ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำที่ดีของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอน : ความสัมพันธ์ที่เกือบขาดสะบั้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.69K
      28
      9 ก.ย. 49








    + - บทที่ 1 - +

    ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน ภูเขารอบๆ ปราสาทเริ่มมีหิมะสีขาวปกคลุม และรอบๆปราสาทก็เริ่มมีอุณหภูมิต่ำลง เทศกาลการแข่งขันควิชดิชใกล้จะมาถึงอีกแล้ว แฮร์รี่เฝ้ารอเวลานี้มานาน แต่พอถึงเข้าจริงๆ เขาก็ไม่อยากให้มันมาถึงเลย เพราะ เขาต้องอยู่ซ้อมจับลูกสนิชสีทองนี่ ตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนถึง หกโมงครึ่ง มาประมาณ 10 วันแล้ว เขาคิดอยากจะจับลูกสนิชโยนไปไกลๆ จะได้ไม่ต้องจับมันอีกจนกว่าจะถึงการแข่งขัน และวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการซ้อมแล้ว รอนและเฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ที่ขอบสนาม ดูทีมกริฟฟินดอร์ซ้อม

     

    "นี่ เฮอร์ไมโอนี่เธอเชียร์ทีมอะไร การแข่งครั้งนี้อ่ะ" รอนถาม ขณะที่เขากำลังยืนเปิดกล่องกบช็อกโกแลตที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในกล่อง

    "แล้วเธอคิดว่าฉันจะเชียร์ทีมอะไรล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม แล้วยิ้มกวนๆ แบบที่เลียนแบบมัลฟอยมา "สลิธิรินรึงัย" เธอถามอีก แต่ในใจลึกๆของเธอ เธอก็เชียร์ทีมของมัลฟอยอยู่แล้ว

    "แหม เดี๋ยวนี้เธอพูดกวนจริงๆ เลยนะ" รอนพูด แล้วเขาก็หยิบกบช็อกโกแลตเข้าปาก มันเข้าไปดิ้นในปากเข้าแทน

    "เอ่อ…" เด็กหญิงพูด พร้อมกับหน้าที่เป็นสีชมพู

    "นั่น แฮร์รี่ลงมาแล้ว" เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วชี้ไปที่แฮร์รี่ที่ขี่ไม้กวาดร่อนลงมา

    "เป็นยังไง จับลูกสนิชได้ภายใน 2 วินาทีรึป่าว" รอนแกล้งถาม ขณะที่กำลังแกะกล่องกบช็อกโกแลตกล่องที่สอง

    "ถ้าจับได้ก็ดีสิ" แฮร์รี่ยิ้ม "กลับกันเถอะ ฉันอยากจะนอนฝันถึงมัลฟอยที่ตกลงมาจากไม้กวาดใจจะขาดแล้ว"

    สายตาตำหนิของเฮอร์ไมโอนี่ตวัดไปหาแฮร์รี่อย่างรวดเร็ว

    "อ้าว ก็…." เด็กชายตอบ แล้วหันหน้าไปหารอนให้ช่วย แต่คราวนี้รอนไม่เล่นด้วย "ไม่รู้สิ" รอนก้มหน้าตอบพื้นหญ้าที่มีหิมะปกคลุม และยัดกบช็อกโกแล็ตตัวที่สองเข้าไปในปาก แต่ไม่สำเร็จมันกระโดดหนีไปได้ แฮร์รี่ยักไหล่ครั้งนึง แล้วโอบไหล่เพื่อนทั้งสองกลับไปที่หอคอยกริฟฟินดอร์

    …+*+*+…

                    ทางด้านของมัลฟอย เขากำลังนั่งเล่นหมากรุกพ่อมดกับแครบและกอยล์อยู่ ถึงแม้ว่าแครบกับกอยล์จะนำหัวสมองมารวมกัน แต่ก็ยังเล่นสู้มัลฟอยไม่ได้อยู่ดี

    "นี่ เมื่อไหร่พวกนายจะเล่นชนะฉันซักที ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว" มัลฟอยร้อง

    "นายก้อ แกล้งแพ้ซิ" กอยล์พูดเสียงยานคาง แบบเสนอความคิดเห็น

    "อืม ใช่ คงสนุกนะ" แครบแบบชักชวน

    "อืม แกสองคนนี่โง่จริงๆ ฉันเชื่อแล้ว" มัลฟอยพูดแบบไม่ใส่ใจ แล้วเดินไปที่โต๊ะ หยิบม้วนกระดาษขึ้นมาและขีดเขียนตัวหนังสือลงไป อย่างรวดเร็ว

    "เขียนจดหมายอีกแล้วเหรอ" แครบถาม

    "อืม" มัลฟอยที่กำลังเขียนอยู่ตอบเสียงนุ่ม

    "เขียงถึงครัยเหรอ มัลฟอย" กอยล์ถามเมื่อเห็นมัลฟอยไม่รู้สึกโกรธหรือรำคาญ

    "เกรน….. เฮ้ย แกไม่จำเป็นต้องรู้" มัลฟอยลุกขึ้นตวาดเสียงดัง แครบกับกอยล์รีบวิ่งไปที่เตียง คุลมโปงนอนทันที

    "เกือบไปแล้ว เฮ้อ" มัลฟอยถอนหายใจอย่างโล่งอก และเขาก็นำจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วเดินลงไปที่โรงนาเพื่อไปหานกฮูกของเขา

    …+*+*+…

                    เขาเปิดประตูเดินเขาไปข้างใน นกฮูกของมัลฟอยนั้นช่างเหมือนเจ้าของเสียจริงๆ มันไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร มันอยู่ในมุมมืดของแต่ตัวเดียว เมื่อมัลฟอยเดินเข้ามามันก็รีบบินไปเกาะไหล่ของเขาและจิกที่แก้มของเขาเบาๆ อย่างประจบประแจง

     

    "แกนี่ โอ้ย ฉันจั๊กจี้" เขาพูดแล้ว ก็หัวเราะเบาๆ แต่ร้ายกาจ เฮ็ดวิกนกฮูกหิมะสาวของแฮร์รี่ กำลังมองดูอยู่แล้วกระพือปีกด้วยความอิจฉาที่แฮร์รี่ไม่เคยมาหามันเลย มัลฟอยนำจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วไปผูกกับขามันแล้ว กระซิบเบาๆ ว่า "ยัยเกรนเจอร์ บ้านกริฟฟินดอร์นะ ส่งเสร็จแล้วรีบบินกลับมาล่ะ" นกฮูกของเขาดูไม่พอใจที่จะต้องไปส่งให้กับบ้านกริฟฟินดอร์ แต่มันก็บินลอดหน้าต่างโรงนาออกไปอย่างรวดเร็ว

    "เธอคงมานะ เกรนเจอร์" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวล ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเรื่องเฮอร์ไมโอนี่มากกว่าเรื่องที่จะต้องแข่งควิชดิชพรุ่งนี้เสียอีก

     

    + - บทที่ 2 - +

                    เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ และรอน ห้องนั่งเล่นรวมแล้ว เฮอร์ไมโอนี่กำลังคุยกับจินนี่เรื่องของการแข่งขันควิชดิชพรุ่งนี้อยู่ ส่วนรอนนั้นกำลังยัดเยียดกบช็อกโกแลตห้ากล่องให้แฮร์รี่ที่กำลังปฏิเสธอย่างแข็งขัน

     

    "พรุ่ง พี่คิดว่าทีมไหนจะชนะค่ะ" จินนี่ถาม

    "อืม แล้วจินนี่คิดว่าทีมไหนล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ด้วยเสียงที่ฟังแล้วกวนเล็กน้อย

    "กริฟฟินดอร์ ใช่ป่ะ หรือพี่เชียร์ สลิธิริน" จินนี่พูดเล่นๆ

    "อืม ก็…. อุ้ย ! ตาย ตกใจหมด" เฮอร์ไมโอนี่ร้องเมื่อเห็นนกฮูกบินมาที่หน้าต่าง ทำให้จินนี่พลอยตกใจไปด้วยกับเสียงร้องของเธอ

    "เป็นอะไรไปค่ะ อ้อ นกฮูกนี่เอง" จินนี่ เข้าใจเมื่อหันหลังไปเห็นที่นอกหน้าต่าง จินนี่รีบเดินตรงไปเปิดหน้าต่าง เพื่อให้นกฮูกเข้ามา มันรีบบินถลาเข้ามาพร้อมไอเย็นๆ จากภายนอกเข้า ตรงมาหาเฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ปิดหน้าต่างแล้วรีบเดินตามนกฮูกไปทันที

    "ของฉันเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ชี้นิ้วไปที่ตัวเอง เมื่อเห็นนกฮูกยื่นขาข้างที่ผูกจดหมายมาให้เธอแกะออก นกฮูกผงกหัวอย่างรำคาญเป็นเชิงว่า 'อืมของเธอนั่นแหละ รีบรับไปซะทีฉันเมื่อยจะแย่อยู่แล้ว' เฮอร์ไมโอนี่ยื่นมือไปแกะออกอย่างตื่นเต้น เพราะ เธอไม่รู้ว่านี่คือนกฮูกของใคร เมื่อแกะเสร็จนกฮูกก็รีบบินกลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็บินชนหน้าต่าง เพราะ จินนี่ปิดหน้าต่างเสียแล้ว จินนี่จึงต้องรีบเดินไปเปิดหน้าต่างให้มันอย่างรำคาญ มันหันมาเชิดใส่เธอครั้งนึงก่อนที่จะบินออกไป

    …+*+*+…

                    จดหมายนี่ไม่ได้ใส่มาในซอง ไม่มีจ่าหน้าซอง แต่มันเป็นเพียงม้วนกระดาษเล็กๆ ที่ถูกผูกติดมากับขาของนกฮูกด้วยด้ายสีทอง เฮอร์ไมโอนี่รีบคลี่ม้วนกระดาษออกอ่านอย่างรวดเร็ว มันเป็นเพียงข้อความสั้นๆ ได้ใจความ ที่เขียนด้วยลายมือที่เป็นเอกลักษณ์ของมัลฟอย 'วันนี้ ฉันอยากเจอเธอ สองทุ่ม ที่รูปปั้นหมูป่านะ'

     

    "ใครส่งมาค่ะ" จินนี่ที่กลับมาจากการเปิดหน้าต่างให้นกฮูกถามขึ้น

    "เอ่อ เพื่อนน่ะ" เธอตอบพร้อมกับหน้าที่เป็นสีชมพู

    "จริงเหรอค่ะ ทำไมต้องหน้าแดงล่ะ" จินนี่ล้อ

    "อืม อากาศมันหนาวน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่โกหกทั้งที่อากาศข้างในออกจะร้อนด้วยซ้ำ

    "เอ่อ จินนี่พี่ต้องไปแล้วนะ พอดีนัดกับเพื่อนไว้" เธอพูดพยามรักษาเสียงให้ราบเรียบที่สุด แล้วลุกขึ้นยืน

    "เดี๋ยวค่ะ หนูก็นัดกับ เอ่อเพื่อนไว้เหมือนกัน พี่นัดเพื่อนไว้ที่ไหนเหรอค่ะ" จินนี่ถามแล้วลุกขึ้นยืนบ้าง

    "แถวๆ รูปปั้น…….หมูป่าน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่กระอักกระอ่วนตอบ

    "งั้นเหรอค่ะ" จินนี่ทำสีหน้าผิดหวัง "หนูนัดเพื่อนไว้คนล่ะทางกันเลย ไม่เป็นไรค่ะ งั้นหนูไปแล้วนะ" จินนี่พูดพร้อมกับโบกมือให้เฮอร์ไมโอนี่ แล้วก็รีบวิ่งไปที่ช่องหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วน

    "โชคดีนะ จินนี่" เฮอร์ไมโอนี่พูด ขณะที่มองจินนี่ที่กำลังปีนออกไปจากช่องหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วน เมื่อรูปภาพเหวี่ยงปิดลง เธอก็รีบกึ่งเกินกึ่งวิ่งไปหาแฮร์รี่ที่กำลังนั่งกินกบช็อกโกแล็ตอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

    "เอ่อ แฮร์รี่ ขอยืม เอ่อ ผ้าคลุมล่องหนหน่อยสิ" เด็กหญิงพูดด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ

    "อืม เธอขึ้นหอนอนชายได้ใช่ป่ะ ไปหยิบเองล่ะกัน ฉันถูกรอนบังคับให้กินกบช็อกโกแล็ตน่ะ ขี้เกียจไปหยิบ ในหีบนะ" แฮร์รี่พูด แล้วชี้ไปทางหอนอนชาย ดูเหมือนรอนจะไม่ได้ยินว่า แฮร์รี่ว่าเขาเลยแม้แต่น้อย

    "ขอบใจมากนะ แฮร์รี่" เธอพูดแล้วหอมแก้มแฮร์รี่ฟอดใหญ่ด้วยความดีใจ เด็กชายหน้าแดง และปล่อยให้กบช็อกโกแล็ตที่ถืออยู่ในมือให้กระโดดออกไปอย่างอิสระ แต่มันก็ผ่านรอนที่อ้าปากรับอย่างแม่นยำไปไม่ได้ เลยต้องไปกระโดดเล่นอยู่ในท้องของรอนแทน เฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปหยิบผ้าคลุมล่องหนลงมา เธอรีบคลุมมันแล้วปีนออกจากช่องข้างหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วน และรีบตรงไปที่รูปปั้นหมูป่าทัน

     

    + - บทที่ 3 - +

                    เมื่อมาถึงเธอก็เห็นมัลฟอยยืนรออยู่แล้ว เธอจึงคิดจะแกล้งเขาซักหน่อย เธอค่อยๆ ย่องไปข้างหลังเขาและ ยกมือขึ้นจะจับตัวเขาให้ตกใจ คงจะสนุกน่าดู

     

    "ไม่ต้องหรอกเกรนเจอร์ ฉันไม่ตกใจหรอก" เขาหันหลังไปและถอดผ้าคลุมล่องหนของเฮอร์ไมโอนี่ออก

    "นี่ นายรู้ได้ยังไง" เธอถามด้วยเสียงที่ผิดหวังอย่างมาก

    "ไม่เห็นจะยากเลย เธอออกจะวิ่งเสียงดังขนาดนั้น เป็นใครๆ ก็รู้" มัลฟอยพูดแล้วยิ้มกวนๆ ให้กับเธอ

    "งั้นเหรอ ว้าแย่จัง" เด็กหญิงร้องอย่างเสียดาย

    "ฉันนึกว่าเธอจะไม่มาซะแล้ว" เขาพูดด้วยเสียงอ่อยๆ

    "ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงที่พยามปิดบังความน้อยใจ

    "อืม ก็ไม่มีอะไรหรอก" เขาตอบขณะที่ถูมือไปมาเพื่อบรรเทาความหนาว

    "เกรนเจอร์" มัลฟอยเรียกเธอเสียงแผ่วเบา แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ตอบ เธอแค่มองมัลฟอยว่าเธอรับรู้ที่เค้าเรียก

     "ฉันหนาว หนาวมากเลย" เขาเปล่งเสียงออกมาจากปากที่ซีดด้วยความหนาวของเขา แต่ก็จริงๆ บรรยากาศรอบๆตัวนั้นช่างหนาวเหน็บจริงๆ

    "งั้นเหรอ แล้วให้ฉันทำยังไงล่ะ ให้ก่อกองไฟก็ไม่ได้ด้วยสิ" เด็กหญิงพูดอย่างใสซื่อ

    "แหม เธอหนิ" มัลฟอยพูดอย่างเคืองๆ "กอดฉันหน่อยสิ ได้ไหม น่านะ เกรนเจอร์ กอดฉันหน่อย ฉันหนาว" เขาพูดเสียงอ้อน

    "ไม่อ่ะ ฉันไม่อยากจะกอดเธอ" เด็กหญิงพูดแล้วหมุนตัวหันหลังให้กับเขา ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในตัวของเธออย่างรวดเร็วจนหน้าประหลาด แต่แล้วเธอก็รู้เหตุผล มัลฟอยเดินเขามาสวมกอดเธอจากด้านหลังนั่นเอง

    "มัลฟอย อย่าสิ ปล่อย ฉันบอกให้ปล่อย" เธอบอก พลางแกะมือของอีกฝ่ายอย่างสุดกำลังที่เธอจะทำได้ในตอนนี้ แต่แล้วเธอก็ถึงกับอึ้งไปกับคำถามที่เด็กชายถาม

     "เธอมีใครอยู่ในใจรึป่าว เกรนเจอร์" มัลฟอยพูด ลมหายใจของเขารดเข้าที่ต้นคอของเฮอร์ไมโอนี่ หน้าของเธอก็กลายเป็นสีชมพูระเรื่อทันที

    "อืมมะมะ..ไม่บอก" เด็กหญิงตอบ "ถามทำไมล่ะ" ตอนนี้ริมฝีปากของมัลฟอยสัมผัสอยู่ที่ต้นคอขอเด็กหญิง เธอรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

    "ว้าย! มัลฟอย" เธอร้องอย่างตกใจและรีบเอามือจับต้นคอทันที

    "ทำไมล่ะ ฉันหนาวหนิขอซุกหน้าไปกับคอของเธอไม่ได้รึงัย" เขาถามด้วยเสียงที่ร้ายกาจแบบเดิมๆ

    "ไม่ได้" แต่มัลฟอยไม่ฟังคำของเธอ ริมฝีปากของเขาสัมผัสลงที่แก้มของเฮอร์ไมโอนี่ เธอรีบหันไปหาเขาทันที

    "มัลฟอย อย่านะฉันเอาไม้กายา…" เด็กหญิงขู่ แต่ยังไม่ทันที่จะขู่จบ เธอก็ถูกดึงอย่างแรงไปที่หลังรูปปั้น

     "เบาๆ" มัลฟอยพูด แล้วก็ยื่นมือไปปิดปากเฮอร์ไมโอนี่อย่างแผ่วเบา "ฉันคิดว่าได้ยินเสียงฝีเท้านะ" มัลฟอยพูดขณะที่มองหน้าของเธอที่เกือบจะแดงเหมือนลูกตำลึงแล้ว

    "มัลฟอย ฉันว่าเอาผ้าคลุมล่องหนมาคลุมดีไหม" เธอกระซิบเมื่อมัลฟอยเอามือที่ปิดปากเธอออก

    "ไม่ ฉันไม่อยากจะอยู่ใกล้ของๆ พอตเตอร์ เงียบเถอะ" มัลฟอยพูดด้วยเสียงแข็งกร้าว แล้วใช้สายตารังเกียจอย่างรุนแรงมองไปที่ผ้าคลุมล่องหนที่กองอยู่บนพื้น และเขาก็นั่งแอบดูเจ้าของเสียงฝีเท้านั่นอยู่ข้างๆ เธอ

     

    + - บทที่ 4 - +

                    แล้วเจ้าของเสียงฝีเท้านั่นก็มาถึงไม่ใช่เพียงคนเดียวแต่มาถึงสองคน เฮอร์ไมโอนี่แทบจะกลั้นใจ เธอชะโงกหน้าออกไปเพื่อจะได้ดูให้ชัดๆ ถ้าเป็นฟิลช์ล่ะ จะทำยังไง แต่มัลฟอยก็ดึงเธอเข้ามา เพราะ เธอยื่นหน้าออกไปเกินเหตุ และแล้วเจ้าของเสียงฝีเท้าทั้งสองก็มาถึง เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับอ้าปากค้าง ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เป็นเพราะอึ้งมากกว่า

     

    "จินนี่" เฮอร์ไมโอนี่คราง

    "น้องสาววีสลี่ย์ นี่เอง แล้วนั่นก็……." มัลฟอยกระซิบอย่างแผ่วเบาด้วยเสียงที่ร้ายกาจ

    "เนวิลล์" เด็กหญิงต่อประโยคของเขาให้จบ ที่แท้เพื่อนที่จินนี่นัดคือเนวิลล์นี่เอง

    "กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่พอดีเลย" มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่รอดไรฟันออกมาและพร้อมที่จะกินบุคคลที่มาขัดจังหวะ

    "จินนี่ เอ่อ ฉันบอกเรื่องที่ฉันต้องการจะพูดกับเธอไปแล้วนะ" เนวิลล์พูดพร้อมกับหน้าอ้วนๆ ของเขาที่ตอนนี้เป็นสีแดง

    "อืม แล้วไงเหรอ" จินนี่พูดแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เนวิลล์ที่หัวใจเต้นเป็นจังหวะกลอง เนวิลล์ไม่พูดอะไรต่อ เขาเอาแต่เกาหัวจนหนังหัวแทบจะหลุด

    "ฉันรู้แล้วล่ะ ว่าแต่จะให้ฉันทำยังไง" จินนี่พูดอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจ

    "ฉันอยากให้เธอเข้าใจ แล้วช่วยบอกฉันทีว่า………." เนวิลล์พูด แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ยินประโยคต่อจากนั้น เพราะ ทั้งสองคนนั้นเดินลงขึ้นบันไดกันไปแล้ว……

    …+*+*+…

    "เธอชอบฉันรึป่าว จินนี่" มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่เลียนแบบเนวิลล์

    "มัลฟอย นายรู้ไดยังไงว่าเค้าจะพูดต่ออย่างนั้น" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงต่อว่า

    "ก็แน่อยู่แล้ว จากการวิเคราะห์สถานการณ์ของฉันไม่เคยผิดพลาด" มัลฟอยยกหางตัวเอง

    "แหวะ ถ้าผิดล่ะก็ ฉันขอให้เช้าพรุ่งนี้ เธอสำลักน้ำฟักทองที่ห้องโถง โอมเพี้ยง….." เด็กหญิงหลับตาอธิษฐาน

    "แล้วถ้าเกิดว่าฉันสำลักน้ำฟักทองตาย เธอจะทำยังไง ฮึ" มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่ท้าทาย

    "ฉันก็จะขำให้ตัวงอเลย" เธอพูดขณะที่นึกภาพของมัลฟอยสำลังน้ำฟักทอง แล้วหัวเราะออกมา

    "น่าขำมากนักรึงัย" มัลฟอยพูดแล้วส่งสายตาข่มขู่ไปให้เด็กหญิง เธอเงียบทันที ดวงตาสีซีดคู่นั้นช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน

    "เอ่อ ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เธอพูดแล้วทำท่าสำนึกผิด

    "ไม่เป็นไร" เด็กชายยักไหล่ทีนึง เขาดูโกรธเธอเอามากๆทีเดียว

    "มัลฟอย ฉันขอโทษนะ นะ ขอโทษ" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงที่สำนึกผิด

    "อยากให้ฉันยกโทษให้มั๊ยล่ะ"  มัลฟอยถามด้วยเสียงกวนที่หน้ากระทืบเหมือนเดิมแล้ว

    "อือ" เด็กหญิงดูเหมือนยังไม่หายผิด

    "ให้ฉันจูบเธอทีนึงซิ" เขาพูดด้วยเสียงที่เจือความกวนเอาไว้

    "ได้สิ…." เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันคิด

    "อะไรนะ เกรนเจอร์" เด็กชายพูดแล้วมองเธออย่างเหลือเชื่อ

    "เอ้ย ไม่ได้ ฉัน…..ฉันไม่ทันฟัง" เธอรีบปฏิเสธทันที เมื่อรู้ตัว

    "เธอบอกว่า 'ได้' เองนะ" เขาดูเหมือนจะไม่สนใจฟังคำปฏิเสธของเธอเลยแม้แต่น้อย

    "ฉันบอกว่าฉันไม่ทันฟังไง มัลฟอย ถ้านายเข้ามาใกล้อีกนิดเดียวนะ ฉันจะ……" แต่สายไปแล้วมัลฟอยเข้ามาใกล้เธอจนเรียกได้ว่าถ้ายิงปืนก็อยู่ในระยะเผาขนเลยทีเดียว

    "พรุ่งนี้เธอเชียร์ทีมไหน" มัลฟอยพูดขณะที่หน้าของเขาและเฮอร์ไมโอนี่อยู่ห่างกันไม่ถึงฟุต

    "สลิ…. เอ้ย กริฟฟินดอร์" เธอรู้สึกว่าเมื่อมัลฟอยอยู่ใกล้ๆ จะทำให้พูดอะไรไม่ค่อยจะถูก เขาเดินมาใกล้เธออีกจนเธอรู้สึกว่าต้องถอยหนี แต่เมื่อเธอเริ่มก้าวถอยหลัง ขาก็ขยับไม่ได้ เพราะเธอติดกำแพงแล้ว

    "สลิธิริน ฉันเชียร์ สลิธิรินก็ได้" เธอพูดเอาตัวรอด เมื่อเห็นมัลฟอยไม่พอใจ

    "ฉันไม่ได้บังคับให้เธอเชียร์ สลิธิริน ซักหน่อย" มัลฟอยพูดเสียงกวน

    "แต่ฉันอยากให้เธอเชียร์แค่ฉันคนเดียวต่างหาก ไม่ต้องไปเชียร์ทั้งทีมให้เสียเวลาหรอก" เด็กชายพูด แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธออีก หน้าของพวกเขาห่างกันไม่ถึง 5 นิ้วแล้ว

    "ฉันเอ่อ….คือ" หน้าของเด็กหญิงแดงเหมือนกับเลือดทั้งตัวมารวมกันอยู่บนหน้า

    "ฉันยังไม่ยกโทษให้เธอนะที่เธอแช่งฉันน่ะ" เขาพูดด้วยเสียงที่ฟังแล้วเหมือนเด็กที่งอนแม่ เฮอร์ไมโอนี่รีบสอดส่ายสายตาหาทางออกไปจากตรงนี้โดยเร็ว

    "ดูนั่นสิ ฟิลช์มา" เธอพูดแล้วชี้ไปที่บันไดที่ว่างเปล่า เมื่อมัลฟอยหันไปมองเธอก็ก้าวเริ่มก้าวขาวิ่ง แต่มัลฟอยเร็วกว่า เขาดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่เขามาหา แล้วเริ่มลงมือจูบเธอทันที เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นของเขา ขณะที่ริมฝีกปากเริ่มสัมผัสกันเป็นเวลาหนึ่ง เธอพยามขัดขืนทุกวิถีทาง และครั้งนี้ดูเหมือนมัลฟอยจะไม่อยากฝืนเธอ เขาผละออกจากเธอเร็วกว่าที่เธอคิดไว้ ความรู้สึกทั้งดีใจและโล่งอกโถมเข้ามาสู่ตัวของเฮอร์ไมโอนี่อย่างรวดเร็ว

    "เธอนี่ร้ายจิงๆ เลยนะ โกหกเก่งไม่เบาเลยนะเนี่ย" มัลฟอยพูดกึ่งชื่นชมกึ่งตำหนิ

    "ดีแล้วที่เลือกที่จะพูดโกหก ดีกว่าเสกคาถากรีดแทงใส่นาย" เธอพูดด้วยเสียงกวนนิดๆ

    "งั้นเหรอ" เขาพูด แล้วยิ้มกวนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้

    "อืม หรือว่าอยากลองล่ะ" เด็กหญิงพูดกวนบ้าง และก๊อปปี้รอยยิ้มกวนๆ ของมัลฟอยมาไว้บนหน้า

    "อย่ายิ้มอย่างนั้นสิ เกรนเจอร์ ใครสอนเธอน่ะ" มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่ไม่ชอบใจ

    "ไม่มีใครสอนหรอก ฉันเลียนแบบคนแถวเนี้ยแหละ" เธอพูดแล้วกลอกตาไปรอบๆ แล้วไปหยุดที่มัลฟอย

    "เหรอ งั้นขอร้องอย่ายิ้มอย่างนี้อีก ได้ไหม" มัลฟอยขอร้องเด็กหญิง

    "ถ้าฉันบอกว่า ไม่ล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ยั่วมัลฟอย และรอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นบนหน้าของเด็กชายอย่างรวดเร็ว

    "เธอก็อย่ายิ้มให้ฉันอย่างนี้ซิ แล้วฉันก็จะไม่ยิ้มให้เธออย่างนั้นเหมือนกัน" เธอพูดเมื่อเห็นรอยยิ้มของมัลฟอย

    "อืม" เขาพูดแล้วหันมายิ้มแบบเป็นมิตรให้เฮอร์ไมโอนี่แทนรอยยิ้มเดิม

     "กลับกันเถอะ ฉันว่านี่มันดึกแล้วนะ" เด็กหญิงชักชวน

    "ได้สิ ถ้าเธออยากกลับ" มัลฟอยพูดแล้วเดินฉับๆ ออกไป เธอจึงต้องฉวยผ้าคลุมล่องหนที่อยู่บนพื้นขึ้นมาแล้ววิ่งตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว

     

    + - บทที่ 5 - +

                    คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่พยามไม่บ่นแม้จะเดินตามเขาไม่ทัน เพราะกลัวว่าเขาจะอยากช่วยอุ้มเธออีก เมื่อมาถึงหน้ารูปภาพสุภาพสตรีอ้วน เธอถึงกับหอบแฮกๆ

     

    "โอ้ย! เหนื่อยเป็นบ้า" เธอพูดพลางหอบ

    "แล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะ จะได้อุ้มเธอมาอีกงัย" มัลฟอยพูดพาดพิงไปถึงเมื่ออาทิตย์ก่อน

    "ราตรีสวัสดิ์นะ มัลฟอย" เธอพูดตัดบทเขา แล้วทำท่าจะหันหลังไป

    "เดี๋ยวฉันมีเรื่องจะเตือนเธอ ระวังตัวล่ะ" มัลฟอยพูด แล้วฉุดมือเธอไว้

    "ทำไมฉันต้องระวังตัวด้วยล่ะ" เธอถามด้วยเสียงที่สงสัยอยากรู้เต็มที่

    "ฉันบอกให้ระวัง ก็ระวังล่ะกัน" มัลฟอยพูดด้วยเสียงรำคาญ "อย่าเชื่อใจใครง่ายๆ แม้แต่ฉันก็เถอะ แล้วอีกอย่างอยู่ห่างๆ กับยัยมารีน เด็กปีห้าบ้านของฉันให้ดีนะ ยัยนั่นน่ะ คิดไม่ดีกับเธอแน่ๆ แล้วยัยนั่นก็ฉลาดมากด้วย รู้ไหม ระวังตัวไว้ให้ดีนะ" มัลฟอยเอามือมาจับที่ไหล่ของเธออย่างแผ่วเบา และเธอก็พยักหน้ารับคำเค้า ถึงแม้ว่าจะงง

    "ราตรีสวัสดิ์ เกรนเจอร์ ฝันถึงฉันบ้างล่ะ" เขาพูดทะเล้นๆ แล้วมองหน้าของเธอที่ตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

    "เธอจะร่ำลากันถึงเช้ารึป่าวจ๊ะ ฉันจะได้นอนต่อ" สุภาพสตรีอ้วนประชดประชันด้วยเสียงอันดัง ทำเอาเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยสะดุ้งตามๆ กัน

    "ฉันกลับแล้วนะ เกรนเจอร์ ระวังตัวด้วยล่ะ" เขาพูดพลางมองไปที่สุภาพสตรีอ้วนอย่างไม่ไว้ใจ

    "อือ แล้วเจอกัน" เฮอร์ไมโอนี่ลาเขา แล้วหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับสุภาพสตรีอ้วน

    "ว่าไง จะบอกรหัสผ่านได้รึยัง" วันนี้ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีอ้วนจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ

    "ได้ค่ะ" เธอประชด แล้วบอกรหัสผ่าน และรูปภาพถูกเหวี่ยงออกอย่างรุนแรงจนกรอบรูปแทบจะพัง

    …+*+*+…

                    เฮอร์ไมโอนี่รีบเปลี่ยนชุดนอนแล้วล้มตัวลงนอนกับที่นอนนุ่มๆ และหลับไปแทบจะทันที เธอฝันถึงมัลฟอยจริงๆ แต่ก็เป็นฝันที่ไม่ค่อยดีนัก เธอฝันว่า มัลฟอยตกจากไม้กวาดความสูงประมาณสิบฟุต ซึ่งสูงพอที่จะทำให้เขาแขนหรือขาหักได้ แล้วก็มีรอนและแฮร์รี่ที่ขำอย่างเปิดเผยอยู่ข้างๆ เธอฝันอย่างนี้วนไปวนมาเป็นสิบรอบจนเธออยากจะตื่นขึ้นมาให้มันจบไปซะที

     

    "เฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่" ปาราวตี พูดด้วยเสียงที่เป็นห่วงอยู่ข้างเตียง

    "อือ ปลุกฉันทำไมเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยเสียงที่ทั้งขอบคุณและสงสัย

    "ก็ นี่มันหกโมงกว่าๆ แล้วฉันกลัวว่าเธอจะไปดูการแข่งขันไม่ทันเลยมาปลุกก่อน" ปาราวตีพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง

    "เมื่อกี้ฉันลงไปที่ห้องนั่งเล่นรวมมา แฮร์รี่กับรอนฝากมาบอกว่า จะไปกินอาหารก่อน ให้เธอตามไปน่ะ" เธอพูดอีก

    "ขอบคุณมาก" เฮอร์ไมโอนี่พูดและรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นจากเตียงไปทำภารกิจตอนเช้าของเธอให้เสร็จ

     

    + - บทที่ 6 - +

                    เธอรีบตรงไปที่ห้องโถงทันที ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีอ้วนจะอารมณ์ดีแล้วเพราะเธอร้องเพลงเสียงดังและเหวี่ยงรูปภาพเปิดออกอย่างนุ่มนวลเหมือนประตูเลื่อนตามโรงแรม เมื่อมาถึงห้องโถง เธอรีบวิ่งไปนั่งตรงกลางระหว่างรอนกับแฮร์รี่ที่เว้นที่ไว้ให้

     

    "ทำไมตื่นสายล่ะ" รอนและแฮร์รี่ถามอย่างเป็นห่วง

     "ปกติเธอตื่นก่อนใครๆ ในบ้านเลยมั้ง" เนวิลล์เสริมด้วยหน้าที่มีสีชมพู

    "ฉันขอโทษ ฉันก็เป็นมนุษย์นะ ก็ต้องตื่นสายบ้างสิ" นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เธอพูดก่อนจะยัดขนมปัง 2 แผ่นเข้าปากอย่างรวดเร็ว

    "เดี๋ยวก็ติดคอหรอก เกรนเจอร์" เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังพวกเขา ทำเอาเธอขนมปังติดจะติดคอแล้วจริงๆ

    "มาหาเรื่องอะไรอีกล่ะ" รอนลุกขึ้นยืนพร้อมกับชักไม้กายาสิทธิ์ออกมาจ่อที่หน้าของมัลฟอย

    "อย่ามีเรื่องกันเลยนะ ฉันขอร้อง ไม่งั้นบ้านเราต้องถูกหักคะแนนแน่" เฮอร์ไมโอนี่พูดกับรอนที่ยังคงจ้องหน้ามัลฟอยตาไม่กระพริบ

    "ฉันแค่มาบอกเธอเกรนเจอร์" มัลฟอยพูดด้วยเสียงกระซิบที่ให้เธอได้ยินคนเดียว

    "วันนี้ฉันสำลักน้ำฟักทอง" เขาพูดเสียงเรียบ เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับปล่อยฮาออกมาทันที เธอหัวเราะจนตัวงอจริงๆ จนเด็กที่นั่งที่โต๊ะกริฟฟินดอร์หันมามองเธอเป็นการใหญ่ เมื่อเธอได้สติจึงหันไปหามัลฟอย

    "จริงเหรอ" เธอหันไปกระซิบตอบเขา รอยยิ้มร้ายกาจปรากฎบนหน้าของมัลฟอย

    "จำไว้นะ เดี๋ยวได้เจอดีแน่" มัลฟอยพูดเสียงขู่แบบที่เฮอร์ไมโอนี่ชินแล้ว แต่เธอยังไม่หยุดหัวเราะ

    "นายทำเฮอร์ไมโอนี่อ่ะ  มัลฟอย" รอนพูดแล้วเอาตัวแทรกเข้ามาบังเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังคงหัวเราะน้อยๆ อยู่

    "ฉันใช้คาถาจี้เส้นกับยัยเลือดสีโคลนนี่มั้ง" มัลฟอยพูดแล้วหมุนตัวหันหลังกลับ เฮอร์ไมโอนี่หยุดหัวเราะทันที คำว่า 'เลือดสีโคลน' มันแทงใจดำเธอ

    "แล้วเจอกันที่สนาม พอตเตอร์" มัลฟอยพูดแล้วออกเดินไปสมบทกับแครบและกอยล์ที่ยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องโถง

    "คำก็เลือดสีโคลน สองคำก็เลือดสีโคลน" เธอพูดอย่างเคืองๆ เมื่อมัลฟอยจากไป

    …+*+*+…

                    เมื่อทานอาหารเสร็จเฮอร์ไมโอนี่เดินออกมานอกปราสาทพร้อมกับรอน ส่วนแฮร์รี่ไปเตรียมแข่งแล้วตั้งแต่วู้ดมาเรียก แต่มัลฟอยนั้นดูเหมือนไม่ได้เดือดร้อนต่อการแข่งเลยแม้แต่นิดเดียว เขายังยืนอยู่คนเดียวที่ริมทะลสาป โดยที่ไม่มีแครบและกอยล์ยืนอยู่ข้างๆ

     

    "เอ๊ะ ทำไมยังไม่ไปเตรียมแข่งอีกนะ" เฮอร์ไมโอนี่ว่ามัลฟอย

    "อะไรนะ เฮอร์ไมโอนี่ ฉันได้ยินไม่ชัด" รอนถาม ขณะมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่อย่างสงสัย

    "เปล่า ไม่มีอะไร" เธออย่างไม่สนใจ ขณะสายตายังจับจ้องไปที่มัลฟอย

    "เธอมองอะไรน่ะ" รอนพูดแล้วเพ่งไปที่ริมทะเลสาป "มัลฟอยเหรอ ฉันอยากจะให้ปลาหมึกยักษ์กระโดดขึ้นมางับหัวให้ขาดไปเลย" รอนจินตนาการไปถึงปลาหมึกยักษ์งับหัวของมัลฟอยไป แล้วขำออกมา

    "น่าขำมากนักรึงัย" เฮอร์ไมโอนี่เลียนแบบคำพูดและน้ำเสียงมาจากมัลฟอยได้หยั่งกับถอดมาจากพิมพ์เดียวกัน

    "เอ่อ…" รอนพยามหาคำพูดมาแก้ตัว "ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยนะ ว่าเดี๋ยวนี้เธอเป็นอะไรฮะ โมโหบ่อยจังเลย ฉันอยากจะถามมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เธอถูกบริเวณกับฟิลช์แล้วก็เปลี่ยนไป ทำไมฟิลช์ให้เธอกินยาอะไรผิดเข้าไปเหรอ…" รอนต่อว่า หูของเขาก็กลายเป็นสีแดงตัดกับหน้าขาวๆ ที่มีกระของเขา

    "ฉันขอโทษ รอน ที่เดี๋ยวนี้อารมณ์เสียบ่อย ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงสำนึกผิด

    "ไม่ต้องมาทำสำนึกผิดเลยนะ ทีตอนทำไม่เห็นจะคิดเลย" รอนดูเหมือนยังระบายไม่หมด

    "ฉะ….ฉันขอโทษ" เธอพูดขณะที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้า

    "ฉันให้อภัยไม่…..เฮอร์ไมโอนี่ อย่าร้องไห้สิ" รอนเริ่มดูคลายความโกรธไปได้กว่าครึ่ง เมื่อน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่ไหลอาบแก้ม แต่เด็กหญิงรีบเดินออกมาจากรอนอย่างรวดเร็ว ทิ้งรอนให้ยืนงงอยู่ตรงนั้น

    …+*+*+…

    "เกรนเจอร์" เฮอร์ไมโอนี่พึ่งรู้ตัวตอนที่มัลฟอยทัก ว่าเธอเดินมาทางทะเลสาป

    "มัลฟอย ยังไม่ไปเตรียมแข่งอีกเหรอ แฮร์รี่เค้าไปแล้วนะ" เฮอร์ไมโอนี่พยามรักษาเสียงไม่ให้สะอื้น

    "ยังหรอก" มัลฟอยดูเหมือนจะไม่โกรธเลยที่เด็กหญิงพูดเรื่องของแฮร์รี่ "ฉันยังไม่อยากไป ว่าแต่เธอเถอะมาทำอะไรอยู่แถวนี้" เด็กชายถามด้วยเสียงที่แปลกไป และเขาไม่รู้สึกเลยว่าเธอร้องไห้มา

    "วันนี้เธอเป็นหวัดเหรอ มัลฟอย เสียงแปลกๆ นะ" เด็กหญิงถามด้วยความเป็นห่วง และเธอเลิกร้องไห้แล้ว

    "ป่าวหรอก" เด็กชายตอบปัดๆ "เธอไม่ต้องยุ่งหรอก" เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอึ้งกับคำตอบ วันนี้เค้าดูแปลกๆ ไป

    "ฉันไปแล้วนะ มัลฟอย พอดีรอนรออยู่น่ะ" แล้วเธอก็ชี้ไปที่รอนที่ยืนมองมาที่พวกเขาด้วยสีหน้าที่งงสุดขีด

    "งั้นเหรอ" มัลฟอยพูด เขาไม่ขัดเธอเลยเมื่อถึงเอ่ยรอน "เดี๋ยวก่อนสิ คราวหลังน่ะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉันมาก ฉันรำคาญเข้าใจไหม" มัลฟอยพูดแล้วเดินไปทางสนามควิชดิชอย่างไม่สนใจเธอ

    "เป็นอะไรของเขานะ เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย" เธอพูดด้วยเสียงสั่นที่เหมือนจะร้องไห้อีก

    "เป็นอะไรไป เฮอร์ไมโอนี่" รอนเดินมาจับไหล่ของเธอ ดูเหมือนว่าเขาจะหายโกรธเธอแล้ว

    "อ๋อ ป่าวหรอก" เธอพูดและเริ่มปล่อยน้ำตาให้ไหลอย่างอิสระอีกครั้ง

    "โอ๋!!! ไม่ร้องนะ เฮอร์ไมโอนี่" รอนเดินเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ แล้วใช้มือลูบหลังเธออย่างปลอบใจ

     

    + - บทที่ 7 - +

                    รอนเดินปลอบเฮอร์ไมโอนี่ที่ร้องไห้ไม่หยุด ตัดผ่านสนามหญ้า มาที่สนามควิชดิชที่ตอนนี่มีกลุ่มนักเรียนกำลังเดินกันอย่างพลุกพล่าน

     

    "จะไปหาแฮร์รี่มั๊ย" รอนถาม ขณะที่กำลังมองไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของกริฟฟินดอร์

    "อืมไปสิ" เธอพูด ขณะที่เสียงยังขาดเป็นห้วงๆ เพราะสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้

    …+*+*+…

                    รอนจูงมือของเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังร้องไห้อยู่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของทีมกริฟฟินดอร์ เมื่อไปถึงวู้ดกำลังพูดปลุกใจเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาคงพูดนานกว่าปกติ เพราะ มีแค่แอนเจลิน่า เท่านั้นที่นั่งฟังเขาอยู่ นอกนั้น กำลังนั่งกินกบช็อกโกแล็ตและนินทาคนนู้นคนนี่อย่างสนุกสนาน แต่วู้ดก็ยังพูดต่อเหมือนว่าไม่มีวันจะจบ….

     

    "แฮร์รี่ โชคดีนะ" รอนพูด ขณะที่ไปนั่งร่วมวงกินกบช็อกโกแล็ตด้วย "ชนมัลฟอยให้ตกไม้กวาดเลยนะ" รอนกระซิบบอกแฮร์รี่ที่นั่งดูเพื่อนๆ กินอย่างสนุกสนาน

    "โชคดีนะ แฮร์รี่" เฮอร์ไมโอนี่พูด ขณะที่กำลังปาดน้ำตาหยดสุดท้ายบนหน้า

    "อืม ฉันจะจับลูกสนิชให้ได้ภายใน 2 วินาทีที่มันโผล่มาเลยล่ะ ไม่ต้องห่วง" แฮร์รี่พูดแล้วยกมือขึ้นไปกดไหล่เด็กหญิงให้มานั่งร่วมวงด้วย

    "กินสิ เธอจะได้รู้สึกดีขึ้น" เฟร็ดบอก ขณะกัดหัวของกบอย่างเอร็ดอร่อย

    "ขอบใจ" เธอพูดขณะรับกล่องกบมา แล้วแกะมันออก

    "นี่ พวกนายได้ฟังฉันอยู่รึป่าว" วู้ดตะโกนมาจากหน้าห้อง

    "อืม ฟังอยู่" จอร์จ พูดอย่างรวดเร็ว

    "ใช่ กำลังฟังอยู่ นายพูดถึงว่าเราต้องชนะสลิธิรินให้ได้ นี่เป็นการแข่งที่สำคัญ….." เฟร็ดเสริม

    "ไปกันได้แล้วล่ะใกล้เวลาแข่งแล้ว" แอนเจลิน่าหันมาพูดตัดบทเขา

    "นี่ พวกนายว่ามั๊ย วู้ดกับแอนเจลิน่าเนี่ยน่าจะเป็นแฟนกันนะ" จอร์จเริ่มพูด

    "อืม ฉันก็ว่างั้นแหละ" แคตี้ เบลล์พูดบ้าง

    "ช่าย เครียดอยู่กับการซ้อม การแข่งนั่นแหละ" เฟร็ดเสริมขึ้นอีกครั้ง

    "นี่ พวกนาย ถ้าจะนินทาใคร หัดให้เสียงมันเบาๆ หน่อย" วู้ดพูดพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่สองฝาแฝด

    "พวกฉันไม่ได้นินทาใคร แค่พูดเรื่องจริงเท่านั้นเอง" เฟร็ดกับจอร์จ ตอบเหมือนนัดกันมา

    "เอาล่ะ ฉันว่าไปกันเถอะนะ ใกล้แข่งแล้ว" แอนเจลิน่าพูด กับเพื่อนๆ ในทีมของเธอ

    "ฉันไปแล้วนะ แฮร์รี่" เฮอร์ไมโอนี่บอก เธอดูร่าเริงกว่าตอนที่เดินเข้ามามาก

    "ไปแล้วนะแฮร์รี่ จับลูกสนิชให้ได้เร็วๆ ล่ะ" รอนบอก แล้วหลิ่วตาให้แฮร์รี่ครั้งนึง

    "อืม แล้วฉันจะทำตามที่นายแนะนำนะ รอน เฮอร์ไมโอนี่ด้วย" แล้วเขาก็ขยิบตาตอบให้รอนที่กำลังเดินจากไป

    …+*+*+…

    "พวกนายมีแผนอะไรกันน่ะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ รอน" เฮอร์ไมโอนี่เค้นความจริงจากรอน ขณะที่กำลังปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนอัฒจรรย์

    "อะไร ไม่มีอะไรซักหน่อย" รอนตอบด้วยเสียงที่สูงผิดธรรมชาติ

    "อย่าให้ฉันรู้ล่ะกัน" เธอพูด ขณะที่กำลังเบียดตัวไปนั่งข้างๆ แฮกริด ที่นั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว

    …+*+*+…

                    การแข่งขันดำเนินไปแล้ว 50 นาที ตอนนี้สลิธิรินเป็นฝ่าย นำอยู่ 30 ต่อ 0 ทำประตูโดย มาร์คัส ฟลินต์ กัปตันทีมสลิธิริน และมี ลี จอร์ดัน เป็นผู้พากย์ที่ออกจะเอนเอียงไปทางฝ่ายของกริฟฟินดอร์ เขาต้องสบถ คำหยาบคายออกมาทุกครั้งที่สลิธิรินได้แต้ม แต่พอ 10 นาทีต่อมากริฟฟินดอร์ก็ทำประตูได้ โดย แคตี้ เบลล์ และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถูกลูกบลัดเจอร์ที่เฟร็ดตีผิดเข้า สลบหล่นลงจากไม้กวาดด้วยความสูง 5 ฟุต วู้ดรีบหันมาแยกเขี้ยวให้เฟร็ดที่กำลังใช้ไม้สำหรับตีลูกบลัดเจอร์เกาหัว

                    แฮร์รี่บินร่อนอยู่เหนือสนามแข่ง ยังไม่มีวี่แววของลูกสนิชเลย เขาเหลือบมองไปทางมัลฟอย ที่กำลังบินร่อนอยู่ในระดับเดียวกับเขา ดูเหมือนว่ามัลฟอยก็ยังไม่เห็นวี่แววของลูกสนิชเช่นกัน เขาขี่ไม้กวาดร่อนไปร่อนมากินลมเล่นๆ ไป ดูเหมือนว่าเขาไม่สนใจจะหาลูกสนิชมากกว่า

     

    "แฮกริด นั่นลูกสนิชใช่ไหมค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ชี้มือไปที่ลูกสีทองๆ เล็กๆ ที่มีปีกสีขาว แฮกริดยกกล้องใหญ่ๆ ของเขาขึ้นดู และรีบหันมารายงานเด็กหญิง

    "อืม ใช่แล้ว นั่นลูกสนิช" แฮกริดบอก ตอนนี้เขาอยากจะตะโกบอกแฮร์รี่ดังๆ ว่า 'ลูกสนิชอยู่ตรงนี้' แต่ดูเหมือนรอนจะรู้ใจเขา  เพราะ รอนตะโกนบอกแฮร์รี่ให้เขาแล้ว

    "แฮร์รี่ ลูกสนิชอยู่ตรงนี้" รอนลุกขึ้นยืน แล้วตะโกนสุดเสียง ดูเหมือนแฮร์รี่จะไม่ได้ยินเสียงใดๆ นอกจากเสียงลม รอนจึงตะโกนอีกครั้ง "แฮร์รี่ สนิช สนิช…….. โอ้ย !! เจ็บคอ" รอนเอามือกุมที่คออย่างเจ็บปวด

    "สนิช แฮร์รี่" รอนตะโกนอีกครั้งด้วยเสียงแหบแห้ง

    "เขาได้เอาหูไปแข่งด้วยรึป่าวเนี่ย" รอนพยามพูดด้วยเสียงแหบ เมื่อเห็นแฮร์รี่ไม่ได้มีท่าทีสนใจเลย

    "ถึงนายตะโกนให้ตายเค้าก็ไม่ได้ยินหรอก" เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับหัวเราะ กับเสียงของรอน

    "ทำมัย โอ้ย !! เจ็บคอ พูดอย่างนั้น หาาาาา" รอนพยามตะโกนใส่เฮอร์ไมโอนี่ แต่เสียงนั้นกลับไม่ร่วมด้วยเลย

    "ฉันว่า เราไม่ต้องพูดแล้วล่ะ แฮร์รี่เค้าคงรู้แล้ว" แฮกริดใช้นิ้วใหญ่ๆของเขาชี้ไปที่แฮร์รี่ที่กำลังมุ่งตรงไปยังสนิช

    "โธ่เอ้ย!!!! มัลฟอยก็รู้ด้วย" เสียงเด็กคนข้างๆ พวกเขาร้องอย่างเสียดาย

    "จริง……..เหรอ" รอนพยามพูด แล้วมองหามัลฟอย

    "นั่นงัย" เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างบนเค้าร้องขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ รอน และแฮกริดเงยหน้าขึ้นไปมองทันที

    "แฮร์รี่ ชน เลยชน" รอนพูดด้วยเสียงที่แหบเหมือนเป็ด

    "อ๋อ อย่างนี้นี่เองนะ รอน" เฮอร์ไมโอนี่พูด เมื่อรู้แผนการของพวกเขา

    "โธ่เอ้ย หลบได้อีก" รอนยังพูดด้วยเสียงแหบๆ โดยไม่สนใจเฮอร์ไมโอนี่

    …+*+*+…

                    และแล้วในที่สุด แฮร์รี่ก็จับลูกสนิชได้ แล้วเขาก็ได้โอกาสตอนมัลฟอยเผลอ เบียดมัลฟอยตกไม้กวาดนิมับัส 2001 ของเค้า ด้วยความสูง 10 ฟุต เฮอร์ไมโอนี่ตกใจแทบช็อก มันช่างเหมือนกับความฝันของเธอเสียจริงๆ  เมื่อการแข่งขันจบ กริฟฟินดอร์ชนะสลิธิริน 210 ต่อ 50 คะแนน รอนรีบจูงมือเฮอร์ไมโอนี่ลงไปหาแฮร์รี่ที่กำลังยืนดูมัลฟอยนอนนิ่งอยู่บนพื้นสนามหญ้า มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เหตุการณ์นี้แตกต่างจากความฝัน คือ แฮร์รี่และรอน แอบขำกันอยู่ลับๆ โดยมีฝาแฝดวีสลี่ย์มาร่วมวงด้วยอีกสองคน

     

    + - บทที่ 8 - +

                    เฮอร์ไมโอนี่อยากจะวิ่งเข้าไปช่วยเขาจริงๆ แต่ว่าเธอเปลี่ยนใจ เพราะ มี 'มารีน' เด็กสาวปีห้า หน้าตาคมเข้มของบ้านสลิธิริน กำลังนั่งประคองเค้าอย่างใกล้ชิด เสียจนเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง แล้วยิ่งเมื่อกี้ที่เค้าพูดกับเธอว่า 'คราวหลังน่ะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉันมาก ฉันรำคาญเข้าใจไหม' ก็ยิ่งทำให้เธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับมัลฟอยเข้าไปใหญ่

     

    "นี่ เฮอร์ไมโอนี่เป็นยังไง ฝีมือฉันเองเลยนะเนี่ย" แฮร์รี่พูด แล้วพยักเพยิดไปทางมัลฟอยที่ยังนอนอยู่

    "อ๋อเหรอ ภูมิใจมากมั๊ย" เธอพูดกวนๆ

    "อืม มากสิ" รอนพูดแล้วยืดอกขึ้น เขายังไม่รู้ว่าเธอประชด

    "แหม งั้นก็ไปประกาศความภูมิใจให้มาดามฮูชรู้ด้วยล่ะกันนะ แฮร์รี่ รอน" เธอพูดแล้วยิ้มกวนๆ ให้ แล้วเหล่ตามองไปที่มาดามฮูช ที่กำลังคุยกับมาดามพอมฟรีย์เรื่อง มัลฟอยตกมาจากไม้กวาด

    "โธ่เอ้ย ที่แท้ก็ไม่อยากให้มารีนเข้าใจผิดนี่เอง" เธอพูดด้วยเสียงประชด แล้วเดินกลับหอคอยไปทันที

    …+*+*+…

                    เมื่อแฮร์รี่และรอนปีนผ่านช่องข้างหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนเข้ามา พวกเขาก็เห็นเฮอร์ไมโอนี่กำลังนั่งเหม่อลอยมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง

     

    "เป็นอะไรรึป่าว เฮอร์ไมโอนี่" รอนพูดแล้วรีบวิ่งถลามาหาเธอ

    "ไม่เป็นอะไร ฉันแค่นั่งคิดถึงการแข่งขันน่ะ นายจับสนิชได้เยี่ยมมากเลยนะ แฮร์รี่" เด็กหญิงพูดอย่างใจลอย

    "เมื่อกี้นะ ฉันไปเยี่ยม แคตี้ ที่ห้องพยาบาลมาน่ะ" แฮร์รี่พูดแก้เขินกับคำชมเมื่อครู่นี้

    "แคตี้ ตื่นขึ้นมาแล้ว ต่อว่าฉันใหญ่เลย" เฟร็ดพูด ขณะที่ปีนช่องหลังรูปภาพเข้ามา

    "แต่ฉันสะใจจริงๆ นายทำได้เยี่ยมมาก แฮร์รี่" จอร์จพูด แล้วเดินมาสมทบกับพวกเขา

    "อ๋อ เรื่องมัลฟอยเหรอ" แฮร์รี่พูดเหมือนพึ่งนึกออก

    "เห็นแคตี้บอกว่า ยังสลบไม่ตื่นเลยหนิ" รอนพูดด้วยเสียงระคนด้วยเสียงหัวเราะ

    "จริงเหรอ ยังสลบอยู่เลยเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ดูกระตือรือร้นขึ้นมาจากเดิมอย่างมาก

    "อืม งั้นฉันขอให้สลบต่อไปตลอดกาลเลย เพี้ยง…"  รอนพูด เหมือนขอพรจากพระเจ้า

    "ปากเสีย" เด็กหญิงพูด แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมทันที

    "เป็นอะไรของเค้านะ" เฟร็ดพูด แล้วมองหน้ารอนที่กำลังอยู่ในอาการงง

    "คงเป็นห่วงมัลฟอยมั้ง" จอร์จพูด พลางยักไหล่

     

    + - บทที่ 9 - +

                    เธอรีบออกวิ่งไปที่ห้องพยาบาลทันที เมื่อไปถึงมาดามพอมฟรีย์กำลังจัดเตรียมยาให้มัลฟอยอยู่พอดี

     

    "หวัดดีค่ะ มาดามพอมฟรีย์ เอ่อ มัล…… เอ้ย แคตี้ เป็นยังไงบ้างค่ะ" เธอเปลี่ยนคำพูดอย่างกระทันหัน

    "อ๋อ มิสเบลล์ดีขึ้นแล้วจ๊ะ พรุ่งนี้คงกลับหอได้" มาดามพอมฟรีย์ส่งยิ้มนุ่มนวลมาให้เธอ

    "แล้ว เอ่อมัลฟอยล่ะค่ะ" เธอถามเมื่อไตร่ตรองมานาน ว่าสมควรถามหรือไม่

    "ยังไม่ตื่นเลยจ๊ะ สงสัยจะอาการหนัก เธอจะเข้าไปเยี่ยมเค้าไหมล่ะ" เธอชักชวนด้วยเสียงอ่อนโยน

    "ค่ะ" เธอตอบอย่างรวดเร็วจนลืมไปว่า ต้องมาเยี่ยม แคตี้ด้วย

    "ตามมาสิจ๊ะ" มาดามพอมฟรีย์พูด พร้อมกับเดินนำเธอไปอย่างรวดเร็ว

    …+*+*+…

                    เมื่อเดินเข้ามาถึงข้างใน แคตี้นอนอยู่เตียงด้านในสุด เธอกำลังหลับอยู่ ส่วนมัลฟอยนั้นนอนคนละฝั่งกับแคตี้ เขากำลังหลับอยู่เหมือนกัน 'แหม มาเฝ้ากันไม่ห่างเลยนะ' เธอคิดเมื่อเห็นมารีนนั่งอยู่ข้างๆ มัลฟอย

     

    "เอ่อ มิสบอสตันเนสจ๊ะ ช่วยออกไปก่อนได้ไหม ฉันจะตรวจดูอาการของมิสเตอร์มัลฟอยหน่อยน่ะ เดี๋ยวค่อยเข้ามาใหม่นะ" มาดามพอมฟรีย์พูด เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกดีใจที่มาดามพอมฟรีย์เชิญมารีนออกไป

    "ได้ค่ะ" มารีนพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน "แต่ขอหนูลาเขาก่อนนะค่ะ ตอนเย็นๆ หนูจะมาใหม่" เด็กสาวพูดแล้วก้มหน้าไปจูบที่แก้มของมัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่อยากจะวิ่งเข้าไปถีบมารีนให้กระเด็นไปไกลๆ เหลือเกิน

    "หนูไปแล้วนะค่ะ……" มารีนเว้นระยะนิดนึง "แล้วเจอกันอีกเร็วๆ นี้เกรนเจอร์" เธอพูดแล้วสะบัดผมหยิกดำขลับของเธอเดินออกไปจากห้องพยาบาล

    "มิสมารีน เค้ามาเฝ้ามิสเตอร์มัลฟอย ตั้ง 2 ชั่วโมงแล้วล่ะ" มาดามพอมฟรีย์เอ่ยขึ้น ขณะที่นำถาดยาไปวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง

    "เหรอค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วหันไปมองมัลฟอยที่นอนอยู่บนเตียง

    "แล้วเค้าเจ็บตรงไหนบ้างค่ะ" เด็กหญิงหันไปถามมาดามพอมฟรีย์ที่กำลังง่วนอยู่กับการเทยาใส่แก้ว

    "ก็ แขนหักนิดหน่อย เพราะ เค้าคงเอาแขนลงกระแทกพื้น แต่ยังดีกว่า พอตเตอร์ ตอนที่ถูกลูกบลัดเจอร์ไล่ล่า เมื่อตอนที่พวกเธออยู่ปีสองหละ" มาดามพอมฟรีย์พูด ทำให้เฮอร์ไมโอนี่คิดไปถึงตอนที่แฮร์รี่เจอลูกบลัดเจอร์ที่ถูกด๊อบบี้ล็อกไว้

    "แล้วเมื่อไหร่เขาจะตื่นค่ะ" เธอพูดแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

    "อีกสักชั่วโมงนึงล่ะ ไม่แน่ใจนะ" มาดามพอมฟรีย์ว่าแล้วกรอกยาใส่ปากของเขา แต่รู้สึกเหมือนยาของมาดามพอมฟรีย์จะดีเกินคาด

    "โอ้ย อะไรกันเนี่ย" เสียงของมัลฟอยขาดเป็นห้วงๆ เพราะ สำลักยา

    "อ้าว มิสเตอร์มัลฟอย" มาดามพอมฟรีย์ร้องอย่างตกใจที่อยู่ดีๆ เขาก็ตื่นขึ้นมา

    "แล้วอยู่ดีๆ เอายาอะไรมากรอกผมเนี่ย" เค้าพูดขณะยันตัวลุกขึ้นนั่ง ตาจับจ้องไปที่มาดามพอมฟรีย์อย่างมุ่งร้าย เสียงของเค้าแตกต่างไปจากตอนที่อยู่ที่ทะเลสาปมาก

    "ก็นายสลบไปตั้งเกือบ 3 ชั่วโมง จะให้ปล่อยไว้เฉยๆ ได้ยังงัยล่ะ" มัลฟอยหันขวับมาทันที เขาพึ่งเห็นเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ที่ข้างเตียง

    "พวกเธอคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเตรียมยามาให้ใหม่ก่อน" มาดามพอมฟรีย์มองไปที่ยาที่หกรดเสื้อของมัลฟอย และเดินฉับๆ ออกไปหยิบยาชุดใหม่ทันที

    "ฉันจะกลับแล้ว เดี๋ยวนายจะรำคาญเอา" เธอพูดแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้

    "เดี๋ยวก่อน จะรีบไปไหน ใครรำคาญเธอ" เด็กชายส่งสายตาไปให้เธอ ประมาณว่า 'เธอพูดอะไรของเธอ'

    "นี่ พอตกจากไม้กวาดแล้วความจำหายไปหมดเลยรึงัย" เด็กหญิงกอดอกถามเขา

    "คงงั้นมั้ง" เขาพูดด้วยเสียงกวนๆ

    "นี่มัลฟอย มันไม่ตลกนะ" เธอพูดด้วยเสียงที่เหลืออด แต่มัลฟอยไม่พูดอะไรต่อ

    "เมื่อตอนก่อนเล่นควิชดิช นายยังบอกฉันอยู่เลยว่าไม่ให้มายุ่ง….." เด็กหญิงพูดด้วเสียงที่แทบจะเรียกได้ว่าตะโกน "เพราะ นายรำคาญฉัน" เธอพูดด้วยเสียงที่เบาลงเรื่อยๆ

    "อะไรนะ ใครพูด ฉันไม่ได้พูดอะไรซักคำเลยนะ" เขาพูดพร้อมกับทำหน้าบริสุทธิ์เต็มที่

    "ฉันเจอเธอตอนก่อนออกจากห้องโถงเป็นครั้งสุดท้าย เธอคงจำสับสนแล้วล่ะ เกรนเจอร์" มัลฟอยพูดเสียงเย็นชา

    "ฉันจะจำสับสนได้ยังไง ก็นายเป็นคนพูดออกมาจากปากนายเองเลยนะ ว่า….." เธอพูดขณะน้ำตาไหลออกมาอย่างรวดเร็ว "ว่า นายรำคาญฉัน" เธอพูดแล้วทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม

    "ฉันพูดกับเธอตอนไหน เกรนเจอร์" เขาถามอย่างโมโห

    "ตอนที่เธออยู่ที่ทะเลสาปงัย" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงสั่น

    "วันนี้ ฉันยังไม่ได้ไปที่ทะเลสาปเลยนะ ฉันจะบอกเธอหยั่งงั้นได้ยังไง" เขาพูดด้วยท่าทีร้อนรนด้วยความโมโห

    "เกรนเจอร์ เธอเชื่อใจฉันไหม ฉันไม่ได้พูด จริงๆ" เขาพูดพร้อมกับเอื้อมแขนข้างที่ไม่เจ็บไปจับมือเธอขึ้นมา

    "ฉันก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะ แต่ว่า………" เธอพูดแล้วสูดหายใจลึกๆ "เธอบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ให้เชื่อใจใครง่ายๆ ฉันขอโทษด้วยนะ" เธอพูดแล้วดึงมือเค้าออก และเริ่มปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างอิสระ

    "เธอไปได้แล้วเกรนเจอร์ ฉันชักจะเริ่มรำคาญเธอจริงๆแล้วสิ" เขาพูดแล้วหันหน้าไปทางอื่น

    "ได้…… แต่ฉันอยากจะบอกเธออย่างนึงว่า" เธอลุกขึ้นยืน "อย่าทำร้ายจิตใจมารีนเค้าให้มากนะ มารีนเค้าคงจะเป็นห่วงเธอมากแหละ เค้ามานั่งเฝ้าเธอตั้งสองสามชั่วโมงตอนเธอยังสลบอยู่ ฉันพูดได้แค่นี้ล่ะ ไปล่ะนะ รักษาตัวด้วย" เธอพูดด้วยเสียงที่สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่  และหันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

    "โอ้ย นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย" มัลฟอยตะโกน ขณะที่มาดามพอมฟรีย์เดินถือถาดยาชุดใหม่เข้ามา…..

     

    + - บทที่ 10 - +

    "เป็นอะไรไปมิสเตอร์ มัลฟอย" มาดามพอมฟรีย์รีบวิ่งมาหาเขาและวางถาดยาใหม่ไว้บนโต๊ะข้างเตียง

    "นี่ มัลฟอย ถ้านายจะลดเสียงลงหน่อยก็ไม่มีใครเค้าว่าว่าเป็นใบ้หรอกนะ" แคตี้ตะโกนมาจากเตียงฝั่งตรงข้าม

    "ผมไม่ได้เป็นอะไร" เขาพูดด้วยเสียงที่ไม่ได้เบาลงเลย

    "นี่ เงียบหน่อยสิ" แคตี้ตะโกนโต้

    "หยุด ทั้งสองคน" มาดามพอมฟรีย์ร้อง เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังจะลงจากเตียง

    "หนูไม่ได้เป็นอะไรแล้วค่ะ หนูจะกลับแล้ว" แคตี้ร้อง

    "ไม่ได้" มาดามพอมฟรีย์พูดด้วยเสียงอันดัง แคตี้ยอมนอนลงโดยดี

    "แล้วเธอเป็นอะไร มิสเตอร์มัลฟอย" มาดามพอมฟรีย์หันหลังมาคุยกับเขา

    "ผม…..ผม" มัลฟอยอ้ำอึ้ง

    "ผมอะไร" มาดามพอมฟรีย์เร้า

    "คุณเคยถูกเข้าใจผิดรึป่าว" เขาถามขึ้นมาจนมาดามพอมฟรีย์ถึงกับงง แต่เธอก็ตอบเขา

    "ก็เคย ล่ะ มีอะไรเหรอ" เธอบอก แต่มัลฟอยไม่พูดอะไรต่อ เด็กชายนอนลงเหมือนเดิม และหลับตาลงทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดในวันนี้

    …+*+*+…

                    เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นวันนี้ มัลฟอยพึ่งจะบอกว่ารำคาญเธอไปหยกๆ เมื่อตอนเช้า แต่ตอนบ่ายนี้ เค้ากลับบอกว่าเขาไม่เคยบอกเธอว่าหยั่งงั้น 'นี่เค้ามีสองคนรึยังไงกัน ตอนเช้ากับตอนบ่าย หยั่งกับไม่ใช่คนเดียวกัน' เด็กหญิงคิดขณะปีนผ่านช่องหลังรูปภาพสุภาพสตรีอ้วนเพื่อเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวม 'จะเป็นไปได้ยังไง อย่าคิดมากสิ' เธอคิดและสั่นศีรษะไล่ความคิดนี้ออกไป

     

    "เฮอร์ไมโอนี่" รอนเรียกและวิ่งมาหาเธอด้วยความดีใจ

    "ทำไมเหรอ" เธอตอบแล้วเดินตามรอนไปนั่งที่เก้าอี้นวมหน้าเตาผิง

    "วันเสาร์หน้า เราจะได้ไปฮอกมี้ดกัน" รอนรายงาน

    "เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอไม่ได้ดูตื่นเต้นเลย

    "เดี๋ยวฉันได้ทดลอง จะใช้แผนที่ตัวกวนนี่ซักที" แฮร์รี่พูด

    "เธอไปด้วยกันกับพวกเรานะ เฟร็ดกับจอร์จบอกว่าจะพาไปที่ ร้าน ซองโก้ ล่ะ" รอนพูดด้วยเสียงตื่นเต้น

    "อืม" เด็กหญิงตอบรับ

    …+*+*+…

    "แล้วเกี่ยวอะไรกับ ยัยมารีน เนี่ย" มัลฟอยพูดกับตัวเองเบาๆ ขณะคิดเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนจะเดินจากไป

    "เอ๊ะ แล้วเราไปอยู่ที่ทะเลสาปตั้งแต่เมื่อไหร่" เด็กชายพูด พลางพลิกตัวตะแคงไปอีกด้านหนึ่ง

    "หรือว่า เราจะไปอยู่ที่ทะเลสาปจริงๆ" เขากระซิบกับปลอกหมอน

    "แต่หลังจากที่เจอยัยนั่นครั้งสุดท้าย เราก็ไปเตรียมแข่งแล้วไม่ใช่เหรอ" มัลฟอยพูด แล้วพลิกตัวนอนหงาย

    "หรือว่า จะเป็น……." เขาพูดแล้วเด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว "มารีน" เขาต่อประโยคจนจบ และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

    "เดรโก ตื่นแล้วเหรอ" มารีนวิ่งถลามาหาเขาจากประตูทางเข้า ด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    "เออ ตื่นแล้วทำไม" มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่เซ็งอย่างเห็นได้ชัด

    "โอ้ย หนวกหู" แคตี้ตะโกนมาจากเตียงฝั่งตรงข้าม

    "นี่ ถ้าหนวกหูก็ไม่ต้องฟังสิ" มารีนหันหน้าไปทางแคตี้ ด้วยสีหน้าพร้อมจะมีเรื่องเสมอ

    "มารีน" มัลฟอยเรียกเธอ เด็กสาวหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว

    "ทำไมเหรอ เรียกฉันทำไม" เด็กสาวตอบเสียงหวาน

    "อาทิตย์หน้าเราจะได้ไปเที่ยวฮอกมี้ดกันใช่ไหม" เด็กชายถาม

    "อืม ใช่ ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงล่ะ" มารีนถามด้วยความสงสัย มัลฟอยพยักเพยิดไปที่ป้ายประกาศที่ก็มีติดไปที่ห้องพยาบาลเหมือนกัน

    "อ๋อ" มารีนดูมีสีหน้าเข้าใจขึ้นมาทันที "ทำไมเหรอ เธอจะชวนฉันไปเที่ยวด้วยรึงัย" เด็กสาวถามด้วยเสียงที่กวนๆ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง

    "ใช่ เธอจะไปไหมล่ะ" มารีนแทบจะตัวลอย เธอรีบตอบตกลงทันที

    "จริงเหรอ ไปสิ" เด็กหญิงตอบปากยิ้มจนแทบจะฉีกถึงหู โดยแตกต่างกับมัลฟอยโดยสิ้นเชิง

     

    + - บทที่ 11 - +

                    คืนนั้น เฮอร์ไมโอนี่แทบจะนอนไม่หลับเลย เธอนอนกระสับกระส่ายไปมาทั้งคืน ถึงแม้ว่าคืนนั้นเธอจะง่วงเพียงใด อยากที่จะพักผ่อนแค่ไหน ก็ยังนอนหลับไม่ได้ เธอนอนคิดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งคืน คิดวนไป วนมา จนเธอก็ข่มตานอนหลับได้ในที่สุด

    …+*+*+…

                    เช้าวันรุ่งขึ้น อากาศในห้องพยาบาลก็เย็นยะเยือกไม่ต่างอะไรจากระเบียงทางเดินเลย ดูเหมือนว่าทั้งมัลฟอยและแคตี้จะหายดีทั้งคู่แล้ว

     

    "อรุณสวัสดิ์จ๊ะ ทั้งสองคน" มาดามพอมฟรีย์ทักทายทั้งสอง

    "อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ" แคตี้และมัลฟอยตอบพร้อมกัน

    "วันนี้หนูจะกลับได้รึยังค่ะ" แคตี้ถาม

    "ได้จ๊ะ ดื่มยากันอีกคนล่ะแก้วก็กลับได้แล้วล่ะ" มาดามพอมฟรีย์ตอบด้วยเสียงที่อ่อนโยน

    "แล้วยาอยู่ไหนล่ะคับ" มัลฟอยถามด้วยเสียงที่เซ็งสุดขีด

    "อยู่นี่จ๊ะ เอ้าดื่มซะ" มาดามพอมฟรีย์ตอบ แล้วยื่นแก้วยามาให้เค้า แล้วเดินเอาไปให้แคตี้บ้าง

    "มิสเตอร์มัลฟอย ถึงแม้ว่าเธอจะกระดูกเชื่อมกันแล้ว แต่ก็อย่าใช้มันหักโหมมากนะ" มาดามพอมฟรีย์พูด พร้อมกับรับแก้วยาคืนมาจากเขาและแคตี้

    "เรื่องนั้น ไม่ต้องบอกผมก็รู้ ฮะ" มัลฟอยพูด แล้วกระโดดลงจากเตียง

    "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็ไปได้เลยนะจ๊ะ" มาดามพอมฟรีย์พูด ไล่หลังมัลฟอยที่เดินตรงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

    …+*+*+…

    เกือบจะตลอดเวลาทานอาหารเช้า เฮอร์ไมโอนี่มักจะเหลือบมองไปที่โต๊ะของบ้านสลิธิริน แต่เธอก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กชายผมสีบลอนด์ เลยแม้แต่นิดเดียว เธอเริ่มมีอาการกังวลใจขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้ง ที่หันไปมอง

     

    "เฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่เรียก เมื่อเห็นเธอมองไปเป็นครั้งที่ 14

    "อะไรเหรอ" เธอสะดุ้งแล้วหันมาหาเด็กชายทันที

    "ฉันกลัวว่าเบคอนของเธอ มันจะวิ่งเข้าไปอยู่ในท้องของรอนน่ะ" แฮร์รี่พูด แล้วเหลืบมองไปทางรอนอย่างไม่ไว้ใจ

    "อะไร แฮร์รี่ อย่ามากล่าวหากันลอยๆ สิ" รอนบอก เขารีบละสายตามาจากเบคอนในจานของเฮอร์ไมโอนี่ทันที

    "ฉันอิ่มแล้วล่ะ เธอจะกินเหรอ" เธอพูดแล้วขยับจานทองไปให้รอน

    "อืม ไม่หรอก" รอนพูด แต่น้ำเสียงของเขายังเจือความหิวกระหายอยู่

    "เฮ้อ งั้นฉันกินนะ" แฮร์รี่พูด แล้วขยับช้อนส้อมในมือมาที่จานของเด็กหญิง

    "เอ่อ ฉันกินก็ได้" รอนพูด แล้วใช้มือหยิบเบคอนของเฮอร์ไมโอนี่เข้าปากทันที

    "หิวขนาดนั้นเลยเหรอ วีสลี่ย์" เสียงยานคางของกอยล์ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา

    "นี่ แล้วมัลฟอยล่ะ หายไปไหน ยังสลบไม่ตื่นรึยังไง" แฮร์รี่หันไปพูด เมื่อไม่เห็นมัลฟอยยืนอยู่ด้วย

    "ตื่นแล้ว" แครบพูดขัดขึ้น

    "คงจะสำออยไม่ยอมออกมาจากห้องพยาบาลล่ะมั้ง" รอนพูด ตอนนี้เขากลืนเบคอนหมดแล้ว

    "ฉันยังอยู่ดี ไม่ได้สำออยแบบที่ใครบอก" มัลฟอยก้าวออกมาระหว่างแครบและกอยล์ที่หลีกทางให้

    "นายเป็นหวัดรึงัย มัลฟอย เสียงเปลี่ยนไปนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความเป็นห่วง

    "ฉันบอกเธอแล้วยังงัย ตอนนั้นว่าอย่ามายุ่ง" มัลฟอยกระซิบ ด้วยเสียงที่ไม่เหมือนเสียงของเขา

    "แฮร์รี่ รอน ไปเรียนวิชาปรุงยากันเถอะ" เฮอร์ไมโอนี่หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า แล้วเดินออกไป

    "ไปสิ ฉันก็อยากไปอยู่พอดี" รอนลุกดินตามเฮอร์ไมโอนี่ไป

    "แล้วเจอกันที่คุกใต้ดินนะ มัลฟอย" แฮร์รี่พูด แล้วเดินตามเพื่อนทั้งสองไป ปล่อยให้มัลฟอยยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

    …+*+*+…

                    ทั้งสามเดินคุยกันอย่างสนุกสนานไปตามทางที่นำไปสู่คุกใต้ดิน แฮร์รี่คุยถึงเรื่องที่ผ่านมาตอนจับลูกสนิช เค้าก็ยังแปลกใจอยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ขัดเขาตอนเล่าถึงตอนกระแทกมัลฟอยตกจากไม้กวาด เพราะ ทุกครั้งที่เขาเล่าเหตุการนี้ เธอก็มักจะขัดขึ้นมาทุกครั้ง เช่น ทำหนังสือตกบ้าง ไอบ้าง ว่าบ้าง หรือเปลี่ยนเรื่องคุยบ้าง

    เมื่อมาถึงคุกใต้ดิน ทั้งสามก็แทบจะช็อก เพราะ มัลฟอยกำลังยืนคุยอยู่กับสเนปอย่างเคร่งเครียด ทั้งๆที่ เมื่อกี้พวกเค้าเดินนำมัลฟอยมาตั้งนาน แล้วอีกอย่าง ก็มีทางเดียวเท่านั้นที่จะพามาสู่คุกใต้ดินถ้ามัลฟอยวิ่งมาเขาก็ต้องเห็นสิ แต่แล้วทำไมมัลฟอยกลับมายืนคุยกับสเนปอยู่ เหมือนกับว่า เป็นเรื่องที่คุยกันมาเป็นเวลานานแล้ว พวกเขาทั้งสามจึงรีบวิ่งไปแอบฟังทันที

     

    "ศาสตราจารย์ครับ ผมจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ" มัลฟอยพูดอย่างอ้อนวอน

    "ก็ได้ๆ เดรโก ฉันจะยอมให้เธอครั้งนี้ครั้งเดียวนะ แล้วอย่าไปบอกใครล่ะ" สเนปพูดแล้วเดินไปที่ตู้เก็บน้ำยา

    "ถ้าพ่อของเธอ ไม่มีบุญคุณต่อฉัน ฉันไม่ให้ครัยง่ายๆ หรอกนะ แม้แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็เถอะ มันเป็นน้ำยาที่เคี่ยวได้ยากมากเลยรู้ไหม" สเนปเลือกดูน้ำยาต่างๆ อย่างระมัดระวัง แล้วหยิบออกมาขวดนึง

    "หยดแค่หยดเดียวก็พอ" สเนปพูดแล้วส่งน้ำยาให้มัลฟอยที่รีบรับมาและเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อทันที "ใช้ให้ระวังนะ ว่าแต่ เธอจะเอาไปใช้กับใครล่ะ" สเนปถามด้วยความอยากรู้

    "มารีน บอสตันเนส" มัลฟอยตอบห้วนๆ

    "งั้นเหรอ" สเนปพูด แต่แล้วการสนทนาก็ต้องจบลง เพราะ แครบและกอยล์วิ่งเหมือนป่าช้าแตกเข้าไปในคุกใต้ดินโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นสามสหายที่ซ่อนอยู่เลยแม้แต่น้อย

    "อ้ากกกกกกกกกกก" แครบร้องเมื่อวิ่งมาถึงคุกใต้ดิน

    "เป็นอะไรของแก" มัลฟอยตวาดเมื่อเห็นอาการของทั้งสองคน

    "นะ….นาย.. มะมัลฟอย" กอยล์พูดเหมือนคนติดอ่าง แล้วชี้นิ้วอ้วนป้อมมาที่มัลฟอย แล้วกระโดดไปกอดแครบ

    "เออ ก็ฉันไง แล้วทำไม" เด็กชายส่งสายงงอย่างสุดขีดไปให้ทั้งสอง

    "เมื่อกี้นายยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลย" แครบร้อง

    "อะไรของพวกแก" มัลฟอยเริ่มจะโมโหที่ ทั้งสองคนพูดไม่รู้เรื่อง "แล้วตกใจอะไรมา" เขาซักต่อ

    "เมื่อกี้ ตอนอยู่ที่ห้องโถง นายก้อผมยาวออกมา" กอยล์พูดอีก

    "อะไรของแกว่ะ วันนี้ฉันยังไม่ได้ไปที่ห้องโถงเลย" มัลฟอยพูดแล้วหันไปมองสเนปอย่างเหมือนจะถาม

    "ก็อยู่ดีๆ เมื่อตะกี้นายก็ผมยาวออกมา แล้วก็ผมเปลี่ยนเป็นสีดำ หยิกๆ ด้วยล่ะ แล้วนายก็พึ่งไล่พวกเรามา จากตรงนั้น น่ากลัวมาก เหมือนผีเลยล่ะ" แครบพูดเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด

    "นั่นงัย ฉันว่าแล้ว" มัลฟอยร้องแล้วหันไปหาแครบเป็นเชิงจะพูดต่อ แต่ก็ถูกขัดขึ้น เพราะนักเรียนเริ่มทยอยกันเข้ามาเพื่อเรียนแล้ว

    "ไปนั่งที่ได้แล้ว เดรโก" สเนปพูด แล้วเดินไปที่หน้าห้องเรียน

    "ครับ" มัลฟอยรับคำ แล้วลากเพื่อนตัวโตทั้งสองไปด้วย

    …+*+*+…

    "เธอคิดว่า น้ำยาที่สเนปให้มัลฟอย คืออะไรเหรอ เฮอร์ไมโอนี่" รอนถามขณะเติมปีกพิกซี่ไปในหม้อใหญ่ของเขา

    "ฉันก็ไม่รู้สิ ไม่เห็นน่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ตอบตามความจริง

    "สงสัย จะเป็นยาเสน่ห์ นะ ฉันว่า จะเอาไปใช้กับครัยนะ รอน" แฮร์รี่หันไปถามรอนที่ตอนนี้น้ำยาในหม้อของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว

    "ยัยมาเรีย มาราเรีย อะไรก็ไม่รู้ฉันจำไม่ได้" รอนตอบขณะลุกลี้ลุกลนเติมเปลือกต้นสนลงไป

    "มารีน บอสตันเนส" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเรียบๆ

    "อืม เก่งหนิที่จำได้" รอนพูดอย่างชื่นชม

    "ขอบคุณ" เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ เสียงระฆังบอกหมดเวลาดังขึ้น

    "วันนี้ พวกเธอเอาน้ำยาของพวกเธอใส่เหยือกมาส่งที่ฉัน ถ้าน้ำยาของใครสีไม่เหมือนกับของฉันล่ะก็…." สเนปพูดขณะมองหน้าอันซีดเผือดของนักเรียนอย่างพอใจ "นำตัว '' ไปรับประทานเป็นอาหารเย็นได้เลย" ถึงตอนนี้รอนกับเนวิลล์กลืนน้ำลายกันอึกใหญ่ เพราะ น้ำยาของพวกเขาทั้งสองเป็นสีขาวไข่มุก

    "ไปได้แล้ว" สเนปพูด แล้วสบัดเสื้อคลุมไปนั่งที่โต๊ะทำงาน

    "ฉันจะส่งหรือไมส่งดีล่ะ เพราะ มันก็มีค่าเท่ากัน ยังไงก็ '' อยู่แล้วอ่ะ" รอนหันไปปรึกษาแฮร์รี่

    "แบ่งของฉันไปไหมล่ะ" แฮร์รี่พูดอย่างให้ความหวังกับรอน

    "ของนายก็พอๆ กับของฉันนั่นแหละ แต่นายอาจจะได้ดีกว่าฉันหน่อย" รอนส่งสายตาแหยๆ ไปที่หม้อใหญ่ของเขา

    "อืม ส่งกันเถอะ อย่าคิดมาก ยังไงเราก็คงจะไม่ได้ '' หรอก" แฮร์รี่พูด พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

    …+*+*+…

                    เมื่อทั้งสองส่งงานเสร็จ พวกเค้าก็เดินมาเจอเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าคุกใต้ดิน และเดินไปเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกับศาสตราจารย์ลูปิน ด้วยกันทั้งสามคน

     

    + - บทที่ 12 - +

                    เวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เฮอร์ไมโอนี่มักจะเจอกับมัลฟอยเกือบทุกคาบเรียน เพราะ บ้านทั้งสองต้องเรียนด้วยกัน เมื่อใดที่เธอสบตากับเขา เธอก็จะได้รับสายตาเย็นชาไม่เหมือนครั้งก่อนๆ จากเค้าทุกที

    …+*+*+…

                    ในที่สุดวันที่เด็กนักเรียนต่างๆ รอคอยก็มาถึง วันที่จะได้ไปเที่ยวฮอกมี้ด แฮร์รี่ไม่ได้ออกเดินทางพร้อมกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ เพราะ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ไป เขาจึงต้องไปตามทางของแผนที่ตัวกวนแทน

     

    "แล้วเจอกันที่ร้านฮันนี่ดุกส์นะเพื่อน" รอนพูดแล้วตบหลังแฮร์รี่เบาๆ ขณะที่แฮร์รี่เดินมาส่งเพื่อนทั้งสอง

    "อืม เดี๋ยวเฟร็ดกับจอร์จจะไปส่งฉัน ไม่ต้องห่วงนะ" แฮร์รี่พูดแล้วหลิ่วตาให้รอน

    "แล้วเจอกันแฮร์รี่" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง ขณะเริ่มออกเดิน ผ่านประตูไม้ที่ข้างหน้าปราสาท ขณะที่ฟิลช์ตรวจนักเรียนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวฮอกมี้ด และเหล่ตามามองที่แฮร์รี่อย่างมุ่งร้าย จนแฮร์รี่ต้องรีบหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว และเดินตามเฟร็ดกับจอร์จไป

    …+*+*+…

                    รอนและเฮอร์ไมโอนี่ เดินคุยกันเรื่องต่างๆ มากมาย จนในที่สุด ก็มาถึงฮอกมี้ด

     

    "นี่เหรอ ฮอกมี้ด" รอนร้องออกมาแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนาน

    "รอน เธอดีใจขนาดนั้นเชียวเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถาม เมื่อเห็นรอนดูมีความสุขเกินเหตุ

    "อืม ใช่ดีใจกว่าได้เป็นพรีเฟ็คอีก" รอนพูดแล้วอมยิ้มน้อยๆ

    "งั้นเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่พูด ขณะที่เธอก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ทั้งๆที่ แต่ก่อนไม่ได้คิดอยากจะมาเลย

    "ไปร้านฮันนี่ดุกส์กันดีกว่า ฉันคิดว่าแฮร์รี่คงจะรออยู่นะ" รอนลดเสียงลงเรื่อยๆ

    "อืม ฉันขอไปทางนั้นก่อนดีกว่า เธอไปหาแฮร์รี่เถอะ" เด็กหญิงพูดแล้ว ชี้ไปที่ร้านไม้กวาดสามอัน

    "ฉันไปด้วย" รอนพูดอย่างกระตือรือร้น

    "ไม่ต้องหรอก ไปหาแฮร์รี่เถอะ พอเจอแล้วก็พาไปหาฉันที่ร้านไม้กวาดสามอันล่ะกันนะ" เธอพูดแล้วยิ้มให้รอน

    "เออ ก็ได้ ว่าแต่จะเอาอะไรไหม" เด็กชายถาม

    "อืม แล้วแต่เธอล่ะกัน อะไรก็ได้" เธอไม่ปฏิเสธ "แล้วเจอกันนะ" เธอว่าแล้วก็เดินจากไป

    "ไปซะแล้ว" รอนพูด แล้วเขาเองก็เดินเบียดเสียดผู้คนไปที่ร้านฮันนี่ดุกส์อย่ารวดเร็ว

    …+*+*+…

                    เมื่อเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาในร้าน แล้วชมร้านอย่างละเอียด ร้านไม้กวาดสามอันเป็นโรงแรมเล็กกระจิ๋วหลิว มีคนแน่นจนล้าน เสียงดังจ้อกแจ้ก  บรรยากาศอุ่นสบาย (กว่าข้างนอก) และมีควันอบอวล ผู้หญิงหุ่นดีหน้าตาสะสวยคนหนึ่งยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เล็กๆ นั้น เธอชื่อว่า 'โรสเมอร์ทา' เฮอร์ไมโอนี่ทราบ เพราะ มีลูกค้าเรียกเธอเสียงดังจากมุมเคาน์เตอร์ และเธอก็กลอกลูกตามองไปรอบๆ และไปสะดุดที่เด็กผู้ชายผมบลอนด์ที่นั่งอยู่กับเด็กสาวคนหนึ่งที่โต๊ะตัวมุมสุดของร้าน

     

    "มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่คราง และรีบเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ทันที

    "ว่างัยจ๊ะ บัตเตอร์เบียร์ไหม แม่หนู" มาดามโรสเมอร์ทาทักด้วยเสียงหวาน

    "ค่ะ" เธอพูด ขณะที่ตามองไปที่โต๊ะของมัลฟอยที่นั่งอยู่กับมารีน

    "ได้แล้วจ๊ะ" มาดามพูดด้วยเสียงเช่นเดิม

    "ขอบคุณค่ะ เท่าไหร่ค่ะ" เด็กหญิงถาม

    "รอเพื่อนอยู่ใช่ไหมจ๊ะ เดี๋ยวค่อยจ่ายก็ได้" มาดามพูดเธอเป็นคนใจดีมาก

    "ค่ะ" เด็กหญิงตอบ เพราะ เธอก็ไม่มีอารมณ์นั่งหยิบให้เงินตอนนี้

    "เข้าไปใกล้กว่านี้ดีกว่า" เธอพูดแล้วเดินหยิบขวดบัตเตอร์เบียร์ไปนั่งโต๊ะที่สามารถได้ยินการสนทนาของทั้งคู่ได้

    "มัลฟอย เธอจะดื่มอะไรไหม" มารีนถามมัลฟอย ดูเหมือนพวกเค้าก็พึ่งมาเหมือนกัน

    "แล้วแต่เธอซิ" มัลฟอยตอบกลับด้วยอารมณ์เซ็งๆ

    "จะดื่มชารึไง" มารีนประชด

    "อืม ชาก็ได้" มัลฟอยตอบเสียงเย็น มารีนรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วสั่งเครื่องดื่มมาทันที

    "ฉันสั่งชามาให้แล้ว" มารีนพูด

    "ของเธอชาธรรมดา ของฉันชามะนาว" มารีนบรรยาย

    "ฉันไม่ได้อยากรู้ซักหน่อย" มัลฟอยพูดแบบเซงเต็มที่

    "งั้นเหรอ" มารีนพูดแล้วนั่งก้มหน้ามองเท้าตัวเอง มัลฟอยได้โอกาส เทน้ำยาที่ได้จากสเนปใส่ถ้วยชาของมารีนอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์นี้ เพราะ เธอนั่งหันหลังอยู่

    "เอ่อ มารีน ดื่มซักหน่อยสิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอซักหน่อย" มัลฟอยพูด มารีนเงยหน้าขึ้นมองเค้าทันที

    "อืม" เด็กสาวตอบอย่างกระตือรือร้น แล้วยกชาขึ้นจิบทันที

    "ดื่มอีกซิ" มัลฟอยพูด แล้วสร้างรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นบนหน้า

    "ได้ ดูนะ ฉันจะดื่มรวดเดียวหมดเลย" มารีนพูดแล้วยกชาขึ้นดื่มจนหมดถ้วย

    "ดีมาก" เด็กชายพูด แล้วชะโงกหน้าดูถ้วยชาของมารีน

    "ทำไมเหรอ" เด็กสาวถาม ด้วยความแปลกใจ

    "ฉันมีเรื่องอะไรจะถามเธอน่ะ" มัลฟอยเริ่มพูด แล้วมองมารีนด้วยสายตาเย็นชา

    "ได้สิ ถามเลย" มารีนดูอยากจะตอบเป็นพิเศษ

    "ไปที่ทะเลสาปตอนวันที่มีการแข่งขันควิชดิช รึเปล่า" เขาถามด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย

    "โธ่ เรื่องแค่นี้เอง ฉันไปที่ทะเลสาปมาทำไมเหรอ" มารีนตอบด้วยรอยยิ้มสดใส

    "แล้วได้เจอกับ ยัยเกรนเจอร์รึป่าว" เฮอร์ไมโอนี่ที่แอบฟังอยู่ สะดุ้งเฮือกเมื่อมัลฟอยพาดพิงถึงเธอ

    "ก็เจอนั่นแหละ" มารีนตอบ แล้วยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ที่จริงเธอตั้งใจจะบอกว่า "ไม่ได้เจอเลย"

    "เหรอ แล้วพูดอะไรกับยัยนั่นบ้าง" เด็กชายซักต่อ

    "ก้อบอกว่า รำคาญ ไม่ให้มายุ่งอีก" มารีนพูด ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม จริงๆ แล้วเธอจะบอกว่า "ไม่ได้พูดอะไรซักคำเดียว"

    "แล้วเกรนเจอร์ไปยุ่งกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่" มัลฟอยเริ่มยกประเด็นมาถามเรื่อยๆ

    "จะบ้ารึงัย ยัยนั่นจะมายุ่งกับฉันทำไมล่ะ" มารีนโต้ตอบ ซึ่งมันไม่ใช่คำพูดที่ออกมาจากความคิดของเธอเลย

    "หรือว่าเธอปลอมเป็นฉันแล้วไปบอกยัยเกรนเจอร์" เด็กชายเริ่มยิงคำถามอย่างไม่เว้นช่วง

    "ฉันใช้ 'น้ำยาสรรพรส' ต่างหากล่ะ" ว่าแล้วมารีนก็สะดุ้งสุดตัว เธอพูดสิ่งที่ไม่ได้คิดอีกแล้ว

    "อะไรของเธอ 'น้ำยาสรรพรส' คืออะไรบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ" มัลฟอยถาม ถึงสรรพคุณของน้ำยา

    "มันเป็นน้ำยาที่ใช้เปลี่ยนแปลงหน้าตา ร่างกาย ให้เหมือนใครก็ได้ที่เราต้องการ" พูดถึงตอนนี้แล้วมารีนก็เริ่มน้ำตาไหล เธอคายความจริงที่พยามจะปิดบังออกมาหมดเปลือกแล้ว

    "งั้นเธอเลย แปลงตัวเธอ ให้เหมือนฉันล่ะสิ" สีหน้าของมัลฟอยดูเข้าใจขึ้นมาทันที

    "อืม" เธอพูดผ่านไรฟันออกมา

    "แล้วเธอใช้มันกี่ครั้ง" เด็กชายถามต่อ

    "ประมาณ 2 ครั้ง นายเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย" เด็กสาวถามทั้งน้ำตา

    "ตอนไหนบ้างล่ะ" มัลฟอยถามต่อ โดยที่ไม่ตอบคำถามเธอ

    "ก็ตอนที่ทะเลสาป แล้วก็ที่ห้องโถง ตอนนั้นอยู่กับแครบและกอยล์" มารีนลุกขึ้น และตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ

    "อืม แล้วตอนนั้นพวกมันตกใจอะไรกัน" เด็กชายพูดถึงตอนที่เพื่อนทั้งสองตกใจตอนที่อยู่คุกใต้ดิน

    "ฉันจะไปแล้ว แต่อย่านึกนะ ว่า……" เด็กสาวเว้นช่วง "ฉันจะยอมแพ้ง่ายๆ น่ะ" ว่าแล้วเธอก็เดินหันหลังออกไป

    "ถึงจะถามไม่หมด แต่อย่างเราน้อยก็บริสุทธิ์" มัลฟอยพูด พร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก

    …+*+*+…

                    แล้วประตูร้านไม้กวาดสามอันก็เปิดออก รอนก้าวเข้ามาในร้านอย่างระมัดระวัง แล้ววิ่งตรงมาหาเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนั่งอึ้งกับความจริงอย่างรุนแรง

     

    "นี่ ไปกันเถอะ แฮร์รี่รออยู่ข้างนอก" รอนกระซิบ

    "อือ" เด็กหญิงบอก แล้วเหลือบมองไปทางข้างหลัง มัลฟอยกำลังมองมาที่พวกเขา

    "ไปซิ เร็ว" รอนกระตุ้นเมื่อเห็นเด็กหญิงนั่งเฉย

    "เออๆ เดี๋ยวไปจ่ายเงินก่อน" ว่าแล้วเธอก็เดินไปที่เคาน์เตอร์และหยิบทองจำนวนหนึ่งส่งให้มาดามโรสเมอร์ทาที่ยิ้มอย่างเป็นมิตร

    "ไป กันเถอะ" รอนพูด แล้วลากเธอออกไป

    …+*+*+…

    "ใกล้วันคริสมาสต์แล้วนะ ฉันขอไปซื้อของขวัญหน่อยนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด

    "ไปสิ ฉันจะไปซื้อของขวัญให้จินนี่ด้วย" รอนนึกถึงน้องสาวขึ้นมากระทันหัน

    "ฉันไปด้วย" แฮร์รี่พูดอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน

    "ไปซิ" ว่าแล้วเธอก็เดินนำรอนและแฮร์รี่ไปเลือกดูของขวัญ อย่างร่าเริง

    …+*+*+…

                    วันนั้นทองของเฮอร์ไมโอนี่แทบจะหมดกระเป๋า เหตุผลก็คือ ของขวัญที่กองขนาดย่อมๆ ที่กองอยู่ข้างๆ ตัวของเธอในเวลานี้ เธอแทบจะต้องยืมทองจากแฮร์รี่และรอนด้วยซ้ำตอนอยู่ที่ฮอกมี้ด

     

    "รอน วันคริสมาสต์วันไหนนะ" แฮร์รี่ถาม เพื่อนขณะนั่งนับวันเวลา

    "อืม วันอังคารที่จะถึงเนี่ย วันนี้วันอะไรอ่ะ" รอนหันไปถามเฮอร์ไมโอนี่

    "เอ่อ วัน…..วัน" เธอนั่งนึก ขณะแกะกล่องเยลลี่เม็ดทุกรส ที่รอนซื้อมาให้จากร้านฮันนี่ดุกส์

    "วันเสาร์ค่ะ" จินนี่เดินมาสมทบกับพวกเค้า

    "อืมใช่ วันเสาร์ ก็อีก 1…2…3" รอนยกนิ้วขึ้นนับ "อีกสามวันล่ะสิ"

    "เออๆ ใช่" แฮร์รี่สนับสนุน "แล้วเธอจะกลับบ้านไหม เฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่หันไปหาเฮอร์ไมโอนี่

    "ไม่อ่ะ ฉันคิดว่าจะอยู่ที่โรงเรียนดีกว่า แล้วนายล่ะ รอน" เธอหันไปหารอนบ้าง

    "ก็ไม่เหมือนกัน เพราะ แม่ไม่อยากให้พวกเรากลับไป แม่บอกว่า 'อยู่ที่โรงเรียนล่ะดีแล้ว แต่ห้ามก่อเรื่องล่ะ' " รอนพูดเลียนแบบนางวิสลี่ย์ ทำเอา แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ ลงไปนอนขำกันอยู่บนพื้น

    "ขำกันสนุกไหม" เพอร์ซี่ เดินมาหาพวกเขา

    "อืม สนุกมากๆ มีอะไรเหรอ" รอนถาม ขณะมองเพื่อนๆ ขำอย่างสนุกสนาน

    "ฉันว่าถ้านายจะนินทาแม่ให้มันเบาๆ หน่อยสิ คือว่า…." แล้วเพอร์ซี่ก็มองไปที่คนที่กำลังมองพวกเขาอยู่

    "ได้สิ เราจะนินทาให้เบาขึ้น" แฮร์รี่พูดแล้วหันไปฉุดเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาจากการเกลือกกลิ้งบนพื้น

    "ดี" เพอร์ซี่พูด แล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมทันที

    "นายคิดว่าเขาจะเอาไปบอกแม่ฉันไหมเนี่ย" รอนพูด

    "คงจะหยั่งงั้น นายคงได้จดหมายกัมปนาทอีกฉบับเป็นของขวัญวันคริสมาสต์แล้วล่ะ" แฮร์รี่พูด แล้วเริ่มขำอีกเพราะหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้มของรอน

     

    + - บทที่ 13 - +

                    เช้าอันสดใสของวันคริสมาสต์มาถึงแล้ว เฮอร์ไมโอนี่รีบตื่นแต่เช้า ลงมารอเพื่อนทั้งสองที่ตอนนี้คงนอนอยู่ แต่กลับตาลปัตร แฮร์รี่และรอนลงมาข้างล่างและรอเธออยู่ ในห้องนั่งเล่นรวมที่แทบจะว่างเปล่า เพราะ เด็กๆ กลับบ้านไปฉลองกับครอบครัวกันหมดแล้ว

     

    "ทำไมช้าจังเลยล่ะ เฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่ถาม

    "ฉันว่าฉันต้องถามพวกนายมากกว่าว่า ทำไมตื่นเร็วจัง" เด็กหญิงตอบแล้วมองเพื่อนทั้งสอง

    …+*+*+…

    "สุขสันต์วันคริสมาสต์นะ" รอนและแฮร์รี่บอก ขณะเดินไปตามทางที่พาไปห้องโถง ที่ถูกประดับประดาด้วยผ้าสีแดงเขียว

    "เช่นกัน สุขสันต์วันคริสมาสต์นะ ทั้งสองคน" เธอบอกพร้อมกับรอยยิ้ม

    "อืม" แฮร์รี่ และรอน ตอบพร้อมกัน และส่งยิ้มตอบไปให้เธอ

    "ของขวัญที่ฉันให้ถูกใจรึป่าว รอน" เด็กหญิงถามรอน

    "อืมถูกใจ แต่ว่าถ้าจะให้ดีกว่านี้หน้าจะเป็นกรงหนูนะ เพราะ ฉันไม่อยากให้มันนอนในกระเป๋าเสื้อฉัน กลัวครุกแชงก์น่ะ" รอนบอกแล้วส่งสายตากล้าๆ กลัวๆ ไปที่เฮอร์ไมโอนี่

    "แล้วทำไมนายไม่ซื้อกรงแมว เป็นของขวัญคริสมาสต์ให้ฉัน จะได้ครุกแชงก์อยู่" เธอโต้กลับบ้าง

    "พอซะทีได้มั๊ย ทั้งสองคนเลย" แฮร์รี่ร้องเมื่อเห็นสงครามคงจะไม่จบลงง่ายๆ

    "ก็เค้าเริ่มก่อนหนิ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเชิดหน้าใส่รอน

    "เออๆ" แฮร์รี่พูดอย่างเบื่อหน่าย

    …+*+*+…

                    เมื่อมาถึงห้องโถง ภายในถูกประดับประดาอย่างสวยงาม ด้วยผ้าสีแดงเขียวด้วยเหมือนกัน มีต้นคริสมาสต์ตั้ง เด่นสง่าอยู่กลางห้อง  โต๊ะประจำบ้าน 3 ตัวถูกย้ายไปติดขอบกำแพง มีเพียงโต๊ะตัวเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ และมีที่นั่งพอดีสำหรับศาสตราจารย์ และเด็กนักเรียนที่ไม่ได้กลับบ้าน

     

    "สุขสันต์วันคริสมาสต์!" ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ร้องทัก เมื่อทั้งสามคนเดินเข้ามา วันนี้เขาใส่เสื้อคลุมสีม่วงสดใส และใส่หมวกปลายแหลมสีแดงสดไว้บนศีรษะ

    "พวกเธอมากกันเร็วดี ฉันพึ่งหย่อนก้นนั่งไปแป๊บเดียว พวกเธอก็เดินกันเข้ามาแล้ว" เขาพูดแล้วยิ้มให้

    …+*+*+…

                    ทั้งสามคนกำลังสำรวจจำนวนคนบนโต๊ะอยู่ ขณะนี้มีคนนั่งประจำที่แล้ว 6 คน คือ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ศาสตราจารย์มักกอนนากัล ศาสตราจารย์สเปราต์ ศาสตราจารย์ฟลิตวิก สเนป และฟิลช์ ที่นั่งมองพวกเขาอย่างจับผิด เหลือเก้าอี้ อีก 9 ตัวที่ว่างอยู่ พวกเขาทั้ง 3 จึงเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ ตอนนี้จึงเหลืออีก 6 ที่นั่ง แล้วเจ้าของที่นั่งอีกสี่คนก็เดินเข้ามา ครอบวิสลี่ย์นั่นเอง จินนี่ สองฝาแฝด และเพอร์ซี่ ที่ต่างสวมเสื้อถักไหมพรมของคุณนายวีสลี่ย์เหมือนกับของรอนและแฮร์รี่ ในที่สุดตอนนี่ที่นั่งก็เหลืออีก 2 ที่สุดท้าย

     

    "เธอคิดว่าใครจะมานั่งที่เก้าอี้อีกสองตตัวนี่ รอน" แฮร์รี่กระซิบถามรอน

    "ฉันขออย่างเดียว อย่าเป็น…….." พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าของเก้าอี้อีกสองตัวก็เดินเข้ามา

    "มัลฟอย" รอนอ้าปากค้างเมื่อสิ่งที่เค้าไม่ต้องการให้เกิดขึ้นได้เกิดขึ้นแล้ว มัลฟอยเดินเข้าพร้อมกับแพนซี่ พาร์กินสัน

    "ขอโทษที่มาช้านะ ค่ะ" แพนซี่พูดด้วยเสียงแหลมสูง แล้วลากมัลฟอยไปนั่งตรงเก้าอี้ที่เหลือ

    "เอาล่ะ ลงมือได้" อาหารบนจานทองเริ่มปรากฎขึ้นมา รอนหยิบช้อนส้อมขึ้นมา และลงมือกินเป็นคนแรก เขาตักอาหารทุกอย่างใส่จาน แล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยไม่สนใจมัลฟอยที่ส่งสายตาเหยียดหยามมาให้

    "มัลฟอย กินนี่สิจ๊ะ" แพนซี่พูดพร้อมกับตักน่องไก่ใส่จานของเขา มัลฟอยรีบปฏิเสธทันที

    "ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมีมือน่า" เขาตอบแล้วส่งสายตาเย็นชาไปให้แพนซี่ ที่หุบยิ้มลงทันที

    "นึกว่าไม่มีมือซะอีก" เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ แล้วเหล่ตามองไปที่มัลฟอยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

    "ฉันได้ยินนะ เกรนเจอร์" มัลฟอยกระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่ที่ถึงกับหน้าเสียทันที เธอรีบยัดขนมปังเข้าปากอย่างรวดเร็ว แล้วหยิบน่องไก่งวงใส่จานแฮร์รี่เพื่อให้มีอะไรทำ

    "ขอบใจมาก เฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่พูด แล้วตักเบคอนใส่จานของเด็กหญิงบ้าง

    "ขอบใจ แฮร์รี่" เธอพูดแล้วส่งยิ้มไปให้แฮร์รี่

    "ไม่มีมือรึงัย ต้องให้คนอื่นตักให้" มัลฟอยพูดฉุนๆ ขณะมองเด็กหญิงด้วยสายตาเย็นชา

    "อะไรนะ มัลฟอย เธอพูดอะไรนะ" แพนซี่ถามเมื่อเห็นเขาพูดคนเดียว

    "เปล่า" เขาพูดแล้วยกน้ำฟักทองขึ้นดื่ม แล้วกระแทกแก้วกับโต๊ะเสียงดัง

    "เป็นอะไรรึป่าว เดรโก" สเนปหันไปถามเด็กชาย

    "ไม่ได้เป็นอะไรฮะ" เขาตอบคำถามอย่างสุภาพ "ผมอิ่มแล้ว" ว่าแล้วเขาก็ลุกจากโต๊ะและมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างหาเรื่อง ก่อนจะเดินออกไป โดยมีแพนซี่เดินตามไปอย่างใกล้ชิด

    "สงสัยมันบ้าไปแล้ว กินแค่สองสามคำแล้วอิ่ม" รอนพูด ขณะมองตามมัลฟอยที่กำลังเดินออกไป

    "ใครเขาจะเหมือนนายล่ะ กินเป็น 10 จานยังไม่สะทกสะท้านเลย" เฟร็ดแกล้งพูด

    "ก็ฉันต้องใช้แรงหนิ" รอนตอบปัดๆ

    "แรงในการกินทั้งวันน่ะเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ถามเขาอย่างกวนๆ "ฉันไปแล้วนะ อิ่มแล้วเหมือนกัน" เธอพูด

    "เออ ติดโรคไอ้ซีดนั่นแล้วเหรอ" รอนพูดไล่หลังเฮอร์ไมโอนี่ไป

    "มิสเตอร์วิสลี่ย์จ๊ะ ระวังคำพูดหน่อยนะ" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด แล้วเหล่ตามองไปที่สเนปเป็นเชิงบอกให้รอนรู้ว่า 'เดี๋ยวก็โดนหักคะแนนหรอก'

    "เอ่อ ครับ" รอนตอบก่อนจะยกน้ำฟักทองขึ้นดื่ม

    …+*+*+…

                    เฮอร์ไมโอนี่เดินไปตามระเบียงทางเดินตั้งใจว่าจะไปห้องสมุด แต่เมื่อเธอกำลังมองไปทางทะเลสาปจะชมวิวซักหน่อย ก็มีเหตุการณ์ที่เธอเห็นแล้วอดนิ่งเฉยๆ อยู่ไม่ได้ ต้องรีบวิ่งลงไปทางทะเลสาปอย่างรวดเร็ว

    …+*+*+…

    "นายจะทำอะไร….แพนซี่ น่ะ มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่พูด พร้อมกับหายใจหอบ

    "ฉันกำลังคิดว่า จะใช้คาถาอะไรกับยัยนี่ดี" มัลฟอยพูด ขณะยังไม่ลดไม้กายาสิทธิ์ลงมาจากคอหอยของแพนซี่

    "แล้วแพนซี่ไปทำอะไรให้นาย" เฮอร์ไมโอนี่ถาม ขณะมองเด็กชายอย่างงงๆ

    "เธอไม่ต้องรู้หรอก แต่บอกได้อย่างเดียวว่า มันทำให้ฉันไม่พอใจ" เด็กชายพูดขณะมีริ้วสีชมพูขึ้นบนใบหน้า

    "เรื่องอะไรล่ะ บอกฉันไม่ได้รึยังงัย" เด็กหญิงถามซ้ำ

    "ไม่ได้" มัลฟอยพูดเสียงเย็นชา

    "แพนซี่ เธอไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจ" เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนคนถาม

    "เธอไม่ต้องมายุ่ง ยัยเลือดสีโคลน" แพนซี่พูด แล้วส่งสายตาเกลียดชังมาให้เฮอร์ไมโอนี่

    "พูดให้มันสุภาพกว่านี้ไม่ได้รึงัย แพนซี่" มัลฟอยพูดแล้วจ่อไม้กายาสิทธิ์เข้าไปใกล้อีก

    "นายเป็นอะไรไป เดรโก" แพนซี่มองเขาอย่างฉงน

    "อย่าเรียกชื่อของฉัน คนที่ฉันต้องการให้เรียกชื่อ คือ ยัยเกรนเจอร์เท่านั้น" เฮอร์ไมโอนี่อึ้งกับคำพูดของเขาอย่างมาก เช่นเดียวกับแพนซี่

    "เข้าใจรึยัง" เขาพูดต่อ แต่ก็ยังไม่ลดไม้กายาสิทธิ์ลง

    "มัลฟอยนายเอาไม้กายาสิทธิ์ลงได้แล้ว" เฮอร์ไมโอนี่พูดหลังจากได้สติ และหยิบไม้กายาสิทธิ์ของเธอขึ้นมา

    "เอกซ์เปลลิอาร์มัส" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง แต่มัลฟอยเร็วกว่า

    "เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส" มัลฟอยท่องคาถาเสียงเรียบ แล้วแขนขาของแพนซี่ก็เข้ามาชิดติดลำตัวทันที

    "เอกซ์เปลลิอาร์มัส" เฮอร์ไมโอนี่ร้องซ้ำอีกรอบ และไม้กายาสิทธิ์ของมัลฟอยก็ลอยเข้ามาในมือของเธอ

    "จะบอกฉันได้รึยัง ว่ามีเรื่องอะไรกัน" เธอถามขณะมองไปที่มัลฟอยที่กำลังยืนดูผลงานของตัวเองอย่างพอใจ

    "เธอตอบฉันก่อนดีกว่า ว่าวันนี้เธอ….." มัลฟอยตอบเขาละสายตามาจากแพนซี่แล้ว

    "ไม่มีมือรึงัย" มัลฟอยต่อประโยคของเขาเองให้จบ

    "นายคิดมากด้วยเหรอ เรื่องนั้นอ่ะ" เธอพูดน้ำเสียงตลกขบขัน

    "นี่ ฉันถามก็ตอบมาเถอะน่า" เด็กชายพูดเสียงรำคาญ

    "มือน่ะมี แต่ไม่อยากตักเองอ่ะ ทีนายยังให้แพนซี่ตักเลย" เธอพูดด้วยเสียงยั่วโมโห

    "งั้นเหรอ เธอโกรธรึงัย" มัลฟอยไม่ค่อยจะใส่ใจกับคำพูดยั่วของเด็กหญิงมากเท่าไหร่ เธอถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที เขาเดินไปที่แพนซี่ที่กำลังตัวแข็งทื่ออยู่บนพื้น และมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ

    "เอาไม้กายาสิทธิ์ฉันคืนมา เกรนเจอร์" มัลฟอยพูดเรียบๆ

    "บอกฉันก่อนสิ ว่าแพนซี่ไปทำอะไรให้เธอ" เด็กหญิงต่อรอง

    "แล้วถ้าบอกแล้วเธอจะพอใจเหรอ" เด็กชายพูดด้วยเสียงกวนๆ

    "แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่ถาม ชี้นิ้วเรียวยาวไปที่ตัวเอง

    "ก็ยัยนี่…" มัลฟอยชี้นิ้วของเขาไปที่แพนซี่ที่นอนอยู่บนพื้นหญ้า "พยามจะจูบฉัน"

    "แค่นี้เองนะ นายถึงกับต้องโกรธขนาดนั้นเชียวเหรอ" เธอถามพลางถลึงมองไปที่แพนซี่

    "ก็ฉันไม่ชอบหนิ" เด็กชายพูด "ถ้าเป็นเธอก็ว่าไปอย่าง" เด็กชายลดเสียงลง

    "อะไรนะ มัลฟอย พูดใหม่ซิ" ทั้งๆที่ เธอได้ยินเต็มสองรูหู เธอก็ต้องการที่จะฟังใหม่

    "เปล่า" เด็กชายพูด ตอนนี้หน้าของเค้ากลายเป็นสีแดง "เธออย่าเซ้าซี้ฉันมากน่ะ" เขาพูดปัดๆ

    "เอ้านี่ ไม้กายาสิทธิ์" เฮอร์ไมโอนี่ยื่นไม้กายาสิทธิ์ให้ เค้ารีบรับไปและเอามันขึ้นมาดูอย่างพินิจ

    "นี่มันไม้ของเธอ ยัยบื้อ" มัลฟอยว่า แล้วยื่นไม้กายาสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่คืนให้

    "อ้าวเหรอ เออใช่ อ่ะนี่ของนาย" เด็กหญิงพูดพลางส่งไม้กายาสิทธิ์ของเขาให้ และเด็กชายก็นำไม้ไปจ่อที่หน้าแพนซี่ที่ถึงกับสลบไปทันที

    "นายจะทำอะไรเค้าอีก" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง เมื่อเห็นการกระทำของเขา

    "เดี๋ยวก็รู้น่า" เด็กชายตอบอย่างรำคาญ "อ็อบบลิวิอาเต้" เขาพูดคาถาเสียงเรียบ

    "นายจะบ้าเหรอ เดี๋ยวความจำของเขาก็หายไปหมดหรอก" เด็กหญิงต่อว่า

    "ฉันไม่โง่พอที่จะลบความจำ ยัยนี่ไปหมดหรอก" มัลฟอยพูดแล้วหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งผงะถอยหลังทันที

    "เป็นอะไร ถอยหลังทำไม ฉันจะให้เธอช่วยแก้คาถาให้ยัยนี่หน่อย คงจะเมื่อยแย่แล้ว" เด็กหญิงถึงกับหน้าแดง เธอระแวงเขามากเกินไป

    "อ๋อ ได้" เด็กหญิงพูดขณะหน้ายังแดงอยู่ แล้วเดินไปหาแพนซี่  "ไพร - ออร์ อินคานตาโต้" เธอพึมพำ แล้วแขนขาของแพนซี่ก็คายออกอย่างรวดเร็ว

    "แล้วจะให้ฉันทำยังไงต่อ" เธอถามอย่างรอคำสั่ง

    "จะให้ฉันสั่งเหรอ" เด็กชายพูดแล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย "ไปกับฉัน" มัลฟอยพูดแล้วโอบรอบเอวของเฮอร์ไมโอนี่และพาเธอเดินออกไป ทิ้งแพนซี่ให้นอนไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น

     "มัลฟอยปล่อย" เด็กหญิงแกะมือของเขาออก ขณะที่เขาเดินเข้าไปในปราสาท และเด็กชายก็ปล่อยเธอ

    "วันนี้ตอน ทุ่มครึ่งมาเจอฉันตรงนี้นะ" มัลฟอยพูดแล้วเดินจากไป

    …+*+*+…

                    วันนั้นทั้งวันเด็กหญิงหมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุด นั่งคิดถึงเวลานัดที่มัลฟอยนัดคืนนี้ทั้งวัน เธอไม่ได้ไปทานอาหารกลางวันและเย็นด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่รู้สึกหิวเลยซักนิด และเธอก็ไปเจอเพื่อนทั้งสองอีกทีก็ตอนค่ำ ตอนที่เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอนอน

     

    "เฮอร์ไมโอนี่ ไม่หิวเหรอ" แฮร์รี่ถามเมื่อเห็นเพื่อนไม่ได้ไปทานอาหารตั้ง 2 มื้อ

    "ไม่หิวหรอก" เด็กหญิงตอบ

    "ถ้าเป็นฉันนะ ป่านนี้คงท้องร้องเสียงดังสนั่นโลกแล้วล่ะ" รอนพูดพลางกุมท้องของตัวเอง

    "ฉันไปแล้วนะ นัดเพื่อนไว้น่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อถึงเวลานัด

    "อืมเอานี่ไปกินซักหน่อยเผื่อหิว มันจะช่วยเธอได้เยอะเลยล่ะ" แฮร์รี่ยื่นกล่องกบช็อกโกแลตให้เธอ

    "ขอบคุณใจ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เลยนะ" เธอพูดอย่างร่าเริงแล้วเดินออกไป

    "เดี๋ยวนี้ มีนัดบ่อยจัง" รอนพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ กับแฮร์รี่เมื่อเธอเดินออกไปแล้ว

    "ก็หยั่งงี้ล่ะ" แฮร์รี่พูดปลอบใจเพื่อน

     

    + - บทที่ 14 - +

                    เมื่อถึงที่ๆ มัลฟอยนัดเธอไว้ เธอก็ไม่เห็นวี่แววของใครเลยอยู่ตรงนั้น เธอจึงนั่งรอ และแกะกล่องกบช็อกโกแลตกิน มันช่วยให้เธอมีกำลังขึ้นเยอะอย่างที่แฮร์รี่พูดจริงๆ ด้วย

     

    "รอนานมั๊ย" มัลฟอยมายืนอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    "ก็นานเหมือนกันทำอะไรอยู่ล่ะ" เด็กหญิงถาม แล้วส่งการ์ดกบช็อกโกแลตให้เขา

    "เออ ขอบใจมากกำลังหารูปนี้อยู่พอดี" เขาพูดแล้วยัดการ์ดใส่ในกระเป๋ากางเกง "กว่าจะสบัดแครบกับกอยล์ได้ต้องใช้เวลานาน" เขาตอบ แล้วโอบเอวเธอ

    "อืมงั้นเหรอ" เธอพูด ยังไม่รู้ตัวว่าเขาโอบเธออยู่

    "ไปกันเถอะ" เขาพูดแล้วพาเธอออกเดินอย่างง่ายดาย

    "มัลฟอย ปล่อยได้แล้ว" เธอพูดเมื่อรู้สึกตัวว่าเขาโอบเธออยู่

    "ยังไงวันนี้ ฉันก็ไม่คิดจะโอบเธอไว้ทั้งวันหรอก" มัลฟอยพูด

    "แล้วจะไปไหนเนี่ย" เธอร้องเมื่อมัลฟอยพาเธอเดินขึ้นบันได้มา 5 ชั้นแล้ว

    "ตามมาเถอะน่า เดี๋ยวก็รู้เอง" เขาพูดด้วยเสียงที่แสดงความรำคาญอย่างยิ่งยวด

    …+*+*+…

                    แล้วเขาก็พาเธอขึ้นไปอีก 3 ชั้น และก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องเรียนเก่าๆ ห้องนึง ประตูนั้นสีถลอกออกมาหมดแล้ว มัลฟอยเคาะประตู 3 ครั้งเป็นจังหวะ และประตูก็เปิดออก เฮอร์ไมโอนี่ได้กลิ่นไอของทะเลลอยออกมา เธออยากจะเข้าไปดูสิว่าข้างในมีอะไรบ้าง และแล้วเธอก็ได้เข้าไปสมใจอยาก เมื่อก้าวเข้าไป เท้าของเธอก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มของเม็ดทรายสีขาว และเธอก็ต้องตลึงงัน

     

    "โอ้พระเจ้า นี่มันทะเลหนิ" เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างดีใจ เธอก้มลงหยิบเม็ดทรายขึ้นมาและโปรยเล่น

    "ร้องหยั่งกับไม่เคยเห็นทะเลเลยนะเธอ" มัลฟอยแกล้งพูด

    "ก็มันสวยหนิ ว่าแต่ ที่นี่ที่ไหนกัน" เธอส่งสายตาสงสัยไปให้เด็กชาย

    "บนชั้น 8 ของปราสาท" เขาพูดแล้วเดินไปปิดประตูที่ตั้งอยู่โดยที่ไม่มีกำแพง

    "ว่างัยนะ ชั้น 8 เหรอ แล้วทำไมมีทะเลล่ะ" เธอถาม พลางนั่งลงบนพื้นทรายที่นุ่มเหมือนเบาะโซฟา

    "ฉันก็ไม่รู้ มันเป็นความมหัศจรรย์อย่างมากเลย" เขาตอบ แล้วสูดหายใจลึกๆ

    "นายเคยมาที่นี่เหรอ" เด็กหญิงถาม ขณะฉุดมัลฟอยให้ลงมานั่งบนพื้นทรายด้วย

    "ใช่ฉันเคยมาที่นี่ครั้งนึง กับมารีนน่ะ" ชื่อนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เงียบไปทันที

    "งั้นเหรอ แล้วมากันทำไมล่ะ" เธอถามพยามทำหน้าให้สดชื่น

    "มาเดทกับยัยนั่นครั้งแรก" เธออึ้งกับคำตอบ

    "ยัยนั่นพาฉันมา ฉันไม่มีอะไรทำ ก็เลยตามมาด้วย ยัยนั่นบอกว่า ที่บนชั้นแปดมีห้องอยู่ห้องนึง ต้องเป็นมาเป็นคู่ๆ (หญิงชายน่ะ) ถึงจะได้พบห้องนี้ แต่ตอนนั้นที่ฉันมาบรรยากาศข้างในนี้เป็นภูเขาล่ะ ไม่ใช่ทะเล ฉันก็ไม่รู้ว่ายัยนั่นรู้ได้ยังงัยว่ามีห้องนี้" มัลฟอยเล่า ขณะยกมือหนุนหัวแล้วนอน

    "สงสัยจัง ใครสามารถสร้างห้องที่มหัศจรรย์นี้ได้นะ" เธอรีบเปลี่ยนเรื่องทันที เธอไม่อยากจะฟังเรื่องของมารีนเท่าไหร่นักหรอก

    "ไม่ต้องสงสัยมากหรอก เธอน่ะ" เขาพูดแล้วฉุดเฮอร์ไมโอนี่ให้นอนลงมา

    "มัลฟอยฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะ ที่เข้าใจเธอผิด" เด็กหญิงขอโทษขอโพย

    "เรื่องอะไร" มัลฟอยถามด้วยเสียงที่งงระคนสงสัย

    "ฉันรู้เรื่องของมารีนแล้วล่ะ ฉันแอบได้ยินเธอสองคนคุยกันที่ร้านไม้กวาดสามอัน" เธอสารภาพ

    "อืม เรื่องนั้นเองเหรอ ไม่เป็นไรหรอก แล้วคราวหน้า หัดไตร่ตรองให้ดีซะก่อนแล้วค่อยทำอะไรนะ รู้มั๊ย ไม่หยั่งงั้น ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก" มัลฟอยยันตัวขึ้น แล้วใช้นิ้วจิ้มหน้าผากเธอเล่นๆ และเธอก็ยิ้มตอบให้เขา

    "วันนี้ดาวเต็มฟ้าเลยนะ" เธอพูด แล้วยกมือขึ้นไปหมายที่จะจับดวงดาวลงมา

    "อยากได้เหรอ" มัลฟอยหันหน้าไปมองเธอ

    "อือ ฉันใฝ่ฝันอยากจะได้มันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ แล้ว" เธอพูดเหมือนเพ้อฝัน

    "ฉันจะเอามันมาให้ไหมล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าหงึกๆ แล้วยันตัวขึ้นนั่งกอดเข่า

    "ว่าแต่เธอจะมีความสามารถเอามันลงมาเหรอ" เธอพูดแล้วหันไปมองเขา

    "ได้สิ เธอหลับตาแล้ว ฉันจะเอามันลงมาให้เธอ" เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงช้าๆ

     …+*+*+…

    มัลฟอยล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุมของเขา แล้วหยิบกล่องเล็กๆ ขึ้นมา แล้วเปิดมันออก ภายในมีแหวนรูปดาว ทำจากคริสตัล น้ำงาม เขาหยิบแหวนออกมาจากกล่อง แล้วเก็บกล่องไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมตามเดิม เขาบรรจงหยิงมือข้างขวา ของเฮอร์ไมโอนี่ที่วางอยู่กอดเข่าอยู่ขึ้นมา และสวมแหวนไว้ที่นิ้วนางของเธอ

    …+*+*+…

    "ลืมตาได้แล้ว ฉันเอามันลงมาให้เธอแล้วล่ะ" เขากระซิบอย่างแผ่วบ้างข้างๆ หูเฮอร์ไมโอนี่ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ และยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นแหวนที่นิ้ว

    "สุขสันต์วันคริสมาสต์นะ" เขาพูดแล้วส่งยิ้มให้เธอ

    "ขอบคุณมาก มัลฟอย" เธอพูดเสียงแผ่วเบา

    "เอาไว้ให้ฉันแต่งงานกับเธอก่อนแล้วฉันจะสวมแหวนให้เธอข้างซ้าย" มัลฟอยพูดอย่างทะเล้น

    "ไม่มีทาง ฉันไม่แต่งงานกับนายหรอก" เด็กหญิงพูดขณะที่หน้าเป็นสีชมพู เขาไม่โกรธที่เธอปฏิเสธแม้แต่น้อย

    "ไม่แต่งงานกับฉันไม่เป็นไร แต่ถ้าเธอถอดแหวนออกเมื่อไหร่ ฉันขอให้เธอสำลักน้ำฟักทอง" เด็กชายแกล้งพูด

    "นี่ถือโอกาสจะแก้แค้นกันเลยใช่ไหมเนี่ย" เด็กหญิงถาม

    "อือ ก็เธออยากแช่งฉันไว้ก่อนหนิ คราวนั้นน่ะ" เขาพูดแล้วนั่งกอดเข่า

    "ฉันมีอะไรจะให้นายเหมือนกัน มัลฟอย" เธอพูดเหมือนไตร่ตรองเรื่องนี้มานาน

    "อืมอะไรล่ะ จะต้องให้ฉันหลับตาไหม" เขาพูดแล้วหลับตาลง

    …+*+*+…

                    เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวเขาไปใกล้มัลฟอย จนเขารู้สึกได้ ถึงลมหายใจอุ่นๆของเธอ

     

    "มันอาจจะเป็นของขวัญที่ถ้าเทียบกับของนายแล้ว อาจจะเป็นแค่เศษฝุ่นเลยก็ได้นะ แต่ฉันอยากจะให้จริงๆ" เธอกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างแก้มของเขา

    "อือ" มัลฟอยครางเบาๆ

    …+*+*+…

                    เด็กหญิงประทับริมฝีปากของเธอกับปากของเด็กชาย เขารู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น และริมฝีปากที่เย็นเฉียบของเฮอร์ไมโอนี่ที่สัมผัสลงอย่างนิ่มนวล เขาหน้าแดงอย่างบอกไม่ถูก 'นี่เกรนเจอร์ จูบเราเหรอเนี่ย?' และเขาก็จูบตอบด้วยความเต็มใจโอกาสอย่างนี้หาได้ง่ายซะเมื่อไหร่ นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหญิงเต็มใจในการจูบ มัลฟอยขยับริมฝีปากอย่างพอใจ และเอามือขึ้นโอบตัวเด็กหญิง 'ยัยนี่ตัวเล็กจริงๆ หุ่นก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยนะเนี่ย' เขาคิด พวกเขาจูบกันอยู่นานพอๆ ที่เด็กทารกที่ตื่นขึ้นมาแหกปาก สามารถหลับต่อได้อีกอย่างสบายๆ

    …+*+*+…

    "อุ้ย!" เด็กหญิงร้องเมื่อประตูห้องเปิดออก แมวขนสีส้มกระโดดเข้ามา ริมฝีปากของทั้งคู่หลุดจากกันทันที

    "ครุกแชงก์" เด็กหญิงร้องเมื่อเห็นแมวของตน

    "ของขวัญของเธอมันทำให้ฉันเคลิ้มเลยนะ" มัลฟอยพูดเขาไม่สนใจแมวของเฮอร์ไมโอนี่เลย

    "เอ่อ…." เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้ เธอก็แค่เกาจมูกแก้เขินไปพลางๆ ตอนนี้มัลฟอยเลิกโอบเธอแล้ว

    "เธอบอกว่าอยากจะให้ฉันจริงๆ เหรอ ของขวัญชิ้นเนี้ย" เด็กชายถาม แล้วใช้นิ้วเรียวยาวของเขาแตะที่ริมฝีปาก

    "อืม ชะช่าย" เธอพูดขณะที่หน้าแดงกลายเป็นลูกตำลึง เธอนั่งลูบขนแมวของเธอแก้เขิน

    "ขอบคุณมาก ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยได้ของขวัญที่ดีขนาดนี้เลย" มัลฟอยพูด แล้วยกมือขึ้นโอบไหล่เด็กหญิง

    "จริงเหรอ" เฮอร์ไมโอนี่หัวใจพองโตด้วยความดีใจ เธอหันไปกอดเขาโดยไม่รู้ตัว โดยทิ้งแมวของเธอให้ร้องเรียกอย่างไม่สนใจ

    "นี่ วันนี้เธอเป็นอะไร อยากกอดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ" มัลฟอยถามกวนๆ แต่เขาก็กอดเด็กหญิงตอบ

    "อืม" เด็กหญิงตอบเบาๆ อย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้ใจของเธอลอยออกไปอยู่ที่ดาวอังคารแล้ว จากนั้นทั้งสองก็เงียบไป บรรยากาศตอนนั้นช่างเงียบสงบ เฮอร์ไมโอนี่จึงหลับไปในอ้อมแขนของมัลฟอยอย่างไม่รู้ตัว

    …+*+*+…

    "เกรนเจอร์…" มัลฟอยเรียก "เกรนเจอร์…" เขาพูดแล้วเขย่าตัวเธอ

    "อือ" เธอพูดแล้วลืมตาขึ้นมา และเห็นแมวขนสีส้มของเธอนอนอยู่ใกล้ๆ

    "กลับกันเถอะ มันดึกมากแล้ว" เขาพูดแล้วมองหน้าเด็กหญิง

    "เอ่อ ฉันขอโทษที่หลับไป" เธอผละออกจากเขาทันที เมื่อรู้สึกตัวว่าหลับไปในอ้อมแขนของเขา

    "จะกลับแล้วเหรอ" เธอลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจ

    "อืม" เขาพูดแล้วหันหลังกลับ

    "เดี๋ยวก่อน ฉันขอจับน้ำทะเลก่อน" เฮอร์ไมโฮนี่พูด "มาทะเลทั้งที" แล้วเธอก็ก้าวยาวๆ เดินไปที่ริมทะเล พร้อมกับครุกแชงก์

    "ทะเลนี่มองยังงัยก็สวยนะ" เธอพูด ขณะที่มือแกว่งอยู่ในน้ำทะเล

    "อืม" มัลฟอยรับคำเบาๆ อย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก

    "ไม่เล่นน้ำสักนิดเหรอ มัลฟอย" เด็กหญิงชักชวนขณะสาดน้ำใส่แมวของเธอ ที่วิ่งพร่านเมื่อโดนน้ำ

    "อืมก็ได้" เขาพูดแล้วเดินมายืนข้างๆ เธอ และย่อตัวลงแกว่งมือในน้ำทะเล

    "น้ำเย็นจังเลยนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วหันไปมองมัลฟอย

    "เธอชอบทะเลเหรอ" มัลฟอยถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    "ใช่ ชอบมากๆเลย แล้วนายล่ะ ชอบมั๊ย" เธอลองถามเขาดูบ้าง

    "ตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบหรอก แต่พอได้มาอยู่กับเธอ ฉันก็รู้สึกชอบมันขึ้นมากกว่าก่อนเยอะเลย" คำตอบนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดขึ้นมาทันที

    "กลับกันเถอะ" เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วอุ้มครุกแชงก์ขึ้นมา และเดินไปทางประตู

    "เออ เธอนี่ทำอะไรรวดเร็วจนตามไม่ทันเลยนะ" มัลฟอยบ่น และเดินนำเฮอร์ไมโอนี่ออกประตูที่ถูกเปิดค้างไว้ตอนครุกแชงก์เข้ามา

     

    + - บทที่ 15 - + สุดท้ายแล้วล่ะ + -

                    เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยครุกแชงก์ให้เดินเองตลอดทาง เพราะ มันสามารถเป็นผู้นำทางที่ดีให้แก่ทั้งคู่ได้ เพราะ ถ้าไม่มีมัน ป่านนี้ทั้งสองคนอาจจะไปอยู่ในห้องของฟิลช์แล้วก็ได้ เมื่อมาถึงหน้าห้องนั่งเล่นรวม สุภาพสตรีอ้วนดูเหมือนจะอารมณ์ดีกว่าครั้งก่อนเยอะ ครั้งนั้นที่เธออารมณ์เสียก็ เพราะ เธอหมั่นไส้ ทั้งสองคนที่มาร่ำลากันอย่างหวานที่ตรงหน้าเธอที่พึ่งทะเลาะกับแฟน (รูปภาพผู้ชายหน้าตาดี ที่แขวนอยู่ตรงตีนบันได ชั้น 3) แต่ก็กลับมาคืนดีกันได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น ที่เธอร้องเพลงเสียงดัง

     

    "ฉันไปแล้วนะ" มัลฟอยพูด "เอ่อฝันดี" เขาพูดแล้วเดินหันหลังกลับไป

    "เดี๋ยว…" เฮอร์ไมโอนี่ร้อง "ฉันจะให้ครุกแชงก์ไปส่ง เธอจะได้ไม่ต้องไปแวะห้องฟิลช์ระหว่างทาง" เธอพูดแล้วมองไปที่ครุกแชงก์

    "ไปส่งเขาหน่อยนะ" เธอพูด แมวของเธอกระโดดผลุงไปข้างหน้ามัลฟอยทันที

    "ขอบใจมาก" มัลฟอยพูดทั้งๆที่ยังหันหลังอยู่ และเดินตามครุกแชงก์ไปอย่างรวดเร็ว

    "งัยจ๊ะแม่หนู แฟนเธอมาส่งอีกแล้วเหรอ" สุภาพสตรีอ้วนทักทาย

    "เอ่อ เขาไม่ใช่แฟนหนูค่ะ" เธอพูดด้วยหน้าอันแดงเป็นสองเท่าของลูกตำลึงแล้ว

    "จ๊ะๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่" ดูเหมือนคราวนี้สุภาพสตรีอ้วนจะไม่เซ้าซี้ถามเธอ

    "ค่ะ" ว่าแล้วเธอก็บอกรหัสผ่าน แล้วปีนข้ามผ่านช่องข้างหลังรูปภาพไปอย่างรวดเร็ว

    …+*+*+…

                    ภายในห้องนั่งเล่นรวมไม่มีคนอยู่เลย ก็แน่ล่ะสินี่มันเที่ยงคืนแล้วหนิ 'นี่ก็แสดงว่า ฉันอยู่กับตานั่นสองต่อสอง ตั้งสี่ชั่วโมงครึ่งเลยเหรอ' เฮอร์ไมโอนี่คิด นั่นเป็นเวลานานที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยอยู่กันตามลำพัง

                    เด็กหญิงถอดเสื้อคลุมออก และเอนตัวลงนอนทันทีที่เห็นเตียงสี่เสาที่แสนจะนุ่มสบาย และหลับทันทีที่หัวถึงหมอน

    …+*+*+…

                    เช้าวันรุ่งขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นมาอย่างสดใส เธอเหลืบมองไปที่นิ้วนางข้างขวาของตัวเอง และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แหวนคริสตัลรูปดาวที่เด็กชายให้เธอไว้เมื่อคืนนั้นช่างสวยจริงๆ เธอไม่เคยรู้เลยว่า ลูกคุณหนูที่แสนจะไร้ความอ่อนโยนอย่างมัลฟอย กลับสามารถเลือกของขวัญได้ถูกใจเด็กหญิงอย่างเธอ 'เค้าอาจจะเคยซื้อให้กับผู้หญิงหลายคนมั้ง' เฮอร์ไมโอนี่คิดถึงเขาในแง่ร้าย

    …+*+*+…

    "นี่ เฮอร์ไมโอนี่ ขอดูการบ้านวิชาปรุงยาหน่อยสิ" แฮร์รี่พูด ขณะนั่งอยู่ในห้องสมุด

    "เหม่อลอยอะไร" รอนพูดแล้วโบกมือไปมาข้างหน้าเฮอร์ไมโอนี่

    "อืมได้ ฉันจะให้ดู แต่ต้องดัดแปลงนิดหน่อยนะ" เธอพูดพร้อมกับหยิบม้วนกระดาษในกระเป๋าออกมา และยื่นให้เพื่อนทั้งสอง

    "แหวนนั่น อะไรน่ะ ใครให้เธอ" รอนฉวยมือของเฮอร์ไมโอนี่มาดู โดยไม่สนใจม้วนกระดาษ

    "อ๋อ มัลฟอยให้น่ะ" เธอตอบอย่างรวดเร็ว และชักมือกลับทันที

    "งั้นเหรอ เข้าใจเลือกแฮะ" แฮร์รี่พูดแล้วหยิบม้วนกระดาษที่ตกอยู่บนโต๊ะไป ดูเหมือนจะไม่ทันฟังประโยคที่เธอพูดเมื่อครู่นี้

    "นั่นเธอจะไปไหนอ่ะ" รอนถาม แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้

    "ฉันจะขอไปดูหนังสืออ้างอิงการทำรายงานน่ะ" เธอพูดแล้วเดินจากไปทิ้งรอนให้ยืนค้างอยู่ที่เดิม

    …+*+*+…

                    เธอเดินไล่นิ้วตามสันหนังสือไปเรื่อยๆ และก็ไปสะดุดที่หนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่า 'รักหรือชอบ กันแน่? : โดย ดีโดดัส โบลว์' แล้วเธอก็เดินผ่านไป แต่อีกไม่นาน เธอก็เดินถอยหลังกลับมา และหยิบหนังสือออกจากชั้น แล้วแอบเดินไปหามุมสงบๆ เพื่อจะอ่านหนังสือเล่มนี้ เธอนั่งอ่านไปได้ถึงหน้า 50 ก็สมาธิกระเจิดกระเจิง เธอจึงถอดแหวนออกมาดูเล่น

     

    "หวัดดีจ๊ะ เกรนเจอร์" เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังเธอ

    "อืม หวัดดี มารีน" เฮอร์ไมโอนี่ตอบ แล้วเก็บแหวนเข้ากระเป๋าเสื้อคลุมทันที

    "ทำอะไรอยู่เหรอ" มารีนถาม พลางนั่งลงข้างๆ เฮอร์ไมโอนี่

    "ซักผ้าอยู่มั้ง" เด็กหญิงตอบ แล้วหันหน้าไปสนใจกับหนังสือต่อ

    "อะไรนะจ๊ะ" มารีนถาม พร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนแยกเขี้ยวให้มากกว่า

    "อ๋อ อ่านหนังสืออยู่น่ะ" เธอส่งยิ้มให้บ้าง "ฉลองคริสมาสต์สนุกมั๊ย" เธอรีบเปลี่ยนเรื่อง

    "ก็สนุกดีนะ แต่น่าเบื่อไปหน่อย ปีที่แล้วฉันได้ของขวัญมากกว่าปีนี้เยอะเลย" มารีนเริ่มเล่า

    "แล้วทำไมถึงกลับมาเร็วจังล่ะ ที่จริงต้องกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ" เฮอร์ไมโอนี่ตัดบทมารีนที่กำลังอ้าปากจะพูดต่อ

    "ก็ฉันคิดถึง เดรโกน่ะสิ" มารีนพูด ประโยคนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่อยากจะอ้วกออกมาจริงๆ

    "อ๋อ งั้นเหรอ เค้าก็คงจะคิดถึงวีรกรรมของเธอเหมือนกันแหละ" เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแผ่ว แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดถึงวีรกรรมของมารีนที่ทำให้เธอเข้าใจมัลฟอยผิด

    "ฉันไปแล้วนะ คิดว่าแฮร์รี่กับรอนคงรอแล้วล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วยกหนังสือไปเก็บที่ชั้น "แล้วเจอกัน" เธอพูดแล้วเดินฉับๆ ออกไป

    "แล้วไม่ต้องเจอกันอีกนะ" นั่นเป็นคำทิ้งทาย จากมารีน

    …+*+*+…

    "ว่าไง เจอหนังสือรึเปล่า" แฮร์รี่ทัก เมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้

    "ก็เจอ แต่ไม่ได้หยิบมา" เธอพูดปด

    "ถ้าอย่างนั้นเราคงทำรายงานกันได้นะ" รอนประชด

    "ว่าแต่พวกเธอทำงานกันเสร็จแล้วเหรอ" เด็กหญิงไม่สนใจคำประชดของรอน

    "เสร็จนานแล้ว กำลังรอเธออยู่ จะได้ไปกินข้าวพร้อมกัน" รอนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปรอเพื่อนที่หน้าห้องสมุด

    "ไปกันรึยังเฮอร์ไมโอนี่" แฮร์รี่ลุกขึ้นบ้าง หลังจากพึ่งเก็บของเสร็จ

    "ไปสิ ฉันว่าถ้าเราไปช้าอีกนิดเดียว รอนคงจะกินเด็กปีหนึ่งซักคนรองท้องก่อนไปกินข้าวนั่นแหละ" เธอพูด

    "ฉันก็คิดว่างั้น" แฮร์รี่พูดแล้วจูงมือเด็กหญิงเดินออกไป

    …+*+*+…

                    วันนี้บรรยากาศในห้องโถงก็ยังเงียบเหงาวังเวงเหมือนเดิม เพราะ เด็กๆส่วนมากยังไม่กลับมาจากการฉลองกับครอบครัว โต๊ะอาหารวันนี้จึงมีโต๊ะเดียวเหมือนกับเมื่อวาน แต่มีสมาชิกเพิ่มมาทั้งหมด 3 คน คือ รายแรกที่เฮอร์ไมโอนี่ทราบแล้วคือ มารีน และอีกสองรายคือ เด็กนักเรียนหญิง-ชาย ชั้นปี 1 บ้านเรเวนคลอ นอกนั้นก็หน้าเดิมๆ แต่วันนี้พวกอาจารย์ไม่มาร่วมกินข้าวกันด้วย เพราะ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เกิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหารไปทานใต้น้ำ กะทันหัน เพื่อฉลองวันคริสมาสต์ วันนี้จึงมีแต่พวกนักเรียน 11 คนนั่งทานอาหารกัน ไม่รวมแพนซี่ พาร์กินสันที่อยู่ที่ห้องพยาบาล (เนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อวาน)

     

    "โอ้ย ยัยแพนซี่หายไปไหนน้าาาาาาาา" รอนร้องออกมาเสียงดัง แล้วเหล่ตามองไปที่มัลฟอย

    "อืม นั่นสิหายไปไหนเนี่ย" เฟร็ดร้องสนับสนุน อีกเมื่อเห็นว่ามัลฟอยไม่มีอาการใดๆทั้งสิน

    "เอ๊ะ เมื่อวานยังอยู่ด้วยกันเลย ไปไหนซะแล้วล่ะเนี่ย" จอร์จสนับสนุนอีก แต่มัลฟอยก็ยังไม่มีอาการใดๆ

    "นี่พวกนาย ถ้าลดเสียงลงหน่อยอ่ะ ก็ไม่มีใครเห็นว่าเป็นใบ้หรอกนะ" มารีนหันมาพูดกับทั้งสาม

    "ฉันไม่ได้พูดให้เธอฟังซักหน่อย" เฟร็ดพูดขณะตัวเขาเองยังไม่ลดเสียงลง

    "ฝากไว้ก่อนเถอะ" มารีนพูดผ่านไรฟันออกมา เมื่อรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปต่อล้อต่อเถียง

    "อะแฮะโอ้ย" เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังมาจากมุมปลายโต๊ะ ทุกคนหันไปมองเธออย่างรวดเร็ว

    "ขอโทษ!! ฉันสำลักน้ำฟักทองน่ะ" เธอพูด แล้วลงมือจัดการกับอาหารต่อ และเกิดความเงียบขึ้นทันที

    "โอ้ยอีกแล้วเหรอ…" และเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ก็ทำลายความเงียบอีกครั้ง

    "เป็นอะไรรึป่าว เฮอร์ไมโอนี่ ฉันรู้สึกว่าเธอสำลักน้ำฟักทองบ่อยนะ" แฮร์รี่พูดแล้วมองเพื่อนอย่างเป็นห่วง

    "สงสัย คำแช่งของฉันจะขลังจริงๆ เธอถึงได้สำลักบ่อยจัง เกรนเจอร์" มัลฟอยกระซิบมาจากฝั่งตรงข้าม เฮอร์ไมโอนี่นึกได้ทันที ถึงคำพูดของมัลฟอยเมื่อคืน '…ถ้าเธอถอดแหวนออกเมื่อไหร่ ฉันขอให้เธอสำลักน้ำฟักทอง…'

    "รู้รึยังว่าเป็นยังไง ตอนสำลักน้ำฟักทอง" มัลฟอยพูดซ้ำอีก

    "สนุกมากมั๊ยเนี่ย" เฮอร์ไมโอนี่พูดลอดไรฟันออกมา แล้วหยิบแหวนในกระเป๋าเสื้อคลุมมาสวม

    "อุ้ย แหวนสวยจังเลยค่ะ ใครซื้อให้ค่ะ" จินนี่ร้อง เมื่อเห็นแหวน

    "อ๋อ คนแถวนี้ล่ะจ๊ะ" เธอพูดแล้วเหล่มองไปที่มัลฟอย ซึ่งมีรอนนั่งอยู่ข้างๆพอดี

    "พี่รอนซื้อให้เหรอค่ะ" จินนี่ร้องจนคนทั้งโต๊ะมามอง

    "เอ่อ ไม่ใช่หรอกจ๊ะ" เธอพูดด้วยเสียงกระซิบ

    "แล้วใครล่ะค่ะ อย่าบอกนะว่า…." จินนี่เว้นช่วง "มัลฟอย" จินนี่พูดออกมาทำเอาทั้งเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยสะดุ้งไปตามๆ กัน

    "เรียกฉันทำไม ยัยหัวแดง" มัลฟอยพูดอย่างหาเรื่อง จนวีสลี่ย์ทั้งโต๊ะหันมามอง

    "พูดให้มันดีๆ นะ มัลฟอย" เฟร็ดลุกขึ้นจากโต๊ะ

    "เฟร็ด นั่งลง" เพอร์ซี่สั่งเสียงเฉียบขาด เฟร็ดนั่งลงช้าๆ อย่างเสียมิได้

    "จริงๆ เหรอค่ะ พี่เฮอร์ไมโอนี่" จินนี่พูดเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ไม่ปฏิเสธ

    "อือ" เธอครางตอบเบาๆ

    "จริงเหรอค่ะ โอ้ พระเจ้า" จินนี่พูดแล้วเอามือปิดปาก

    "อย่าบอกใครนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูด แล้วเหล่ไปที่มัลฟอยที่กำลังนั่งกอดอกอยู่อย่างอารมณ์เสีย

    "ค่ะ" จินนี่รับคำอย่างกระตือรือร้น

    "เป็นอะไรกัน สองคนน่ะ ไม่รีบกินเดี๋ยวอาหารจะเย็นหมดนะ" แฮร์รี่พูดมาจากปลายโต๊ะอีกด้านนึง

    "เธอรู้มั๊ยแฮร์รี่ เธอพูดเหมือนกับพ่อฉันเลย" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วตักอาหารเข้าปาก

    "เธอเป็นอะไรจินนี่ ยิ้มอยู่นั่นแหละ" รอนพูดบ้าง เมื่อเห็นจินนี่ยิ้มอย่างเดียว ไม่ทานอาหาร

    "พี่ไม่ต้องมายุ่งกันชั้นหรอก" จินนี่พูด แล้วนั่งยิ้มต่อ

    "เออ บ้าไปแล้ว" รอนพูดแล้วมองอาการน้องสาว

    …+*+*+…

                    หลังจากวันนั้น จินนี่ก็ตามถามเฮอร์ไมโอนี่เรื่องแหวน และเรื่องของเธอกับมัลฟอยตลอด เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จึงเล่าเรื่องให้จินนี่ฟังจนแทบหมดเปลือก แต่มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย เพราะ ข้อดีก็คือ จินนี่มองมัลฟอยให้แง่ที่ดีขึ้น ส่วนข้อเสีย จินนี่ชอบแสดงอาการแปลกๆ เวลาเจอเฮอร์ไมโอนี่และเพื่อนทะเลาะกับมัลฟอย จนรอนสังเกตเห็น และพยามถามตลอด

                    ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ได้นัดมาเจอกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ไม่ได้แย่ลง มัลฟอยก็ยังเหมือนเดิมเขายังเรียกเฮอร์ไมโอนี่ว่า 'เลือดสีโคลน' ทุกครั้งที่เจอเธออยู่กับเพื่อนๆ เขายังพยามแกล้งแฮร์รี่และรอนให้ถูกหักคะแนนเล็กๆน้อยในวิชาของสเนป แต่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมทุกครั้งที่เขาพบกับ "ยัยเลือดสีโคลน" ที่เขาเคยเกลียดนักเกลียดหนาแล้วถึงมีความสุขมากจนถึงขั้นนอนเกือบไม่หลับได้ทั้งคืน….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×