ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic inazuma eleven go] Cozy Love the series

    ลำดับตอนที่ #12 : Love story 1 :บทที่8 คำตอบเเละข้อเเม้

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 62


          

         สวัสดีค่า~ ในที่สุดเราก็มาเจอกันอีกครั้ง^^ ต้องขอโทษที่หายกันไปนาน เเต่เหตุผลที่เราไม่อัพนิยายสักที เพราะ เราเเต่งนิยายไว้หลายเรื่อง เดี๋ยวก็อยากเเต่งเรื่องนั้นบ้างละ เรื่องนี้บ้างละ ไม่ลงตัวสักที เลยใช่เวลาจัดเวลาการเเต่งนิยายสักหน่อย พอจวนตัว ตอนนี้ก็ลงตัวเรียบร้อยเเล้ว สำหรับนิยายเรื่องนี้ ซีฟจะอัพทุกสัปดาห์ ทุกวันเสาร์ ตั้งเเต่อาทิตย์นี้จนจบเดือนมิถุนายน จึงจะไปเเต่งเรื่องอื่นต่อค่ะ พอถึงตอนนั้นน่าจะถึงประมาณกลางเรื่องของภาคชินโดค่ะ เเต่ยังไงก็ยังไม่ทิ้งนิยายน้า~ เเต่อาจจะมีบางช่วงค่ะที่หายไป เพราะเราอยู่ม.4 กำลังเตรียมตัวเข้ามหาลัยระยะยาวค่ะ บางครั้งก็มีงานโรงเรียนที่ม.4เป็นเจ้าภาพจัดงาน ซึ่งงานหนักมาก เลยอาจไม่ได้มาอัพค่ะ เเต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถติดตามซีฟได้ตามเพจเฟสบุ้คข้างหน้าหลักนิยายค่ะ จะอัพภาพวาดหรือภาพถ่ายทุกอาทิตย์เหมือนกันค่ะ ส่วนสำหรับคำถามเมื่อช่วงที่เเล้วที่ถามว่าชอบใครมากที่สุดในอินาซึมะ อันนี้ผลสรุปขอเก็บไว้ระยะยาวค่ะ เนื่องด้วยมีรีดเดอร์เข้ามาตอบเพียง2คน เลยคิดว่าจะเก็บไว้จนกว่าจะมีรีดเดอร์ท่านอื่นเข้ามาขอเยอะๆค่ะ ยังไงรีดเดอร์2คนก่อนหน้าก็อย่าเพิ่งรีบร้อนนะ ใจเย็นน้า~^^ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ค่ะ สำหรับตอนนี้ซีฟแต่งเกริ่นไว้ให้อ่านลุ้นเอาก่อนนะ เดี๋ยวค่อยมาลุ้นต่อเสาร์นี้นะ^^ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลย

     

     

     

     

     

    อะ...

     

    เดี๋ยว...

     

    เกือบลืม...

     

    สวัสดีปีใหม่ค่า!!!!!! ขอให้ปีนี้เป็นปีที่สดใส มีความสุขมากๆๆๆๆ มีชีวิตที่ดี ไม่นกในเรื่องต่างๆๆน้า~ จุ้บๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ไปละ...

     

    บายยยย~ เจอกันอาทิตย์หน้าค่าาา^^

    ----------------------------------

    [ 3.1.17]

     

     

    บทที่8 รุก

     

    Sakurako part

     

         รถบัสสองชั้นหลายต่อหลายคันขับมาจอดหน้าโรงเรียนเรียงยาวราวกับตึกเเถว ฉันมองรถบัสเหล่านั้น ขณะที่กำลังนั่งซ้อนท้ายจักรยานของสึรุงิอยู่ มันเป็นภาพที่ไม่ค่อยคุ้นตานักสำหรับฉันเพราะที่โรงเรียนเก่าในจังหวัดโอเอมะ...เป็นโรงเรียนที่ไม่ค่อยเจริญนัก การไปมาสัญจร ทัศนศึกษาจึงไม่ค่อยมี เเต่เพิ่งได้ยินจากสึรุงิเมื่อไม่นานว่าที่นี้มีทัศนศึกษาทุกปี ทุกระดับชั้น

    'ปกติก็มีทัศนศึกษาทุกปีไม่ใช่เหรอ?' เจ้าตัวถามมาเเบบนี้

    ฉันก็เพิ่งได้รู้เมื่อนานนี่เอง โอกาศที่จะได้เรียนรู้จากในเมืองมีมากกว่าในชนบท จะบอกว่ามันไม่ยุติธรรมก็ไม่เชิง เเต่ตอนที่อยู่ที่เก่าก็ไม่ได้รู้สึกเเย่อะไร จึงไม่ได้คิดน้อยเนื้อต่ำใจเลยเเม้ตอนที่ได้มาอยู่ที่นี้

    จะว่าไป ก็คิดถึงคนที่อยู่ทางนู้นเหมือนกันนะ...

    ทัศนศึกษารอบนี้ซื้อของไปฝากดีกว่า...

    ฉันคิดพลางลงจากเบาะซ้อนท้ายจักรยาน ยืนมองสึรุงิที่หันมายิ้มให้ก่อนจะขี่จากเธอไป

         กิจวัตรของเธอเป็นเเบบนี้ทุกวัน ตื่นมาพร้อมสึรุงิ มาโรงเรียนด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน ไปไหนต้องบอกกันตลอด ต่างคนต่างรู้ว่าอีกคนไปไหน จากคนที่เคยไม่ถูกชะตาด้วยกลับกลายเป็นคนรู้ใจกันราวกับเป็นเพื่อนเก่าที่สนิทกันมานาน

    เเต่สำหรับใจเธอเเล้วกลับไม่อยากเรียกสึรุงิว่าเพื่อนเสียทีเดียว...

         เธอจะหลงตัวเองเกินไปไหม ถ้าจะคิดว่าสึรุงิชอบเธออยู่ ถ้าหากว่าสึรุงิชอบเธอจริงๆ เธอก็คงไม่ต้องหลอกตัวเองเพื่อลบล้างความหวังอยู่เเบบนี้ ในหลายๆครั้งสึรุงิเป็นผู้ชายที่เข้าใจยากมากๆ ภายในดวงตาสีทองเหลืองอร่ามกับรอยยิ้มอันมีเลสนัยของเขา ยิ่งบอกตัวตนของเขาไม่ได้สักที สึรุงิมักจะทำตัวเหมือนเพื่อนกับเธอ เเต่ความรู้สึกภายใต้นัยน์ตาของเขากลับต่างออกไป ยิ่งพักหลังเขายิ่งทำตัวอ่อนโยนเเปลกๆกับเธอ มันเลยทำให้เธอรู้สึกมีความหวังเรื่องความรักครั้งนี้มากึ้น เเต่ก็ยังไม่อยากสรุปทันที เพราะมันเหมือนหลงตัวเองเกินไป

    ถ้าสึรุงิไม่ได้คิดเหมือนกันละ?...

     

    "ยืนคิดอะไรอยู่ หืม? " ฉันสะดุ้งโย้งเมื่อได้ยินเสียงของคนที่ฉันกำลังคิดถึงดังมาจากข้างหลัง

    "อะ!เปล่า ไม่ได้คิดอะไร..." ฉันพูดเสียงค่อย

    "ไปขึ้นรถได้เเล้ว ชักช้าเป็นเต่าเเบบนี้ เดี๋ยวก็จองที่ไม่ทันหรอก"  สึรุงิพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ก่อนจะจับมือฉันวิ่งไปที่รถบัสสองชั้นคันของห้องฉันที่จอดอยู่

     

    มือของเด็กผู้ชายสัมผัสกับมือของฉัน หัวใจยิ่งหวั่นไหวเมื่อเห็นเเววตาอันอบอุ่นของเขาที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้ม...

    อยากจะหยุดช่วงเวลาไว้เเค่นี้จัง...

     

    ฉันกับสึรุงิขึ้นรถบัสหลังจากเช็คชื่อกับหัวหน้าห้องเสร็จ ฉันกับสึรุงิขึ้นไปนั่งชั้นบนสุดเพื่อไปจองที่นั่ง

    "เห้~ ซากุระโกะ สึรุงิ ทางนี้ๆๆ"

         เสียงของเทนมะดังมาเเต่ไกลจากที่เบาะหลังสุด เบาะหลังสุดที่เป็นเบาะยาว นั่งได้ประมาณ5-6คน เเต่ชินสุเกะตัวเล็กเลยนั่งเผื่อได้อีกคนนึงซึ่งก็คือคาริยะคุงเเต่ถ้าหากฉันไปนั่งเพิ่มด้วยอีกคน ฮิคารุคุงก็จะต้องเหงา ต้องไปนั่งกับคนอื่นเเทน นอกจากนี้ห้องเรายังมีห้องc มารวมอยู่ด้วย คนเลยค่อนข้างเยอะ ฉันจึงคิดเสียสละที่นั่งให้ฮิคารุคุงเเล้วไปนั่งกับคนอื่นเเทน

    "ฮิคารุคุง มานั่งเเทนที่ฉันก็ได้ เดี๋ยวก็เหงาเเย่หรอก" ฉันพูดพลางลุกจากเก้าอี้

    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวซากุระโกะไม่มีที่นั่งนะ" ฮิคารุพูดพลางยิ้มเเหง เเละโบกไม้โบกมือเชิงว่าไม่ต้อง

    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปนั่งกับคนอื่นเเทน ก็เพื่อนร่วมห้องทั้งนั้นนี่... ง่ะ =0="

    ฉันทำเสียงหลง เมื่อหันไปเห็นว่าที่นั่งชั้นบนเต็มหมดเเล้ว

    เเล้วทีนี้จะนั่งไหนละเนี่ย!!!?

    "เฮ้อ~ ยัยบื้อเอ้ย..." สึรุงิถอนหายใจก่อนจะ ลากเอวฉันที่ยืนอยู่ข้างๆลงมานั่งที่ตักของเขา

    ฟังไม่ผิดหรอก...

    ตักสึรุงินี่เเหละ!!!

    "เดี๋ยวสิ! เดี๋ยวฉันลงไปนั่งชั้นล่างก็ได้!" ฉันตกใจพลางหน้าเเดง ในขณะที่สึรุงิยังคงยิ้มเเป้นอย่างชอบอกชอบใจ

    ตาบ้าเอ้ยยยย!!!!!

    "ชั้นล่างก็คงที่นั่งเต็มหมดเเล้ว ลืมเเล้วหรือไงว่าเรามีห้องcมาร่วมคันด้วยนะหะ?" สึรุงิตอบพลางยักคิ้วให้

    ใครจะไปลืมยะ!! เเต่มีคนปกติที่ไหนนั่งซ้อนตักในรถเเบบนี้กันเล่า!!!

    "เเต่...ฉันตัวหนักนะ!!" ฉันพยายามหาข้ออ้าง เเต่ดูทีท่าเจ้าตัวเเล้วไม่น่าจะปล่อยง่ายๆ

    "ตัวหนักอะไร~ ตัวเบาจะตาย เอ้า! ฮิคารุ นั่งสิ! ยืนรออะไร!" สึรุงิพูดพลางยิ้มเเป้น

    "อ้า! ครับ! ขอบคุณมากครับ!" ฮิคารุพูดขมวดคิ้วด้วยรอยยิ้มเล็กๆก่อนนั่งลงข้างๆสึรุงิ

    "ชิ!..." ฉันบ่นเบาๆเเม้จะรู้ว่าสึรุงิที่ได้ยินอยู่กำลังเเอบขำกับท่าทางของฉันก็ตาม

    "เห้~ พวกนาย! นี่ใบงานกิจกรรมนะ อย่าลืมทำให้เสร็จ เเล้วส่งตอนขากลับด้วย อะ..." หลังจากที่หัวหน้าห้องเเจกใบงานให้ทุกคนเเล้ว สายตาของเขาก็หันมามองฉันที่ถูกสึรุงิกอดเอวให้นั่งตักลุกจากตัวเขาไม่ได้

    อย่ามองด้วยสายตาเเบบนั้นสิ!!!!

    "ซากุระโกะ เธอไม่มีที่นั่งเหรอ? ให้ฉันบอกครูให้ช่วยจัดหาที่นั่งให้มั้ย?"

    หัวหน้าห้องถามพลางยิ้มให้

    โอ้~ หัวหน้าห้องเป็นพ่อพระของฉันจริงๆ

    "ไม่ต้องหรอก เเค่นี้ก็นั่งได้เเล้ว^^ " สึรุงิชิงตอบคำถามก่อนที่ฉันจะตอบตกลง พลางยักคิ้วให้อีกครั้ง หลังจากที่เห็นฉันขมวดคิ้วเเละจ้องหน้าเขาด้วยสายตาอำมหิต

    คงจะอำมหิตไม่พอ-_-"

    "อ่า~ งั้นก็ไม่เป็นไร" หัวหน้าพยักหน้าก่อนจะพูดต่อ เเละยิ้มเขินๆเเกล้งๆ

    "เเต่ถ้าพวกนายจะสวีทหวานกันในรถ ก็ระวังซากุระโกะเมารถนะ"

    อย่าพูดอย่างน้าาาาาาาน!!!

    ต้องมีใครให้หัวหน้าห้องพูดเเน่เลยT^T

    สึรุงิชัวร์-_-"

    เเละหลังจากนั้น...

    ก็มีเสียวงดังจากกลุ่มเด็กผู้ชายในห้องดังตามมา...

    "หวีทหวิ้วววว~"

    "เห้ย! สึรุงิ ซุ่มนี่หว่าาาา~"

    "โอ้ยย~ ดูทำตัวกัน"

    ตามด้วยสายตาจิกของเด็กผู้หญิง...

    อย่ามองฉันอย่างนั้นสิT0T

    ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะQQ

    โทษสึรุงิคนเดียวเลย!!!Q[]Q

    "น่าๆ กลายเป็นคู่จิ้นกันซะเเล้ว-w-" เทนมะล้อ

    "คงไม่ได้เป็นเเค่คู่จิ้นกันเเล้วม้างงงงงง" คาริยะล้อต่อ

    "อ้าว งั้นเป็นอะไรละ?" ฮิคารุถามต่อด้วยเเววตาใสซื่อ(?)

    "ก็เป็น..."

    "หยุดน้าาาาาาาาาาา!!!!!!"ฉันตะโกนดังลั่นรถราวกับรู้ว่าคาริยะจะพูดคำไหนออกมา หลังจากที่คาริยะกำลังจะพูดฉันจึงรีบตะโกนห้าม

    "หว่า~ หน้าเเดงซะเเล้วเเหะ ดูเเลเเฟนนายด้วย สึรุงิ~ ^0^" คาริยะล้อต่อโดยไม่ได้สำนึกตัวเลยสักนิดดดดด

    "คาริยะ!!" ฉันเรียกชื่อคนขี้เเกล้งด้วยสีหน้าเอือมระอา

    "ทั้งสองคน พอได้เเล้ว! รถจะออกเเล้วนะ" อาโออิจังเตือน ฉันที่หน้าเเดงเพราะต่อกรกับสึรุงิไม่ได้จึงนั่งนิ่งเงียบจ้องตาคาริยะที่ยังคงล้อเลียนด้วยสายตาอาฆาต

    "หึๆ" เสียงหัวเราะคิกคักใกล้ๆหูนี่ ไม่ต้องถามเลยว่าเสียงใคร-_-

    ไอ้ตัวซวย... ทำฉันขายหน้า...

    "ขำอะไรยะ!" ฉันหันไปถาม เจ้าตัวการด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

    "เปล่านี่~" สึรุงิตอบพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม

    "ชิ!" ฉันตอบเคืองๆ อย่าให้รู้นะว่าภายใต้รอยยิ้มนั่นคิดอะไรอยู่...

    เเต่ถ้าใจจริงของสึรุงิคิดเเบบนี้ก็คงจะดี...

    ฉันยิ้มเขินๆขณะที่ยังนั่งอยู่บนตักของสึรุงิ โดยไม่ทันได้สังเกตุว่าสึรุงิมองรอยยิ้มของฉันด้วยสายตาที่เเปลกไป...

    .

    .

    .

    ฉันเผลอหลับไปภายใต้อ้อมกอดของสึรุงิ จนสะดุ้งตืนขึ้นมาเพราะหัวไปชนกับกระจกรถบัส ฉันตื่นขึ้นมา เช็คสภาพตัวเองเล็กน้อยว่ายังครบ32 (ยกเว้นสมองที่ถูกกระทบกระเทือนมานานเเล้ว โดยที่ไม่ต้องชนกับกระจกเมื่อกี้ก็ยังได้-__-) เเละพบว่าตัวเองยังคงนั่งอยู่บนตักของสึรุงิที่กำลังหลับในขณะที่ฟังเพลงอยู่

    หูสองข้างที่กำลังฟังเพลงกับท่าทางที่กำลังโอบกอดฉันไว้ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ภาพของเขาที่ถูกเเสงเเดดสาดส่องลงมาทำให้หัวใจของฉันเต้นเเรงอย่างหนักหน่วง ฉันได้เเต่กุมมือไว้ที่อกเเละฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัวนั้น ในที่สุดฉันจึงพยายามเรียกสติของตัวเอง เเละเอนหลังไปซบที่คอของสึรุงิด้วยความอยากรู้ว่าเขาฟังเพลงอะไร พร้อมกับจ้องใบหน้าของเขาที่กำลังหลับ

    ฟึบ! 

    จู่ๆก็มีเสียงจากหูฟังโผล่เข้ามาที่หูของฉัน เมื่อได้สติดังนั้น ก็พบว่าหูฟังของสึรุงิอีกข้างโผล่มาเสียบที่หูของฉัน เเละมีมือของสึรุงิที่จับหูฟังข้างนั้นอยู่

    " ถ้าอยากฟังขนาดนั้นก็บอกกันดีๆสิ..." สึรุงิพูดด้วยเสียงงัวเงียเพราะเพิ่งตื่น

    " อืม..." ฉันตอบรับด้วยความเขินอาย เพราะไม่คิดว่าสึรุงิตื่นอยู่ เเละหัวใจยิ่งเต้นระรัวหนักกว่าเดิม เมื่อรู้สึกได้ว่าสึรุงิกอดเอวของฉันเเน่นกว่าเดิม

    ' เขาจะได้ยินเสียงหัวใจของฉันไม่นะ?' ฉันคิดด้วยความกังวล เพราะการกอดของสึรุงิที่เเน่นกว่าเดิม ทำให้ตัวของฉันชิดกับสึรุงิยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

    " ตอนนี้หลับไปก่อนดีกว่านะ อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง" สึรุงิพูดหลังจากที่ยกนาฬิกาข้อมือของเขามาดู เเล้วจึงค่อยจับหัวฉันซบลงมาคอของเขาชิดกว่าเดิม

    " ซบคอฉันไว้เเบบนี้เเหละ มันอุ่นดี เเต่อย่าหลับน้ำลายยืดใส่คอฉันนะ -___-"" เขาพูดติดตลก

    " ฉันไม่ใช่นายนะ ตาบ้า..." ฉันพูดก่อนจะหลับตาลงเเละซบไปที่คอของเขา

    " ฉันไม่เคยหลับน้ำลายยืด ยัยเพี้ยน" สึรุงิพูดก่อนจะผล่อยหลับต่อคาหูฟังไปอีกคน

    .

    .

    .

    " ซากุระโกะ ตื่นได้เเล้ว ถึงเเล้วนะ" เสียงทุ้มต่ำของสึรุงิปลุกให้ฉันตื่น ฉันลุกขึ้นมาจากตักของเขา ก่อนจะยื่นมือไปรับกระเป๋าที่สึรุงิยื่นมาให้ เเละลงไปข้างล่างเพื่อรอเข้าพิพิธภัณฑ์ หลังจากที่เข้าไปเเล้ว พวกอาจารย์ บรรดาคุณครูทั้งหลายก็ปล่อยให้นักเรียนไปเดินเล่นเล่นทั่วพิพิธภัณฑ์ตามใจชอบ ซึ่งเเน่นอนว่าต้องทำใบความรู้ควบคู่ไปด้วย ฉันกับสึรุงิ จึงพากันเดินไปที่จัดเเสดงของโบราณในยุคสมัยโจมง (ของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น) เราสองคนพากันเดินเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆจนถึงที่จัดเเสดงยุคสุดท้าย ก่อนที่เราจะพากันมานั่งพักที่ลานกว้างของพิพิธภัณฑ์

    "เหนื่อยจังเลยยย" ฉันบ่น 

    "อ่อนเเอจังเลยนะ เธอเนี่ย" สึรุงิพูด พลางทำหน้ากวนใจ

    "ก็ฉันเป็นผู้หญิง จะให้เเข็งเเรงเเบบชายฉกรรย์เเบบนายได้ยังไง -3- " ฉันตอบด้วยสีหน้าบูด

    "เเหม~ ทำมาเป็นพูด ตีฉันทีนึกว่าเเรงช้าง" สึรุงิล้อ

    " โหยยยย ปากดีจริงๆเลยนะ ตาบ้า!" ฉันพูดด้วยสีหน้าบูดอีกครั้ง พลางตีไหล่สึรุงิ สึรุงิหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกระดกเปปซี่กระป๋อง

    ฉํนมองสึรุงิที่กำลังกระดกน้ำอยู่ พลางคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่จู่ๆสึรุงิก็เข้ามาจูบฉัน พอกลับมาคิดอีกครั้ง มันก็ทำให้ฉันเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง เเน่นอนว่าจูบในครั้งนั้นไม่มีทางเกิดจากความรู้สึกของความเป้นเพื่อน มันต้องเกิดจากความรู้สึกที่มากกว่านั้น เเต่ฉํนก็ไม่อยากหลงตัวเองมากจนเกินไป บวกกับว่าวันนี้ได้อยู่ร่วมกับสึรุงิ มันทำให้ฉํนความสุขมาก จนทำให้ฉํนเผลอลืมคิดเรื่องราวที่น่าสงสัยนั่นไป ท่ามกลางความเงียบสงัดที่มีเพียงเเค่ฉันกับสึรุงิ ยิ่งเมื่อคิดถึงเรื่องนั่น มันก็ยิ่งทำให้ฉันต้องการคำตอบของเรื่องราวน่าสงสัยนั่นมากยิ่งขึ้น

    "เอ่อ...สึรุงิ..." ฉันเรียกชื่อด้วยเสียงนุ่ม

    "ว่า?" สึรุงิถามด้วยสีหน้าสงสัย

    "คือว่า...มีเรื่องอยากจะถามหน่อยนะ" ฉันพูดด้วยท่าทีเลิกลั่กเบาๆ

    "อืม ถามมาสิ" สึรุงิตอบ

    ฉันนิ่งไปสักครู่หนึ่ง ก่อนจะมองหน้าสึรุงิ ท่ามกลางความเงียบ ที่ตรงนั้น มีเเค่ฉันกับสึรุงิที่มองหน้ากัน ฉันมองหน้าของสึรุงิ ที่ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้หัวใจของฉันเต้นเเรงมากยิ่งขึ้น ฉันตัดสินใจถามออกไปด้วยคำถามที่หน้าด้านเกินกว่าจะถาม

    "ทำไมตอนนั้น...นายถึงจูบฉันเหรอ??"

    สึรุงิดูจะอึ้งกับคำถามของฉัน เขาเงียบเเละทำหน้าหงุดอยู่อย่างนั้นสักพัก ฉันได้เเต่มองหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความเขินอาย สีหน้าที่เเดงก่ำนั่น มันยิ่งทำให้ฉันเเน่ใจในความรู้สึกของเขามากยิ่งขึ้น...

    Tsurugi Part

         คำถามของซากุระโกะ ทำให้ผมตกใจเเละเขินอาย ผมได้เเต่ทำหน้าหงุดมองมือทั้งสองของตัวเองที่กำลังกุมกันอยู่ ผมทำเเบบนั้นอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมามองเด็กสาวของผม เมื่อซากุระโกะเห็นผมเงยหน้าขึ้นมา เธอก็เลิกลั่กด้วยความเขินอาย เเละพูดต่อด้วยเสียงสั่นเครือ

    "คือว่า...มันอาจจะเป็นคำถามที่น่าอายสักหน่อย เเต่ว่า! ถ้านายไม่สบายใจไม่ต้องตอบก็ได้นะ..." เธอพูดด้วยสีหน้าเเดงก่ำ 

    ใบหน้าของเธอที่เเดงระเรื่อทำให้ผมเริ่มเเน่ใจในความรู้สึกของเธอที่มีต่อผม เเละทำให้ผมมีความกล้ามากขึ้น ผมอดเผลอยิ้มให้กับใบหน้าน่ารักนั่นไม่ไหว เลยตอบกลับไปด้วยคำถามเเทน

    "เเล้วทำไมเธอถึงอยากรู้ละ??" สาวน้อยเมื่อได้ยินคำถามก็ทำหน้าหงุดเเละดูจะเขินอายมากกว่าเดิม

    "ก็ฉัน..." จังหวะที่เธอกำลังจะตอบผม ผมจึงยื่นนหน้าเข้าไปใกล้ๆเธอ ซากุระโกะเเม้จะตกใจกับการที่ผมยื่นหน้าเข้ามาเเต่เธอก้ไม่ขยับหนีไปไหน ได้เเต่หลบตาผมด้วยท่าทีที่เขินอาย

    "คือ! ฉันถามนายก่อนนะ นายต้องตอบคำถามฉันสิ..." เธอท้วง

    "อย่างนั้นเหรอ อืม...งั้นฉันตอบให้ก็ได้ เเต่ว่ามีข้อเเม้ข้อหนึ่ง" ผมพูดด้วยสีหน้ากวนๆ

    "ได้ เเต่ข้อเเม้คืออะไรอะ?" เธอถามด้วยสีหน้าสงสัย

    "อืม... ฉันจะบอกก็ต่อเมื่อฉันตอบคำถามเธอเเล้ว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ

    "งั้นนายก็ตอบมาสักทีสิ ลีลาอยู่ได้ -__- " เธอเอือมระอากับท่าทีของผม ผมหัวเราะพลางมองสีหน้าบูดนั่นของเธอ

    "เอาหูมาสิ" 

    ซากุระโกะยื่นหูมาให้ผม ผมจึงค่อยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆหูของเธอช้า ผมตอบคำตอบของผมด้วยเสียงที่เบาบาง เมื่อซากุระโกะได้ฟังดังนั้น เธอก็นิ่งด้วยความอึ้ง เเละหันกลับมามองหน้าผมด้วยใบหน้าที่เเดงก่ำหนักกว่าเดิมมาก ผมเองก้เช่นกัน ผมรู้สึกได้ถึงหัวใจที่มันเต้นเเรงของผม ผมดีใจมากที่ได้บอกคำๆนั้นไป เเม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเธอจะตอบผมกลับมาว่ายังไงผมก็รับได้เสมอ สำหรับตอนนี้ผมมีความสุขมาก มากเกินกว่าจะเอ่ยคำใดๆออกมาได้ ผมมองใบหน้าที่น่ารักของเธอ ก่อนจะยิ้มมีความสุขทั้งคำตอบเเละเงื่อนไขของผมกับเธอ ผมหอมเเก้มเธอก่อนที่จะยิ้มเเละมองสีหน้าที่เขินอายมากๆนั่น

    "เธอเป็นของฉันเเล้ว :) "

    ผมพูดก่อนจะเดินจับมือเธอพาไปหาพวกเทนมะที่กำลังเรียกพวกผมอยู่


    Sakurako Part

    ฉันเดินตามสึรุงิที่ลากฉันไปหาพวกเทนมะ ในขณะนั่นเองฉันรู้สึกเหมือนเซลล์ประสาทไม่ทำงานอีกต่อไป ความรู้สึกที่ทั้งเขินอายเเละดีใจมันท่วมท้นไปหมด จนได้ยินเเต่เสียงของสึรุงิที่เข้ามาในหูซ้ำไปซ้ำมา...`

    `ฉันชอบเธอ...'

    .

    .

    .

    'ข้อเเม้คือ เป็นเเฟนกันนะ :) '


    `+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    สวัสดีค่า คิดถึงกันมั้ย 5555 นานมากเลยที่ไม่ได้มาลง ตอนนี้น่าจะเลี่ยนมากเนอะ คือจริงๆที่เเต่งไว้เเล้วก่อนหน้าไม่ได้เลี่ยนเลยยยย เเต่ทำบทหาย เเงงงง จำไม่ได้ด้วย เลยต้องเเต่งสดเอาเลยยย5555 หวังว่าจะดีใจนะที่กลับมาเเล้ว บทจริงก็ไม้ได้สารภาพรักเร็วขนาดนี้ด้วย เเต่งเเบบเอาเถอะ มีให้ลงก็ดีละ555 หวังว่าจะชอบกันนะคะ ^^





     






    SeFFila+




    O W E N T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×