ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Nostalgia Talk คุยเฟื่องเรื่องวันวาน ?

ลำดับตอนที่ #6 : ยินดี (หรือเปล่า?) ที่ได้รู้จัก

  • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 67


ยินดี (หรือเปล่า?) ที่ได้รู้จัก ... 
เรื่องของการรู้จัก พบเจอผู้คนจริงๆ อยากพูดถึงหลังพูดเรื่องเลขนำโชค เลข 7 (เลขแห่งการเปลี่ยนแปลง) แต่มาพูดเรื่องนี้ก่อนดีกว่า เพราะว่าเพิ่งได้เจอเรื่องราวในช่วงหลายเดือนมานี้ เลยอยากพูดถึง แล้วก็ย้ำให้ตัวเองคิดตามไปด้วย

เมื่อก่อนตอนสมัยเด็กๆ เคยคิดนะว่าการป็อบปูล่า (มีชื่อเสียง) แล้วมีคนเข้าหามากๆ เป็นเรื่องที่โคตรเท่ ต้องดีแน่ๆ ดูเหมือน Super Star จนมาวันนึงเริ่มคิดว่าตัวเองเริ่มรู้จักกับคนหลายกลุ่ม หลายแนว เราเองก็มีคนรู้จักกับเขาเหมือนกัน (แม้จริงๆ จะน้อยนิด ไม่ได้เยอะอะไรหรอก 55+)

การที่ผมได้รู้จักคนมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าจริงๆ เนื้อแท้ของผมเองเหมาะกับการเลือกคบคนมากกว่า ทำไมคิดงั้น เพราะหนึ่ง ผมเองก็ไม่ได้นิสัยดีหรือเข้ากับใครง่ายอย่างที่หลายคนคิด ผมก็มีนิสัยส่วนตัวบางอย่างที่ผมคิดว่าไม่ดี เช่น นิสัยการดื่มที่ไม่ดีมากกกกก ระดับมากกกกจรีงงงง ซึ่งเชื่อเถอะหลายคนที่อ่านอยู่ ซึ่งอาจจะรู้จักผม เข้าใจเรื่องนี้ดี หรือเรื่องที่ผมเป็นคนเสียความรู้สึกหรือจะแสดงออกว่าไม่โอเคกับเรื่องบางเรื่องได้ง่าย สอง ผมเองก็เป็นคนหัวอ่อนหรืออ่อนไหวต่อสิ่งเร้าง่าย บางทีทำตัวโง่ๆ หรือลำบากใจเวลาถูกชวนหรือถูกขอร้องให้ทำอะไรที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยากทำ แต่ก็ทำไปเพราะคนอื่น (ใจลึกๆ ผมเองก็ดันคล้อยตามและยินดีที่จะไปทำสิ่งนั้นแหละ นี่ก็เป็นเรื่องไม่ดีเท่าไหร่) 

การมีคนรู้จักที่ดีคือคอนเนคชั่นที่พาเราไปทางบวก ทางบวกคืออะไร ทางบวกคือทางที่เราทำแล้วสบายใจ และไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่ว่าจะตัวเองหรือคนอื่น ทางซึ่งจะทำให้เราสุขสบาย มีรายได้เพิ่ม มีโอกาสดีๆ เจอเรื่องดีๆ ส่วนทางลบก็ตรงกันข้ามนั่นแหละ ! 

แล้วยิ่งกลายเป็นคนสาธารณะหรืออยู่ที่แจ้ง เป็นการเสี่ยงมากที่จะโดนผู้ไม่หวังดีโจมตีทั้งทางตรงและทางอ้อม ในที่แจ้งและที่ลับสายตา แต่เราเองเนี่ยแหละ ต้องต่อสู้แบบเปิดเผยตัวเอง เจ็บก็เจ็บหนัก ไม่เจ็บก็อาจโดนเขาลอบกัดหรือซ้ำได้ง่าย นั่นคือข้อเสียของการรู้จัก เอ้ย ! เป็นที่รู้จักของคนเยอะๆ และเราก็มักจะกรองไม่ได้ว่าคนเหล่านั้นหวังดีหรือหวังร้ายกันแน่ ก็อย่างที่นักแสดงหรือศิลปินหลายๆ คนโดนโจมตีแล้วไร้ทางโต้ตอบ หรือโต้ตอบแบบต้องคิดทบทวนเยอะ ไม่เหมือนอีกฝ่ายที่ดักทำร้ายเราได้หลากหลายช่องทาง

อีกเรื่องเลย คือการเจอคนบางประเภทที่ผมไม่ค่อยชอบแต่ปฏิเสธยาก ประเภทแรกมาในลักษณะเหมือนเป็นมิคตรแต่จริงๆ ไม่ใช่ ประเภทนี้เราไม่รู้หรอกว่าเขาคิดร้าย จนวันนึงเราโดนดีนั่นแหละ เราจะรู้แจ้งเห็นจริง แล้วซวยกว่านั้นคือโดนดีแต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครทำร้ายเรา อีกประเภทนึงคือเข้ามาเหมือนจะดีแต่จริงๆ ไม่ดี มาหาผลประโยชน์หรือใช้ประโยชนืเราทั้งแบบตรงๆ เลยหรือแบบอ้อมๆ ซึ่งอันนี้โอเค มีที่ผมเองก็รับได้นะ ถ้า Win Win แต่พวกที่ไม่ Win Win นี่ดิ จะตัดก็ไม่มีเหตุผลดีๆ ที่จะตัดด้วย (จริงๆ ขี้เกรงใจ) ส่วนบางคนที่เขาเจอแบบนี้แล้วตัดฉับเลย แบบนั้นคิือดีนะ แต่ดันไม่ใช่ Type ของผม เลยทำแบบนั้นแบบลำบากใจเสมอมา แล้วก็ไม่อยากให้ตัวเองไปเจอคนแบบนั้น ซึ่งสุดท้ายก็มักจะเจอ

จึงคิดว่าจริงๆ แล้วไอ้การเจอคนมากๆ เนี่ย มันยินดีที่รู้จักได้กับทุกคนจริงเหรอ หรือจริงๆ ควรเก็บคำพวกนี้ไว้ใช้ในโอกาสที่ควร แล้วพยายามทำความรู้จักกับคนที่เราไว้ใจได้ หรืออย่างน้อยเราสบายใจว่าเราและเขาจะรู้ตัวตนของกันและกันมากกว่า ซึ่งมันถูกจริตผมนะ แต่บางคนอาจจะชอบการเป็นที่รู้จักของคนหมู่มากก็ได้ นานาจิตตัง

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×