ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Queen ตกหลุมรักร้ายยัยสุดซ่าบ้าเต็มขั้น!!!

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : ปัง ปัง ปัง!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.46K
      13
      14 ก.พ. 57

    ดูเหมือนว่าชีวิตของผมจะมีอะไรใหม่ๆให้ทำอีกแล้ว...นั่นก็คือตอบจดหมายให้กับ ผู้หวังดี ที่ทุกวันนี้มักจะส่งเมล์มาถามสารทุกข์สุกดิบทุกวัน  ยอมรับว่าผมปลื้มนะ อย่างน้อยๆก็ได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งที่เราไม่รู้จักแม้แต่รูปร่างหน้าตาเป็นห่วงเราแม้จะผ่านตัวอักษรก็เถอะ

     

     

    ผมมักจะเล่าชีวิตประจำวันของตัวเองให้ ผู้หวังดี เสมอว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง ตอนนี้ก็เช่นกัน ผมพิมพ์บอกกับเธอไปว่า วันนี้ผมจะต้องไปเจอกับเจ้าหญิงบ๊องๆคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าทุกการกระทำ ทุกการแสดงออกของเธอนั้นตลกแค่ไหนเวลาทำตัวสูงส่งแต่จริงๆแล้วดูตลก

    ผู้หวังดีบอกกับผมว่า...ผมควรจะอยู่ติดกับเจ้าหญิงบ๊องๆของตัวเองเอาไว้

    เวลาที่ผมเศร้าให้ผมมองเจ้าหญิงบ๊องคนนั้น

    ถ้าใครทำให้ผมมีความสุขผมก็ควรจะอยู่ติดกับเขาไปซะ

    เริ่มต้นใหม่ได้...ก็รักกับเจ้าหญิงบ๊องคนนั้นไปได้เลยยิ่งดี

    ถ้าความรักมันเริ่มต้นใหม่ง่ายๆ...ความรักเก่าที่ยังจำฝังใจคงจะเสียใจไม่น้อย

    เสียงเพลง...เธอจะโกรธพี่มั้ยนะ ที่วันนี้พี่พยายามมีความสุขด้วยการอยู่กับผู้หญิงอีกคน...

    ผู้หญิงที่ไม่มีวันมาแทนเธอได้

    แต่พี่กำลังพยายามจะเอาเขามาแทนที่เธอ

     

    3

    ปัง ปัง ปัง!!!

    อะไรกัน ไหนบอกว่าจะพาฉันมาสูดอากาศทำไมฉันต้องมายืนเป็นนางแบบอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้ด้วย -__-  แล้วดูสิ คนพลุกพล่านไปมา ถ้าเกิดมีใครตั้งใจมองหน้าฉัน แล้วอนาคตจำได้ว่า ชีคกาของท่านชีคไทริลเคยมาโรงพยาบาลนี้มาก่อนจะถูกนำไปพูดต่างๆนาๆว่ายังไง

    เป็นฝีที่ตูด

    เป็นหูดที่ตับ

    กระจับเป็นพิษ

    กระจับ? เอ๊ะมันมีโรคแบบนีด้วยเหรอ ไม่รู้ล่ะ (><  )(  ><) ไม่ว่าโรคอะไรก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ฉันไม่สมควรจะถูกร่ำลือไปในทางที่ไม่ดี การมาโรงพยาบาลสำหรับฉันก็เหมือนมาในสถานที่อโคจรนั่นแหละ ทำอะไรก็มีแต่เสื่อมเสีย ที่นี่มีแต่โรค!! (เอาหน้ากากพยาบาลปกปิดหน้าอย่างโอเว่อร์)

    “เป็นอะไร ยื่นหมุนไปหมุนมาอยู่ได้”

    “มาสักที นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ไหนบอกจะพาฉันมานั่งรถเล่นสูดอากาศ ทำไมอยู่ๆกลายมาเป็นพลเมืองดีปอเต๊กตึ๊งช่วยคนนั้นที คนโน้นที”

    “เห็นคนเจ็บป่วยก็ต้องช่วยเหลือสิ”

    “ก็ควรจะช่วยตอนที่ฉันไม่อยู่สิ!

    ลูกเสือส่ายหัวดิกเหมือนกับเอือมระอาหรือเหนื่อยกับฉัน พอฉันเห้นเขาทำอย่างนั้นแล้วรู้สึกยัวะ

    “ส่ายหัวทำไมยะ ฉันไม่มีสิทธิ์บ่นหรือไง”

    “เธอจะเป็นเจ้าหญิงไม่ใช่เหรอ ก็ควรจะมีเมตตาธรรมค้ำจุนโลกเอาไว้บ้าง ถ้าวันนี้การช่วยเหลือคนประสบความสำเร็จ อนาคตข้างหน้าเกิดมีคนจำเธอได้ เรื่องพระราชกรณียกิจของเจ้าหญิงแบบเธอจะแพร่หลายไปทั่วว่าเธอช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุโดยไม่หวังผล”

    ฟุบ!

    =__=

    “โอเค เท่านี้คนก็จำหน้าฉันได้แล้ว” ฉันถอดผ้าปิดปากออกแล้วเดินเฉิดฉาย ได้โปรด ถ่ายรูปฉันสิคะ ถ่ายเลย ถ่ายบัดเดี๋ยวนี้ ฉันมาทำความดีนะฮ้า!!!

    “นี่เหรอคนจะเรียนหมอ -__- คนไข้ตายแน่ๆถ้าเธอคิดจะช่วยคนหวังผลตอบแทน”

    “ไม่ว่าจะหวังอะไรฉันก็ใช้มันสมองอันชาญฉลาดของฉันรักษาคนให้หายขาดได้ ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงจิตใจหรอก ว่าแต่คนป่วยเป็นไงบ้าง”

    “คุยกับหมอแล้ว หมอบอกว่ากระดูกที่ขาหัก ต้องเข้าเฝือก เธอคนนั้นโชคดีที่เราพามาส่งโรงพยาบาลได้ทัน”

    ลูกเสือยิ้มอย่างปลาบปลื้มที่ตัวเองได้ทำความดี ใบหน้าได้รูปนั่นเหมือนกับซาบซึ้งในสิ่งที่ตัวเองทำจนฉันอดมองอย่างทึ่งไม่ได้ คนบนโลกที่ดีก็มีอยู่จริงๆแฮะ

    “นายทำดีเพื่อให้ฉันประทับใจเหรอ”

    -__- ถ้าเป็นคนอื่นฉันเชื่อว่าต้องประทับใจแน่ แต่เป็นเธอฉันเลยคิดว่าต่อให้ฉันช่วยคนร้อยคนเธอก็มองว่าเฟค”

    “ในเมื่อรู้อย่างนั้นจะช่วยคนมากมายต่อหน้าฉันทำไม”

    “เธอต้องเรียนรู้การเป็นคนดีบนโลกใบนี้อีกเยอะเลยล่ะไอซ์”

    “อย่ามาเรียกชื่อฉันเปล่าๆปลี้ๆ กรุณาเรียกฉันว่า หม่อมไอซ์ เป็นการซักซ้อม”

    “อ้อเหรอ -__-

    ใครจะไปสน ใครจะไปแคร์ คนบนโลกนี้จะอยู่หรือจะตายก็ไม่ได้กระทบกับชีวิตของฉันสักหน่อย  โนบอดี้แคร์! (กรุณาออกเสียงแบบสำเนียงอิงลิชฟุดฟิดฟอไฟ) ฉันมองนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ชีวิตคนอื่นจะมาเบียดเบียนเวลาชีวิตของฉันมันเป็นไปไม่ได้

    “นี่มันสามทุ่มแล้ว!

    “ดึกขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”

    “วันหลังถ้าจะช่วยคนกรุณาแจ้งล่วงหน้าฉันจะได้ไม่ต้องมา ชีวิตฉันมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะนะ”

    “ทำอะไรเยอะแยะหนังสือก็ยังไม่ได้เรียน”

    “ผู้ชายต่างหากที่ฉันห่วง”

    -__-

    “วันนี้ไทริลยังไม่โทรหาฉันเลย บางทีเขาอาจจะมาหาฉันที่บ้านแต่ไม่เจอก็เป็นได้นะ ว้าย กลับดีกว่า เสียเวลาจริงๆเลย”

    “โอเค”

    “โอเคบ้าอะไร นายจะให้ฉันกลับคนเดียวเหรอ”

    “ฉันต้องอยู่ดุอาการคนป่วย”

    “นายเป็นหมอหรือไง อยู่แล้วได้อะไร ไปส่งฉันก่อน”

    “เธอน่าเหลือเชื่อมาก”

    “เร็ว!

    ลูกเสือขับรถพาฉันมาส่งบ้านในอีก 30 นาทีต่อมาแล้วก็ต้องเกิดอาการเซ็งงั่ก! เมื่อสิ่งที่ฉันคาดการณ์เอาไว้เป็นจริง ชีคไทริลเพิ่งจะกลับไปเมื่อสิบนาทีแล้ว

    “เพราะนายคนเดียว!

    “ฉันก็มาส่งแล้วไง”

    “ย้าก!

    “มันเจ็บนะเฮ้ย!

    ฉันกระโดดเอาเล็บข่วนหน้าเขาแล้วทุบตีโดยไม่สนใจสายตาของพ่อกับแม่ที่ยืนมอง ให้ตายสิ ฉันควรจะกลับบ้านมานั่งเซ็งก่อนเพื่อจะได้รอไทริล ฉันไม่น่าไปหลงเชื่อคำชวนของลูกเสือเลย!

    “ถ้าฉันกลับมารอที่บ้าน ป่านนี้ฉันได้นัดทานข้าวกับเขาแล้ว!

    “กับอีแค่ไม่ได้ทานข้าวด้วยกันมันอะไรนักหนา”

    “เฮ้ยๆ พี่ไอซ์ ในทีวีนั่นพี่หรือเปล่า O_o

    ข่าวหลังจบละครรายงานเกี่ยวกับรถที่คว่ำในวันนี้ และในกล้องนั่นติดฉันเข้าไปด้วย มีการรายงานว่ามีผู้หวังดีพาคนเจ็บมาส่งโรงพยาบาล ฉันได้แต่ยืนมองดูทีวีด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ฉันไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ ย้ากกกก!

    “นี่ทีวีระบบดิจิตอลหรือยัง HD หรือเปล่า ทำไมหนังหน้าฉันมันชัดขนาดนี้ ฉันไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ!

    ฉันหันไปเตะลูกเสือแต่กระดูกของเขาช่างแข็งเลยทำให้ฉันต้องเป็นฝ่ายเจ็บเอง แม่กับพ่อมองฉันอย่างประทับใจ

    “ไม่น่าเชื่อว่าแกจะเป็นคนจิตใจเมตตา ที่หายไปทั้งวันนี่ไปช่วยเหลือคนเหรอ”

    “ก็ไม่ได้อยากจะช่วยหรอก อยู่ๆไอ้บ้านี่...โอ๊ย ใครโทรมาอีก ฮัลโหล!

    [เฮ้]

    “เฮ้เฮ้ออะไรกัน ใครกันโทรมาแล้วทักทายเสียมารยาทอย่างนี้”

    [ไทริล -__-]

    “อุ๊ต๊ะ เซย์ไฮฮัลโหลโห่ฮิ้ววววว” แล้วทำไมไม่แนะนำตัวก่อนวะ ฉันรีบกลับคำพูดแล้วบิดเสียงนุ่มนวลน่ารัก “ได้ยินว่าท่านมาหาถึงบ้าน ขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับ”

    [ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าเธอคงกำลังยุ่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้คน ตอนนี้ฉันกำลังดูข่าวอยู่]

    หน้าฉันโทรมมากใช่มั้ยคะ!!! แน่นอนว่าอยากถามแต่ไม่ได้ถาม T^T

    “ต้องขอโทษจริงๆ...”

    [ขอโทษทำไม เธอทำดีแล้ว ฉันประทับใจมากเลยนะ]

    อุต๊ะ!!!

    “อันที่จริงการช่วยเหลือคนมันเป็นหน้าที่ของคนทุกคนอยู่แล้วค่ะ ไม่เห็นต้องชื่นชมอะไรเลย ต่อให้เป็นท่านไทริลก็ต้องช่วยจริงมั้ยคะ”

    [เธอช่างเป็นคนจิตใจงดงาม...เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้เราไปทานอาหารกัน เป็นการขอบคุณแทนคนที่เธอไปช่วยเหลือเขา]

    “ท่านไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลย”

    [แต่ไม่กินก็ได้นะ]

    “กินค่ะ!

    [โอเค ตามนั้น พรุ่งนี้เจอกัน ฉันจะไปรับเธอที่บ้าน]

    พอวางสาย ฉันก็สังเกตได้ถึงสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ฉันด้วยความรู้สึกเอือมระอา อะไรกัน อิจฉากันเหรอเนี่ย

    “ตอนอยู่โรงพยาบาล เธอบ่นได้บ่นดี” ลูกเสือ

    “กลับมาบ้าน ยังมาบ่นว่าตัวเองไม่ได้แต่งหน้าออกสื่อ” ไอ้น้ำ

    “แล้วยังกล้าไปรับความดีความชอบ” แม่

    “ทำไมทุกคนต้องทำแบบนี้ด้วย ยังไงซะฉันก้อยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น ถึงจะไม่ได้ช่วยโดยตรง แต่ก็คอยบอกวิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง!” ฉันเชิดหน้าอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร

    “แล้วนี่นัดไปกินข้าวกันที่ไหน” ลูกเสือ

    “ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย”

    “เพราะคนที่สมควรถูกเลี้ยงข้าวมันควรจะเป็นฉัน ไทริลตั้งใจเลี้ยงข้าวเธอเพราะเธอทำความดีมาไม่ใช่หรือไง?”

    “เสียมารยาทแอบฟังโทรศัพท์”

    “ใครฟังแกก็รู้ทั้งนั้นแหละว่าปลายสายเขาพูดอะไรมาบ้าง คุยเสียงดังไม่ได้กลัวคนอื่นจะได้ยิน!” แม่ขัด ฉันก็เลยทำน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียดเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ

    “ไม่คุยด้วยแล้ว นายก็กลับบ้านไปได้แล้วไป ฉันเหนื่อย จะนอน พรุ่งนี้ฉันหน้าบวมไม่ได้ จะต้องสวย โอเค้?”

    ฉันตัดบท ขึ้นข้างบนอาบน้ำนอนแต่หัววัน

    ไม่ได้หรอก ฉันจะไม่พลาดเรื่องใบหน้าเหมือนอย่างวันนี้ ไม่แน่...การที่ฉันได้ไปทานข้าวกับชีคไทริลอาจจะมีปาปารัสซี่มาแอบถ่าย ดังนั้นฉันจะต้องหน้าผอมเพรียวเฟี้ยวเงาะ

    ราตรีสวัสดิ์!!!!

     

    ยามอรุณรุ่งทอแสงมาสู่สู่สถานบ้านเกิดของฉัน ฮัดช่า!!!

    เสื้อผ้าที่แพงที่สุด ดีที่สุด และฉันตั้งใจว่าใส่ครั้งเดียวทิ้ง ตอนนี้อยู่บนตัวของฉันแล้ว และนี่คือเสื้อผ้าที่ฉันบอกเล่าเก้าสิบไปตั้งแต่ตอนที่แล้วนั่นแหละว่าฉันต้องทุบกระปุกและขโมยเงินของไอ้น้ำเพื่อไปซื้อต้อนรับการมาของไทริลแต่เขาไม่มา

    อะฮ้า!! แต่วันนี้ฉันจะได้ไปนัดทานอาหารแสนหรูกับท่านชีคแล้ว ฉันจะต้องสร้างความประทับใจให้ได้มากถึงมากที่สุด ฮิรารา (เสียงหัวเราะอย่างมีเสน่ห์)

    ฉันออกมายืนรอตรงหน้าบ้าน และเชื่อเหลือเกินว่าเขาจะมาตรงเวลา แต่ทว่า...คนที่ฉันไม่อยากเจอดันโผล่มาเสียก่อน

    “ทำไมต้องเป็นนายคนแรกในทุกสิ่ง”

    “หมายวามว่ายังไง” ลูกเสือที่มายืนดักรออยู่ตรงหน้าบ้านยักคิ้วให้ฉันพร้อมทั้งถอดแว่นตาดำออกราวกับเล่นซีรี่ย์วัยรุ่นตอนพระเอกเปิดตัว “แต่ต้องเป็นความหมายดีแน่ๆ คนแรกในทุกสิ่งและเป็นคนแรกในทุกอย่าง”

    “ไม่ต้องตีความมากย่ะน่ารำคาญ ทำไมนายจะต้องโผล่หน้ามาเสมอไม่ว่าฉันจะเริ่มต้นทำอะไรในแต่ละวัน ไม่มีอะไรทำหรือไง ครอบครัวไม่กินข้าวด้วย พ่อแม่ไม่รัก? บ้านไม่มี? เป็นขอทาน?”

    “แรงไปนะเธอ -__- ฉันก็แค่จะแวะมาดูว่าเธอเตรียมพร้อมแค่ไหน แต่ จุ๊ๆ เธอเตรียมพร้อมมากจริงๆ ว้าว...สวยนะเนี่ย”

    ฉันสะบัดผมราวกับเล่นโฆษณา

    “แน่ล่ะ ฉันเตรียมพร้อมเพื่อรอวันนี้มานาน อย่ามาทำเสียอารมณ์ อ๊ะ ไทริลมาแล้ว”

    “น่ารำคาญชะมัด”

    “ไปไป๊!

    รถลีมูซีนคันยาวเป็นรถไฟจอดเทียบท่าหน้าบ้านฉัน จากด้านหน้าของรถวัดความยาวไปทางด้านหลังมันทำให้ฉันรู้สึก...ประเมินมิได้ ยาวจริงๆ จะเลยรั้วบ้านฉันไปแล้วเนี่ย =__=  คนขับรถของไทริลเดินลงมาเปิดประตูให้เขาท่านชีคที่วันนี้ใส่สูดสีน้ำราลอ่อนกับเชิตสีดำตัดกันอย่างมีสไตล์

    “วันนี้เธอสวยมากเลย”

    “ขอบคุณค่ะ วันนี้ท่านชีคก็ดูดีมาก”

    “เอ๊ะ นายหน้าคุ้นๆ” ชีคมองไปทางลูกเสือแล้วทำท่าจะทัก ส่วนลูกเสือเองพร้อมจะออกมาแสตนด์บายเสนอหน้า แต่ฉันรีบตัดบท จะรู้จักกันไปทำไม ไร้สาระ -*-

    “รีบไปกันดีกว่าค่ะ ฉันตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวคอยท่านหิวจะแย่แล้ว”

    “เอาอย่างนั้นเหรอ โอเคๆ”

    ไทริลแม้จะงงๆอยู่บ้างแต่ก็ยอมทำตาม เขาเปิดประตูรถให้ฉันอย่างสุภาพบุรุษ จังหวะที่ฉันจะขึ้นรถฉันก็ถูกกดหัวจากชีคทันที

    “หลบ!

    ปัง ปัง ปัง

    เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ฉันที่เตรียมจะไปเดตขี้แทบแตกเลอะกระโปรง!  ลูกเสือเองก็หมอบลงต่ำแล้วคลานมาหาฉันอย่างเป็นห่วง

    “ไม่เป็นไรใช่มั้ย เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

    “ฉันไม่เป็นไร T^T

    ท่านชีคลุกขึ้นแล้วมองตามรถมอเตอร์ไซด์ที่ยิงอย่างอุกอาจด้วยแววตาโกรธแค้น ลูกเสือลุกขึ้นแล้วกระชากคอเสื้อชีคอย่างโมโห

    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมมีปืนด้วย”

    องครักษ์ของชีคที่มาในมาดของคนขับรถพุ่งเข้าไปจับตัวลูกเสืออย่างรวดเร็ว แต่ไทริลโบกมือห้ามเอาไว้

    “ปล่อยเขา เราสมควรถูกเขาโกรธ” ไทริลยังคงใจเย็นมาก เหมือนกับว่าเขาเจอเรื่องนี้มาจนเคยชินแล้ว “ถ้าเราไม่มาที่นี่ พวกเขาก็คงไม่ได้รับอันตราย สมควรแล้ว...สมควร”

    “มันอะไรกัน...คะ”

    “ฉันถูกลอบฆ่า”

    “หา!!!

    “ผู้ยิ่งใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ทุกคนแหละ ^^

    โอ้ไม่นะ!!! มันต้องมีสักคนที่ไม่ถูกลอบทำร้ายสิ มายก้อดดดดดด TT^TT


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×