คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : chapter 7 เพื่อนไม่จริง
ฉับ ฉับ
“อยู่นิ่งๆดิ!”
ในเย็นวันเสาร์ที่อากาศข้างนอกอึมครึมเหมือนฝนจะตก
คยองซูกำลังยืนอยู่ระหว่างขาของจงอิน
มือข้างหนึ่งถือกรรไกรส่วนมืออีกข้างก็จับมือจงอินเอาไว้ไม่ให้ซนจับนู้นแตะนี่
“จิ๊! จงอินถ้ามึงไม่อยู่เฉยๆกูจะไม่ตัดให้แล้วนะ”
“โอเคๆ ยอมแล้ว”
ยกมือขึ้นสองข้างเป็นการยอมแพ้
จงอินจะไม่แกล้งจับตรงนั้นลูบตรงนี้แล้วก็ได้ ถึงขาขาวๆที่พ้นออกมาจากกางเกงบ๊อกเซอร์มันจะน่าขย้ำแค่ไหนก็เถอะ
“ผมเสียนี่ยังน้อยกว่าสันดานมึงอีก”
เสียงบ่นยังดังไม่ขาด จงอินน่ะเป็นคนนิสัยเสีย ทั้งที่ก็รู้ว่าคยองซูสายตาไม่ดีแต่ก็ชอบใช้ให้ตัดผมให้บ้างล่ะ ตัดเล็บให้บ้างล่ะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าถ้าสุดท้ายจะต้องไปแก้ทรงที่ร้านแล้วจะมานั่งเสียเวลาทำไม
ครึมมมมมม!
“งื้ออ สัสกูตกใจหมดเลย อีฟ้าเลว”
คนบนตักหน้างอเพราะอายที่เสียฟอร์ม
คยองซูไม่ชอบปรากฏการณ์อะไรก็แล้วแต่ที่มากับฝน เพราะความเป็นคนขี้ตกใจบวกกับความคิดฝังใจตั้งแต่เด็กว่าถ้าใครดื้อฟ้าจะผ่า แขนเล็กๆโอบลอบคอของจงอินยังไม่ยอมปล่อย
เช่นเดียวกับการกระโดดขึ้นไปนั่งบนหน้าขาแบบเนียนๆแล้วไม่ยอมลุก คำพูดเมื่อกี้มันเหมือนเด็กขี้ฟ้องมากกว่าจะเป็นการสถบ
และคยองซูก็ไม่ชอบที่ตัวเองแบบนี้..แต่คงไม่ชอบยิ่งกว่านี้แน่ๆถ้าจงอินไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
แม่งโคตรไม่แมนเลย..
“จงอินผมมึงแหว่งเลยอ่ะ ทำไงดี”
"กูขอโทษนะ"
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยไปให้ร้านแก้”
จงอินไม่คาดหวังอะไรจริงจังกับทรงผมที่คยองซูตัดให้อยู่แล้ว
เพราะความเป็นผู้ชายที่สายตาไม่ดียังไงมันก็ไม่ละเอียดอ่อนไปได้หรอก เวลาตัดเล็บให้ก็เหมือนกัน หลายครั้งที่คยองซูตัดลึกเกินไปจนเลือดออก ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บนะแต่ที่ยังยอมอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะยังชอบเห็นสีหน้าจริงจังของคยองซูเวลาตั้งใจทำอะไรจริงๆก็เท่านั้นเอง
ตาโตๆที่มองแค่เขาเพียงคนเดียวมันทำให้รู้สึกดีจะตาย
Rrrrr
Rrrr
“คยองซู โทรศัพท์ดัง”
“ไม่เอา เดี๋ยวฟ้าผ่า”
คนตัวเล็กส่ายหัวช้าๆเป็นการปฏิเสธ จมูกที่ยังคลอเคลียอยู่กับสิ่งเดียวกับของจงอินเหมือนจงใจจะอ้อน คยองซูจะไม่รับโทรศัพท์เด็ดขาดตราบใดที่ท้องฟ้ายังน่ากลัวอยู่แบบนี้
ต่อให้เป็นสายสำคัญแค่ไหนก็ต้องรอไปก่อน
เขาจะไม่จับอุปกรณ์อะไรก็แล้วแต่ที่คิดว่ามันล่อฟ้าได้แน่ๆ แม้กระทั่งจะลุกไปนั่งตรงอื่นตอนนี้คยองซูก็จะไม่ทำ
“กลัวอะไรเป็นเด็ก รับหน่อยนะเซฮุนถือสายรอนานแล้ว”
จงอินตบหัวทุยๆอย่างไม่จริงจังติดจะหมั่นไส้มากกว่า ทีเรื่องอื่นล่ะทำเป็นแมนนักแมนหนา แค่ฟ้าร้องแค่นี้ก็กลัวจนตุ๊ดแตกซะแล้ว หน้าบึ้งๆกับปากล่างที่เบะเหมือนจะร้องไห้มันกำลังทำให้เขาใจอ่อน หรือจะให้พูดจริงๆจงอินทั้งสงสารทั้งเอ็นดูจนไม่อยากจะบังคับมากกว่า
“งั้นเปิดลำโพงเอามั้ย จะได้ไม่ต้องเอาหูแนบกับโทรศัพท์”
"ฟ้าจะไม่ผ่ากูแน่นะ?"
"เออ มึงรีบรับเหอะ ถ้ามึงตายกูก็ตายด้วยเนี้ย"
คนตัวเล็กพยักหน้าน้อยๆก่อนจะใช้นิ้วโป้งเท้ากดปุ่มสีเขียวแล้วกดที่รูปลำโพง ก็คนมันกลัวนี่หน่าขนาดจะใช้มือแตะยังระแวงเลย แต่ที่จงอินพูดเมื่อกี้มันก็น่าคิด..อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีจงอิน
อย่างน้อยจงอินก็ยังอยู่ข้างๆ
“ฮะ..ฮาโหล”
“มึงมีไรเนี้ยเซฮุน”
เสียงของคยองซูมันสั่นด้วยความระแวง
กว่าจะปรับให้เป็นโหมดปกติได้ก็ตอนที่จงอินดึงเอวเขาไปโอบ ในใจก็เอาแต่สาปแช่งเซฮุน...คอยดูนะถ้าไม่ได้โทรมาเรื่องสำคัญล่ะก็ฝนหยุดเมื่อไหร่จะตามไปกระทึบถึงบ้านเลย!
(“ขะ..เขาเอาไปหมดแล้ว ทั้งความรักทั้งหัวใจกู”)
"เซฮุนมึง.."
.
.
.
“โทรมาพล่ามเหี้ยอะไรของมึง
นี่มึงไม่กลัวฟ้าผ่าบ้างหรือไง!”
“คยองซู ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ”คนบนตักยู้ปากเมื่อโดนดุด้วยสีหน้าจริงจังของจงอิน
ก็มันจริง..จะไม่ให้ด่าได้ยังไง เซฮุนโทรมาพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ เสียงก็สั่นจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง นี่คยองซูต้องมาเสี่ยงกับฟ้ากับฝนแถมยังโดนดุเพราะคนแบบนี้หรอวะ ?
เสียเวลาจริงๆเลย
“มันเกิดอะไรขึ้นแล้วนี่มึงอยู่ไหน”
จงอินตัดสินใจว่าเขาควรจะเป็นคนคุยกับเซฮุนเอง ถึงจะไม่สนิทแต่คงดีกว่าการปล่อยให้คยองซูเป็นคนคุยแล้วพรุ่งนี้โดนเลิกคบ มันไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่เขาจะทนนิสัยเอาแต่ใจของคยองซูได้...มันมีแค่เขาเท่านั้นแหละ
ที่ไม่ต้องใช้ความอดทนอะไรเลย
(“เขาไม่ได้รักกู พี่ลู่บอกว่าเขาลืมเมียเก่าไม่ได้”)
(“กูกลับมาเขาก็ขนของออกไปหมดแล้ว”)
"ก็ดูมึงทำตะ..อุ๊บ"
เซฮุนยังคงพูดเรื่องของตัวเองต่อไป
เหมือนที่จงอินต้องคอยเอามือปิดปากคยองซูไม่ให้พูดจาทำร้ายน้ำใจเพื่อน เห้อ..บทจะงี่เง่าเนี้ยมีใครเกินที่ไหนล่ะ
(“กู..กูขอไปอยู่ด้วยคนสักพักได้ป่ะว่ะจงอิน”)
“มาดิ มาตอนนี้เลยก็ได้”
.
.
“โอ๊ย คยองซู กูเจ็บนะ”
“แล้วใครอนุญาตให้มึงเอาเพื่อนกูมาอยู่ด้วย! ไปไกลๆเลยไป”
ทั้งผลักทั้งดันหัวจงอิน..แต่ตูดก็ยังทับขาเขาไม่ยกลุก จริงอยู่ที่จงอินเป็นเจ้าของห้องแต่คยองซูเป็นคนทำกับข้าว
ทำความสะอาดทุกอย่างเพราะฉะนั้นเขาก็(น่าจะ)มีสิทธิไม่ใช่หรอ? นานๆทีฝนจะตกตอนที่เขาไม่ได้อยู่ข้างนอก
นานๆทีแบคฮยอนจะไปเข้าค่ายบ้าบออะไรนั้น นานๆทีที่จะได้อยู่ด้วยอะไรสองคน แล้วทำไม
ทำไม
ทำไม
“ถ้ามึงไม่เลิกเอาแต่ใจ คืนนี้นอนคนเดียวไปเลยนะ”
จงอินได้แต่สะบัดมือไปมาด้วยความเจ็บปวด คยองซูกัดมือเขาแถมตอนนี้ก็กำลังทำท่าจะทุบถ้าไม่ติดว่าจงอินส่งสายตาคาดโทษพร้อมกับชี้หน้าคนดื้ออย่างเอาจริง ทั้งที่เพื่อนตัวเองกำลังมีปัญหาแท้ๆแต่ดูความดื้อสิอะไรก็จะไม่เอาสักอย่างจะงอแงลูกเดียวเลย ถ้ากลัวฟ้าร้องก็ต้องตามคนมาอยู่ด้วยเยอะๆสิถึงจะถูก อยู่กันแค่สองคนจะไปหายกลัวเสียงฟ้าได้ยังไง..
ครึมมมม!
“งื้ออ”
คนตัวเล็กนั่งชันเข่าขึ้นจนชิดอกอยู่ข้างจงอิน ฝั่งตรงข้ามคือเพื่อนตัวปัญหาที่นั่งตาล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เซฮุนมาตามคำชวนของจงอินจริงๆ และมันทำให้คยองซูอึดอัด...ฟ้าต้องกำลังแกล้งเขาอยู่แน่ๆจะตกก็ไม่ตกสักทีเอาแต่ร้องขู่อยู่ได้!
จะกระโดดเกาะแขนจงอินมันก็เสียฟอร์ม
แต่จะให้นั่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรมันก็ยากเหลือเกิน..
“ก่อนหน้านี้เขาโกหกกูว่าจะออกไปซื้อของ
แต่จริงๆเขาแอบนัดเจอกับมินซอก”
“….”
“เราเลิกกันแล้วก็จริงแต่กูไม่คิดว่าเขาจะเก็บของออกไปเร็วขนาดนี้ กูก็ไม่อยากกวนพวกมึงหรอกนะแต่ถ้าอยู่คนเดียวตอนนี้กูต้องคิดถึงเขามากแน่ๆ”
เซฮุนยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบอีกครั้ง เขาไม่ได้ต้องการให้เพื่อนสองคนพูดหรือปลอบอะไร บางทีคนเราก็แค่ต้องการคนที่คอยรับฟังเท่านั้น เรื่องวันนี้มันเกิดขึ้นเร็วจนเซฮุนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาไม่รู้อะไรบ้าง เขากับพี่ลู่หานทะเลาะกันเมื่อเช้าแต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเจอห้องว่างเปล่าในตอนเย็น
และข้าวหนึ่งห่อก็ถูกทิ้งไปอย่างไม่มีค่าเหมือนคนที่ซื้อมันมา
"อ่ะ ทั้งเนื้อทั้งตัวกูเหลือแค่นี้"
เซฮุนไม่รู้ว่าเขาจะตอบแทนอะไรได้นอกจากโยนซองบุหรี่ที่เหลือสองสามมวนให้คยองซู ถึงในตอนแรกเพื่อนตัวเล็กจะดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่สุดท้ายด้วยนิสัยรักเพื่อนมันก็ทำให้ใจอ่อนคยองซูยอมรับฟังและให้เขาเข้ามาอยู่ในห้อง
ว่าแต่ทำไมวันนี้คยองซูมันดูแปลกๆ?
“มานี่มา เดี๋ยวจุดให้”
สีหน้าลังเลของคยองซูทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆแอบยิ้มนิดหน่อย จงอินกดไฟแช็คจนเกิดประกาย เปลวไฟที่ค่อยๆสัมผัสกับมวนกระดาษมันแทนคำอนุญาต หลังจากวันนั้นคยองซูก็เป็นเด็กดีเหมือนที่พูดเอาไว้ เขารู้ว่ามันยากเกินไปถ้าอยู่ๆจะหักดิบแล้วไม่สูบเลย สำหรับคยองซูน่ะลดเหลือแค่วันละมวน ทำได้ขนาดนี้มันก็ถือว่าเก่งมากๆแล้วและถ้ามันเป็นการเข้าสังคม จงอินก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น
หรือเพราะจริงๆ..จงอินไม่ได้บังคับให้คยองซูเลิกเลยต่างหาก
ในเวลาเกือบสี่ทุ่มหลังจากพวกเขานั่งคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยโดยที่เสียงฟ้าฝนก็คอยแกล้งคยองซูเป็นพักๆ เซฮุนรู้สึกว่าเขาสบายใจขึ้นมากแต่ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ก็น่าจะเป็น 'เรื่องบนเตียง' ที่ทำให้เขารู้สึกผิดจนแทบอยากจะกลับห้อง..ดีกว่าต้องมานั่งเถียงว่าใครจะนอนเตียงหรือใครจะออกไปนอนโซฟา
จะให้จงอินนอนกับเซฮุนในห้อง
คยองซูก็ไม่ยอม
จะให้เซฮุนนอนกับคยองซูในห้อง
จงอินก็ไม่ยอม
จะให้เซฮุนนอนในห้องคนเดียว
เซฮุนก็ไม่ยอม
หรือจะให้เซฮุนออกไปนอนโซฟา สองคนนั้นก็ไม่ยอมอีก
สุดท้าย
ก็นอนเบียดกันแบบนี้แหละแม่ง!
"แม่งหลับง่ายสัส"
"เซฮุนมึงพูดเบาๆหน่อย" จงอินหันมามองเขาอย่างตำหนิแล้วก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ..หน้าที่ที่เซฮุนการเพิ่งรู้ว่าจงอินต้องทำมันด้วย..
ว่าแต่มันจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรอวะ?
“จงอินนี่มึงทำอะไรอยู่วะ?”
“ทายาแต้มสิว”แฟนเก่าของเพื่อนสนิทพูดทั้งๆที่ไม่ได้หันมาสนใจเขาเลยสักนิด นิ้วใหญ่ค่อยๆทายาแต้มสิวลงบนรอยแดงเห่อที่แก้มใสอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าคนที่โดนดูแลจะตื่น
“มันชอบแกะ ถ้าไม่แอบทานะเดี๋ยวมันแกะเลือดไหลแน่ๆ”
เซฮุนก็เพิ่งรู้เคล็บลับหน้าใสของคยองซูที่แท้ไม่ใช่ใช้ครีมผัวแต่เป็นการใช้ผัวทาครีมนี่เอง.. บนเตียงห้าฟุตครึ่งที่มีจงอินนอนอยู่ตรงกลาง มุมติดกำแพงมันเป็นสีชมพูจนทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวและเป็นส่วนเกินจนอยากจะออกจากโลกโอรังเฮของอีสองคนนี้จริงๆ ใบหน้ายิ้มๆของจงอินมันดูมีความสุขเหมือนเต็มใจที่จะทำ และเซฮุนเชื่อว่านี่ไม่ใช่การทำเอาหน้าเพราะตอนนี้คยองซูหลับสนิทไปแล้วจากการที่จงอินแอบเสียบหูฟังและเปิดเพลงเบาๆเพื่อกลบเสียงฟ้าให้คยองซูนั้นแหละ
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าทำไมคนเราต้องทำเพื่อใครขนาดนี้ ทำทั้งๆที่เขาไม่เห็น ทำทั้งๆเขาไม่รับรู้เนี้ยนะ...แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา?
“จงอินถ้ามึงยังไม่นอนกูคุยกับมึงได้ป่ะวะ”
“ได้ แต่ต้องเบาๆนะเดี๋ยวคยองซูตื่น”
จงอินพูดพร้อมกับปรับความดังของเสียงเพลงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ แล้วจับคนตัวเล็กพลิกหน้าเข้าหากำแพง ยังดีที่วันนี้มีเซฮุนมาอยู่เป็นเพื่อนอีกคนคยองซูถึงหลับง่ายได้ในวันที่ฝนตกหนักเหมือนฟ้าจนพังลงมาขนาดนี้ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าจงอินไม่มีความสามารถในการปลอบนะ แค่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนคยองซูจะร้องดังกว่าฟ้าเท่านั้นเอง..
"แม่ง ตอนอยู่กับพวกกูไม่เห็นจะเป็นแบบนี้"
"แล้วเวลาฝนตกมันทำไง"
"ก็ไม่เห็นทำไง บางทีก็แค่เดินปิดหูแล้วมันก็รีบกลับห้อง"
คำบอกเล่าของเซฮุนสร้างแววตารู้สึกผิดจนปิดไม่มิดให้กับจงอิน นึกแล้วก็ทั้งรู้สึกผิดทั้งสงสารจนมันจุกไปหมด บางทีที่มีธุระจงอินก็ทิ้งคยองซูไว้กับเพื่อนเพราะคิดว่าคยองซูอยู่ได้และคงไม่อยากไปไหนกับเขาเวลาที่มีแบคฮยอนไปด้วย แต่ถ้าย้อนเวลากลับไป..จงอินจะไม่ทิ้งคนที่นอนหันหลังให้อยู่คนเดียวในวันที่ฝนกำลังจะตก เขาก็เพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้ว...คยองซูไม่ได้ต้องการเพื่อน
แต่คยองซูต้องการเขา
“กูถามอะไรหน่อย นี่สรุปมึงเลิกกับมันจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี้ย”
“อืม ประมาณสามสี่เดือนแล้ว”
เพราะแววตาของจงอินมันน่าสงสัยจนเซฮุนต้องถามออกไปจนดูเหมือนคนชอบวุ่นวายเรื่องชาวบ้าน แล้วคำตอบมันก็ทำให้เขาต้องมองคนข้างๆกับแผ่นหลังของคยองซูสลับกันไปมา ในหัวมันลืมเรื่องของตัวเองไปหมดและตอนนี้มันก็กำลังมีแต่ความสงสัย...จะว่าเชื่อก็ไม่ใช่จะว่าไม่แน่ใจก็ไม่เชิง จริงอยู่ที่คยองซูยังไม่มีใครแต่จงอินน่ะมีแฟนใหม่ไปแล้ว
สิ่งที่กำลังได้เห็นหรือสิ่งที่กำลังได้ยินล่ะที่เป็นความจริง...
จงอินดูแลคยองซูดีเกินไปหรือเปล่า?
“แล้วมึงยังเอ่อ..แบบ อย่างงั้นกับมันอยู่หรือเปล่าวะ”
เซฮุนไม่ได้ตั้งใจจะทะลึ่งนะแต่ถ้าแฟนเก่าอยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีบ้างแหละว่ามั้ย? ถ่านไฟเก่ามันร้อนเป่านิดเป่าหน่อยมันก็พร้อมจะติด ยิ่งนอนด้วยกันทุกคืน ตื่นมาก็เจอกัน แถมในห้องก็ยังมีของขวัญวันครบรอบวางโชว์อยู่แบบนี้ ถ้าบอกว่าไม่หวั่นไหวก็ตอแหลเกินไปแล้วล่ะ
“ก็มีบ้าง แต่มันไม่ค่อยยอมกูหรอก
กูเองแหละที่บังคับมัน”
“อ่อหรอ แล้วกับน้องแบคล่ะ”
“ไม่เคยอ่ะ มากสุดก็จูบ เออแล้วนี่มึงรู้เรื่องแบคฮยอนด้วยหรอ?”
“รู้ดิ น้องเขาเคยบ่นเรื่องโดนบล็อกเฟสบุ๊คกับมึงป่ะล่ะ นั้นแหละฝีมือแม่งกดสแปมเอง”
จงอินจำได้ว่าแบคฮยอนเคยบ่นเรื่องประมาณนี้ให้เขาฟังแต่จงอินไม่รู้ว่ามันเป็นยังไงแล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้โดนบล็อก ก็เฟสบุ๊คเขามีไว้แค่ส่งคำเชิญเกมส์ให้คนอื่นรำคาญเฉยๆส่วนเรื่องอื่นจงอินก็ทำไม่ค่อยเป็นหรอก ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าปัญหาโลกแตกของแบคฮยอนเป็นฝีมือของคยองซู...แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไปทำไม
“มึงน่าจะกลับมาคบกับมันให้จบๆ”
“ทำแบบนี้ไม่คิดว่ามันน่าอึดอัดบ้างหรอ”
.
.
“ก็เพราะแบบนั้นไงกูเลยไม่กลับไปคบ”
สายตาที่ว่างเปล่ามองขึ้นไปบนเพดานอย่างไร้จุดโฟกัส ความจริงการอยู่แบบนี้ต่างหากที่ดีที่สุด ทั้งเขาทั้งคยองซูต่างก็ยังไม่มีใครเปลี่ยนตัวเองได้เลย กลับไปตอนนี้มันก็มีแต่จะวนไปที่เดิมไม่รู้จบเผลอๆสุดท้ายอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีกเลยก็ได้.. ไม่ว่าใครจะมองยังไงมันไม่สำคัญหรอก สำหรับจงอินแล้วเขาชอบให้มันเป็นแบบนี้แหละ ดีซะอีก..ความเป็นเพื่อนมันเหมือนกุญแจที่มาปลดล็อคระยะห่างบางอย่างที่ตอนเป็นแฟนกันทำไม่ได้ อย่างน้อยจงอินก็ได้เห็นคยองซูในแบบที่คนทั่วไปเห็น เป็นคยองซูในแบบที่เป็นตัวของตัวเองบนชีวิตอีกมิติหนึ่ง เป็นคนที่ไม่เคยยอมเขาเลยซักเรื่อง เป็นคนที่ช่างเถียงและขี้บ่นสารพัด เป็นคนที่ทำทุกอย่างตามใจตัวเอง เป็นคนที่ดูจะตรงข้ามกับ 'คยองซูของเขา' ทุกอย่าง
แต่อย่างน้อยขอแค่ยังเป็นคยองซู..แค่นั้นก็พอแล้ว..
“ที่พูดกูไม่ได้อยากจะเสือกหรอกนะ แต่เห็นว่ามึงดูแลมันดีอย่างน้อยมันก็น่าจะได้รู้”
เปรี้ยงงง!
ยังไม่ทันที่จงอินจะตอบอะไร
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นจนเซฮุนยังสะดุ้งก็ดังขึ้นซะก่อน..และตามด้วยเสียงสะอื้นเล็กๆของใครบางคน
“อื้ออ..ฮึก..”
“คยองซู ไม่เอาไม่ร้องนะครับ นี่จงอินเอง นอนซะนะ จงอินอยู่นี่ไง คยองซูไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะ”
มือใหญ่ยกขึ้นป้องใบหูเล็กทั้งสองข้างแล้วพูดประโยคนั้นซ้ำๆจนใบหน้าเหมือนเด็กงอแงที่เปลี่ยนมาซบอยู่บนอกแกร่งค่อยๆสงบลงพร้อมกับรอยยิ้มของจงอิน
.
.
“กูไม่ได้ทำเพราะอยากให้มันรู้
กูแค่อยากลองทำเหมือนที่มันเคยทำให้กูก็เท่านั้นเอง”
02.30 น
“อื้ออ”
“ชูส์ เบาๆสิ”
??
“คยองซูไม่เอาเดี๋ยวเซฮุนตื่น”
“งั้นแค่จุ๊บก็ได้ จุ๊บเค้าหน่อยนะ จุ๊บหน่อยนะ”
“ถ้าจุ๊บแล้วต้องยอมนอนนะ สัญญาก่อน”
"สัญญาก็ได้"
.
.
.
“อื้อออ อื้มมมม”
ชัดเลย
'นี่สรุปมึงเลิกกับมันจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี้ย'
'อืม ประมาณสามสี่เดือนแล้ว'
‘มันไม่ค่อยยอมกูหรอก กูเองแหละที่บังคับมัน’
หึหึ อีผัวเมียขี้โกหก
อีพวกหน้าไม่อาย
ทำไมชีวิตคนอกหักรักผัวชาวบ้านอย่างเซฮุนต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยยย
TBC.
#ฟิคมันพูดยาก
รักนะคะ ฝันดี
ความคิดเห็น