Summer Sempiternal. - นิยาย Summer Sempiternal. : Dek-D.com - Writer
×

    Summer Sempiternal.

    อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เมเกน เอชโดนไล่ออกและทุกคนกล่าวหาว่าเธอเป็นตัวปัญหา ดังนั้นเธอจึงย้ายมาเรียนกลางคันโดยไม่สนอะไร เพราะรู้ว่าไม่นานก็ต้องจาก แต่ 'เจมส์ ดี.' ทำให้ความคิดเธอเปลี่ยนไป

    ผู้เข้าชมรวม

    930

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    930

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    7
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  27 มิ.ย. 64 / 10:11 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






    Synopsis: เรื่องย่อ

    The unwilling accident happened to a colleague. It made Megan H have been kicked out of school. This is the third school where she has to face this problem. Everyone thinks she is a troublemaker, so she moves to Dunedin in New Zealand, where and small town. That's all she knows.

    Besides, she doesn't care about anything. Cause she knows she will live no longer like every time and before this town will remember her name, she will be gone, but the appearance of James 'Jimmy' Darmody makes her intention changed.

    อุบัติเหตุร้ายแรงที่ไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมชั้น มันทำให้ฉัน 'เมเเกน เอซ' ต้องถูกไล่ออกอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นโรงเรียนที่สามแล้วที่ฉันต้องเผชิญปัญหานี้ ทุกคนคิดว่าฉันเป็นพวกชอบสร้างปัญหา แต่ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นยังไง ดังนั้นฉันจึงย้ายออกมาที่เมือง 'ดะนีดีน' ในนิวซีแลนด์ มันเป็นเมืองเล็ก ๆ อันเงียบสงบแห่งหนึ่ง อย่างน้อยก็เพื่อหวังจะลืมเลือนเรื่องราวเลวร้าย

    สำหรับเมืองนั้น ฉันไม่รู้อะไรเลยและไม่ได้สนใจ เพราะรู้ดีว่าตัวเองจะอยู่ได้ไม่นาน มันก็เหมือนทุกโรงเรียนที่ผ่าน ไม่นานผู้คนจะกล่าวโทษและฉันต้องย้ายโรงเรียนอีกครั้ง

    เพราะอย่างนั้น ฉันจึงหวังว่าจะจากไปก่อนที่เมืองนี้จะจดจำชื่อฉันได้ด้วยซ้ำ แต่แล้วการปรากฏตัวของผู้ชายที่ชื่อ เจมส์ 'จิมมี่' ดาร์โมดี้ กลับทำให้ความตั้งใจต้องเปลี่ยน...

     

    ตัวอย่าง

    ฉันยิ้มและก้มดูดอกแดนดิไลออนที่อยู่ในมือหลังจากจิมมี่เด็ดมันออกมาและยื่นมาตรงหน้า มันมีลักษณะคล้ายกับละอองฟองสีขาวเบาบางที่พร้อมหลุดลอยไปในอากาศได้ทุกเมื่อ

    นายเอามาให้ฉันทำไม?”

    ไม่รู้สิ มันไม่มีเหตุผล เราว่ามันเข้ากับเธอดี คำตอบของเขาทำให้ฉันประหลาดใจ

    นายหาว่าฉันอ่อนแอรึไง ฉันเบ้ปากแต่เขากลับขำราวกับเรื่องตลก

    ท่าทางเราคงทำดีในสายตาเธอไม่ขึ้นนะ ไม่รู้รึไงว่ามันหมายถึงอะไร?” จิมมี่ขยับเข้ามาใกล้ ระหว่างของเราอันน้อยนิดอาจทำให้อึดอัด แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น ความจริงฉันชอบด้วยซ้ำที่เขาอยู่ใกล้กัน

    รอยยิ้มของเขาสร้างความอบอุ่นได้เสมอ...

    ฉันไม่มีเวลาใส่ใจเรื่องแบบนี้หรอก แค่ชีวิตตัวเองก็หัวหมุนมากพอแล้ว

    ปัญหาครอบครัวแตกแยกไม่เคยเป็นเรื่องน่ายินดี มันสร้างผลกระทบมากพอกับชีวิตของฉัน จนกว่าจะหลุดพ้นจากขุมนรกได้ต้องใช้เวลาหลายปี พอแม่แต่งงานใหม่ เราก็ต้องย้ายอีกครั้ง ทุกอย่างกำลังไปได้ดีแต่แล้วแดเรียนก็จากไป

    ฉันสูญเสียทุกสิ่ง สูญเสียที่ยึดเหนี่ยวทางใจเพียงคนเดียวในชีวิต... แต่ถึงอย่างนั้นกลับต้องเดินต่อบนโลกเพียงลำพัง

    เธอต้องหัดใส่ใจเรื่องเล็กน้อยบ้าง มันอาจดูไม่มีค่า แต่มันก็ทำให้มีความสุขได้เขาโอบไหล่กันและดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ฉันเอนหัวซบไหล่กว้างของอีกฝ่าย วินาทีนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าคิดถึงแดเรียนเหลือเกิน

    พี่จะเป็นไงบ้าง?

    แล้วตกลงความหมายของมันคืออะไร?”

    ขอบตาของฉันร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงแดเรียน การจากไปของเขาทำให้ฉันร้องไห้ได้เสมอ ดังนั้นฉันจึงแสร้งเปลี่ยนเรื่อง โชคดีที่จิมมีไม่ได้ก้มลงมาดูว่าฉันมีสีหน้ายังไง มันเป็นเรื่องดีแล้ว

    ที่เราว่ามันเข้ากับเธอ เพราะดอกแดนดิไลออนเป็นดอกของความหวัง มันหมายถึงการรักษาความเจ็บปวด ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย และหมายถึงผู้รอดชีวิตจากเรื่องราวอันยากเย็นทั้งหมด แต่สำหรับเรา มันเป็นตัวแทนของความสุขตลอดกาล เราอยากให้เธอมีความสุขมากกว่านี้

    คำพูดของเขาเรียบง่ายและแสนซื่อตรง แต่กลับทำให้ฉันไม่กล้าสบตา ไม่คิดเลยว่าคำพูดของใครสักคนจะมีอิทธิพลกับอัตราการเต้นของหัวใจได้มากเพียงนี้ ดังนั้นฉันจึงแสร้งแกล้งอีกฝ่ายเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกตนเอง

    จิมมี่ บอกมาเถอะว่าเมื่อคืนท่องมากี่รอบ เพื่อใช้มุกนี้กับฉัน

    อ้าว แล้วมันไม่ได้ผลเหรอ ที่เธอไม่ยอมสบตาเราคืออะไรจิมมี่เลิกคิ้วพร้อมยิ้มยียวนเช่นเคย มันเป็นอีกครั้งที่เขาชนะกันจนได้ นัยน์ตาสีฟ้าอมเทาของเขาเลื่อนมาจ้องมองกัน ท่าทีรอคำตอบของเขา ทำให้ฉันไปต่อไม่ถูก... ท้าเลยว่าเขารู้ดีว่ายิ่งแบบนี้ ฉันก็ยิ่งไม่กล้าสบตา มันยิ่งเป็นเครื่องยืนยันในสิ่งที่เขาพูดได้ชัดเจน

    ฉันเกลียดนาย จิมมี่!” ดูเอาเถอะ ขนาดฉันผลักเขาออกแต่เขาก็ยังไม่สลด

    แย่จัง เราดันชอบเธอไปแล้วนี่สิ เมแกน

    เดาไม่ออกเลยว่าเขามาอารมณ์ไหน แต่ที่แน่ ๆ คำพูดตรง ๆ ทำให้ใจเต้นรัวไม่หยุด น้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริง ไม่อาจสรุปได้ว่าเขาพูดจริงเพียงใด ฉันรู้สึกตัวเองเคอะเขินจนทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะตอบเขาว่าอะไรดี

    โอ๊ย จิมมี... แกล้งกันอย่างนี้ ไม่ได้รู้เลยรึไงว่านายมีอิทธิพลใจฉันมากแค่ไหน!

     

    Writer’s Talk

    แวะมาเปิดเรื่องอีกแล้ว เรื่องเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เรื่องอื่นที่ดองเราจะไม่พูดถึง

    จริง ๆ ไรต์เตอร์อยากเขียนสายตะวันตกมานานละแต่ไม่กล้า เรามาลองไปพร้อมกัน เห็นธีมแอบหวาน หลายคนอาจคิดว่าเป็นคอมเมดี้ คือใครติดตามงานเขียนไรต์เตอร์มาสักพักจะรู้เลยว่ามันเป็นงานก้ำกึ่งหมดเลย

    คราวนี้เราจะไปเที่ยวกันที่เมือง 'ดะนีดีน' ข้ามไปถึงเกาะใต้ของนิวซีแลนด์

    ทำไมต้องที่นี่เพราะการเขียนอะไรจากประสบการณ์ตนเองนั่นย่อมง่ายสุด 55 (แต่หาข้อมูลหัวบานพอกัน

    ทุกอย่างอาจไม่ได้เกิดกับไรต์เตอร์เองหมดเพราะมันคือนิยาย แต่จะพยายามถ่ายทอดออกมาให้ใกล้เคียงที่สุด

    ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคร้

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น