ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
Nostalgia Talk คุยเฟื่องเรื่องวันวาน ?

ลำดับตอนที่ #5 : If you're 555 then I'm 666

  • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 66


ถ้าผมจะพูดเรื่อง 666 The number of the beast กับเรื่องกฏแห่งกรรมจะดูแหวกแนวไหม ? บอกเลยไม่แหวกแนวหรอก เพราะมันก็อยู่ในจักรวาลเดียวกันนี่แหละ

ผมเป็นคนนึงที่ฟังเพลงเมทัลตั้งแต่เด็กเลยนะ แล้วตอนเด็กๆ ก็ชอบอ่านหนังสือตำนาน เรื่องเล่าหรือชอบแปลเนื้อเพลงเพื่อให้รู้ว่าเพลงอยากบอกอะไรกับเรา (จริงๆ คือคนแต่งเพลง/เนื้อเพลงน่ะแหละที่อยากบอก) ซึ่งเลข 666 เป็นหนึ่งในเลขที่ผมคุ้นเคยจากการฟังเพลงเมทัล ครั้งแรกที่รู้จักเลขนี้เพราะวง Iron Maiden และหลังจากนั้นก็อีกหลายวง

ยอมรับว่าครั้งหนึ่งตอนเด็กเคยคลั่งไคล้และอินกับเรื่องของซาตาน ปิศาจ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ ชอบความดาร์กๆ สีดำ โกธิก มืดมน ฯลฯ อะไรทางนั้นชอบหมด อินจนชวนเพื่อนมาเป็นสาวก ฟังเพลงด้วยกัน เวลาถ่ายรูปก็แอ็คท่าเดวิลอาย หรือแสดงนัยยะไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือทำงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ 

จนวันนึง ผมมีปัญหาทางใจและขาดที่พึ่งทางใจอย่างรุนแรง ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร แต่จิตใจดร็อปและไม่มีชีวิตชีวาเลย เริ่มคิดเรื่องอยากตาย กลัวนั่นนี่ไปหมด ไม่มีความสุข นอนหลับก็สะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายและคิดมากไปกับทุกๆ เรื่อง 

และแล้วคืนหนึ่งขณะที่ผมนอนหลับ ผมตื่นขึ้นมาด้วยความกังวลใจ และเหลือบไปเห็นหนังสือพุทธศาสนาที่ปกเป็นรูปพระพุทธเจ้าปางมารผจญ ผมคิดในใจว่าทำไมชายคนนั้นถึงแสดงใบหน้าที่สงบ ใจเย็นและไม่กลัวต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำไมรู้สึกได้ถึงความสุขที่แผ่มาถึงตัวเรา ผมนั่งขัดสมาธิแล้วเริ่มหลับตากำหนดลมหายใจเหมือนที่ครูสอนพระพุทธศาสนาพูดให้ฟังแต่ไม่เคยคิดจะทำ จนได้ค้นพบว่าสิ่งนี้ดีและมีคุณค่ากับคนที่ขาดที่พึ่งทางใจ คนที่ต้องการสมาธิหรืออะไรบางอย่างที่มีคุณค่าทางใจ 

หลังจากวันนั้นผมกลายเป็นคนที่เริ่มสนใจในศาสนาและปล่อยวางจากความคิดเดิมๆ ที่ฝังหัวตัวเองมานาน ซาตานิกหรือความมืดมนไม่ได้เยียวยาผม สิ่งที่เยียวยาผมคือสติ สมาธิ ปัญญา จากหลักของศาสนาที่ในตอนแรกนั้น ผมเน้นที่การปฏิบัติอย่างง่ายๆ มากกว่าการทำความเข้าใจ แต่ผลที่ออกมาก็ดี ผมคิดว่าผมมาถูกทางในทางที่ผมชอบ 

แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังวาดภาพหรือยังชอบเลข 666 ผมชอบวาดภาพปิศาจ ชอบเล่นเกมเป็นตัวละครหน้าตาร้ายๆ จอมมาร บลาๆ แต่ในความรู้สึกที่ชอบในความเป็นศิลปะที่ถูกจริตเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่มากำหนดชีวิตหรือความคิดของเรา 

จนแล้ววันหนึ่งผมก็เจอเธอ เธอคนที่ชอบในสิ่งที่ผมก็ชอบ เคยได้ฟังและแอบยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่เธอเล่าให้ฟัง มันเหมือนได้เจอตัวเองตอนวัยรุ่น ตอนที่อายุพอๆ กับเธอคนนั้น เหมือนเป็นความทรงจำที่กลับมาในรูปแบบที่จับต้องได้ และมีอยู่จริง 

อาจจะเป็นเวลาไม่นานที่เราได้คลุกคลีและมีเวลาพิเศษๆ ร่วมกัน แต่มันมีคุณค่าเหมือนอยู่ในความทรงจำมาตลอดชีวิตและจะดำรงอยู่ตลอดไปในช่วงชีวิตสั้นๆ ของผมนี้ 

หลายคนอาจจะบอกว่าอยากอยู่ถึง 100 ปี ผมบอกเลย สำหรับตัวผมเกิน 60 ก็เรียกว่าคุ้มค่ามากๆ แล้ว หรือแค่ตอนนี้ก็เรียกว่าคุ้มค่าแล้ว ผมมีเรื่องราวมากมายที่เล่าได้อีกเยอะแยะ ผมใช้ชีวิตมาหลากหลายแม้ไม่หวือหวามากมายอะไร เพราะผมเลือกปฏิบัติ แต่ก็น่าจะมากพอสำหรับตัวเอง ดีไม่ดี ผมอาจจะจากโลกนี้ไปในอายุ 66 ปี 6 เดือนก็ได้ ใครจะไปรู้

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×