซีกโลกกับบ้านนายเลย)
                    “หรอ...อืม...ฮันคยอง...” ฮยอกแจเรียกชื่อของคนที่กำลังคุยด้วยแล้วเงียบไป
                    (ว่าไง นายอยากนอนแล้วหรอ งั้นฉันวางนะ) ฮันคยองคิดว่าฮยอกแจคงอยากจะพักผ่อนเพราะนี่มันก็เลยเวลาที่ควรจะนอนมามากแล้ว
                    “เปล่าๆ อย่าเพิ่งวาง คือวันนี้...ขอบคุณนะที่มาส่ง เมื่อกี้ฉันยังไม่ได้ขอบคุณนายเลย” ฮยอกแจพูดไปก็กอดหมอนแน่นมากขึ้น เขาควรจะขอบคุณในเมื่อฮันคยองอุตส่าห์มาส่งเขา ถึงจะไม่ใช่รถตัวเองแต่ยังไงฮันคยองก็เป็นคนออกค่ารถ
                    (ไม่เป็นไรหรอกน่า ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะมาส่ง ฉันว่านายทำตัวดีๆแบบนี้ก็น่ารักดีนะ) ฮันคยองพูดอย่างอารมณ์ดี
                    “น่ารักบ้าอะไรเล่า! ดีด้วยไม่ชอบใช่มั้ย” พูดไปก็เขินไป ไม่เคยมีใครชมเขาว่าน่ารักมาก่อน
                    (ชอบสิ ชอบนายที่เป็นแบบนี้แหละ)
                     จบประโยคของฮันคยอง ทั้งคู่ก็เงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ไม่รู้เพราะหมดเรื่องที่คุยแล้วหรือเพราะประโยคที่เพิ่งจบไป
                    (ฮยอกแจ....) ฮันคยองเลือกที่จะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
                    “หืม”
                    (ฉันมีเรื่องจะบอกนาย) ถามจบ ฮันคยองก็เงียบอีกครั้ง
                    “เรื่องอะไรล่ะ” ฮยอกแจซุกหน้ากับหมอน เพราะไอ้ประโยคที่ฮันคยองพูดว่า ‘ชอบที่นายเป็นแบบนี้แหละ’ มันทำให้เขาเขินแถมยังคิดไปไหนอีกก็ไม่รู้
                    (ฮยอกแจ....จากนี้ไป ฉันจะจีบนาย....ฉันจะทำให้หัวใจนายมาอยู่ที่ฉัน)
                    “....” ไม่มีเสียงตอบรับจากฮยอกแจเพราะมัวแต่อึ้งกับประโยคที่ได้ยินเมื่อกี้นี้
                    (นายนอนได้แล้วนะฮยอกแจ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะโทรมาใหม่แล้วกัน ฝันดีนะครับ ว่าที่แฟนของผม) พูดจบก็ตัดสายทิ้งไปแล้วนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนคนขับรถแท็กซี่ยังอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
     
     
                    เมื่อเย็นนี้ตอนอยู่ที่ร้านอาหารฮันคยองบอกกับซีวอนว่าสนใจฮยอกแจ พอเจ้ารุ่นน้องได้ยินเท่านั้นแหละ ก็รีบเข้าไปขอเบอร์ฮยอกแจมาจากคยูฮยอนทันที แถมยังบอกว่า จะสนับสนุนเต็มที่อีกค่างหาก
                    ถึงความรักครั้งนี้ของเขามันจะไม่สมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก แต่ยังไงก็พร้อมที่เริ่มใหม่เสมอ เพราะความรักมันไม่เข้าใครออกใคร คนแพ้อย่างเขาก็คงต้องปล่อยความรักที่เจ็บปวดนั้นไป
     
    เจ็บที่ซีวอนเลือกฮีชอล…  
    แต่ก็สุขที่ฮีชอลก็เลือกซีวอนเช่นกัน…  
    และตอนนี้เขาก็ได้เลือกแล้วเช่นกัน…  
    เลือกที่จะเริ่มใหม่…  
    เลือกที่จะเลือกฮยอกแจ…  
    แล้วฮยอกแจล่ะจะเลือกฮันคยองหรือเปล่า.....
     
    --------------------------------------------------



    kr...talk

      จบภาค1อย่างบริบูรณ์แล้วนะ
      ขอให้ทุกคนมีความสุขและติดตามต่อในภาค2จ้า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×