ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกรักพลทหาร Private Supermodel and the Love Commander

    ลำดับตอนที่ #76 : ตอนที่ 74 Love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 100
      0
      6 ก.ค. 57

    ตอนที่ 74 Love

    (ตั้ม's)

     

    "ว่าไงครับ ได้ข่าว...ทำน้องผมอกหักหรอ" คำทักทายของไอ้วิวทำเอาผมสะอึก แต่เปิดมาก็ดี ผมจะได้เข้าเรื่องเลย

     

    "มึงพูดมาก็ดีล่ะ น้องมึงกำลังเข้าใจกูผิด...." หลังจากนั้นผมก็อธิบายเรื่องคร่าวๆ ให้ไอ้วิวฟัง ว่าผมไม่ได้จะว่าภัทร แต่กำลังพูดถึงไอ้ของขวัญบ้าๆ พวกนั้น พอเล่าจบ มันก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะสะทกสะท้านอะไร

     

    "ก็ว่าอยู่แล้ว ภัทรมันก็หยั่งงี้แหละ ชอบคิดเองเออเอง" เสียงอีกฝ่ายพูดขำๆ ทำเอาผมโล่งอก แต่ก็ไม่ลืมถามถึงตัวต้นเรื่อง มันน่าจับมาตีก้นจริงๆ

     

    "แล้วน้องมึงเป็นไงบ้าง"

     

    "ก็โอเคมั้ง แต่ผมมีอะไรจะให้พี่ดู เดี๋ยวส่งให้ งั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวภัทรมันถามผมคุยกับใคร" วิวรีบพูดรีบตัดสายไป ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ กะว่าจะขอคุยสักหน่อย แต่คงไม่ดี คุยแบบเจอหน้ากันดีกว่า

     

    หลังจากวางสายไปเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ผมก็ดัง พอเปิดดูก็ต้องแปลกใจ ภาพห้องนอนที่ดูเรียบร้อย บนเตียงถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ อีกภาพเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนลู่วิ่ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ผมมองรูปเธออยู่นานจนหน้าจอดับลง และเมื่อหน้าจอเป็นสีดำจึงปรากฏภาพสะท้อนของหน้าผม...ที่กำลังยิ้ม

     

    ไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตนี้ตัวเองจะมีช่วงเวลาแบบนี้ ดูรูปของใครบางคนแล้วแอบยิ้มเนี่ยนะ โครตขัดกับหนังหน้าเลยว่ะ

     

    "ยิ้มอะไรจ๊ะ" แม่เดินยิ้มลงมาจากบันได

     

    "ดูแต่รูปแล้วเจ้าตัวเขาจะรู้ได้ไง แม่พาไปเจอตัวจริงเลยดีกว่า"

     

    "จริงหรอ"

     

    "จริงสิ แม่จะโกหกทำไมล่ะ น้องมีงานเย็นนี้ และถ้าอยากเจอก็รีบไปแต่งเนื้อแต่งตัวให้มันดีๆ ซะไป"

     

    "รักแม่ที่สุดเลย" ผมหอมแก้มแม่นึงทีและรีบวิ่งขึ้นไปห้องตัวเองชั้นบน

     

    ...................................... ……………….r…..

     

    "แม่ว่าผมดูโอเคยัง" ผมหันกระจกรถมาดูหนังผม จัดผมให้ทันเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง มันดูเนี้ยบแปลกๆ

     

    "โอเคแล้วจ๊ะ หล่อที่สุดอ่ะ จะลงไปได้ยัง ไปๆ" แม่พยายามดันลงจากรถอย่างเหนื่อยหนายใจ แม่ก็ไม่เข้าใจกันบ้างเลย แบบนี้มันใช่ตัวผมที่ไหน

     

    พอเดินเข้ามาในงานก็เหมือนพวกอีเว้นท์ทั่วไป แม่เตรียมไปยืนถ่ายรูปกับแบ็คดรอปที่มีช่างภาพยืนรอถ่ายอยู่เต็ม...ผมเกลียดแสงชัตเตอร์พวกนี้จริงๆ

     

    "แม่ถ่ายไปเหอะ ผมว่าผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำดีกว่า" ไม่รอแม่ปฏิเสธผมก็เบี่ยงตัวออกมา ระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำก็ชะเง้อคอมองหาแม่นางแบบนั่นไปด้วย อยู่ไหนนะ

     

    "อุ้ย ขอโทษค่ะ" มัวแต่มองอย่างอื่นเลยไม่ได้มองทาง ผมชนใครเข้าละเนี่ย ผมช้อนร่างของเธอเอาไว้ทันก่อนที่จะล้มลงไป กินข้าวบ้างไหมเนี่ย ผอมบางขนาดนี้

     

    เอ๊ะ! แต่เสียงแบบนี้ กลิ่นหอมแบบนี้ ผมจำได้...

     

    "ขอโทษครับ คุณ...." เธออยู่ตรงหน้าผมแล้ว อยู่ในอ้อมแขนผมอีกครั้ง ชั่ววินาทีที่เรานิ่งไป ไร้คำเอื้อนเอ่ย มีเพียงสายตาประสานกัน แว็บเดียวที่ดวงตานั้นอ่อนไหว ก่อนจะเปลี่ยนเย็นชา เหมือนไม่เห็นผมอยู่ตรงนี้

     

    "ไม่เป็นไรค่ะ" แล้วภัทรก็ขืนตัวออก

     

    "ใครหรอภัทร หล่อจัง ไปแอบรู้จักกันตอนไหน" พี่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างภัทรเข้ามาถาม แล้วส่งสายตาปิ๊งๆ มาที่ผม ส่วนภัทรนะหรอ เธอหยิบแว่นหากันแดดขึ้นมาใส่ เหมือนต้องการหลบซ่อนแววตาของเธอ และหันไปตอบพี่คนนั้นด้วยคำพูดที่ทำให้ผมตัวชาไปหมด

     

    "เปล่าค่ะ ภัทรไม่รู้จักเขา ไปกันเถอะ" แล้วเธอก็เดินผ่านไป

     

    ไม่รู้จัก...จะไม่รู้จักได้ยังไง

     

    "เดี๋ยว...." พอตั้งได้ ผมก็รีบหันหลังตามไป แต่กลับมีทีมงานมาขวางไว้

     

    "เข้าไม่ได้นะครับ"

     

    "จะไปไหนล่ะตั้ม" แม่รีบเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าตกใจ ก็เมื่อกี้ผมเผลอเสียงดังขึ้นมา

     

    "ผมจะเข้าไปอะแม่ ภัทรอยู่ในนั้น" ผมชี้ไปที่ห้องหลังเวที

     

    "มานี่ก่อน อย่าโวยวายสิ นั้นมันห้องแต่งตัว รอน้องเขาออกมาก็ได้ ใจเย็นๆ" แม่หันไปยิ้มให้แขกในงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และออกแรงดึงผมเบาๆ

     

    ผมได้แต่แกร่วอยู่ในงาน คนเยอะแยะผลัดกันทักแม่ไม่หยุดหย่อน ผมก็ต้องแสร้งเป็นยิ้มแย้มไปด้วย ทั้งที่ในอกจะระเบิดอยู่แล้ว

     

    "ทำไมยังไม่เสร็จอีกนะ"

     

    "นั้นไง มาแล้ว" แม่สะกิดบอกให้หันไปมองภัทร ที่แต่งตัวสวยเดินออกมา

     

    "ขอถ่ายรูปหน่อยนะครับ" ช่างภาพรีบไปรุมล้อมเธอไว้ สีหน้าแววตาเธอมุ่งมันโฟกัสกับงานตรงหน้า ภัทรที่ผมเห็นตอนนี้ทำให้ผมนึกถึงวันแรกที่เราเจอกันอีกครั้ง...ยัยนางแบบติ๊งต๊อง

     

    "เชิญคุณหญิงด้านนี้ด้วยนะครับ" ทีมงานหันมาบอกแม่กับผมให้เดินเข้าไปถ่ายรูปด้วยกัน ผมเห็นภัทรหันมามองแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่มีแววตาตกใจหรือหวั่นไหวอะไร เธอเพียงปรายตามองมาแล้วก็หันกลับไป...เจ็บจิ๊ดเลยว่ะ แม่ง โดนเมินมันเป็นแบบนี้เองหรอ

     

    "ตั้มมานี่สิลูก ยืนข้างๆ น้องเขาหน่อย ดิฉันแก่แล้ว ให้เด็กๆ เขาถ่ายไปดีกว่าเนอะ" แม่ถ่ายได้ไม่ก็รูปก็ปลีกตัวออกไปกับผู้หญิงมีอายุอีกท่าน ที่คิดว่าคงเป็นเจ้าของงาน

     

    ผมยิ้มในใจอยากขอบคุณแม่ แล้วขยับเข้ามาใกล้ ซึ่งภัทรก็รักษาระยะห่างไว้ได้ดี และเธอไม่มองผมเช่นเดิม...งั้นผมคงต้องทำแบบวันแรกอีกแล้ว

     

    "อะ..." ภัทรหันมาทำหน้าจะเอาเรื่องที่ผมโอบเอวจนเธอเซมา ก็มันหมั่นเขี้ยว หยิ่งนัก แต่นับว่าเธอเก็บอาการได้ดี เพราะก็ปล่อยให้ผมโอบเอวไป แต่คิดว่าผมจะยอมหรอ ผมไล่มือจากเอวขึ้นมาที่แขนเล็กๆ

     

    "ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" ผมกระซิบข้างหูเธอเบาๆ อย่างที่ชอบทำ ผมรู้สึกว่าเธอขนลุกและเริ่มยืนเกร็ง...จะทนได้สักแค่ไหน

     

    "ฉันไม่ว่าง" เธอขยับตอบโดยไม่มองหน้าผม

     

    "แต่..." ผมกำลังจะพูด แต่ดันถูกช่างภาพขัดขึ้นซะก่อน

     

    "มองกล้องนี้หน่อยนะครับ"

     

    "ภัทรขอตัวนะคะ" ภัทรหันไปยิ้มก่อนจะเบี่ยงตัวออก

     

    "ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรไง แล้วทำไมต้องทำเป็นไม่รู้จักผม" ผมรีบตามไปจับข้อมือเธอไว้

     

    "ฉันไม่รู้คุณพูดเรื่องอะไร คนอื่นมองหมดแล้ว ปล่อย" เธอพยายามขืนมือออกแต่ผมไม่ปล่อย ใครจะมอง จะถ่ายก็ปล่อยไป

     

    "ตั้ม" เสียงเรียกหวานหูของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ควรจะโผล่มาตอนนี้ดังขึ้น

     

    "แอน" ผมเผลอหันไปมองเธอ จนภัทรสะบัดมือผมออกได้ในที่สุด

     

    "ฮึ" เสียงภัทรดังให้ผมได้ยินแค่นั้นก่อนเธอจะเดินเชิดไปทางอื่น

     

    "โธ่เว้ย" ผมสบถออกมาเบาๆ ทำไมอะไรๆ มันก็ไม่เป็นใจเลยว่ะ

     

    "เป็นอะไรหรอ"

     

    "ป่าวอ่ะ" ผมตอบแอน เธอก็ไม่ได้ผิดอะไร ผมไม่ควรจะมาพาลเธอ

     

    "ช่วยแอนมองหาเพื่อนหน่อยสิ แอนหาเพื่อนไม่เจอเลย" ผมทำตามที่แอนบอก แต่มองหายังไงก็ไม่เจอ

     

    "น้องใจแข็งหรือลูกแม่ฝีมือตก" แม่เดินเข้ามากระซิบถาม

     

    "แม่ก็"

     

    "สวัสดีค่ะ คุณป้า"

     

    "จ๊ะ ไม่เจอกันนานเลยนะจ๊ะ" แม่รับไหว้แอน

     

    "อันนี้แม่ช่วยไม่ได้นะ" แม่หันมาทำหน้าสงสารผม แต่กลับซ่อนเสียงหัวเราะไว้ไม่มิด

     

    เป็นอันว่าทั้งงานผมต้องเป็นคู่ควงให้แอน กว่าเธอจะเจอเพื่อนก็งานแทบจะจบ ส่วนภัทรก็ขึ้นเวทีไปทำงานของเธอ มีแต่คนรุมล้อมตลอดเวลา ไม่มีจังหวะที่ผมเข้าหาได้เลย

     

    "ไม่ได้เรื่องเลย รอแม่เดี๋ยว" แม่ส่ายหน้าให้ผม แล้วหยิบไอโฟนเปิดแชทขึ้นมา

     

    "แม่โครตไฮเทคอ่ะ" ผมมองทึ่งๆ

     

    "ก็เราจะรู้อะไร วันๆ ไม่เคยสนใจแม่" แม่หันมาตัดพ้อ

     

    "อย่าเพิ่งน้อยใจสิ" ผมรีบง้อ

     

    "ยัยริชชี่บอกน้องจะไปทานข้าวต่อ แม่ว่าเราไปดักรอร้านอาหารดีกว่าไหม"

     

    ผมพยักหน้าและลงมารอที่ห้องอาหารที่แม่บอก เราเลือกโต๊ะที่อยู่หน้าสุด โต๊ะที่ทุกคนต้องเดินผ่าน และเป้าหมายมานั้นแล้ว ผมรีบสะกิดแม่

     

    "หนูภัทรจ๊ะ" แม่ผมเรียกภัทรที่ทำหน้างงๆ แต่ก็ไม่ลืมรีบยกมือไหว้

     

    "สวัสดีค่ะ"

     

    "สวัสดีจ๊ะ สบายดีไหม คล้ำขึ้นรึเปล่าเนี่ย นั่งทานกับป้า ไม่สิ นั่งทานกับแม่ก็ได้นะ" แม่รู้งานสุดยอดอ่ะ แม่อ่ะถูกแล้ว คนนี้แหละลูกสะไภ้แม่เลย

     

    "เอ่อ...คือ..." ภัทรอ้ำๆ อึ้งๆ พลางมองมาที่ผมที่กำลังยิ้มอยู่แล้วค้อนใส่

     

    "อ่อ แม่เข้าใจ หนูคงไม่อยากทานข้าว ร่วมกับคนแก่ งั้นก็ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่ไม่รบกวนหนูดีกว่า" แม่รีบสวมบทดราม่าใส่ จนภัทรรีบต้องโบกไม้โบกมือ

     

    "ไม่ใช่นะคะ คือภัทรแค่...ไม่อยากรบกวน"

     

    "ไม่เลยจ๊ะ ตั้มลุกไปยกเก้าอี้ให้น้องสิ ริชชี่มานั่งฝั่งนี้มา มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลย" แม่จัดการให้เสร็จสับ ส่วนผมลุกไปยกเก้าอี้ให้ภัทรซึ่งต้องนั่งอย่างอดไม่ได้

     

    "ขอบคุณค่ะ" เธอไม่ลืมหันมาบอกผมที่สวมบทพี่ชายแสนดี

     

    "ไม่เป็นไรครับ" แม่ชวนภัทรคุยเรื่องต่างๆ ซึ่งเธอก็ยิ้มแย้มคุยด้วย เพราะส่วนใหญ่แม่จะคุยเรื่องแม่ของภัทร ทำให้เจ้าตัวดูตั้งใจฟัง

     

    "ริชชี่ห้องน้ำไปทางไหนจ๊ะ" แม่หันไปถามพี่ที่มากับภัทร ผมเห็นว่าแม่ขยิบตาด้วย

     

    "อ๊อ....อ่อ ได้เลย เดี๋ยวหนูพาไปค่ะ"

     

    "จะไม่คุยกันสักคำเลยหรอ" พอเหลือกันสองคนผมก็หันไปคุยทันที แต่ภัทรนี่สิ หันหน้าออกไปนอกโต๊ะ ไม่ใช่แค่ไม่มองหน้า แต่ไม่ตอบผมด้วย

     

    "ภัทร" ผมเรียกอีกครั้ง

     

    "ฉันไม่มีอะไรจะคุย"

     

    "นี่ผมตามคุณขนาดนี้ ยังไม่คิดจะฟังกันบ้างหรือไง" ผมพูดอย่างเหลืออด

     

    "ตาม? แสดงว่านี่แผนนายใช่ไหม บอกไว้เลยว่าฉันไม่ยอม ไม่ว่านายจะเอาแม่ เอาใครมา ฉันก็ไม่คุยด้วยทั้งนั้น" ภัทรพูดแล้วลุกออกไป สวนกับแม่ที่เดินเข้ามา

     

    "จะไปไหนละลูก"

     

    "ภัทรไม่รู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ คุณป้าทานกับเจ๊ริชชี่ไปนะคะ"

     

    "แล้วหนูจะกลับยังไงล่ะ ข้างนอกฝนตกอยู่ เมื่อกี้เจ๊เห็น คงออกไปเรียกแท็กซี่ไม่ได้ รถก็ไม่ได้เอามา ให้เจ๊ไปส่งไหม"

     

    "นั่งทานกันไปเถอะครับ ผมไปส่งน้องเขาเอง" ผมอาสา

     

    "ไม่!" ภัทรหันมาตอบอย่างไม่คิด ก่อนจะหันไปมองหน้าแม่ผมที่กำลังตกใจ เธอจึงค่อยๆ อธิบายเสียงอ่อน

     

    "คือภัทรหมายถึง ภัทรไม่อยากรบกวนพี่เขา"

     

    "ทำเป็นคนอื่นคนไกลไปได้" แม่ทำเป็นยิ้มเข้าใจ

     

    "นั้นสิ ผมว่าผมแวะไปหาวิวด้วยเลย" ผมตามน้ำไป

     

    ภัทรลาแม่ผมและเดินนำออกไป แม่หันมาบอกว่าจะให้ริชชี่ไปส่งไม่ต้องห่วง ผมจึงรีบเดินตามเธอออกมา

     

    "ขึ้นรถสิ" ผมกดเปิดรถแต่ภัทรก็ยังยืนตัวแข็งอยู่

     

    "บอกให้ขึ้นรถ" ผมพูดอีกครั้งแต่ภัทรเดินไปอีกทางแทน ไม่เคนเปลี่ยนเลย สั่งอีกอย่างได้อีกอย่าง ให้ตายเถอะ

     

    "ไม่ เห้ย ปล่อยนะ ฉันจะกลับเอง"ผมคว้าตัวเธอไว้ และจับร่างบางๆ นี่พาดบ่า ก่อนจะเปิดประตูจับยัดใส่รถ

     

    "ไม่หยุดผมจูบจริงๆ ด้วย" ผมพูดขู่เมื่อภัทรไม่หยุดดิ้น

     

    "ไอ้บ้า!" เธอตะโกนว่าผมอย่างเหลืออด

     

    "หรือจะลอง" ผมนิ่งๆ อีกครั้งพร้อมยื่นหน้าไปใกล้ และก็ได้ผล เธอยอมอยู่นิ่งๆ สักที...ต้องให้ออกแรง

     

    ผมขับรถออกมาท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา เสียงฝนตกมันยังเหงาไม่เท่ากับเราสองคนบนรถคันนี้ ทั้งๆ ที่ใกล้กันเพียงเอื้อม แต่เหมือนเธอช่างอยู่ไกลเหลือเกิน

     

    "คุยกันดีๆ ได้ยัง มีอะไรอยากจะถามผม...." เมื่อผมพูดขึ้นกลับมีเสียงมว่าน ธนกฤษแทรกขึ้นมา

     

    'มีบรรยากาศฝนตกรถติดช่วยฉัน

    ยังมีมือเปล่าว่างอยู่ให้จับเท่านั้น'

     

    "ไม่ต้องเปิดดังขนาดนั้นก็ได้ ไม่อยากคุยกับผม คุณเกลียดผมมากขนาดนี้เลยหรอ" ผมกดหรี่เสียงเพลงที่เธอเปิดให้เบาลง ใช่แล้ว มันคือเพลงที่ผมเปิดฟังซ้ำไปซ้ำมา เพลงที่ผมชอบฟัง เพลงที่ผมมักจะนึกถึงใบหน้าเธออยู่เสมอ

     

    ทั้งๆ ที่วันนี้มันเป๊นแบบนั้น ฝนตก รถติด แต่ทำไมความรู้สึกมันช่างต่างจากวันที่เราฟังด้วยกันในค่ายตอนนั้นเลยนะ ผมอยากเอื้อมมือเธอมากุมไว้อีกครั้งจัง คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดถึงเรื่องวันนั้น ผมมองหน้าภัทร ที่กำลังมองหน้าผมอยู่...มันเจ็บปวด

     

    "นายทำแบบนี้ทำไม ฉันอุตส่าพยายามลืมมันไปแล้วแท้ๆ แล้วนายจะกลับมาอีกทำไม สนุกมากนักหรอ ควงผู้หญิงคนอื่นเดินไปทั่วงาน แล้วลับหลังยังมาตอแยฉันแบบนี้" คำพูดที่พลั่งพรูออกมา น้ำตาที่เอ่อล้น ทำเอาผมพูดไม่ออก...มันไม่ใช่อย่างนั้น

     

    "นายไม่สงสารฉันหรอ" เธอพูดเสียงสั่นเครือ

     

    "ฟังผมชัดๆ นะ ผมแค่อยากจะบอกคุณว่า...." จังหวะเดียวกันที่รถติดพอดี ผมเอื้อมมือไปกุมไว้แต่เธอกลับสะบัดออก

     

    "ฉันไม่ฟังปล่อยฉัน" ยิ่งผมพยายามพูด พยายามมอธิบาย เธอยิ่งไม่ฟัง ภัทรเอามือยกปิดหูทั้งสองข้างเอาไว้ จนผมต้องพยายามดึงมือเธอออก

     

    "ภัทร"

     

    "ปล่อยเดี๋ยวนี้ ฉันจะลง" จนในที่สุดเธอสะบัดมือผมออก กดปลดล็อคและเปิดประตูรถออกไป

     

    "จะทำอะไรอ่ะ หยุดนะ" ผมคว้าเธอไว้ไม่ทัน

     

    "ภัทรกลับมาเดี๋ยวนี้" ผมรีบเปิดประตูตามลงไป

     

    ปรี๊น ปรี๊น

     

    เสียงบีบแตรจากรถคันหลังดังขึ้น เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว

     

    "โธ่เว้ย"

     

    ผมรีบกลับขึ้นรถ ขับมาจอดข้างทาง แต่ผมก็หาเธอไม่เจอแล้ว

     

    ผมแค่อยากจะบอกว่า 'ผมรักเธอ' แค่นั้นเอง

    ………………………………………………….


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×