“เจ้าสิงโต” - “เจ้าสิงโต” นิยาย “เจ้าสิงโต” : Dek-D.com - Writer

    “เจ้าสิงโต”

    สำหรับหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึกประจำวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน 2550โดยวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานมูลนิธิอมตะ

    ผู้เข้าชมรวม

    714

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    714

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ค. 51 / 18:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      อุณหภูมิความเครียดของประชากรในบ้านเมืองเราเพิ่มขึ้นทุกขณะจิตแม้ว่าเราจะผ่านเดือนที่อากาศร้อนที่สุดไปแล้ว ฝนตกโปรยปรายลงมาเย็นฉ่ำเฉอะแฉะกันทั่วหน้าแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกว้าวุ่นในจิตใจของเราผ่อนคลายลงเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจ สังคมที่รุมเร้าอยู่ทุกครัวเรือนนับเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง คราวนี้ผมจึงอยากนำเรื่องที่ไม่เครียดมาฝากท่านผู้อ่านกันครับ ผมเชื่อว่าใครหลายคนที่มีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคู่ใจคงต้องยอมรับว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเขาเป็นผู้ที่รักเรา (ในฐานะเจ้าของ) อย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เรียกว่าสิ้นสงสัยแตกต่างกับมนุษย์เราอย่างสิ้นเชิงที่ว่าเราจะรักหรือชอบใครก็ต้องหาเหตุผลมาสนับสนุนกันให้ซับซ้อน  ผมเคยได้อ่านคำกลอนที่เขียนไว้ติดบ้านของคุณป้าเจ้าของร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ว่า มีหมาเป็นเพื่อน ดีกว่ามีเพื่อนหมา ๆ เอาสิครับเห็นอย่างนี้ก็ต้องอมยิ้มแก้มตุ่ยกันไป

                      ผมไม่ได้เลี้ยงสุนัขมาหลายปีดีดักนับตั้งแต่สุนัขตัวแรกในชีวิตวัยเยาว์เจ้าสิงโตและเจ้าไซโก้ต้องมีอันเป็นไปทั้งโดยอุบัติเหตุถูกรถชนและอายุขัย พอมาอยู่บ้านสุขุมวิทซอย 20 ก็มีสุนัขพันธุ์โดเบอร์แมนชื่อจังก้า

      คอยเดินตามก้นไปไหนมาไหนด้วยแต่พอย้ายมาอยู่บ้านที่อาคารกรมดิษฐ์ก็ไม่ได้มีโอกาสเลี้ยงเพราะหันมาเลี้ยงสิงโตชื่อเจ้าตุ้ยนุ้ยเป็นเพื่อนเสียจนมีคนหาว่าผมเพี้ยนไปบ้างก็มี

                      จนเมื่อวันที่ 17 กันยายนปีที่แล้วขณะผมนั่งเขียนหนังสือระลึกถึงเจ้าสิงโตหมาตัวแรกในวัยเด็กที่ผมมีอายุประมาณ 4 ขวบซึ่งถูกรถชนนั้น สมองของผมก็แวบเห็นหน้าเจ้าสิงโตขึ้นมาทันทีเพราะมันเป็นหมาลายเสือน่ารักเหลืองดำที่หาได้ไม่ง่ายนักไม่ใช่หมาทั่ว ๆ ไปที่เราเห็นกันสีขาว สีดำ แต่ด้วยความกระดำกระด่างของมันก็ทำให้เด็กน้อยอย่างผมผูกสมัครรักใคร่ เวลาผมไปไหนมันก็จะตามติดเป็นเพื่อนคู่กายเลยทีเดียว เจ้าสิงโตจึงเป็นหมาในวัยเด็กที่ผมผูกพันธุ์เป็นอย่างมาก     พอผมเขียนถึงเจ้าสิงโตได้สักครู่ผมก็หยุดพักอ่านหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์พอดีเป็นวันอาทิตย์จะมีคอลัมน์ที่ประกาศหาผู้อุปการคุณให้กับหมาจรจัดที่มีคนทิ้งเอาไว้ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เขาลงประกาศหาเจ้าของให้ลูกหมาหรือแมวที่ถูกทอดทิ้ง ทั้งนี้กลุ่มที่เขาเก็บหมาพวกนี้ไปเลี้ยงดูก่อนที่จะมีผู้สนใจเช่นผมมาติดต่อรับไปดูแลต่อ พอผมเห็นมาลายเสือชื่อไทเกอร์ เท่านั้นแหละครับ หน้าเจ้าสิงโตมันผุดขึ้นมาทันทีจนทำให้ผมถูกชะตาเจ้าสิงโตน้อย ( ตอนนั้นผมคิดว่ามันต้องเป็นเจ้าสิงโตกลับชาติมาเกิดแน่ ๆ ) เลยรีบโทรศัพท์ไปหาคุณ     ธาริณีผู้ดูแลเจ้าไทเกอร์ในทันที แนะนำตัวเองเสร็จสรรพว่าผมชื่อเรียงเสียงใด ผู้ดูแลเจ้าไทเกอร์เล่าให้ฟังว่ามันเป็นหมาที่ถูกทิ้งไว้ที่คอนเทนเนอร์แถว  ๆ คลองเตยเพราะแม่มันถูกรถทับตาย  ในท้องเดียวกับเจ้าสิงโตมีพี่น้องด้วย  ผมบอกให้เขาเก็บไว้ให้ผมด้วยจะรีบส่งรถไปรับ  คุณธาริณีหัวหน้ากลุ่ม pick a pet for home ก็ดีใจหายบอกว่าได้จัดการฉีดวัคซีนให้กับเจ้าสิงโต แล้วจึงนัดวันไปรับ

                      เชื่อไหมครับเวลาผ่านไปตอนนี้เก้าเดือนกว่าแล้วเจ้าสิงโตเป็นหมาที่มีความฉลาดเฉลียว ชอบกินนม เวลาผมกลับมาอยู่เขาใหญ่มันจะมาป้วนเปี้ยนให้ผมให้นมมันกินด้วยความเอร็ดอร่อยและก็ชอบนอนอยู่ข้าง ๆขาผมด้วยความสงบเสงี่ยม เวลาผมไปเดินป่ามันก็ไปด้วยเรียกว่าติดกันแจเป็นแตงเมเลยทีเดียวจนทำเอาคนหลายคนรอบข้างนึกหมั่นไส้อยู่กลาย ๆ ว่าเวลามันอยู่กับผมมันดูประจบประแจงแบบรู้งานเสียจริง เพราะเวลามันอยู่กับคนที่เลี้ยงมัน(เวลาที่ผมกลับกรุงเทพฯ ) นั้นมันจะเป็นหมาที่เกเรอยู่บ้าง ชอบคาบโน่นคาบนี่โดยเฉพาะรองเท้าเสียหายไปหลายคู่แล้ว แต่มันก็ไม่เคยเอาของผมไม่เลย อย่างนี้ไม่เรียกว่ามันฉลาดแล้วจะเรียกว่าอะไรดีครับ 

                      เรื่องราวของเจ้าสิงโตยังมีอีกมากมันสร้างวีรกรรมแบบมะหมา 4 ขาไว้หลายอย่างจนทำให้ผมอดคิดถึงคำว่า เพื่อนแท้ ไม่ได้จริง ๆ ผมอยากเชิญชวนให้ท่านที่อยากเลี้ยงหมา แมวไม่ต้องไปเสียสตางค์ซื้อหมาแพง ๆ หรอกครับ หมาไทยเรานี่แหละแข็งแรงไม่ต้องฉีดยาหรือดูแลอะไรมากมาย ติดต่อคุณธาริณีที่เบอร์โทรศัพท์ 089-6691690 หรือ 081- 5512628  ดูแลหมาแมวที่ถูกทอดทิ้งนี่แหละดีจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระเขาได้บ้างเพราะเดือนๆหนึ่งคาอาหาร ค่าฉีดวัคซีน ค่าทำหมันก็หลายสตางค์อยู่ บางคนเลี้ยงเป็นร้อย ๆ ตัวเลยก็มี นิสัยคนไทยเราขี้เบื่อเลี้ยงแล้วก็ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ดีหรอกครับ อย่าลืมสิครับว่าเขาเป็นเพื่อนแท้ที่รักเราแบบไม่มีเงื่อนไข ในชีวิตคนเราถ้าไม่มีเมตตากับสรรพสัตว์บ้างจิตใจเราก็คงแห้งแล้ง แข็งกระด้างเต็มทน แต่ก็ไม่ใช่รักหมาจนลืมคนข้าง  ๆนะครับต้องแบ่งปันความรักให้สมดุลย์ด้วย ครอบครัวจะได้เป็นสุข ช่วยคลายความเครียดทั้งปวงได้ดีทีเดียว ความสุขเริ่มที่บ้าน ครับ ฝากไว้แค่นี้ก่อน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×