คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอน : การเริ่มต้น
+ -บทที่ 1- +
ณ โรงเรียนพ่อมด แม่มด และเวทมนต์ศาสตร์ฮอกวอตส์
ในคืนที่มีฝนตกหนัก ในห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธีริน... เดรโก มัลฟอยกำลังนั่งเขียนจดหมายถึงพ่อของเขาอยู่ โดยมีแครบกับกอยล์ นั่งขนาบอยู่ข้างๆ เหมือนเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ๆ ไร้สมอง นั่งรกหูรกตาน่ารำคาญอยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวมบ้านสลิธิริน
"นายเขียนจดหมายถึงใครอ่ะ มัลฟอย" แครบถามอย่างสงสัยใคร่รู้
"ทำไมฉันต้องบอกแกด้วย" มัลฟอยตอบแบบไม่ค่อยใส่ใจนัก
"เขียนถึงพ่อนายรึเปล่า แล้วเขียนเรื่องอะไรเหรอ" กอยล์ ถามเสียงยานคาง แต่มันเป็นการตัดสินใจถามที่โง่ที่สุด
"ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่เกี่ยวกับพวกแกสองคน... อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง ไปนั่งที่อื่นเลย จนกว่าฉันจะเขียนจดหมายเสร็จ" มัลฟอยบอกแครบและกอลย์ ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด และแทบจะในทันทีที่ทั้งสองรีบย้ายไปนั่ง แพนซี่ พาร์กินสัน
+*+*+
อันที่จริงแล้วเรื่องที่มัลฟอยเขียนถึงพ่อของเขานั้น เกี่ยวกับเรื่องเมื่อสามชั่วโมงที่ผ่านมา ก่อนที่เขามานั่งอยู่ที่นี่ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่ห้องโถงขณะเวลา อาหารเย็น เฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งทานอาหารและ คุยกับแฮร์รี่และรอนอย่างสนุกสนาน และด้วยเหตุผลบางประการ มัลฟอยจึงคิดอยากจะเดินมาหาเรื่องเธอ
"ดูนั่นสิ... ยัยเลือดสีโคลนสกปะ..." ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ น้ำฟักทองเย็นเฉียบแก้วหนึ่งก็ถูกสาดไปอยู่บนหน้าของเขา
รอนและแฮร์รี่ที่กำลังมองดูเหตุการณ์อยู่นั้น ได้แต่นั่งอึ้งที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่กล้าสาดน้ำฟักทองใส่มัลฟอยได้อย่างไร?
"ฉันทนไม่ไหวจริงๆ ตั้ง 2 ปีแล้วนะ ที่เขาพูดอย่างนี้ (ตอนนี้พวกเขาอยู่ปี 3)" จากนั้นเธอก็ไม่รีรอ เดินกลับห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินนดอร์ทันที แต่ดูเหมือนว่าไม่มีอาจารย์คนไหนทันสังเกตเห็นเหตุการณ์นี้ แม้แต่สเนปก็เถอะ
และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไม เดรโก มัลฟอยถึงเขียนจดหมายไปหาพ่อของเขา
+*+*+
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ไม่ค่อยจะสดใสนักของเฮอร์ไมโอนี่ เธอไม่พูดอะไรกับแฮร์รี่และรอนเลยตลอดเวลาอาหารเช้า ในที่สุดนกฮูกไปรษณีย์ก็เดินทางมาถึงและดูเหมือนจะมีแต่ แฮร์รี่ เท่านั้นที่ไม่ได้รับสิ่งของใดๆ เลย จากนั้นไม่นานนักก็มีเสียงดังมาจากโต๊ะ สลิธิริน เจ้าของเสียงนั่น คือ มัลฟอยนั่นเอง
"โธ่เอ๊ย!!" มัลฟอยร้องเสียงดัง จนอาจารย์ที่อยู่โต๊ะข้างหน้าหันมามอง
"เป็นอะไรหรือ มิสเตอร์มัลฟอย" ศาสตราจารย์มักกอลนากัลถามด้วยเสียงอันดัง แต่มัลฟอยไม่ได้ใส่ใจ เขารีบเดินออกจากห้องโถงไปทันที โดยมี แครบและกอยล์ติดสอยห้อยตามไป และพวกเขาทั้งสามก็รีบเดินไปตามทางที่พาไปห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธิริน
+ -บทที่ 2- +
เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธิริน
"มีอารายเหรอมัลฟอย" กอยล์ ถามเสียงยานคางโง่ๆ ตามสไตล์ของเขา
"พ่อของฉันไม่เคยช่วยอะไรฉันได้สักที ตอนนี้พ่อบอกว่า ติดงานที่กระทรวงตอนนี้ยุ่งมาก ยังไม่มีเวลาช่วยฉัน" มัลฟอยพูดน้ำเสียงโมโห
"แล้วนายจะให้พ่อนายช่วยเรื่องอะไรล่ะ" แครบถามเหมือนเขาอาจจะช่วยได้บ้าง
"ไม่เกี่ยวกับแกสองคน" มัลฟอยตวาดเสียงก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นรวมบ้านสลิธิริน "สงสัยฉันต้องหาทางแก้แค้นยัยนั่นเองแล้วล่ะ แครบ กอยล์!! วันนี้ พวกแกสองคนคอยสะกดรอยตามยัยเกรนเจอร์อย่าให้คลาดสายตา แล้วถ้ายัยนั่นทำอะไรที่มันไม่ดีไม่งามล่ะก็ รีบมารายงานฉันทันทีนะ" มัลฟอยออกคำสั่ง
"ดะ ได้" แครบและกอยล์ตอบพร้อมกัน
+*+*+
ตลอดวันนั้นแครบกับกอยล์เฝ้าดูเฮอร์ไมโอนี่ตลอดเวลา แต่ใครๆก็รู้ว่าพวกเขาไม่มีสมอง เขาก็ตามเฮอร์ไมโอนี่ตามแบบฉบับของพวกเขานั่นแหละ พอเฮอร์ไมโอนี่เดินไปเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ที่เรือนกระจก 5 แครบและกอยล์ ก็ทำตัวเป็นพุ่มไม้เดินได้ ตามเฮอร์ไมโอนี่ไป แต่มันก็ได้ผล เพราะ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันได้สังเกต
+*+*+
"เฮอร์ไมโอนี่ เธอโกรธอะไรพวกเราเหรอ เราไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ที่ผิดน่ะ มัลฟอยต่างหาก" รอนถามเฮอร์ไมโอนี่ขณะกำลังตักซุปข้าวโพดเข้าปาก
"ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรพวกเธอนี่" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ "ฉันแค่ไม่อยากพูดอะไรก็เท่านั้น" แล้วเธอก็ก้มหน้าก้มตากินสลัดของเธอต่อไป
จากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยขณะเวลาอาหารเย็น เฮอร์ไมโอนี่ทานเสร็จก่อนเธอจึงขอกลับห้องนั่งเล่นรวมไปก่อน เพื่อไปทำการบ้านวิชา สมุนไพรศาสตร์ให้เสร็จ เมื่อแครบกับกอยล์เห็นเฮอร์ไมโอนี่ออกมา ทั้งสองก็รีบเดินตามไปทันที
+*+*+
ระหว่างทางที่เฮอร์ไมโอนี่เดินไปห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินดอร์นั้น เธอก็รู้สึกผิดสังเกตเหมือนมีสายตากำลังจับจ้องเธออยู่
"ใครกัน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ" โดยสัญชาตญาน เธอจึงหยิบไม้กายาสิทธิออกมาโดยอัตโนมัติ
"หวัดดี สาวน้อยผมฟู" มีเสียงดังมาจากที่ไหนซักแห่ง
"หวัดดี นายคือใคร" เฮอร์ไมโอนี่ถาม
"ฉันคือ " เสียงนั้นตอบกลับมา ทำให้เฮอร์ไมโอนี่กลั้นหายใจรอฟังคำตอบ
"พีฟส์" จากนั้นไม่ถึงวินาทีเจ้าของเสียงก็ลอยออกมา พีฟส์ ผีโพสเตอร์ไกส์นั่นเอง
"โธ่ พีฟส์นายทำให้ฉันตกใจนะ" เฮอร์ไมโอนี่เอ็ด พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ฉันมีอะไรจะให้เธอ" ว่าแล้ว พีฟส์ก็โปรยจดหมายจำนวนมากมาย ลงมาใส่เฮอร์ไมโอนี่
"ของใครน่ะ มันเหมือนจดหมายรักนะเนี่ย ของใคร" เฮอร์ไมโอนี่ถามเจ้าผีจอมแสบ พีฟส์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบ
"ของฟิลช์ อากัส ฟิลช์ ช่วยเอาไปคืนให้เขาทีนะ เพราะว่า ฉันแอบเอามา แล้วลืมว่าเขาเก็บไว้ที่ไหน ลาก่อน!" เมื่อพีฟส์พูดจบ มันก็ลอยทะลุกำแพงไป ทิ้งเฮอร์ไมโอนี่ให้ยืนงงอยู่ตรงนั้น
+ -บทที่ 3- +
แครบกับกอยล์ที่ตามมานั้น แอบได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงรีบไปบอกมัลฟอยทันที .
"มัลฟอย ฉันมีเรื่องอะไรจะบอกนาย" แครบบอกมัลฟอยที่กำลังนั่งหั่นไส้กรอกอยู่ในห้องโถง
"ว่าไง มีอะไร" มัลฟอยหันหน้าไปถามแครบกับกอยล์
"ก้อ ยัยเกรนเจอร์อ่ะ ถูกพีฟส์แกล้งให้เอาจดหมายรักของฟิลช์ที่มันขโมยมาไปคืนฟิลช์" กอยล์รายงาน ด้วยเสียงยานคาง
"งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้า นายก็รีบไปบอกฟิลช์ให้มาจัดการกับยัยนั่น ก็แล้วกัน ให้เร็วด้วยล่ะ" มัลฟอยบอกด้วยเสียงมีชัย "ฉันอยากจะเห็นหน้าของยัยนั่นนัก!"
"อืม ได้" แครบพูดตอบ
+*+*+
เมื่อแฮร์รี่และรอนปีนผ่านช่องหลังรูปภาพของสุภาพสตรีอ้วนเข้ามาแล้ว พวกเขานึกว่าจะเห็นเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ข้างหลังหนังสืออ้างอิงที่นำมาใช้ทำการบ้านวิชาสมุนไพรศาสตร์ แต่มันกลับตรงกันข้าม เฮอร์ไมโอนี่นั่งเอนหลังอย่างสบายอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิง และมีซองจดหมายจำนวนมากมาย กองอยู่ข้างตัว
"อ้าว ฉันนึกว่าเธอกลับมาทำการบ้านซะอีก" แฮร์รี่ถาม
"ตอนแรกฉันคิดว่าจะทำ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ตอนนี้เธอดูอารมณ์ดีกว่าตอนที่อยู่ในห้องโถง
"ทำไมล่ะ แล้วนั่นจดหมายของใคร" รอนที่เดินตามแฮร์รี่มาถามบ้าง และนั่งลงข้างๆ แฮร์รี่
"อ๋อ จดหมายรักของฟิลช์น่ะ ฉันอ่านไปได้สองสามฉบับแล้วล่ะ มันหวานเลี่ยนเลยล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าเหมือนพึ่งกินน้ำตาลเข้าไปสักโหล
"ฟิลช์ ชอบเธอเหรอ ถึงส่งจดหมายมาให้อ่ะ" แฮร์รี่พูด แล้วเขากับรอนก็ลงไปนอนหัวเราะกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น
"ไม่ใช่ จดหมายของฟิลช์พอดรักถึงมาดามพินซ์ บรรณารักษ์น่ะ พีฟส์ไปขโมยมา แล้วก็เอามาแกล้งฉัน ให้ฉันเอาไปคืนฟิลช์ ฉันก็เลยอ่านดู ว่าจะเป็นยังไง" เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย
"แล้วเธอจะเอาไปคืนเขายังไง" รอนถาม ตอนนี้เขาและแฮร์รี่เลิกลงไปกลิ้งแล้ว แต่เปลี่ยนมาเป็นนั่งบนพื้นแทน
"เธอคิดว่า ฉันจะเอาไปคืนเขารึไง ฉันจะเอาไปให้มาดามพินซ์ดีกว่า ฉันว่าฟิลช์คงไม่กล้าเอาไปให้เธอน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกพร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย
+ -บทที่ 4- +
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่แทบจะเรียกได้ว่า สดใสที่สุดของมัลฟอยเลยก็ว่าได้ เขาสะใจที่จะได้แก้แค้นเฮอร์ไมโอนี่ เขาจึงสั่งให้แครบและกอยล์รีบไปบอกอากัส ฟิลช์แต่เช้า ในวันนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ตื่นเช้าเช่นกัน เธอตั้งใจจะนำจดหมายจากฟิลช์ไปให้มาดามพินซ์ที่ห้องสมุดแต่ระหว่างทาง เธอจะไปเจอกับมัลฟอยเข้า
"หวัดดี เกรนเจอร์" มัลฟอยทักทาย พร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาทของเขา
"หวัดดี มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี้ตอบบ้าง เธอสงสัยมัลฟอยที่วันนี้เขาสุภาพและอารมณ์ดีผิดปกติ
"ถืออะไรมาด้วยน่ะ เกรนเจอร์ จดหมายรักเหรอ" มัลฟอยถาม เสียงสูงกว่าปกตินิดหน่อย
"ไม่เกี่ยวกับนาย หลีกทาง ฉันจะไปห้องสมุด" เฮอร์ไมโอนี่บอก มัลฟอยด้วยเสียงแข็งกร้าว
"นี่ ฉันพูดดีๆ กับเธอแล้วนะ" เขาพูดแต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจอะไร เดินชนไหล่มัลฟอยจนเขาเซไปเล็กน้อย
แต่แล้วมัลฟอยก็วิ่งไปดึงจดหมายจากมือของเฮอร์ไมโอนี่มาสองฉบับ แล้วซีกซองออกอ่าน ทำเหมือนว่าเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าจดหมายนี่เป็นของฟิลช์ จากนั้นไม่ถึง 10 วินาที เฮอร์ไมโอนี่ก็เห็นแครบและกอยล์พาฟิลช์เดินกระโผลกกระเผลกขึ้นมาจากบันได มัลฟอยไม่มีท่าทางตกใจใดๆทั้งสิ้น เขายังคงอ่านจดหมายต่อไป แต่เฮอร์ไมโอนี่นั้นอยากจะไปเจอมัลฟอยที่อื่นไม่ใช่ที่นี่ ที่ๆ ฟิลช์จะมาเจอ
"เกรนเจอร์ มัลฟอย ส่งจดหมายนั่นมานี่" ฟิลช์พูด พร้อมกับทำหน้าเหมือนพร้อมจะกินคน เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเล็กน้อย แต่มัลฟอยดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เขาเพียงแต่ยื่นจดหมายคืนให้กับฟิลช์ ซึ่งเธอก็ทำตาม
"พวกเธอสองคนมากับฉัน" ฟิลช์พูดเสียงดัง
"อะไรนะ ' พวกเธอสองคน' คุณคงเข้าใจอะไรผิดนะคุณฟิลช์ ผมเป็นคนให้เพื่อนผมไปบอกคุณเรื่องนี้นะ ฉะนั้นก็ต้องเป็นยัยเกรนเจอร์คนเดียวซิ" มัลฟอยพูด ตอนนี้เขาดูเหรอหรามาก และตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็รู้แล้วว่าทำไมวันนี้มัลฟอยถึงสุภาพและอารมณ์ดีผิดปกติ
"ไม่ มิสเตอร์มัลฟอย เธอกับมิสเกรนเจอร์ถูกแล้ว เพราะว่า " ฟิลช์เว้นช่วงเล็กน้อย "แอบอ่านจดหมายที่สำคัญของฉัน และเกรนเจอร์ เธอก็คงจะแอบอ่านจดหมายของฉันแล้วเหมือนกัน เจ้าเด็กไร้มารยาท ฉันจะไปขออำนาจจากศาสตราจารย์สเนป ให้กักบริเวณพวกเธอกับฉัน" ฟิลช์พูดด้วยเสียงโมโหอย่างถึงที่สุด
ถึงตอนนี้มัลฟอยดูเหมือนจะเรียกรอยยิ้มกวนประสาทของเขากลับมาได้แล้ว เพราะ ฟิลช์จะไปฟ้องเรื่องนี้กับสเนป... ศาสตราจารย์ประจำบ้านสลิธิริน
+*+*+
เมื่อไปถึงคุกใต้ดิน ฟิลช์ก็ให้มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ รออยู่ข้างนอก และเขาก็เข้าไปข้างในห้องทำงานของสเนปคนเดียว
"สวัสดีครับ ท่านศาสตราจารย์ สเนป" ฟิลช์พูดอย่างสุภาพ
"มาหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ คุณฟิลช์" เสนปพูดอย่างสุภาพเช่นกัน
"ผมมาขอกักบริเวณเด็กครับ พวกเขาทำผิดอย่างมาก พวกเขาแอบอ่านจดหมายที่สำคัญของผมครับ" ฟิลช์รายงาน
"ใคร" สเนปถามห้วนๆ ขณะที่เขาก้มหน้าก้มตาตรวจการบ้าน และเขียน ตัว "ล" ลงไปในการบ้านของเนวิลล์
"เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ .." ยังไม่ทันที่ฟิลช์จะพูดจบ สเนปก็พูดขัดขึ้นมา เพราะเขาคิดว่าอีกคนต้องเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่ๆ
"ได้เลย โทษอย่างแรงที่สุดก็ได้นะฟิลช์ ผมตามใจคุณ ผมจะเซ็นต์รับรองให้นะ" จากนั้นสเนปก็หยิบม้วนกระดาษกับปากกาขนนกขึ้นมา ขีดเขียนลายเซ็นต์อย่างหวัดๆ และยื่นส่งให้ฟิลช์
"ขอบคุณมากครับ" ฟิลช์พูดพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อย
"ไม่เป็นไร คุณฟิลช์" สเนปพูด พร้อมกับก้มหัวที่มีผมมันเยิ้มให้ฟิลช์เป็นการตอบรับ
+ -บทที่ 5- +
ฟิลช์เดินออกมาจากห้องทำงานของสเนปพร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีชัย และอวดมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ให้ดู ใบรับรอง มัลฟอยอ้าปากค้าง ไม่เชื่อว่า สเนปจะกล้ากักบริเวณเขา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งสายตาเหยียดหยามไปให้ฟิลช์
"พวกเธอจะต้องถูกกักบริเวณกับฉัน 2 ทุ่มของวันนี้ไปหาฉันที่ห้องของฉัน อย่าผิดนัดนะ พวกเธอ" ฟิลช์พูดอย่างดีใจเป็นที่สุด
จากเช้าที่เป็นเช้าที่สดใสของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่ มันถูกทำลายกลายเป็นเช้าที่แย่ที่สุดในชีวิตของพวกเขาไปแล้ว มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่เดินไปห้องโถงด้วย ทั้งสองสบตากันสองสามครั้ง เมื่อมาถึงห้องโถง มัลฟอยก็พูดกับเฮอร์ไมโอนี่ว่า
"แล้วเจอกันตอนกักบริเวณนะ เกรนเจอร์" มัลฟอยพูดน้ำเสียง และยิ้มกวนๆ ให้เด็กหญิง
"ถ้าไม่ใช่นาย มันก็ไม่เกิดเรื่องหรอก" เฮอร์ไมโอนี่ชำเลืองมองมัลฟอยครั้งหนึ่ง แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา ทำให้เด็กชายตกใจจนอยากจะไปจากที่นี่ แต่เขาก็ยังยิ้มอยู่
"ขอโทษ เกรนเจอร์" เขาพูดเสียงแผ่วที่ไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน แต่เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเต็ม 2 รูหู เธอไม่สนใจจะฟังคำขอโทษ เด็กหญิงยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะวิ่งไปนั่งกับแฮร์รี่และรอนที่โต๊ะของกริฟฟินดอร์
"เป็นยังไงบ้าง สำเร็จไหม แล้วมาดามพินซ์ว่าไง" แฮร์รี่รีบถาม
"ถูกกักบริเวณ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบห้วนๆ
"ฮะ มาดามพินซ์ใจร้ายถึงขนาดกักบริเวณเธอเลยเหรอ... ไม่น่าเชื่อ" รอนพูดว่ามาดามพินซ์
"ไม่ใช่ มาดามพินซ์ ฟิลช์ต่างหาก ฉันถูกกักบริเวณกับ... มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเศร้า ดูเหมือนเธอจะร้องไห้อีกในไม่ช้านี้
"แหม สมน้ำหน้า" รอนพูด "เออ ฉัน ฉันไม่ได้ว่าเธอนะ ฉันว่ามัลฟอยต่างหาก" รอนรีบแก้ตัวเมื่อเห็นน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเฮอร์ไมโอนี่ "ฉันขอโทษ ฉันว่ามัลฟอย" รอนพูด น้ำเสียงรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร" จากนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่งถึงเย็น
+*+*+
ตลอดวันมัลฟอยพยายามไล่ความรู้สึกผิดที่อยู่ในหัวใจออกไป 'ชั้นแค่อยากจะแกล้งเฮอร์ไมโอนี่ เพียงเพื่อความสะใจของชั้นเท่านั้นเหรอ... ชั้นอยากจะแก้แค้นเธอเพราะเธอสาดน้ำฟักทองใส่ชั้น แต่มันก็สมควรที่เธอจะทำ เพราะชั้นไปหาเรื่องเธอก่อนเอง' นั่นเป็นสิ่งที่มัลฟอยคิด แทบทุกครั้งที่เขาว่าง
"ชั้นขอโทษเฮอร์ไมโอนี่ ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอร้องไห้ " เขาพูดเสียงแผ่วขณะนั่งอยู่ในห้องสมุด
"นายขอโทษอะไรฉันมัลฟอย" แครบถาม และมีสีหน้างงๆ
"ไม่เกี่ยวกับแก" มัลฟอยตะโกนใส่ แครบซึ่งกระโดดไปนั่งตักกอยล์ทันที ที่เขาหันมา
"เอ่อ มิสเตอร์มัลฟอยจ๊ะ ช่วยลดเสียงลงหน่อย" มาดามพินซ์บอกเขาด้วยเสียงอ่อนโยน
"เกรนเจอร์ เธอคงจะโกรธฉันมากซินะ ชั้น ชั้นคงจะเลวมากในสายตาของเธอ" มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ
+*+*+
ณ ห้องนั่งเล่นรวมบ้านกริฟฟินดอร์
"ต้องให้พวกเราไปส่งเธอไหม เฮอร์ไมโอนี่" รอนถามน้ำเสียงเป็นห่วง
"ไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ" แล้วเธอก็สร้างรอยยิ้ม ขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ เพื่อให้แฮร์รี่และรอนสบายใจ จากนั้นเธอก็ปีนผ่านช่องข้างหลังรูปภาพของสุภาพสตรีอ้วน และไปตามทางที่พาไปสู่ห้องของฟิลช์
+*+*+
เมื่อเดินไปถึงห้องของฟิลช์ ตอนนั้นก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรง มัลฟอยเดินออกมาจากข้างหลังรูปปั้นมืดๆ ใบหน้าซีดเซียวของเขาทำเอาเฮอร์ไมโอนี่เกือบช็อก (คงนึกว่าเป็นผีล่ะมั้ง) แต่วันนี้เขาดูซีดผิดปกติจริงๆ
"โอ้ว! หวัดดีมัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ ทักทายด้วยความตกใจ เธอลืมไปแล้วว่าเธอโกรธเขาอยู่
"เออ หวัดดีเกรนเจอร์ ตกใจอะไร" มัลฟอยจ้องเด็กหญิงด้วยตาซีดเซียวของเขา และเธอคิดว่าเขาคงจะต้องพูดแบบกินเลือดกินเนื้อเธอแน่ๆ แต่ไม่ใช่เลย เขากลับพูดอย่างอ่อนโยน
"เธอคิดว่าเราจะถูกกักบริเวณอะไรกันล่ะ" มัลฟอยถามเธอด้วยเสียงที่ฟังดูอ่อนเพลีย นี่คงเป็นครั้งแรกล่ะมั้งที่เขาพูดดีกับเธอ และนั่นทำให้เด็กหญิงรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่หาเรื่องเธอ
"ฉันคิดว่า คงคัดลายมือมั้ง" เธอตอบเล่นๆ แล้วเธอก็หัวเราะ และมัลฟอยก็หัวเราะตามเธอไปด้วย เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งเคยเห็นมัลฟอยหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอย่างนี้เป็นครั้งแรก เธอจึงลองถามเขาเล่นๆ ว่า
"เธอเคยหัวเราะ แบบนี้กี่ครั้ง!? ฉันพึ่งเคยเห็นเธอหัวเราะอย่างนี้ครั้งแรก" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็ว มัลฟอยเลิกคิ้ว ก่อนจะตอบ
"ไม่รู้สิ ครั้งแรกมั้ง" แล้วเขาก็ยักไหล่แล้วก็หันหลังเดินไปประตูห้องของฟิลช์ 'มัลฟอยก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เพียงแต่เขาอาจจะก้าวร้าวบ้างเวลาเขาโมโหหรือไม่ชอบใคร ถ้าดูจริงๆ เขาก็เป็นคนดีเชียวล่ะ วันนี้เขาคงอารมณ์ดีล่ะมั้ง ที่เขาพูดกับฉันแบบนี้' เฮอร์ไมโอนี่คิด
"เธอชอบฟิลช์รึเปล่า" มัลฟอยถาม เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังจ้องแผ่นหลังของเขาอยู่
"แล้วเธอคิดว่าฉันจะชอบเขาไหมล่ะ ฮึ?" เฮอร์ไมโอนี่ตอบกวนๆ
"คงชอบมั้ง" มัลฟอยกวนเธอบ้าง แต่เป็นเสียงกวนที่ไม่ได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่โกรธแม้แต่น้อย เขาหันหลังมาและจ้องหน้าเด็กหญิง เธอนิ่งเล็กน้อย เหมือนจะคิดคำพูด
"งั้น เธอก็คงชอบเขาเหมือนกันสินะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แล้วยิ้มเลียนแบบมัลฟอยที่เคยยิ้มกวนๆให้เธอตอนเช้า
"เธอจะคิดยังไงก็ตามใจ ฉันไม่ว่าอะไร วันนี้ฉันไม่อยากทะเลาะกับใคร" มัลฟอยบอกแล้วเขาก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เฮอร์ไมโอนี่แปลกใจที่วันนี้มัลฟอยดูอ่อนเพลียเหลือเกิน
"เธอเป็นอะไรรึป่าวมัลฟอย หน้าเธอซีดๆ นะ" เด็กหญิงถามด้วยความเป็นห่วง
"ป่าว หรอก ฉันแค่คิดมากไปหน่อย" เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากจะถามต่อไปว่า เรื่องอะไร แต่เธอก็ไม่ถามเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
"วันนี้เธอคงเสียใจมากซินะ ถึงได้ร้องไห้" เขาถาม ทำให้เธอคิดทบทวนไปถึงเมื่อตอนเช้าที่เธอร้องไห้ให้เขาเห็น
"ชั้น . ชั้นไม่ได้เสียใจ ฉันแค่เกลียดฟิลช์เฉยๆ ถึงได้ร้องไห้ออกมา" เฮอร์ไมโอนี่ตอบแก้ตัว อันที่จริงเธอโกรธเขานั่นแหละ
"ฉันไม่เชื่อ เมื่อกี้ยังบอกว่าชอบฟิลช์อยู่เลย ตอนนี้เกลียดเขาแล้วเหรอ" มัลฟอยถามเสียงกวน
"เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ" เฮอร์ไมโอนี่บอกแล้วเดินไปดูอาการของเขา
"ว่าแต่เธอไม่เป็นอะไรแน่นะ" เด็กหญิงถามด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างจริงจัง
"อืม ทำไมเหรอเป็นห่วงฉันรึไง" มัลฟอยถาม แล้วก็ยิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่ที่ตอนนี้หน้าเป็นสีแดงเรื่อๆ
พวกเขาไม่เคยพูดกันดีๆ นานขนาดนี้มาก่อน คุยกันเรื่องนั้น เรื่องนี้ ตอนนี้มัลฟอยดูอาการดีขึ้นแล้ว เขาสามารถหันมาพูดกวนๆ และยิ้มกวนๆ ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้แล้ว ถึงเธอจะไม่ชอบให้เขาทำอย่างนี้นัก แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างแปลกประหลาด แล้วประตูห้องของฟิลช์ก็เปิดออก
+ -บทที่ 6- +
และไม่ใช่ใครอื่นเดินออกมา ฟิลช์นั่นเอง
"พวกเธอมาตรงเวลากันดีนะ" ฟิลช์พูดพร้อมกันยิ้มให้เห็นฟันสีเหลืองๆ ของเขา
"แน่นอน เราไม่เคยผิดเวลา" เฮอร์ไมโอนี่พูด
"เรามาก่อนเวลาด้วยซ้ำ" มัลฟอยยืนขึ้น และสนับสนุนคำพูดของเฮอร์ไมโอนี่ นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่มัลฟอยยืนหยัดอยู่ข้างเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่
"งั้นเหรอ เข้ามาข้างในสิ เชิญ เชิญ" ฟิลช์เชื้อเชิญ และทั้งสองก็ค่อยเดินเข้าไปช้าๆ โดยมัลฟอยเดินเข้าไปก่อน
+*+*+
เมื่อเดินเข้าไปถึงห้องของฟิลช์บนโต๊ะของฟิลช์มีหนังสือปกหนาเล่มหนึ่งที่มีชื่อเขียนบนหน้าปกว่า 'ความกลัวในตัวเธอ' วางอยู่ มันมีขนาดพอๆ กับพจนานุกรมภาษาอิตาลีฉบับสมบูรณ์เลยทีเดียว
"เธอคิดว่า ใช่หนังสือเล่มนั้นไหมที่จะใช้กักบริเวณเรา" เฮอร์ไมโอนี่ถามขณะที่เธอเกาะแขนเสื้อคลุมของมัลฟอยโดยไม่รู้ตัว
"ฉันก็คิดว่าน่าจะใช่นะ" มัลฟอยตอบ เขาก็ไม่รู้สึกตัวเช่นกันว่าเฮอร์ไมโอนี่มาเกาะเขา
"นี่ การกักบริเวณของเราคือ " ฟิลช์ชี้ไปที่หนังสือปกหนา ที่วางบนโต๊ะ "หนังสือเล่มนั้น .."
"ฉันว่าแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบให้มัลฟอยได้ยิน
"แล้วเราต้องทำยังไงกับมัน" มัลฟอยถามฟิลช์
"พวกเธอต้องเปิดมัน" ฟิลช์ตอบ
"แค่นั้นเหรอ" มัลฟอยถามอีก ตอนนี้หน้าของเขากวนสุดขีด
"ไม่ใช่แค่นั้นหรอก พวกเธอต้องเข้าไปข้างในมัน และผจญหลายสิ่งหลายอย่าง" ฟิลช์ตอบ และยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย
"แล้วเริ่มได้รึยัง" เฮอร์ไมโอนี่ เป็นฝ่ายถามบ้าง
"ได้เลย เธอพร้อมรึยังล่ะ" ฟิลช์ถาม
"เราพร้อมแล้ว" มัลฟอยตอบ ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังไม่ปล่อยแขนเสื้อคลุมมัลฟอย แต่เธอกลับเกาะแน่นขึ้นอีกอีก
"งั้น เชิญเลย เปิดหนังสือสิ ขอให้สนุกนะ ฉันจะคอยพวกเธอตรงนี้" แล้วฟิลช์ก็ชี้ไปที่เก้าอี้ตัวที่ตั้งใกล้ๆ กับเขา
+*+*+
"มันชื่อว่า ความกลัวในตัวเธอ มันจะมีอะไรบ้างนะ" เฮอร์ไมโอนี่กระซิบถามมัลฟอย
"เดี๋ยวเธอก็รู้เองล่ะน่า" มัลฟอยเริ่มตอบแบบรำคาญบ้างแล้ว
"แล้วนี่เธอจะปล่อยแขนเสื้อฉันได้มั๊ย มันยับหมดแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่เพิ่งรู้ตัวว่าเขาเกาะแขนเสื้อคลุมมัลฟอยมานานแล้ว เด็กหญิงเบือนหน้าหนีและปล่อยมือออกจากแขนเสื้อของเขา หน้าของเธอก็เริ่มมีสีชมพูเรื่อๆ เมื่อเธอหันหน้ากลับมาเธอก็เห็นมัลฟอยกำลังยิ้มให้เธอ เธอก็ยิ้มตอบอย่างเขินๆ นี่ก็เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่เขายิ้มให้เธออย่างไม่กวน
"หนิ แล้วพวกเธอจะยืนคุยกันอีกนานไหม" ฟิลช์ถามอย่างมีน้ำโห
"ได้ เราจะเปิดเดี๋ยวนี้ คุณฟิลช์" เฮอร์ไมโอนี่ประชดประชันฟิลช์
+*+*+
จากนั้นมัลฟอย ก็เอื้อมมือไปเปิดหนังสือ ความตื่นเต้นโถมเข้าสู่ตัวของทั้งเขาและเฮอร์ไมโอนี่ และเมื่อเปิดหนังสือออกนั้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็เป็นแค่หน้าหนังสือธรรมดาๆ เล่มนึงที่ว่างเปล่า ไม่มีตัวอักษรใดๆ เขียนไว้เลย
"สงสัยเค้าคงให้พวกเราคัดลายมือกันจริงๆ ล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกมัลฟอย ซึ่งตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
"สงสัยเธอคงชอบฟิลช์จริงๆ ถึงได้คิดในแง่ดีกับเขาอย่างนี้" มัลฟอยแหย่ แล้วเขาก็หันหน้าไปหาเธอ
"แล้วเราต้องทำยังไงต่อไป" เฮอร์ไมโอนี่ถาม เธอพยายามทำเป็นไม่ได้ยินมัลฟอย
"อ๋อชั้นเกือบลืมไป ดื่มน้ำนี่เข้าไปก่อนสิ... ฉันคิดว่าพวกเธอคงจะต้องเหนื่อยแน่ถ้าเขาไปในนั้น" ฟิลช์บอกแล้วก็ยื่นแก้วมาให้พวกเขา
+*+*+
เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยรับน้ำมาดื่มจนหมดเกลี้ยง น้ำนี้รสชาติแปลกๆ แล้วเฮอร์ไมโนี่ก็พึ่งนึกออกมาว่า นี่คือ สัจจะเซรุ่ม แน่นอน เพราะเธอ เคยอ่านมากจาก 'หนังสือ ยาวิเศษและยาพิษ โดย อาร์เซเนียส จิกเกอร์'
"มัลฟอย ฉันคิดว่านี่มันคือ สัจจะเซรุ่มนะ" เฮอร์ไมโอนี่บอกมัลฟอย
"ฉันก็คิดว่างั้น แต่ทำไงได้ล่ะเราดื่มกันไปหมดเกลี้ยงแล้วหนิ ก็ต้องรอล่ะว่าเขาจะถามอะไร" มัลฟอยพูดแล้วพยักหน้าให้เฮอร์ไมโอนี่ทีนึง ก่อนที่จะหันไปหาฟิลช์ "จะถามอะไรเราล่ะ" มัลฟอยถามเสียงเรียบ
"ฉลาดดีเหมือนกันหนิ มิสเตอร์มัลฟอย สิ่งที่ฉันต้องการจะถามเธอก็คือ .." ฟิลช์พูดตอนนี้เขายิ้มปากแทบจะฉีกถึงหูแล้ว "พวกเธอสองคนกลัวอะไรกัน ฮึ บอกมาเร็วๆ" ฟิลช์ถามแล้วทำสีหน้าอยากรู้
"ฉะ... ฉัน กลัว..." เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่ที่จริงแล้วเธอตั้งใจที่จะพูดว่า "ฉันไม่กลัว" ต่างหาก
"ฉันกลัวที่จะต้องเข้าไปในป่าต้องห้าม" เด็กชายพูดเสียงเรียบเหมือนว่าเขาไม่ได้ตกใจในสิ่งที่เขาบอกไปเลย
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เห็นว่ามัลฟอยบอกฟิลช์ไปแล้ว เธอก็เลยบอกว่า
"ฉันกลัว ว่า...เมื่อฉันต้องการใครคนนึงมากๆ คนๆนั้นจะจากฉันไป" เมื่อเธอพูดจบเธอก็เอามือยกขึ้นปิดปาก เหมือนกับว่าพึ่งพูดคำที่หยาบคายที่สุดออกไป
"ดีมาก พูดกับหนังสือนั่นสิ" ฟิลช์บอก
+*+*+
แล้วทั้งมัลฟอยและเฮอร์ไมนี่ ก็หันไปบอกความกลัวของตัวเองกับหนังสือ จากนั้นหนังสือก็ดูมีพลังขึ้นมา ตรงกลางหนังสือแยกออก และดูดพวกเขาสองคนเข้าไป เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกราวกับพึ่งจะใช้ผงฟลูเดินทาง และจากนั้นพวกเขาก็หล่นตุบ ลงไปอยู่บนพื้นที่เป็นตะไคร่หยุ่นๆ และมีต้นไม้งอกขึ้นมา กิ่งก้านที่มีใบหนาครึ้ม แผ่กว้างปิดบังท้องฟ้ายามราตรีไว้อย่างมิดชิด
"มัลฟอย นายอยู่ไหน โอ้ย!!!" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เธอเดินสะดุดเข้ากับมัลฟอยที่กำลังนั่งนวดศีรษะตัวเองอยู่บนพื้น
"โอ้ย ระวังหน่อยสิ เกรนเจอร์ เจ็บนะ" มัลฟอยเอ็ด
"ขอโทษ ก็มันมืดหนิ ฉันไม่ทับเธอให้แบนอาการหนักกว่าเดิมก็ดีเท่าไหร่แล้ว" เฮอร์ไมโอนี่พูด พาดพิงถึงตอนที่เธอเจอเขาหน้าห้องของฟิลช์
"ฉันผิดเองที่ไม่หลบให้เธอเดิน" เขาพูดประชดประชัน
"ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ .." เฮอร์ไมโอนี่บอกเด็กชาย "ฉันไม่คิดว่านายจะโกรธ ดีกันนะ ยังไงเราก็ลงเรือรำเดียวกันแล้วนะ ดีกันนะ" ดูเหมือนลูกอ้อนของเฮอร์ไมโอนี่จะได้ผล มัลฟอยดูคลายความโกรธไปทันที
+*+*+
"เราอยู่ที่ไหนเนี่ย มัลฟอย ฉันคิดว่า เราอยู่ใน ." เด็กหญิงพูดหลังจากที่เห็นมัลฟอยหายโกรธ
"ป่าต้องห้าม" มัลฟอยพูดต่อประโยคเสียงเรียบ
"เธอกลัวป่านี่ไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างซื่อๆ
"ก็ใช่ แต่ฉันจะพยายามทำใจไม่กลัวมันล่ะกัน" มัลฟอยพูด สีหน้าดูประหม่าเล็กน้อย
"แล้วเราต้องทำยังไงกันต่อเนี่ย" ตอนนี้เธอเดินเข้ามาเกาะแขนเสื้อของมัลฟอยอีกแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะรู้ตัว
"เกรนเจอร์ อย่าเกาะแขนเสื้อฉันเลย เดี๋ยวมันขาด" มัลฟอยแกล้งพูดดุๆ เฮอร์ไมโอนี่ตกใจรีบแกะมือออกทันที
"ก็ฉันกลัวนี่ ฉันจะเกาะเธอหน่อยจะเป็นไรไป" ตอนนี้เฮอร์โอนี่พึ่งรู้ว่าฤทธิ์ของสัจจะเซรุ่มยังไม่หมดไป
"เธอพูดว่าอะไรนะเกรนเจอร์" มัลฟอยถาม "งั้นเธออย่าเกาะเสื้อฉันเลย จับมือฉันดีกว่า" มัลฟอยพูดตามที่เขาคิด
"ก็ดี ฉันก็คิดจะจับอยู่เหมือนกัน" ตอนนี้หน้าของเฮอร์ไมโอนี่เป็นสีแดงจัด ดีจริงๆที่ตอนนี้ความมืดปกคลุมหมด มัลฟอยจึงไม่เห็นหน้าของเธอ ที่จริงแล้วเธอตั้งใจจะพูดว่า 'ทำไมฉันต้องจับมือนายด้วยล่ะ' แต่ก็เป็นเพราะฤทธิ์ของสัจจะเซรุ่มอีกนั่นแหละ
"ฉันคิดจะจับมือเธอมาตั้งแต่ตอนที่เธอเกาะแขนเสื้อฉันครั้งแรกแล้ว เกรนเจอร์" ตอนนี้มัลฟอยก็หน้าแดงเหมือนกัน ที่จริงเขาจะต้องการจะพูดว่า 'ฉันพูดเล่น ทำเป็นจริงไปได้'
"อืม มัลฟอยเธอจะสัญญากับฉันเรื่องนึงได้รึเปล่า" เฮอร์ไมโอนี่ถามเขาอย่างจริงจัง เหมือนกับว่าเธอคิดไตร่ตรองคำพูดนี้มานานพอสมควรแล้ว
"เรื่องอะไรล่ะ" มัลฟอยถามเฮอร์ไมโอนี่เสียงเซ็ง
"เธอ อย่าโกรธฉันนะ คือว่า ." เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหน้าแดงขึ้นอีก "ตามความกลัวของฉัน ฉันกลัวว่าเมื่อ .เมื่อฉันต้องการใครคนนึงมากๆ คนๆนั้นจะจากฉันไป" เฮอร์ไมโอนี่เริ่มลดเสียงลงเรื่อยๆ "ฉันคิดว่า นาย ..นายคงจะไม่จากฉันไปใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเบาไม่ต่างอะไรจากเสียงกระซิบเลย
"อะไรนะ เกรนเจอร์ ฉันไม่ยินไม่ชัด" ดูเหมือนตอนนี้ฤทธิ์สัจจะเซรุ่มหมดไปแล้ว เพราะที่จริง มัลฟอยได้ยินเต็มสองรูหู แต่เขาก็แกล้งถามไปยังงั้น ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเสียยิ่งกว่าลูกตำลึงซะแล้ว
"นาย .นายจะไม่จากฉันไปใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม
"อืม ต้องขอคิดดูก่อนนะ ว่าฉันจะจากไปดีรึป่าว" มัลฟอยแกล้งพูด
"อย่าเล่นซิมัลฟอย ฉันซีเรียสนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดกับเขา ด้วยเสียงจริงจัง
"แน่นอน ฉันจะจากเธอไปไหนล่ะ ฉันสัญญา ฉันจะไม่จากเธอไปไหน" ว่าแล้ว มัลฟอยก็ยื่นนิ้วก้อยออกไปหาเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่ก็ยื่นนิ้วก้อยของเธอออกมาเกี่ยวก้อย พร้อมกับรอยยิ้ม ที่ทำให้มัลฟอยอดยิ้มตอบกลับมาไม่ได้
+*+*+
"เราจะทำยังงัยกันต่อดีล่ะ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ถามเด็กชาย
"ฉันก็ไม่รู้สิ" ว่าแล้วมัลฟอยก็ตะโกนออกไปอย่างไม่กลัวว่าป่าจะพังลงมา "อากัส ฟิลช์ เราต้องทำยังไงกันต่อไป ได้ยินรึป่าว ตอบด้วย ฟิลช์"
+*+*+
กระดาษแผ่นหนึ่งลอยลงมาจากท้องฟ้า มันเป็นแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ของฟิลช์ 'พวกเธอก็เดินกันต่อไป จนกว่าจะพิชิตความกลัวของเธอทั้งสองคนได้หมด แล้วเธอก็จะกลับออกมาได้เอง ฉันยังรอว่าพวกเธอจะออกมาในสภาพไหน สภาพที่ยังอยู่ครบ 32 หรือจะมีร่างบดเป็นผงของพวกเธอใส่กล่องไม้ขีดไฟมา รีบออกมาล่ะ ฉันอยากจะเห็นพวกเธอใจจะขาดแล้ว ปล. ต่อไปกรุณาเรียกฉันว่า คุณฟิลช์ด้วย' เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ และมัลฟอยได้อ่านจดหมายพวกเขาก็มองหน้ากันครั้งนึงแล้ว พยักหน้าให้กัน
"ฉันคิดว่าถ้าเราไม่รีบเดินไปพิชิตความกลัวกันตอนนี้ ฟิลช์ก็คงจะได้เห็นร่างบดเป็นผงของพวกเราใส่กล่องไม้ขีดไฟแน่เลย" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสั่น
"ฉันก็ว่างั้นแหละ แล้วเราจะเดินไปทางไหนกันก่อน ฉันว่าไปทางนั้นดีกว่าไหม" มัลฟอยเสนอความคิดเห็น แล้วเขาก็ชี้ไปทางพื้นที่โล่งตรงไม่ไกลจากตรงที่พวกเขายืนอยู่สักเท่าไหร่
"ฉันไม่ค่อยชอบที่ๆ มันโล่งๆ ซักเท่าไหร่ ฉันว่ามันง่ายต่อการมองเห็นน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บอก และเธอก็ค่อยๆเดินมาเกาะแขนเสื้อคลุมมัลฟอยอีก ดูเหมือนตอนนี้มัลฟอยรู้ตัวอีกเช่นกัน แต่เขาก็แค่จะเหล่มองนิดนึง แล้วเขาก็แอบยิ้ม
"สงสัยเธอคงอยากเกาะแขนฉันนะ" มัลฟอยพึมพำไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน
"งั้นไปตรงนั้นกันดีกว่า คงไม่ง่ายต่อการถูกมองเห็นหรอกนะ" มัลฟอยบอกเฮอร์ไมโอนี่ แล้วชี้นิ้วไปทางป่าที่มีหญ้ารกๆ "แต่ฉันบอกไว้ก่อนนะ ว่าฉันก็กลัวที่นี่ไปไม่น้อยกว่าเธอ ฉะนั้นฉันอาจจะช่วยอะไรเธอไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นนะ" มัลฟอยพูดประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
"อืม ฉันรู้แล้วน่าฉันก็ไม่ได้จะฝากชีวิตทั้งชีวิตให้เธอดูแลหรอก" เฮอร์ไมโอนี่บอกเสียงหงุดหงิด "เราจะไปกันได้รึยัง ฉันว่าเราเสียเวลามาแล้วนะ" เฮอร์ไมโอนี่ว่า
"ก็ไปสิ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิ" มัลฟอยบอก เขารู้สึกเคืองเล็กน้อย แล้วเขาก็กระชับเสื้อคลุมของเขาให้แน่นขึ้น แล้วเริ่มออกเดิน เฮอร์ไมโอนี่ก็ปล่อยมือจากแขนของเขาแล้ว เขารู้สึกผิดหวังเล็กๆในใจ
+ -บทที่ 7- +
ป่าแถวนั้น มีหญ้าขึ้นรก และมีต้นไม้ขึ้นหนาทึบ มีหลายครั้ง ที่เสื้อคลุมของเฮอร์ไมโอนี่ถูกกิ่งไม้แถวนั้นเกี่ยว แล้วเธอก็ร้องออกมาเสียงดัง จนมัลฟอยที่อยู่ใกล้เธอตกใจกับเธอไปด้วย มัลฟอยว่าเธอหลายครั้งเรื่องเสียงร้องของเธอ แต่เธอก็มักจะอ้างเสมอว่า 'ก็ฉันเป็นผู้หญิงหนิ ก็ต้องมีตกใจบ้างธรรมดา' มัลฟอยขี้เกียจจะเถียงกับ เขาก็เลยเงียบเสียจนเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอเดินมาคนเดียวเสียอีก
"เธอเลิกกลัวป่าต้องห้ามแล้วเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม เมื่อเห็นมัลฟอยเริ่มเดินแบบปกติธรรมดา ไม่ค่อยระหวาดระแวงหรือประหม่าใดๆ
"ฉันคิดว่า ฉันชินกับมันแล้วล่ะ แล้วยิ่งมีเธอเดินเป็นเพื่อนแล้วนะ ฉันไม่กลัวอะไรเลย" มัลฟอยพูด ตอนนี้เขาดูมั่นใจกว่าตอนก่อนที่จะออกเดินมาก "เพราะเธอน่ะน่ากลัวที่สุดแล้ว" มัลฟอยกระซิบเบาๆ แต่เด็กหญิงได้ยินชัดเจน
"พูดอย่างนี้หมายความว่าไง" เธอชวนทะเลาะ
"ป่าว หมายความว่าเธอเก่งงัย ฉันเลยไม่กลัวอะไร" มัลฟอยไม่รู้เลยว่าเฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงกระซิบของเขา
"จริงนะ อย่าให้ฉันรู้ละกันว่าเธอพูดอะไร ไม่งั้นเธอได้ชิมคาถาจากไม้กายสิทธิ์ของฉันแน่" ว่าแล้วเธอกระหยิบไม้กายสิทธิ์มาขู่เขา มัลฟอยกลืนน้ำลายเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เอาจริง
+*+*+
"มัลฟอย เธอชินกับป่านี้แล้ว" เธอพูดหลังจากที่นั่งพักระหว่างทาง "งั้นก็หมายความว่า เธอก็พิชิตความกลัวของเธอได้แล้วล่ะสิ" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างดีใจ เมื่อเธอพูดจบก็มีกระดาษอีกแผ่นหล่นลงมาจากฟ้าที่มีต้นไม้หนาทึบปิดบังไว้ มันเป็นลายมือที่เขียนอย่างบรรจง คงไม่ใช่ลายมือของฟิลช์อย่างแน่นอน "ขอแสดงความยินดีด้วยมิสเตอร์มัลฟอย คุณสามารถพิชิตความกลัวของคุณได้แล้ว ป่าต้องห้าม ไม่ใช่สิ่งที่คุณกลัวอีกต่อไป ลงชื่อ หนังสือ ความกลัวในตัวเธอ" เฮอร์ไมโอนี่อ่านให้มัลฟอยฟัง "มัลฟอยดีใจด้วยนะ คราวนี้ก็เหลือแต่ฉันละสิ แล้วฉันจะเลิกกลัวได้ยังไงล่ะ"
"เถอะน่า เดี๋ยวเธอก็ทำได้เองแหละ" มัลฟอยตอบปัด "ฉันว่าเราเดินต่อดีไหม เดี๋ยวก่อน เกรนเจอร์ ฉันว่าแผ่นดินไหวนะ" ยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะตั้งตัว มัลฟอยก็ฉุดเธอให้หมอบลง
+*+*+
"มัลฟอย!!!!! จับมือฉันแน่นนะ" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนสุดเสียง เมื่อแผ่นดินตรงที่พวกเขายืนอยู่แยกออกจากกัน เป็นผลทำให้มัลฟอยตกลงไป ตอนนี้เริ่มมีเม็ดฝนตกลงมาจากฟากฟ้าสีนิล "มัลฟอย จับไว้ อย่าปล่อย จับแน่นๆ นะ" ตอนนี้ดูเหมือนฟ้าจะรั่วเพราะฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง
"มันลื่น ฉันจับไม่อยู่ โอ้ย ไม่ไหวแล้ว" มัลฟอยตะโกน "ปล่อยฉันเถอะ ไม่งั้นเธอต้องตกลงมาด้วยแน่ๆ เชื่อฉันนะ" มัลฟอยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเริ่มร้องไห้
"ไหนเธอสัญญากับฉันว่าเธอจะไม่จากฉันไปไง แล้วทำไมเธอถึงได้ยอมให้ฉันปล่อยเธอล่ะ คนที่ฉันต้องการมากที่สุดตอนนี้คือ เธอ เธอ เดรโก มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนบอกมัลฟอยทั้งน้ำตา
"เกรนเจอร์ เธอต้องเข้มแข็งไว้ อย่าร้องไห้ เข้าใจไหม แล้วเธอจะชนะความกลัวนั้นได้ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้ ฉันสัญญาว่าฟิลช์จะต้องไม่เห็นฉันในสภาพบดเป็นผงอยู่ในกล่องไม้ขีดแน่ ฉันสัญญาฉันจะไม่จากเธอไป " เด็กชายปลอบเธอ ด้วยรอยยิ้มที่ดีที่สุดที่เขาสามารถสร้างได้ในสถานการณ์แบบนี้
+*+*+
มือของทั้งคู่เริ่มหลุดออกจากกันแล้ว ตอนนี้ทั้งตัวของพวกเขาเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน ที่เทกระหน่ำลงมา ในที่สุดมือของมัลฟอยก็หลุดจากเฮอร์ไมโอนี่ไป
"มัลฟอย มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนสุดเสียง เธอตาแดงก่ำ น้ำตาอีกหลายสิบหยดไหลอาบแก้ม "มัลฟอย " เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงสั่นเครือ "เธอสัญญาแล้ว ว่าเธอจะไม่จากฉันไป แล้ว ทำไม .ทำไม เธอถึงผิดสัญญา" เธอพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจอย่างเป็นที่สุด เธอนั่งลงหลังพิงต้นไม้ แล้วเธอก้มหน้าลงซุกกับฝ่ามือ และร้องไห้อย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
+*+*+
เธอก็นึกถึง เรื่องที่เธอต้องผจญมาทั้งหมดในวันนี้ แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ถึงคำพูดของมัลฟอยก่อนที่เขาจะตกลงไป 'เกรนเจอร์ เธอต้องเข้มแข็งไว้ อย่าร้องไห้ เข้าใจไหม แล้วเธอจะชนะความกลัวนั้นได้ ฉันเชื่อว่าเธอต้องทำได้ ' มันเป็นคำพูดที่ทำให้เธอมีกำลังใจมากกว่าเดิม
"ฉันต้องเข้มแข็ง ฉันต้องไม่ร้องไห้" เฮอร์ไมโอนี่บอกกับตัวเอง แล้วเธอก็พยายามอย่างที่สุดที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา "ฉันทำไม่ได้ มัลฟอย ฉันทำไม่ได้ ฉันกลัว ." แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้อีก ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเช่นดียวกันกับน้ำตาของเธอ
+*+*+
ยิ่งร้องไห้ ยิ่งทำให้เธอหมดกำลังใจไปเรื่อยๆ เธอร้องไห้จนน้ำฝนยอมแพ้น้ำตาของเธอหยุดตกก่อนน้ำตาของเธอ เธอคิดถึงภาพของมัลฟอย ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก เธอร้องไห้จนแทบจะหมดแรงลุกขึ้นยืน
"ไม่สิ ฉันต้องทำได้ ฉันต้องไม่ร้องไห้" เฮอร์ไมโอนี่พยามลุกขึ้นยืน แต่ขาของเธอนั้นช่างไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน เธอพยามฉุดเถาวัลย์แถวนั้นเพื่อพยุงตัวลุกขึ้น แต่เถาวัลย์ก็ขาดลงมา น้ำตาเธอเริ่มไหลอีกครั้ง
"เขายังไม่ตายเฮอร์ไมโอนี่ เธอหยุดร้องไห้ได้แล้ว" เธอว่าตัวเอง
"อ่อนแอที่สุด คนอ่อนแอ" เสียงหนึ่งดังขึ้นก้องป่า
"ใช่ ฉันมันคนอ่อนแอ" เธอตะโกนโต้กับเสียงนั้น
"ถ้าเธอคิดอย่างนั้น ก็ร้องไห้ต่อไปเถอะ เธอก็ไม่มีวันออกไปจากหนังสือได้หรอก" เสียงนั้นตะโกนแข่ง
"แล้วฉันต้องทำยังไงล่ะ ก็ฉันเสียใจหนิ" เธอกระซิบบอก
"เธอต้องหยุดร้องไห้ได้แล้ว เขายังไม่ตาย เดรโก มัลฟอยยังไม่ตาย เขาแค่พิชิตความกลัวของเขาได้แล้วออกไปจากหนังสือก็เท่านั้น" เสียงนั้นตอบกลับอย่างอ่อนโยน
"แล้วเธอรู้ได้ยังไง" เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงสั่น
"ก็ฉันคือตัวฉัน ฉันรู้ดี" เสียงนั่นตอบ
"ฉันไม่เข้าใจ" เด็กหญิงกระแทกเสียงถาม
"ก็ฉันคือหนังสือ 'ความกลัวในตัวเธอ' ฉันคือหนังสือที่เธอเข้ามาเล่นอยู่ตอนนี้ ฉันเห็นใจเธอที่ถูกเจ้าของของฉันแกล้ง" หนังสือบอก
"เจ้าของของเธอ คือ อากัส ฟิลช์ ใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่สงสัย
"ที่จริงแล้วเขาเป็นเจ้าของฉันได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ เจ้าของของฉันจริงๆ คือ ศาสตราจารย์ ดัมเบิลดอร์" หนังสือพูดเสียงเศร้า
"แล้วทำไมเขาถึงยกเธอให้ฟิลช์ล่ะ" เธอถามด้วยเสียงอ่อนโยน
"ฟิลช์ยืมฉันมา" หนังสือพูด
"เหรอ" เธอบอก
"ใช่ แต่ตอนแรกเขาขโมยฉันมา พอดัมเบิลดอร์รู้เขา เขาก็ให้ฟิลช์ยืมฉันแล้ว ดัมเบิลดอร์ก็กำชับกับฉันว่า อย่าทำร้ายเด็กนักเรียน เพราะ เขารู้ว่า ฟิลช์จะเอาฉันมาใช้กักบริเวณเด็ก และให้ฉันเรียกเขาว่า 'เจ้าของ' ตอนนี้เธอรู้รึยังว่าทำไมเธอถึงไม่เจออันตรายใดๆ เลยในป่าต้องห้ามนี่" หนังสือพูด
"ฟิลช์นี่ ร้ายจริงๆ ฉันเกลียดเขา" เด็กหญิงว่าฟิลช์
"ตอนแรก เธอชอบเขาไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนนั้นพูด" หนังสือบอก
"อืม ฉันไม่ชอบเขาแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่ตอบปัดๆ
"เอาล่ะ ฉันว่าเธอคงเบื่อที่นี่แย่แล้วนะ เข้ามาตั้ง 3 ชั่วโมงแล้ว ฉันจะพาเธอออกไป แล้วก็เอ้ารับกระดาษนี่ไปด้วย" แล้วก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า มีใจความว่า 'ขอแสดงความยินดีด้วยมิสเกรนเจอร์ คุณสามารถพิชิตความกลัวว่า 'เมื่อคุณต้องการใครคนนึงมากๆ คนๆนั้นจะจากคุณไป' ได้แล้ว ลงชื่อ หนังสือ ความกลัวในตัวเธอ ปล. ตอนนี้มีคนกำลังห่วงใยคุณมาก' เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างเมื่ออ่านตรง ปล.
"ฉันโกหกมันขึ้นมาโดยฉเพาะเลยนะ จะบอกให้" ยิ้มของเฮอร์ไมโอนี่หุบลงทันที ถ้างั้นตรง ปล. ก็ไม่จริงด้วยน่ะสิ
"แต่ตรง ปล. น่ะ เป็นจริง เพราะ ปล. นั้นฉันจะไม่เขียนมันหรอถ้าไม่เป็นจริง มันเสียเวลาเข้าใจรึป่าว ฮึ แล้วอย่าไปบอกใครล่ะ ว่าฉันโกหกมันขึ้นมานะ ไม่งั้นฉันถูกทิ้งถังขยะแน่" ขณะนี้เฮอร์ไมโอนี่หน้าบานเป็นกระด้งแล้วเธออยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นห่วงเธอ "เอ้า หลับตา เดี๋ยวฉันจะพาออกไป แล้วก็ขอโทษที่ช่วยเธอช้าเกินไป เพราะ ฉันมัวแต่พิจารณาว่าควรจะช่วยหรือไม่ช่วยดี" เมื่อหนังสือพูดจบ เด็กหญิงก็หลับตา พร้อมกับยิ้มของเธอ แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนใช่ผงฟลูเดินทางอีกครั้ง
+*+*+
เธอรู้สึกเหมือนเธอจะมาถึงห้องของฟิลช์แล้ว แต่เธอยังไม่กล้าลืมตา เพราะ กลัวหนังสือนั้นจะหลอกเธอ แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนมีคนมาเขย่าตัวเธอ
"เกรนเจอร์ เป็นอะไรรึเปล่าทำไมไม่ลืมตาล่ะ เกรนเจอร์" เธอลืมตาขึ้นช้าๆ เธอเห็นมัลฟอยกำลังยืนเขย่าตัวเธออยู่
"มัลฟอย เธอ .เธอยังไม่ตาย" เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างดีใจสุดขีด แล้วเธอก็โผเข้ากอดมัลฟอย
"ฉันนึกว่าเธอตายไปแล้วซะอีก ฉันดีใจจริงๆ" เธอเริ่มร้องไห้อีกครั้ง และเธอก็ยิ่งรัดเขาแน่นขึ้นอีก มัลฟอยก็กอดเธอตอบ และตบหลังเธอเบา
"ฉันนึกว่าเธอจะผิดสัญญาที่ให้กับฉันซะแล้ว" ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ทั้งยิ้ม หัวเราะ และร้องไห้ เธอดีใจสุดๆ
"เออ เกรนเจอร์ฉันไม่ผิดสัญญาหรอก ฉันเป็นห่วงเธอแทบแย่แหนะ รู้ไหม" มัลฟอยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าใครกันที่หนังสือบอกว่าเป็นห่วงเธอ แล้วเธอก็แอบยิ้มน้อยๆ
"เออ เกรนเจอร์ เธอจะปล่อยฉันได้ไหม ตอนนี้เธอกำลังจะรัดฉันตายแล้วนะรู้ไหม" มัลฟอยพูดเสียงเขินๆ
"อุ้ย!? ฉันขอโทษ ฉันๆ เผลอไปหน่อย ขอโทษที" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ เธอหน้าแดงขึ้นมา แต่ตอนนี้ยากที่เธอจะปิดบังใบหน้าได้ เพราะห้องของฟิลช์สว่างด้วยเทียนไขเป็น สิบ ยี่สิบเล่ม มัลฟอยจึงเห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน
"เธอหน้าแดงนะ เกรนเจอร์" มัลฟอยแกล้งพูด "อาจจะไม่สบายนะ ขอฉันจับดูอุณหภูมิหน่อยสิ" แล้วมัลฟอยก็เดินไปเอามือแตะหน้าผากเฮอร์ไมโอนี่ เธอยืนนิ่งเหมือนก้อนหิน "หน้าผากเธอก็ไม่ร้อนหนิ แล้วเป็นอะไรล่ะ" มัลฟอยถามแล้วแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่ .
+ -บทที่ 8- +
"อะแฮ่ม เธอจะจู๋จี๋กันไปถึงไหน" ฟิลช์พูดเสียงดัง แต่ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกขอบคุณฟิลช์มากที่มาขัดจังหวะ แต่มัลฟอยนั้นร้องครางอย่างเซ็งๆ
"พวกเธอออกกันมาได้เร็วกว่าที่ฉันคาดไว้ เกรนเจอร์ จดหมายจากหนังสือล่ะ" ฟิลช์ทวงถาม เด็กหญิงยื่นกระดาษที่หนังสือปลอมขึ้นมา ส่งให้ฟิลช์ ฟิลช์อ่านทวนอยู่ 3 รอบ แล้วมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอย
"เธอเป็นห่วงยัยเกรนเจอร์มากเลยเหรอ มัลฟอย" ฟิลช์ถาม พลางแสยะยิ้ม เด็กชายเริ่มหน้าเป็นสีชมพู
" 'ปล. ตอนนี้มีคนกำลังห่วงใยคุณมาก' " ฟิลช์อ่านจดหมายเสียงดัง มัลฟอยหน้าเป็นสีแดงทันที
"ไร้สาระ" ฟิลช์พูด แล้วขย้ำจดหมาย โยนลงไปบนพื้น "ฉันไม่ยักรู้ว่า หนังสือเล่มนั้นจะมี ปล. ที่ไร้สาระ เธอสองคนไปได้แล้ว" ฟิลช์พูด
"เดี๋ยวก่อน" ฟิลช์ตะโกน
"อะไรอีกล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างโมโห
"หวานใจของฉัน จะคอยจับตาดูพวกเธออยู่อย่างใกล้ชิด และถ้า ." ฟิลช์ยิ้มอย่างน่าเกียจ
"พวกเธอทำอะไรล้ำเส้นล่ะก็ จะได้มาอยู่ในหนังสือนี้อีก" ฟิลช์พูดขู่พวกเขา
"เราไม่กลัวหรอก" มัลฟอยพูด แล้วยิ้มกวนๆ และเขาก็รีบจูงมือเฮอร์ไมโอนี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
+*+*+
"มัลฟอย..อย่า..เดินเร็ว..สิ..ฉัน..ตามไม่ทัน" เฮอร์ไมโอนี่พูดสลับกับเสียงหอบ
"อืม ฉันขอโทษ มันชินน่ะ" มัลฟอยตอบ "เหนื่อยรึป่าว" มัลฟอยถามสีหน้าเป็นห่วง
"เหนื่อยสิ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว นายขาย๊าว ยาว ถึงเดินเร็ว ฉันนะต้องวิ่งถึงจะตามเธอทัน" เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหายใจช้าลงเป็นจังหวะ
"ถ้าเธอเดินไม่ทัน .." มัลฟอยยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย "ฉันจะอุ้มเธอเดินไปส่งเธอที่หอ ดีไหม จะได้ไม่เหนื่อยไง" แต่ยังไม่ทันที่เด็กหญิงจะตอบ เขาก็ก้มลง แล้วอุ้มเธอขึ้นมา เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดขึ้นมาทันที
"โอ้ย ปล่อยนะ มัลฟอย ปล่อย ฉันเดินไหว" เธอบอกเขา แล้วทุบลงที่กลางอกของเขา
"เจ็บนะ เกรนเจอร์ ถ้าเธอไม่หยุดทุบฉันนะ ฉันจะ " มัลฟอยพูด แล้วยิ้มกวนๆ "ฉันจะจูบเธอซักทีดีไหม" มัลฟอยพูดกวนอย่างแรง
"ฉันจะไปฟ้องศาสตราจารย์มักกอลนากัล" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วยิ้มบ้าง แต่แทนที่มัลฟอยจะกลัว เขากลับตอบเฮอร์ไมโอนี่อย่างเฉยๆ
"อยากฟ้องก็ไปฟ้องเลย ถ้าอยากให้มีคนรู้ว่า เธอเคยถูกฉันอุ้ม" เธอไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาขู่เขา จึงได้แต่ยอมให้เขาอุ้มแต่โดยดี แล้วเขาก็เริ่มออกเดิน
"เธอรู้ไหมการกักบริเวณครั้งนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลย" มัลฟอยพูด แล้วยิ้มให้เธอ
"ฉันจะไปรู้เธอได้ยังไงล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่แกล้งพูดกวนๆ
"อืม นั่นสินะ" มัลฟอยพูด แล้วหันไปสบตากับเฮอร์ไมโอนี่
"แล้วทำไมเธอถึงมีความสุขล่ะ" เธอพูดพร้อมกับ หันหน้าเพื่อเลี่ยงการสบตากับเขา
"ก็การถูกกักบริเวณครั้งนี้ทำให้ฉัน ได้ ." แล้วมัลฟอยก็เงียบไป
"ได้อะไรล่ะ" เด็กหญิงเร้า
"ได้รู้จักเธอดีขึ้น" มัลฟอยตอบ ตอนนี้ทั้งเขาและเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง เกือบเหมือนกลีบกุหลาบ
+*+*+
แล้วทั้งสองก็เงียบไปตลอดทาง ความรู้สึกของมัลฟอยนั้น ไม่ต้องพูดถึง เขาไม่เคยอุ้มผู้หญิงคนใดมาก่อน เขาตื่นเต้นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ตอนนี้เสื้อข้างในของเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะ เฮอร์ไมโอนี่ซบศีรษะแนบลงกับอกของเขา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้ตัวอีกแล้ว แต่เมื่อเธอรู้ตัวเธอก็ไม่ผละออกจากอกของเขา เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ใกล้ชิดเขาขนาดนี้ .
เมื่อมาถึงหอคอยบ้านกริฟฟินดอร์มัลฟอยไม่ยอมปล่อยให้เฮอร์ไมโอนี่ลง เขายังอุ้มเธอแน่นอยู่อย่างนั้น แต่คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมอีกแล้ว
"มัลฟอย จะปล่อย หรือไม่ปล่อย ฉันจะนับ หนึ่ง ถึง สามนะ" ว่าแล้วเธอก็หยิบไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมาทันที มัลฟอยตกใจผงะถอยหลัง และปล่อยเฮอร์ไมโอนี่ลง
"ดีมาก" เธอพูดอย่างพอใจ "ขอบคุณนะที่ช่วยอุ้มฉันมาส่ง" เฮอร์ไมโฮนี่พูดขอบคุณ และเธอก็หน้าแดงขึ้นมาทันที "แล้วก็ ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันตอนที่ฉันอยู่ในหนังสือนั่นนะ" เด็กหญิงส่งสายตาขอบคุณอย่างจริงใจมาให้มัลฟอย
"อืม ไม่เป็นไร" มัลฟอยตอบ หน้าเป็นสีชมพู
"ราตรีสวัสดิ์ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเด็กชายก็เดินเข้าไปใกล้เธอ เธอตกใจแล้วพยายามจะเดินถอยหลัง แต่เท้าของเธอไม่ร่วมมือเลย มันอยู่กับที่ เธอจึงหลับตาลงอย่างช้าๆ แล้วมัลฟอยค่อยๆ บรรจงสัมผัสริมฝีปากลงกับแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดเป็นสองเท่าของลูกตำลึง
"ฝันดีนะ เกรนเจอร์" มัลฟอยพูด เขาก็หน้าแดงไม่แพ้กัน "เจอกันพรุ่งนี้ เกรนเจอร์" เขาพูดเรียบๆ แล้วเดินจากไป เฮอร์ไมโอนี่มองตามแผ่นหลังของเขาไป จนเขาเดินไปจนลับสายตา
"ฉันว่า แฟนเธอนี่เขาน่ารักดีนะจ๊ะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเธอ เธอสะดุ้งโหยง และหันไปมอง สุภาพสตรีอ้วนนั่นเอง
"เขาไม่ใช่แฟนหนูค่ะ เพื่อนค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธด้วยหน้าที่แดงจัด
"เหรอ แล้วทำไมเขาหอมแก้มเธอล่ะจ๊ะ" สุภาพสตรีอ้วนถาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากตอบ เธอตะโกนบอกรหัสผ่านด้วยเสียงสูงเกินปกติ และเธอก็รีบเจอกับรอนและแฮร์รี่
+ -บทที่ 9- +
"เป็นไงบ้างเฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่ถาม แล้วเอามือปิดปากหาว
"ทำไมหน้าแดงล่ะ" รอนซัก "เจ้ามัลฟอยมันทำอะไรเธอรึป่าว" รอนรีบถามเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ
"ป่าว ฉันขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะ" แล้วเธอก็ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นไปทางหอนอนหญิง
"เค้าเป็นอะไรของเค้า" รอนร้อง สีหน้าแสดงความไม่พอใจ
"พรุ่งนี้ เค้าคงเล่าให้พวกเราฟังเองแหละ" แฮร์รี่บอกรอนที่กำลัง เคืองเฮอร์ไมโอนี่
+*+*+
แต่ไม่เป็นอย่างที่แฮร์รี่พูด เฮอร์ไมโอนี่ไม่เล่าอะไรให้พวกเขาฟังเลย เธอเอาแต่นั่งจับแก้มของเธอ และใจลอยมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องนั่งเล่นรวม
"หมู่นี้ เค้าแปลกๆนะ" รอนพูดอย่างฉุนๆ กับแฮร์รี่ เมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่นั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใจลอย
"เค้าคงไม่อยากพูดอะไรน่ะ" แฮร์รี่บอก
"ฉันจะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง" รอนบอกแฮร์รี่
"เฮอร์ไมโอนี่ วันนี้เธอจะเอาแต่นั่งใจลอยมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเดียวรึงัย วันนี้วันอาทิตย์นะ" รอนบอก
"ไม่มีการบ้านอะไรให้เครียดซะหน่อย" เขาเสริมอย่างรวดเร็ว
"ฉันไม่ได้เครียดเรื่องการบ้านซะหน่อย" เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างใจลอย
"งั้นก็พูดกับพวกเราบ้างสิ เรื่องที่เธอถูกกักบริเวณก็ได้ ฉันอยากฟัง" รอนรีบพูดอย่างร้อนรน และเขย่าเธอ
"เธอเห็นมันเป็นเรื่อง สนุกรึงัยกัน ถูกกักบริเวณกับฟิลช์เนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่ตวาด เพราะ รอนทำให้ความคิดเรื่องความฝันเมื่อคืนของเธอสลายหายไปหมด ที่จริงแล้วเธอฝันถึงมัลฟอยนั่นเอง
"ถ้าอยากรู้อ่ะนะ ไปถามฟิลช์นู่น" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมทันที
"ฉันบอกนายแล้ว" แฮร์รี่ พูดขณะที่กำลังมอง เฟร็ดกับจอร์จนั่งขำรอน
รอนหันไปแยกเขี้ยวกับเฟร็ดและจอร์จ แล้วพูดรอดไรฟันออกมาว่า "รอให้ฉันสาปคาถากรีดแทงเป็นก่อนเถอะ ฉันจะทดลองใช้กับพวกนายสองคน เป็นอย่างแรกเลย" แล้วเขาก็กัดฟันกรอดๆ
+*+*+
เฮอร์ไมโอนี่ที่เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นรวม ตั้งใจว่าจะไปห้องสมุดซักหน่อย แต่เธอก็ต้องหยุดกระทันหัน เพราะ เธอกำลังเห็นมัลฟอยคุยกับนักเรียนสาวผมหยิกบ้านสลิธิรินคนหนึ่ง เธอรีบถลาไปหลบหลังรูปปั้นหมูป่าทันที
"ฉันส่งจดหมายไปให้เธอตั้งหลายฉบับ เมื่อวาน ทำไมเธอไม่ตอบกลับมาซักฉบับล่ะ" เด็กนักเรียนสาวคนนั้นพูด
"ตอนแรกๆ เธอก็ส่งกลับมาแต่ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ล่ะ" เด็กสาวคนนั้นพูดอีก
"แหม คงเป็นจดหมายรักสินะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดใส่หมูป่า ด้วยเสียงที่ดังกว่าเสียงกระซิบ
"ก็ ฉันขี้เกียจที่จะอ่านจดหมายหวานเลี่ยนของเธอน่ะสิ มารีน" มัลฟอยเบ้ปาก
"แล้วทำไม แต่ก่อนเธอถึงอ่านมันล่ะ" มารีนถามเสียงสั่นด้วยความโกรธ
"ตอนนั้น ฉันก็คงยังไม่มีใครล่ะมั้ง" มัลฟอยพูดแล้วทำสีหน้ากวนอย่างหน้าเกลียด
"แล้วตอนนี้แสดงว่าเธอมีใครงั้นเหรอ" มารีนพูด แล้วเม้มปาก "ฉันยังไม่เห็นเธอมีใคร"
"ฉันมีแล้ว ตอนนี้ เสียใจด้วยนะ" มัลฟอยพูดอย่างไม่แยแส
"แล้วใครคือคนๆ นั้น" มารีนเริ่มตัวสั่นเทา
"ฉันบอกไม่ได้ ฉันรู้ถ้าฉันบอกไป เธอคงไม่หวังดีกับเขาแน่" มัลฟอยพูดเหมือนรู้ทัน "ฉันบอกได้แค่ว่า คนๆนั้นอยู่บ้าน .." มัลฟอยพูดพร้อมกับเหล่ตามองมาที่รูปปั้นหมูป่า เฮอร์ไมโอนี่รีบหลบราวกับว่ามัลฟอยกำลังมองทะลุรูปปั้นหมูป่ามาได้
"อยู่บ้านอะไรบอกมาซิ" มารีนกลั้นใจรอคำตอบ
"ไม่ใช่สลิธิรินก็แล้วกัน" มัลฟอยพูด แล้วยิ้มอย่างกวนๆ
"ฉันขอตัวนะ อย่าให้ฉันรู้ล่ะกันว่าคือใคร แล้วเธอจะต้องเสียใจ เดรโก" มารีนพูด แล้วก็เดินจากไป
+*+*+
มัลฟอยเดินตรงมาที่รูปปั้นหมูป่า แต่แล้วเขาก็หยุดแล้วหมุนตัวหันหลังกลับ เฮอร์ไมโอนี่โล่งใจสุดๆที่เขาไม่เดินมาทางนี้
"ออกมาได้แล้ว เกรนเจอร์ อย่าหลบเลย" มัลฟอยพูด เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง แต่เธอก็ไม่ยอมออกมา
"จะออกหรือไม่ออก หรือจะต้องให้ฉันอุ้มเธออีก เธอถึงจะยอมออกมา นับหนึ่งถึงสามนะ" มัลฟอยขู่ "หนึ่ง ."
เด็กชายพูด "สอง .. จะออกหรือไม่ออกเกรนเจอร์" ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่กำลังตัดสินใจว่า จะเลือกที่จะวิ่งหนีไป หรือเผชิญหน้ากับมัลฟอย ในที่สุดเธอก็เลือกได้
"โอเค โอเค ฉันออกมาแล้ว พอใจรึยัง" เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง
"แอบฟังคนอื่นเขาคุยกันไม่ใช้ไม่ได้เลยนะเกรนเจอร์" มัลฟอยพูดเสียงดุ
"เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ตรงนี้" เด็กหญิงถามเสียงขุ่น
"ก็ตอนเธอพูดว่า 'แหม คงเป็นจดหมายรักสินะ' " มัลฟอยแกล้งเรียนเสียงเธอ
"เอ่อ ขอตัวนะมัลฟอยฉันต้องไปห้องสมุด" เฮอร์ไมโอนี่บอกมัลฟอย แล้วเธอก็เดินผ่านเขาไป
"ฉันไม่ให้เธอไป" มัลฟอยคว้ามือของเธอไว้ได้ทัน
"ปล่อยนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางแกะมือออกจากมือของเขา มัลฟอยไม่สนใจอะไรเขายังคงจับแน่นเหมือนเดิม
"มัลฟอย ฉันขอร้อง ปล่อยเถอะ ใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี" เธออ้อนวอน ลูกอ้อนใช้ได้เสมอ
"ก็ได้ แต่เธอต้องตอบอะไรฉันก่อน" มัลฟอยตอบ แล้วยิ้มมาให้เธอแบบมีเล่ห์นัย
"อะไรล่ะ รีบบอกมาเร็วๆ" หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นรัว
"เมื่อคืน ฝันถึงฉันบ้างรึป่าว" มัลฟอยถาม
"ป่าว" เฮอร์ไมโอนี่พูดโกหก
"อย่าปากแข็งหน่อยเลยเกรนเจอร์" มัลฟอยดึงตัวเธอมาชิดตัวเขา "ถ้าเธอไม่บอกฉันจะจูบเธอตรงนี้แหละ" มัลฟอยขู่ เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเธอมากขึ้น
"ก็ได้ ฉันฝันถึงเธอ พอใจ " เฮอร์ไมโอนี่พูดประชด แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ มัลฟอยก็ดึงเธอเข้าไปจูบ เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก หน้าของเธอแดงอย่างอธิบายไม่ถูก เธอไม่มีแรงที่จะผละตัวออกจากเขาตอนนี้ ที่เธอทำได้อย่างดีคือ หลับตาลง และเก็บความทรงจำส่วนนี้ไว้ ในใจของเธอ 'นี่คือ จูบครั้งแรกของฉัน กับ เดรโก มัลฟอย' เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจ แล้วเธอก็คิดออกอย่างนึง นี่มันกลางทางเดินนะ แล้วดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงของเธอกลับมา แล้วเธอก็ผลักมัลฟอยออกไป
"เฮ้อ" เธออุทานอย่างโล่งใจ แล้วเธอก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หลังพิงกับรูปปั้นหมู่ป่า มัลฟอยถึงกับตกใจ รีบย่อตัวลงมาหาเธอทันที
"เป็นอะไรไปเกรนเจอร์ จูบของฉันมันทำให้เธอไม่มีแรงเลยเหรอ" แล้วมัลฟอยก็หน้าแดงขึ้นมา
"น่าเกลียด คนฉวยโอกาส" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง แต่เธอก็ยังนั่งอยู่ หน้าของเธอแดงยิ่งกว่าเดิม
"จะไปห้องสมุดไม่ใช่เหรอ ฉันให้เธอไปได้แล้วล่ะ" มัลฟอยพูดแล้วยิ้มกวนๆมาให้
"ฉันไม่ไปแล้วไม่มีอารมณ์" เธอฉุดขาของหมูป่า แล้วลุกขึ้น
"อ้าว ทำไมเปลี่ยนแผนล่ะ ฉันจะได้ไปด้วย" มัลฟอยมองเธออย่างงงๆ
"ฉันจะกลับหอ แล้วไม่ต้องตามมานะ" เฮอร์ไมโอนี่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปทางหอคอยกริฟฟินดอร์ทันทีและมัลฟอยก็วิ่งตามเธอไปทันที
+ -บทที่ 10- +
"ในที่สุด ฉันก็รู้ว่าคนๆนั้นของเธอคือใคร เดรโก ยัยเกรนเจอร์นั่นเอง" มารีนพูดน้ำเสียงคล้ายหัวเราะออกมาจากลำคอข้างหลังรูปปั้น แม่มดหลังค่อม
"เธอรู้จักฉันน้อยเกินไป เดรโก" มารีนพูดตามหลังพวกเขาที่วิ่งตามกันไป
+*+*+
"เกรนเจอร์ เธอจะรีบวิ่งทำไม" มัลฟอยว่า แล้วเขาก็วิ่งมาคว้าไหล่ของเธอไว้
"ก็ฉันลืมไปว่า ยังมีการบ้านวิชาปรุงยาของอาจารย์สุดที่รักของเธอน่ะ การบ้านเกี่ยวกับน้ำยาหดตัวน่ะสิ" เฮอร์ไมโอนี่นึกขึ้นได้จริงๆ
"ไม่เอาน่า สเนปไม่ใช่อาจารย์ที่ฉันรักซะหน่อย" มัลฟอยพูดว่าเฮอร์ไมโอนี่
"อืม มัลฟอย หรือว่าเธอสนใจจะช่วยฉันทำ" เฮอร์ไมโอนี่ชวน
"ไม่ใช่ ช่วยฉันทำสิ ช่วยเพื่อนของฉันทำ แฮร์รี่ กับ รอนยังรอให้ช่วยอยู่นะ" เฮอร์ไมโอนี่เริ่มเลียนแบบยิ้มกวนๆ ของมัลฟอยได้เหมือนแล้ว
"หนิ เธออย่ายิ้มอย่างนั้นสิ" มัลฟอยบอกเด็กหญิง
"ก็แล้วทำไมเธอยังทำได้เลย แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้ฮะ" แล้วเธอก็ยิ้มกวนๆ อีก มัลฟอยหน้ากลายเป็นสีแดง แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินหันหลังไปจะกลับหอคอยกริฟฟินดอร์ทันที มัลฟอยทำท่าจะตามเธอไป แต่แครบและกอยล์ก็มาชวนเขาไปกินข้าวเช้า มัลฟอยพูดรอดไรฟันออกมา "ฉันจะฆ่าแก" แต่แครบและกอยล์ไม่ได้ยินและพวกเขาก็ฉุดกระชากลากถูมัลฟอยมา ที่ห้องโถง
+*+*+
เฮอร์ไมโอนี่บอกรหัสผ่านอย่างร่าเริงแล้วปีนผ่านช่องหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนไปหา รอนและแฮร์รี่ ที่กำลังนั่งงงอย่างสุดขีดที่อยู่ดีๆ เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาชวนพวกเขาไปทานอาหารเช้า ทั้งๆที่เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว เธอยังโกรธพวเขาอยู่เลย
+*+*+
"แต่หยั่งว่านะ รอน นายอย่าพึ่งพูดทำลายความสุขเขาเลย เขาเป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว" แฮร์รี่ พูดกับรอนที่กำลังจะพูดเรื่องกักบริเวณกับเฮอร์ไมโอนี่ รอน จึงคว้าแซนวิซเข้าไปในปาก เพื่อไม่ให้ปากเขาว่าง
เมื่อนกฮูกไปรษณีย์มาถึง แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ได้รับสิ่งใดเลย แฮร์รี่ที่ไม่ได้รับจดหมายอะไรอยู่แล้วนั่งอยู่เฉยๆ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมีความสุขอยู่นั้น ก็ไม่ต้องพูดถึงเธอไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้นว่านกฮูกไปรษณีย์จะมาหรือไม่มา มีแต่รอนเท่านั้นที่นั่งเป็นทุกข์กับการไม่ได้รับจดหมาย
"ทำไมฉันไม่ได้รับอะไรเลย แม่ไม่เคยไม่ส่งจดหมายมาให้ฉันติดกัน 5 วันนะ ทำไมแม่ถึงลืมนะ" รอน ที่กำลังกลุ้มใจเหลือบไปเห็นจินนี่ที่กำลังนั่งอ่านจดหมายอย่างมีความสุข
"จดหมายจากแม่เหรอ จินนี่" รอนถาม
"ป่าว ซักหน่อย" จินนี่ตอบกวนๆ "ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่นะ" จินนี่พูดอีก
"เหรอ วันนี้ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมด ฉันจะพูดกับใครไม่ได้เลยใช่ไหมวันนี้ฮะ" รอนที่กำลังโมโหนั้นระบายอารมณ์ใส่อาหารทั้งหมด โดยการกินขนมปังปิ้งไป 8 แผ่นรวด สลัดผักอีก 3 ชาม เบคอนอีก 4 จานและทุกอย่างนั้นเขาจะระบายโดยการ กัด ฉีกมันแรงๆ เหมือนหมั่นไส้อาหารพวกนั้นมาเป็น ปีๆ
"สนุกมั๊ยนั่นน่ะ" เนวิลถาม
"สนุกมาก อร่อย แล้วก็หายโกรธด้วย" แฮร์รี่ตอบแทนรอนที่พูดไม่เป็นภาษา (ฮะหุกฮาก อะหร่อย แหล้วข้อฮายโคดฮ้วย)
"งั้นฉันลองบ้างนะ" เนวิลเริ่มเลียนแบบรอนที่กำลังกินอย่างสนุกสนาน
+*+*+
เฮอร์ไมโอนี่ไม่ค่อยได้พูดกับมัลฟอยเลย ส่วนมากจะเรียกว่า "ใช้คำพูดถากถางกันมากกว่า" เพราะ แฮร์รี่ และรอนจะต้องอยู่ด้วยทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่มัลฟอยเจอเฮอร์ไมโอนี่ เขาก็จะมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาแปลก แบบที่ เฮอร์ไมโอนี่ตีความสายตาคู่นั้น ถูกบ้างผิดบ้างสลับกันไป
ไม่มีใครรู้เรื่องของพวกเขาทั้ง 2 ว่าเกิดอะไรขึ้น ยกเว้น มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่ สุภาพสตรีอ้วน และอีกคนที่บังเอิญรู้เรื่องของพวกเขาก็คือ มารีน
ความคิดเห็น