ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic 1D;One Direction ♡Absolutely Love♡-(HS)

    ลำดับตอนที่ #2 : ♡Chapter 01 - Last memories with you

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 284
      1
      29 มี.ค. 57

    -CHAPTER 01-

    ‘Last memories with you’

    มันไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

    ♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥


     

     



     

    ทั้งที่เรื่องมันผ่านมานานมากแล้วและควรเก็บมันไปเป็นอดีตแล้วลืมไปซะ

    แต่ทำไมนะ...เรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับผมอีกแล้วล่ะ

     

     
     

     

     

            7 years later-

     

           ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้...ที่นี่หน้าร้านเบเกอรี่แห่งนี้กับกระดาษโง่ๆ ขนาดครึ่งเอสี่สีชมพูที่ประกาศว่ารับสมัครพนักงานพาร์ตไทม์ แต่ก็หมดที่พึ่งพาแล้วจริงๆ ก็จริงนี่ถ้าจะหารายได้แบบเต็มเวลาใครจะรับนักศึกษามหาวิทยาลัยกระจ๊อกก๊อกก๋อยแบบฉันเข้าทำงานในบริษัทใหญ่ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดคือ...ร้านเบเกอรี่ที่อยู่แถวๆ ย่านมหาวิทยาลัยของฉัน

     

            อย่าถาม...อย่าถามว่าฉันได้มาจากไหนแต่ฉันจะบอกเองค่ะ เมื่อกี้แม่สุดที่รักเพิ่งโทรมาหาฉันบอกว่าจะไม่ส่งเงินรายเดือนมาให้ฉันอีกแล้วเพราะคุณพ่อที่ไปรับราชการที่ญี่ปุ่นไม่ได้ส่งค่าเลี้ยงดูมาให้สามเดือนแล้วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นตกต่ำมาก และมันยังทำให้บ้านของฉันช็อตอีกด้วย ช็อตคืออะไรบางคนยังไม่รู้ ช็อตคือการที่เราไม่มีเงินพอจ่ายในค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันค่ะ แต่ฟ้าประทานตอนที่ฉันเดินมาเมื่อกี้มีใบปลิวรับสมัครงานพนักงานปลิวมาแปะหน้าฉันพอดี

     

            ฉันมาเรียนที่ลอนดอนได้สองอาทิตย์แล้ว ยอมรับว่าฉันยังปรับตัวกับคนที่นี่ได้ไม่ดีเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่ได้ไฮโซแบบคนอื่นเขาล่ะมั้ง ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่มีเพื่อนนะ ฉันมีเพื่อนแต่แค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ ฉันไม่ได้รวยและไม่ได้เลิศเหมือนคนส่วนใหญ่หรอกค่ะแค่พอมีกินมีใช้และมีช็อตบ้างเป็นธรรมดาอย่างเช่นตอนนี้...คนอื่นๆ พอเรียนเลิกคลาสคงไปเที่ยวเล่นที่ห้างหรูๆ กัน แต่ฉันคงไม่ได้มีโอกาสไปหรอกแค่ซื้อขนมยังต้องคิดหนักเลย แล้วยิ่งแม่โทรมาบอกว่าจะไม่ส่งเงินมาให้ฉันแล้ว...ฉันคงกินแกลบ

     

          นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันตัดสินใจและเดินเข้าไปในร้านเบเกอรี่นั่น สายตาของฉันกวาดมองไปทั่วๆ ร้าน อาจจะเป็นเพราะคนส่วนมากยังไม่เลิกงานเพราะนี่เพิ่งจะบ่ายโมงเอง คนในร้านจึงบางตามีเพียงลูกค้าสามสี่โต๊ะที่นั่งกินขนมอยู่ ฉันพาตัวเองไปที่เคาน์เตอร์ซึ่งมีพนักงานหญิงที่กำลังเขียนอะไรยุกยิกๆ อยู่

     

     

            “ขอโทษนะคะที่รับสมัครพนักงานนี่เต็มหรือยังคะ” ฉันถามแล้วยื่นโบรชัวร์ให้เธอดู

     

            “ยังไม่เต็มค่ะน้องสนใจสมัครตำแหน่งไหนคะเธอตอบฉันนะแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสบตา เธอยังคงให้ความสนใจกับสิ่งที่เธอเขียนอยู่ต่อไป เอาเข้าตรงร้านนี้ก็ตกแต่งน่ารักดีนะมันคล้ายๆ สไตล์วินเทจหน่อยๆ เอาไงดีล่ะ...อย่างต้นเสาก็มีรากไม้ขดไปมา ผนังก็เป็นอิฐบล็อคสีแดงส้มแล้วก็ตกแต่งด้วยรูปภาพอาร์ทๆ อีก

     

            “ฉันสนใจแคชเชียร์ค่ะ แต่พนักงานเสิร์ฟฉันก็ได้นะคะฉันมองกระดาษในช่องตำแหน่งงานแล้วคิดวิเคราะห์ว่าฉันสามารถทำงานพอไหวกับตำแหน่งไหนบ้าง มันมีอยู่สี่ตำแหน่งคือแคชเชียร์ พนักงานเสิร์ฟ พนักงานทำความสะอาดและพนักงานส่งเค้ก ซึ่งสองอย่างหลังนี่ฉันขอบายแน่นอน เพราะฉันเป็นคนที่ทำความสะอาดไม่ดีและขับรถไม่เป็น

     

            “งั้นรอสักครู่นะ...คุณแฮร์รี่คะมีน้องมาสมัครงานพอเธอบอกฉันจบเธอจึงเดินเข้าไปที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านซึ่งมีผู้ชายหัวหยองนั่งหันหลังให้อยู่ อย่าบอกนะเขาเป็นเจ้าของร้านน่ะ...แต่งตัวไม่เห็นเหมือนเลย เจ้าของร้านในความคิดฉันต้องใส่อะไรที่ดูน่าเคารพมากกว่านี้ ไม่ใช่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงรัดรูปแบบนี้ ยังไม่พอใส่รองเท้าคอนเวิร์สอีกต่างหาก

     

            “พาเธอมาหาฉันหน่อยเสียงทุ้มแหบตอบกลับมา แต่เขายังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ของเขาต่อไป พนักงานหญิงคนนั้นเธอจึงกวักมือเรียกฉันให้เดินเข้าไปหา ฉันจึงเดินไปตามคำสั่งของพี่พนักงานคนนั้น

     

            เหลือเชื่อ...เขาหล่อกว่าที่คิดไว้ซะอีก ถึงแม้เขาจะนั่งก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่ก็เหอะนะ แต่ฉันก็ยังเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดอยู่ดี เขาเป็นคนที่มีดวงตาสีเขียวสดน่าค้นหา จมูกโด่งเป็นสันสวย ริมฝีปากบางได้รูปยังไม่รวมกับรอยสักสุดฮอตตามแขนและข้อมือของเขา จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน

     

            “ฉันขอตัวไปทำออเดอร์ต่อนะคะพนักงานสาวร่างบางพูดก่อนจะเดินออกไป

     

            “นั่งก่อนสิ” เขานี่เก่งเนอะจ้องโทรศัพท์เอาเป็นเอาตายแต่ยังพูดกับฉันรู้เรื่องแถมยังรู้ว่าฉันยืนอยู่ด้วย

     

              “ค่ะ” เมื่อฉันพูดจบฉันจึงหย่อนตัวลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเขา สักพักเขาจึงเงยหน้าขึ้นมาจากจอไอโฟน (สักที) แต่ทำไมนัยน์ตาสีมรกตของเขากลับเบิกโพลงซะงั้นล่ะ ...

     

    ...

    ...

    ...

    ...

    ...

    ...

     

            ราวกับถูกเวทย์มนต์ของพระเจ้าสั่งให้หยุดชะงักในการทำทุกสิ่ง แฮร์รี่รู้สึกว่าตัวของเขาเองสามารถหยุดหายใจไปได้ชั่วขณะ แต่หัวใจกลับเต้นเร็วและแรงราวกลับจะทะลุออกจากอกของตน เขารู้สึกว่ารอบๆ ตัวของเขามันเงียบไปหมด มันมีแต่เพียงเสียงของเขาที่ยังดังก้องในสมองวนไปวนมา

     

            ...............เด็กคนนั้น

     

            แฮร์รี่รู้สึกว่าความรู้สึกตั้งร่างกายของเขาตกลงไปที่ตาตุ่มตรงข้อเท้า ทั้งๆ ที่ไม่ควรจะได้เจอกัน...พระเจ้ากลับเล่นตลกอีกครั้งกับตัวของเขาเอง เขามั่นใจแน่ๆ ว่าใช่เธอคนนั้น...เธอคนที่เขาคิดจะจีบ เธอคนที่เขาเคยหมายมั่นในตอนที่ยังอยู่ในวัยมัธยมว่าจะเอาชนะให้ได้ เธอคนที่เขาอยากลองคบ...แม้จะอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของเด็กประถม!

     

            ความรู้สึกและความจำทั้งหมดถาโถมเข้ามาในสมองของเขาในเสี้ยววินาที แม้จะยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าเป็นคนคนนั้นจริงๆ แต่เขามั่นใจว่าความรู้สึกนั้นมันเป็นความรู้สึกเดียวกับเมื่อเขาตอนเกรดสิบเอ็ดก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่ที่ลอนดอน หัวใจดวงน้อยๆ มันเต้นแรงทีละนิดๆ เหมือนกับตอนนั้นเลยล่ะ

     

            บอกใครรู้ไปถึงไหนมันก็อายถึงนั่นแหละ...คนอย่างเขาหลงรักเด็กเกรดหกคนหนึ่งตอนตัวเองอยู่เกรดสิบเอ็ดทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่รู้จักชื่อของยัยเด็กปากเก่งคนนั้น เรื่องมันค่อนข้างจะบ้าแต่มันก็เป็นจริงได้ ย้อนความหลังกันสักนิดนึง พอแฮร์รี่โดนน้องเขาปฏิเสธจนหน้าเสียไม่มีท่า จากนั้นเขาก็มีความคิดที่จะเอายัยเด็กตัวแสบนั่นมาเป็นแฟนให้ได้ แต่ความคิดนั่นต้องหยุดชะงักไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อแม่ของเขามีเรื่องด่วนที่ต้องย้ายมาอยู่ที่ลอนดอนเพราะต้องมาดูแลญาติของเขาซึ่งสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เวลาผ่านไปความทรงจำของเรื่องนั้นแฮร์รี่ก็ได้หายไปจนหมด...จนกระทั่งตอนนี้ มันกลับมาใหม่อีกเเล้ว

     

            “คุณคะเสียงของเด็กสาวที่อายุต่างกับถึงห้าปีเอ่ยขึ้น ยิ่งเธอเอ่ยยิ่งมั่นใจและชัวร์ว่าใช่ ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ดูออกแนวหยิ่งๆ นิดหน่อยยังคงเป็นแบบเดิม ภาพของเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่อยู่ทำเวรตอนเย็นโลดแล่นเข้ามาในหัวสมองของเขาทันที

     

            “...คนหัวหยองยังเงียบและดูเหมือนจะทึ่งอะไรไปสักพัก นั่นทำให้หญิงสาวหน้าตาน่ารักที่นั่งตรงข้ามเขาขมวดคิ้วเพราะความสงสัยเล็กน้อย

     

            “คุณจ้องหน้าฉันนานเกินไปแล้วมั้งคะ นี่อย่าบอกนะว่า...เธอจำเขาไม่ได้จริงๆ น่ะ นั่นมันจะเป็นเรื่องโครตน่าเสียดายเลย :’(  “เอ่อ…ขอโทษนะคะ” เธอเอ่ยขึ้นอีกรอบพร้อมกับ….

     

            แป๊ะ!

     

            เธอตบมือตรงหน้าเขา คนร่างเล็กคงจะรู้สึกอึดอัดกับการที่มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งพอเห็นหน้าเธอแล้วถึงกับอ้าปากค้างไปเลย ราวกับว่ามีอะไรน่าเกลียดน่ากลัวอาศัยอยู่บนใบหน้าของเธอ

     

            “เอ่อ…ฉันขอโทษทีเมื่อเขาหลุดจากภวังค์จึงกระพริบตาถี่ๆ สองสามทีแล้ววางมาดเป็นปกติ คนที่เขารอมาแสนนานจนหายไปอยู่ในกล่องความทรงจำในสมองมาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว.... เธอจบโรงเรียนประถมที่ไหน” นั่นคือสิ่งที่เขาอยากรู้เพื่อที่จะได้ยืนยันว่าเป็นเธอคนนั้นจริงๆ อย่างไม่มีข้อกังหา

     

            “มันต้องใช้ในการสมัครงานนี่ด้วยหรอคะ -0- พอดีฉันจบจากนอกเมืองค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉาน บบเดิม “ฉันจบจากเชชเชอร์ ที่ Holmes chapel school ค่ะ” เธอยังพูดต่อ

     

            เมื่อเจ้าของร่างที่สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรได้ยินดังนั้น หัวใจของเขายิ่งเต้นแรงขึ้นและแรงขึ้น เพราะมันคือสถานที่ที่เขาเรียนตอนเกรดสิบเอ็ดเหมือนกัน ยิ่งมองหน้ายิ่งอยากจะมุดดินไปขั้วโลกใต้แล้วตะโกนดังๆ ว่า ‘เจอแล้ว สักร้อยรอบ

     

            “…เธอคือเด็กคนนั้น…”

     

            “คนนั้น คนไหนหรอคะ -0-“ เธอยกมือขึ้นเกาหัวดังแกรกเพราะงงกับที่เจ้าของร้านพูดให้เชิงว่าเธอคือคนที่อยู่ในความทรงจำของเขา

     

            “เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนไหม อันตรายนะนี่ก็เย็นเเล้วทุกฉากทุกคำพูดของเขากับเธอเริ่มชัดขึ้นในหัวของแฮร์รี่ขึ้นเรื่อยๆ คนตรงข้ามถึงกับอ้าปากค้างที่อยู่ๆ เจ้าของร้านซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน พูดอะไรไม่รู้ใส่เธอ ไม่เป็นไรค่ะ พี่กลับไปทำแผลที่ก้นพี่เถอะค่ะ ท่าทางหนักเอาการอยู่นะคะเมื่อกี้พื้นสะเทือนเชียวเขายังพูดต่อ

     

            “ฮะ…เฮ้ยย! คุณคือ รุ่นพี่ปริศนาหน้าม่อ คนนั้นนั่นเอง!” สาบานได้ว่าแฮร์รี่อยากจะกระโดดโลดเต้นตอนนี้เลยถ้าสามารถเพราะยัยเด็กนี่จำเขาได้แล้ว เดาว่าเขาคงสร้างวีรกรรมจนทำให้เธอจำได้เลยดูท่าทางแล้วนะ...แต่อีกด้านหนึ่งกลับรู้สึกเสียหน้าหน่อยๆ ที่เธอจำเขาได้ในฉายา หน้าม่อ

     

            “น้องจำพี่ได้จริงๆ ด้วย -W-“ แฮร์รี่เกาแก้มแก้เขิน

     

            “ใครจะจำไม่ได้คะวันนั้นฉันนอนไม่หลับทั้งคืนเลย” เธอยิ้มหวานๆ ให้เขาทีนึง เล่นเอาเขาแทบละลายตรงนี้ซะเลย สาบานว่าหลงรักเด็กคนนี้เต็มประตูจริงๆ แล้ว

     

            “เพราะพี่หล่อใช่ไหม

     

            “เปล่าค่ะ...เพราะพี่ล้มได้น่าอนาถมาก ภาพเลยติดตาฉันจนถึงทุกวันนี้

     

            เพล้ง!

     

            นั่นคือเสียงของใบหน้าเรียวของแฮร์รี่ที่ค่อยๆ แตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ จากที่ยิ้มแล้วเขินๆ อยู่กลายเป็นใบหน้าเนือยและเซ็งทันที แต่ในเมื่อตอนนี้เขามีดีกรีเป็นนักธุรกิจหนุ่มฮอตหน้าใหม่ไฟแรงเขามั่นใจไม่มีใครกล้าปฏิเสธเขาอย่างแน่นอน

           

            “แล้วตอนนี้ล่ะเป็นยังไงบอกแล้วยิ้มมุมปากให้เซ็กซี่เล็กน้อย เพราะใครต่อใครต่างบอกกันว่าเมื่อเขายิ้มแบบนี้ทีไรสาวๆ สปาร์กทันทีแต่ว่า....

    .

    .

    .

     

            “ม่อแบบไหนก็ยังม่อแบบนั้นอยู่ค่ะ แป้ก เจ็บจังคนน่ารักแทงใจดำอีกแว้ว...

     

            “เอ่อ…”

     

            ฉันล้อเล่นนะคะพี่ ฮ่ะๆๆ” เธอหัวเราะร่วน แม้ว่าเธอจะบอกว่าล้อเล่นแต่หน้างามๆ นั่นแฮร์รี่สัมผัสได้ว่าเธอไม่โกหกอย่างแน่นอน T_T))

     

            ครืด......ครืด

     

            เสียงโทรศัพท์ของสาวน้อยตรงหน้าดังขึ้น เธอสบตาเขาเล็กน้อยก่อนเพื่อเป็นการขออนุญาติจะกดรับแล้วยกโทรศัพท์ทาบหูของเธอเอง  “….ฮัลโหลค่ะ”

     

            “เอ่อ...ฉันขอโทษนะพี่ T^T แม่ฉันยังไม่ส่งเงินค่าหอมาให้เลยอ่ะ...ฮะ ย้ายออก พี่คะเดี๋ยวสิ..ฮืออ แง้พอปลายสายพูดจบก็คงจะตัดสายเธอทิ้งไปเลย เธอถึงได้ทำหน้าแบบนั้น

     

            เดือดร้อนเรื่องค่าหอพักสินะ...

     

            “โอเค ฉันพอจะประติดประต่อเรื่องได้แล้ว เธอกำลังขัดดอก เอ๊ย! ขัดสนอยู่ใช่ไหมเธอไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าหงึกๆ “ฉันจะรับเธอเข้าทำงานนะ ส่วนหอเธอคงต้องย้ายออกแล้วมาอยู่ที่บ้านฉันก่อนสิ” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สาวน้อยตรงหน้าถึงดวงตากลับเบิกโพลงทันที

     

            “พี่คิดว่าพี่เล่นตลกคณะอะไรกันหรอคะ” ปากเก่งแบบนี้สไตลส์โครตชอบ J

     

            “พี่พูดจริงนะ แต่พี่ไม่ได้ให้อยู่ฟรีๆ นะ เธอต้องทำงานที่ร้านพี่แต่พี่จะไม่ให้เงินตอบแทนเธอ แลกกับที่พักและอาหาร

     

            “พี่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นทาสในเรือนเบี้ย” พูดไม่ทันจบประโยคเธอเลยชิงพูดต่อ “แล้วอีกอย่างนะ...พี่มีอะไรเป็นประกันว่าพี่จะไม่ปลุกปล้ำฉัน

     

            “นั่นดิ J” แฮร์รี่ยิ้มมุมปาก

     

            อย่ากวนสิพี่”

     

            “ที่บ้านพี่มีทั้งแม่กับพี่สาวของพี่และคนใช้ เธอจะเอาเพื่อนเธอไปอยู่ด้วยก็ได้ แต่เพื่อนเธอก็ต้องจ่ายค่าที่พักให้ฉันด้วยนะบอกแล้วไม่ได้ฟรี พี่ไม่ทำอะไรเธอหรอกถ้าพี่คิดเย็นวันนั้นเธอเสร็จไปแล้ว หึหึร่างสูงตอกกลับแล้วหัวเราะในลำคอ

     

            “พี่น่ากลัว”

     

           “ล้อเล่นน่ะ พี่ไม่ทำอะไรเธอจริงๆ พี่แค่อยากจะช่วยเธอน่ะในฐานะคนที่จำได้ นี่จากใจหล่อๆ ของพี่เลยนะเนี่ย ข้อเสนอเนี่ยสุดคุ้มเลยชายนัยต์ตาสีเขียวหลุดออกจากมาดผู้จัดการแล้ว ณ. ตอนนี้

     

            “งั้นฉันไปก็ได้ พี่สาบานก่อนสิว่าจะไม่ทำอะไรฉันจริง ไม่พาฉันไปขาย บลาๆ

     

            “ข้าพเจ้าแฮร์รี่ สไตลส์ขอสาบานว่าหากข้าพล่วงเกินตื๊ดของ...เธอชื่ออะไรนะ...เขาหันมาถามเธอ

     

            “พี่หื่น -_-! ขอสุภาพกว่านี้ ฉันชื่อคาร่า…คาร่า ทินดอฟยอมรับว่าตนหื่นแต่...โอ้ยยยยย น่ารักจุง TWT// คนอย่างสไตลส์แพ้คนน่ารักอย่างมากเลย หน้าตาน่ารักชื่อยังน่ารักอีก เขาจะอดใจไหวไหมนะ...

     

            “ถ้าข้าพเจ้าล่วงเกินคาร่า ทินดอฟขอให้มีสิวขึ้นตูดหลับตาแล้วโอมเพี้ยงเบาๆ...

     

            “คำสาบานอะไรของพี่น่ะ -_-“

     

            “นี่คาร่าพี่จะบอกอะไรให้นะ เป็นสิวที่ก้นน่ะทรมานสุดๆ แล้วล่ะ เหอๆ” เขายังจำความรู้สึกตอนเด็กๆ ที่เขามีสิวขึ้นที่ก้นของเขาได้ มันทำให้ระบบขับถ่ายของเขาไม่ดีไปสามวันเพราะไม่ได้ถ่ายท้องเลย ทรมานสุดๆ บอกแล้วไงล่ะ

     

            “แล้วแต่พี่เถอะค่ะ งั้นขอฝากตัวด้วยนะคะพี่แฮร์รี่พอคาร่าพูดจบก็ยิ้มหวานให้อีกทีเธอน่าจะรู้ชื่อเขาเมื่อกี้ตอนให้คำสาบาน แฮร์รี่อยากจะกริ๊ดดังๆ แต่เกรงว่าทุกคนจะคิดว่าเขาไม่ใช่ชายเขาจึงเลือกที่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ดีกว่า =__=// แถมยังเขินจนตัวบิดเป็นเกลียวเมื่อเด็กน้อยเรียกชื่อเขาว่า พี่แฮร์รี่

     

            “เรียกว่าพี่สั้นๆ ว่าแฮซก็ได้นะเพราะอยากสนิทจึงให้เรียกนามสั้นเคยได้ยินบ่

     

            “ พี่แฮซ

     

            “ครับ...ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งอย่างเป็นทางการนะครับน้องคาร่า

     

            แม้ว่าจะสาบานให้สิวขึ้นตูดไปแล้วก็ตาม แต่คนอย่างแฮร์รี่ สไตลส์ก็ไม่สามารถซื่อสัตย์กับคำพูดพล่อยๆ จากปากชั่วขณะแบบนั้นได้หรอก ในหัวสมองคิดอะไรต่างๆ นาๆ สิ่งที่ต้องทำบางอย่างที่หายไปเจ็ดปีกลับมาโลดแล่นในหัวของเขาอีกครั้งนึง

     

            เธอหลงรักพี่จนโงหัวไม่ขึ้นแน่ยัยคาร่าจอมแสบ!

     

     

     

     

     

     

    ------------------------------------------------------------------

    TALK

    สวัสดีค่ะ ;) เปลื่ยนโหมดมาอัพเรื่องนี้กันบ้างเนอะ 555555555555

    กว่าบทนี้จะจบต้องใช้พลังงานอย่างมาก (.____.) เพราะอยากให้แฮร์รี่กับน้องคาร่า

    พบกันได้อย่างปะฉะดะมากที่สุด (เอ๊ะ!) สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้รีดเดอร์ที่น่ารักของเดีย

    อมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ XD แม้สำนวนจะแปลกๆ ก็เถอะนะคะ U___U//

    แน่นอนว่าต้องมีเรื่องๆ วุ่นๆ ตามมาเป็นโขยงอย่างแน่นอน

    เรื่องคงไม่หวานชื่นตลอดทั้งเรื่อง แต่ดราม่าน้ำตาแตกไม่มีแน่นอนค่ะ >[]<

    เดียดีใจมากที่ได้แต่งแนวที่เดียชอบแบบเรื่องนี้ กริ๊ดดดดด

    แต่งไปฟินไปเลยอ่ะ โฮะๆๆๆๆๆๆๆ

    เพราะฉะนั้นให้กำลังใจเค้าด้วยเน้อ อ่านเเล้วเม้นท์ด้วยน้า ไม่มีเม้นท์เค้าไม่มีกำลังใจเเต่งเลย ;___;

    ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ :D
    ปล.ตอนนี้อิเเฮซนางมั่นมากเลยเนอะๆๆ พอหน้าหงายเเล้วจะรู้สึก 55555555

    ♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

     

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×