คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอน : THE END [Chapter : 18] ^_^
+ - บทที่ 18 - +
หญิงสาวที่สวมหน้ากากสีขาวปิดบังใบหน้าข้างหนึ่งก้าวเข้ามาในห้อง ก่อนจะพูดบางอย่างกับลูเซียสซึ่งมีท่าทีอ่อนลงทันทีที่ได้ฟังสิ่งที่หญิงสาวพูด เขารับไม้กายาสิทธิ์ของตัวเองคืนมาจากเธอก่อนจะเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อคลุมทันที... ดวงตาสีเขียวมรกตของหญิงสาวจ้องมองใบหน้าของพวกเขาทั้งสองที่นั่งอยู่บนพื้นหินเย็นเฉียบ พลันรอยยิ้มน้อยๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ...หญิงสาวดีดนิ้วครั้งหนึ่ง แล้วไวโอลินที่ทำจากเนื้อไม้สีน้ำตาลก็ปรากฏขึ้นในมือ... ดวงตาสีสวยของเธอยังไม่ละไปจากใบหน้าของพวกเขา ในขณะที่เธอเริ่มบรรเลงเพลงที่มีจังหวะเร็ว แล้วเสียงแหลมบาดหูของไวโอลินก็ดังขึ้น
เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยยกมือขึ้นปิดหูทันทีโดยสัญชาตญาณ ทั้งสองหลับตาและขมวดคิ้วแน่น พร้อมกับคิดว่าเพลงที่กำลังได้ฟังอยู่นี่เป็นเพลงที่น่าสยองที่สุดในชีวิต... เสียงแหลมสูงผิดธรรมชาติจากไวโอลินยังดังต่อไปราวกับไม่มีวันจะสิ้นสุด แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่รู้สึกปวดหัว หรือเกิดอาการอะไรก็ตามที่ควรจะเป็นเมื่อกำลังถูกลบความทรงจำ
...+*+*+...
ผึง!!! สายไวโอลินสายหนึ่งขาดออก พร้อมกับเสียงไวโอลินที่เงียบหายไปทันที
ทั้งสองลืมตาขึ้นทันทีที่เสียงไวโอลินหยุดลง แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องทำงานของนายลูเซียส มัลฟอยอย่างที่ควรจะเป็น แต่พวกเขากำลังอยู่ในถ้ำเล็กๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากก้อนหินมากมายที่ถูกน้ำแข็งเกาะ
"ข้าเกลียดเพลงนี้ที่สุด เล่นทีไรก็ชวนขนลุกทุกที... พวกเจ้าก็คงคิดเหมือนข้าใช่ไหม" หญิงสาวที่สวมหน้ากากสีขาวพูดราวกับชวนคุย ก่อนจะนั่งลงบนก้อนหินตรงหน้าพวกเขา โดยที่ยังถือไวโอลินที่สายหนึ่งขาดไปไว้ในมือ แล้วเธอก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากปากของทั้งสอง
"ข้าไม่ได้ลบความจำของพวกเจ้าหรอกนะ..." หญิงสาวกล่าวหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทรกอยู่นาน
"คุณเป็นใคร!?" เฮอร์ไมโอนี่ถามในทันที พลางมองหญิงสาวที่ลุกขึ้นจากก้อนหิน และเดินมาใกล้มากจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกกลัวดวงตาสีเขียวมรกตที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างพินิจ ในขณะเดียวกันกับที่มัลฟอยเริ่มรู้สึกปวดหัวมากขึ้นทุกทีที่หญิงสาวเข้ามาใกล้เขามากขึ้น
"นี่เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเราเคยพบกันแล้วครั้งหนึ่ง..." คำพูดของหญิงสาวราวกับไปกระตุ้นต่อมความจำของเฮอร์ไมโอนี่ ภาพความทรงจำที่ขาดหายไปกลับปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง '...ข้ามีนามว่า... สเกเชียส
'
"สเกเชียส!" เฮอร์ไมโอนี่โพล่งออกมา พร้อมกับรู้สึกกลัวผู้หญิงตรงหน้าขึ้นมาจับใจ
"ในที่สุดเจ้าก็จำข้าได้" สเกเชียสพูด แล้วยิ้มมุมปาก
"คุณต้องการอะไรอีก!?" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงสั่น ก่อนจะหันหามัลฟอยที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วเธอก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าของเขาซีดเซียวไม่ต่างอะไรกับริมฝีปากที่ซีดจนไม่เหลือสี เหงื่อเม็ดเล็กๆ มากมายผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังหลับตาแน่นและนั่งพิงก้อนหินเย็นเฉียบด้านหลังอย่างอ่อนแรง
"มัลฟอย!!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง แล้วค่อยๆ พยุงร่างของเขาขึ้นมาประคองไว้ในอ้อมแขน
"ชั้น... ไม่เป็นไร..." มัลฟอยครางเสียงแผ่ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาเลย
"คนที่ถูกข้าลบความทรงจำ มักจะอยู่ใกล้ข้าไม่ได้..." สเกเชียสกล่าวด้วยเสียงของชายหนุ่ม ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หันมาจ้องเขาทันที
"คุณนั่นเองที่ลบความทรงจำเขา!!! ทำไมคุณไม่ลบความจำของชั้นด้วยเลยล่ะ!!! ชั้นจะได้ไม่ต้องทนเห็นเค้าเจ็บปวดทุกครั้งที่พยายามนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา!!!" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาตามร่องแก้ม
"ข้าเข้าใจดี ว่าเจ้าต้องเจ็บปวดแค่ไหน... แต่หากข้าลบความทรงจำของพวกเจ้าทั้งสองไปพร้อมกัน พวกเจ้าก็จะไม่มีวันได้ความทรงจำของพวกเจ้ากลับคืนมา..." สเกเชียสบอกด้วยเสียงของหญิงสาว ซึ่งนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปทันที เธอคิดไม่ถึงว่าเขาทำอย่างนี้เพื่อเปิดโอกาสให้เธอเป็นฝ่ายรื้อฟื้นความทรงจำของมัลฟอยกลับคืนมา
"เจ้าคงคิดไม่ถึงสินะ... ลูเซียสเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน เขาคิดว่าที่ข้าทำแบบนี้ เพื่อที่จะทรมานเจ้า..." สเกเชียสบอกก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง "ข้าทรยศผู้มีพระคุณของข้า..." สเกเชียสครางเสียงแผ่ว ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกใจหายเมื่อรู้ว่าสเกเชียสกล้าหักหลังลูเซียสเพื่อช่วยเธอและมัลฟอย
"เจ้ามีเวลาถึงเที่ยงคืนวันนี้... จงไปตามหาดอกไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีและมิตรภาพมาให้ข้า... มันเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ข้ามีพลังมากพอที่จะนำความทรงจำของเดรโกกลับคืนมาได้... และหากเจ้าทำไม่สำเร็จ... ข้าก็มิอาจนำความทรงจำของเดรโกกลับคืนมาได้..." สเกเชียสกล่าวด้วยน้ำเสียงของหญิงสาวที่อ่อนโยน
...+*+*+...
อันที่จริงสเกเชียสวางแผนจะให้เฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้รื้อฟื้นความทรงจำของมัลฟอยกลับคืนมาด้วยตัวของเธอเอง เพราะ มันเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับตัวเขาและมัลฟอย แต่ในเมื่อตอนนี้ลูเซียสเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการกระทำของเขาและอีกอย่างการที่จะรื้อฟื้นความจำของคนที่ถูกเขาลบความทรงจำนั้นจะต้องใช้เวลานาน... อาจจะเป็นเดือน หรือ อาจจะนานถึงปี...
สเกเชียสจึงต้องลงมือเอง เขาตระหนักดีว่าการที่จะดึงความทรงจำกลับคืนมานั้น ยากกว่าการที่จะลบความทรงจำเสียอีก... ลำพังเพียงตัวเขาเองก็ไม่มีพลังมากพอที่เรียกความทรงจำของมัลฟอยกลับคืนมาได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีดอกไม้ชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยให้พลังของเขามากพอที่จะนำความทรงจำกลับมา... ดอกไม้ที่เขารู้จักดีในฐานะดอกไม้แห่งความจงรักภักดีและมิตรภาพ... แต่ไม่ว่าจะรู้จักมันดีสักแค่ไหน เขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าดอกไม้ที่เขาปรารถนานี้มีชื่อว่าอย่างไร...
+To be continued+
note : สวัสดีค่า มิตรรักแฟนเพลง (คนอ่าน say : คือ แกแต่งฟิก) ฮ่าฮ่า ก็สวัสดีทุกๆ คนเลยนะคะที่เปิดเข้ามาอ่านฟิกของกวาง คือกวางมีเรื่องอยากจะบอกค่ะ ว่าตั้งแต่วันนี้ (วันที่ 1 ตุลาคม 2549) ถึงสิ้นเดือนนี้ (วันที่ 31 ตุลาคม 2549) กวางคงไม่ได้มาอัพฟิกเลยนะคะ เน้น!! ว่า ไม่ได้มาอัพเลย เพราะว่า กวางต้องไปต่างจังหวัดอ่ะค่ะ ขอโทษจริงๆ ที่จะไม่ได้มาอัพ!!! ขอโทษอย่างแรงที่สุด!!! เอาเป็นว่า ถ้ากวางกลับมาจากต่างจังหวัดเมื่อไหร่ ก้อจะมาอัพให้เลยนะคะ
หลายคนคงสงสัยว่า ต่างจังหวัดบ้านแกไม่มีคอมพิวเตอร์เลยหรอ... อืมมมม มีค่ะ แต่เครื่องเค้าใช้ทำงานอ่าค่ะ... ตอนกลางวันก็ต้องช่วยป๊าขายของค่ะ (แลกกับการได้เรียนพิเศษค่ะ T_T ชีวิตรันทด) พอกลางคืนจาแอบเล่นก้อมะได้ เพราะ ต้องนั่งเล่นคนเดียวมืดๆๆ (บรรยากาศที่มีแต่เสียงแมลง หวีด หวีด หวีด!! สยองค่ะ - -ll)
เอาเป็นว่าระหว่างอยู่ที่นู่นนะคะ กวางจะรีบปั่นฟิกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!!!
ร๊ากกกกก ทู๊กกกกกก โคนนนนนนนน
ด้วยจิตคาราวะ
เด็กผมฟู
ป.ล.
*ใครถอดใจเลิกอ่านฟิก กวางขอให้สำลัก... สำลัก... (อะไรดี)... น้ำลำไย ฮ่าฮ่า <- เพื่อ?
*อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ...
(ภาพตกแต่งจากเพื่อนของกวางค่ะ... "mato" ถ้า copy ไปลงที่อื่นก้อให้ credit เค้าด้วยนะคะ)
ขอบคุณค่ะ!! :)
ความคิดเห็น